(Minghui.org)

สวัสดีท่านอาจารย์ที่เคารพ !

สวัสดีเพื่อนผู้ฝึก !

ฉันบำเพ็ญมา 24 ปีแล้ว และคิดว่าตัวเองโชคดีมาก ต้าฝ่าและท่านอาจารย์คอยสนับสนุนฉันเสมอ และมอบพลังให้ฉันเอาชนะความสูญเสียในชีวิตและจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยวิธีที่ถูกต้อง ต้าฝ่าเป็นแหล่งของแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันเหือดแห้งให้ฉันดึงพลังและสติปัญญาออกมาได้ตลอดเวลา

หลายสิ่งหลายอย่างที่เขียนในจ้วนฝ่าหลุน ตั้งแต่การชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ การเปิดตาทิพย์ จนถึงการพัฒนาความสามารถพิเศษ เกิดขึ้นกับฉันในช่วงหลายปีของการบำเพ็ญ ท่านอาจารย์อยู่ที่นั่นเสมอ ท่านอาจารย์คอยช่วยเหลือและนำทางฉันเสมอ

ฉันพยายามเข้าร่วมในโครงการสำคัญเพื่อเผยแพร่ฝ่า อธิบายความจริงและช่วยเหลือสรรพชีวิต แต่หมิงฮุ่ยเป็นโครงการแรกของฉัน ฉันโชคดีที่ได้เริ่มทำงานกับหมิงฮุ่ยตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ฉันต้องการทำงานให้เว็บไซต์นี้จริง ๆ และเมื่อหัวหน้ากองบรรณาธิการเสนองานแปลให้ฉัน ฉันตอบรับด้วยความยินดี

ในช่วงหกเดือนแรก ฉันกลัวอยู่เสมอว่าจะไม่ได้รับบทความให้แปลอีกแล้ว เพราะฉันเข้าใจว่าคุณภาพการแปลของฉันไม่ดีพอ ฉันตรวจสอบการแปลของตัวเองหลายครั้ง เมื่อบทความถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ ฉันจะเปรียบเทียบกับเนื้อหาของฉันและดูข้อผิดพลาด แล้วฉันจะเรียนรู้เพื่อที่จะไม่ทำผิดซ้ำอีก

ซินซิ่งของฉันค่อย ๆ ยกระดับ และคุณภาพการแปลของฉันก็ดีขึ้นตาม เมื่อเวลาผ่านไป ฉันเริ่มแปลได้เร็วขึ้นและสามารถแปลบทความได้ 4 – 5 บทความต่อสัปดาห์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ วันหนึ่งผู้ประสานงานโครงการขอให้ฉันเริ่มแปลบทความที่สำคัญกว่าเดิมและยาวกว่าเดิม ความคิดหนึ่งกวนฉันทันที : “โอ้ ฉันทำงานแปลทุกวันอยู่แล้ว เข้าร่วมในโครงการอื่นอีกหลายโครงการ ฉันเพิ่งตกลงทำงานที่สำคัญในโครงการใหม่ แล้วฉันจะรับผิดชอบมากกว่านี้ได้อย่างไร” แต่ทันทีที่ความคิดนี้โผล่ขึ้นมา ฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่ความคิดของฉันจริง ๆ ชัดเจนว่าท่านอาจารย์เห็นว่าฉันสามารถทำงานที่สำคัญยิ่งขึ้นให้เว็บไซต์หมิงฮุ่ยได้และให้โอกาสนี้แก่ฉัน แล้วฉันจะปฏิเสธท่านอาจารย์ได้หรือ

ฉันคิดว่าเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ ที่สำคัญคือให้ระลึกได้อย่างชัดเจนว่าเราได้รับโอกาสยกระดับในการบำเพ็ญแล้ว ที่สำคัญเป็นพิเศษคือต้องพยายามขจัดจิตยึดติดบางอย่างที่จะขัดขวางการทำหน้าที่ใหม่ให้ดีออกไป และเราต้องเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ปล่อยให้ความคิดที่เห็นแก่ตัวเกิดขึ้นจากความคิดของมนุษย์ที่เสื่อมทราม ความเกียจคร้าน และการยึดติดต่อความสบาย

ขณะทำงานให้กับเว็บไซต์ของเรา ฉันพยายามดูแต่ละความคิดของฉัน ความคิดทางโลกของคนธรรมดาสามัญ การต่อสู้ทางอารมณ์ใด ๆ ความขุ่นเคืองหรือการตัดสิน อาจเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้ที่มาอ่านบทความนี้ในภายหลัง เพราะความคิดดังกล่าวจะทิ้งพลังงานที่ติดแน่นและสกปรกไว้ ฉันพยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงอารมณ์หรือร้องไห้เมื่อฉันรู้สึกเห็นอกเห็นใจเพื่อนผู้บำเพ็ญที่ถูกประทุษร้ายอย่างโหดเหี้ยม หรือบางคนที่หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานอย่างหนักก็สามารถพบจิตยึดติดของเขาได้ในที่สุด หรือเมื่อบทความนั้นบรรยายว่าท่านอาจารย์ช่วยสรรพชีวิตด้วยความเมตตาอย่างไร ฉันพูดกับตัวเองอย่างเข้มงวดว่า: "เธอเป็นศิษย์ของต้าฝ่าแบบไหนถ้าเธอร้องให้" หลายครั้งฉันเห็นผ่านตาทิพย์ว่าพวกชีวิตชั่วร้ายถูมือของพวกมันด้วยความสนุกสนานเมื่อพวกเราร้องไห้

การค้นหาจิตยึดติด

ฉันเริ่มคิดว่าทำไมตั้งแต่เริ่มทำงานในโครงการหมิงฮุ่ย ฉันจึงกังวลมากว่าจะไม่สามารถแปลงานได้ตามคุณภาพที่ต้องการและจะถูกขอให้เลิกทำ ทำไมแม้กระทั่งตอนนี้ หลังจากผ่านไป 16 ปีแล้ว เมื่อฉันได้รับบทความที่ซับซ้อนมากขึ้นให้แปล ฉันยังกังวลอีกว่าจะทำไม่สำเร็จ ฉันคิดว่าทำไมฉันยังกังวลอยู่อีก

ดูแวบแรก คุณอาจคิดว่าดี เพราะฉันเข้าร่วมโครงการอย่างจริงจังและกังวลเกี่ยวกับคุณภาพงานของฉัน ในขณะเดียวกัน ฉันรู้ว่าเมื่อมีความรู้สึกก็คือมีจิตยึดติด และถึงเวลาค้นหาและขจัดมันออกไป ไม่นานนี้ ในที่สุดฉันก็พบปัญหาของตัวเองและเริ่มจัดการกับมันอย่างจริงจัง

ฉันเริ่มคิดว่า “สมมติว่าฉันทำผิดพลาดและผู้เรียบเรียงชี้ให้ฉันเห็น บางทีอาจทำให้ฉันอับอายและบอกกับผู้ประสานงานหลัก ก็แค่นั้น ! ง่ายมาก : ฉันไม่ต้องการฟังคำพูดที่ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับฉันหรือคำวิจารณ์ ! ฉันเห็นความยโสของฉันและความคิดที่ว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นปรากฏออกมาอย่างชัดเจน แม้แต่ความคิดที่ว่าฉันอับอายและไม่ต้องการให้ผู้เรียบเรียงใช้เวลานานในการแก้ไขการแปลของฉันก็ไม่ถูกต้อง นี่ก็แสดงออกถึงความยโสที่ไม่เปิดเผยของฉัน ! ถ้าฉันไม่มีจิตยึดติดนั้น ฉันก็จะไม่มีความกลัว !

ที่จริงมันคือความยโสและความกลัวเสียหน้าที่ถูกซ่อนไว้อย่างชาญฉลาดเบื้องหลังความต้องการให้งานแปลมีคุณภาพสูง !

ฉันรู้ว่าฉันโชคดีมากที่มีส่วนในงานของเว็บไซต์หมิงฮุ่ย เพราะเมื่อฉันแปลงาน ฉันจะพิจารณาเรื่องราวการบำเพ็ญทั้งหมดในใจ เปรียบเทียบพฤติกรรมของคนอื่นกับตัวเอง และหาว่าต้องปรับปรุงตัวเองที่ใดบ้าง

ไม่นานมานี้ฉันได้แปลประสบการณ์ของผู้หญิงสองคนที่ถูกตำรวจจับขณะแจกเอกสารของต้าฝ่า ผู้คุมเริ่มสอบปากคำพวกเขา และพยายามค้นหาชื่อและที่อยู่ของพวกเขา หนึ่งในนั้นปิดปากเงียบ ขณะที่คนที่สองบอกทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอและผู้ฝึกอื่นในทันที เธอถูกปล่อยตัวให้กลับบ้านได้ แต่คนที่เธอหักหลังถูกส่งตัวไปศูนย์กักกัน สิ่งที่ผู้ฝึกพูดตอนแยกจากเพื่อนผู้ฝึกที่ทรยศเธออยู่ในใจฉันตลอดไปเพื่อเป็นตัวอย่างให้ปฏิบัติตาม : “อย่ากังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้เธอบำเพ็ญและทำสามสิ่งต่อไป เป็นความผิดของฉันเองที่ถูกจับเพราะฉันไม่ระมัดระวัง ฉันขอโทษที่พฤติกรรมของฉันทำให้คุณทรยศ”

ฉันเข้าใจว่าตัวเองห่างไกลจากผู้ฝึกคนนั้นมากเพียงใดที่ไม่ตำหนิผู้อื่น มีแต่ค้นหาจากภายใน แม้ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงเช่นนั้น

หากความขุ่นเคืองหรือความยโสของฉันถูกกระทบ ฉันยังนิ่งเฉยอยู่ได้แต่ใจของฉันอาจไม่สงบอยู่ตลอดเวลา ฉันค้นหาจากภายในอยู่เสมอ บางครั้งดูเหมือนว่าไม่ได้ผิดในส่วนของฉัน แต่ฉันรู้ว่าสถานการณ์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์บางอย่างเสมอ เพื่อให้ฉันค้นหาบางสิ่งในตัวเองและขจัดมันทิ้งไป ไม่เคยมีเวลาใดเลยที่ใช้เครื่องมือวิเศษที่ท่านอาจารย์มอบให้คือการค้นหาจากภายในแล้วฉันจะหาจิตยึดติดของของตัวเองไม่ได้ แน่นอน มันเกิดขึ้นโดยที่ฉันผ่านการทดสอบด้วยเส้นทางที่ควรจะเป็นคือด้วยความสงบ ปราศจากการแสดงความรู้สึกใด ๆ กระทั่งผ่านด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นจิตใจฉันก็รู้สึกปลาบปลื้มอย่างเงียบ ๆ

ฉันพยายามจำคำพูดของท่านอาจารย์อยู่เสมอ :

“เมื่อประสบกับความขัดแย้ง ไม่ว่าฉันจะถูกหรือผิด ก็สามารถจะพิจารณาตัวเองว่า เรื่องนี้ฉันมีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง ใช่หรือไม่ว่าฉันมีอะไรที่ไม่ถูกต้องแล้ว ล้วนพิจารณากันอย่างนี้ ความคิดอันดับแรกคือพิจารณาตนเอง พิจารณาปัญหา หากใครไม่เป็นอย่างนี้ ท่านก็ไม่ใช่คนที่บำเพ็ญต้าฝ่าที่แท้จริง นี่คือเคล็ดลับของการบำเพ็ญ นี่เป็นเอกลักษณ์ของการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าเรา พอประสบกับเรื่องอะไร ความคิดแรกคือพิจารณาตนเองก่อน นี่จึงเรียกว่า “ค้นหาจากภายใน”” (“อะไรคือศิษย์ต้าฝ่า” การบรรยายาฝ่าที่นิวยอร์ก ค.ศ. 2011)

เมื่อฉันเริ่มทำงานให้กับเว็บไซต์หมิงฮุ่ย วันหนึ่งขณะนั่งสมาธิ ฉันเห็นผ่านตาทิพย์อย่างชัดเจนว่าในพื้นที่หนึ่งมีผู้คนมากมาย พวกเขาทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อคลุมหลวม ๆ บางคนสวมมงกุฎบนศีรษะ พวกเขานั่งบนพื้นเป็นรูปครึ่งวงกลม ในห้องที่มีแสงสลัว ฉันรู้ว่าตัวเองอยู่ที่นั่นแต่มองไม่เห็นตัวเอง ฉันรู้สึกว่าคนเหล่านี้กำลังรอบางอย่างจากฉันอยู่ แล้วฉันก็เห็นมือของตัวเองกำลังถือแก้วที่มีน้ำใสแจ๋วใบใหญ่ ฉันยื่นแก้วใบนี้ให้คนที่นั่งอยู่ใกล้ฉันที่สุด เขาหยิบมันขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง จิบน้ำแล้วยื่นให้คนที่อยู่ถัดไปอย่างระมัดระวัง ด้วยความระมัดระวังในการส่งต่อแก้วใบนี้ให้กันและกัน ฉันก็ตระหนักว่าสิ่งที่คนเหล่านี้กำลังรอคอยอยู่ด้วยความกระตือรือร้นนั้นคืออะไร สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าน้ำใสแจ๋วนี้เป็นสัญลักษณ์ของบทความในเว็บไซต์หมิงฮุ่ย บางทีบทความที่ใสสะอาดของเว็บไซต์หมิงฮุ่ยไม่เพียงจำเป็นสำหรับสรรพชีวิตในโลกของเราเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อผู้ที่เฝ้ารอความช่วยเหลือด้วยความหวังในมิติอื่นด้วย

ท่านอาจารย์กล่าว :

“ศิษย์ต้าฝ่า คือเทพที่ลงมายังโลกโดยมีภาระหน้าที่ ช่วยอาจารย์ในการช่วยเหลือสรรพชีวิต แบกรับภาระหน้าที่ช่วยเหลือสรรพชีวิตที่ลงมายังโลก” (การบรรยายธรรมที่ฝ่าฮุ่ยนิวยอร์ก ปี 2016)

ประสบการณ์ที่แบ่งปันทั้งหมดเป็นเพียงการรับรู้ในระดับของฉันเท่านั้น

ขอบคุณท่านอาจารย์ !

ขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก !

(นำเสนอที่การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของทีมหมิงฮุ่ยหลายภาษา)