(Minghui.org) สวัสดีท่านอาจารย์ที่เคารพ ! สวัสดีเพื่อนผู้บำเพ็ญ !
ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1994 สามีและฉันย้ายมาแคนาดาในปี 2005 ตอนแรกเราหาสนามฝึกไม่พบ จากเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ฉันต้องก้าวผ่านด่านเป็นด่านตาย ฉันฟันฝ่าอุปสรรคที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้ให้ฉันมาได้ ฉันจึงได้รับสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญแบบกลุ่ม
มันเกิดขึ้นเมื่อสามีของฉันกลับไปประเทศจีน เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเนื่องจากคุณย่าเสียชีวิตและจากการปฏิบัติที่ผิดศีลธรรมในประเทศจีน แม่ของสามีโทรศัพท์มาบอกว่าสถานการณ์ของสามีฉันแย่มาก เขานอนได้แค่ 1 หรือ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และกินอาหารไม่ได้ เขาไม่มีแรงและซูบผอม เขาไม่กล้ากลับมาแคนาดาและกลับมาหาฉันในสภาพนี้ ฉันมีความคิดหนึ่ง : มีเพียงต้าฝ่าเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ ! ฉันโทรหาสามีและยืนกรานให้เขากลับบ้าน ฉันบอกเขาว่าเราจะเผชิญหน้ากับมันด้วยกัน
สามีของฉันรวบรวมความกล้าหาญทั้งหมดกลับมาที่แคนาดาพร้อมกับลูกสาวของเรา เขาร้องไห้ขณะเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น เขาขอโทษและขอให้ฉันให้อภัย ตอนนั้นงานของฉันยุ่งมาก และยังต้องดูแลทั้งลูกสาวและสามี การใช้ชีวิตร่วมกับสามีที่มีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรงทำให้ฉันอ่อนล้าทั้งจิตใจและร่างกาย บางวันฉันรู้สึกว่าเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ฉันตั้งใจมั่นที่จะศึกษาฝ่ากับสามีทุกวัน ฉันเชื่อว่าต้าฝ่าสามารถกำจัดด้านที่ไม่ดีในใจของเขาได้ ในช่วงแรกเขามีประสบการณ์เฉียดตาย เห็นภาพหลอน และนอนไม่หลับ หลังจากนั้นหนึ่งเดือนเขาจึงนอนหลับสนิทได้ ฉันรู้ว่าเป็นพลังของต้าฝ่าที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวกเหล่านี้ ฉันเองก็รู้สึกว่าเหมือนได้เกิดใหม่
สิ่งอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ขณะที่ฉันอธิบายความจริงกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวันในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานอีกคนบังเอิญได้ยินการสนทนาของเรา เธอตามฉันกลับไปที่สำนักงานและบอกว่า “ฉันก็เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า” ฉันน้ำตาคลอ ฉันตามหาเพื่อนผู้ฝึกมานานเหลือเกิน และในที่สุดฉันก็พบเธอ ! ฉันรู้สึกขอบคุณท่านอาจารย์มาก
จากนั้นเป็นต้นมา หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน เราก็ศึกษาฝ่าด้วยกันทุกครั้งที่มีเวลา เธอแนะนำฉันกับกลุ่มอ่านฝ่ากลุ่มใหญ่ด้วย เธอแนะนำให้ฉันรู้จักกับทีมโปรโมตเสินยวิ่น เราติดโปสเตอร์และแจกแผ่นพับด้วยกัน ในปี 2009 ขณะที่ฉันนั่งรถบัสไปฝ่าฮุ่ยที่นิวยอร์กเป็นครั้งแรก. น้ำตาของฉันก็ไหลอาบแก้มไม่หยุด ลูกสาวซึ่งนั่งข้าง ๆ ช่วยเช็ดน้ำตาให้ฉันตลอดเวลา
ไม่นานหลังกลับจากฝ่าฮุ่ย ฉันฝันว่ากำลังนั่งอยู่ในรถไฟ ท่านอาจารย์อุ้มลูกสาวของฉันและลูบศีรษะของเธอด้วยความเมตตา ท่านยิ้มให้ฉันด้วย ฉันตื้นตันใจมากจนร้องไห้ แม้ฉันจะไม่ขยัน ท่านอาจารย์ก็ยังจำฉันได้และดูแลฉัน ฉันไม่มีข้อแก้ตัวที่จะย่อหย่อนอีกต่อไป ฉันต้องขยันหมั่นเพียรที่จะทำให้พันธกิจในการช่วยท่านอาจารย์เจิ้งฝ่าลุล่วง และติดตามท่านอาจารย์กลับบ้าน
หลังจากที่มาแคนาดาได้ไม่นาน ฉันก็ได้งานที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ฉันเริ่มทำงานในตำแหน่งระดับเริ่มต้น ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ฉันก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการที่อายุน้อยที่สุดของแผนก ฉันสะสมทักษะมากมายในสายงานของฉันตลอดหลายปีที่ผ่านมา และสิ่งต่าง ๆ ก็ราบรื่น เจ้านายชมเชยงานของฉันถึงกับบอกว่าแผนกจะดำเนินไปไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน
จู่ ๆ สำนักงานใหญ่ก็ส่งคนใหม่มาควบคุมงานของฉัน หลังจากเจ้านายคนใหม่ของฉันเข้ามา เขาก็วิพากษ์วิจารณ์ฉันในที่ประชุมและขณะสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานในแผนก เขาถึงกับติดประกาศหาคนใหม่มาแทนฉันด้วยซ้ำ ฉันรู้สึกว่าทั่วสำนักงานถูกปกคลุมด้วยเมฆดำ
มีเพียงผนังกั้นระหว่างที่ทำงานของฉันกับของเจ้านาย ฉันจึงได้ยินเขาพูดและรู้สึกรังเกียจ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากใจของฉันไม่นิ่ง เพื่อนร่วมงานจึงคอยส่งข่าวให้ฉันตลอด : วันนี้เจ้านายของคุณพูดถึงคุณอย่างนี้อย่างนี้... คำพูดเหล่านี้จี้ไปที่จิตยึดติดที่ฉันยังปล่อยวางไม่ได้โดยตรง ฉันคิดว่า : ช่างเถอะ ฉันก็แค่ลาออก นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาบังคับให้ฉันทำหรอกหรือ ด้วยทักษะของฉัน ฉันหางานอื่นได้ง่าย ๆ
ยามความทุกข์ประดังเข้ามา ในช่วงเวลาที่ทุกข์ยากนี้ สามีของฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบซ้ำ ๆ จู่ ๆ ฉันก็ระลึกได้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ฉันมีปัญหาเหล่านี้เพราะฉันไม่ได้บำเพ็ญตัวเอง และไม่ได้มองค้นหาภายในเมื่อประสบกับความขัดแย้ง ฉันขอให้ท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะ ฉันต้องการยกระดับจริง ๆ ฉันอยากเผชิญหน้ากับความขัดแย้งและก้าวผ่านการทดสอบนี้ไปได้
เมื่อฉันมองค้นหาภายใน ฉันพบว่าจิตยึดติดของฉันเพิ่มขึ้นเมื่องานราบรื่น ฉันยึดติดกับการได้ทำงาน มีจิตโอ้อวด จิตอิจฉา และจิตแข่งขัน คนรอบตัวฉันต้องพูดถึงฉันในด้านดีหรือต้องเห็นพ้องกับความคิดของฉัน เมื่อคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ ฉันก็จะวิตกกังวลและอารมณ์เสียง่าย ฉันหาข้ออ้างให้ตัวเองว่าในที่ทำงานมีความกดดันสูงเพื่อหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง และบ่นเพื่อนร่วมงานที่ไม่เข้าใจฉัน
ท่านอาจารย์กล่าวว่า :
“ผู้บำเพ็ญใช่ไหม การค้นหาจากภายในนี้คือเคล็ดลับอันหนึ่ง”
“หากใจของศิษย์ต้าฝ่าไม่มั่นคง ก็จะทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบของท่านเกิดการเปลี่ยนแปลง เวลาที่ท่านกลัว ท่านจะพบว่าสรรพชีวิตล้วนไม่ปกติแล้ว ในเวลาที่สีหน้าท่าทางของท่านแจ่มใส ใจกว้าง เปี่ยมด้วยความหวัง ท่านจะพบว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวก็จะไม่เหมือนกันแล้ว ในการอธิบายความจริง ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ในการทำงานของพวกท่านเมื่อเกิดความยากลำบาก ลองปรับใจตนเอง ใช้เจิ้งเนี่ยนมาใคร่ครวญปัญหา อาจจะได้ผลที่ดีมากก็ได้” (การบรรยายธรรม ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยนานาชาติกรุงวอชิงตันดีซี ค.ศ.2009)
เมื่อฉันทราบปัญหาของตัวเองแล้ว ฉันก็คุยกับเจ้านาย ฉันเล่าความคิดของฉันให้เขาฟังอย่างสงบ ฉันบอกเขาว่าฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าและปฏิบัติตามหลักการ ความจริง ความเมตตา ความอดทน ฉันขอบคุณเขาที่อดทนและเข้าใจงานของฉัน และบอกว่าฉันยินดีที่จะร่วมมือกับเขา
ในไม่ช้าสิ่งต่าง ๆ ในที่ทำงานก็กลับสู่สภาวะปกติ เมื่อฉันมีปัญหา ก่อนอื่นฉันจะค้นหาจากภายในว่าเป็นเพราะฉันไม่ได้มาตรฐานของผู้บำเพ็ญหรือเปล่า ฉันพยายามละทิ้งความเห็นแก่ตัวให้หมดสิ้นไป โดยลดตัวตนลง อ่อนน้อมถ่อมตน และพยายามร่วมมือกับผู้อื่นอย่างเต็มที่ จากการค้นหาภายใน สภาพแวดล้อมการทำงานของฉันก็กลมเกลียว และสภาพแวดล้อมในครอบครัวของฉันก็ดีขึ้นด้วย สามีของฉันไม่ได้กินยาเพื่อรักษาอาการซึมเศร้าของเขาแม้แต่เม็ดเดียว เขาหายเป็นปกติภายในระยะเวลาสั้น ๆ นอกจากนี้ สำนักงานใหญ่ตัดสินใจอย่างกะทันหันไม่ให้เจ้านายของฉันดูแลแผนกอีกต่อไป และให้เขาเกษียณก่อนกำหนด
วันหนึ่งเพื่อนผู้ฝึกในที่ทำงานบอกฉันว่าเธอวางแผนที่จะลาออก ฉันเองก็ได้รับข้อเสนอจากบริษัทอื่นในตำแหน่งผู้จัดการแผนก เงินเดือนฉันจะเพิ่มเป็นสองเท่าถ้ารับข้อเสนอนี้ ภายในหนึ่งเดือนเราทั้งคู่ออกจากบริษัท ฉันตระหนักว่าภารกิจของเราในฐานะศิษย์ต้าฝ่าที่นั่นเสร็จสมบูรณ์แล้ว เพื่อนร่วมงานของเราหลายคนรับรู้ความจริงและลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว แม้ว่าฉันจะเศร้าใจอยู่บ้าง แต่ฉันก็ต้องก้าวต่อไปสู่ประสบการณ์การบำเพ็ญขั้นต่อไป ขอบคุณท่านอาจารย์สำหรับการจัดวางอย่างรอบคอบ !
เมื่อมาถึงที่ทำงานใหม่ ทุกอย่างใหม่สำหรับฉัน ฉันใช้เวลามากในการคิดค้นเกี่ยวกับงานที่ซับซ้อน และค่อย ๆ ย่อหย่อนในการบำเพ็ญ เมื่อใดก็ตามที่ฉันยุ่งเรื่องงาน ฉันจะไม่ได้ศึกษาฝ่า ฝึกท่า หรือฟาเจิ้งเนี่ยน ดังนั้นการทดสอบที่ใหญ่กว่าจึงเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
ในวันก่อนการประชุมฝ่าฮุ่ยในปี 2018 เจ้านายของฉันเดินทางไปทำธุรกิจ ฉันได้รับอีเมล 4 ฉบับที่ส่งเข้ามาโดยใช้ชื่อของเธอ บอกให้ฉันจ่ายเงินรวม 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามใบแจ้งหนี้ เนื่องจากอีเมลเหล่านี้มาจากเจ้านาย ฉันจึงไม่ได้คิดทบทวน และส่งอีเมลเหล่านี้ต่อไปยังพนักงานบัญชีเพื่อชำระเงิน ประมาณ 10 วันต่อมา เจ้านายของฉันกลับมา เมื่อฉันรายงานเรื่องงานที่ทำให้เธอทราบ เราจึงพบว่าอีเมลทั้ง 4 ฉบับ มาจากสแกมเมอร์ เธอไม่ได้ส่งอีเมลเหล่านี้ อย่างไรก็ตามเราได้โอนเงินไปที่บัญชีธนาคารของคนที่มาหลอกเรา 10 วันแล้ว เจ้านายตะคอกใส่ฉันทันทีและคนทั้งแผนกก็ได้ยินกันหมด เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นมา มันเป็นการทดสอบใหญ่ในใจของฉันจริงๆ หัวของฉันเต้นตุบ ๆ แต่ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ ฉันบอกเธอว่า “ขอเวลาให้ฉันแก้ไขเรื่องนี้ ฉันจะโทรหาธนาคาร”
ขณะขับรถกลับบ้าน จิตใจของฉันว่างเปล่า ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้กับฉัน ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาล และมันแล่นฉิวผ่านฉันไป ฉันตระหนักได้ทันทีว่านี่เป็นการจัดวางของอิทธิพลเก่า อิทธิพลเก่าจะควบคุมศิษย์ต้าฝ่าได้อย่างไร ฉันต้องปฏิเสธการจัดวางเหล่านี้ด้วยความคิดถูกต้อง ไม่สำคัญว่าฉันทำอะไรผิด อิทธิพลเก่าไม่มีสิทธิ์มาทดสอบฉัน ฉันฟังเฉพาะสิ่งที่ท่านอาจารย์พูดเท่านั้น
ท่านอาจารย์กล่าวว่า
“ทุกท่านล้วนนำการงานของตนเอง ผนึกเข้ากับการยกระดับของตนเอง การทำงานของท่านกับการบำเพ็ญของท่าน ไม่อาจแยกออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด ความยุ่งยากที่ท่านประสบในการทำงาน ความเห็นที่ต่างกัน กับความขัดแย้งที่รุนแรง ล้วนแต่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการยกระดับซินซิ่งของท่าน” (การบรรยายฝ่าในที่ประชุมผู้ช่วยฝึกสอนเมืองฉางชุน)
หลังจากนึกถึงคำสอนท่อนนี้ได้ หัวใจของฉันก็มั่นคง เมื่อฉันกลับถึงบ้าน ฉันร่างเอกสารอย่างละเอียดเพื่ออธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นและเราจะดำเนินการอย่างไรเพื่อเอาเงินกลับคืนมา เย็นวันนั้นฉันใช้เวลาอ่านฝ่ามากกว่าเดิม ฉันฟาเจิ้งเนี่ยนอย่างแรงกล้า เพื่อปฏิเสธการจัดวางของอิทธิพลเก่าที่ชั่วร้ายทั้งหมด
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ฉันได้รับโทรศัพท์จากธนาคาร น่าอัศจรรย์มากที่ธนาคารแจ้งให้ฉันทราบว่าจากการชำระเงิน 4 ยอด 2 ยอดที่จ่ายไปยังฮ่องกงถูกธนาคารฝ่ายรับเงินปฏิเสธและส่งเงินกลับมายังบัญชีธนาคารของเรา ธนาคารยังได้กู้คืนยอดชำระเงินที่มากที่สุดซึ่งโอนไปยังอีกประเทศด้วย และเราได้รับเงินคืนเต็มจำนวนกลับมายังบัญชีธนาคารของเราแล้ว การชำระเงินยอดสุดท้ายและเป็นยอดน้อยที่สุดโอนไปประเทศหนึ่งในยุโรปแต่ถูกอายัดไว้ในบัญชีธนาคารของผู้รับ เนื่องจากเราโทรแจ้งตำรวจทันที ผู้รับจึงยังไม่ได้ถอนเงินออกไป
ตามข้อกำหนดของธนาคารในท้องที่ เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายซึ่งหมายความว่าเราต้องรอนานขึ้นกว่าจะได้เงินคืน อย่างไรก็ตาม มันไม่มีความเสี่ยงและเราจะได้รับเงินคืน ผู้จัดการธนาคารบอกฉันว่า : “นี่ไม่น่าเชื่อเลย คุณโชคดีมาก ฉันทำงานธนาคารมาหลายปีแล้ว และยากมากที่จะได้เงินที่ถูกหลอกกลับคืนมา" ฉันรู้ว่าท่านอาจารย์ช่วยเหลือฉันอีกครั้งและแก้ไขวิกฤตนี้ให้ฉัน
เนื่องจากเหตุการณ์นี้ บริษัทคุยกับฉันและตัดสินใจที่จะตัดโบนัสของฉันบางส่วน ฉันจำที่ท่านอาจารย์พูดได้ว่า “…พวกเราผู้ซิวเลี่ยนเน้นการปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ สิ่งใดที่เป็นของคุณย่อมไม่สูญหาย สิ่งที่ไม่ใช่ของคุณ คุณก็แย่งเอามาไม่ได้” (บทที่เจ็ด จ้วนฝ่าหลุน)
ฉันเข้าร่วมในโครงการยืนยันความถูกต้องให้ต้าฝ่า และต้องการเงินเพื่อสนับสนุนโครงการเหล่านี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้อิทธิพลเก่าประทุษร้ายฉันด้านการเงิน เมื่อถึงเวลาแจกโบนัส เจ้านายบอกว่าฉันทำงานหนักมาก บริษัทคิดว่าจะเพิ่มโบนัสให้ฉัน แต่จากเหตุการณ์ที่ฉันโดนหลอกทางอินเทอร์เน็ต พวกเขาตัดสินใจจ่ายโบนัสปกติให้ฉันเท่านั้น สุดท้ายโบนัสของฉันก็ไม่ถูกตัดเลย
การยกระดับในการบำเพ็ญส่วนบุคคลของฉันเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการออกไปอธิบายความจริง ฉันรู้สึกยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็วทุกวันตั้งแต่ฉันเริ่มไปแหล่งท่องเที่ยวเป็นประจำ ก่อนหน้านี้ฉันเพียงแค่อธิบายความจริงโดยการโทรศัพท์ไปยังประเทศจีน และด้วยการพูดคุยต่อหน้ากับคนที่มีวาสนาเท่านั้น ท่านอาจารย์บอกเป็นนัยให้ฉัน เมื่อฉันเห็นบทความเกี่ยวกับการอธบายความจริงที่น้ำตกไนแองการาบนเว็บไซต์ Minghui.org เมื่อมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉันรู้สึกถึงสนามพลังที่บริสุทธิ์ สงบ และมีเมตตา ทุกฉากในภาพเปล่งประกายแสงสีทอง ฉันตัดสินใจติดต่อผู้ประสานงานเพื่อลงทะเบียนในโครงการอธิบายความจริงที่น้ำตกไนแองการ่าในทันที
ฉันยังร่วมมือกับผู้ฝึกสูงวัยในการอธิบายความจริงด้วย บางครั้งฉันใช้ช่วงเวลาพักร้อนเพื่อช่วยโครงการนี้ ฉันไปที่นั่นสองหรือสามครั้งต่อสัปดาห์ ผู้ฝึกสูงวัยพูดเสมอว่า “ตราบใดที่คุณมา คุณจะได้บางสิ่งบางอย่าง” ฉันพบว่าเป็นความจริง ที่ผ่านมาผู้ฝึกสูงวัยต้องผ่านความยากลำบากมากมายเพราะพวกเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และสื่อสารกับคนในพื้นที่ไม่ได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมักจะไล่พวกเขาออกไป และไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้
เมื่อไปที่นั่น ฉันเริ่มอธิบายความจริงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ฉันบอกพวกเขาว่ามีคนฝึกต้าฝ่าทั่วโลกเพราะผู้คนให้คุณค่ากับหลักการที่ดีงามคือ ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ฉันอธิบายว่าพวกเราในฐานะผู้ฝึกได้รับประโยชน์อะไรจากต้าฝ่าบ้าง แต่ต้าฝ่าถูกประทุษร้ายในประเทศจีน และพรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังปล้นเอาอวัยวะจากผู้ฝึกไปขายเพื่อผลกำไร
จากนั้นมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะทักทายพวกเราด้วยความกรุณาเสมอ และให้อาหารและน้ำแก่ผู้ฝึกสูงวัยด้วย หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังบอกเราหลายครั้งว่าเธอจะเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าพร้อมกับลูกชายของเธอ เธอให้หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้านายกับเราและขอให้เราช่วยอธิบายความจริงกับเจ้านายของเธอด้วย
ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2019 อากาศเริ่มหนาว พวกเราจึงเดินทางไปน้ำตกไนแองการ่าเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อฉันเข้าไปในรถ ผู้ฝึกสูงวัยถามฉันว่า “เราจะมอบปฏิทินเสินยวิ่นให้กับตำรวจท้องที่ คุณช่วยเขียนจดหมายขอบคุณพวกเขาที่ให้การสนับสนุนต้าฝ่าอย่างต่อเนื่องได้ไหม” ในขณะที่ผู้ฝึกพูด ฉันก็จดข้อความไว้ในโทรศัพท์มือถือ ฉันรีบร้อนออกจากบ้านและจู่ ๆ ฉันก็เห็นว่าแบตเตอรี่ของฉันตอนนี้เหลือเพียงแค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ทันทีที่เรามาถึง ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและคิดว่าต้องรีบถ่ายโอนข้อความจากโทรศัพท์ลงบนกระดาษด่วน ฉันไปร้านกาแฟใกล้ ๆ เมื่อฉันมองเข้าไปในร้าน ก็เห็นคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ ฉันพิมพ์จดหมายและพิมพ์ออกมาอย่างรวดเร็ว พอทำเสร็จโทรศัพท์ของฉันเหลือแบตเตอรีแค่ 1% ฉันรีบกลับไปหาเพื่อนผู้ฝึก แล้วพวกเราก็ไปแวะที่จุดแรกคือสถานีตำรวจ
เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวจำนวนมากจอดรถไว้ที่หน้าสถานีตำรวจ ขณะที่เรากำลังกังวลเกี่ยวกับการหาที่จอดรถ รถที่จอดอยู่หน้าสถานีคันหนึ่งก็ขับออกไป ทันทีที่เราจอดรถและเดินออกจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนก็เดินมาหาเราราวกับว่าพวกเขาตั้งใจจะเข้ามาทักทายเรา เราเดินเข้าไปหาพวกเขา และยื่นปฏิทินเสิ่นยวิ่นที่สวยงามสองอันและดอกบัวสองดอกให้พวกเขา พวกเขามีความสุขมาก พวกเขายิ้ม ขอบคุณเรา และบอกว่าจะแขวนปฏิทินไว้ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุดในสำนักงาน
เราไปศาลากลางเป็นจุดต่อไป เมื่อเราไปถึง ก็พบว่าประตูล็อกอยู่ เรานึกได้ว่าไม่มีใครทำงานที่นั่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้ฝึกสองคนพูดว่าเราค่อยกลับมาใหม่ในครั้งหน้า ฉันยังไม่อยากยอมแพ้ เราจะกลับไปโดยไม่ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจมาทำได้อย่างไร ฉันและผู้ฝึกอีกคนเดินวนไปรอบ ๆ อาคารของรัฐ หลังจากเดินวนเกือบรอบอาคาร ก็มีรถคนหนึ่งที่มีตราสัญลักษณ์ของศาลากลางขับเข้ามาและจอดข้าง ๆ เรา
เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เดินออกจากรถเป็นคนที่เรารู้จักและเคยติดต่อด้วยหลายครั้งมาก่อน เขาบอกเราอย่างมีความสุขว่าเพื่อนร่วมงานของเขาหลายคนกำลังวางแผนที่จะไปดูเสิ่นยวิ่นด้วยกัน เรามอบปฏิทินให้เขาสี่อัน และเขายินดีที่จะวางปฏิทินไว้ในจุดที่สะดุดตา สุดท้ายพวกเราก็แลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับติดต่อกัน หลังจากที่ฉันเข้าไปในรถและส่งข้อความอธิบายความจริงให้เขา ฉันก็เห็นว่าแบตเตอรี่ที่โทรศัพท์ยังเหลืออยู่ 1% เหมือนเดิม
วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปเนื่องจากไวรัสโคโรนา พวกเราผู้ฝึกก็จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ให้ดีที่สุด และทำทั้งสามอย่างให้ดี ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งมีข้อจำกัดน้อยลง พวกเราเริ่มฝึกท่าด้วยกันในกลุ่มเล็ก ๆ และอธิบายความจริงในสถานที่เหล่านี้ มันเป็นความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ของศิษย์ต้าฝ่าทุกคนที่จะต้องช่วยท่านอาจารย์เจิ้งฝ่า ขณะนี้เราเข้าใกล้จุดสุดท้ายเต็มทีแล้ว
ท่านอาจารย์กล่าวว่า “หนทางที่ศิษย์ต้าฝ่าเดินก็คือประวัติศาสตร์ที่โชติช่วงชัชวาลตอนหนึ่ง ประวัติศาสตร์ตอนนี้จะต้องสร้างขึ้นด้วยการประจักษ์รับรู้ด้วยตัวเอง” (“หนทาง” จิงจิ้นเหย้าจื่อ 2)ขอให้เราทำงานร่วมกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้คำปฏิญญาก่อนประวัติศาสตร์บรรลุผล ทำให้หนทางที่เราต้องก้าวไปถูกต้อง และกลับบ้านพร้อมท่านอาจารย์
เนื่องจากระดับชั้นของฉันมีจำกัด โปรดเมตตาชี้จุดบกพร่องด้วยหากมีสิ่งใดที่ไม่สอดคล้องกับฝ่า
ขอบคุณท่านอาจารย์ ขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก