(Minghui.org) ผู้ฝึกจัดการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝ่าหลุนต้าฝ่าที่ศูนย์ประชุมพลเมือง (Civic Conference Center) ของสตอกโฮล์มตอนใต้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2023 ผู้เข้าร่วมประชุมคือผู้ฝึกจากเมืองต่าง ๆ ในสวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และนอร์เวย์

ผู้ฝึกชาวตะวันตก ผู้ฝึกเอเชีย ผู้ฝึกใหม่ และผู้ฝึกเก่า 12 คน พูดถึงวิธีที่พวกเขาให้ความสำคัญกับการอ่านฝ่า ยกระดับจิตใจ และทำงานร่วมกันเพื่อโปรโมตเสินยวิ่นและโครงการอธิบายความจริงอื่น ๆ อย่างไร พวกเขาเอาชนะความยากลำบากโดยการรักษาศรัทธาที่มีต่อท่านอาจารย์และฝ่าอย่างมั่นคง พวกเขาแสดงความขอบคุณจากใจจริงต่อท่านอาจารย์หลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า และขอบคุณท่านอาจารย์สำหรับการชี้แนะและปกป้องเส้นทางการบำเพ็ญของพวกเขาด้วยความเมตตา

ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจากประเทศสแกนดิเนเวียจัดการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่สตอกโฮล์มเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2023

ผู้ฝึกพูดเกี่ยวกับประสบการณ์การบำเพ็ญของพวกเขาในที่ประชุม

การบำเพ็ญขณะโพรโมตเสินยวิ่น

คริสตินา วัย 77 ปี จากโกเธนเบิร์ก ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามาเป็นเวลา 28 ปีแล้ว หกเดือนก่อนที่การแสดงเสินยวิ่นจะจัดขึ้นในสวีเดน เธอช่วยเรื่องรับสายฮอตไลน์ รับโทรศัพท์ และช่วยผู้ชมซื้อตั๋วเข้าชมการแสดง

เธอตอบทุกคำถามเกี่ยวกับเสินยวิ่นและรายการแสดงในสวีเดนอย่างอดทน เธอพูดว่า “ฉันหวังว่าจะทำให้ทุกคนมีความสุข” เธอทำงานอย่างจริงจังและแก้ไขปัญหาของลูกค้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคมปีนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของการขายบัตร สามีของเธอป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองอย่างกะทันหันและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยรถพยาบาล เมื่อผู้ประสานงานถามว่าเธอต้องการหยุดรับสายฮ็อตไลน์สำหรับการขายบัตรหรือไม่ เธอบอกว่า “ฉันไม่มีความคิดนั้นเลย มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ฉันได้ช่วยขายบัตร ฉันต้องทำต่อไป ฉันสัญญาว่าจะทำภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าให้สำเร็จด้วยชีวิตของฉัน ศรัทธาที่ฉันมีต่อท่านอาจารย์และต้าฝ่าทรงพลังมาก ฉันไม่ต้องการขัดคำสาบาน มันศักดิ์สิทธิ์มาก”

เธอมีความคิดแน่วแน่ตลอดช่วงที่มีความยากลำบาก “ฉันรู้ว่าเขาจะหายดี ในที่สุด สามีของฉันก็ไม่กลัวเพราะเรารู้ว่าท่านอาจารย์ได้ขจัดต้นตอของโรคไปแล้ว—โรคหลอดเลือดสมองของเขาเป็นเพียงขั้นตอนการชำระหนี้กรรมของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี หลังจากการผ่าตัด ฉันไปเยี่ยมเขาในวันถัดมา ใบหน้าของเขาดูเปล่งปลั่งราวกับเกิดใหม่”

สามีของคริสติน่าหายดีแล้ว ทั้งคู่อ่านฝ่าทุกวันและรู้สึกขอบคุณท่านอาจารย์หลี่เต็มเปี่ยม

การบำเพ็ญขณะเข้าร่วมโครงการอธิบายความจริง

บลังกา ผู้ฝึกวัยเยาว์ในสตอกโฮล์มพูดว่าเธอเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้ทำงานในโครงการของต้าฝ่า เธอพูดว่า "การทำงานด้านสื่อทำให้ฉันได้บำเพ็ญในสภาพแวดล้อมของกลุ่มและนำทักษะด้านไอทีของตัวเองมาใช้ ในขณะเดียวกันมันก็ส่งผลดีต่ออาชีพของฉันด้วย เธอคิดว่านี่เป็นการจัดวางที่ดีที่สุดโดยท่านอาจารย์”

เธอพูดด้วยว่าการเขียนประสบการณ์การบำเพ็ญสำหรับการประชุมนี้ช่วยเธอมาก “มันเป็นขั้นตอนของการค้นหาจากภายในและทำให้ยกระดับในการบำเพ็ญ ฉันตระหนักถึงความสำคัญของความอ่อนน้อมถ่อมตนและพบจิตยึดติดมากมาย” เธอได้พูดอีกว่า “ความท้าทายของฉันคือการเห็นคุณค่าในสิ่งที่ฉันมีและอย่าอิ่มอกอิ่มใจ” เธอหวังว่าจะทุ่มเทเวลาและพลังงานทั้งหมดในโครงการอธิบายความจริงเพื่อบรรลุคำปฏิญาณที่จะช่วยท่านอาจารย์ในการช่วยเหลือสรรพชีวิต

เฮเลนเป็นผู้ฝึกรุ่นเยาว์จากเวียดนามที่เพิ่งเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่นาน เธอเอาชนะโรคที่มาจากกรรมด้วยการเข้าร่วมกลุ่มศึกษาฝ่าและฝึกท่า รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ฝึก เธอพูดว่า “ท่านอาจารย์ชำระร่างกายของฉันให้บริสุทธิ์” เธอเริ่มใส่ใจกับการฟาเจิ้งเนี่ยนและมองหาข้อบกพร่องของตนเอง “ฉันรู้สึกดีขึ้นหลังจากฝึกท่า และกลับมาเป็นปกติไม่นานหลังจากนั้น” สภาวะการบำเพ็ญของเธอมีเสถียรภาพมากขึ้น ลูกสาวและแม่ของเธอก็เริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

เฮเลนพูดว่า “ท่านอาจารย์จัดวางให้ฉันได้บำเพ็ญในสภาพแวดล้อมแบบกลุ่มนี้ ฉันได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากผู้ฝึกอื่น และมันทำให้การบำเพ็ญของฉันรุดหน้า ฉันรู้สึกว่าท่านอาจารย์รักทุกคนและปกป้องเราด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เธอได้เล่าการยกระดับในการบำเพ็ญจากการเข้าร่วมกิจกรรมอธิบายความจริงด้วย

ต้าฝ่าทำให้ฉันกล้าหาญและมั่นใจ

โอล์กาจากสตอกโฮล์มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามาเป็นสิบปีแล้ว ก่อนที่เธอจะเริ่มฝึก เธอเป็นคนเก็บตัวและไม่ชอบพูดคุยกับใคร เธอบอกว่าการได้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ และทำให้เธอกล้าหาญและมั่นใจมากขึ้น ตอนนี้เธอสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย

ในอดีตฉันอิจฉาคนที่แสดงความคิดเห็นได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติเหมือนกับการหายใจอย่างนั้น ฉันไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงสิ่งนี้ ประหนึ่งว่าการเปิดปากพูดอย่างมั่นใจไม่ใช่นิสัยของฉันเลย

ความปรารถนาของฉันคือการปฏิบัติตามหลักการแห่งความจริง-ความเมตตา-ความอดทนอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความมั่นคงแข็งแรงให้จิตสำนึกหลัก และตรึกตรองข้อบกพร่องของตัวเองอยู่เรื่อย ๆ เมื่อฉันบอกคนอื่นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าคืออะไร หรือแนะนำเสินยวิ่น ฉันจะเตือนตัวเองให้คำนึงถึงผู้อื่น และพูดและปฎิบัติตนเพื่อประโยชน์ของพวกเขา ฉันจึงจะไม่หลงทางในเส้นทางการบำเพ็ญของฉัน

“ฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่เพียงช่วยให้ฉันค่อย ๆ ยกระดับในบำเพ็ญเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ฉันพัฒนาความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่นด้วย ฉันไม่สามารถตอบแทนพระคุณของท่านอาจารย์ได้นอกจากต้องบำเพ็ญอย่างขยันขันแข็งและช่วยเหลือผู้คนให้มากยิ่งขึ้น”

บำเพ็ญให้ดีเพื่อช่วยเหลือผู้คน

โทมัสจากโกเธนเบิร์กเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1998 ในตอนนั้นเขาอายุ 15 ปี จากการบำเพ็ญมา 25 ปี เขาเรียนรู้ว่ามันจำเป็นที่จะต้องคิดว่าเราควรเดินให้ดีอย่างไรบนเส้นทางการบำเพ็ญในชีวิตประจำวัน

บางครั้งมันง่ายที่ผมจะอยู่ในกิจวัตรประจำวันทำเรื่องต่าง ๆ และถือว่าการช่วยเหลือสรรพชีวิตเป็นเพียงงานที่ต้องทำให้เสร็จ ผมตระหนักว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้คนเดินทางผิดในการบำเพ็ญ มันจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือสรรพชีวิตเลยและอาจเป็นอันตรายได้” เขายังพูดว่า “เมื่อผมให้ความสำคัญกับการศึกษาฝ่าและฝึกท่าเป็นอันดับแรก ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นมาก หมายความว่าผมต้องบำเพ็ญตนเองให้ดี ขจัดความเกียจคร้าน วิธีคิดของมนุษย์ และทัศนคติที่ผิด ๆ”

“เขาพูดถึงความเข้าใจบางอย่างที่มีในขณะโพรโมตเสินยวิ่น “ที่สำคัญคือผมต้องใส่ใจที่จะยกระดับจิตใจอย่างต่อเนื่องและรักษาความคิดที่ถูกต้อง และต้องมีการกระทำที่ถูกต้องด้วย” เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ทำงานด้านการตลาดออนไลน์และบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แต่เขาไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลย เขาบอกว่าเขามักรู้สึกเบิกบานราวกับว่าได้รับพลังงานมหาศาลจากเสินยวิ่น

เอาชนะความยากลำบากในที่ทำงาน

จางจากสตอกโฮล์มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามานาน 26 ปี เธอใช้วันหยุดสะสมของเธอเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมโพรโมตเสินยวิ่น เมื่อเธอกลับมาทำงาน เธอคาดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สบายใจหลายอย่างเกิดขึ้นในที่ทำงานซึ่งปกติจะอยู่ในสภาพสงบ เธอคิดที่จะลาออกแต่ก็เตือนตัวเองว่าเธอเป็นผู้ฝึก และความยากลำบากเหล่านี้กำลังช่วยเธอยกระดับจิตใจ เธอรู้สึกว่าต้องเรียนรู้ที่จะอดทน อย่างไรก็ตาม บททดสอบครั้งต่อไปมาถึงก่อนที่เธอจะผ่านบททดสอบแรก

เธอพูด “บ่ายวันหนึ่ง ฉันสะดุดล้มบนรถจักรยานไฟฟ้าของนายจ้าง ยางรถกระแทกหน้าอกซ้ายของฉันและมันเจ็บปวดเหลือทน ฉันพลิกตัวไม่ได้ตอนนอนในเวลากลางคืน ฉันกลัวที่จะไอ แค่หายใจก็ยังลำบาก เมื่อมองค้นหาจากภายใน ฉันพบความขุ่นเคืองใจ ฉันดูถูกคนอื่น ฉันแค่อยากได้ยินคำพูดที่ไพเราะ และไม่ชอบถูกวิพากษ์วิจารณ์ ฉันเตือนตัวเองให้บำเพ็ญจิตใจและความอดทนให้มากขึ้น”

เธอใช้เวลาศึกษาฝ่าและฝึกท่ามากขึ้น ในเวลาว่าง เธอจะไปหย่อนแผ่นพับที่ตู้รับจดหมายกับผู้ฝึกอื่น ๆ ทุกครั้งที่เธอถือถุงแผ่นพับ และเริ่มออกเดินทาง เธอจะรู้สึกหนัก แต่เมื่อเธอแจกแผ่นพับเสร็จแล้ว เธอรู้สึกเบาสบายขึ้นและเบิกบานอย่างน่าอัศจรรย์ ความเจ็บปวดในอกของเธอค่อย ๆ ลดลง “ในช่วงเวลาสั้นๆ สภาพแวดล้อมในที่ทำงานของฉันก็กลับมาเหมือนเดิมและความเจ็บปวดก็หายไป เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประสบการณ์ของฉันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมและความพิเศษของต้าฝ่า ฉันรู้สึกว่าท่านอาจารย์อยู่ข้าง ๆ ฉัน และคอยดูแลฉันเสมอเพื่อให้ฉันก้าวไปข้างหน้า”

การประชุมเสร็จสิ้นที่เวลา 16.00 น. ผู้ฝึกต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และบอกว่าพวกเขาหวังว่าจะขยันหมั่นเพียรในบำเพ็ญให้มากขึ้น และจะทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือผู้คนมากขึ้น และไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวัง