วันที่ 22 เมษายน ผู้ฝึกทางตอนใต้ของไต้หวันรวมตัวกันในเขตกู่ซานของเมืองเกาสงเพื่อจัดการชุมนุมและเดินพาเหรดเพื่อรำลึกถึงการอุทธรณ์อย่างสันติในวันที่ 25 เมษายน ที่กรุงปักกิ่งในปี 1999 กิจกรรมครั้งนี้ยังเรียกร้องให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนยุติการประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าที่ต่อเนื่องยาวนานถึง 24 ปีด้วย
การชุมนุมจัดที่สวนป่าเอาจื้อตี่ในช่วงเช้า ท่าฝึกที่อ่อนโยนและนิทรรศการภาพถ่ายดึงดูดคนที่เดินผ่านไปมาจำนวนมาก บางคนหยุดดูเพื่อเรียนรู้ท่าฝึกด้วย
ในช่วงบ่ายผู้ฝึกจัดขบวนพาเหรดซึ่งนำโดยวงโยธวาทิตเทียนกั๋ว ขบวนพาเหรดแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ต้าฝ่าทั่วโลก การประทุษร้ายที่ผิดศีลธรรม การลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการยุติการกดขี่ข่มเหง ขณะที่ขบวนพาเหรดเคลื่อนผ่านถนนสายหลักในกู่ซาน เจ้าหน้าที่จากพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ที่ได้รับเลือกตั้งได้เข้าร่วมในขบวนด้วย
ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเดินพาเหรดในเกาสงเมื่อวันที่ 22 เมษายน
คนจำนวนมากประทับใจสีสันสดใสของวงโยธวาทิตเทียนกั๋ว ทีมกลองสะพายเอว และเหล่านางฟ้า พวกเขาหยุดดูและอ่านป้ายผ้า "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี" "ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี" และ "ยุติการปล้นเอาอวัยวะโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน" พวกเขารับแผ่นพับและดอกบัวด้วย
ข้อความบนป้ายผ้าชี้ชวนให้ผู้คนช่วยยุติการประทุษร้ายในประเทศจีน
หลังจากผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนมากถูกจับกุมอย่างผิดกฎหมายในเทียนจินในเดือนเมษายน 1999 ผู้ฝึกประมาณ 10,000 คน ไปที่สำนักงานอุทธรณ์กลางในกรุงปักกิ่งในวันที่ 25 เมษายน กิริยาท่าทางที่สงบและมีเมตตาของผู้ฝึกทำให้คนที่เดินผ่านประทับใจ รวมทั้งตำรวจด้วย เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งพูดว่า "คุณรู้ไหมว่าอะไรคือคุณธรรม นี่คือคุณธรรม !"
เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการแก้ไขอย่างสันติในวันนั้น และสื่อเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการอุทธรณ์ครั้งใหญ่ที่สุดและสงบที่สุดในประวัติศาสตร์จีน แม้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าในเดือนกรกฎาคม 1999 แต่การอุทธรณ์ในวันที่ 25 เมษายน เปิดโอกาสให้ชาวโลกรวมทั้งชาวไต้หวันได้เห็นว่าแท้จริงแล้วฝ่าหลุนต้าฝ่าคืออะไร ชาวไต้หวันจำนวนมากเริ่มฝึกและช่วยยุติการประทุษร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีนด้วย
ประชาชนอ่านแผ่นพับแนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่า
หลินใช้เวลาอ่านข้อมูลบนบอร์ดที่จัดแสดงอยู่เป็นเวลานานและพูดคุยกับผู้ฝึก เมื่อเขาเห็นโปสเตอร์ "หยุดการปล้นเอาอวัยวะ" เขาพูดว่า "ผมไปจีนแผ่นดินใหญ่ไม่กี่ครั้ง ผมได้ยินว่าคนจำนวนมากไปที่นั่นเพื่อปลูกถ่ายไต"
เขาบอกว่าประชาชนจำนวนมากไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่น่าเสียดายที่โดนพรรคคอมมิวนิสต์จีนล้างสมอง เขาพูดว่า “การโฆษณาชวนเชื่อให้เกลียดชังเริ่มในชั้นอนุบาลและชั้นประถม” “ระบอบ [พรรคคอมมิวนิสต์จีน] ถึงคราวล่มสลายแล้ว”
ผู้หญิงคนหนึ่งอ่านรายละเอียดของทุกโปสเตอร์ เธอพูดว่าการปล้นเอาอวัยวะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในเด็กด้วย “ฉันเห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว” เธอพูด "บางคนหายตัวไป สุดท้ายเมื่อพบร่างของคนคนนี้ พวกเขาพบว่าอวัยวะบางส่วนถูกเอาออกไปแล้ว"
ประชาชนอ่านโปสเตอร์
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งพูดว่าพรรคคอมพิวเตอร์จีนขึ้นชื่อเรื่องกดขี่ข่มเหงพลเมืองผู้บริสุทธิ์เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เธอพูดว่ากลุ่มที่ถูกประทุษร้าย เช่น ฝ่าหลุนต้าฝ่าควรจัดงานแถลงข่าวเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นที่นั่น “ดูสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศจีน มันช่วยให้เราเข้าใจว่าอิสรภาพไม่ใช่ได้มาง่ายๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันสนับสนุนผู้ฝึกอย่างเต็มที่ให้ยึดมั่นในสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเขา” เธอพูด
ชายคนหนึ่งพูดว่าเขาเป็นทุกข์กับโรคนอนไม่หลับและเขาสนใจประโยชน์ต่อสุขภาพของฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาบอกว่าเขาได้ยินว่าการท่อง "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง - ความเมตตา - ความอดทนดี" จะนำพรมาให้ "ผมชอบโปสเตอร์เหล่านี้เพราะมันมีความหมายมาก" เขาพูด "คนจำนวนมากกว่านี้จำเป็นต้องรู้ข้อเท็จจริงที่สำคัญเหล่านี้"
หวังมาที่สวนสาธารณะเพื่อออกกำลังกาย หลังจากเขาอ่านข้อมูลต่าง ๆ แล้ว เขาพูดว่าการปล้นเอาอวัยวะโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นเรื่องอุกอาจ "เราทุกคนรู้ว่า ‘ทำดีได้ดี’ และ ‘ทำชั่วได้ชั่ว’ เขาอธิบาย “การล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต”
ออกห่างจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน
คนที่เดินผ่านไปมายกนิ้วให้ผู้ฝึก
เยี่ยและแม่ของเขากำลังเดินเล่นในสวนสาธารณะและสังเกตเห็นกิจกรรมนี้ เขาประทับใจการชุมนุมครั้งใหญ่นี้ เขาพูดว่าคนจำนวนมากเคยได้ยินว่าการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามีประโยชน์ต่อตนเองและสังคมอย่างไร “น่าเสียดายที่ผู้ฝึกถูกปฏิบัติไม่ดีภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการปล้นเอาอวัยวะก็เป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้” เขาพูด “คุณทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมสนับสนุนคุณ”
หลินร่วมเดินพาเหรดเพราะเพื่อนของเขาที่ชื่อไซ่เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า พวกเขาเป็นเพื่อนกันตอนที่เป็นทหารในกองทัพเมื่อ 50 ปีมาแล้ว แต่ไม่เคยเจอกันเลยหลังจากนั้น “ผมรู้เรื่องการประทุษร้ายในประเทศจีนทางทีวี” เขาพูด "ระบอบคอมมิวนิสต์จีนที่ไม่เชื่อในเทพบ้าบิ่นที่ทารุณประชาชนของตนเอง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอิสรภาพในความเชื่อจึงมีค่ามาก"
ซูและเพื่อนของเขามาดูขบวนพาเหรด เขารู้ว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และรู้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนใส่ร้ายป้ายสีบกลุ่มผู้รักสันติ "เหตุการณ์เช่นนี้มีความสำคัญ เพราะผู้คนจำเป็นต้องรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศจีน"