(Minghui.org) ชาวเมืองชิงหยาง มณฑลกานซู่ คนหนึ่งถูกพิจารณาคดีที่ศาลอำเภอเจิ้นหยวน เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2023 เนื่องจากความศรัทธาในฝ่าหลุนกงของพวกเขา ฝ่าหลุนกงเป็นการฝึกจิตใจที่ถูกระบอบคอมมิวนิสต์จีนประทุษร้ายตั้งแต่ปี 1999
เนื่องจากอัยการไม่สามารถหักล้างคำให้การแก้ต่างของหวังลี่ฉุน และทนายความของเขาในระหว่างการพิจารณาคดีในศาลได้ เขาจึงโพล่งออกมาว่า “ฝ่าหลุนกง (ผู้ฝึก) โน้มน้าวให้คนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ นั่นไม่ใช่ลัทธิหรือ”
ก่อนที่หวังจะถูกจับกุมครั้งล่าสุดในเดือนตุลาคม 2022 อดีตเจ้าของร้านเครื่องแก้วใช้เวลาเจ็ดปีในการหลบหนีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกประทุษร้ายจากการยื่นฟ้องคดีอาญาเจียง เจ๋อหมิน อดีตผู้นำระบอบคอมมิวนิสต์ ที่สั่งการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง
เนื่องจากเขาอยู่ในรายชื่อที่ทางการต้องการตัวและไม่สามารถใช้บัตรประจำตัวได้ จึงยากมากที่หวังจะหางานเต็มเวลาได้ ต่อมาเขาเริ่มทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามสถานที่ก่อสร้าง เขาทำงานหนัก ใส่ใจในรายละเอียด และไม่เคยปริปากบ่นเรื่องใด ๆ ไม่นานนักเขาก็ได้รับความไว้วางใจและคำชมจากเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการซึ่งช่วยแนะนำเขาให้กับงานอื่นด้วย เขาค่อย ๆ สร้างชื่อเสียงและหลายคนมาหาเขาเพื่อให้ทำโครงการต่าง ๆ หวังได้ถือโอกาสเล่าเรื่องฝ่าหลุนกงให้พวกเขาฟังด้วย
ตำรวจไม่เคยหยุดตามหาหวัง พวกเขานำภาพของหวังใส่ในฐานข้อมูลบนคลาวด์ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องวงจรปิดทั่วประเทศ
ขณะทำงานในห้างสรรพสินค้าในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี เมื่อปลายเดือนกันยายน 2022 หวังถูกกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้หลังจากที่เขาถอดหน้ากากขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่นานตำรวจก็เดินทางจากชิงหยางไปยังซีอาน หลังจากไม่พบหวังในห้างสรรพสินค้า ตำรวจก็ไปพบผู้จัดการและบังคับเขาให้พาไปที่บ้านพักของหวังเพื่อจับกุมเขา
ขณะตำรวจใกล้ถึง หวังได้ปีนจากอะพาร์ตเมนต์ของเขาที่ชั้น 5 ลงไปชั้น 3 โดยใช้เชือก แล้วกระโดดจากชั้น 3 ลงไปที่พื้น แม้เขาจะเจ็บปวดจากกระดูกข้อเท้าหัก เขาก็ยังหาทางหลบหนีไปได้
ขณะที่เขาพยายามหาทางไปบ้านลูกสาวโดยไม่ใช้รถสาธารณะหรือแท็กซี่ (ซึ่งต้องให้คนสแกนแอปรหัสสุขภาพบนโทรศัพท์มือถือ) หวังบังเอิญเจอผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในพื้นที่ เมื่อผู้ฝึกคนนี้ได้ยินเรื่องของหวัง เขาก็พาหวังไปที่บ้านของเขาและช่วยดูแลหวัง
ตำรวจพบหวังจากการค้นหาวิดีโอที่ถ่ายด้วยกล้องวงจรปิด และจับกุมเขาได้ในวันที่ 19 ตุลาคม 2022 เขาถูกนำตัวกลับไปที่ชิงหยางในวันรุ่งขึ้นและถูกกักตัวที่ศูนย์กักกันอำเภอชิ่งเฉิง
ก่อนกลับไปชิงหยาง ตำรวจค้นที่พักของหวังในซีอาน แต่ไม่พบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับฝ่าหลุนกง ตำรวจส่งคดีของหวังไปยังสำนักงานอัยการอำเภอเจิ้นหยวน โดยใช้หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับฝ่าหลุนกงที่ยึดจากเขาเมื่อเจ็ดปีก่อนและการยื่นฟ้องคดีอาญาเจียง อัยการยื่นฟ้องหวังในเดือนมกราคม 2023 และย้ายคดีไปที่ศาลอำเภอเจิ้นหยวน
ขณะทบทวนเอกสารคดีของหวัง ทนายความของเขาพบว่าคำฟ้อง 700 หน้า ที่อัยการยื่นฟ้องตรงกับคำฟ้องผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอีกคนหนึ่งคือต้วนเซี่ยวหยานเมื่อ 7 ปีก่อนทุกประการ ในขณะนั้นต้วนถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 ปี
ศาลอำเภอเจิ้นหยวนจัดให้มีการพิจารณาคดีของหวังเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2023 มีสมาชิกในครอบครัวเพียง 4 ใน 9 คนที่ไปศาลเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องพิจารณาคดี
เมื่อได้ยินว่าทนายความของเขาซึ่งมาจากปักกิ่งกำลังเข้าไปยื่นคำแก้ฟ้อง ผู้พิพากษาได้โทรถามเนติบัณฑิตยสภาปักกิ่งว่าทนายความได้รายงานการเป็นตัวแทนของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงต่อสำนักงานยุติธรรมท้องถิ่นหรือไม่ ผู้พิพากษายังบอกทนายความว่าเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายท้องถิ่นจะเข้าร่วมการพิจารณาคดีด้วย
ทนายความชี้ให้เห็นว่าศาลไม่ได้แจ้งการพิจารณาคดีให้หวังทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันตามที่กฎหมายกำหนด หวังไม่ทราบวันขึ้นศาลจนกระทั่งทนายความไปเยี่ยมเขาในเช้าวันพิจารณาคดีและบอกเขาเรื่องนี้
เมื่อทนายความถามหวังว่าตำรวจทำผิดกฎหมายระหว่างจับกุมเขาหรือไม่ หวังบอกว่าเมื่อเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบบุกเข้าไปในบ้านของผู้ฝึกที่เขาพักหลบภัยอยู่ในวันที่ 19 ตุลาคม 2022 ขณะนั้นเขานั่งอยู่บนเตียง เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวเตะเขาลงจากเตียง กดเขาลงกับพื้น ใส่กุญแจมือและผลักเขาเข้าไปในรถตำรวจโดยไม่ยอมให้เขาสวมถุงเท้าและรองเท้าก่อน ในห้องใต้ดินของสถานีตำรวจไท่ยี่ลู่ในซีอาน ตำรวจกระทืบเท้าที่บาดเจ็บของหวังและด่าทอเขา
อัยการพยายามเลี่ยงความรับผิดชอบของตำรวจโดยตำหนิหวังว่าไม่ยอมหาทางรักษาตัวเอง หวังพูดว่าตำรวจคนหนึ่งใช้เงินของตัวเองซื้อไม้ค้ำรักแร้ให้เขา เมื่อทนายความไปเยี่ยมเขา 4 เดือนต่อมา หวังเดินได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ เขาบอกว่าเขาฟื้นตัวได้เร็วโดยไม่ต้องให้แพทย์รักษาเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประโยชน์ต่อสุขภาพของฝ่าหลุนกง
ระหว่างแสดงหลักฐาน อัยการเริ่มด้วยการกล่าวหาหวังว่าเป็น “ผู้กระทำผิดซ้ำ” เนื่องจากเขาเคยได้รับโทษให้ใช้แรงงาน 3 ปีในปี 2000 เนื่องจากฝึกฝ่าหลุนกง อัยการได้ทำรายการสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับฝ่าหลุนกงที่ยึดจากหวังในเดือนกรกฎาคม 2015 รวมถึงรายชื่อพยานอีก 17 คนด้วย
หวังปฏิเสธข้อกล่าวหา “บ่อนทำลายการบังคับใช้กฎหมายด้วยองค์กรลัทธิ” ซึ่งเป็นข้ออ้างมาตรฐานที่ศาลจีนใช้พิพากษาลงโทษผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ทนายความของเขายังเสริมว่าไม่มีกฎหมายใดที่บอกว่าฝ่าหลุนกงผิดกฎหมายหรือระบุว่าเป็นลัทธิ
อัยการถามหวังว่าเขาเคยได้รับโทษให้ใช้แรงงาน 3 ปีในปี 2000 หรือไม่ หวังตอบว่าระบบค่ายบังคับใช้แรงงานในประเทศจีนถูกยกเลิกในปี 2013 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบดังกล่าวผิดกฎหมาย
ในรายชื่อพยาน 17 คนที่อัยการกล่าวอ้าง หวังบอกว่าเขาจำได้แค่ชื่อพี่ชายและพ่อของเขาเท่านั้น เขาไม่เคยพบหรือได้ยินเกี่ยวกับคนที่เหลือ 15 คนเลย ทนายความชี้ให้เห็นว่าเรื่องราวของพยานคล้ายกันมาก เนื่องจากไม่มีพยานคนใดปรากฏตัวในศาลเพื่อซักค้านพยานเลย เขาจึงสงสัยในความน่าเชื่อถือของพยานเหล่านั้น
อัยการอ้างว่าพยานทั้ง 17 คน พูดว่าหวังช่วยพวกเขาเตรียมคำฟ้องร้องคดีอาญาเจียง เจ๋อหมิน อัยการจึงสรุปว่าหวังเป็นผู้จัดวางการยื่นฟ้องร้องเพื่อ “ทำให้ผู้นำประเทศเสียชื่อเสียง”
ทนายความของหวังปฏิเสธข้อหาทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยพูดว่าพลเมืองทุกคนมีสิทธิในเสรีภาพทางการพูด และมีสิทธิที่จะวิจารณ์หรือฟ้องร้องผู้นำประเทศ การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่ได้ "บ่อนทำลายการบังคับใช้กฎหมายด้วยองค์กรลัทธิแม้แต่น้อย" ทนายความกล่าวเสริมว่า พยานทั้งหมดที่กล่าวถึงฟ้องร้องเจียงด้วยความคิดริเริ่มของพวกเขาเอง โดยไม่ได้รับคำสั่งจากใคร ซึ่งหักล้างการกล่าวอ้างของอัยการด้วย
จากนั้นผู้พิพากษาได้ถามหวังเกี่ยวกับหนังสือฝ่าหลุนกง เครื่องใช้สำนักงาน ตลอดจนเครื่องมือช่างและเครื่องมือไฟฟ้าที่ยึดจากเขาในเดือนกรกฎาคม 2015 หวังตอบว่าเครื่องมือหลายชิ้นใช้ในการปรับปรุงบ้านให้กับลูกค้าของเขา เขาพูดว่าเป็นเรื่องไร้สาระที่อัยการรวมสิ่งเหล่านี้ในหลักฐานดำเนินคดีเขา
หวังพูดว่าขณะบุกค้นบ้านของเขาในปี 2015 ตำรวจได้ยึดรถยนต์ส่วนตัวของเขาและเงินสด 66,000 หยวนด้วย เงินสดรวมอยู่ในรายการที่ยึดไว้ของตำรวจด้วย แต่หลังจากคดีของเขาถูกโอนไปยังอัยการ เงินสดนั้นก็ไม่ได้อยู่ในบันทึกแล้ว และเขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
ทนายความถามครอบครัวของเขาว่าตำรวจคืนเงินสดให้พวกเขาหรือเปล่า พวกเขาบอกว่าไม่
ในเรื่องหนังสือฝ่าหลุนกงที่ยึดมาจากหวัง ทนายความแย้งว่า สำนักงานสิ่งพิมพ์ของจีนยกเลิกการห้ามพิมพ์งานประพันธ์ของฝ่าหลุนกงแล้วในปี 2011 ด้วยเหตุนี้ หนังสือจึงใช้เป็นหลักฐานเอาผิดหวังไม่ได้
เมื่อหักล้างคำค้านของทนายความไม่ได้ อัยการพูดว่า “ฝ่าหลุนกง [ผู้ฝึก] โน้มน้าวประชาชนให้ลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ นั่นไม่ใช่ลัทธิหรือ” เขายังคงเสนอให้จำคุกหวังอย่างน้อย 10 ปี ด้วยความผิดทางอาญาที่ “ร้ายแรงเป็นพิเศษ”
ในคำแถลงป้องกันตนเอง หวังบรรยายว่าเขามีสุขภาพดีอย่างไรจากการฝึกฝ่าหลุนกงตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างถึงการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าเมื่อไม่นานนี้ นอกจากนี้เขายังได้อธิบายว่าระบอบคอมมิวนิสต์จัดฉากหลอกลวงการเผาตัวเองที่เทียนอันเหมินอย่างไร และโฆษณาชวนเชื่ออื่น ๆ เพื่อให้ร้ายฝ่าหลุนกง
ผู้พิพากษาถามหวังว่าเขาคิดอย่างไรกับโทษจำคุกหลายครั้งของผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ต้วน เซียวหยาน (เธอถูกรับโทษให้ใช้แรงงาน 1 ปีในปี 2000 และถูกตัดสินจำคุก 7 ปีในปี 2002 ก่อนที่จะได้รับโทษ 10 ปีในปี 2015) หวังพูดว่าเธอไม่มีความผิดในอาชญากรรมใด ๆ และไม่ควรถูกลงโทษ เขาเรียกร้องให้ผู้พิพากษารักษาความยุติธรรมและปล่อยตัวเขา ผู้พิพากษาไม่ได้ตอบกลับ
ก้าย ตงเหมย ประธาน ศาลอำเภอเจิ้นหยวน : +86-934-7121243
จาง จงเฟิง ประธานผู้พิพากษา ศาลอำเภอเจิ้นหยวน : +86-13993423966
เฮา หงเหมย ผู้พิพากษา ศาลอำเภอเจิ้นหยวน : +86-15293419588
จั่ว เหวินลี่ ประธาน อัยการอำเภอเจิ้นหยวน : +86-934-7121244
สี ชีหลิง อัยการ อัยการอำเภอเจิ้นหยวน : +86-18298886128
หลี่ ซินเหนียน ผู้อำนวยการ กรมตำรวจอำเภอชิงเฉิง : +86-934-3226028
(ข้อมูลติดต่อของผู้กระทำผิดเพิ่มเติมอยู่ในบทความต้นฉบับภาษาจีน)