(Minghui.org) ผมเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอายุ 90 ปี
ตอนที่ผมอายุเกือบ 70 ปี ในปี 1997 ผมโชคดีที่ได้อ่านจ้วนฝ่าหลุน ผมอดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า “นี่คือคัมภีร์สวรรค์ ! ผมต้องศึกษาหนังสือเล่มนี้ !” ทันทีที่ผมเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ผมรู้สึกว่าฝ่าหลุนหมุนไปทั่วทั้งตัว ในความฝันผมเห็นอาจารย์แกว่งแขนขนาดมหึมาของท่านและกวาดล้างสิ่งกีดขวางต่าง ๆ บนเส้นทางการบำเพ็ญของผม
ภรรยาของผมก็เริ่มฝึกต้าฝ่าเช่นกัน เธอเป็นประจักษ์พยานในพลังของต้าฝ่า ตัวอย่างเช่น เธอเห็นทุกคำในหนังสือต้าฝ่าเปล่งประกายราวกับทองคำ เนื่องจากภรรยาของผมฝึกต้าฝ่า เธอจึงหายจากโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
ผมเข้าร่วมกองทัพและร่วมรบในสงครามเกาหลี ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาของ การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผมเห็นการรณรงค์ประทุษร้ายที่โหดร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซ้ำแล้วซ้ำอีก การรณรงค์ที่น่าสยดสยองเหล่านั้นก่อเกิดเป็นเงามืดที่ตามหลอนในใจของผม และผมตกตะลึงจนตัวแข็งในช่วงการรณรงค์แต่ละครั้ง
พรรคคอมมิวนิสต์จีนและอดีตผู้นำเจียงเจ๋อหมินเริ่มการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าในเดือนกรกฎาคม 1999 ในขณะนั้นพวกเขาสร้างเรื่องโกหกครอบคลุมไปทั่วประเทศ บริษัทที่ผมทำงานรู้ว่าผมฝึกต้าฝ่า บริษัทขอให้ผมซึ่งเป็นคนที่อายุ 70 กว่าปี กล่าวคำแถลงต่อสาธารณะในที่ประชุมพรรค
ผมมีชีวิตอยู่ในทุกการรณรงค์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ประทุษร้ายประชาชนของตัวเอง ผมรู้ว่าการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าจะรุนแรงมาก และผมรู้สึกกดดันมากอยู่ข้างใน แต่ในฐานะคนที่ได้รับประโยชน์จากต้าฝ่า ผมรู้ว่าคนธรรมดาสามัญจำนวนมากถูกหลอกด้วยการโฆษณาชวนเชื่อที่แต่งเรื่องขึ้นมา ดังนั้นผมต้องก้าวออกมาและปกป้องต้าฝ่า
ในที่ประชุมของพรรค ผมถือหนังสือจ้วนฝ่าหลุนไว้ในมือและพูดว่า “หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์โดยโรงพิมพ์โทรทัศน์และวิทยุแห่งประเทศจีน คุณเอาจ้วนฝ่าหลุนกลับบ้านเพื่ออ่านได้นะ สิ่งที่มีอยู่ในหนังสือทั้งหมดคือการสอนคนให้เป็นคนดี สอนให้ทำอย่างไรที่จะไม่สู้กลับเมื่อถูกตี และไม่ด่าว่ากลับเมื่อถูกด่าว่า คุณรู้ไหม หลังจากที่ผมเริ่มฝึก ผมกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีก และไม่ต้องฉีดยาหรือใช้ยาอีกเลย นั่นผิดตรงไหนหรือ”
ตามที่คาดไว้ พวกเขาไม่กี่คนตัดสินใจนำจ้วนฝ่าหลุนกลับบ้านไปอ่าน เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งขอให้ผมสอนท่าฝึกให้เขา เพื่อนร่วมงานที่อ่านจ้วนฝ่าหลุนบอกผมว่า “หนังสือเล่มนั้นไม่มีอะไรที่ไม่ดี”
ท่ามกลางการเคลื่อนไหวเพื่อ “ลาออกจากจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน” ผมพยายามปลุกมโนธรรมของพวกเขา และพวกเขาทุกคนตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ลูกสาวของผมเป็นผู้ฝึกที่แน่วแน่คนหนึ่ง เนื่องจากเธอแจกเอกสารอธิบายความจริง เธอจึงถูกนำตัวไปที่ค่ายบังคับใช้แรงงานในปี 2001 ผมกับภรรยาไปที่ค่ายเพื่อเยี่ยมเธอตามสิทธิ์ที่เรามี แต่เจ้าหน้าที่ที่ค่ายกักกันแรงงานบอกว่า เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมเพราะพวกเราเป็นผู้ฝึก แม้เราจะเป็นพ่อแม่ของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะลูกสาวของเราปฏิเสธที่จะ "แปรเปลี่ยน"
ตอนนั้นผมรู้สึกกลัว จึงระงับความโกรธเอาไว้และไม่กล้าพูดออกไป เนื่องจากภรรยาของผมกังวลว่าลูกสาวของเราจะถูกทรมาน เธอจึงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ทางเข้าค่ายแรงงานและตะโกนเรียกลูกสาวของเรา
ในเดือนกันยายน 2003 คนจากสำนักงาน 610 ในพื้นที่ของเราได้เปิดศูนย์ล้างสมองในโรงเรียนตำรวจแถวชานเมืองเพื่อประทุษร้ายผู้ฝึก ลูกสาวของผมปฏิเสธที่จะไปที่นั่น บุคคลนิรนามหลายคนบุกเข้ามาที่บ้านของเราและอุ้มเธอไปศูนย์ล้างสมองและทรมานเธอ เธอต่อต้านตลอดทาง นี่ทำให้ผมตกตะลึงจนตัวแข็ง จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ผมรู้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนโหดร้ายแค่ไหน แต่ผมก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ ภรรยาของผมต่อว่าพวกเขาว่าทำเกินกว่าเหตุ
ต่อมาลูกสาวของผมหาทางหลบหนีออกมาจากศูนย์ล้างสมองได้ด้วยความคิดถูกต้อง เธอกลับมาบ้านหลังจากย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเป็นเวลาครึ่งเดือน แม้ว่าผมจะยังกลัวอยู่ แต่ผมยังอ่านฝ่าและฝึกท่ามากขึ้น และผมมีความคิดถูกต้องแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น และความกลัวของผมก็ลดลง ต่อมาเมื่อตำรวจสั่งให้ผมเซ็นเอกสารเพื่อรับประกันว่าลูกสาวของผมจะไม่ไปปักกิ่งเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐบาล ผมพูดว่า “เมื่อคนคนหนึ่งอายุครบ 18 ปี พวกเขาก็เป็นอิสระ ผมไม่สามารถเซ็นเอกสารรับประกันในนามของเธอได้ !”
ในปี 2005 เนื่องจากลูกสาวของผมมีเครื่องรางอธิบายความจริงไม่กี่อันอยู่ในกระเป๋าเป้ของเธอ เธอจึงถูกจับและถูกเอาตัวไปที่ค่ายบังคับใช้แรงงาน เมื่อผมไปเยี่ยมเธอที่นั่น ผู้คุมขอให้ผมช่วยพวกเขา "แปรเปลี่ยน" เธอ คราวนี้ผมปล่อยวางความหวาดกลัวได้และพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ผู้คนมีปณิธานของตัวเอง เธอทำงานของเธอได้ดี แต่คุณประทุษร้ายเธอและพาเธอมาที่นี่ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด”
ภรรยาและผมไปที่เมืองเซินเจิ้นเพื่อเยี่ยมลูกชายในปี 2009 เราบังเอิญพบนักศึกษามหาวิทยาลัยบนรถไฟ 8 คนและเราคุยกันถูกคอ พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับเราและดูแลเราอย่างดี ผมและภรรยาใช้โอกาสนี้อธิบายความจริงกับพวกเขาและช่วยพวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน พวกเขาทั้งหมดลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรยุวชนด้วยชื่อจริงของพวกเขา
ลูกสาวของผมถูกจับอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2015 ระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ห้องพิจารณาคดีเต็มไปด้วยคนจากสำนักงาน 610 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่า เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจากฝ่ายความมั่นคงภายในประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล รถตู้ขนาดใหญ่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดสีดำประจำการอยู่ที่ทางเข้าศาล
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าหวาดกลัวนี้ ผมนึกถึงสิ่งที่ท่านอาจารย์กล่าว :
“ท่านกลัว มันก็จับ
เมื่อความคิดถูกต้อง สิ่งชั่วร้ายพังทลาย
ผู้บำเพ็ญ บรรจุด้วยฝ่า
ฟาเจิ้งเนี่ยน ผีเน่าเปื่อยระเบิด
เทพอยู่บนโลก ยืนยันความจริงให้ฝ่า”
(“กลัวอะไร” หงอิ๋น 2)
ผมพูดกับประธานผู้พิพากษาด้วยกิริยาที่สงบและสำรวมว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าเยี่ยมยอด ! ท่านอาจารย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม ! เจียง เจ๋อหมิน ชั่วร้ายเพราะเขาประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่า”
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2015 ผมไม่เพียงส่งคำร้องทุกข์ทางอาญาต่อเจียง เจ๋อหมินทางไปรษณีย์ไปที่อัยการสูงสุดและศาลฎีกาเท่านั้น แต่ผมทำในนามของลูกสาวที่ยังคงถูกกักขังอยู่ด้วย ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจก็มาหาผมเพื่อตรวจสอบ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามว่าผมเป็นคนเขียนหรือเปล่า ผมบอกเขาว่า “ใช่ ผมเอง ผมเซ็นเองด้วย” เมื่อไม่พบหลักฐานที่จะตั้งข้อกล่าวหาผม พวกเขาก็กลับไป ผมมักจะแสดงใบเสร็จรับเงินที่ไปรษณีย์ให้มาตอนที่ผมส่งเรื่องร้องทุกข์ทางไปรษณีย์ไปให้กับคนที่ผมรู้จักด้วย และส่งให้หัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านในบ้านเกิดของผมด้วย
ผมไปเรือนจำหญิงระดับมณฑลเพื่อเยี่ยมลูกสาวในปี 2016 ผู้คุมบอกว่าเนื่องจากเธอไม่ยอม "แปรเปลี่ยน" พวกเขาจึงไม่อนุญาตให้ผมพบเธอ ผมบอกพวกเขาว่า “บอกให้คนที่ไม่ยอมให้ผมเยี่ยมเธอมาพบผมหน่อย” ผู้คุมคนหนึ่งคัดค้านโดยพูดว่า “ถ้าเขาไม่ยอมมาล่ะ” ผมไม่ยอมอ่อนข้อและพูดเสียงดังว่า “ถ้าเขาไม่มาหาผม ผมจะไปหาเขาเอง” จากนั้นพวกเขาก็ยอมให้ผมพบลูกสาว เมื่อผู้คุมถามว่าทำไมผมจึงฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย ผมตอบไปว่า “การฝึกทำให้สุขภาพของผมกลับมาดีเหมือนเดิมและทำให้ศีลธรรมของผมดีขึ้นด้วย แถมพวกเขาไม่คิดค่าเรียนแม้แต่หยวนเดียว”
เมื่อเริ่มครึ่งหลังของปี 2018 ผมกับลูกสาวใช้ประโยชน์ของการเดินทางด้วยรถสาธารณะโดยการอธิบายความจริงให้กับผู้โดยสาร เพราะว่าผมมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจากการฝึกต้าฝ่า ผมมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง ดังนั้นผมจึงใช้ตัวเองยืนยันความถูกต้องให้ต้าฝ่า ผมบอกว่าแม้จะอายุมากแล้วแต่ยังมีสุขภาพดี และผมไม่ได้กินยาใด ๆ เลยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ผมยังพูดถึงสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการฟ้องร้องเจียง เจ๋อหมิน ซึ่งเป็นผู้ประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่า กับสำนักงานอัยการสูงสุดและศาลฎีกาตามกฎหมาย ผมยังบอกให้ผู้โดยสารเหล่านี้จำและท่องวลี “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง – ความเมตตา - ความอดทน ดี” จากนั้นลูกสาวของผมก็ช่วยให้พวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน
บางครั้งเราแยกกันอธิบายความจริงให้คนละคนฟัง และทุกคนบนรถประจำทางก็ฟังเรา บางครั้งผู้โดยสารที่เคยมีคนบอกความจริงให้ทราบแล้วก็ช่วยเราปลุกมโนธรรมคนอื่น เกิดขึ้นเช่นนี้ค่อนข้างบ่อย แน่นอนเราเจอคนที่รบกวนเราและพยายามใส่ร้ายเราด้วย กรณีนี้เราจะฟาเจิ้งเนี่ยนเพื่อขจัดการรบกวนดังกล่าว
หลังเวลา 20.00 น. ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2019 จู่ ๆ ผมก็มีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ผมเริ่มอาเจียน และความดันโลหิตสูงถึง 190 ปากเบี้ยว เปลือกตาซ้ายตก ผมเวียนหัว และด้านซ้ายของร่างกายของผมไม่ตอบสนอง ผมท่องซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างรวดเร็วว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ยอดเยี่ยม ! ขอแสดงความเคารพท่านอาจารย์” ต่อมาอาการวิงเวียนศีรษะก็หายไป ผมลุกขึ้นนั่ง และเริ่มอ่านฝ่ากับลูกสาว เธออ่านประโยคหนึ่งแล้วผมอ่านประโยคถัดไป เราใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง กว่าจะอ่านจ้วนฝ่าหลุน บทที่ 1 จบ แล้วผมจึงรู้ตัวว่าปากของผมกลับมาเป็นปกติแล้ว อาการอื่นทั้งหมดก็กลับมาปกติเช่นกัน ต้าฝ่าช่างอัศจรรย์จริง ๆ ผมตื่นเต้นมากและรู้ว่าท่านอาจารย์ช่วยผม
หลังจากนั้นผมเริ่มค้นหาจากภายในและพบช่องโหว่ของผม ในช่วงตรุษจีนผมย่อหย่อนในการศึกษาฝ่า ฝึกท่า และฟาเจิ้งเนี่ยน ผมเริ่มดูทีวีเหมือนคนธรรมดาสามัญ ผมแก้ไขตัวเอง ศึกษาฝ่า ฝึกท่า และฟาเจิ้งเนี่ยนทุกวัน ด้วยเหตุนี้ภาพลวงตาของโรคจากกรรมอื่น ๆ ก็หายไปหลังจากนั้นไม่นาน ต่อมาผมใช้ประสบการณ์นี้เพื่ออธิบายความจริง และยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่ากับทุกคนที่ผมเจอ
ในช่วงต้นปี 2020 ที่มีการระบาดของไวรัส CCP (หรือที่รู้จักในชื่อไวรัสโคโรนา) คำสั่งให้อยู่ในบ้านมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกนอกเขตที่พักอาศัยของตัวเอง ผมจึงออกไปข้างนอกเพื่อปลุกมโนธรรมให้ผู้คนไม่ได้ และผมรู้สึกกังวลมาก วันหนึ่งผมเห็นโทรทัศน์ NTD ออกอากาศว่า “ถ้าใครท่อง 'ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ยอดเยี่ยม ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม !' คนนั้นจะได้รับรองความปลอดภัย” ผมโทรหาญาติและบอกพวกเขาว่า “โปรดจำว่า 'ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน ยอดเยี่ยม ! ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม !' แล้วคุณจะมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัย” หลังจากที่ผมพูดเช่นนี้ไม่กี่ครั้ง ผมจะขอให้ลูกสาวอธิบายรายละเอียดทั้งหมด ดังนั้นระหว่างการระบาดใหญ่ ผมได้ติดต่อญาติทุกคนเพื่ออธิบายความจริง
นอกจากนี้ เมื่อผมเจอคนที่ผมรู้จัก ตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและคนในฝ่ายบริหารชุมชนจนถึงเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจท้องถิ่น ผมบอกพวกเขาว่า “ถ้าคุณจำว่า ความจริง – ความเมตตา - ความอดทน ยอดเยี่ยม ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม !” คุณจะมั่นใจในความปลอดภัยของคุณได้” พวกเขาหลายคนตอบอย่างรวดเร็วว่า “แน่นอน !” บางคนก็พูดว่า “ขอบคุณ !”
เนื่องจากการแพร่ระบาดใหญ่ยังไม่ลดลง เว็บไซต์หมิงฮุ่ยได้เผยแพร่ข้อความเพื่อเตือนผู้ฝึกในประเทศจีนให้ช่วยเหลือสรรพชีวิต ดังนั้นผมจึงตัดสินใจไปที่บ้านเกิดเพื่ออธิบายความจริงและช่วยเหลือสรรพชีวิต ผมยังวางแผนจะอยู่ที่นั่นนานขึ้นเพื่อจะได้ช่วยผู้คนมากยิ่งขึ้น
ปีนี้หลังเทศกาลเรือมังกร ลูกชายของผมพาลูกสาวของผมและผมไปที่บ้านเกิดของเราในชนบท หลานชายของผม (ลูกชายของพี่ชายคนโต) และพี่ชายคนที่สองของผมเป็นคนสร้างบ้านที่บ้านเกิดหลังนี้ เนื่องจากพี่ชายคนที่สองของผมไม่มีลูกชาย ผมจึงยกลูกชายของผมให้กับเขา และลูกชายของผมก็กลายเป็นลูกเลี้ยงของเขา แต่พี่ชายคนที่สองของผมไม่เคยอุปการะลูกเลี้ยงเลย ดังนั้นเขาจึงบอกว่าจะยกห้องบนชั้นสองให้กับลูกเลี้ยง
ต่อมาหลานชายของผมสร้างบ้านใหม่ เขาขายบ้านหลังแรกโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากผม เมื่อผมถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ภรรยาของเขาบอกว่า ถ้าผมอยากได้บ้าน ผมก็ต้องซื้อคืนเอาเอง ผมไม่ได้อารมณ์เสีย ได้แต่จำสิ่งที่ท่านอาจารย์กล่าว
“ยึดติดในเงินตรา คือแสวงหาเงินทอง บำเพ็ญปลอม ทำลายศาสนา ทำลายฝ่า เสียเวลาไปร้อยปี ไม่ใช่บำเพ็ญพระพุทธ” (“ผู้บำเพ็ญควรละเว้น” ฝ่าหลุนต้าฝ่า จิงจิ้นเหย้าจื่อ)
ผมจ่ายเงินประมาณ 50,000 หยวน เพื่อซื้อบ้านหลังนี้กลับคืนมา
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2020 เมื่อลูกสาวของผมออกไปอธิบายความจริง เธอได้พบกับตำรวจนอกเครื่องแบบ เขาจับกุมเธอ เธอตะโกนว่า “ท่านอาจารย์ โปรดช่วยฉันด้วย !” จากนั้นเธอก็พูดเรื่อย ๆ ว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม ! ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม ! คนชั่วกำลังจับคนดี !” หลังจากที่เธอถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจ เธอปฏิเสธที่จะบอกชื่อของเธอ แต่กลับพยายามปลุกมโนธรรมของพวกเขา หลังจากนั้นไม่นานทัศนคติของเจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ขณะนั้นมีคนจากหมู่บ้านของเราเข้าไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำธุระ เมื่อเขาเห็นลูกสาวผม เขาก็ทักทายเธอ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงรู้ว่าลูกสาวของผมอาศัยอยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่ 3 คน ขับรถพาเธอกลับไปที่หมู่บ้าน ทันทีที่พวกเขาลงจากรถ พวกเขาก็พบกับหัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามเขาว่า “เธอเคยคุยกับคุณเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือเปล่า” หัวหน้าหมู่บ้านตอบว่า “เคย นิดหน่อย”
ผมอยู่ที่ประตูหน้าบ้านของเราและตะโกนว่า “พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ พวกคุณชื่ออะไร แสดงบัตรประจำตัวของพวกคุณด้วย พวกคุณกำลังทำการจับกุมที่ผิดกฎหมาย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดว่า “นี่ผิดกฎหมายอย่างไร เรามีหลักฐานวิดีโอ” ผมคัดค้านเขาว่า “ถ้าไม่ใช่การจับกุมที่ผิดกฎหมาย ทำไมเธอจึงยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ อย่าเอาตัวลูกสาวของผมไป !” ลูกสาวของผมพยายามต่อต้านพวกเขาอย่างเต็มที่และพูดว่า “พวกคุณกำลังลักพาตัวฉัน ! ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม !” ในที่สุดพวกเขาทั้งสามคนต้องช่วยกันลากเธอกลับไปที่รถตำรวจ
ที่สถานีตำรวจ พวกเขาทั้งสามคนให้ลูกสาวของผมนั่งรออยู่ในสำนักงานคนเดียว ในขณะที่พวกเขาไปที่สำนักงานอื่น ไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถานีก็เข้าไปและถามพวกเขาว่า “พวกคุณยังไม่ได้ปล่อยเธอหรือ”
พวกเขาพาลูกสาวของผมไปที่ห้องว่างห้องหนึ่งและพูดว่า “เราจะปล่อยคุณไป แต่คุณต้องไม่พูดว่าคุณมาอยู่ที่สถานีตำรวจของเรา พวกเราจะคืนโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินของคุณ แต่เราจะส่งธนบัตรเหล่านี้ที่มีข้อความของฝ่าหลุนกงไปที่ธนาคาร” ลูกสาวของผมพูดว่า “ได้โปรดอย่าทำ ฉันจะยกธนบัตรเหล่านี้ให้พวกคุณไว้ใช้จ่าย มันแค่ 200 หยวนเท่านั้น” เมื่อเธอออกจากสถานี เธอพูดกับพวกเขาว่า “ได้โปรดปฏิบัติต่อผู้ฝึกให้ดี แล้วคุณจะได้รับประโยชน์ เพียงแค่รู้ว่าต้าฝ่าดี คุณก็จะมีอนาคตที่ดี”
จากประสบการณ์นี้ ลูกสาวของผมและผมจึงเข้าใจสิ่งที่อาจารย์กล่าว :
“...ตี้จื่อความคิดถูกต้องเพียงพอ อาจารย์มีกำลังหันสวรรค์กลับมา”
(“บุญคุณระหว่างอาจารย์และศิษย์” หงอิ๋น 2)”
ในช่วงเวลาวิกฤติดังกล่าว เราต้องรักษาความคิดถูกต้องให้มั่นคง และขอความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์สามารถดูแลเราและขจัดการประทุษร้ายได้
ผมอยากพูดถึงชายชราคนหนึ่งที่ผมอธิบายความจริงให้นานมาแล้วและช่วยให้เขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผมยังนำหนังสือจ้วนฝ่าหลุนมามอบให้เขาในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 90 ของเขาในวันที่ 5 มกราคมของปีนี้ด้วย เขารับหนังสือจากผมด้วยมือทั้งสองข้างและพูดว่า“ขอบคุณ ! โปรดสาธิตท่าฝึกให้ผมดูเมื่อคุณมีเวลาด้วยนะ”
เมื่อผมฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 90 ของผมในหมู่บ้าน ผมจ่ายเงิน 13,000 กว่าหยวน เพื่อจัดงานเลี้ยงโดยมีโต๊ะอาหาร 20 โต๊ะ ผมเชิญชาวบ้านทุกคน รวมทั้งญาติ และเพื่อน ๆ ผมไม่รับของขวัญ แต่ได้บริจาคเงินหลายพันหยวนให้กับหมู่บ้านเพื่อช่วยสร้างถนน ทุกคนชมเชยผมและบอกว่าผมเป็นคนดี
ผมทำสิ่งที่ดีเหล่านี้ไม่เพียงเพื่อชื่อเสียงที่ดีของตัวผมเองเท่านั้น แต่เพราะผมได้เรียนรู้จากคำสอนของท่านอาจารย์ :
“พวกท่าน การกระทำของผู้บำเพ็ญนั้นต้องบริสุทธิ์ถูกต้อง มีคนจำนวนมากที่เห็นการกระทำของพวกท่านแล้วรู้สึกพวกท่านเป็นคนดี ถ้าหากในเวลาปกติตัวพวกเราเองไม่ระวังความประพฤติของตัวเอง คนธรรมดาสามัญก็จะมองเห็นการกระทำของพวกท่าน เขาไม่สามารถจะเข้าใจท่านในระดับลึก เหมือนเช่นได้ศึกษาฝ่า เขาก็จะมองที่การกระทำของท่าน เป็นไปได้ว่าคำพูดของท่านประโยคหนึ่ง การกระทำหนึ่งอย่าง สามารถจะทำให้เขาไม่ได้รับการช่วยเหลือ สามารถจะสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีต่อต้าฝ่า พวกเราต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้” (“บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยเมืองบอสตัน ปี 2002” รวมการบรรยายธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ 2)
ดังนั้นผมจึงเห็นว่าการยืนยันความงดงามของต้าฝ่าในทุกสิ่งที่ผมทำเป็นหน้าที่และเป็นภารกิจที่ศักดิ์สิทธิ์ของผมด้วย
แม้ว่าผมจะอายุ 90 ปีแล้ว ผมก็ยังสามารถฝึกท่าทั้ง 5 ชุดในคราวเดียวกันได้ และนั่งขัดสมาธิเพชรได้นานกว่า 100 นาที เมื่อผมอ่านหนังสือของต้าฝ่า บรรทัดที่ผมอ่านอยู่จะขยายใหญ่และชัดเจนมาก ผมจึงไม่จำเป็นต้องใช้แว่นอ่านหนังสือ ผมรู้ว่าสำหรับผมแล้วการได้พบกับท่านอาจารย์ที่วิเศษที่สุดที่ได้มอบต้าฝ่าให้ผม และการที่ผมได้อ่านคัมภีร์สวรรค์ ผมโชคดีอย่างที่สุด
ผมยังได้ปล่อยวางความกลัวของตัวเองทั้งหมดแล้ว ท่านอาจารย์กล่าวว่า
“รากของข้าพเจ้าหยั่งลึกในจักรวาล ใครที่สามารถแตะต้องคุณได้ ก็สามารถแตะต้องข้าพเจ้าได้ พูดให้ชัดเขาก็สามารถแตะต้องจักรวาลนี้ได้” (บทที่ 1 จ้วนฝ่าหลุน)
ผมเพียงต้องเชื่อในท่านอาจารย์และต้าฝ่า และปล่อยทุกอย่างให้ท่านอาจารย์
จากนี้ไป ผมจะมุ่งมั่นไปข้างหน้าอย่างแข็งขัน ปล่อยวางความยึดติดทั้งหมด ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า และช่วยเหลือสรรพชีวิตให้มากยิ่งขึ้น ผมจะเดินบนเส้นทางการบำเพ็ญของผมโดยมีท่านอาจารย์คุ้มครองด้วยความเมตตา ผมจะแน่วแน่ยิ่งขึ้นและขยันขันแข็งยิ่งขึ้นเพื่อให้เส้นทางนี้กว้างขึ้นและกว้างขึ้น !
บทความ กราฟิก และเนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บน Minghui.org มีลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ทำสำเนาที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้ แต่ต้องระบุแหล่งที่มาพร้อมชื่อบทความและลิงก์ไปยังบทความต้นฉบับ