(Minghui.org) หลังจากที่ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1996 โรคภัยไข้เจ็บของฉันก็หายไปหมด และฉันเปลี่ยนเป็นคนดีอย่างแท้จริงเพราะฉันปฏิบัติตามหลักการของต้าฝ่า คือ ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน

ฉันถูกปลดออกจากงานที่ทำอยู่ในกองทัพเมื่อปี 2011 หลังจากถูกเพื่อนในที่ทำงานรายงาน เขาหลงเชื่อคำโกหกหลอกลวงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า

เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมากกว่า 12 คน บุกเข้ามาในบ้านของฉันโดยไม่ได้แสดงหมายค้นใด ๆ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 หนึ่งในนั้นถามฉันว่าทำไมถึงถูกกองทัพส่งกลับบ้าน ฉันบอกเขาว่าเพราะฉันเป็นคนดี พวกเขาไม่สนใจและรื้อค้นบ้านของฉัน

พวกเขายึดหนังสือฝ่าหลุนต้าฝ่าและเอกสารอธิบายความจริง พวกเขาจับฉันและพาไปที่สถานีตำรวจท้องถิ่น ที่นั่นฉันถูกสอบปากคำจนถึงเที่ยงคืน

เนื่องจากฉันไม่ให้ความร่วมมือ พวกเขาจึงย้ายฉันไปยังศูนย์กักกันในท้องถิ่น ฉันบอกพวกเขาระหว่างเดินทางว่าต้าฝ่าดีแค่ไหน และพวกเขาเองก็กำลังตกเป็นเหยื่อจากการหลงเชื่อข้อมูลที่ใส่ร้ายต้าฝ่า

ศูนย์กักกันเต็มไปด้วยผู้คนที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ยาเสพติด การค้าประเวณี ฯลฯ ฉันคิดว่าพวกเขาอาจเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้ ฉันจึงบอกพวกเขาเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า และเล่าว่ามีคนปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้อย่างไรหลังจากฝึก หลายคนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรยุวชนของพรรคหลังจากได้ฟังเกี่ยวกับการประทุษร้าย

การเปลี่ยนทัศนคติของเด็กสาว

มีเด็กสาวคนหนึ่งในศูนย์กักกันที่ปลีกตัวออกจากคนอื่นตั้งแต่วันแรกที่เธอมาถึงและไม่พูดคุยกับใครเลย

ฉันเริ่มคุยกับเธอและได้ทราบว่าเธอขโมยเงินกว่า 500,000 หยวน จากพ่อแม่ของเธอ เธอใช้เงินครึ่งหนึ่งหมดไปกับอาหารที่ฟุ่มเฟือย สุรา และสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจ พ่อและแม่ของเธอเป็นคนพาเธอมาที่ศูนย์กักกันแห่งนี้ เธอบอกกับฉันว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับพ่อแม่ในทันทีที่เธอได้รับการปล่อยตัว

เธอเป็นเด็กสาวที่หลงทาง ไม่มีทิศทางที่ชัดเจนในชีวิต ฉันช่วยเหลือเธอและปฏิบัติต่อเธอด้วยความเมตตา ฉันบอกเธอว่าเราควรมีความสุข และสำนึกในบุญคุณ แทนที่จะถูกผลักดันด้วยความปรารถนาที่จะมีความสุขและความสะดวกสบาย ฉันได้พูดคุยกับเธอเกี่ยวกับหลักการที่ควรยึดถือในฐานะที่เป็นคนคนหนึ่ง และส่งเสริมให้เธอนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นก่อน ฉันบอกว่าเธอควรขอบคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาและควรเข้าใจความยากลำบากที่พวกเขาต้องประสบ

เธอร้องไห้ขณะที่ฉันพูด ฉันยังบอกเธอเกี่ยวกับหลักการของต้าฝ่า คือความจริง - ความเมตตา - ความอดทน เธอรับฟังและบอกว่าเธออยากเป็นคนดีด้วยการปฎิบัติตามหลักการนี้ จากนั้นเธอถามว่าเธอจะเรียกฉันว่า “แม่”ได้ไหม เมื่อเธอตระหนักว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นชั่วร้ายอย่างไร เธอก็ลาออกจากพรรค และฉันก็เห็นว่าเธอยังมีความหวัง

เมื่อเพื่อนในห้องขังได้ยินว่าฉันจะถูกย้ายไปที่ศูนย์กักกันอื่น พวกเขาน้ำตาคลอ เด็กสาวกอดฉันและขอร้องไม่ให้ฉันไป ฉันบอกพวกเขาว่าอย่าเสียใจ พวกเราพบกันได้อีกหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 

ฉันเน้นย้ำให้พวกเขาอธิบายความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าให้คนอื่นฟัง ก่อนจะจากมาฉันพูดกับเด็กสาวว่า “ให้จำสิ่งที่ฉันบอกเธอไว้นะ ฉันหวังว่าเธอจะได้กลับบ้านในไม่ช้าและได้อยู่ร่วมกับพ่อแม่ของเธออีกครั้ง "

ท่านอาจารย์อยู่ในใจฉันเสมอ

พวกเขาพาฉันไปที่ค่ายบังคับใช้แรงงานหญิง ฉันถูกกักตัวไว้ที่นั่นเป็นเวลา 2 ปี ฉันถูกขังเดี่ยว และผู้คุมพยายามบังคับให้ฉันเขียนถ้อยแถลงยืนยันการยินยอมละทิ้งฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันไม่ยอมจึงถูกทรมานและให้อดอาหาร

ฉันปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ จึงถูกพาไปอีกแผนกหนึ่งที่มีผู้คุมและผู้ต้องขังมากกว่า 10 คน ผลัดกันมาซักฟอกฉัน เมื่อฉันปฏิเสธที่จะ "แปรเปลี่ยน" พวกเขาก็จะขังเดี่ยวฉันในห้องเล็ก ๆ ดึงม่านปิดหมดฉันจึงไม่เห็นแสงสว่างเลย

พวกเขาให้ฉันยืนนิ่งห้ามเคลื่อนไหวเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ถ้าฉันเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อย พวกเขาก็จะเตะฉัน พวกเขายังบังคับให้ฉันนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ เป็นเวลานาน ไม่ให้เข้าห้องน้ำ ไม่ให้นอน และไม่ให้อาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า พวกเขาด่าว่าฉัน ใช้ปากกากระทุ้งใบหน้าของฉัน และทุบตีฉันอย่างโหดร้าย

แม้ว่าฉันจะต้องทนทุกข์จากการทรมานทุกรูปแบบ แต่ฉันก็รู้สึกสงบมากเพราะฉันมีท่านอาจารย์และต้าฝ่าอยู่ในหัวใจ

ฉันเริ่มมีอาการบวมไปทั่วทั้งตัว มีเลือดออกในกระจกตา และฟันโยก อาการแย่ลงทุกวัน ฉันมีปัญหาในการมองเห็น และน้ำตาไหลเมื่อโดนแสง

เจ้าหน้าที่ค่ายแรงงานพาฉันไปโรงพยาบาลเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อสภาพที่ฉันเป็น แพทย์ที่นั่นบอกว่าฉันจะตาบอดหากไม่ได้รับการรักษาในทันที พวกเขาฉีดบางอย่างเข้าไปในดวงตาของฉันหลายครั้งแล้วปิดด้วยผ้าก๊อซ ขณะที่นอนอยู่บนเตียงฉันท่องคำสอนของท่านอาจารย์และอธิบายความจริงให้หัวหน้าแผนกฟัง ฉันฟาเจิ้งเนี่ยนเพื่อขจัดปัจจัยชั่วร้ายทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาด้วย

ครั้งหนึ่งหัวหน้าแผนกเขียนคำใส่ร้ายท่านอาจารย์ลงบนแผ่นกระดาษแล้วบอกให้ฉันอ่าน ฉันฉีกกระดาษทิ้งและรู้สึกเศร้าใจกับเขา เขายังเปิดวิดีโอที่มีเนื้อหาใส่ร้ายท่านอาจารย์ ฉันไม่ยอมดูและบอกเขาว่า “ท่านอาจารย์สอนให้เราเป็นคนดี และฉันได้รับคุณประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ฉันได้ยกระดับซินซิ่ง และกลับมามีสุขภาพที่ดี ตอนนี้คุณต้องการบังคับให้ฉันกล่าวหาท่านอาจารย์และลืมต้าฝ่า ฉันรู้สึกเศร้าใจในสิ่งที่คุณกำลังทำมาก คุณจะลืมคนที่ให้ชีวิตใหม่แก่คุณและช่วยให้คุณไม่ตกนรกได้หรือ คุณจะลืมจุดกำเนิดของชีวิตคุณได้หรือ ฝ่าหลุนต้าฝ่าอยู่ในหัวใจของฉัน ฉันจะบอกคุณว่า ฉันจะไม่มีวันลืมฝ่าหลุนต้าฝ่า ไม่มีทาง!" ผู้คุมจ้องมาที่ฉันและไม่สามารถตอบโต้อะไรได้

สองชั่วโมงต่อมาหัวหน้าแผนกอีกคนเข้าประจำการ ผู้คุมพูดว่า “คุณยังไม่ยอมละทิ้งต้าฝ่าอีกหรือ คุณอยู่ที่นี่มาสองสามเดือนแล้ว คุณอยากจะอยู่ที่นี่ไปอีกนานเท่าไหร่”

“จนกว่าค่ายแรงงานทั้งหมดจะพังทลาย” ฉันพูดอย่างสงบ พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จกับฉัน ในที่สุดพวกเขาก็ปล่อยตัวฉัน และฉันก็ได้กลับบ้าน

ไม่นานหลังจากที่ฉันได้รับการปล่อยตัว ค่ายบังคับใช้แรงงานทั้งหมดก็ถูกรื้อถอน แต่การประทุษร้ายยังคงมีอยู่ และพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงประทุษร้ายผู้ฝึกอยู่