(Minghui.org) สวัสดีท่านอาจารย์ ! สวัสดีเพื่อนผู้ฝึก !

เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส CCP (ไวรัสโคโรนา) ในประเทศจีน ฉันรู้สึกว่าจะต้องรีบเร่งให้มากขึ้นในการช่วยเหลือผู้คน เมื่อนึกถึงคนจีนหลายล้านคนที่ตกเป็นเหยื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและถูกหลอกเรื่องไวรัส ฉันก็อดร้องไห้ไม่ได้ ฉันถามตัวเองว่า ในฐานะผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันจะเฝ้าดูเรื่องเศร้านี้ตีแผ่ออกมาโดยไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไร ฉันคิดว่าฉันควรโทรศัพท์ไปหาคนในประเทศจีน ถ้าพวกเขารู้ความจริงเกี่ยวกับต้าฝ่า พวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือ

ฉันตัดสินใจเข้าร่วมแพลตฟอร์ม RTC เนื่องจากที่ทำงานของฉันเป็น "งานบริการที่จำเป็น" ฉันจึงยังต้องเข้าไปที่ทำงาน ขณะขับรถไปที่รถไฟใต้ดิน ฉันก็ฟังการอบรมแพลตฟอร์ม RTC ไปด้วย พอฉันก้าวเท้าเข้าไปในรถไฟใต้ดิน โทรศัพท์มือถือก็ถูกตัดการเชื่อมต่อ เมื่อไปถึงที่ทำงาน ฉันจึงเชื่อมต่อโทรศัพท์ใหม่ได้ แต่การอบรมก็จบไปแล้ว

เพื่อนร่วมงานหลายคนหยุดงานเพราะกลัวติดไวรัส ทุกวันมีเพื่อนร่วมงานน้อยลง ฉันคิดว่า ถ้าได้อยู่บ้านก็จะสามารถฝึกอบรม RTC ได้จบ และฉันจะได้โทรศัพท์ไปประเทศจีนทุกวัน เพื่อนร่วมงานของฉันขอลาหยุดเพราะกลัวโรคระบาด ในขณะที่ฉันต้องการช่วยสรรพชีวิต จุดเริ่มต้นของเราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ในขณะที่โรคระบาดกำลังลุกลาม ที่ทำงานของฉันขอให้พนักงานทำงานต่อไป และฉันรู้สึกว่าไม่ถูกต้องที่จะขอลาหยุดเหมือนเพื่อนร่วมงาน

ครั้งนี้มีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น วันนั้นฉันไปทำงานตามปกติเพื่อเข้าประชุมเรื่องการประกันตัว หลังจากเสร็จเรื่องที่ศาล ผู้ประกันตัวคนนี้ซึ่งเป็นนักศึกษาต่างชาติจากจีนแผ่นดินใหญ่ก็เริ่มกระซิบกับฉัน ในขณะที่เรากระซิบกันไปมา ฉันช่วยให้เขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรยุวชนในเครือ เขาเข้าใจความจริงและรู้สึกยินดีที่จะจำ “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ดี”

เขาบอกว่ามหาวิทยาลัยของเขาปิดเนื่องจากโรคระบาด เดิมทีเขาวางแผนจะบินกลับไปประเทศจีนหลังจากจัดการเรื่องที่ศาลเสร็จ แต่หลังจากการสนทนาของเรา เขาตัดสินใจที่จะอยู่ในแคนาดาต่อไป หลังจากที่ฉันอธิบายความจริงให้เขาทราบแล้ว ฉันสังเกตเห็นว่าทั้งผู้พิพากษาและทนายความยิ้มให้ฉัน ฉันเข้าใจว่าท่านอาจารย์ให้กำลังใจฉันที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง

ฉันทำงานในศาลมาเกือบยี่สิบปี ฉันทำงานอย่างหนักและให้ความสำคัญกับโอกาสที่จะได้ช่วยคนจีนที่พบในศาลให้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วฉันจะได้คุยกับพวกเขาเมื่ออยู่นอกห้องพิจารณาคดีเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้อธิบายความจริงในระหว่างการพิจารณาคดี ขณะที่เราเดินออกจากอาคาร ทนายก็ขับรถพานักศึกษาคนนี้ออกไป ถ้าฉันรอให้เสร็จเรื่องที่ศาลตามปกติ นักศึกษาคนนี้ก็อาจหมดโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือ

เหตุการณ์นี้ทำให้ฉันปล่อยวางความคิดที่จะขอลางานแล้วอยู่บ้านเพื่อโทรไปประเทศจีน ฉันจะจัดวางเส้นทางการบำเพ็ญของตัวเองได้อย่างไร ฉันแค่ต้องเดินไปตามเส้นทางที่ท่านอาจารย์จัดวางไว้ให้เท่านั้น โรคระบาดกำลังลุกลามและที่ทำงานก็ขอให้พนักงานเข้ามาทำงาน แม้จะเพื่อการช่วยเหลือสรรพชีวิต ฉันก็ไม่ควรคล้อยตามคนธรรมดาสามัญ ฉันตัดสินใจเข้าไปทำงานในที่งานต่อไป ขณะที่ฉันปรับความคิดให้ถูกต้องจากมุมมองของฝ่า หัวหน้างานของฉันก็แจ้งว่าฉันไม่จำเป็นต้องไปศาลด้วยตัวเอง และให้ฉันทำงานในคดีที่ได้รับมอบหมายจากที่บ้านได้

เมื่อบทความใหม่ของท่านอาจารย์ “ให้มีสติ” ออกมา ทุกวันก่อนที่ฉันจะท่องจ้วนฝ่าหลุนบางตอน ฉันจะท่องบทความใหม่นี้หลายครั้ง

ท่านอาจารย์กล่าวว่า

“ศิษย์ต้าฝ่าอย่าได้หวั่นไหวตามไปกับภาพที่วุ่นวาย รักษามูลฐานจึงจะสามารถมองภาพที่วุ่นวายได้ชัดเจน” (“ให้มีสติ”)

ฉันเข้าใจว่าท่ามกลางการแพร่ระบาด ผู้ฝึกจำเป็นต้องรักษามูลฐานของการบำเพ็ญโดยใช้หลักการ “ความจริง – ความเมตตา - ความอดทน” เป็นแนวทางของการใช้คำพูดและการกระทำของเรา ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เราจะสามารถมองทะลุความวุ่นวายและเห็นแก่นแท้ที่แท้จริงของบำเพ็ญได้อย่างชัดเจน เมื่อหัวหน้างานแจ้งฉันให้ทำงานจากที่บ้านได้ ฉันเข้าใจว่าท่านอาจารย์ให้โอกาสฉันโทรไปประเทศจีนเพื่ออธิบายความจริง

การอธิบายความจริงบนแพลตฟอร์ม RTC

แพลตฟอร์ม RTC ได้รวบรวมผู้ฝึกที่มีประสบการณ์ ความรอบรู้ และกำลังคนทั่วโลก ผู้ฝึกเหล่านี้โทรไปประเทศจีนมาหลายปีแล้ว ขณะเข้าร่วมการอบรม ฉันรู้สึกเหมือนเป็นนักเรียนชั้นประถม ฉันเตือนตัวเองให้ละทิ้งประสบการณ์และความเคยชินในอดีต และเรียนรู้ด้วยความนอบน้อมและขยันหมั่นเพียรจากเพื่อนผู้ฝึกที่มีประสบการณ์

ดูจากเนื้อหาจำนวนมาก และตระหนักว่ามีเวลาให้พูดทางโทรศัพท์อย่างจำกัด ฉันควรเลือกเนื้อหาอย่างไร ฉันจึงใช้ฝ่าเป็นแนวทาง ตัวอย่างเช่น ฉันจะปฎิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์กล่าวว่า

การเกิดขึ้นของพรรคคอมมิวนิสต์กับจุดประสงค์ที่แท้จริงของคอมมิวนิสต์จีนก็คือทำให้คนชิงชังเคียดแค้นเทพ พระพุทธ โฆษณาชวนเชื่อความคิดแบบอเทวนิยม กรอกใส่ปรัชญาการต่อสู้แย่งชิง (แก่คน) จากนั้นก็ทำลายมนุษย์ นี่ก็คือเหตุใดศิษย์ต้าฝ่าต้องอธิบายความจริง จุดประสงค์คือขจัดคำลวงของสิ่งชั่วร้ายทิ้งไป และให้เห็นชัดในโฉมหน้าของพรรคคอมมิวนิสต์ ขจัดทิ้งบาปกรรมที่คนทำผิดต่อเทพ พระพุทธ จากนั้นก็ช่วยเหลือชาวโลก” (“จุดประสงค์มูลฐานของการอธิบายความจริง” จิงจิ้นเหย้าจื่อ 3)

กำจัดวัฒนธรรมพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ฉันถูกจัดให้เข้าห้องฝึกอบรมที่มีผู้ฝึกไต้หวันเป็นคนจัดการ น้ำเสียงของเธอสงบ เธอมีเมตตา และใช้การคิดอย่างมีเหตุผลดีมากในการอธิบายความจริง จึงพิสูจน์สิ่งที่ท่านอาจารย์พูดได้อย่างแท้จริง

“น้ำเสียง จิตเมตตาในการทำงาน บวกกับเหตุผลสามารถจะเปลี่ยนใจคน แต่คำสั่งไม่สามารถทำได้ตลอดไป!” (“มีสติ”จิงจิ้นเหย้าจื่อ)

การเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มนี้ยังเผยให้เห็นวัฒนธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในตัวฉันที่ฉันพยายามอย่างหนักในการขจัดมันทิ้งไป เมื่อไรที่พูด น้ำเสียงของฉันจะก้าวร้าว แข็ง และเสียงแหลม ฉันไม่นิ่งหรือไม่สงบ แต่ฉันไม่รู้ตัว นี่เผยจิตยึดติดต่อการแข่งขันของฉันที่มาจากวัฒนธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เนื่องจากผลกระทบของไวรัส CCP จึงมีผู้ฝึกเข้าร่วมแพลตฟอร์ม RTC เพื่อโทรไปประเทศจีนมากขึ้น ทำให้ผู้ฝึกที่ดูแลการฝึกอบรมมีความกดดันอย่างมาก วันหนึ่งผู้ฝึกที่ฝึกอบรมฉันบอกว่า ฉันมีทักษะในการโทรศัพท์ดีแล้ว และเมื่อคำนึงถึงผู้ฝึกหลายคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ เธอจึงจะไม่ฝึกอบรมให้ฉันอีกแล้ว ฉันควรให้โอกาสกับผู้ฝึกคนอื่น

ฉันเข้าใจว่านี่เป็นการส่งเสริมที่เปี่ยมด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์ที่จะให้ฉันอ่านเอกสารด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าฉันถึงระดับความสามารถในการอธิบายความจริงได้ดีแล้ว ฉันรู้สึกได้ว่าเอกสารที่ใช้ฝึกอบรมมีอานุภาพมากในการอธิบายความจริง

ฉันจะพัฒนาตนเองได้อย่างไร ครูฝึกแนะนำให้ฉันฟังเสียงที่บันทึกไว้ ฉันถามตัวเองว่านี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีหรือ ฉันฟังทุกการโทรที่ช่วยให้คนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ไม่ว่าผู้คนจะสับสนกับความเข้าใจว่าตัวเองรักพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือรักประเทศจีน หรือเรียกเอาเงินก็ตาม ผู้ฝึกก็สงบเสมอและไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่พวกเขาพูด

ฉันตัดสินใจบันทึกการโทรของฉันทุกครั้งเพื่อฉันจะได้เห็นว่ามีที่ไหนที่ฉันสามารถปรับปรุงได้ ตัวอย่างเช่น ฉันพูดเร็วเกินไปไหม หรือน้ำเสียงของฉันควรนิ่งกว่านี้ไหม บางครั้งเมื่อฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงวางสาย. ฉันก็จะเปรียบเทียบบันทึกเสียงของฉันกับบันทึกเสียงของผู้ฝึกอื่น

ในอดีตเมื่อฉันช่วยโครงการอื่น ผู้ฝึกอื่นจะเตือนฉันเสมอว่า “อย่าพูดเสียงดังและแข็งเกินไป คุณควรลดเสียงลงและพูดอย่างนอบน้อม” ฉันอยากจะเปลี่ยนแปลงแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ฉันตัดสินใจทำตามที่ท่านอาจารย์กล่าวไว้ในบทความ "ให้มีสติ" เกี่ยวกับน้ำเสียง ความเมตตาและความมีเหตุผล หลายครั้งที่ฉันฟังบันทึกเสียงของตัวเองแล้ว อดร้องไห้ไม่ได้ และรู้สึกผิด : หลายปีแล้วที่ฉันสื่อสารกับผู้ฝึกอื่นด้วยน้ำเสียงและท่าทางครอบงำพวกเขา และฉันอาจโจมตีและทำร้ายพวกเขาโดยที่ฉันไม่รู้ตัวด้วย

เมื่อตระหนักว่าฉันผิดไปแล้ว ฉันจึงตัดสินใจโทรหาผู้ฝึกที่เคยทำงานด้วย ฉันขอโทษพวกเขาและขอบคุณพวกเขาที่อดทนกับฉัน เนื่องจากฉันรู้ปัญหาของตัวเองแล้ว ฉันจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ไขมัน ฉันขอให้ท่านอาจารย์ช่วยให้ฉันมีพลังเข้มแข็งขึ้น และช่วยให้ฉันพัฒนาในขณะที่ฉันโทรศัพท์ด้วย ในขั้นตอนปรับปรุงแก้ไขตนเอง ฉันสามารถชักชวนให้คนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้สำเร็จ และช่วยให้พวกเขาเข้าใจความจริงของต้าฝ่า

เรียนรู้ที่จะเมตตาอย่างแท้จริง

ท่านอาจารย์พูดถึง “การคล้อยตามสภาพจิตใจ” (“การบรรยายฝ่าในที่ประชุมต้าจี้หยวน” รวมการบรรยายธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ 10) ฉันเข้าใจว่าในการโทรไปประเทศจีน ไม่ว่าคนจะปฏิบัติกับเราอย่างไร เราก็ไม่ควรหวั่นไหว เราควรมุ่งหน้าอธิบายความจริงให้พวกเขาฟังเท่านั้น ที่สำคัญมากคือเราจะต้องมองค้นหาภายในเพื่อดูว่าปัญหาที่เราเจอเป็นการสะท้อนสภาวะการบำเพ็ญของเราใช่หรือไม่

ในเดือนพฤษภาคม เราโทรไปที่มณฑลจี๋หลิน เมื่อชายคนหนึ่งรับสาย ฉันเริ่มชักชวนให้เขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน เขาบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด และไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องลาออกด้วย เมื่อฉันบอกเขาว่าครอบครัวที่ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนโชคดีและปลอดภัยอย่างไรตอนที่เกิดแผ่นดินไหวที่เหวินชวนในปี 2008 เขาตัดบทฉันโดยบอกว่าเขาไปที่นั่นด้วยตัวเองเพื่อช่วยเหลือ เขาจึงรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่น เขาแสดงออกมาว่าเขาไม่เชื่อฉันก่อนที่เขาจะวางสายใส่ฉัน

ก่อนที่ฉันจะโทรหาเขาอีกครั้ง ฉันฟังเสียงที่บันทึกไว้และบอกได้ว่าตอนที่เขาวางสายโทรศัพท์อย่างรีบร้อนเป็นการสะท้อนการพูดที่เร็วเกินไปของฉัน ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดกังวลของฉัน ฉันผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่หน้าและยิ้มก่อนจะโทรกลับไปหาเขา ฉันขอโทษเขาแล้วบอกว่าการโทรครั้งนี้สำคัญมากสำหรับเขา ฉันหวังว่าเขาจะให้โอกาสฉันอธิบายความจริงกับเขา

ฉันคิดว่าเป็นเพราะเขารู้สึกถึงความจริงใจของฉัน และเป็นเพราะฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากและพูดช้าลง เขาจึงสงบลงและรับฟัง ฉันพูดต่อไปอีก27 นาที จนฉันพูดเกี่ยวกับอาชญากรรมของการปล้นเอาอวัยวะได้จบ ในที่สุดเขาก็ตกลงที่จะลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน และบอกว่าเขาจะจำไว้ว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” และ “ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน ดี”

ต่อมาเมื่อฉันวิเคราะห์เสียงที่บันทึกจากการโทรศัพท์ครั้งนี้ ฉันจึงเข้าใจว่าการทำตามคำสอนของท่านอาจารย์ที่ว่า “การคล้อยตามสภาพจิตใจ” เมื่อเรามองเข้าข้างใน สภาพแวดล้อมของเราก็จะเปลี่ยนไปจริง ๆ ฉันมองค้นหาภายในก่อนที่จะโทรหาเขาอีกครั้ง

ฉันเข้าใจว่าแต่ละครั้งที่เราโทรไปที่พื้นที่เฉพาะแห่งในประเทศจีน จะเป็นโอกาสที่ดีในการก่อเกิดเป็นร่างเดียว เพื่อขจัดการรบกวนและช่วยเหลือผู้คนในวงกว้างยิ่งขึ้น

ฉันรู้สึกขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์ ! ฉันเห็นคุณค่าของสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญที่แพลตฟอร์ม RTC มอบให้จริง ๆ รวมทั้งโอกาสที่ได้โทรศัพท์ไปยังประเทศจีนเพื่ออธิบายความจริงและช่วยสรรพชีวิตได้มากยิ่งขึ้น ! ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ! ขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก !