(Minghui.org) การมีสุขภาพที่ดีคือสิ่งที่ผู้คนใฝ่ฝันตลอดมา แต่ถึงแม้วิทยาศาสตร์การแพทย์จะเจริญก้าวหน้าและมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ หลายโรคยังคงรักษาไม่ได้ ปล่อยให้เราเจ็บปวด และบางครั้งก็สิ้นหวัง
แต่มีข้อยกเว้นประการหนึ่ง ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา คนจำนวนมากหายจากโรคที่รักษายากหรือโรคระยะสุดท้ายด้วยการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือที่เรียกกันว่าฝ่าหลุนกงซึ่งเป็นการฝึกจิตใจและร่างกาย การอ่านหนังสือจ้วนฝ่าหลุนช่วยให้ผู้ฝึกดำเนินชีวิตตามหลักการของฝ่าหลุนต้าฝ่าคือ ความจริง – ความเมตตา - ความอดทน ผู้ฝึกเหล่านี้มีค่านิยมทางจริยธรรมสูงขึ้นด้วย
อาจารย์หลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่าได้รับเชิญจากสมาคมวิจัยวิทยาศาสตร์ชี่กงแห่งประเทศจีนให้ไปบรรยายรวม 54 ครั้ง ในเมืองต่าง ๆ 23 เมืองทั่วประเทศจีน ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม 1992 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 1994 และมีผู้เข้าฟังการบรรยายทั้งหมดมากกว่า 60,000 คน พยานที่เห็นเหตุการณ์หวนนึกถึงปาฏิหาริย์มากมายที่เกิดขึ้นระหว่างการบรรยายเหล่านั้น
หลี่ เฟิ่งหมิง เป็นวิศวกรอาวุโสวัย 67 ปี เขาทนทุกข์ทรมานกับผลที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมองเป็นเวลา 4 ปี ในระหว่างการบรรยายครั้งที่ 7 ในเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน เขาเดินได้ด้วยตัวเองและไม่ต้องใช้ไม้ยันรักแร้อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแบบทันทีทันใด ทำให้เขาซึ้งใจจนน้ำตาไหลปนเสียงหัวเราะ หลายคนที่นั่นเห็นปาฏิหาริย์นี้ ภรรยาของเขาเขียนจดหมายถึงอาจารย์หลี่หงจื้อในเย็นวันนั้นเพื่อขอบพระคุณท่านอาจารย์ในนามของทุกคนในครอบครัว
หลี่ เฟิ่งหมิง
จดหมายที่ภรรยาของหลี่ เฟิ่งหมิงเขียนถึงอาจารย์หลี่หงจื้อ
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอีกคนหนึ่งอยู่ในวัย 50 ปี วันนั้นเขาใส่เครื่องแบบพนักงานรถไฟ เขาหายดี ณ สถานที่จัดงานนี้เช่นกัน เขาเดินไปหาอาจารย์หลี่หงจื้อทั้งน้ำตาและโค้งคำนับอาจารย์ เขาหยิบไม้ยันรักแร้แล้วเดินออกไปนอกหอประชุมและหักมันบนทางเท้า เขาพูดว่า “ในที่สุดผมก็ไม่ต้องการมันอีกแล้ว”
ชายที่แต่งเครื่องแบบพนักงานรถไฟยืนขึ้นและเดินด้วยตัวเอง
มีตัวอย่างเช่นนี้นับไม่ถ้วนระหว่างการบรรยายต่าง ๆ คนจำนวนมากเห็นตัวอย่างเหล่านี้และรู้สึกประทับใจว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าวิเศษเหลือเกิน นี่จูงใจให้พวกเขาเข้ามาฝึก ทั้งเพื่อให้สุขภาพดีขึ้นและเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้นตามที่อาจารย์หลี่หงจื้ออธิบายในการบรรยาย
ผู้เชี่ยวชาญ: ฟื้นคืนสุขภาพและความหวังใหม่
กวน กุ้ยหมิน เป็นหนึ่งในนักร้องอุปรากรระดับเสียงสูงที่โด่งดังที่สุดในประเทศจีน เขาได้รับขนานนามว่าเป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมระดับประเทศจากกระทรวงวัฒนธรรมของประเทศจีน เขามีเสียงที่ไพเราะมากและร้องเพลงในภาพยนตร์มากกว่า 50 เรื่อง
แต่ในปี 1983 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในอาชีพการงานของเขา กวนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีและโรคตับแข็งในระยะแรก เขาไปพบแพทย์หลายสาขา และเที่ยวหาการรักษาทางการแพทย์ทุกชนิด รวมทั้งชี่กงแขนงต่าง ๆ แต่ไม่มีใครช่วยเขาได้เลย กวนหวนคิด “ชีวิตช่างทุกข์ยากจริง ๆ” “แม้ผมจะอายุเพียง 39 ปี แต่ก็เหนื่อยง่าย เวลาไปสวนสัตว์กับภรรยาและลูกชาย ผมต้องหยุดพักเพราะความเหนื่อยล้า และนอนบนพื้นหญ้าเป็นระยะๆ เพื่อให้มีแรง” เขาบอกว่ามันยากมากที่คนที่ไม่เจ็บป่วยจะนึกออกว่ามันทุกข์ทรมานอย่างไร
ในฤดูใบไม้ผลิของปี 1996 กวนเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ภายในสองปีเขาก็หายจากความเจ็บไข้ทั้งหมด “การมีสุขภาพที่ดีคือความฝันของผม ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าการปราศจากโรคหมายถึงอะไร” เขาอธิบาย
กวน กุ้ยหมิน
อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐกิจและการค้า
จาง อี้เจี๋ย เป็นนักการทูตชาวจีนในโรมาเนียในช่วงทศวรรษ 1980 ต่อมาเธอกลับ ไปประเทศจีนและทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการของสำนักงานทั่วไปในกระทรวงเศรษฐกิจและการค้า
จางผ่านการรณรงค์ทางการเมืองและการล้างสมองหลายครั้งโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน จางบอกว่าเธอไม่ใช่คนที่ยอมรับแนวคิดใหม่ ๆ ได้ง่ายๆ แต่เธอก็แสวงหาจุดมุ่งหมายในชีวิตเรื่อยมา
หลังจากเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในช่วงปลายปี 1994 เธอก็ได้รับคำตอบที่เคยถามตัวเองเกี่ยวกับชีวิต เธอหายจากโรคภัยไข้เจ็บและทำงานมีประสิทธิผลมากขึ้น ด้วยใจที่สงบและเมตตา เธอรู้สึกว่าชีวิตง่ายขึ้นมาก เธอพูดเสริมว่า “ฉันไม่เคยรู้ว่าเราจะอยู่อย่างผ่อนคลายและสบายใจเช่นนี้ได้”
จาง อี้เจี๋ย
แพทย์ที่ไม่รักษาตัวเองไม่ได้
นายแพทย์วัง จื้อหย่วน เป็นแพทย์มา 25 ปี รวมทั้งที่โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด (Harvard Medical School) ด้วย แม้เขาจะรักษาผู้ป่วยจำนวนมากมาแล้ว แต่เขาก็รักษาตัวเองไม่ได้ เป็นฝ่าหลุนต้าฝ่าที่รักษาโรคให้เขาได้
ย้อนกลับไปเมื่อเขาอยู่ที่ประเทศจีน นายแพทย์วังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากไขสันหลังเสื่อมชนิดลุกลาม แพทย์บอกว่ากล้ามเนื้อจะอ่อนแรงและหดตัว และเขาจะมีปัญหาในการควบคุมศีรษะ สุดท้ายเขาจะกลืนอาหารและหายใจลำบากมากซึ่งจะลงท้ายด้วยการเสียชีวิต
แม้รู้ว่าอาการของเขารักษาไม่หาย แต่นายแพทย์วังก็ไม่ยอมแพ้ เขาลองทั้งยาจีนและยาทางตะวันตก แต่ก็ไม่ช่วยเลย ภายในสามเดือน น้ำหนักของเขาลดจาก 75 กิโลกรัม (165 ปอนด์) เหลือ 58 กิโลกรัม (130 ปอนด์) เขาเวียนศีรษะเพราะความเหนื่อยล้าแค่ขึ้นบันไดเพียงชั้นเดียวเท่านั้น และเขาต้องนั่งรถทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เขาจำบ้านเลขที่ของตัวเองไม่ได้เพราะความจำเสื่อมอย่างรุนแรง ในที่สุดเขาก็ออกจากประเทศจีนและไปสหรัฐอเมริกาโดยหวังว่าจะหาทางรักษาได้ ก่อนจากประเทศจีน เขากับเพื่อนสัญญากันว่าจะบอกกันและกันถ้าคนใดคนหนึ่งพบวิธีพิเศษที่ทำให้ตัวเองดีขึ้นที่อาจช่วยรักษาโรคของเขาได้
แม้แต่ที่ฮาร์วาร์ดซึ่งเป็นหนึ่งในสถานรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก นายแพทย์วังก็ไม่พบวิธีรักษาที่นั่น ขณะที่เขาจวนจะสิ้นหวัง ก็มีเพื่อนที่อยู่ในประเทศจีนคนหนึ่งแนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่าให้เขา เขาได้เข้าเวิร์กช็อป 9 วัน เพื่อดูการบรรยายของอาจารย์หลี่ที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT)
หลังจากเข้าเวิร์กช็อปในวันแรก นายแพทย์วังรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและผ่อนคลาย ในวันที่สี่และวันที่ห้า ปัญหาเรื่องกระเพาะและอาการไม่สบายทั้งหมดก็หายไป “ทุกวัน ผมถูกโอบล้อมด้วยกระแสที่อบอุ่นและรู้สึกสบายมาก” เขาอธิบาย
ในช่วงสามเดือนต่อมา ผลการทดสอบทั้งหมดจากการตรวจร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติ รวมทั้งน้ำหนัก ความจำ และฮีโมโกลบิน เขารู้สึกว่าตัวเองมีพลังงานมากกว่าเดิมด้วย นายแพทย์วังให้สัมภาษณ์กับ The Boston Globe ว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าทำให้เรามีจิตใจแจ่มใสและมีสุขภาพที่ดีขึ้น” “ผมขอแนะนำอย่างยิ่ง”
นายแพทย์วัง จื้อหย่วน
ปล่อยวางนิสัยที่ไม่ดี
จากการสำรวจสุขภาพที่รวบรวมโดยผู้ฝึกในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ 99.5% ของผู้ฝึกละทิ้งนิสัยที่ไม่ดีรวมทั้งการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือเล่นการพนัน กรณีเช่นนี้รวมผู้ฝึกนอกประเทศจีนด้วย
สตีฟเป็นวิศวกรการรถไฟที่ทำงานในบอสตัน หลังจากเสพยาเมื่ออายุ 15 ปี เขาก็ติดยาเสพติด เขาพยายามเลิกนับครั้งไม่ถ้วนแต่ทำไม่ได้ ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือลูกชายคนสุดท้องของเขาติดยาตั้งแต่อายุยังน้อย โรเบอร์ตาซึ่งเป็นภรรยาของสตีฟ ทำงานที่ศูนย์บำบัดยาเสพติด เธอรู้สึกอึดอัดและสิ้นหวัง แต่ขณะที่ครอบครัวกำลังจะแตกสลายก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
วันหนึ่งสตีฟบอกภรรยาของเขาว่าเขาได้อ่านบทความออนไลน์เกี่ยวกับการฝึกสมาธิที่เรียกว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าซึ่งถูกประทุษร้ายอยู่ในประเทศจีน ทั้งคู่คุยกันเรื่องนี้อยู่นานแล้วสตีฟก็เริ่มฝึก น่าประหลาดใจที่ไม่นานเขาก็เลิกเสพยา เขาอธิบายว่า “หลักการ ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน ทรงพลังมาก”
ไม่นานหลังจากนั้น ลูกชายคนเล็กของเขาก็เริ่มฝึก ลูกของเขาไม่เพียงแต่เลิกเสพยาเท่านั้น กิริยามารยาทของเขาก็ดีขึ้นอย่างมากด้วย สตีฟบอกว่า “เขาไม่พูดคำหยาบคายแล้ว เลิกสูบบุหรี่ และเลิกขโมยด้วย”
“การติดยาของสามีทำให้ฉันเสียใจมาก และในฐานะแม่ พอเห็นลูกชายใช้ชีวิตแบบนั้น ทำให้ฉันใจสลาย” โรเบอร์ตาพูด “ฉันรู้สึกขอบพระคุณอาจารย์หลี่มากที่มอบฝ่าหลุนต้าฝ่าให้กับพวกเรา”
สตีฟพูดว่าเขามีความปรารถนา : “ผมหวังว่าผู้คนจำนวนมากขึ้นจะได้รู้จักฝ่าหลุนต้าฝ่าและได้รับประโยชน์จากต้าฝ่า โปรดอย่าเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้ทำลายชื่อเสียงของฝ่าหลุนกง โปรดมองดูด้วยตาของท่านเอง แล้วท่านจะพบความจริง”
ช่วยเหลือสังคม
Beijing Daily ตีพิมพ์จดหมายจากผู้อ่านเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธุ์ 1998 ที่สรรเสริญชายชาวปักกิ่งที่บริจาคเงิน 80,000 หยวน ให้กับสถาบันวิจัยด้านวิศวกรรมและเคมีหลานโจว (Lanzhou Chemical and Engineering Research Institute) โดยไม่ประสงค์ออกนาม เขาบริจาค 100,000 หยวนให้กับสถาบันวิจัยจีนเพื่อการพัฒนาและสำรวจปิโตรเลียม (Chinese Research Institute of Petroleum Exploration and Development) ในเมืองหลางฟาง มณฑลหูเป่ย์ เขาเขียนว่า “หลังจากผมเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ผมเรียนรู้ที่จะเป็นพลเมืองดีคนหนึ่ง และทำประโยชน์ให้กับสังคม”
บทความใน Beijing Daily เกี่ยวกับชายชาวปักกิ่งที่บริจาคเงินเพื่อการวิจัย
ระหว่างที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ในปี 1998 อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งทำงานหนักมากในการพยายามช่วยเหลือแม้กลุ่มนี้จะไม่ได้ถูกจัดตั้งอย่างเป็นระบบ เมื่อนักข่าวถามว่าพวกเขาเป็นใคร หนึ่งในนั้นตอบว่า “พวกเราคือผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า” ในรายชื่อของผู้บริจาคที่มอบเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ หลายคนบอกว่าตัวเองเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า
เกา เหวินจื้อ ซึ่งมีอายุ 70 ปีแล้ว เขาเคยเป็นครูในเมืองหูลูเต่า มณฑลเหลียวหนิง เขาเคยทุกข์ทรมานจากโรคตับอักเสบ จมูกอักเสบ หูอักเสบ ปวดหลังส่วนล่าง และมะเร็งสองชนิด แพทย์บอกว่าเขาไม่มีหวังแล้ว และเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
หลังจากที่เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1995 เขาได้ปฏิบัติตามหลักการของ ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน ในการเป็นพลเมืองดี ปัญหาด้านสุขภาพทั้งหมดของเขาหายไปภายในหกเดือนโดยปราศจากการรักษาทางการแพทย์ สุขภาพของเขาดีกว่าตอนที่เขาอายุน้อยกว่านี้ด้วยซ้ำ
แต่เพราะความเชื่อของเขา เกาจึงถูกส่งตัวเข้าคุก เมื่อเขาได้รับการปล่อยตัว เขาถูกบังคับให้อยู่ห่างจากบ้านและอาศัยอยู่ในโรงงานร้างของเพื่อน เมื่อเขาเห็นถนนที่ชำรุดทรุดโทรมซึ่งเต็มไปด้วยหลุมที่พื้นถนน เขาซื้อน้ำมันดินและวัสดุอื่น ๆ ด้วยเงินของตัวเอง หลังจากขนวัสดุมาบนรถสามล้อแล้วเขาก็ซ่อมแซมถนนด้วยตัวเอง โดยไม่ขอเงินจากใคร
เนื่องจากมีถนนอีก 300 เมตร ใกล้กับทางรถไฟซึ่งอยู่ในสภาพย่ำแย่เช่นกัน เกาจึงเที่ยวถามเพื่อขอวัสดุที่เหลือใช้จากคนงานก่อสร้าง หลังจากรวบรวมวัสดุได้พอแล้ว เขาก็เริ่มซ่อมถนนในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนระอุ ชาวบ้านในท้องที่ซึ้งใจกับความใจดีของเขา พวกเขาจึงมอบผักและผลไม้ให้เกาเพื่อเป็นการขอบคุณ
เกาซ่อมถนน 4 สายด้วยความสมัครใจ รวมแล้วยาวกว่า 3,000 เมตร ในเวลา 8 ปี เขาใช้เงินของตัวเองมากกว่า 30,000 หยวนเพื่อซ่อมถนนดังกล่าว แต่คนดีคนนี้ถูกจับอีกครั้งที่บ้านพราะความเชื่อของเขา ในตอนเย็นของวันที่ 23 มิถุนายน 2017 ต่อมาเกาถูกตัดสินจำคุก 4.5 ปี
จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่เพียงช่วยให้สุขภาพร่างกายของผู้ฝึกดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับค่านิยมทางจริยธรรมและเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย คำสอนทั้งหมดและการสอนท่าฝึกดาวน์โหลดได้ที่ falundafa.org โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เราหวังว่าผู้คนจำนวนมากขึ้นจะมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขด้วยการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เช่นเดียวกับที่ผู้ฝึกเหล่านี้ได้รับ
บทความ กราฟิก และเนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บน Minghui.org มีลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ทำสำเนาที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้ แต่ต้องระบุแหล่งที่มาพร้อมชื่อบทความและลิงก์ไปยังบทความต้นฉบับ