(Minghui.org) วุฒิสภาออสเตรเลียผ่านร่างกฎหมายใหม่เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2024 เป้าหมายคือต่อสู้กับการค้าอวัยวะที่ผิดกฎหมายและการผ่าเอาอวัยวะจากคนที่มีชีวิตโดยปราศจากการยินยอม

อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย

การแก้ไขร่างกฎหมายการย้ายถิ่นฐาน (การเปิดเผยการปลูกถ่ายอวัยวะในต่างประเทศและมาตรการอื่น ๆ) ปี 2023 ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยวุฒิสมาชิกพรรค Liberal ดีน สมิท ในเดือนมิถุนายน 2023 โดยการยื่นต่อคณะกรรมการนิติบัญญัติด้านกิจการต่างประเทศ การป้องกันประเทศ และการค้าระหว่างประเทศ (Foreign Affairs, Defense and Trade Legislation Committee) เพื่อพิจารณาในเดือนพฤศจิกายน วุฒิสภาจัดให้มีประชาพิจารณ์การแก้ไขร่างกฎหมายนี้ในวันที่ 22 มีนาคม 2024

หลังจากการอภิปรายเมื่อวันที่ 15 และ 21 สิงหาคม ร่างกฎหมายดังกล่าวก็ผ่านการอนุมัติหลังจากได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกพรรค Liberal, พรรค National, พรรค Green และวุฒิสมาชิกอิสระ

ในขั้นตอนการผ่านร่างกฎหมายนี้ เรื่องราวของ ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง เฉิง เป่ยหมิงได้รับการรายงานอย่างกว้างขวางโดยสื่อหลักในอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย เฉิงเป็นเหยื่อรายแรกที่พบว่ารอดชีวิตจากการผ่าเอาอวัยวะขณะมีชีวิตอย่างเป็นระบบของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) เมื่อเดือนที่แล้วเขาไปกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อปาฐกถาและเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาในประเทศจีน

วุฒิสมาชิกสมิท : ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

ร่างกฎหมายดังกล่าวแก้ไขกฎหมายการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียปี 1958 โดยมีเป้าหมายเพื่อดำเนินการตามคำแนะนำบางประการจากรายงานของคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนประจำปี 2018 เรื่อง “ความเมตตา ไม่ใช่การค้า : การสอบสวนเกี่ยวกับการค้าอวัยวะมนุษย์และการท่องเที่ยวเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ”

ร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ผู้เดินทางไปยังออสเตรเลียทุกคนต้องเปิดเผยในบัตรผู้โดยสารขาเข้าว่าพวกเขาได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะในต่างประเทศในช่วงห้าปีที่ผ่านมาหรือไม่ หากคำตอบได้รับการยืนยัน บุคคลที่เดินทางมาถึงออสเตรเลียจะถูกขอให้เปิดเผยว่าประเทศ รัฐ และท้องที่ใดที่พวกเขาได้รับการปลูกถ่าย และชื่อของสถานพยาบาลที่ทำการผ่าตัด ข้อมูลนี้จะถูกรวบรวมและเผยแพร่ในรายงานประจำปีและมอบให้กับรัฐสภา

วุฒิสมาชิกพรรค Liberal ประจำรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ดีน สมิท กล่าวในการอภิปรายเรื่องการแก้ไขกฎหมายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม (ภาพนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากเว็บไซต์วุฒิสภาออสเตรเลีย)

วุฒิสมาชิกดีน สมิท ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2024 ว่า “ข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างมากต่อองค์กรสิทธิมนุษยชน สถาบันทางการแพทย์ และรัฐบาลออสเตรเลียในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของการปลูกถ่ายอวัยวะในต่างประเทศ และช่วยยืนยันหลักฐานที่มีอยู่เกี่ยวกับกิจกรรมการค้าอวัยวะหรือการผ่าเอาอวัยวะในต่างประเทศ

