(Minghui.org) การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าของออสเตรเลียประจำปี 2023 จัดขึ้นที่โรงแรมโซฟิเทลในเมลเบิร์นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2023 โดยมีผู้ฝึกมากกว่า 1,200 คนจากพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ รวมถึงนิวซีแลนด์และเวียดนามเข้าร่วมงานประจำปีนี้ ผู้ฝึกอายุน้อยจนถึงผู้ฝึกสูงวัยจำนวน 18 คน ขึ้นเวทีเพื่อเล่าประสบการณ์การบำเพ็ญของพวกเขา รวมถึงวิธีที่พวกเขายกระดับด้วยการค้นหาจากภายใน และขจัดความยึดติดในชีวิตทั้งในที่ทำงานและในขณะเข้าร่วมในโครงการอธิบายความจริง

บรรยากาศดูสงบ สูงส่ง และน่าประทับใจ ผู้ฝึกหลายคนพูดว่าพวกเขาประทับใจเรื่องราวการบำเพ็ญที่ซื่อสัตย์และจริงใจ และได้รับแรงบันดาลใจจากการแลกเปลี่ยนความเข้าใจในหลักคำสอน ด้วยการเรียนรู้จากผู้อื่นและการเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน พวกเขาหวังว่าจะพากเพียรยิ่งขึ้นและช่วยเหลือผู้คนได้มากยิ่งขึ้น

การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญของออสเตรเลียประจำปี 2023 จัดขึ้นที่เมลเบิร์นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2023

ผู้ฝึกพูดถึงการยกระดับในการบำเพ็ญโดยนำหลักคำสอนไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างไร

ผู้ฝึกใหม่นำหลักการของฝ่าหลุนต้าฝ่าไปสู่การปฏิบัติ

ฟามเป็นผู้ฝึกชาวเวียดนามในเมลเบิร์น เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอค้นพบว่าการนำหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนมาปฏิบัติในการจัดการธุรกิจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เกินคาด

เธอพูดว่า “ฉันเคยเป็นผู้นำวงดนตรีสมัยยังเด็ก ฉันเคยเป็นผู้ควบคุมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัย ฉันเริ่มธุรกิจส่วนตัวเมื่อย้ายมาอยู่ที่ออสเตรเลีย แต่ฉันเป็นคนขี้โมโหและชอบใช้อำนาจกับคนอื่น อุปนิสัยของฉันดีขึ้นมากหลังจากเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า มันช่วยธุรกิจของฉันมาก โดยเฉพาะเมื่อเราต้องรับมือกับลูกค้าที่พิการ จากเจ้านายที่โกรธง่ายเปลี่ยนเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยมและเข้าอกเข้าใจ ผู้ร่วมงานมักแสดงความคิดเห็นว่า ฉันแตกต่างจากเจ้าของกิจการรายอื่นมาก เพราะเมื่อพวกเขาแสดงความกังวลหรือวิพากษ์วิจารณ์บริษัท ฉันไม่เคยโต้แย้ง ฉันอธิบายอยู่ตลอดว่าฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าและฉันจัดการบริษัทตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน บนเว็บไซต์ของบริษัทของฉันก็มีข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะเช่นนี้”

ฟามพูดว่า “เมื่อเร็ว ๆ นี้ แพทย์หลายคนลาออกไปทำงานให้กับบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งและเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 30 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาบอกฉันว่าอยากกลับมาทำงานให้ฉัน เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับแนวคิดของผู้ประกอบการที่มีเอกลักษณ์พิเศษของเรา และนี่คือสิ่งที่พวกเขาหาไม่ได้จากบริษัทอื่น”

ค้นหาจากภายในขณะโปรโมตเสินยวิ่น

หยางจากซิดนีย์พูดถึงวิธีที่เธอยกระดับจิตใจของเธอในขณะโปรโมตการแสดงเสินยวิ่น เธอพูดว่าแม้เธอจะอาศัยอยู่ในออสเตรเลียมานานกว่า 3 ทศวรรษ แต่อิทธิพลของวัฒนธรรมพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือ CCP ยังกลับมาเป็นครั้งคราว ครั้งหนึ่งผู้ฝึกคนหนึ่งที่มีไมตรีต่อกันมาช่วยเธอขายตั๋วที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ในขณะกำลังให้ข้อมูล พวกเขามีความคิดเห็นแตกต่างและถกเถียงกัน หลังจากผู้ฝึกคนนี้จากไป เธอรู้สึกว่าสนามรอบตัวของเธอเปลี่ยนไป วันนั้นทั้งคู่ขายตั๋วไม่ได้เลย

เธอไม่ให้อภัยผู้ฝึกคนนี้อยู่นาน เธอค้นหาจากภายในและพบปัญหาของตัวเอง เธอยึดติดกับตัวเองและยืนกรานที่จะพิสูจน์ว่าตัวเองถูกต้อง ดังนั้นสิ่งที่เธอพูดจึงไม่บริสุทธิ์ และไม่เพียงเธอไม่สามารถโน้มน้าวผู้ฝึกคนนี้ แต่เธอยังโกรธสิ่งที่หยางพูดด้วย เธอตระหนักว่าเธอจำเป็นต้องละทิ้งทัศนคติและอารมณ์ที่มีต่อผู้ฝึกคนนี้และคำนึงถึงทุกสิ่งด้วยความเมตตา

เธอพูดว่า “การยึดมั่นในจิตยึดติดคือความย่อหย่อนในการบำเพ็ญ และเป็นการไม่รับผิดชอบต่อการบำเพ็ญของตนเองรวมถึงการช่วยเหลือผู้คนด้วย ฉันดีใจที่ได้พบข้อบกพร่องของตัวเอง หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกราวกับว่าได้ขจัดภาระอันหนักอึ้งทิ้งไป”

ปล่อยวางจิตยึดติดกับความสะดวกสบายในขณะโพรโมต Ganjing World

เฉินจากซิดนีย์พูดว่าเธอไม่ได้ฝึกท่าในที่สาธารณะมา 3 ปีแล้วเนื่องจากการระบาดใหญ่ เธอเริ่มเกียจคร้านและลุกไม่ขึ้นในตอนเช้า และไม่ได้ฟาเจิ้งเนี่ยนในเวลากลางคืน หลังของเธอเริ่มปวด มันปวดมากขึ้นจนเธอก้มตัวลงไม่ได้และเดินอย่างยากลำบาก มันยากที่จะลุกขึ้นหลังจากนั่งลงไปแล้ว และเธอเจ็บหลังจนแทบทนไม่ไหวแม้เพียงแค่สะพายกระเป๋าเบา ๆ ที่ไหล่

ผู้ฝึกขอให้เธอไปตลาดเพื่อแจกแผ่นพับเกี่ยวกับ Ganjing World ที่เธอสัญญาว่าจะทำก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกแย่และตกลงที่จะไป พวกเขานั่งรถไฟสองชั่วโมงไปยังเมืองหนึ่ง หลังของเธอยังปวดอยู่ แต่เมื่อเธอลงจากรถไฟเธอก็ลืมเรื่องปวดหลังไปเลย ทั้งสองคนถือถุงแผ่นพับที่หนักมากแล้วแจกมัน พวกเขาวางแผ่นพับที่เหลือหลายร้อยใบไว้ตามร้านกาแฟ คลับ โรงแรม และซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่รอบ ๆ วันรุ่งขึ้นเธอตระหนักว่าหลังหายปวดแล้ว ความเจ็บปวดที่รบกวนจิตใจเธอมาสองสัปดาห์หายไปสิ้น ! เธอรู้สึกเบาและมีกำลังใจ

หลังจากนั้นไม่นาน เธอกลับไปฝึกที่สนามฝึกและฝึกท่าทุกเช้า “เมื่อฉันตั้งใจปล่อยวางความยึดติดในความสะดวกสบายแล้ว ฉันก็ลุกขึ้นมาตอนเที่ยงคืนแล้วฟาเจิ้งเนี่ยนได้เช่นกัน”

ค้นหาจากภายในขณะอธิบายความจริง

หยาหมิงเป็นแพทย์หนุ่มจากอินโดนีเซียที่ศึกษาในออสเตรเลียและย้ายไปนิวเซาท์เวลส์ ปีนี้เขาเจออุปสรรคในการช่วยเหลือโครงการอธิบายความจริงและยากที่จะไปต่อ เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เขาแก้ไขไม่ได้โดยลำพังและรู้สึกหมดหนทาง “ผมเริ่มค้นหาจากภายใน—อะไรทำให้ผมอึดอัด ในที่สุดผมค้นพบจิตยึดติดมูลฐาน—ความยึดติดต่อตัวตน ผมใส่ใจความสามารถของตัวเองมากเกินไปและดูถูกผู้อื่น สิ่งนี้นำไปสู่ความเย่อหยิ่งทะนงตนและมีนิสัยชอบเน้นแต่ความผิดของคนอื่น ความยึดติดของผมผลักไสคนอื่นออกไป ดังนั้นผมจึงประสานงานกับผู้ฝึกอื่นไม่ได้”

เขารีบเปลี่ยนวิธีคิดและเตือนตัวเอง “ผมไม่ได้อยู่เหนือใคร ผมต้องมองด้านดีของพวกเขา แทนที่จะมองหาแต่ด้านลบของพวกเขา ทันใดนั้นผมรู้สึกถึงพลังแข็งแกร่งที่ไม่เคยมีมาก่อนที่พันธนาการผมไว้กับทุกคนอย่างเหนียวแน่น เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของต้าฝ่าและผมเป็นเพียงอนุภาคหนึ่งในนั้น”

ประสบการณ์นี้ทำให้เขาเข้าใจการบำเพ็ญลึกซึ้งยิ่งขึ้น “การบำเพ็ญคือการขจัดวิธีคิดและความยึดติดของมนุษย์ เมื่อมองย้อนกลับไป ผมโง่ที่สนใจแต่ข้อบกพร่องของคนอื่น ผมไม่เห็นความยึดติดพื้นฐานของตัวเอง ผมรับรู้ว่าความยึดติดเหล่านี้อาจมีอยู่แล้วก่อนที่ผมจะมาสู่โลกนี้ มันอาจเกี่ยวข้องกับความเสื่อมของสถานที่ที่ผมจากมา จิตยึดติดเหล่านี้อยู่ในสนามของผมมาโดยตลอด และตรวจพบได้ยากเนื่องจากกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว การขจัดความยึดติดเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่เช่นนั้นพวกมันจะสะสมเหมือนก้อนหิมะและกลายเป็นความทุกข์ยากใหญ่หลวง”

ริชาร์ดอายุ 40 ปีและเป็นแพทย์ชาวตะวันตก ในปีนี้เขาเข้าร่วมในโครงการช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวของผู้ฝึกรุ่นเยาว์ที่ถูกจับกุมในประเทศจีนเนื่องจากฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาประสบกับบททดสอบอยู่ตลอดขณะที่อธิบายความจริงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เขาเตือนตัวเองได้ว่าเขาเป็นผู้ฝึกและสามารถฝ่าฟันอุปสรรคในการอธิบายความจริงให้กับ VIP

เขาพูดว่าเป็นเพราะเขาไตร่ตรองถึงบทเรียนที่เจ็บปวดหลายครั้งที่ได้เรียนรู้หลังจากเริ่มบำเพ็ญในปี 1999 “การสูญเสียมากมายเหล่านี้เป็นเพราะผมไม่ได้จัดการกับความขัดแย้งระหว่างผู้ฝึกอย่างถูกต้อง ผมตระหนักด้วยว่าตัวเองไม่ได้พยายามและไม่ได้แก้ไขความขัดแย้งถ้ามุ่งเน้นว่าความคิดเห็นของตัวเองถูกต้องที่สุด ผมควรมองหาความคิดที่ดีกว่าของอีกฝ่าย เพื่อพวกเราจะได้ทำงานร่วมกันแทนที่จะบังคับให้พวกเขาทำตามความคิดของผม นี่ช่วยแยกแยะว่าอะไรถูกจัดวางโดยท่านอาจารย์หรืออะไรถูกจัดวางโดยอิทธิพลเก่า”

ผู้ฝึกใหม่ : การฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าช่างวิเศษเหลือเกิน

เฉินจากควีนส์แลนด์พูดว่าเธอได้ยินเกี่ยวกับต้าฝ่าในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ หลังจากที่เธอเริ่มอ่านจ้วนฝ่าหลุน เธอตระหนักว่าต้าฝ่าคือสิ่งที่เธอตามหา และเธอก็เริ่มฝึก “ร่างกายของฉันเบาขึ้น—มันรู้สึกเหมือนขาของฉันไร้น้ำหนัก ! มันเป็นความรู้สึกที่อัศจรรย์ ฉันไม่รู้สึกเหนื่อยอีกแล้ว ฉันมีความสุขทุกวัน ราวกับว่าเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง !”

วันหนึ่ง เธอพบว่าเนื้องอกขนาดเท่าถั่วลิสง 3 ก้อนที่อยู่บนร่างกายของเธอมานานกว่าทศวรรษได้หายไปแล้ว “ต้าฝ่าช่างพิเศษจริง ๆ ฉันโชคดีมากที่ได้พบต้าฝ่า !”

เธอหยุดร้องไม่ได้ในขณะพูดแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญ เรื่องราวความกระตือรือร้นของเธอเมื่อแรกเริ่มฝึกโดนใจผู้ฟัง ผู้ฝึกปรบมือและหลายคนเช็ดน้ำตา