สตรีหูเป่ย์สองคนถูกพิจารณาคดีเพราะเล่าความเชื่อเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงของตน
(Minghui.org) ชาวเมืองเซียนเต่า มณฑลหูเป่ย์ 2 คนถูกดำเนินคดีเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2023 เพราะเล่าความเชื่อเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงของตน ฝ่าหลุนกงเป็นวิธีบำเพ็ญจิตใจที่ถูกระบอบคอมมิวนิสต์จีนประทุษร้ายมาตั้งแต่ปี 1999
การจับกุมและดำเนินคดี
หยาง ตงเหมย และหลิว หยันชิว ถูกเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจตำบลหูชางจับกุมในตอนเย็นของวันที่ 7 พฤษภาคม 2023 หลังจากได้รับรายงานว่าพวกเขาแจกเอกสารที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงในเมืองหูชางซึ่งอยู่ภายใต้เขตอำนาจของเซียนเต่า พวกเขาถูกนำตัวไปที่ห้องขังเมืองเซียนเต่าในวันเดียวกัน
ตำรวจเซียนเต่าบุกค้นบ้านของหลิวเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม และปฏิเสธที่จะให้รายการสิ่งของที่ถูกยึดตามที่กฎหมายกำหนด ขณะที่หลิวได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 18 พฤษภาคม เธอถูกนำตัวกลับไปขังในวันที่ 24 พฤษภาคม และถูกคุมขังด้วยข้อหาทางอาญา ตำรวจคุกคามครอบครัวของเธอในวันที่ 24 พฤษภาคมเช่นกัน
ตอนแรกหยางถูกควบคุมตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหานาน 15 วัน เมื่อการควบคุมตัวนี้หมดอายุ เธอถูกกักขังด้วยข้อหาทางอาญาในวันที่ 23 พฤษภาคม ตำรวจพยายามกดดันครอบครัวของเธอให้ลงนามในเอกสารบางอย่างที่เธอไม่เห็นพ้องด้วย
อัยการเมืองเซียนเต่าอนุมัติการจับกุมสตรีทั้งสองคนเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน และดำเนินคดีในปลายเดือนสิงหาคม พวกเขาถูกตั้งข้อหา "บ่อนทำลายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับองค์กรที่เป็นลัทธิ" ซึ่งเป็นข้ออ้างมาตรฐานที่ศาลจีนใช้เพื่อใส่ร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกง
อัยการฟางหยวนสั่งให้ทนายของผู้ฝึกทั้งสองคนเกลี้ยกล่อมให้พวกเขายอมรับผิด เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ยินว่าผู้ฝึกปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามและยืนกรานที่จะไม่สารภาพผิด เขาจึงสั่งห้ามทนายความพบกับผู้ฝึก
ในขณะเดียวกัน สมาชิกในครอบครัวของผู้ฝึกทั้งสองได้เขียนจดหมายถึงหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ เพื่อขอความยุติธรรมให้กับพวกเขา ตำรวจรังควานสมาชิกในครอบครัวทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน อวู๋ จือกัง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของชุมชนเหอหวันข่มขู่พ่อแม่ของผู้ฝึกคนใดคนหนึ่ง (ไม่ชัดเจนว่าเป็นพ่อแม่ของหยาง หรือพ่อแม่ของหลิว) และบอกพวกเขาว่าลูกสาวของพวกเขาถูกกักขังเพราะพวกเขาจ้างทนายความมาว่าความให้เธอ
การพิจารณาคดีในศาล
ศาลเมืองเซียนเต่าพิจารณาคดีของผู้ฝึกเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม คณะกรรมการการเมืองและกฎหมายเมืองเซียนเต่าซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจเหนือระบบตุลาการและมีหน้าที่กำกับควบคุมการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง รีบส่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเกือบ 20 นาย ไปอยู่นอกศาลและถ่ายภาพผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในพื้นที่ที่มาให้กำลังใจหยางและหลิว เมื่อผู้ฝึกถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมถ่ายรูปผู้ฝึก เจ้าหน้าที่คนนั้นก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ถ่ายรูปแต่ทำเป็นพูดโทรศัพท์อยู่
ขณะที่สมาชิกในครอบครัวของหยาง 4 คน และผู้ฝึกฝ่าหลุนกง 2 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบความปลอดภัย พวกเขาเห็นเจ้าหน้าที่หวัง เซียวกัง และเซิง จิงเหวิน ผ่านเข้าประตูโดยไม่ได้ผ่านขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัย เมื่อพวกเขาถามเจ้าหน้าที่ศาลว่าทำไมตำรวจจึงข้ามการตรวจสอบความปลอดภัยได้ เจ้าหน้าที่ตอบว่า “พวกเขาเป็นคนของเราและไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย”
ไม่นานหลังจากการพิจารณาคดีเริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ศาลคนเดียวกันกับที่จุดตรวจสอบความปลอดภัยสั่งให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง 2 คนที่มาพร้อมกับครอบครัวของหยางออกจากห้องพิจารณาคดี เธออ้างว่าตามกฎหมายแล้ว ผู้กระทำความผิดทางอาญาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการพิจารณาคดี ผู้ฝึกแย้งว่าการพิจารณาคดีควรเปิดกว้างต่อสาธารณชน และพวกเขาไม่เคยก่ออาชญากรรมใด ๆ แต่เจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขายังคงฝึกฝ่าหลุนกงอยู่ หมายความว่าพวกเขาฝ่าฝืนกฎหมาย
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ฝึกอื่นเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีในอนาคต เจ้าหน้าที่ศาลได้สั่งให้คณะกรรมการท้องถนนในท้องที่โทรหาสมาชิกในครอบครัวของผู้ฝึกในท้องที่และขู่ว่าจะจับกุมผู้ฝึกถ้าพวกเขากล้าเข้ามาฟังการพิจารณาคดีฝ่าหลุนกง
อัยการระบุสิ่งต่อไปนี้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี : 1) หนังสือฝ่าหลุนกงเล่มเล็ก 10 เล่ม ที่หลิวและหยางถือติดตัวในขณะที่ถูกจับกุม ; 2) เครื่องบันทึกเสียงและเครื่องบันทึกวิดีโอของพวกเธอขณะที่ถูกจับกุม ; 3) หนังสือฝ่าหลุนกง 21 เล่ม และเครื่องเล่นเพลงที่ยึดมาจากบ้านของหลิว ; 4) บัญชีพยาน ; และ 5) จดหมายรับรองความถูกต้องของกรมตำรวจเมืองจิงโจวที่ระบุว่าสิ่งของของฝ่าหลุนกงที่ถูกยึดนั้นเป็น “สิ่งที่แสดงความเป็นลัทธิ” อย่างไรก็ตาม ไม่มีการนำเสนอ "หลักฐาน" ใด ๆ ในศาล
ประธานผู้พิพากษาจ้าว หยันเฟิน สั่งให้หยางสารภาพผิดและให้อ่านคำแถลงที่จะละทิ้งฝ่าหลุนกง เธอปฏิเสธ หลิวพูดเสริมว่าไม่มีกฎหมายใดในประเทศจีนที่ระบุว่าฝ่าหลุนกงผิดกฎหมาย
ทนายความของหลิวยื่นคำแก้ฟ้องว่าเธอไม่ผิด เขาพูดว่าฝ่าหลุนกงไม่มีสมาชิกและไม่ใช่ลัทธิ แค่สอนให้คนเป็นคนดี เขาเน้นย้ำว่าความเชื่อทางจิตวิญญาณของคนเราควรได้รับการปกป้อง แทนที่จะถูกดำเนินคดี ทนายความยังท้าอัยการว่าให้รายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายที่กล่าวหาลูกความของเขาว่าบ่อนทำลาย อัยการไม่สามารถตอบได้
ทนายความยังชี้ให้เห็นว่ากรมตำรวจเมืองจิงโจว ซึ่งกำกับดูแลตำรวจเมืองเซียวเต่า ไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการตรวจสอบหลักฐานการฟ้องร้องใด ๆ เนื่องจากมีเพียงหน่วยงานนิติเวชซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระและเป็นบุคคลที่สามเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานการฟ้องร้อง
การประทุษร้ายในอดีต
ก่อนการทดสอบที่โหดร้ายครั้งล่าสุด ทั้งหลิวและหยางเคยตกเป็นเป้าหมายมาก่อนเนื่องจากฝึกฝ่าหลุนกง หยางถูกจับกุมเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2016 และถูกตัดสินจำคุก 3 ปี โดยรอลงอาญา 3 ปี เธอได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน
หลิวถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2009 และโอหยาง จางกั๋ว ผู้เป็นสามีของเธอถูกจับกุมในอีก 2 เดือนต่อมาในวันที่ 11 กันยายน 2009 โอหยางถูกนำตัวไปที่ศูนย์ล้างสมองถังซุนหูในเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ เนื่องจากเขาถูกทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจขณะถูกคุมขัง เขาจึงต้องทนทุกข์ทรมานกับสุขภาพที่แย่ลงหลังจากได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2009 เขาถึงแก่กรรมในปี 2012 ขณะนั้นเขาอายุเพียง 38 ปี
โอหยาง จางกั๋ว