(Minghui.org) เมื่อวันที่ 24 และ 25 กรกฎาคม โรงละครพาเลซที่สแตมฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต คับคั่งไปด้วยผู้คนที่มาชมการแสดงเสินยวิ่น ไมเคิล โมรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรงละครกล่าวว่าเสินยวิ่นดึงผู้ชมเข้าชมที่นี่มากที่สุดนับตั้งแต่โรงละครกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังจากปิดตัวไปหนึ่งปี

การแสดงเสินยวิ่น ณ โรงละครพาเลซ ที่สแตมฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัตเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2021

หลังจากที่บัตรเข้าชมการแสดง 3 รอบของเดือนมิถุนายนปีนี้ขายหมดไป เสินยวิ่นจึงตัดสินใจเพิ่มการแสดงอีก 3 รอบในเดือนกรกฎาคมเพื่อให้พอกับความต้องการ

เมื่อม่านถูกยกขึ้น สิ่งที่ปรากฏบนเวทีคือภาพที่เลิศเลอตระการตาของโลกสวรรค์ ดังที่นักเต้นหลัก เอวานเจลีน จู ได้อธิบายในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “สิ่งที่ผู้ชมเห็นคือความโชติช่วงและมหัศจรรย์ และพวกเขารู้สึกได้ว่าพวกเขากำลังได้รับการดูแลจากพระเจ้า”

กำหนดการแสดงของเสินยวิ่นแต่ละรอบใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยพรรณนาให้เห็นถึงความวิจิตรตระการตาของแดนสวรรค์ในระดับชั้นที่แตกต่างกัน และบอกเล่าเรื่องราวในสมัยโบราณและสมัยปัจจุบัน เมื่ออารยธรรมจีนที่ยาวนาน 5,000 ปี ปรากฏต่อสายตาผู้ชม คุณงามความดีแห่งความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ ความเมตตา ก็แสดงออกมาให้เห็นอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เทคนิคการเต้นรำระดับสูงสุดที่ใกล้จะสูญหายไป เช่น “เซินไต้โส่ว” (ลำตัวนำแขน) และ “คว่าไต้ถุ่ย” (สะโพกนำขา) ก็แสดงให้เห็นถึงความงดงามและความบริสุทธิ์ของการเต้นรำแบบจีนโบราณมากขึ้นด้วย ทำให้ผู้ชมได้ซาบซึ้งกับวัฒนธรรมจีนของแท้ที่ปราศจากองค์ประกอบของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

“ประสบการณ์ใหม่เอี่ยมทั้งหมด”

แซม ชูคอฟสกี รองผู้อำนวยการบริษัทเภสัชภัณฑ์เบอริงเกอร์-อินเกลไฮม์ ชมการแสดงในรอบบ่ายของวันที่ 24 กรกฎาคม

“ผมชอบมาก ตื่นตาตื่นใจมาก” แซม ชูคอฟสกี รองผู้อำนวยการที่เบอริงเกอร์-อินเกลไฮม์ ให้ข้อคิดเห็น “เครื่องแต่งกายช่างอัศจรรย์ การเต้นรำก็งดงามยอดเยี่ยม ดนตรีไพเราะ มันวิเศษเป็นประวัติการณ์”

เขาพูดต่อว่า “มันเป็นการแสดงที่พิเศษเฉพาะ ผมดูละครบรอดเวย์มาแล้วหลายเรื่อง เมื่อเปรียบเทียบการแสดงนี้กับละครบอร์ดเวย์แล้ว มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นประสบการณ์ใหม่เอี่ยมทั้งหมดที่ไม่มีอะไรเทียบได้”

เขายังชื่นชมการทำงานอย่างหนักเพื่อรักษามรดกของจีนไว้ “มันเป็นความพยายามอย่างกล้าหาญที่ทำเช่นนี้เพื่อนำวัฒนธรรมของชาติที่สูญหายไปแล้วกลับคืนมา ผมคิดว่านั่นเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม และผมหวังว่าจะมีคนได้รับชมมากขึ้น” เขาอธิบาย

เจ้าของบริษัทการเงิน : คุณค่าระดับสากล

อาร์ต โมคาบี เจ้าของบริษัทการเงินและเพื่อนของเขา กลอเรีย กิบนีย์ รู้สึกประทับใจกับการแสดงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม

อาร์ต โมคาบี เป็นเจ้าของบริษัท อิควิเทเบิล แอดไวเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทวางแผนทางการเงินและบริหารสินทรัพย์ เขาตั้งตารอที่จะได้เห็นศิลปวัฒนธรรมดังกล่าวได้รับการฟื้นฟูและส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อ ๆ ไป

“มันเป็นอีกด้านหนึ่งของประเทศจีนที่ผมคิดว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นเพราะเป็นระบอบคอมมิวนิสต์” เขากล่าวเสริม “นั่นช่างงดงามไร้ที่ติ น่าเสียดายที่ไปแสดงในประเทศจีนไม่ได้ดังที่เราพูดกันเรื่องการปราบปราม”

การแสดงนี้เน้นสาระสำคัญทั่วไปในมวลมนุษยชาติ “มันช่างงดงาม งดงามไร้ที่ติ สาระสำคัญและศีลธรรมเหมือนกันในมนุษย์ทุกคน” เขาสรุป

ผู้อำนวยการฝ่ายขายอาวุโส : การกอบกู้วัฒนธรรมที่สูญหาย

แมรีแอน ทาร์ทาเกลีย และ เจฟ แวนเดล สามีของเธอ ชอบการแสดงในวันที่ 25 กรกฎาคม มาก

แมรีแอน ทาร์ทาเกลีย เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายอาวุโสของบริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่แห่งหนึ่ง เธอประทับใจการแสดงมากเพราะมันช่วยให้เธอเข้าใจวัฒนธรรมจีนได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

“ทุกเรื่องที่แสดงยอดเยี่ยมมาก ทั้งสีสันและการเต้นก็ดีเลิศ” ทาร์ทาเกลียบอกว่าเธอไม่รู้มาก่อนว่าอารยธรรมจีนอุดมสมบูรณ์และกว้างขวางมาก เธอเสียใจจริง ๆ ที่ได้ทราบว่าวัฒนธรรมดังกล่าวเกือบจะสูญหายไปในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา

ในฐานะที่เป็นคนเคร่งศาสนา ทาร์ทาเกลียมั่นใจว่าพระเจ้าควบคุมทุกสิ่งและจะนำพาวัฒนธรรมกลับคืนมาเพราะวัฒนธรรมดั้งเดิมมีค่าเกินกว่าที่เราจะละเลย

นักวิชาการชาวจีน : ความหวังและอนาคต

คอลัมนิสต์และนักวิจารณ์อิสระ เกอปีตง

เกอ ปีตง นักวิชาการชาวจีนและนักวิจารณ์อิสระบอกว่าการแสดงเสินยวิ่นช่วยให้โลกได้รู้ว่าอะไรคือประเทศจีนที่แท้จริงและอะไรคือวัฒนธรรมจีนของแท้ ที่จริงประเทศจีนเคยมีประวัติศาสตร์และศิลปะที่โดดเด่น แต่ทั้งหมดนี้ถูกทำลายโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน

นั่นคือเหตุผลที่เขาเห็นถึงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า ด้วยการสลายพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประเทศจีนจะนำประวัติศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมกลับคืนมาได้ และแบ่งปันสมบัติที่งดงามอย่างเช่นเสินยวิ่นให้กับคนทั้งโลก

บทความ กราฟิก และเนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บน Minghui.org มีลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ทำสำเนาที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้ แต่ต้องระบุแหล่งที่มาพร้อมชื่อบทความและลิงก์ไปยังบทความต้นฉบับ