“ข้อมูลนี้ยังสร้างความตระหนักถึงความอ่อนไหวและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ โดยกระตุ้นให้พลเมืองและผู้อยู่อาศัยในออสเตรเลียพิจารณาว่าแผนที่จะรับการผ่าตัดในต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงที่จะเกี่ยวข้องกับการปลูกถ่ายอวัยวะที่ผิดจริยธรรมหรือไม่ปลอดภัยหรือไม่”

ตามข่าวประชาสัมพันธ์ “ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านวุฒิสภาโดยได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกที่ไม่อยู่ในกลุ่มพรรคหลักโดยไม่มีการแบ่งแยก”

วุฒิสมาชิกสมิทกล่าวว่า “นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ส่งเสริมความพยายามของออสเตรเลียเพื่อต่อสู้กับการค้าที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการผ่าเอาอวัยวะและการค้าอวัยวะอย่างผิดกฎหมายและผิดจรรยาบรรณ

“นี่เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญและเลยเวลาแล้วในการพัฒนาการตอบโต้ที่แข็งแกร่งขึ้นจากรัฐบาลออสเตรเลียต่อการปฏิบัติที่น่ารังเกียจเหล่านี้” “ความคิดริเริ่มที่เรียบง่ายและเจียมเนื้อเจียมตัวนี้จะมีผลกระทบอย่างมากต่อการเปิดเผยขอบเขตของอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ซับซ้อนและไม่โปร่งใสนี้”

ขณะนี้ร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งไปที่สภาผู้แทนราษฎรเพื่ออภิปรายต่อไป

สมาคมฝ่าหลุนต้าฝ่า : รัฐสภาออสเตรเลียมมุ่งเป้าไปที่อาชญากรรมของ CCP

ดร. ลูซี จ้าว ประธานสมาคมฝ่าหลุนต้าฝ่าในออสเตรเลีย ยินดีกับร่างกฎหมายฉบับใหม่ เธอพูดว่าการผ่านร่างกฎหมายนี้มีการสื่อข้อความที่พิเศษและสำคัญยิ่ง เนื่องจากนี่เป็นการดำเนินการทางกฎหมายครั้งแรกที่รัฐสภาออสเตรเลียดำเนินการเพื่อระงับการผ่าเอาอวัยวะที่ผิดกฎหมาย ในระหว่างการอภิปราย วุฒิสมาชิกทำให้รัฐสภาสนใจการผ่าเอาอวัยวะจากคนที่ยังมีชีวิต และการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงและนักโทษทางความคิดของ CCP

หลายประเทศผ่านร่างกฎหมายที่คล้ายกัน และ ดร. จ้าว หวังว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะสามารถก้าวไปอีกขั้นหนึ่งและผ่านร่างกฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะที่ผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับที่สหราชอาณาจักรและแคนาดาผ่านร่างกฎหมายนี้แล้ว

วุฒิสมาชิกที่ทำงานข้ามพรรคสนับสนุนร่างกฎหมายใหม่ในที่อภิปราย

ในระหว่างการอภิปรายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม วุฒิสมาชิกสมิทกล่าวว่าหน่วยงานนิติบัญญัติของหลายประเทศ รวมถึงแคนาดาและสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการหลายขั้นตอนและผ่านร่างกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องแล้ว ออสเตรเลียยังขาดการดำเนินการเรื่องนี้ และร่างกฎหมายนี้พยายามที่จะพัฒนาภารกิจของออสเตรเลียในการธำรงและยกระดับสิทธิมนุษยชน ทั้งในออสเตรเลียและทั่วโลก

เมื่อพูดถึงภูมิหลังของการแก้ไขกฎหมาย สมิทกล่าวว่า “... เป็นเวลานานแล้วที่ผู้คนไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในโลกของเรา ผมยินดีที่จะพูดว่า ผมคิดว่าตอนนี้มีความไม่เชื่อน้อยลงและมีความตระหนักมากขึ้นว่านี่กำลังเกิดขึ้นในระดับที่ผู้คนจะหวาดกลัวเมื่อทราบและหวาดกลัวเมื่อเข้าใจ”

วุฒิสมาชิกแคลร์ แชนด์เลอร์ กล่าวในการอภิปรายเกี่ยวกับการแก้ไขร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม (ภาพนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากเว็บไซต์วุฒิสภาออสเตรเลีย)

วุฒิสมาชิกแคลร์ แชนด์เลอร์ กล่าวในการอภิปรายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมว่า “นี่คือส่วนหนึ่งของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่ากังวลมากที่สุดที่มีอยู่ และหลักฐานชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์เช่นนี้เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นความคิดที่น่ากลัว”

วุฒิสมาชิกแชนด์เลอร์อ้างถึงการประมาณการของ WHO ในปี 2008 โดยกล่าวว่า 5% ของการปลูกถ่ายอวัยวะทั่วโลกดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย เธอกล่าวว่า “... มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการปล้นเอาอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับประชากรอุยกูร์และฝ่าหลุนกง...”

เธอกล่าวว่าเปอร์เซ็นต์นี้เผยให้เห็นถึงความรุนแรงของการค้าอวัยวะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่ชั่วร้ายและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงทั่วโลก “ออสเตรเลียควรทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อต่อสู้กับกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมดำมืดอย่างไม่น่าเชื่อนี้”

วุฒิสมาชิกเดวิด ชูบริดจ์ พูดในการอภิปรายเรื่องการแก้ไขร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม (ภาพนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากเว็บไซต์วุฒิสภาออสเตรเลีย)

วุฒิสมาชิกพรรค Green เดวิด ชูบริดจ์ สนับสนุนการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว และกล่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ว่าการออกกฎหมายนี้ช่วยให้ออสเตรเลียตามทันความพยายามของนานาชาติ เขากล่าวว่า “ร่างกฎหมายนี้พาเราก้าวสู่การเป็นพลเมืองที่ดีของโลกอีกขั้นหนึ่ง” “เราคิดว่ามันเป็นการกระทำที่ถูกต้องเหมาะสมทั่วโลก เราคิดว่ามันเป็นการกระทำที่ออสเตรเลียควรทำ”

ออสเตรเลียไม่สามารถนิ่งเงียบ

วุฒิสมาชิก พอล สการ์ กล่าวในการอภิปรายแก้ไขร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม (ภาพนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากเว็บไซต์วุฒิสภาออสเตรเลีย)

ขณะที่วุฒิสมาชิกพรรค Liberal National พอล สการ์ พูดในการอภิปราย เขาอ้างถึงข่าวประชาสัมพันธ์จากผู้สื่อข่าวพิเศษของสหประชาชาติในเดือนมิถุนายน 2016 ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ระบุว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ชาวอุยกูร์ ชาวทิเบต ชาวมุสลิม และชาวคริสเตียนที่ถูกคุมขังในประเทศจีนอาจถูกบังคับให้ตรวจเลือดและตรวจอวัยวะโดยไม่ได้รับความยินยอม และผลการตรวจจะถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลของแหล่งอวัยวะของคนที่ยังมีชีวิตเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดสรรอวัยวะ

“ผมทราบว่าสหราชอาณาจักรได้แก้ไขกฎหมายเนื้อเยื่อมนุษย์ในสหราชอาณาจักรเพื่อจัดการกับปัญหานี้ ในแคนาดาก็มีขั้นตอนเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องก้าวไปข้างหน้ากับพันธมิตรระหว่างประเทศของเรา

“เราไม่สามารถนิ่งเงียบกับปัญหาเหล่านี้ เรามีภาะผูกพันทางศีลธรรมที่หยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมา และผมจะทำเช่นนั้นด้วยความสุจริตใจที่นี่ในวันนี้”

วุฒิสมาชิกพรรค National รอสส์ คาเดลล์ กล่าวในการอภิปรายแก้ไขร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม (ภาพนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากเว็บไซต์วุฒิสภาออสเตรเลีย)

วุฒิสมาชิกพรรค National รอสส์ คาเดลล์ กล่าวในการอภิปรายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวอาจรับประกันไม่ได้ว่าทุกคนจะกรอกบัตรข้อมูลครบถ้วน 100% แต่กฎหมายนี้จะเริ่มต้นการสร้างฐานข้อมูลที่สามารถช่วยออสเตรเลียในการระบุการค้าอวัยวะที่ผิดกฎหมายในอนาคตได้ เขากล่าวว่า “...ถ้าผมไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกและได้รับการบริจาคอวัยวะและผมทำด้วยวิธีที่ผิด ผมกลับมาออสเตรเลีย ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายในออสเตรเลีย” อย่างไรก็ตาม ที่ไหนสักแห่งในโลกนี้ “... มีบางคนต้องทุกข์ทรมานที่ให้อวัยวะกับผม บางทีอาจโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขามีปัญหาทางเศรษฐกิจมากจนต้องทำเช่นนี้ สำหรับผู้เสียภาษีชาวออสเตรเลีย ค่าใช้จ่ายในการสร้างบัตรใหม่และดำเนินการประมวลข้อมูลนั้นต่ำมาก แต่ประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอำนาจน้อยที่สุดในโลกนั้นยิ่งใหญ่มาก”

วุฒิสมาชิกเจมส์ แมกกราท กล่าวในการอภิปรายเกี่ยวกับการแก้ไขร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม (ภาพนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากเว็บไซต์วุฒิสภาออสเตรเลีย)

วุฒิสมาชิกพรรค Liberal National เจมส์ แมกกราท แสดงความเคารพเป็นพิเศษต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่กำลังฟังการอภิปรายในวันที่ 15 สิงหาคม เขาพูดว่า “ผมขอขอบคุณผู้ที่อยู่ในห้องประชุมที่กำลังเป็นพยานและสังเกตการณ์การอภิปรายในห้องประชุมนี้เกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้โดยเฉพาะ”

วุฒิสมาชิกแมกกราทอ้างถึงรายงานของสหประชาชาติปี 2021 ที่ระบุว่าสหประชาชาติมีหลักฐานที่ใช้ได้ผลดีเกี่ยวกับการค้าอวัยวะมนุษย์ เขาพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องอุกอาจ นั่นน่าจะทำให้ทุกคนในห้องประชุมนี้โกรธมาก มันควรทำให้ทุกคนฟังไม่ว่าจะอยู่ในห้องประชุมนี้หรือในห้องแสดงภาพในห้องประชุมนี้ หรือผ่านโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งในอาคารนี้ มีประเทศในโลกนี้ที่ทำการค้าอวัยวะมนุษย์โดยปราศจากการยินยอมในเชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือเหตุผลที่ร่างกฎหมายนี้มาทันเวลาอย่างยื่ง”

ในตอนท้ายของสุนทรพจน์ เขากล่าวว่า "สิ่งที่ร่างกฎหมายนี้ทำจะทำให้แน่ใจว่าเราจะทำมากขึ้นและเราควรทำมากขึ้น ไม่มีมนุษย์คนใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ชาวอุยกูร์ ชาวทิเบต ชาวคริสเตียน ชาวมุสลิม หรือชาวจีน ที่อยู่ในจีนคอมมิวนิสต์ ซึ่งอาจถูกกักขัง สมควรถูกจัดให้อยู่ในระบบที่ต่ำกว่ามนุษย์ ซึ่งพวกเขาถูกปฏิบัติเหมือนสินค้าในเชิงพาณิชย์ที่ถูกเก็บเกี่ยวเช่นเดียวกับที่คนดึงแครอทจากพื้นดินหรือเก็บแอปเปิ้ลจากต้น ที่นี่เรากำลังพูดถึงมนุษย์”