บรรยายธรรม ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยคานาดา 2005

หลี่ หงจื้อ

22 พฤษภาคม ค.ศ. 2005

(เสียงปรบมือดังกึกก้อง) สวัสดีทุกท่าน (เสียงปรบมือ) (สวัสดีท่านอาจารย์)

ข้าพเจ้านึกย้อนกลับไป เมื่อก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999ฝ่าฮุ่ยครั้งนั้นของพวกเรา ก็จัดอยู่ที่นี่ (เสียงปรบมือดังก้อง)ในขณะนั้นการปราบปรามที่ชั่วร้ายของคอมมิวนิสต์จีนกำลังจะเริ่มต้นข้าพเจ้าได้พูดกับทุกท่านหนึ่งประโยค ข้าพเจ้าพูดว่าความสงบนิ่งไม่หวั่นไหวสามารถสยบ ความหวั่นไหวนับหมื่น (อุปมา: จิตใจที่ไม่หวั่นไหวสามารถเอาชนะทุกๆ สถานการณ์)(เสียงปรบมือดังก้อง) แน่ละ ผู้ฝึกบางคนสามารถเข้าใจได้บางคนกลับเข้าใจเป็นว่า ไม่ต้องทำอะไรเลยอะไรก็ไม่ทำทั้งนั้นแล้ว(หัวเราะ) ( ที่ประชุมหัวเราะ) ความสงบนิ่งหรือไม่หวั่นไหว หมายถึง ความคิด และความเชื่อที่ถูกต้อง ไม่หวั่นไหวไม่ใช่หมายความว่าภาระในการช่วยเหลือสรรพชีวิต และการยกระดับตนเองในท่ามกลางความยากลำบาก บนเส้นทางการบำเพ็ญก็ไม่เดินกันแล้วนั่นจะใช้ได้หรือไม่ว่าจะทำอย่างไรเนื่องจากเป็นการบำเพ็ญใช่ไหม แต่ละคนต่างมีการรับรู้ไม่เหมือนกันในการก้าวเข้ามาสู่ต้าฝ่ายังมีจิตยึดติดในหมู่คนธรรมดาสามัญในระดับต่างๆกันในขั้นตอนของการบำเพ็ญ มีจิตมนุษย์มากมายที่ยากจะทิ้งไป ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดการรับรู้ และความเข้าใจต่อฝ่า แตกต่างกันดังนั้นในความยากลำบากครั้งนี้ จึงมีการแสดงออกมาอย่างเต็มที่ของผู้ฝึก ต่อการรับรู้ฝ่าเอยมีจิตยึดติดมากน้อยเท่าไรเอยสภาพการณ์ต่างๆนานาที่แสดงออกมาในระหว่างการประทุษร้ายนั้นทุกท่านก็มองเห็นได้หมด แล้วการประทุษร้ายครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยัดเยียดให้กับพวกเราซึ่งไม่อาจยอมรับได้แต่จากการประทุษร้ายนั้นก็ทำให้มองเห็นความบกพร่องในการบำเพ็ญและได้มองเห็นด้านที่ยอดเยี่ยมของศิษย์ต้าฝ่าผู้ที่สามารถก้าวพร้อมกับอาจารย์มาจนถึงวันนี้สามารถเดินข้ามการประทุษร้ายมาได้จึงยอดเยี่ยมมาก (เสียงปรบมือกึกก้อง)

ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยบอกว่าในการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่านั้น หากไม่มีการประทุษร้ายครั้งนี้การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งแน่ละนี่เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วไปพูดถึงมันอีกก็จะไม่ค่อยมีความหมายมากมายอะไรแต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ในสภาพการณ์นี้ศิษย์ต้าฝ่าที่แท้จริงที่สามารถยืนหยัดตนเองอยู่ในฝ่ายกระดับตนเองช่วยเหลือสรรพชีวิตในระหว่างที่คัดค้านการประทุษร้ายและสามารถก้าวมาจนถึงวันนี้นั้น ช่างยอดเยี่ยมจริงๆทุกท่านได้มองเห็นแล้วว่าการประทุษร้ายครั้งนี้ ช่างชั่วร้ายเพียงไรอำมหิตเพียงไรต่ำทรามเพียงไรมันยังมีลักษณะเฉพาะที่ต่างกันอยู่จุดหนึ่ง กับการประทุษร้ายศิษย์ของเทพหรือพระพุทธในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานั่นคือการประทุษร้ายไม่ว่าครั้งไหนในประวัติศาสตร์ ก็ล้วนทำอย่างเปิดเผยแต่ทุกวันนี้พรรคชั่วคอมมิวนิสต์ มีประสบการณ์การประทุษร้ายประชาชนอย่างชั่วร้ายและวิธีการอันธพาลในประวัติศาสตร์ นานาชนิดอย่างเพียบพร้อมดังนั้นการประทุษร้าย การปราบปรามอย่างชั่วร้ายและวิธีการมากมายในครั้งนี้ล้วนทำแบบแอบซ่อนดำเนินการในสภาพที่ไม่อาจบอกให้คนรู้ได้ดังนั้นการที่จะบอกให้ชาวโลกรู้เรื่องนี้ทำให้สังคมตกตะลึงทำให้ชาวโลกโกรธเคืองการประทุษร้ายครั้งนี้หรือให้ออกเสียงสนับสนุนศิษย์ต้าฝ่านั้นดูเหมือนว่าจะทำได้ยากมากเพราะพวกชั่วร้ายกำลังปิดบังความจริงแต่การลงมือประทุษร้ายนั้นชั่วร้ายมากนี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนนี่คือประสบการณ์ที่ชั่วร้ายที่สุดที่พรรคชั่วคอมมิวนิสต์ในร้อยปีมานี้มีอยู่อย่างเพียบพร้อม และกำลังปิดบังอำพรางพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของการประทุษร้ายของพวกมันอย่างเต็มที่

หรือพูดได้ว่า ความยากลำบากครั้งนี้ที่ยัดเยียดให้กับศิษย์ต้าฝ่านั้นไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เมื่อตอนเริ่มการประทุษร้ายวิธีการที่พวกมันเลือกนั้นเป็นแบบเปิดเผยและยังทำให้คนเห็นพลังชั่วร้ายที่คล้ายกับฟ้าถล่มลงมา คิดเพ้อเจ้อว่าจะล้มศิษย์ต้าฝ่าให้คว่ำได้อิทธิพลชั่วร้าย ปีศาจทราม พรรคมารนั้นทำไม่สำเร็จต่อมาพวกมันพบว่า นานๆ เข้าจะทำให้สังคมนานาชาติเห็นความสำคัญ และมวลชนจีนรู้สึกต่อต้านขึ้นมาได้มวลชนอันกว้างขวางในสังคมก็จะออกเสียงสนับสนุนศิษย์ต้าฝ่าและร้องต่อต้านการประทุษร้ายเช่นนี้พวกมันจึงเริ่มค่อยๆเปลี่ยนการประทุษร้ายครั้งนี้เป็นแบบปิดลับในด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนชนะแล้ว อีกด้านหนึ่งทำให้คนรู้สึกถึงความสงบที่ภายนอกชนิดหนึ่งตกแต่งภาพของความสันติแต่เบื้องหลังกลับยังคงประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าอย่างโฉดชั่วอำมหิตกระทั่งว่าในช่วงหลังนี้ วิทยุ ทีวี และหนังสือพิมพ์ซึ่งผูกขาดโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ไม่รายงานเลยแต่วิธีการปราบปรามประทุษร้ายนั้น กลับไม่เคยผ่อนคลายลงเลยนี่คือวิธีการประทุษร้ายประชาชนของรัฐบาลอันธพาล ที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ทุกท่านมองเห็นได้แล้วว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สื่อมวลชนกระแสหลักจำนวนมากของสังคมประเทศต่างๆ ล้วนแต่ไม่ได้รายงานสถานการณ์ที่ศิษย์ต้าฝ่าถูกประทุษร้ายกลับเงียบงันอยู่ท่ามกลางความชั่วร้าย

แน่ละนี่ยังมีองค์ประกอบหนึ่งคือ ปัจจุบันประเทศจีน ได้กลายเป็นตลาดเศรษฐกิจของโลกไปแล้วประเทศต่างๆมากมายล้วนมองว่า นี่เป็นสภาพแวดล้อมที่ดีในการลงทุนไม่ใช่พูดว่าคอมมิวนิสต์จีนมีแหล่งทรัพยากรที่ยอดเยี่ยมหรือว่าคอมมิวนิสต์จีนเปลี่ยนแปลงดีแล้ว แก้ไขสภาพแวดล้อมของประเทศจีนแล้วหรือว่าพรรคมารคอมมิวนิสต์มีวิธีการเชิญชวนดีอะไรที่ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกได้ที่จริงนั้นง่ายมากก็คือ เนื่องจากชาวจีนนั้น ถูกคอมมิวนิสต์จีนทำเสียจนยากจนและหวาดกลัวไปแล้วจึงต้องการทำงานหาเงินทองให้มากๆบวกกับความขยันของคนจีนชั่วโมงทำงานค่อนข้างยาวมีความแน่นอนก็เพียงจุดนี้ที่ดึงดูดนักลงทุน เนื่องจากชนชาติมากมายบนโลกนี้ พอเขาหาเงินได้สักหน่อยแล้ว เขาก็จะไม่ทำงานต่อรอเมื่อใช้เงินหมดแล้ว เขาค่อยไปหางานทำแต่ลักษณะเฉพาะแบบนี้ของคนจีน ที่ถูกคอมมิวนิสต์จีนทำเสียยากจนและหวาดกลัว จึงต้องการทำงานหาเงินทองให้มากๆ ขอเพียงมีงานอะไรที่ได้เงินก็จะทำตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ คือจุดนี้ที่ดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหญ่ที่ต้องการความแน่นอนด้านแรงงานโดยเฉพาะคือนักลงทุนที่ต้องการแรงงานด้านเทคนิคที่มีความแน่นอน ดังนั้นพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนจึงจับหลักจิตวิทยาจุดนี้ของคนจีน และใช้ประโยชน์จากคนจีนและใช้ประโยชน์จากเงินทุนของนักลงทุนกำลังเงิน กำลังโภคทรัพย์ กำลังคนเป็นปริมาณมากในการปราบปรามประชาชนประทุษร้ายฝ่าหลุนกงด้วยเหตุนี้หลายประเทศทั่วโลกจึงไม่แสดงท่าทีต่อการประทุษร้ายครั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

ในระหว่างการประทุษร้าย พวกเราก็มองเห็นกันแล้วว่าเรื่องอะไรที่สังคมมนุษย์เผยแพร่กันนั้นล้วนไม่อาจเชื่อถือได้คนจำนวนมากทั่วโลกพูดถึงสิทธิมนุษยชนประเทศที่ป่าวประกาศเรื่องเสรีภาพในความเชื่อ กระทั่งคนทั้งโลกดูเหมือนว่า จะถือสิ่งเหล่านี้เป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สุดในการดำรงอยู่ของมนุษย์ และเป็นสิทธิที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ แต่เมื่อคอมมิวนิสต์จีน เหยียบย่ำประทุษร้ายคนจีน สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในความเชื่ออย่างชั่วร้ายและรุนแรงที่สุดรัฐบาลและสื่อมวลชนหลายประเทศทั่วโลกกลับเงียบไม่มีปากเสียงหรือพูดว่า ต่อหน้าผลประโยชน์นั้น เรื่องเสรีภาพในความเชื่อเอยสิทธิมนุษยชนเอยล้วนเปลี่ยนแปลงจนไม่มีค่าแม้สตางค์แดงเดียวแล้วจิตใจดีงามอะไรของคนนั้นพวกเราก็เห็นแล้วว่าในเวลานี้ จิตใจดีงามทั้งหลายนั้นก็ไม่มีค่าแม้สตางค์แดงเดียวแล้วนี่เป็นแต่เพียงสิ่งที่คนจำนวนหนึ่งโฆษณาชวนเชื่อเพื่อปกป้องผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่จะได้มาเท่านั้นเอง ส่วนต้าฝ่านั้นคือสัจธรรมที่แท้จริงของจักรวาลที่พวกท่านรับรู้ได้ในการบำเพ็ญที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไม่สั่นคลอนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ สภาพแวดล้อมใดๆ ก็ล้วนเป็นหลักธรรมที่ถูกต้องที่จะต้องปกป้องไว้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆคนล้วนต้องปฏิบัติตามไม่ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมใดๆขอเพียงผู้บำเพ็ญมีเจิ้งเนี่ยนเพียงพอ ล้วนจะสามารถยกระดับขึ้นได้ ได้รับความกระจ่างทางปัญญาและการช่วยเหลือแล้วเสริมเจิ้งเนี่ยนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นไม่ถูกวิธีการของคนธรรมดาสามัญ หรือการยั่วยวนใดๆรบกวนได้นี่ก็คือกฎเกณฑ์ของจักรวาลที่มีต่อความเชื่อที่ถูกต้องในเทพของคนนี่คือสัจธรรมที่ปรากฏออกมาในระหว่างการเลื่อนระดับขึ้นไปของผู้บำเพ็ญคือสิ่งใดๆของคนธรรมดาสามัญที่ใช้ปลุกปั่นในการรักษาผลประโยชน์ของคนธรรมดาสามัญนั้น ไม่อาจจะเปรียบได้เลยหรือพูดว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่เหนือคนธรรมดาสามัญดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าจึงสามารถก้าวข้ามมาได้ในท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้

ที่จริงรัฐบาลของประเทศมากมายและบรรดาสื่อมวลชนขนาดใหญ่ ไม่ได้แสดงท่าทีนอกจากสองสาเหตุนี้แล้วยังมีองค์ประกอบพื้นฐานที่สุดก็คือองค์ประกอบของอิทธิพลเก่าของจักรวาลเก่า กำลังขวางกั้นคนทั้งหมดที่ยังไม่ได้รับฝ่าไม่ให้เข้าร่วมกับเรื่องนี้จุดประสงค์คือจะ “ทดสอบ” ศิษย์ต้าฝ่าในพื้นที่ส่วนนี้หากชาวโลกเข้ามาร่วม การ “ทดสอบ” ต่อศิษย์ต้าฝ่าก็จะไม่สามารถบรรลุถึงระดับที่ชั่วร้ายเช่นนั้นไม่อาจบรรลุเป้าหมายที่พวกมันได้จัดวางความยากลำบากที่ทารุณเช่นนั้น เพื่อที่จะดูว่าพวกเขา(ศิษย์ต้าฝ่า)จะไปไหวไหม นี่คือมูลเหตุที่แท้จริงของพวกมัน

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ในท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ข้าพเจ้ากับศิษย์ต้าฝ่านั้นปฏิเสธการประทุษร้ายครั้งนี้ทั้งหมดจนกระทั่งว่า ในการปฏิเสธการประทุษร้ายครั้งนี้ทั้งหมดนั้น การปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์ โดยการรักษาสภาพของผู้บำเพ็ญที่มีอยู่เฉพาะพวกท่าน กล่าวในฐานะศิษย์ต้าฝ่า หากสามารถทำทุกสิ่งได้ดีในความรับผิดชอบของตนเองนั่นคือกำลังก้าวหน้าอยู่ข้าพเจ้าเคยพูดกับทุกท่านว่า การบำเพ็ญนั้นในอดีตไม่ว่าผู้บำเพ็ญคนไหนก็ล้วนต้องมีสภาพการบำเพ็ญที่ลำบากมากเช่นเดียวกันก็คือความทุกข์ยากและการทดสอบที่ยาวนานโดยเฉพาะการบำเพ็ญอยู่ในท่ามกลางผลประโยชน์เฉพาะหน้าของคนธรรมดาสามัญ นี่เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินแล้วจริงๆผลประโยชน์ด้านต่างๆล้วนแต่ยั่วยวนผู้บำเพ็ญอยู่พอไม่ระมัดระวังความคิดของท่านการรับรู้ของท่านจนกระทั่งใจคนล้วนแต่จะเลื่อนไถลไปตามกระแส ดังนั้นรูปแบบการบำเพ็ญชนิดนี้จึงยากอย่างยิ่งก็เพราะยากนั่นหนาพูดจากปรากฏการณ์อีกด้านหนึ่ง ในฐานะที่เป็นศิษย์ต้าฝ่า พวกเขาจึงสามารถบำเพ็ญได้สูงหากสภาพแวดล้อมไม่ยากลำบากนะเช่นนั้นสำหรับชั้นผิวนอกของผู้บำเพ็ญการทดสอบโดยตรงต่อร่างหลักของชีวิตนี้ก็จะไม่แหลมคมเช่นนั้น

ทุกท่านทราบว่าศาสนาก็ดีรูปแบบการบำเพ็ญนานาชนิดในประวัติศาสตร์ก็ดีพวกมันล้วนไม่ได้พุ่งตรงที่ชั้นผิวนอกสุดของคนหรือรับผิดชอบต่อคนๆนี้ในระหว่างการบำเพ็ญหรือพูดได้ว่าไม่สนใจว่าจิตหลักของคนจะสามารถบำเพ็ญสำเร็จหรือไม่ดังนั้นหนา พวกเขาจำนวนมากจึงบำเพ็ญโดยนั่งสมาธิอยู่เป็นเวลานานสภาพการณ์ต่างๆของปรากฏการณ์ทั้งหลายที่แปรผันออกมา ในเวลาที่ละทิ้งจิตยึดติดได้ ในระหว่างที่อยู่ในสมาธินั้น เพียงเกิดประโยชน์ต่อจิตรองของผู้บำเพ็ญเท่านั้น ส่วนรูปแบบการบำเพ็ญในสังคมคนธรรมดาสามัญชนิดนี้ของศิษย์ต้าฝ่าทำให้จิตยึดติดต่างๆของคนธรรมดาสามัญที่มีอยู่และยังไม่ได้ทิ้งไปของผู้บำเพ็ญความยั่วยวนภายนอกนานาชนิดที่มีต่อผลประโยชน์ของคนจึงแสดงออกมาอย่างตรงๆมากเช่นนี้จึงทำก่อให้เกิดความสำคัญต่อการบำเพ็ญที่ชั้นผิวนอกของผู้บำเพ็ญ และยังทำให้การเปลี่ยนแปลงที่ชั้นผิวนอกของคนด้านนี้กลายเป็นเรื่องสำคัญและก็กลายเป็นจุดสำคัญที่ยากที่สุดของการบำเพ็ญบวกกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ก่อน เป้าหมายของการช่วยเหลือและยกระดับก็คือร่างหลักของคนเช่นนี้การบำเพ็ญที่แท้จริงของคนจึงกลายเป็นเรื่องอันดับหนึ่งรูปแบบการบำเพ็ญจึงประกอบเป็นการทดสอบโดยตรงต่อชั้นผิวนอกของคน และการทดสอบต่อจิตรองกับร่างชีวิตอื่นๆ ของร่างกายคนทั้งหมดจึงไม่เป็นแบบตรงๆเช่นนั้น เพราะว่าพวกเขาล้วนอยู่ในสภาพที่ไม่อยู่ในวังวน ต่างๆกันส่วนคนๆนี้กลับอยู่ในท่ามกลางการทดสอบโดยตรงต่อผลประโยชน์เฉพาะหน้านี่ก็คือจุดพิเศษของการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าเพราะเหตุใดข้าพเจ้าจึงพูดมาตลอดว่า “คนสามารถบำเพ็ญสำเร็จเป็นเทพได้จริงแล้ว”ก็คือความหมายเช่นนี้“โดยรูปแบบแล้ว ก็คือคนกำลังบำเพ็ญอยู่จริงๆ” เพราะร่างคนที่อยู่ในระหว่างการบำเพ็ญกลายเป็นร่างหลักแล้ว

ช่วงแรกที่ต้าฝ่านี้ถ่ายทอดออกมามีเทพหลายองค์ล้วนไม่เข้าใจและด้วยเหตุนี้จึงพูดว่า ท่านเห็นความสำคัญของคนจนเกินไปแล้วความหมายนอกเหนือคำพูดนี้ก็คือ ท่านไม่เห็นความสำคัญของพวกเราท่านเห็นความสำคัญของคนในอดีตใครที่ถือว่าคนสำคัญกันละ คนยึดติดออกอย่างนั้นพฤติกรรมไม่ดีอย่างนั้นสติสัมปชัญญะไม่แจ่มชัดท่านจะช่วยคนเพราะอะไรกันละแน่ละ มีสาเหตุหลายประการที่พวกเขาไม่รู้เมื่อก่อนในการบรรยายธรรมข้าพเจ้าเคยพูดขึ้นมาว่าเทพระดับชั้นต่ำนั้นไม่รู้สภาพการณ์ที่แท้จริงของชั้นผิวนอกของมนุษย์ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ได้ผ่านเรื่องราวมากมายเหลือเกินในช่วงเวลาที่ยาวนานเช่นนี้ ในการเวียนว่ายตายเกิดของชั้นผิวนอกของคนนั้น ก็ผ่านเรื่องมากมายออกอย่างนั้นการเจิ้งฝ่าคือการช่วยเหลือสรรพชีวิตชีวิตอย่างนี้จะไม่ช่วยได้หรือต้าฝ่าทำการเจิ้งฝ่าอยู่ในจักรวาล ไม่ใช่แสดงออกมาเหมือนอย่างการบำเพ็ญแบบใดแบบหนึ่งในอดีตที่รับผิดชอบต่อชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งหรือในขอบเขตที่แน่นอนอันหนึ่งเท่านั้น การเจิ้งฝ่าจะช่วยสรรพชีวิตทั้งหมดที่สามารถช่วยได้รวมทั้งบรรดารูปแบบของชีวิตทั้งหมดที่ดำรงอยู่ ซึ่งเทพสร้างขึ้นมาบนร่างหลักของคนและมีคนมากมายที่เคยผ่านความทุกข์ยากอันยาวนานเช่นนั้นจะไม่ช่วยได้หรือร่างหลักของตรีภูมิมิใช่คนหรอกหรือสรรพชีวิตในตรีภูมิ ไม่ใช่ล้วนจะต้องช่วยหรอกหรือฉะนั้นรูปแบบการบำเพ็ญชนิดนี้ และรากฐานอันนั้นที่คนในประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นนี้ได้วางเอาไว้ความทุกข์ยากเหล่านั้นที่ได้รับมิใช่ทำให้คนเพียบพร้อมซึ่งธรรมานุภาพที่ใหญ่ที่สุดนับแต่อดีตจนปัจจุบันแล้วหรอกหรือชีวิตเหล่านี้มิสมควรพูดว่ายอดเยี่ยมที่สุด ต้องพิจารณาช่วยเหลือก่อนหรือ ณ ที่นี้ของคน ในฐานะที่เป็นจุดฐานของการเจิ้งฝ่าสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนนั้นมิใช่การให้ชีวิตส่วนนี้ของคนได้หลุดพ้นหรอกหรือ

แน่ละ ใช่ว่าจะง่ายดายเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ก็ได้เห็นทุกสิ่งของวันนี้หมดแล้วช่วงแรกของการเกิดขึ้นของตรีภูมินั้น เริ่มต้นจากรูปร่างชั้นผิวนอกสุดของคน และทยอยจัดวางเงื่อนไขและชีวิตที่จำเป็นในยุคเจิ้งฝ่าในอนาคต ในขณะเดียวกันก็ทำให้ชีวิตเหล่านี้ ซึ่งก้าวผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน เพียบพร้อมด้วยธรรมานุภาพอันยิ่งใหญ่ หรือพูดได้ว่า ชั้นผิวนอกของคน ก็ไม่ใช่คนที่ธรรมดาๆพฤติกรรมแบบปัญญาอ่อน กับสติปัญญาระดับต่ำเป็นขีดขั้นที่กำหนดเขตแดนของคนและสภาพแวด ล้อมของตรีภูมิ บวกกับมาตรฐานในเวลาที่สร้างคนเพียงแต่มองไม่ทะลุปรุโปร่งจากปรากฏการณ์ เพราะองค์ประกอบของระดับชั้นที่ยิ่งสูงในชั้นผิวนอกของร่างกายคน ยิ่งไม่ง่ายที่จะสังเกตออก ยิ่งสังเกตไม่ออกสภาพการณ์ที่แท้จริงของคนนั้นกล่าวสำหรับชีวิตในระดับชั้นที่ต่างกันความจริงนี้ก็ถูกปิดไว้โดยตลอดไม่ใช่ว่าเทพที่มีอยู่ทั้งหมดจะรู้ถึงความสัมพันธ์ทั้งหมด ระหว่างตรีภูมิกับจักรวาลพวกท่านทราบว่าวัฒนธรรมกับคำพยากรณ์มากมายที่ตกทอดอยู่ในสังคมมนุษย์นั้นมีเรื่องมากมายซึ่งแม้กระทั่งเทพที่อยู่ติดกับตรีภูมิก็ล้วนแต่ไม่ทราบนี่ไม่ใช่ปรากฎการณ์ที่ประหลาดหรือ เพราะอะไรล่ะ พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร มนุษย์สามารถรับรู้หลักการที่ถูกต้องจำนวนหนึ่งได้จากหลักปรัชญาบางอย่างในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะคือคำพยากรณ์ที่แม่นยำมากเหล่านั้นที่อยู่ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เช่นนั้นเทพไม่ทราบได้อย่างไรกันล่ะ

ที่จริงในตรีภูมิและสังคมมนุษย์ มีปริศนาอยู่มากมายมีปริศนามากมายที่เทพไม่ทราบ และกาลเวลาของมนุษย์กับกาลเวลามากมายของเทพ มีความตากต่างกันอย่างมหาศาลมากคือพูดโดยถือว่าคนเป็นอณูหนึ่ง เช่นนั้นเทพที่มีอณูใหญ่กว่าของคน คือเปรียบเทียบด้วยพื้นที่ซึ่งเขาสามารถสังเกตและศึกษาด้วยตนเองรับทราบเข้าใจ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์ได้นั้นก็ยังมีขีดจำกัดอย่างมากถ้าหากพื้นที่นี้เล็กกว่าอณูของมนุษย์นี้ หรือเทพที่มีอณูเล็กกว่าอณูของโมเลกุลเวลาของเขาก็จะเร็วมากดังนั้นมีชีวิตมากมาย ที่เขาไม่ทราบถึงประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของตรีภูมิเป้าหมายการดำรงอยู่ของตรีภูมิ และความหมายที่แท้จริงของการดำรงอยู่ของชีวิต เทพนั้นไม่อาจตายไปจริงๆแต่เขาก็อาจเกิดใหม่อีกในเขตแดนของเขา ก็คือใช้คำศัพท์นี้อธิบายละกันเรียกว่า “เกิดใหม่อีก” เขาสามารถเริ่มต้นใหม่อีกตามการดำรงอยู่ของกฎ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป ดับสูญของจักรวาลที่ผ่านมา ก็เหมือนกับคนมีเกิด แก่ เจ็บ ตายกลับชาติมาเกิดแบบเดียวกัน เนื่องจากในหลักการของฝ่า ในเวลาที่สร้างจักรวาลนั้นได้กำหนดหลักการของวัฎจักรการเริ่มต้นใหม่เอาไว้ ในเขตแดนของเทพก็มีสภาพการณ์เช่นนี้ด้วยเพียงแต่กาลเวลานั้นของเทพที่ปรากฏออกมานั้น ช้าอย่างยิ่งและในขั้นตอนการเกิดใหม่อีกของเทพ เขาเองจะทราบได้หมดไม่เหมือนคนที่พูดว่าตายแล้วน่ากลัวมากการเกิดใหม่จะมีชาติต่อไปหรือไม่ นี่ล้วนแต่เป็นปริศนา ไม่ให้คนรู้แต่ในสภาพการณ์ของเทพนั้นเทพจะทราบได้เพียงแต่ในระหว่างการเกิดใหม่อีกนั้นได้ล้างความจำของเมื่อก่อนทิ้งไปหมดแล้วในเวลาที่เกิดใหม่อีกนั้นความจำในอดีตไม่คงอยู่แล้วเป็นเพียงสภาพการณ์อย่างนี้แต่ทั้งหมดนี้กล่าวสำหรับพวกเขา ก็เหมือนว่ายาวนาน จนไม่มีการจบสิ้นของชีวิต แต่ว่าระหว่างขั้นตอนการเกิดใหม่อีกของเขา เขาจะไม่ทราบเรื่องในอดีตเลยประวัติศาสตร์อันยาวนานของตรีภูมินั้น ไม่ใช่จะพูดว่าบรรดาเทพที่มีอยู่ทั้งหมดในจักรวาลจะทราบได้ รวมทั้งการเจิ้งฝ่าในวันนี้ก็ไม่ใช่ว่าบรรดาเทพที่มีอยู่ทั้งหมดจะสามารถทราบว่า เรื่องราวเป็นอย่างไรกระทั่งว่าไม่ใช่ว่าล้วนจะสามารถเข้าใจได้ ล้วนจะสามารถมองเห็นแต่ละก้าวของการเจิ้งฝ่า สรรพชีวิตในแต่ละขอบเขตนั้นจะสามารถมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อการเจิ้งฝ่าจวนจะมาถึงเบื้องหน้าเขาเท่านั้น ในขณะที่การเจิ้งฝ่ายังมาไม่ถึงเขาล้วนไม่สามารถมองเห็นดังนั้นจึงทำให้สรรพชีวิตของจักรวาล แสดงออกมาต่างๆกันในการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ การรับรู้ที่ถูกต้อง การรับรู้ที่กลับกัน การรับรู้แบบไม่สนใจใยดีก็คือสภาพการณ์เช่นนี้พวกเรามองเห็นบรรดาสภาพการณ์ ที่ปรากฏออกมาของคนในสังคมมนุษย์ทุกวันนี้ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่านว่า โดยพื้นฐานแล้วมันเหมือนกับสภาพการณ์บนสวรรค์

ก่อนปีวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999ในการถ่ายทอดอย่างกว้างขวางของต้าฝ่าสรรพชีวิตและเหล่าเทพในแต่ละขอบเขตอยู่ในสภาพการณ์อะไรหรือ พวกเขาล้วนพูดว่าโอ้ ต้าฝ่าช่างดีจริงถ่ายทอดฝ่าที่ดีอย่างนี้ให้กับคน ช่างน่าเสียดายจังและยังถ่ายทอดในช่วงเวลาที่คนแย่ที่สุดเช่นนั้นบ้างก็คิดว่าการถ่ายทอดในเวลาอย่างนี้จึงจะสามารถให้ต้าฝ่าปรากฏออกมายอดเยี่ยมยิ่งขึ้นเช่นนั้นก็มีบางชีวิตเข้าใจว่าหลี่ หงจื้อ มีเมตตาอย่างนั้นก็ผลักสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดให้เขาให้เขาชำระบาปกรรมให้ฉวยโอกาสทำเรื่องเลวทรามทว่าบาปกรรมที่กดลงมานั้น ใหญ่ราวกับฟ้าเทพจำนวนมากมายที่มองเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ ล้วนคิดกันว่า ในสภาพการณ์อย่างนี้ เขายังจะทำได้สำเร็จไหมล้วนมีความคิดและการรับรู้ที่ต่างกันแต่กล่าวโดยสรุป ในเวลานั้น บทบาทของด้านที่ถูกต้องยังเป็นฝ่ายนำอยู่แต่เมื่อการประทุษร้ายเริ่มต้นในวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999ความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนอีกแล้วเหล่าชีวิตจำนวนมากในแต่ละขอบเขต ล้วนแต่มีท่าทีที่วางเฉยไม่สนใจใยดี เห็นปีศาจทรามทำความชั่วประทุษร้าย ก็ไม่สนใจราวกับว่าจะดูว่าท่านยังจะไปไหวไหมถ้าท่านยังไหว วา!ช่างยอดเยี่ยมจริงฉันก็สนับสนุนท่านด้วยแต่หลังจากที่อิทธิพลเก่า ชีวิตเก่าถูกกระตุ้นจนก่อให้เกิดอุปสรรค และมองเห็นว่าโลกเต็มไปด้วยพลังที่ชั่วร้ายสรรพชีวิตต่างก็เกิดความคิดที่เห็นแก่ตัว และมีจำนวนมาก ที่เข้าใจว่าเรื่องนี้คงจะสำเร็จได้ยากถ้าหากไม่สำเร็จแล้ว เช่นนั้นฉันก็ถูกพัวพันไปด้วยด้วยเหตุนี้จึงไม่แสดงท่าทีสรรพชีวิตแทบจะทุกขอบเขต ล้วนเป็นอย่างนี้ฝ่าของจักรวาลนั้น เพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตในแต่ละขอบเขตจึงไม่อาจตั้งข้อกำหนดต่อสรรพชีวิตสูงเกินไปซึ่งหาก(สรรพชีวิต)มีความถูกต้องกันถึงเพียงนั้นจักรวาลก็ไม่จำเป็นต้องเจิ้งฝ่าแล้วแต่เพราะว่าเป็นเช่นนี้ไปแล้วใช้ไม่ได้แล้วจึงปรากฏสภาพการณ์ชนิดนี้ออกมานี่ก็คือการแสดงออกของเทพต่อศิษย์ต้าฝ่า และการเจิ้งฝ่าในครั้งนี้

แน่ละในขณะที่สถานการณ์ของการเจิ้งฝ่ารุดหน้าเรื่อยไปสถานการณ์บนโลกกับตรีภูมิทั้งหมดก็เปลี่ยนแปลงไม่หยุดหย่อน ทุกท่านมองเห็นแล้วว่า การแสดงออกแบบนั้นของคนบนโลก คล้ายกันมากกับบนสวรรค์พูดจากอีกด้านหนึ่งถ้าหากชีวิตจำนวนมากบนโลก สอดคล้องกับเทียนถี่(ร่างจักรวาล)มีความเป็นมาของเขา เช่นนั้นทุกท่านลองคิดดู นั่นใช่หรือไม่ว่ามันย่อมจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาพการณ์บนสวรรค์ในเวลานี้แน่ละ ภายนอกของคนนั้นไม่แจ่มชัดขณะนี้คนจำนวนมาก ล้วนอยากจะก้าวออกมาแล้วเพราะสรรพชีวิตมากมายของแต่ละขอบเขต ราชาของแต่ละขอบเขตต่างมองเห็นแล้ว ถึงแนวโน้มที่ไม่อาจจะขวางกั้นได้ การเจิ้งฝ่าของต้าฝ่าต้องสำเร็จดังนั้นจึงแสดงท่าทีออกมาอย่างเกรียวกราวกำลังต้องการแสดงท่าทีอย่างเกรียวกราว องค์ประกอบสุดท้ายของจักรวาลได้มองเห็นก้าวนี้มานานแล้ว ในจักรวาลยังมีชีวิตสุดท้ายที่สูงกว่าแม้ว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของอิทธิพลเก่าแต่มันก็เป็นชีวิตเก่ามันก็มีทัศนคติที่เบี่ยงเบนไปแล้วสำหรับเหล่าศิษย์ต้าฝ่า มันก็มีความไม่สมบูรณ์ของจักรวาลในอดีตเมื่อก่อนกำเนิด กับคุณสมบัติพิเศษที่เบี่ยงเบนไปแล้วซึ่งปกปักษ์รักษาทุกสิ่งนั้นไว้สำหรับศิษย์ต้าฝ่ามันถือว่า การประทุษร้ายชนิดนี้สามารถทำให้พวกเขาบำเพ็ญได้ทัศนคติของพวกมันกลายเป็นอุปสรรค และพวกมันยังก่อให้เกิดฉากกั้นระหว่างชั้นผิวนอกของโลกกับแต่ละขอบเขตและขัดขวางการรับรู้ฝ่าของชาวโลกพวกมันรู้สึกว่าในสภาพการณ์เช่นนี้ หากก้าวข้ามมาได้จึงจะใช้ได้สรรพชีวิตบนโลกกับคนที่แสดงท่าทีในสถานการณ์ชนิดนี้ จึงสมควรจะเหลือรอดอยู่ได้การเลือกข้างในสภาพการณ์เช่นนี้ จึงจะแสดงว่าชีวิตนี้ยอดเยี่ยมแต่ว่าพวกมันล้วนไม่อาจรับรู้ได้ว่าสภาพการณ์ของการเจิ้งฝ่านั้นจะต้องการสิ่งนี้หรือไม่และที่สำคัญที่สุดคือ จักรวาลในอนาคตนั้น ไม่ต้องการเช่นนี้เลยในระหว่างการเจิ้งฝ่าก็ไม่ยอมรับองค์ประกอบด้านลบ ด้านตรงข้ามและท่าทีของชีวิตหนึ่งๆต่อการเจิ้งฝ่าในเวลานี้จึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในนั้นจึงครอบคลุมชีวิตทั้งหลายที่สูงสุด ท้ายที่สุดซึ่งวุ่นวายกับการเจิ้งฝ่าเข้าไว้ด้วย

การเจิ้งฝ่านี้เกี่ยวพันถึงอนาคตของชีวิตทั้งปวงไม่ใช่เจาะจงเฉพาะศิษย์ต้าฝ่าชาวโลกหรือสรรพชีวิตในแต่ละขอบเขตเท่านั้นใครที่จะสามารถออกไปพ้นละในขณะเดียวกันเพราะท่าทีต่อการเจิ้งฝ่า เป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นไม่มีใครที่มีสิทธิปิดกั้น ทำให้สรรพชีวิตทำบาปต่อการเจิ้งฝ่ากับต้าฝ่าโดยอยู่ในสภาพที่ไม่รู้อะไร นับตั้งแต่ต้นก็ไม่สมควรเกิดการรบกวนจากองค์ประกอบชนิดนี้ของอิทธิพลเก่าในสภาพที่ไม่มีการรบกวนจากองค์ประกอบใดๆ เมื่อสรรพชีวิตมองดูเรื่องนี้แสดงท่าทีต่อเรื่องนี้ โดยอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ถูกควบคุมเลย นั่นจึงจะเป็นสิ่งที่จริงแท้มิเช่นนั้นการจัดวางชนิดนี้ มิใช่จะปรากฏออกมาตามความต้องการของพวกมัน ที่จัดวางให้ใครเป็นชีวิตที่ทำดีก็จัดวางให้เขาทำดีพวกมันต้องการจัดวางให้ใครทำเรื่องไม่ดี ก็จัดวางให้เขาทำเรื่องไม่ดีนี่จะนับว่าเป็นการแสดงออกที่แท้จริงของสรรพชีวิตเองได้หรือไม่ใช่แต่เมื่อมองจากสถานการณ์ปัจจุบันองค์ประกอบเก่าท้ายที่สุดของจักรวาล ยังคงรบกวนสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จของอนาคต

วันนี้การแสดงออกของสรรพชีวิตบนโลกที่พวกเรามองเห็นนั้นแม้จะอยู่ภายใต้การบงการของอิทธิพลเก่า สรรพชีวิต และเหล่าเทพในแต่ละขอบเขตก็ล้วนกำลังค่อยๆเริ่มเห็นพ้องกับต้าฝ่าและการเห็นพ้องแบบนี้ยังไม่ใช่การยอมรับต่อต้าฝ่าการเจิ้งฝ่า และศิษย์ต้าฝ่า โดยไม่มีเงื่อนไขแต่เพราะพลังของความสำเร็จของการเจิ้งฝ่าท่วมท้นเทียนถี่(ร่างจักรวาล)ทั้งหมด ทำให้พวกเขาหมดปัญญาแน่ละก็มีจำนวนมากมายส่วนหนึ่งที่เข้าใจได้จริงๆ เพราะพวกเขามองเห็นแนวโน้มแบบนี้ของการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งของอนาคตจะต้องสำเร็จทั้งหมดนี้คนบนโลกย่อมไม่แจ่มแจ้งอย่างแน่นอนพวกเขาเพียงมองเห็นว่าไม่ได้ถูกอำนาจอันธพาลทางการเมืองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนประทุษร้ายจนล้มคว่ำไปแสดงการรับรู้ของคนออกมาแบบหนึ่งว่า วา! ฝ่าหลุนกงเก่งจังในเวลาที่ยาวนานอย่างนี้ ฝ่าหลุนกงไม่ได้ถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนที่ชั่วร้ายเช่นนี้ปราบปรามจนหมดไป ตรงข้ามกลับยิ่งเฟื่องฟู และในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง คอมมิวนิสต์จีนกลับทำให้ตัวเองพังทลายแล้ว ยังเป็นฝ่าหลุนกงที่เยี่ยมจริงๆและการแสดงออกมาซึ่งคุณสมบัติดั้งเดิมของเจิ้งเนี่ยนของศิษย์ต้าฝ่านั้นกล่าวสำหรับชาวจีนแล้ว ราวกับได้เห็นความหวังอย่างหนึ่งของการฟื้นคืนศีลธรรมของประชาชาติจีน สังคมที่เต็มไปด้วยข้าราชการทุจริตคอรัปชั่น ทำผิดกฎหมายภายใต้การปกครองของคอมมิวนิสต์จีนนั้น ยุ่งเหยิงโกลาหลจนไม่ไหวแล้วเมื่อเสริมกับช่วงแรกของการเจิ้งฝ่า เพื่อให้ชาวจีนรับรู้ฝ่า ได้รับฝ่าในเวลานั้นได้เปิดความคิดของชาวจีนออกมาแล้วทำให้ชาวจีนเปลี่ยนแปลงฉลาดขึ้นมากแต่ความฉลาดนี้ เขาไม่สามารถใช้ในการรับรู้ฝ่า ในท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้กลับใช้ในการทำผิดกฎหมายดังนั้นในระหว่างหลายปีของการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า การโจมตี เจิน ซั่น เหยิ่น ประโคมสิ่งชั่วร้ายทำให้วิธีการทำผิดกฎหมายของสรรพชีวิต เปลี่ยนเป็นแบบอำพรางและสลับซับซ้อนอย่างยิ่งต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าของประเทศจีนแก๊งอันธพาลคอมมิวนิสต์จีนก็ไม่มีวิธีการใดๆจริงๆเมื่อเผชิญกับโทษบาปที่พวกมันก่อขึ้น และความซับซ้อนยุ่งเหยิงของสังคมพวกมันก็ไม่มีพลังที่จะพลิกฟื้นสถานการณ์ได้อีกแล้ว

คำพูดที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้ ก็เพราะวันนี้ข้าพเจ้ากลับมานั่งอยู่ ณ ที่นี้บรรยายธรรมให้ทุกท่าน (เสียงปรบมือกึกก้อง)เวลาได้ผ่านไป ห้าหกปีแล้ววันนี้ข้าพเจ้าบรรยายธรรมอยู่ที่นี่ทุกท่านอาจจะมีความรู้สึกไม่เหมือนกันผู้ฝึกที่นั่งอยู่ที่นี่ฟังธรรมในครั้งแรกอาจจะยิ่งรู้สึกไม่เหมือนกัน ในท่ามกลางการประทุษร้ายที่อำมหิตชั่วร้ายครั้งนี้ พวกเราได้ข้ามมาแล้วโดยพื้นฐานเพราะในระหว่างการเจิ้งฝ่า องค์ประกอบของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนที่ชั่วร้าย ได้ถูกดับสลายไปอย่างมหาศาล รวดเร็วและฉับพลันพวกมันจึงเหมือนกับที่ข้าพเจ้าพูด คือมันชั่วมันเลว มันไม่ดี แม้เพียงมันยังคงอยู่ มันก็จะยังสามารถทำเรื่องชั่วดังนั้นประเทศที่นั่นนะแม้องค์ประกอบชั่วร้ายของพรรคมารคอมมิวนิสต์ที่ควบคุมมวลชน และชาวโลกมากมายล้วนกำลังถูกกำจัด ลดทอน เบาบางลงไม่มีบทบาทมากมายได้แล้วแต่ว่าการประทุษร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่ายังคงดำเนินต่อไปนอกเสียจากกำจัดมันหมดจนถึงที่สุดการประทุษร้ายครั้งนี้ก็จะสิ้นสุดลงองค์ประกอบชั่วร้ายเหล่านี้ของพรรคมารคอมมิวนิสต์ จะต้องถูกเทพกวาดล้างไปในระหว่างการเจิ้งฝ่าอย่างแน่นอน (เสียงปรบมือกึกก้อง)

พรรคมารคอมมิวนิสต์ก็มองเห็นว่าตนเองโอนเอนใกล้จะล้มมิล้มแหล่แล้วและมองเห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลายๆคนล้วนกำลังหาทางหนีทีไล่ หลายๆคนกำลังปกปิดพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของตนในการประทุษร้ายครั้งนี้ แน่ละมีคนมากมายคิดจะลาออกจากองค์กรชั่วร้ายนั้น ทั้งหมดนี้จึงทำให้พวกหัวรุนแรงเหล่านั้นในพรรครู้สึกหวาดกลัวสิ้นหวังโดยเฉพาะการลาออกเรื่องนี้ทำจนพวกมันใจเต้นระทึกสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วพวกมันเห็นแล้วว่าทั้งหมดนี้ไปไม่ไหวแล้ว ไม่ว่าคนธรรมดาสามัญจะมีท่าทีอย่างไรห่วงใยสังคมประชาชาติจีนว่าจะเป็นอะไรไป นั่นล้วนเป็นการกังวลโดยเปล่าประโยชน์แต่ไหนแต่ไรมา เทพไม่เคยผ่อนคลายการควบคุมมนุษย์ชนชาติใดหรือคนใดเทพให้สังคมนี้ปั่นป่วนสังคมนี้ก็ต้องปั่นป่วนเทพให้คนบ้าคลั่ง คนก็ต้องบ้าคลั่งเทพให้สังคมใดมั่นคงสังคมนี้ก็ต้องมั่นคงค่ายพรรคมารคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่อย่างนั้น ถ้าจะให้มันพังทลายไม่กี่วันก็จะพังทลายหมดแล้ว (เสียงปรบมือ)ดูว่าเทพจะต้องการหรือไม่ไม่ใช่อย่างนี้หรอกหรือ

สังคมมนุษย์ทั้งหมดนี้จัดสร้างขึ้นมาเพื่อการเจิ้งฝ่าทุกสิ่งที่มีอยู่ในวันนี้ก็ล้วนแต่ดำรงอยู่เพื่อให้ศิษย์ต้าฝ่าของข้าพเจ้ายืนยันความถูกต้องของฝ่า พวกท่านจำไว้พวกท่านจึงจะเป็นบุคคลที่สง่างามของสังคมมนุษย์ในวันนี้พวกท่านจึงจะเป็นชีวิตที่สรรพชีวิตจ้องมองมากที่สุดพวกท่านก็กำหนดชีวิตในอนาคตของคนบนโลกแต่ละคน(เสียงปรบมือ)ดังนั้นการช่วยเหลือสรรพชีวิต และการบำเพ็ญตัวพวกท่านเองให้ดีนั้น เรื่องนี้กล่าวสำหรับทุกท่านแล้วกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าแล้ว เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เพื่อการหยวนหมั่นของชีวิตนี้ของตัวท่านเองหากยังเพื่อสรรพชีวิตมีชีวิตมากมายเฝ้ารอคอยพวกท่านอยู่ ข้าพเจ้าก็ขอพูดเพียงแค่นี้ (เสียงปรบมือยาวนาน)

เนื่องจากขณะนี้ คือเรื่องที่ทุกท่านกำลังทำกันอยู่ดังนั้นข้าพเจ้าไม่อาจทำให้เรื่องที่พวกท่านกำลังทำจืดจางลงเพราะการพูดถึงเนื้อหาอย่างอื่นมากเกินไปเรื่องที่ทำอยู่เดี๋ยวนี้สำคัญอย่างมากดังนั้นจะไม่พูดมากแล้ว ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือกึกก้อง)


หมายเหตุจากผู้แปล : บทความนี้จะมีการแก้ไขเพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับภาษาจีนมากที่สุด 
วันที่แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ตุลาคม 2010