(Minghui.org) ฝ่าหลุนกงหรือที่เรียกว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นระบบการฝึกจิตใจที่ประกอบด้วยท่าฝึกที่อ่อนโยนและการดำเนินชีวิตตามหลักการของความจริง - ความเมตตา – ความอดทน พรรคคอมมิวนิสต์จีนประทุษร้ายฝ่าหลุนกงอย่างรุนแรงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1999 ส่งผลให้ผู้ฝึกมากกว่า 4,300 คน เสียชีวิตจากการประทุษร้ายโดยตรง ผู้ฝึกหลายคนเสียชีวิตเนื่องจากถูกทรมานภายใต้การกักขังอย่างเป็นทางการ ผู้ฝึกจำนวนมากกว่านั้นถูกจับกุม ถูกคุมขังและถูกทรมาน พร้อม ๆ กับบังคับให้ใช้แรงงานหรือทารุณกรรมทางจิตวิทยา

ดังที่ได้อธิบายไว้ในรายงานสิทธิมนุษยชนในวาระครบรอบปีที่ 20 ของหมิงฮุ่ย ซึ่งเป็นเอกสารที่ตีพิมพ์โดยศูนย์การตีพิมพ์หมิงฮุ่ย (Minghui Publishing Center) ผู้กระทำผิดกระทำทารุณต่อผู้ฝึกที่ถูกกักขังอย่างรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าความเหี้ยมโหดที่กระทำนั้นจะไม่ถูกผู้ฝึกแก้แค้นเนื่องจากผู้ฝึกมีอุปนิสัยที่สงบสันติจากความเชื่อของพวกเขา

ในวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมผู้คนเชื่อว่า“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” คล้ายกับคำพูดในสังคมตะวันตกที่ว่า“คุณเก็บเกี่ยวสิ่งที่คุณหว่าน” คนที่ประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงผู้บริสุทธิ์และเป็นปฏิปักษ์ต่อหลักการของความจริง - ความเมตตา – ความอดทนต้องเผชิญกับผลของการกระทำของตัวเอง

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนจากอำเภอหัวหนาน มณฑลเฮย์หลงเจียง มณฑลเฮย์หลงเจียงซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนเป็นหนึ่งในบริเวณที่ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกประทุษร้ายอย่างเลวร้ายที่สุด ผู้ฝึกมักถูกบังคับให้เลือกระหว่างชีวิตของตัวเองกับความเชื่อ

เจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงภายในประเทศ

สำนักงานความมั่นคงภายในประเทศ (Guobao, 国保) ซึ่งเป็นสาขาของกรมตำรวจในระดับอำเภอขึ้นไป เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในประเทศจีนในปี 1998 หลังจากการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงเริ่มต้นขึ้นในปี 1999 การจับกุมผู้ฝึกส่วนใหญ่ควบคุมโดยสำนักงานนี้พร้อมด้วยสถานีตำรวจที่อยู่ใต้บังคับบัญชา

หลี่จุน (李军) ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงภายในประเทศหัวหนานปฏิบัติการตามนโยบายการประทุษร้ายอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1999 เขาจับกุมผู้ฝึกมากกว่า 100 คน และส่งผู้ฝึกหลายสิบคนไปยังค่ายบังคับใช้แรงงาน นอกจากนี้เขายังรีดไถเงินจากผู้ฝึกมากกว่า 100,000 หยวน และรังควานผู้ฝึกรวมแล้วมากกว่า 2,000 ครั้ง

ผู้ฝึกพูดกับหลี่หลายครั้ง อธิบายความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงให้เขาฟัง และส่งเสริมให้เขาหยุดทำสิ่งที่เลวร้าย แต่หลี่ไม่สนใจคำแนะนำ ต่อมาภรรยาและลูกทิ้งเขาไป และเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ถึงสามครั้ง วันที่ 12 พฤษภาคม 2012 หลี่เสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยวัย 57 ปี

เฉิน หงฮุ่ย (陈洪辉) ซึ่งรับช่วงต่อจากหลี่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานมีส่วนร่วมในการประทุษร้่ายอย่างกระตือรือร้นเช่นกัน ภายในสองปีเขาจับผู้ฝึก 16 คน 5 คน ถูกตัดสินให้จำคุก และ 2 คน ถูกส่งไปยังค่ายบังคับใช้แรงงาน ที่เหลือถูกกักตัวและถูกบังคับให้จ่ายค่าปรับ เขายังเผาหนังสือของฝ่าหลุนกงและเผาภาพวาดของผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนกงด้วย

ผู้ฝึกบอกเฉินซ้ำ ๆ ว่าอย่าทำสิ่งที่เขาทำอยู่ แต่เขาเพิกเฉยต่อคำพูดของผู้ฝึกเสมอ ๆ หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เมื่อผู้ฝึกขอให้เขาช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ เขาไม่สนใจและตอบว่า “ผมทำแบบนี้มาหลายปีแล้วและผมยังสบายดี ถ้าเรื่องกรรมตามสนองมีจริง ก็ส่งมาเลย ! ผมจะติดตามพรรคคอมมิวนิสต์จีนตลอดทางจนจบ”

ขณะที่เฉินเดินทางกลับจากตำบลหลงซานไปยังอำเภอหัวหนานในวันที่ 31 ตุลาคม 2002 เขาขับรถชนต้นไม้ กะโหลกศีรษะของเขาถูกอัดทับ เขาเสียชีวิตในทันที ขณะนั้นเขาอายุ 40 ปีเศษ

เฉิน ยู่จุน (陈玉军) เจ้าหน้าที่สำนักงานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกุมผู้ฝึกเกือบทั้งหมด นอกจากนี้เขายังใช้กลวิธีต่าง ๆ หลอกลวงและ/หรือใส่ความผู้ฝึกด้วย

ตัวอย่างหนึ่งคือหยาง เสี่ยวเฟิง ผู้ฝึกที่ทำงานเป็นคนขับรถแท็กซี่ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2008 เฉินแกล้งเรียกรถแท็กซี่ และขอให้หยางไปส่งที่กรมตำรวจ พอไปถึง เฉินและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ก็ทุบตีหยางและลากเขาเข้าไปข้างใน เฉินทุบตีหยางที่ศีรษะอย่างแรงด้วยขวดน้ำจนเขาหูหนวกหนึ่งข้าง ต่อมาหยางถูกส่งไปยังค่ายบังคับใช้แรงงานเป็นเวลา 15 เดือน

สิบวันหลังจากการจับกุมหยาง เฉินทะเลาะวิวาทกับคนอื่นแล้วถูกแทงสามครั้ง ระหว่างที่เขาอยู่ในโรงพยาบาล ผู้ฝึกแนะนำให้เขาหยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ แต่เขาไม่ยอมฟัง ต่อมาเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากเนื้อเยื่อที่หัวกระดูกต้นขาตาย และภรรยาขอหย่า แต่เขาก็ยังไม่สำนึกผิด

เฉินซื้อจักรยานคันหนึ่งเพื่อต่อสู้กับสุขภาพที่ย่ำแย่ลง ขณะที่เขาขี่จักรยานเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2014 เขาตกลงไปในคูน้ำลึกข้างถนน เนื่องจากมาตรการฉุกเฉินล้มเหลวทำให้เขาเสียชีวิตในโรงพยาบาลขณะที่อายุ 43 ปี

เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่ทนทุกข์ทรมานกับผลที่ตามมา

เจ้าหน้าที่ในแผนกอื่น ๆ ของกรมตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งในการปราบปรามต่างได้รับผลกรรมตามสนอง

หลู กวง (卢光) เป็นรองผู้อำนวยการกรมตำรวจหัวหนาน เขารับผิดชอบคดีที่เกี่ยวข้องกับฝ่าหลุนกงในพื้นที่ เขารับผิดชอบโดยตรงต่อการทารุณผู้ฝึกจำนวนมาก เฉพาะในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2005 ผู้ฝึก 11 คนและสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาถูกจับและถูกส่งไปยังค่ายแรงงาน เขายังรีดไถเงินจากผู้ฝึกและใส่ร้ายฝ่าหลุนกงต่อสาธารณชนในรายการโทรทัศน์อีกด้วย

ในปี 2006 หลูได้รับการวินิจฉัยว่าเนื้อเยื่อที่ตับตาย ด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขาจ่ายเงินมากกว่า 300,000 หยวน เพื่อปลูกถ่ายตับที่ปักกิ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับผิดชอบในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงหลังจากปี 2006 เขายังคงไม่สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำไว้ เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2014 ขณะที่อายุ 53 ปี

หยู หมิงเทา (于明涛) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจซินเจี้ยน ปฏิบัติตามนโยบายการประทุษร้ายของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดเสมอ ๆ เขารังควานผู้ฝึกในพื้นที่เกือบทุกคน เขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วยกะทันหันในวันที่ 29 มิถุนายน 2012 ขณะที่อายุ 49 ปี

คนอื่น ๆ มีบทบาทสำคัญในการประทุษร้ายผู้ฝึกในสถานที่ทำงานที่พวกเขาทำอยู่ เว่ย จื้อหมิน (魏志民) เลขาธิการพรรคตำบลตาปาลังในปี 2001 และ 2002 มีส่วนร่วมในการประทุษร้ายอย่างแข็งขัน และรับผิดชอบต่อการจับผู้ฝึกอย่างน้อยห้าคนเข้าคุก พวกเขาและครอบครัวเสียหายอย่างรุนแรง

แม้เว่ยจะทำผิด เขาก็ยังคุยโวเกี่ยวกับบทบาทในการประทุษร้าย เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่ปอดและเสียชีวิตที่บ้านเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2018 ขณะที่อายุ 65 ปี ภรรยาของเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองด้วย