(Minghui.org) ฉันเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอายุ 71 ปีจากมณฑลเฮย์หลงเจียง ฉันเรียนชั้นประถมได้เพียงสามปี จึงอ่านหนังสือได้แต่เขียนไม่ได้ ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหลังเทศกาลประดับโคมของจีนในปี 1999

หลายคนแนะนำให้ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันจึงไปที่สนามฝึกสองสามครั้งและฝึกบ้างหยุดบ้างเป็นเวลาสองปี เพื่อนผู้ฝึกให้ฉันยืมหนังสือหลักธรรมเพื่อความสำเร็จสมบูรณ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้ฉันได้ศึกษาคำสอน ฉันวางหนังสือไว้บนจักรเย็บผ้าและไม่ได้แตะอีกเลยเป็นเวลาหนึ่งปี

เพื่อนของลูกสาวของฉันคนหนึ่งมาเล่นกับลูกและเห็นหนังสือ เธอหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทันที จากนั้นก็ขอให้ฉันสอนท่าฝึกให้เธอ ฉันพูดว่า “ไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าฝึกท่าอย่างไร ฉันจะให้ลูกสาวของฉันพาลุงของลูกมาสอนเธอนะ”

อัศจรรย์มาก ทันทีที่ฉันพูดเช่นนี้ ลุงคนที่เพิ่งพูดถึงก็ปรากฏตัวและพาคนสองสามคนมาด้วยเพื่อสอนท่าฝึกให้พวกเรา ฉันก็ฝึกกับพวกเขาด้วยเช่นกัน

ฉันหายจากการเจ็บป่วยทั้งหมดภายในห้าวัน ทั้งโรคตา กระดูกคอเสื่อม ภาวะกระดูกเจริญเกินที่ขา และอาการปวดแขน ซึ่งกระทบต่อการทำงานในชีวิตประจำวัน คนในหมู่บ้านของฉันยากจนมากและเราไม่มีเงินพอที่จะไปหาหมอ ฉันมักจะเป็นหวัด มีไข้ ปวดหัว และ/หรือปวดฟันบ่อย ๆ ฝ่าหลุนต้าฝ่าน่าทึ่งมาก ฉันอาการดีขึ้นหลังจากฝึกเพียงห้าวันและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันเสียใจที่ไม่ฟังผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าและเริ่มฝึกก่อนหน้านี้

ก่อนที่ฉันจะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันเป็นคนดื้อรั้นและมีเรื่องขัดแย้งกับเพื่อนบ้านอยู่เสมอ หลังจากฉันอ่าน จ้วนฝ่าหลุน ซึ่งเป็นหนังสือเล่มหลักของฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันก็เริ่มประพฤติตนตามหลักความจริง-ความเมตตา-ความอดทน

ฉันกลายเป็นคนที่มีเมตตาและใจดีกับเพื่อนบ้าน

วันหนึ่ง เพื่อนบ้านของฉันที่อยู่ฝั่งตะวันออกของบ้านเริ่มอาเจียนเป็นเลือดจำนวนมาก ทำให้แม่วัยชราของเขาตกใจและร้องไห้ ภรรยาของเขาหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ฉันกับสามีบอกว่าการช่วยคนคนหนึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงให้พวกเขายืมเงินที่เราเก็บไว้ทำฟาร์ม

อีกครั้งหนึ่ง สามีของฉันขอให้เพื่อนที่เคยเรียนห้องเดียวกันซึ่งทำงานที่ธนาคารช่วยเขาเรื่องกู้เงิน 7,000 หยวน เราใช้ 3,000 หยวนไปกับการทำฟาร์ม คนในหมู่บ้านรู้ว่าเราได้เงินกู้มาจึงมาขอยืมเงินเรา เราให้คนที่ยากไร้ยืมเงินกู้ที่เหลืออีก 4,000 หยวน

มีปัญหากับเพื่อนบ้าน

เราประสบปัญหากับเพื่อนบ้านสองหลัง ครอบครัวของเสี่ยวฉินย้ายกลับมาที่หมู่บ้านของเราเพราะสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปด้วยดีสำหรับพวกเขาและพวกเขายากจนมาก พวกเขาอาศัยอยู่กับเด็กเล็กคนหนึ่งกับพ่ออายุ 80 ปี ไป๋อาศัยอยู่กับแม่วัยชราที่ป่วย ฉันรู้สึกไม่ดีกับทั้งสองครอบครัว

วันหนึ่งฝนเริ่มเทลงมา ฉันกับสามีกำลังเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองอยู่และต้องหยุดเพราะฝนตก วันต่อมา เราสังเกตว่าถั่วเหลืองที่เราเก็บเกี่ยวไว้มีบางส่วนหายไป มีรอยเท้าไปทางไร่ถั่วเหลืองของไป๋ เราไปหาเจ้าหน้าที่บริหารจัดการเพื่อนบ้านเพื่อรายงานเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ไปที่ไร่และเชื่อว่าไป๋เป็นคนเอาถั่วเหลืองไป เราไปที่บ้านของไป๋ เขาพูดว่า “ถั่วเหลืองอยู่ในที่ดินของผมแต่ผมไม่ได้เอามา”

กลับมาถึงบ้าน ฉันสงสัยว่า “ใครเป็นคนทำ” ลูกสาวคนโตของฉันพูดว่า “ภรรยาของเสี่ยวฉินถามลูกเกี่ยวกับถั่วเหลืองของเรา และลูกบอกว่าเราจะรอจนพื้นดินแห้งแล้วค่อยขนมันออกไป” ลูกสาวของฉันคิดว่าภรรยาของเสี่ยวฉินเป็นคนเอาถั่วเหลืองไป ฉันพูดว่า “เราไม่ต้องการถั่วเหลืองแล้ว” ฉันรู้สึกเสียใจเรื่องแม่ของไป๋และพ่อที่แก่ชราของเสี่ยวฉินกับลูกของเขา เป็นความเมตตาจากใจของฉันที่มีต่อทั้งสองครอบครัว

ก่อนหน้านี้มีฝนตกพักหนึ่ง แม้แต่รถเปล่าก็ยังติดอยู่ในไร่ หวังไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถของเขาที่มีถั่วเหลืองอยู่เต็มคันได้ เขาขอให้สามีของฉันใช้รถของเราดึงเขาออกมา หลังจากที่สามีของฉันช่วยเขา ล้อรถของเราแตกและขยับไม่ได้ หวังไม่ได้ขอบคุณเราด้วยซ้ำ หลังจากหวังขนของออกจากรถของเขาจนหมด เขาก็ช่วยไป๋ขนย้ายถั่วเหลืองที่ขโมยไปจากที่ดินของเรา ฉันไม่รู้สึกสะเทือนใจกับสิ่งเหล่านี้เลย

ท่านอาจารย์กล่าว :

“สสารทั้ง 2 ชนิดนี้ คงอยู่ในเวลาเดียวกัน ระหว่างสสาร 2 ชนิดนี้ สัมพันธ์กันอย่างไร เต๋อสสารชนิดนี้คือพวกเราได้มาจากการทนทุกข์ ได้แบกรับการกระทบกระทั่ง ได้ทำเรื่องดี แต่สสารสีดำนั้นคือคนได้ทำเรื่องชั่ว ทำเรื่องไม่ดี รังแกคน จึงได้รับสสารสีดำชนิดนี้ ทุกวันนี้ไม่เพียงเห็นแต่ความโลภ บางคนทำแต่เรื่องชั่ว เพื่อเงินทอง เรื่องไม่ดีอะไรล้วนทำ : ฆ่าคนตัดชีวิต ใช้เงินซื้อชีวิต รักร่วมเพศ เสพยาเสพติด เป็นต้น เรื่องอะไรล้วนมี เวลาที่คนทำเรื่องที่ไม่ดี ก็จะสูญเสียเต๋อ” (บทที่ 1 จ้วนฝ่าหลุน)

สิ่งที่ท่านอาจารย์กล่าวข้างต้นหยั่งรากลึกอยู่ในใจฉัน สำหรับฉันแล้วท่านอาจารย์บอกให้ทำแต่ความดี ไม่ทำความชั่วใด ๆ และให้สั่งสมกุศล แม้คุณจะสูญเสียมากมายโดยรู้ตัวแต่ก็โกรธไม่ได้ ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามา 23 ปีแล้ว และโดนเอาเปรียบหลายครั้ง ไม่ว่าอย่างไร ฉันไม่เคยพลาดโอกาสที่จะศึกษาฝ่าหรือฝึกท่า แม้แต่ตอนที่ฉันถูก [ประทุษร้ายและกักตัว] ในศูนย์กักกันหรือค่ายบังคับใช้แรงงาน [เพราะยังคงยึดมั่นต่อความเชื่อในฝ่าหลุนต้าฝ่าของฉัน]

ประสบการณ์ที่อัศจรรย์

สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับเราในฤดูหนาวปี 2015 ฉันล้มเพราะพื้นเป็นน้ำแข็ง ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วก็มองไปที่น้ำแข็งบนพื้นดิน และคิดว่า “ถ้าคนแก่ล้มจะเป็นอย่างไร โปรดใช้ความร้อนจากมิติอื่นมาละลายน้ำแข็ง”

เช้าวันต่อมา เพื่อนผู้ฝึกคนหนึ่งมาหา “จากบ้านของฉันมาถึงบ้านคุณ” เธอพูด “ฉันเห็นแต่น้ำแข็งเท่านั้น พื้นดินข้างบ้านของคุณที่แสงอาทิตย์ส่องถึงก็เป็นน้ำแข็งด้วย แต่น้ำแข็งบนพื้นฝั่งที่ห่างจากบ้านละลายเป็นโคลนหมดเลย”

ผู้ฝึกอีกคนหนึ่งมาแต่เช้าในวันรุ่งขึ้นและรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน “ใครราดน้ำร้อนบนน้ำแข็ง ไม่มีน้ำแข็งเลย” ฉันพูด “เมื่อวันก่อน ฉันลื่นล้มเพราะน้ำแข็ง ฉันมองไปที่ท้องฟ้าแล้วก็มองน้ำแข็ง และคิดว่า 'ขอให้ความร้อนจากอีกมิติหนึ่งละลายน้ำแข็ง' ฉันไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้น แต่มันละลายจริง ๆ ด้วย !”

ฉันแบ่งปันสิ่งมหัศจรรย์ที่ได้ประสบมาบางส่วนตลอดช่วง 23 ปีของการบำเพ็ญเพื่อยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าและช่วยเหลือสรรพชีวิต ฉันขอขอบพระคุณความเมตตากรุณาของท่านอาจารย์ ซึ่งฉันไม่สามารถตอบแทนได้หมด สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือบำเพ็ญให้ดีและช่วยเหลือผู้คนให้มากขึ้น