(Minghui.org) พี่ชายของฉันและภรรยาของเขาอาศัยอยู่ในเมืองอื่น พวกเขามาเยี่ยม และพักที่บ้านหนึ่งคืนในเดือนธันวาคม 2020 ฉันดีใจที่ได้พบพวกเขา แต่ขณะที่ฉันเก็บที่นอนหลังจากที่พวกเขากลับไปแล้ว ฉันพลัดตกจากเก้าอี้ที่ยืนอยู่
ด้านหลังศีรษะของฉันกระแทกกับมุมของตู้เสื้อผ้า ทำให้เลือดไหลทะลักออกมา ฉันขอความช่วยเหลือ จากท่านอาจารย์ในทันที ฉันคว้ากระดาษทิชชู นั่งลง กดที่แผล แล้วเลือดก็หยุดไหล
เมื่อหลานชายเดินเข้ามา ฉันสวมหมวกเพื่อไม่ให้หลานเห็นเลือด ฉันคิดว่า “ฉันเป็นผู้ฝึก ท่านอาจารย์คอยดูแลฉันอยู่ ฉันจะไม่เป็นไร”
ฉันสงสัยว่าทำไมฉันจึงพลัดตกลงมา ฉันทำอะไรผิดหรือ ฉันตระหนักว่ามันอาจเป็นความรู้สึกผูกพันและห่วงใยที่มีต่อพี่ชาย ฉันไม่อยากให้เขานอนในห้องนั่งเล่น ฉันจึงให้พี่และภรรยานอนในห้องของฉัน ฉันเก็บภาพของท่านอาจารย์และหนังสือฝ่าหลุนต้าฝ่าไว้ในห้องของฉัน การปล่อยให้พี่ชายและภรรยาของเขาซึ่งไม่ใช่ผู้ฝึกมานอนในห้องนั้นไม่ถูกต้อง นี่คงเป็นเหตุผล ตอนนี้แผลลึกที่ศีรษะของฉันหายแล้ว
หกเดือนต่อมาฉันลื่นล้มขณะออกไปเทขยะ เพื่อนบ้านรีบเข้ามาช่วยฉัน แขนซ้ายของฉันเจ็บมาก ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากจนลืมฟาเจิ้งเนี่ยน—ซึ่งมันสำคัญที่สุดในช่วงเวลานั้น แต่ความรู้สึกของคนธรรมดากลับปรากฏขึ้นมาและในใจของฉันมีแต่ความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียว แขนของฉันปวดอยู่หลายเดือน ฉันเชื่อว่าเป็นเพราะฉันบำเพ็ญได้ไม่ดี
ฉันใช้แขนซ้ายไม่ได้หลังจากได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นฉันจึงใช้มือขวา ฉันไม่ได้ฝึกท่าของฝ่าหลุนต้าฝ่า ลูกสาวของฉันซึ่งเป็นผู้ฝึกเช่นกันชี้ให้เห็นว่าฉันยังคงฝึกท่าโดยใช้มือขวาได้ เธอพูดถูก ดังนั้นฉันจึงฝึกท่าโดยใช้มือข้างเดียวอย่างต่อเนื่อง
ลูกชายและครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ใกล้ ๆ พวกเขามาดูอาการฉันและนำอาหารมาให้ ตอนแรกลูกชายกังวลว่าแขนของฉันอาจจะหัก เขารู้ว่าฉันเป็นคนดื้อ เขาจึงขอให้ลูกสาวของฉันเกลี้ยกล่อมให้ฉันไปตรวจแขนที่โรงพยาบาล
ฉันบอกเขาว่า “ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามา 20 กว่าปีแล้ว ฉันไม่ใช่เอาชนะ อุปสรรคมากมายด้วยความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์หรือ ถ้าฉันไปพบแพทย์เพื่อรักษา ใครจะรู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะดีขึ้น ใครจะรู้ว่าการทำนายโรคจะออกมาอย่างไร”
เขาใคร่ครวญและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ถ้าอย่างนั้นแม่ต้องระวังตัวนะ”
ฉันบอกเขาว่า “ท่านอาจารย์คอยดูแลแม่ ไม่ต้องห่วง”
ฉันรู้ว่าการตกทั้งสองครั้งนี้ก็เพื่อช่วยฉันในการบำเพ็ญ แต่ฉันยังคิดไม่ออกว่าทำอะไรผิด ลูกสาวของฉันพูดว่า “แม่อยู่ด้วยตัวเองแล้วตอนนี้ ไม่มีครอบครัวต้องดูแล ถึงเวลาปล่อยวางอารมณ์และความรู้สึกผูกพันได้แล้ว” เธอยังชี้ให้เห็นว่าฉันใช้เวลาดูแอปโซเชียลมีเดียมากเกินไปด้วย แม้ว่าฉันจะค้นหาจากภายใน ฉันก็ไม่พบรากเหง้าของปัญหา
เพื่อแสดงให้ลูก ๆ เห็นพลังของต้าฝ่า ฉันพยายามอย่างเต็มที่ที่จะใช้ชีวิตให้เป็นปกติ รวมทั้งทำสามสิ่งด้วย
ฉันเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่โทรไปประเทศจีน ภารกิจของเราคืออธิบายความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายอัยการและกฎหมาย เมื่อเร็ว ๆ นี้เราใช้เวลามากขึ้นในการโทรในช่วงบ่าย
เพราะฉันใช้มือได้แค่มือเดียว อาบน้ำก็ใช้เวลานาน โชคดีที่เป็นฤดูหนาว ดังนั้นฉันจึงไม่อาบน้ำในบางวัน แม้ฉันจะไม่รู้วิธีค้นหาจากภายในเหมือนที่ผู้ฝึกบางคนทำ แต่ฉันก็เชื่อมั่นว่ามีเพียงต้าฝ่าและท่านอาจารย์เท่านั้นที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ของฉันได้ ฉันบำเพ็ญมาเป็นปีที่ 22 แล้ว ความเชื่อในต้าฝ่าของฉันไม่เคยหวั่นไหว ศรัทธาของฉันไม่สั่นคลอน
ในฐานะผู้ฝึก ความเชื่อมั่นในต้าฝ่าและท่านอาจารย์เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะผ่านพ้นสถานการณ์ที่อันตรายไปได้
ท่านอาจารย์กล่าวว่า
“คุณบอกว่าจะแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง จิตใจเช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้นคุณแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ คุณก็จะสามารถปฏิบัติได้ดีเอง เพราะว่าซินซิ่งของคุณได้ยกระดับขึ้นมาแล้ว” (บทที่ 6,จ้วนฝ่าหลุน)
“ขอเพียงคุณยกระดับซินซิ่ง ก็จะสามารถข้ามไปได้ ก็กลัวตัวคุณเองไม่คิดที่จะข้าม คิดจะข้ามก็สามารถข้ามไปได้”(บทที่ 4, จ้วนฝ่าหลุน)
หลายปีแล้วที่ฉันอาศัยความคิดถูกต้องที่เข้มแข็งในการฝ่าฟันอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงฉันจะอายุมากแล้ว แต่ฉันยังคงมีกำลังวังชา ลูก ๆ ของฉันเป็นพยานให้ได้
สำหรับบทความใหม่ของท่านอาจารย์ “ตื่นเถิด” ความเข้าใจของฉันมีจำกัด แต่เห็นได้ชัดว่าเราไม่มีเวลาให้เสียเปล่าอีกแล้ว สิ่งแรกที่ฉันตัดสินใจทำคือเลิกนิสัยดูสมาร์ตโฟน ฉันประหยัดเวลาด้วยการหยุดแชร์รูปภาพและวิดีโอกับครอบครัวและเพื่อนๆ ระหว่างศึกษาฝ่าออนไลน์ ฉันจะเอาโทรศัพท์มือถือไปไว้ในอีกห้องหนึ่งหรือปิดเครื่อง ฉันปิดโทรศัพท์บ้านในห้องด้วย เพื่อให้สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ไม่รบกวนฉัน ฉันปฏิบัติต่อการอ่านฝ่าอย่างจริงจัง ฉันจึงนั่งขัดสมาธิระหว่างศึกษาฝ่า
ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ตอนนี้ฉันอายุ 78 ปี ถ้าไม่ใช่เพราะความเมตตาของท่านอาจารย์ที่คอยดูแลฉัน ฉันคงจากโลกนี้ไปนานแล้ว
มีหลายอย่างที่ฉันทำได้ไม่ดีแต่ไม่ได้ตระหนักถึงมัน เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันรู้ว่าฉันทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวัง
การเจิ้งฝ่ากำลังจะสิ้นสุดลง และฉันเพิ่งสังเกตเห็นความผิดพลาดของตัวเอง ! ฉันละอายใจนัก ! ความปรารถนาเดียวของฉันคือทำในสิ่งที่ท่านอาจารย์ต้องการให้เราทำ เวลามีจำกัด ฉันต้องการทำให้ดีกว่าเดิมเพื่อช่วยผู้คนให้มากขึ้น นี่คือสิ่งที่ท่านอาจารย์ต้องการ
ข้อคิดเห็นในบทความนี้เป็นความคิดเห็นหรือความเข้าใจของผู้เขียนเอง เนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Minghui.org หมิงฮุ่ยจะผลิตฉบับรวมเล่มของเนื้อหาออนไลน์เป็นประจำรวมทั้งในโอกาสพิเศษด้วย