(Minghui.org) ขณะที่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ยังคงทำให้โลกเสียหายอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครอยาก "สัมผัสใกล้ชิด" กับทุกคนที่ติดเชื้อไวรัส ทุกครั้งที่มีการรายงานว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ สมาชิกในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของผู้ติดเชื้อจะเป็นกลุ่มแรกที่ถูกกักกัน

สถานการณ์ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้ายิ่งร้ายแรงกว่าเดิม ในประเทศจีนมีกรณีที่ประชาชนติดเชื้อระหว่างรออยู่ในแถวเพื่อตรวจหาการติดเชื้อไวรัส ในกลุ่มผู้ติดเชื้อมีเด็กอายุ 2 ขวบ และ 8 เดือน ซึ่งอยู่ในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู และเป็นพื้นที่ที่ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้ารายแรก (ผู้ป่วยหมายเลขศูนย์) ในช่วงของการระบาดครั้งล่าสุดที่ประเทศจีน

คำถามมากมายเกี่ยวกับการสัมผัสใกล้ชิดยังไม่มีคำตอบ ยกตัวอย่างเช่น พรรคคอมมิวนิสต์จีนอ้างว่า "ผู้ป่วยหมายเลขศูนย์" ในเมืองหนานจิงคือลูกเรือภาคพื้นดินที่เข้าไปทำความสะอาดภายในเครื่องบินที่เดินทางมาจากรัสเซียไปยังหนานจิง แต่เจ้าหน้าที่ทางการไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมไม่มีผู้โดยสารติดเชื้อในระหว่างการบิน 9 ชั่วโมงจากรัสเซียไปยังหนานจิง ขณะที่พนักงานทำความสะอาดรายนี้ติดเชื้อหลังจากใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการทำความสะอาดเครื่องบิน และเป็นเหตุให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไปทั่วทั้งเมือง

ในบทความนี้ เราจะเน้นตัวอย่างส่วนหนึ่งของคนที่สัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 แล้วยังคงมีสุขภาพแข็งแรงเช่นเดิม นี่บ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสอาจแพร่กระจายในลักษณะที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไม่สามารถอธิบายได้ และอาจมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่าวัคซีน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาในแง่ที่ว่าไวรัสกำลังกลายพันธุ์รวดเร็วเพียงใด

ผู้ที่พักห้องเดียวกันคนหนึ่งติดเชื้อ แต่อีกคนหนึ่งไม่ติด

เหลียง โฉงยวู่ อยู่ในไต้หวัน เธอฝึกฝ่าหลุนกงซึ่งเป็นวิธีการทำสมาธิที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าฝ่าหลุนต้าฝ่า ที่ยึดถือหลักการ ความจริง ความเมตตา และความอดทน ช่วงที่มีการระบาดใหญ่ สามีของเธอทำงานอยู่ในอีกประเทศหนึ่งที่มีผู้ป่วยรายใหม่จำนวนมากทุกวัน

เหลียงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขา และได้เห็นพลังการรักษาอันน่าอัศจรรย์ของฝ่าหลุนกงในคนจำนวนมาก เธอจึงโทรศัพท์หาสามีทุกวันและย้ำเขาให้ระลึกว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว (ดี) เจิน - ซั่น - เหยิน ห่าว (ความจริง – ความเมตตา - ความอดทน ดี)” แต่สามีของเธอเป็นพวกอเทวนิยมและไม่สนใจคำแนะนำของเธอ

คุณยายของเหลียงก็บอกเขาเช่นเดียวกับเธอ เนื่องจากเขาไม่อยากทำตัวไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ เขาจึงทำตามคำแนะนำของคุณยายโดยท่องวลีข้างต้นทางโทรศัพท์

https://en.minghui.org/u/article_images/2021-8-10-i091949_01.jpg

เหลียง โฉงยวู่ (ขวา) และคุณยายของเธอกำลังฝึกท่าของฝ่าหลุนกง

ในเวลานั้นเพื่อนที่พักห้องเดียวกับสามีของเหลียงซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาไอมาก และบางครั้งแทบจะเหนื่อยหอบ เป็นเช่นนี้อยู่เกือบหนึ่งเดือน

วันหนึ่งขณะที่เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับเหลียง บริษัทของเขาแจ้งเขาว่าไม่ให้กลับไปที่หอพัก

"เกิดอะไรขึ้นครับ ผมติดเชื้อหรือครับ” เขาสงสัย

เหลียงรับรองกับเขาว่าไม่ต้องกังวล และบอกเขาว่า “โปรดท่องอยู่เรื่อย ๆ ว่า 'ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว (ดี) เจิน - ซั่น – เหยิ่น ห่าว (ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน ดี)' แล้วคุณจะไม่เป็นอะไร”

เธอแปลกใจมากที่เขายอมท่องโดยไม่ลังเล อาจเป็นเพราะเขากังวลว่าจะติดเชื้อจากเพื่อนที่พักห้องเดียวกัน

ต่อมาในวันเดียวกันนั้น บริษัทของเขาแจ้งเขาว่าเพื่อนที่พักห้องเดียวกับเขาติดเชื้อจริง ๆ เขาและเพื่อนคนนี้อยู่ด้วยกันเกือบ 24 ชั่วโมงต่อวัน พักในหอพักเดียวกัน และทำงานด้วยกัน ทั้งสองคนอยู่ในห้องที่มีระบบปรับอากาศเดียวกันและใช้ห้องน้ำเดียวกัน และมักรับประทานอาหารด้วยกัน

สามีของเหลียงย้ายออกและถูกกักกัน ทั้งเขาและเพื่อนร่วมห้องได้รับการตรวจหาเชื้อทุกสามสัปดาห์ ผลการตรวจของเขาเป็นลบทุกครั้ง ขณะที่ผลการตรวจของเพื่อนร่วมห้องของเขาไม่เป็นลบจนกระทั่งการตรวจครั้งที่สี่

สามีของเหลียงรู้สึกขอบคุณฝ่าหลุนกงอย่างมาก หลังจากกลับไปที่ไต้หวัน เขาสมัครเข้าเวิร์กช็อป 9 วัน และดูวิดีโอการบรรยายของอาจารย์หลี่หงจื้อ ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนกง และเริ่มอ่านหนังสือของต้าฝ่ารวมทั้งหนังสือ จ้วนฝ่าหลุน

สามีและภรรยาที่เป็นพยาบาลทั้งคู่ในเมืองอู่ฮั่นยังคงปลอดจากโรค

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอีกคนหนึ่งอยู่ในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดศูนย์กลางของการระบาดใหญ่ ลูกสาวและลูกเขยของเธอเป็นพยาบาลทั้งคู่ที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ลูกเขยของเธอทำงานในห้องฉุกเฉิน ในช่วงที่มีการระบาดหนัก สามีภรรยาคู่นี้ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยโควิดจำนวนมากทุกวัน เพื่อนร่วมงานของพวกเขาบางคนก็ติดเชื้อด้วย พวกเขาอยู่ในภาวะเครียดมาก

หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันตรุษจีน ผู้ฝึกคนนี้เชิญลูกสาวและลูกเขยของเธอมารับประทานอาหารเย็นในวันที่ 18 มกราคม 2020 เมื่อผู้ฝึกคนนี้เห็นว่าลูกเขยของเธอเครียดเพียงใด เธอจึงเตือนเขาและภรรยาอีกครั้งว่าให้ท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว เจิน - ซั่น – เหยิ่น ห่าว” เธอยังพูดเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงในระดับลึกยิ่งขึ้นให้พวกเขาฟัง และแสดงให้เห็นว่าการประโคมข่าวของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ใส่ร้ายป้ายสีฝ่าหลุนกงนั้นไม่เป็นจริง ทั้งคู่ฟังด้วยความสนใจอย่างมาก

เพราะทั้งคู่ได้ลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนานแล้ว และไม่ลืมที่จะท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว เจิน - ซั่น – เหยิ่น ห่าว” พวกเขาจึงยังคงปลอดภัยมาตลอดตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่แม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลก็ตาม

ลูกสาวอีกคนหนึ่งของผู้ฝึกคนนี้เป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกแห่งในเมืองอู่ฮั่น ก็มีประสบการณ์ที่คล้ายกัน เธอได้รับมอบหมายให้ทำงานในคลินิกที่มีผู้ป่วยเป็นไข้หนึ่งเดือน และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยเหล่านี้ทุกวัน รวมทั้งผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสแล้ว เธอเชื่อฟังคำแนะนำของแม่เช่นเดียวกับน้องสาวของเธอ และเธอสบายดี

กลุ่มผู้รอดชีวิตในอู่ฮั่น

ผู้ฝึกคนหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นบอกว่าประชาชนไม่กี่คนให้ความสนใจกับโรคนี้ตอนที่มันเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2019 ทั้งนี้เนื่องจากการปกปิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน บวกกับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังใกล้เข้ามา ดังนั้นคนจำนวนมากจึงไปเยี่ยมเยียนกัน และจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กัน โดยเฉพาะพ่อของผู้ฝึกคนนี้ไปงานเลี้ยงแทบทุกวัน บางครั้งเป็นการสังสรรค์กับคนหลายสิบคน บางครั้งก็หลายร้อยคน เขาทำเช่นนี้จนกระทั่งมีประกาศล็อกดาวน์เมืองในวันที่ 23 มกราคม 2020

หนึ่งในเพื่อนของพ่อชื่อเป่า ไปร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อนร่วมชั้นสมัยมหาวิทยาลัย 2 งาน เมื่อต้นเดือนมกราคม 2020 เนื่องจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเป่าคนหนึ่งติดเชื้อ ทำให้ทั้งเป่าและภรรยาของเขาก็ติดโรคด้วย ทั้งเป่าและเพื่อนร่วมชั้นคนนี้เสียชีวิตแล้ว

หลังจากพ่อของผู้ฝึกคนนี้อ่านรายงานต่าง ๆ ที่คล้ายกันจากสื่อสังคมออนไลน์ (WeChat) ทุกวัน เขาจึงรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างมาก แม้เขาจะไม่ใช่ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง แต่เขาก็สนับสนุนฝ่าหลุนกง และได้ลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว ทั้งเขาและครอบครัวคิดว่าเหมือนเป็นปาฏิหาริย์ที่เขารอดชีวิตมาได้จากทุกงานสังสรรค์

ครอบครัวใหญ่ 30 กว่าชีวิตเหลือรอด

สถานการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นในชนบทแห่งหนึ่งด้วย ตัวอย่างหนึ่งอธิบายไว้ในบทความบนเว็บไซต์หมิงฮุ่ยชื่อเรื่อง "ทำไมไวรัสโคโรนาอู่ฮั่นจึงไว้ชีวิตคนส่วนใหญ่ในครอบครัวของฉัน" ผู้เขียนบทความนี้บอกว่าครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวขยายที่มีสมาชิกในครอบครัวมากกว่า 30 คน อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สมาชิกในครอบครัวมากกว่า 20 คน มารวมตัวกันเพื่อทานอาหารค่ำเนื่องในวันตรุษจีนเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2020 หนึ่งวันหลังการประกาศล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่น

ในวันรุ่งขึ้น เถา ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้เขียนบทความมีไข้และไออยู่เรื่อย ๆ สองวันต่อมาเขาได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา ผู้เขียนบทความเขียนว่า “นอกจากเถา ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันแล้ว ทุกคนในครอบครัวสนับสนุนฝ่าหลุนกงและลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว” แต่เถาแตกต่างจากคนอื่น เขาถูกหลอกจากการประโคมข่าวเท็จที่ใส่ร้ายป้ายสีฝ่าหลุนกง ครั้งหนึ่งเขาเคยว่าโจมตีฝ่าหลุนกงในที่สาธารณะ

ครั้งนี้เมื่อผู้เขียนบทความคุยกับเถาอีกครั้ง เถาจริงจัง เขาสอบถามเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง ผู้เขียนบทความดังกล่าวอธิบายว่าผู้ฝึกต้องการเป็นคนที่ดีขึ้นโดยปฏิบัติตามหลักการ ความจริง – ความเมตตา -ความอดทน แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเสียชื่อในเรื่องโกหกหลอกลวงและโหดร้ายทารุณได้ทำการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรของมันจึงสอดคล้องกับค่านิยมดั้งเดิมและจะได้รับสิ่งที่ดี เถาเห็นด้วยและท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว เจิน – ซั่น - เหยิ่น ห่าว” อาการไข้ของเขาหายไปในเย็นวันนั้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายดีและได้ออกจากโรงพยาบาล

ถิงซึ่งเป็นภรรยาของเถา เชื่อในฝ่าหลุนกงและอ่านหนังสือของต้าฝ่าอยู่เสมอ บางครั้งเธอก็ฟังหมิงฮุ่ยเรดิโอและฝึกท่าของฝ่าหลุนกงด้วย หลังจากเถาติดเชื้อในครั้งนี้ เธอช่วยดูแลเขาในเรื่องการกินอาหารและอาบน้ำ แม้ถิงจะสัมผัสใกล้ชิดกับเขาแต่เธอก็สบายดี สมาชิกอื่นในครอบครัว รวมทั้งลูกชายและหลานชายของเถา และคนอื่น ๆ ที่รับประทานอาหารค่ำด้วยกันในวันตรุษจีนต่างก็สบายดีทุกคน

“เพื่อนบ้านของเราถามว่า 'ทำไมครอบครัวของคุณจึงไม่ติดเชื้อ'” ผู้เขียนบทความตอบว่า “พวกเรารู้ว่าเมื่อเราทำตามสติรู้ผิดรู้ชอบและสนับสนุนผู้บริสุทธิ์ เราจะได้รับสิ่งที่ดี”

“โรคมีตา”

อีกตัวอย่างหนึ่งมาจากมณฑลหูเป่ย์ ในบทความ “วลีศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้ญาติของฉันหายจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา” ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์หมิงฮุ่ย ผู้เขียนบทความนี้บอกว่าภรรยาของหลานชายและลูกชายของป้าของเธอติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากได้ท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว เจิน – ซั่น - เหยิ่น ห่าว” ทั้งคู่ก็หาย แต่ลุงของเธอไม่โชคดีนัก

ที่จริงก่อนตรุษจีนปี 2020 ลุงนำรูปภาพของผู้นำ 10 คนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนกลับมาแขวนที่บ้าน เนื่องจากหลายคนทราบว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนแย่แค่ไหน และได้ลาออกจากองค์กรของมันแล้ว ภรรยาของเขา (ป้าของผู้เขียนบทความ) จึงขอให้เขาปลดรูปภาพนี้ลงมาและให้ทิ้งไป แต่เขาไม่ยอม วันรุ่งขึ้นลูกชายคนเล็กของลุงได้รับการวินิจฉัยว่าติดไวรัส เมื่อป้าคุยกับลุงเกี่ยวกับการลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกครั้ง ลุงก็ยังไม่ฟัง ต่อมาเขาติดโรคและเสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่วัน

เจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านขอให้ป้าไปกักตัวที่อื่น แต่เธอขอกักตัวอยู่ที่บ้าน พนักงานฆ่าเชื้อไม่กล้าเข้าไปและขอให้เธอทำการฆ่าเชื้อในบ้านของเธอเอง และให้เอาขยะไปทิ้งด้วย เธอท่องสองวลีข้างต้นอยู่เรื่อย ๆ และในเวลาต่อมาผลการตรวจร่างกายของเธอแสดงว่าเธอสบายดี

เจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านต่างประหลาดใจกับเรื่องนี้ ชาวบ้านบางคนพูดว่าพวกเขาเชื่อว่าเชื้อโรค มีตาและรู้ว่าจะแพร่ไปที่ใด

ใจและกายมีผลต่อกันและกัน

แม้ว่าวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไม่เคยศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างใจกับกายจนถึงไม่กี่ปีมานี้ แต่ความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีในสมัยโบราณ โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่เจาะจงกว่านั้นคือคนโดยทั่วไปเชื่อว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”

นั่นเป็นเหตุผลว่าชาวจีนมากกว่า 380 ล้านคนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว พวกเขารับรู้ถึงอันตรายที่ระบอบการปกครองนี้ได้ทำต่อประชาชนของตัวเองระหว่างการรณรงค์ทางการเมืองทั้งหมดของมัน รวมทั้งการปฏิรูปที่ดินในทศวรรษ 1950 การเกิดทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ของจีน (ปี 1959-1961) การปฏิวัติทางวัฒนธรรม การสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินปี 1989 และเหตุการณ์อื่น ๆ ในปี 1999 พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงหลายล้านคน การรณรงค์เกี่ยวกับการประทุษร้ายนี้ยังไม่ลดลงเลยแม้จะผ่านไป 22 ปีแล้ว ผู้ฝึกจำนวนมากยังถูกกักขัง ถูกทรมาน และถูกจำคุก ผู้ฝึกบางคนถูกส่งไปค่ายบังคับใช้แรงงาน ถูกทารุณกรรมทางจิตเวช แม้กระทั่งตกเป็นเหยื่อของการปล้นเอาอวัยวะ

รายงานฉบับหนึ่งที่เผยแพร่บนเว็บไซต์หมิงฮุ่ยระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2020 ได้ทำการศึกษากรณีติดเชื้อ 36 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนของ 6 ชาติพันธุ์และ 6 ประเทศ 100% ของคนเหล่านี้มีประสบการณ์จากการท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว เจิน – ซั่น - เหยิ่น ห่าว” แล้วอาการดีขึ้น ผู้ป่วยอายุ 11 ปีที่ศึกษาในกลุ่มนี้ 10 คนหายดี และ 1 คนอาการดีขึ้น

ในตำราหวงตี้เน่ยจิง (The Yellow Emperor’s Internal Classic) ซึ่งเป็นหนึ่งในตำราการแพทย์แผนจีนโบราณที่รู้จักกันดีที่สุดเขียนไว้ว่า “เมื่อคนมีชี่ (พลังงาน) ที่ถูกต้องชอบธรรมอยู่ภายใน ไม่มีความชั่วร้ายใดรุกรานได้” ด้วยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มเดียวที่ถูกระบอบการปกครองนี้กดขี่ทำร้ายเนื่องจากความเชื่อของพวกเขา ทุกคนที่สนับสนุนผู้ฝึกฝ่าหลุนกงผู้บริสุทธิ์จะได้รับสิ่งที่ดี

https://en.minghui.org/u/article_images/2020-3-3-shijiazhuang-stickers_01_bX2K4fV.jpg

ฝ่าหลุนกงถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีนกดขี่ทำร้ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1999 โปสเตอร์ที่ติดอยู่เขียนว่า "ฝ่าหลุนต้าฝ่าห่าว เจิน - ซั่น - เหยิน ห่าว" คนที่ติดโปสเตอร์เช่นนี้อาจจบลงด้วยการถูกกักขังและถูกจำคุกนานหลายปี

https://en.minghui.org/u/article_images/2021-8-10-i091949_02.jpg

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเดินพาเหรดนอกประเทศจีนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเรื่องการประทุษร้ายในประเทศจีนให้คนรับรู้เพิ่มขึ้น

บทความ กราฟิก และเนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บน Minghui.org มีลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ทำสำเนาที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้ แต่ต้องระบุแหล่งที่มาพร้อมชื่อบทความและลิงก์ไปยังบทความต้นฉบับ