(Minghui.org) หลังจากเชื้อไวรัสโคโรนาตัวใหม่แพร่ระบาดขึ้นในประเทศจีน ฉันใช้โอกาสนี้ทำให้ผู้คนรับรู้เรื่องการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงเพิ่มขึ้น ระหว่างพูดคุยกันฉันใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อหาจุดร่วมกับคนที่สนทนาด้วย ฉันหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องที่จะทำให้ผู้ฟังสับสนหรือเรื่องที่จะสะกิดความคิดด้านลบขึ้นมา

เราใช้ข่าวเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาเพื่อนำการสนทนาและสนับสนุนประเด็นที่เราต้องการพูด ฉันยังค้นพบว่าการใช้ความเห็นของผู้ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรที่เกี่ยวข้องนั้นช่วยได้มาก

ปัจจุบันมีคนจำนวนมากลาออกจากสามองค์กรพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมทั้งแพทย์และพยาบาลที่ทำงานอยู่แนวหน้าจำนวนมาก จากเหตุการณ์แพร่ระบาดครั้งใหญ่นี้ พวกเขารับทราบถึงธรรมชาติอันชั่วร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และปฎิเสธที่จะเข้าร่วมกับมันอีกต่อไป เรื่องราวที่ประสบด้วยตัวพวกเขาเองเป็นสิ่งที่ทรงพลังอย่างยิ่งในการช่วยให้คนเข้าใจความจริง

ในบทความนี้ฉันอยากแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนผู้ฝึกว่าฉันได้อธิบายความจริงกับผู้คนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างไร และเราจำเป็นต้องทำโดยใช้หลักเหตุผลและสติปัญญาอย่างไรเพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจความจริงมากขึ้นโดยไม่ผลักไสพวกเขาออกไป

พรรคคอมมิวนิสต์ไม่สนใจหรือไม่เห็นคุณค่าของชีวิตคน

ผู้คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเราว่า “พรรคคอมมิวนิสต์ไม่เคยห่วงใยและไม่เห็นคุณค่าของชีวิตคนเลย” ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงวิธีการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาด และพลาดช่วงเวลาที่วิกฤติในการป้องกันการแพร่ระบาด ผู้คนส่วนใหญ่จึงเห็นด้วย

เราขอยกตัวอย่างบางส่วนเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาปกปิดข้อมูล

เอกสารภายในจากมหาวิทยาลัยนาวาลชี้ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยทราบเรื่องไวรัสในปี 2019 พวกเขาออกประกาศตั้งแต่เนิ่น ๆ ในวันที่ 2 มกราคม 2020 เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีไข้ เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยยังได้ระดมทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบชนิดใหม่อีกด้วย

ในอีเมลที่รั่วไหลออกมาฉบับหนึ่งของ หวัง หยานยี่ ผู้อำนวยการสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น เธอเขียนส่งคำเตือนที่สำคัญไปให้สมาชิกทุกคนของสถาบันในวันที่ 2 มกราคม 2020 ว่าพวกเขา “ถูกสั่งห้ามไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุในเมืองอู่ฮั่นต่อสาธารณชน”

แม้เจ้าหน้าที่ในอู่ฮั่นจะทราบว่าเชื้อโรคสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ พวกเขายังคงจัดงานเลี้ยงที่ให้คนที่ไปงานนำอาหารมาทานร่วมกันกว่า 40,000 ครอบครัว ในวันที่ 18 มกราคม 2020 เพื่อเฉลิมฉลองให้กับ “ชีวิตที่มั่งคั่งและกลมเกลียว” ของพวกเขาภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงจำนวนมากติดเชื้อไวรัส

เราขอพูดถึงพลเมืองที่เขียนข่าวและบันทึกภาพเหตุการณ์แล้วส่งขึ้นอินเทอร์เน็ตที่หายตัวไปเนื่องจากเป็นแนวหน้าในการรายงานข่าวการแพร่ระบาด และแพทย์ 8 คน ที่ถูกตำรวจติเตียนว่า “ปล่อยข่าวลือ” เรื่องการแพร่ระบาด

การป้องกันการแพร่ระบาดทำเพื่อพยุงเสถียรภาพและควบคุม ไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตหรือรักษา

มีเอกสารภายในรั่วไหลทางออนไลน์จากคณะปกครองของมณฑลหูเป่ย์ ระบุว่าความพยายามในการป้องกันการแพร่ระบาดมุ่งเน้นการพยุงเสถียรภาพและควบคุม ไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตหรือให้การรักษาประชาชน ในเอกสารยังมีข้อความว่า“ความเป็นความตายของคนเป็นโชคชะตาของตัวเขาเอง และพวกเขาสนใจเพียงเสถียรภาพของสังคมเท่านั้น”

เมื่อฉันพูดถึงหัวข้อนี้ ฉันจะขอพูดต่อว่าทำไมพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงเน้นเรื่องเสถียรภาพมากมายนัก โดยปกติฉันจะบอกกับผู้คนว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนกลัวสิ่งที่ดูจะคุกคามอำนาจของมัน เพราะมันไม่ใช่รัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มันกลัวว่าการแพร่ระบาดอาจสั่นคลอนอำนาจของมัน ดังนั้นมันจึงปกปิดเกี่ยวกับผู้ป่วยและหลอกลวงประชาชนว่า“ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในการควบคุม”

อันที่จริงชื่อเสียงของฝ่าหลุนกงและจำนวนผู้ฝึกที่มากกว่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มต้นการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในปี 1999

ควรระวังเป็นพิเศษเมื่อพูดว่า “ภัยพิบัติจากธรรมชาติและจากการกระทำของมนุษย์เป็นกรรมตามสนองจากการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง”

ในขณะที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับฉันในประเด็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางคนยังไม่เชื่อความเชื่อมโยงระหว่างภัยพิบัติต่าง ๆ กับกรรมตามสนองจากการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง

เมื่อมีคนถามว่า “มีหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสเช่นกัน พวกเขาประทุษร้ายฝ่าหลุนกงด้วยหรือเปล่า” พวกเราอาจเริ่มพูดปกป้องตัวเองและใช้เวลาในการอธิบายนาน ในขณะเดียวกันมันอาจส่งผลถึงความน่าเชื่อถือของพวกเราด้วย

เราควรหลีกเลี่ยงการพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดเกินไป และเราอาจพูดจากแง่มุมอื่น เช่น พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำสิ่งเลวร้ายมากมายต่อธรรมชาติและมนุษยชาติ จึงแน่นอนที่มีภัยพิบัติจากธรรมชาติและจากการกระทำของมนุษย์เกิดขึ้นมากมาย

ผู้คนหายป่วยเมื่อพูดว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี”

ฉันคิดว่าเราควรระมัดระวังเมื่อจะพูดว่าผู้คนจะหายป่วยจากไวรัสโดยการท่องประโยค “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” และไม่พูดประโยคนี้แบบเด็ดขาดเกินไป เนื่องจากคนจำนวนมากไม่เชื่อเทพอีกต่อไปแล้ว แต่เชื่อวิทยาศาตร์อย่างลึกล้ำ พวกเขาอาจเห็นว่ามันไม่น่าเป็นไปได้และไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์ที่จะบอกว่าคนหายจากโรคได้จากการพูดแค่สองประโยคนั้น สำหรับพวกเขา เราอาจจะเริ่มด้วยข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงและการประทุษร้าย

หลังจากที่ผู้คนมีความเข้าใจด้านบวกต่อฝ่าหลุนกงและลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว เราค่อยพูดถึงคนที่หายป่วยอย่างน่าอัศจรรย์ และเล่าว่าคนที่เชื่ออย่างจริงใจและพูดสองประโยคนั้นด้วยความเต็มใจ พวกเขาหายป่วยจริง ๆ ถึงเวลานั้นพวกเขาอาจจะรับได้มากกว่าที่เราจะพูดตั้งแต่เริ่มการสนทนา

การชักชวนให้ผู้คนลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ในขณะที่เราพูดกับผู้คนเกี่ยวกับโรคระบาด สำคัญมากที่เราจะชักชวนให้พวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ระหว่างที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นในเมืองอู่ฮั่นนั้น ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ได้รับการรักษาตามความจำเป็นทางการแพทย์ และถูกทอดทิ้งให้อยู่ในสภาพที่น่าสังเวชที่สุด คนจำนวนมากร้องขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขาจำนวนนับไม่ถ้วนถูกโรงพยาบาลปฎิเสธการรักษาเนื่องจากขาดทรัพยากร คนจำนวนมากไม่กล้ากลับบ้านเพราะเกรงว่าสมาชิกในครอบครัวจะติดเชื้อด้วย

จากวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน เราเรียนรู้ว่าโรคระบาดมักเป็นตัวชี้วัดของการกระทำผิดของรัฐบาล เมื่อมองย้อนไปในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เริ่มตั้งแต่ที่มันยึดกุมอำนาจ มันทำการรณรงค์ทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อประทุษร้ายพลเมืองจีน เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 ล้านคน

ตั้งแต่การบดขยี้นักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ไปจนถึงการปล้นเอาอวัยวะจากผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และการกักขังชาวอุยกูร์ในค่ายกักกันซินเจียง พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่เคยหยุดฆ่าคนเลย

มันเป็นความเที่ยงธรรมของสวรรค์ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะต้องถูกกำจัด จากความทุกข์ยากในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ ผู้คนสามารถมองเห็นธาตุแท้ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในช่วงเวลาวิกฤติของประวัติศาสตร์นี้ เราสามารถเลือกอนาคตที่สดใสสำหรับตัวเราเองได้โดยการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรที่เกี่ยวข้อง