การบรรยายฝ่า ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยวอชิงตัน 2011
หลี่ หงจื้อ
16 กรกฎาคม 2011
(เสียงปรบมือดังกึกก้อง)
สวัสดีทุกท่าน (เหล่าศิษย์: สวัสดีท่านอาจารย์)ทุกท่านลำบากกันแล้ว (เหล่าศิษย์: ท่านอาจารย์ลำบากแล้ว) ได้เห็นทุกท่านแล้วรู้สึกดีใจมากหลายปีมานี้ฝ่าฮุ่ยของเราไม่มีกันมากมายนักโดยเฉพาะคือการประชุมขนาดใหญ่ดังนั้นโอกาสที่ได้พบกับทุกท่านจึงค่อนข้างน้อยสักหน่อยแต่ข้าพเจ้าล้วนทราบว่า มีศิษย์ต้าฝ่ามากมายที่กำลังอธิบายความจริง ช่วยเหลือคนและคัดค้านการประทุษร้ายอยู่นั้น ทำได้ดีมากริเริ่มทำด้วยตัวเองและส่งผลอย่างมากจริงๆในจุดนี้สามารถพูดได้ว่า ได้ทำอย่างเต็มที่ตามความรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่าแต่ตามการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทั่วทั้งหมดทุกท่านนั้นทราบว่า องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายยิ่งน้อยลงเรื่อยๆแล้วพลังอันยิ่งใหญ่ของการเจิ้งฝ่ากำลังรุดหน้าไปกำลังละลายองค์ประกอบของฉากกั้นในโลกให้บางลงทีละชั้น ทีละชั้นดังนั้นจึงใกล้โลกเข้ามาทุกขณะ ดังนั้นสิ่งชั่วร้ายในแต่ละมิติจึงถูกดับสลายไปจำนวนมหาศาล ทีละชั้นทีละชั้นดังนั้นสิ่งนี้ในโลกจึงน้อยลงเรื่อยๆ อ่อนกำลังลงเรื่อยๆ สถานการณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงได้แต่กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าเรื่องที่พวกท่านต้องทำกัน โดยเฉพาะคือสามเรื่องนี้ไม่อาจเพลามือไม่ว่าอย่างไรก็อย่าได้เพลามือธรรมานุภาพของพวกท่านการบำเพ็ญของพวกท่าน ทุกสิ่งที่พวกท่านแบกรับล้วนแต่อยู่ในนั้น
กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าการบำเพ็ญของพวกท่านนั้น เป็นเรื่องอันดับแรกเนื่องจากถ้าท่านบำเพ็ญไม่ดีท่านก็ไม่สามารถจะดำเนินการในเรื่องที่ท่านต้องทำให้สำเร็จลุล่วงได้ถ้าท่านบำเพ็ญไม่ดีพลังในการช่วยเหลือคนก็จะไม่มากพอและหากบำเพ็ญบกพร่องอีกเพียงเล็กน้อย วิธีการมองปัญหา พิจารณาปัญหาก็จะเป็นการใช้ความคิดของคนธรรมดาสามัญ ใช้วิธีคิดของคนธรรมดาสามัญนั่นก็จะยิ่งแย่ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร ทุกท่านอย่าได้ย่อหย่อนไม่อาจนิ่งนอนใจโอกาสแห่งวาสนากับการรอคอยนับร้อยล้านปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราทนรับมาในประวัติศาสตร์ล้วนแต่เพื่อวันนี้ในช่วงเวลาที่สำคัญไม่อาจไม่ทำให้ดีในเรื่องที่ตนเองต้องทำในอนาคตเมื่อเข้าใจได้แล้วกล่าวสำหรับท่านกล่าวสำหรับชีวิตของท่านนั้นก็จะเป็นเรื่องหนึ่งที่เจ็บปวดรวดร้าวเหลือแสนจริงๆดังนั้นทุกท่านอย่าได้นิ่งนอนใจโดยเฉพาะคือขณะศึกษาฝ่าทุกท่านต้องศึกษาอย่างจริงๆจังๆทุกท่านทราบ การศึกษาฝ่าในหลายๆพื้นที่ได้เกิดสภาพการณ์บางอย่างสภาพการณ์อะไรหรือคือบางพื้นที่จะทำพอเป็นพิธีบางคนขณะอ่าน “จ้วนฝ่าหลุน”อยู่ความคิดไม่จดจ่อไปคิดถึงเรื่องอื่น ใจไม่สามารถจดจ่อในการบำเพ็ญนี่เท่ากับเสียเวลาเปล่าไม่เพียงเสียเวลาเปล่าเดิมทีนั้นเป็นเวลาที่ควรจะยกระดับแต่กลับใช้ความคิดไปคิดสิ่งที่ไม่ควรคิด หรือเรื่องบางอย่างไม่เพียงไม่สามารถยกระดับในทางกลับกันยังตกลงไปหากศึกษาฝ่าไม่ดีเรื่องมากมายก็ล้วนจะทำได้ไม่ดี
ทุกท่านทราบว่ามีศิษย์ต้าฝ่ามากมายตั้งโครงการคัดค้านการประทุษร้ายโครงการอธิบายความจริงโครงการช่วยเหลือคนสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทุกท่านต้องให้ความร่วมมือด้วยดีต่างร่วมมือกันได้ดีจึงจะทำเรื่องนั้นๆได้ดีที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้พูดแล้วข้าพเจ้าว่าในประวัติศาสตร์ศิษย์ต้าฝ่าล้วนแต่เป็นราชาล้วนเป็นราชาบนสวรรค์ดังนั้นแต่ละคนจึงมีความคิดเห็นของตนเองแต่ละคนจึงมีความสามารถในการทำเรื่องต่างๆให้สำเร็จลุล่วงได้ตามลำพังแต่จะร่วมมือกันขึ้นมานั้นยากมาก ยากก็ยากตรงที่แต่ละคนต่างมีวิธีคิดแต่ละคนต่างมีข้อเสนอที่ดีเช่นนั้นแต่ละคนจึงล้วนยืนกรานในวิธีคิดของตนเอง จึงร่วมมือกันได้ไม่ดีแต่ที่จริงต่างเป็นผู้บำเพ็ญเป็นศิษย์ต้าฝ่าใช่ไหมสุดท้ายเรื่องที่จะทำก็วางอยู่ตรงหน้าเจิ้งเนี่ยนของผู้บำเพ็ญควรบังเกิดผลในการชี้นำที่จริงข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งสำคัญก็คือถ้าตามทันในการศึกษาฝ่าตามได้ทันในการบำเพ็ญเรื่องการร่วมมือเหล่านี้ที่จริงก็จะสามารถแก้ไขได้เป็นเวลายาวนานมาแล้ว ในบางพื้นที่บางคนเขาตามไม่ทันในการศึกษาฝ่ามักจะเลือกวิธีการบางอย่างของคนธรรมดาสามัญเวลาที่ร่วมมือกันได้ไม่ดี ก็ถึงกับท้อแท้ใจต่างคนต่างทำ หรือใช้ท่าทีชนิดนั้นของคนธรรมดาสามัญที่เจ้าเล่ห์ในการปฏิบัตินี่จึงกลายเป็นคนธรรมดาสามัญมาทำเรื่องของต้าฝ่าแล้ว ซึ่งไม่สมควรในบางพื้นที่ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องนี้บางคนก็ค่อนข้างโดดเด่นเช่นกันท่านรู้สึกว่า อย่างไรเสีย เรื่องของต้าฝ่าฉันก็ทำแล้วที่จริงไม่ได้ทำท่านเพียงแต่ทำพอเป็นพิธีคนเหล่านั้นที่ควรไปช่วยก็ ช่วยไม่สำเร็จเรื่องนั้นที่ต้องการความร่วมมืออย่างพร้อมเพรียงกันไปทำก็ไม่เกิดผล ไม่ว่าอย่างไรอย่าได้เป็นเช่นนี้ต้องบำเพ็ญตัวเองให้ดีให้เหมือนกับศิษย์ต้าฝ่าใช้มุมมองในการพิจารณาปัญหาของศิษย์ต้าฝ่าในการจัดการปัญหาร่วมมือซึ่งกันและกันจึงจะทำได้ดี
ยังมีอีกเรื่องก็คือ ขณะนี้เงินทุนของศิษย์ต้าฝ่ามีจำกัดโดยเฉพาะคือในต่างประเทศศิษย์ต้าฝ่ามากมายล้วนกำลังทำโครงการต่างๆจึงเข้าร่วมศึกษาฝ่าที่ฝอเสวียฮุ่ยในพื้นที่จัดขึ้นน้อยมากและผู้ฝึกเหล่านี้ ตนเองก็ไม่คิดริเริ่มศึกษาฝ่าด้วยตัวเองกระทั่งบางคนไม่ได้ศึกษาฝ่าเป็นเวลานานแล้วทุกท่านลองคิดดูข้าพเจ้าเคยพูดว่าเรื่องนั้นที่ท่านทำ ถ้าไม่อยู่ในฝ่าถ้าไม่มีพลังของฝ่าตัวท่านเองไม่บำเพ็ญให้ดีท่านก็จะทำเรื่องนั้นได้ไม่ดีบางทีท่านทำเรื่องนั้นแล้วแต่มันไม่เกิดผลก็คือช่วยคนไม่ได้เพราะท่านก็ไม่สามารถส่งผลในการสลายองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายดังนั้นการศึกษาฝ่ายังเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำคัญที่สุดนั่นเป็นหลักประกันมูลฐานของการทำเรื่องต่างๆทั้งหมดถ้าตามไม่ทันการศึกษาฝ่าเช่นนั้นอะไร อะไรก็จบสิ้นแล้ว
บางครั้งพวกท่านตามไม่ทันการศึกษาฝ่า ก็จะมีจิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญอยู่มากมายกระทั่งจิตมนุษย์ชนิดต่างๆล้วนจะออกมาในการปฏิบัติต่อเรื่องใดๆหรือกระทั่งการปฏิบัติต่อเรื่องที่สำคัญมากล้วนแต่ใช้ใจคนพิจารณาปัญหาใช้ใจคนไปทำนานๆเข้า โครงการที่ท่านทำ ก็ยากจะทำให้ดีได้เพราะไม่ศึกษาฝ่าใช่ไหมจิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญก็จะมากขึ้นมาได้ ยิ่งนานก็ยิ่งโดดเด่นท่านเองก็จะยิ่งเหมือนกับคนธรรมดาสามัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนรู้สึกว่าไม่เหมือนผู้บำเพ็ญดังนั้นต่อให้พวกท่านยุ่งอย่างไรก็ต้องศึกษาฝ่า ดังนั้นข้าพเจ้าขอแนะนำว่าศิษย์ต้าฝ่าในแต่ละโครงการดีที่สุดนั้น ท่านยังคงต้องเจียดเวลาเข้าร่วมการศึกษาฝ่าในพื้นที่ เนื่องจากในช่วงก่อนหน้า แต่ละโครงการพูดกับข้าพเจ้าว่า ตนเองจะสามารถหาเวลาศึกษาฝ่าได้หรือไม่ ข้าพเจ้าจึงตรวจสอบดูว่าพวกเขาหลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการศึกษาฝ่ากลุ่มใหญ่ ในการบำเพ็ญตนเองจะสามารถยึดกุมได้หรือไม่จะทำได้หรือไม่ผลปรากฏว่าทำไม่ได้ไม่เพียงทำไม่ได้แต่ยังชะงักงัน ไปต่อไม่ได้เรื่องมากมายที่ทำไม่ได้เรื่องได้ราวมีคนมากมายที่พิจารณาปัญหา มองปัญหา จัดการปัญหาล้วนแต่ใช้ใจคนไปทำ ในการบำเพ็ญตามไม่ทัน ข้าพเจ้าได้เห็นความหนักหน่วงของปัญหานี้แล้วดังนั้นจึงขอบอกทุกท่านดีที่สุดให้พวกเราเข้าร่วมการศึกษาฝ่าในพื้นที่ไม่ว่าจะอย่างไร การศึกษาฝ่านั้น ไม่อาจย่อหย่อนนี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด พื้นฐานที่สุด
ทุกท่านทราบการบำเพ็ญเมื่อตามไม่ทันใจของคนก็จะฟูฟ่องขึ้นมาที่แสดงออกมาทุกท่านล้วนแต่มองเห็นกันได้ ในใจของคนนั้นความคิดต่างๆนานาของคนที่มาของความคิดนานาชนิดล้วนสามารถที่จะก่อกวนท่านได้ความคิดของท่านไม่ว่าจะไปสอดคล้องกับสภาวะของชีวิตชนิดใดชีวิตชนิดนั้นก็จะแสดงบทบาทขึ้นมาทันที เนื่องจากระดับความซับซ้อนของจักรวาลนี้ นั่นเป็นสิ่งที่ภาษาของคนไม่มีทางที่จะบรรยายได้ช่างซับซ้อนเหลือเกินในระดับชั้นเดียวกันก็มีมิติที่ประกอบขึ้นมาจากองค์ประกอบชนิดต่างๆมากมายทั้งแนวดิ่ง แนวนอนในจักรวาล มิติที่ประกอบขึ้นจากอณูที่ต่างกันนั้น ยังมีมิติชนิดต่างๆที่ประกอบขึ้นมาจากปัจจัยที่มีรูปแบบชนิดต่างๆมากมายคุณสมบัติเฉพาะของอณูเองกับรูปแบบที่ต่างกันและชีวิตชนิดต่างๆที่ประกอบขึ้นจากอณูที่ใหญ่เล็กไม่เท่ากันชีวิตใหญ่น้อยชนิดต่างๆมากมายเหลือคณานับที่ไม่อาจจะนับได้หากเพียงแต่ความคิดของท่านสอดคล้องกับรูปแบบของชีวิตชนิดใดในทันใดมันก็จะบังเกิดผลแต่ท่านกลับไม่รู้ว่าที่มาของความคิดของท่านนั้นอยู่ที่ไหนท่านยังจะเข้าใจว่าคือตัวท่านเองอยากทำเช่นนี้ที่จริงเป็นแต่เพียงเพราะจิตยึดติดของท่านกระตุ้นให้พวกมันบังเกิดผลจากนั้นก็เสริมให้จิตยึดติดของท่านแรงขึ้น
พูดถึงที่มาของความคิด มีคนมากมายกำลังวิจัยอยู่ นักวิทยาศาสตร์ ก็กำลังวิจัยกันบอกว่าความสามารถของสมองใหญ่ของคนและความคิดก่อเกิดขึ้นมาอย่างไรที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยบอกกับทุกท่านว่า สมองนั้น ที่แท้ก็เป็นโครงสร้างความคิดของมนุษย์ในระดับชั้นนี้ เป็นวิธีการแสดงออกของโรงงานแปรรูปไม่ว่าการเคลื่อนไหวของร่างกายท่าน หรือภาษาพูดของท่านจะแสดงอะไรออกมารูปแบบโครงสร้างของภาษาที่ท่านพูดออกมามันก็จะบังเกิดผลเช่นนี้คือแปรรูปเป็นของสำเร็จรูปความคิดบางอย่างมาจากทัศนคติที่ก่อเกิดในชาตินี้ภพนี้บางอย่างเกิดจากความชอบใจ แต่ความคิดของเรื่องที่ใหญ่สักหน่อยมาจากไหนจุดตั้งต้นของมันคือที่ไหนไม่อยู่ในมิตินี้หากพูดอย่างเคร่งครัด ในเวลาที่สำคัญตัวของตัวเองที่แท้จริงจะบังเกิดผลตามปกติในสภาพการณ์ทั่วไปที่มาของทัศนคติที่เสริมจนแข็งแกร่งกับความคิดชอบพอสิ่งต่างๆในมิติไหนๆก็มีทั้งนั้นและสัมพันธ์กับระดับศีลธรรมของคนบางคน ความคิดจะมีที่มาจากเขตแดนที่สูงสักหน่อย บางคนนั้นความคิดมีที่มาจากเขตแดนที่ต่ำมาก ดังนั้นระดับศีลธรรมของคนจึงต่างกัน ในการทำเรื่องอะไร มาตรฐานในการพิจารณาปัญหาจึงต่างกันระดับความซับซ้อนของมิติมีมากมายเหลือหลายจากระดับชั้นต่ำถึงระดับชั้นสูงณ ระดับชั้นเดียวกันยังมีมิติมากมายและมิติแนวนอนนั้นมียิ่งมาก มากเหมือนมิติแนวดิ่งระดับความหนาแน่นของชีวิตชนิดต่างๆนั้นมีมากอย่างยิ่งล้วนแต่จะรบกวนถึงคนได้รวมทั้งผู้บำเพ็ญที่ไม่ได้อยู่ในฝ่า ในการพิจารณาปัญหา
ร่างกายคนในจักรวาลนี้เมื่อพูดโดยเปรียบเทียบนั้นนับว่าใหญ่ทุกท่านทราบ อณูยิ่งจุลทรรศน์ พลังงานของมันก็ยิ่งมากซึ่งวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบันไม่ใช่บอกว่ากัมมันตรังสียิ่งแรงหรอกหรือชีวิตนั้นที่ประกอบขึ้นด้วยอะตอมเนื่องจากอณูของมันเล็ก ชีวิตที่มันประกอบขึ้นมาย่อมจะเล็กอย่างแน่นอนแน่ละชีวิตขนาดใหญ่ของทั่วทั้งระนาบในระดับชั้นนั้นที่ยิ่งจุลทรรศน์ก็มีชีวิตขนาดใหญ่ที่ต่างกันซึ่งประกอบขึ้นจากอณูในระดับจุลทรรศน์ที่ต่างระดับชั้นกัน แต่ถ้ากล่าวโดยเปรียบเทียบกันแล้วก็เหมือนกับอณูจำนวนเท่ากันที่ประกอบเป็นร่างกายคนจึงพูดว่าไม่ต้องสนใจว่าอณูใหญ่หรือเล็กพูดแต่เพียงจำนวนปริมาณ ก็เป็นอณูมากมายอย่างนี้ที่ประกอบเป็นชีวิตหนึ่งหากพูดโดยเปรียบเทียบ รูปร่างก็จะเล็กยิ่งจุลทรรศน์ก็จะยิ่งเล็กยิ่งจุลทรรศน์ก็จะยิ่งเล็กลง เล็กลงแต่สติปัญญาจะยิ่งมาก เพราะเมื่อระดับชั้นสูงขึ้นแล้วพระพุทธกับเทพในมิติมากมายที่จุลทรรศน์อย่างยิ่งก็จะเล็กมากๆจุลทรรศน์มากๆ แต่เมื่อพระพุทธปรากฏออกมาจะใหญ่มากมิติที่ประกอบขึ้นจากอณูใหญ่เล็กต่างกัน ล้วนมีพระพุทธบ้าง ก็เป็นไปได้มากว่า เขาก็อาจจะมาจากมิติที่เล็ก กระทั่งเล็กจนมองไม่เห็น แน่ละ มิติต่างๆนั้นเล็กใหญ่ไม่เท่ากันมิติใหญ่เล็กอณูใหญ่หรือเล็กที่ประกอบขึ้นเป็นพระพุทธ เต๋า เทพ ก็มีทั้งนั้นข้าพเจ้าจึงพูดในความหมายนี้ชีวิตของมิติที่จุลทรรศน์นั้นไม่เพียงมีแค่พระพุทธ เต๋า เทพนะทุกท่านทราบมีชีวิตแบบต่างๆ ประเภทต่างๆ ชนิดต่างๆซับซ้อนมากเหลือเกินโลกมนุษย์เรายังมีคนชนิดต่างๆชนชาติต่างๆที่ไม่เหมือนกันมิติอื่นนั้น ยิ่งซับซ้อนกว่าประวัติศาสตร์ยิ่งยาวนานกว่าดังนั้นไม่ว่าท่านจะสอดคล้องกับใครมันจึงบังเกิดผลได้ทั้งนั้นนี่เป็นประการหนึ่ง
อีกประการหนึ่งก็คือโครงสร้างของร่างกายคนอณูสสารทั้งหมดในสามภพล้วนแต่ประกอบขึ้นเป็นองค์ประกอบของร่างวัตถุทั้งหมดในสามภพและเป็นอณูทั้งหมดที่ประกอบเป็นร่างกายคนดังนั้นจึงมีมากเหลือเกินที่จริงโมเลกุล อะตอม ควาร์ก นิวทรีโน โปรตอน ที่เราพูดถึง ที่จริงทั้งหมดล้วนเป็นอณูภายในสามภพและเป็นอณูที่ประกอบขึ้นเป็นคนของมิติชั้นผิวนี้ในสามภพ เป็นอณูที่ประกอบอยู่ในสามภพและยังต่างจากอณูกับโครงสร้างเหล่านั้นนอกสามภพ แต่สลับซับซ้อนอย่างมากมีมากเหลือเกินแล้ว เนื่องจากร่างกายของท่านประกอบขึ้นจากโมเลกุลโมเลกุลประกอบเป็นเซลล์เซลล์ประกอบเป็นตัวท่าน เช่นนั้นต่ำกว่าโมเลกุลของท่านคืออะไร ทุกท่านทราบแล้วว่าคืออะตอมที่ประกอบขึ้นมาจากอะตอมเล็กลงไปอีกก็คือนิวเคลียสอะตอม โปรตอน นิวทรีโนจนกว่ามนุษย์จะมีการค้นพบใหม่อีก ก็คือมนุษย์พัฒนาต่อไปอีกก็ไม่อาจค้นพบว่าสุดท้าย อณูที่ประกอบเป็นร่างกายคนนั้นคืออะไรและก็คืออณูชั้นที่สูงที่สุดของสามภพแต่ว่าในท่ามกลางจักรวาลนั้นคืออณูที่ต่ำที่สุดต่ำที่สุดชั้นหนึ่งเท่านั้น
ความหมายที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดก็คือจะบอกทุกท่านว่า ที่มาของความคิดนั้น ที่จริงมันซับซ้อนเหลือเกินคนอยู่บนโลก เขาเพียงแต่เสพสุขกับขั้นตอนของชีวิตข้าพเจ้าเคยพูดว่าคนน่าสงสารมากคนอยู่ในโลกนี้เขาเพียงเสพสุขกับความรู้สึกซึ่งนำมาให้แก่คน ในระหว่างขั้นตอนของการดำรงชีวิตวิธีพูดอย่างนี้ของข้าพเจ้าจะค่อนข้างถูกต้องหมายความว่าอย่างไรละคือคนรู้สึกว่าตัวเองควบคุมตัวเองอยู่ฉันคิดจะทำอะไร ที่จริงเป็นจิตยึดติดกับความเคยชินของความชอบใจชนิดหนึ่งซึ่งปลูกฝังขึ้นมาหลังกำเนิดแสวงหาความรู้สึกอยู่ ก็เพียงเท่านี้แต่องค์ประกอบที่อยู่เบื้องหลังที่ส่งผลอย่างแท้จริงว่าอยากจะทำอะไรก็จะอาศัยความเคยชินจิตยึดติดทัศนคติตัณหา สิ่งเหล่านี้ในการบังเกิดผลร่างกายที่แท้จริงของคนก็เป็นอย่างนี้ เพียงแต่เสพสุขอยู่กับความรู้สึกซึ่งนำมาโดยขั้นตอนของการดำรงชีวิตให้รสหวานแก่ท่าน ท่านก็รู้ว่าหวานให้รสขมกับท่าน ท่านก็รู้ว่าขมให้รสเผ็ดกับท่าน ท่านก็รู้ว่าเผ็ดให้ความทุกข์ยากกับท่าน ท่านก็รู้ว่าทุกข์ทรมาน ให้ความสุขกับท่าน ท่านก็ดีใจ
ตัวฉันที่แท้จริงของศิษย์ต้าฝ่าล้วนมาจากระดับชั้นสูงข้าพเจ้าเพียงแต่พูดถึงคนกับโครงสร้างที่ประกอบเป็นร่างกายคน เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดถึงที่มาของความคิดคนในระหว่างการเจิ้งฝ่าข้าพเจ้ามองเห็นสภาพการณ์หนึ่ง คือในมิติที่การเจิ้งฝ่ายังไปไม่ถึง บางครั้งความคิดหนึ่งของศิษย์ต้าฝ่าที่ค่อนข้างเที่ยงตรงก็จะมีเทพหรือองค์ประกอบที่ถูกต้องส่งผลอยู่เสริมสร้างเจิ้งเนี่ยนของเขาบางครั้งศิษย์ต้าฝ่าร่วมมือซึ่งกันและกันไม่ดีกำลังโกรธ กำลังโมโหข้าพเจ้าก็จะเห็นชีวิตที่เบี่ยงเบนจำนวนหนึ่งบ้างก็ใหญ่มาก กำลังเสริมพลังให้มันและในระดับชั้นที่ต่างกันเมื่อสอดคล้องกับชีวิตที่ไม่ดีของระดับชั้นต่ำที่ต่างกันในแต่ละระดับชั้น ก็กำลังส่งผลอยู่ข้าพเจ้ามิใช่พูดหรือว่าคนล้วนมีสองด้าน คือดีกับเลวใช่ไหมเช่นนี้แล้วทุกท่านคิดดูเมื่อความคิดของคนออกมา องค์ประกอบที่ส่งผลจึงซับซ้อนมากแต่กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า ล้วนแต่มีตัวของตัวเองที่แท้จริงจุดประสงค์คือลงมายังโลกเพื่อได้ฝ่า ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่าก็ดีท่านจะช่วยเหลือสรรพชีวิตในโลกก่อนกำเนิดของท่านก็ดีคือมาด้วยความคิดอันนี้ตัวท่านที่แท้จริงนั้นจะได้รับการคุ้มครองไว้ตัวท่านเองที่แท้จริงเมื่อเริ่มต้นจะแสดงบทบาทชี้นำ แต่ทุกท่านทราบ หลังจากเข้าสู่สามภพ ก็ล้วนเหมือนถูกกลบฝังในดินจึงค่อยๆแสดงบทบาทชี้นำไม่ได้กระทั่งไม่อาจแสดงบทบาทได้เทพมิใช่พูดหรือว่า “ข้าใช้ดินโคลนสร้างคน” ชาวจีนมิใช่พูดกันหรือว่า หนี่วา ก็ใช้ดินโคลนสร้างชาวจีนเมื่ออยู่ในสวรรค์มองดูโมเลกุลทั้งหมดบนโลก รวมทั้งอะตอม อณูในสามภพบรรดาอณูเหล่านั้นที่ประกอบขึ้นในโลกในสายตาของเทพล้วนแต่สกปรก ล้วนเป็นดินโคลนอณูของสสารในโลกของเทพยิ่งจุลทรรศน์ยิ่งบริสุทธิ์พลังงานยิ่งมากเมื่อพวกเขามองดูคนนี้ก็เป็นดินจริงๆ เป็นดินทั้งนั้นร่างกายคนก็คือ ประกอบขึ้นจากอณูเหล่านี้ในสามภพที่เทพมองเป็นดินโคลนและสร้างขึ้นมา ดังนั้นเทพจึงพูดว่าเขาใช้โคลนสร้างคนใช้ดินสร้างคน ก็คือความหมายนี้ แน่นอนเมื่อเทพสร้างคนพฤติกรรมของเทพกับพฤติกรรมของคนย่อมไม่ใช่แนวคิดเดียวกันเพียงหนึ่งความคิดก็สำเร็จไม่จำเป็นต้องลงมือเช่นนั้นร่างกายคนที่ต่ำมากอย่างนี้ไม่มีพลังงานอะไรทั้งนั้นพอเขตแดนความคิดของท่านสอดคล้องกับอะไรอะไรก็จะควบคุมท่านฉะนั้นจึงพูดได้อีกว่า เมื่อชีวิตต่างระดับชั้นพบว่าท่านอยากได้อะไรยึดติดกับอะไรสอดคล้องกับมันพอดีมันก็จะบังเกิดผลกระทั่งชี้นำท่านในเวลาที่คนไม่มีสติระบายความโกรธอยู่องค์ประกอบด้านลบก็จะส่งผลอะไรๆล้วนแต่เป็นชีวิตมันก็คือความชั่วร้ายมันก็คือตัณหามันก็คือความเกลียดชังมันก็คือสิ่งที่ต่างกันไปเช่นนั้นมันก็จะส่งผลได้โดยอัตโนมัติแล้ว
โดยเฉพาะคือกำลังอยู่ในช่วงเวลาเจิ้งฝ่า ชีวิตทั้งด้านบวกและลบต่างคิดว่าจะสามารถได้รับการช่วยเหลือในการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ รวมทั้งเทพใหญ่มหึมานับไม่ถ้วนที่สูงที่สุดของระดับชั้นต่างๆโดยเฉพาะคือสรรพชีวิตเหล่านั้นในโลกของมัน ด้วยเหตุนี้พวกมันล้วนยื่นขาข้างหนึ่งเข้ามาในโลก ในสามภพพวกมันจะพลาดโอกาสของการช่วยชีวิตที่ไม่อาจพานพบได้ในหมื่นกัลป์นี้ได้หรือ ท่านต้องช่วยข้าต่างพูดว่าท่านต้องช่วยข้าท่านต้องช่วยข้า แต่ท่าทางที่แสดงออก ไม่เหมือนตรรกอย่างนั้นที่รู้จักกันในโลกที่ว่า เวลาขอร้องคนต้องมีมรรยาทมากๆถ่อมตัวมากๆ จึงจะใช้ได้ท่านจะช่วยฉันฉันต้องแสดงความซาบซึ้งใจต่อท่านเสียก่อนฉันจะอำนวยความสะดวกให้ท่านแต่มันไม่ใช่เช่นนี้ในสายตาของพวกมันคือ หากท่านสามารถจะช่วยฉันท่านต้องขึ้นถึงระดับชั้นนี้ของฉันจึงจะใช้ได้ท่านต้องมีธรรมานุภาพนี้ท่านจึงจะสามารถช่วยฉันได้หากท่านไม่มีธรรมานุภาพนั้นท่านบรรลุไม่สูงเท่าฉัน จะช่วยฉันได้อย่างไรฉะนั้นมันจึงให้ท่านล้มลุกคลุกคลานทนทุกข์ทิ้งจิตยึดติดของท่านจากนั้นสถาปนาธรรมานุภาพของท่านขึ้นมาท่านบำเพ็ญถึงระดับชั้นใดแล้วท่านจึงจะสามารถช่วยมันได้ล้วนแต่ทำกันอย่างนี้
ดังนั้นที่ผ่านมาข้าพเจ้าพูดว่าศิษย์ต้าฝ่าในฐานะผู้บำเพ็ญคนหนึ่งเวลามองปัญหาควรที่จะมองกลับกันกับคนบางคนรู้สึกว่าเมื่อพบกับเรื่องไม่สบายใจแล้วก็ไม่พอใจเช่นนั้นท่านก็ไม่ใช่คนละหรือมีอะไรต่างกันละเวลาที่พบกับเรื่องไม่สบายใจก็คือเวลาที่ท่านจะบำเพ็ญตัวเองพอดีเป็นเวลาบำเพ็ญจิตในอดีต ศาสนามิใช่พูดเรื่องบำเพ็ญจิตข้างในหรือคนปัจจุบันท่านอย่าไปฟังเขาพูดเขาไม่แน่ว่าจะรู้ว่าความหมายที่แท้คืออะไรไปบำเพ็ญตัวท่านเองอย่างแท้จริงเมื่อพบความขัดแย้งแล้วพบกับปัญหาแล้วก็ดูว่าตนเองผิดที่ตรงไหนฉันควรปฏิบัติอย่างไรใช้ฝ่ามาประเมินทุกท่านคิดดูนี่มิใช่การบำเพ็ญหรือไม่ว่าท่านจะออกบวชก็ดีท่านบำเพ็ญอยู่ในบ้านก็ดีคนธรรมดาสามัญสามารถจะทำเช่นนี้ได้หรือทำไม่ได้ท่านมิใช่กำลังบำเพ็ญตนเองอยู่หรือ เมื่อพบกับเรื่องไม่สบายใจพบเรื่องที่ทำให้ท่านโกรธพบกับเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนในเวลาที่ตนเองถูกโจมตีหากท่านสามารถมองสู่ภายในบำเพ็ญตนเองค้นหาจุดรั่วของตนในความขัดแย้งแม้ท่านไม่ผิดก็สามารถทำเช่นนี้ได้ อ้อ ฉันเข้าใจแล้วฉันต้องทำตรงไหนไม่ดีแน่ถึงแม้จะไม่ได้ทำผิดจริงๆก็อาจเป็นว่าเมื่อก่อนติดค้างหนี้ไว้ฉันก็ทำให้ดีสมควรชดใช้ก็ชดใช้ไปพบกับปัญหาแบบนี้ไม่หยุดหย่อนพบกับเรื่องอย่างนี้ไม่หยุดหย่อนบำเพ็ญตัวท่านเองไม่หยุดหย่อนดังนั้นหากผู้บำเพ็ญมองปัญหากันอย่างนี้ใช้หลักการที่ถูกต้องบำเพ็ญตัวเองอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ พวกท่านพบกับเรื่องที่ไม่สบายใจ ใช่ไหมว่าเป็นเรื่องที่ดีละท่านคิดจะบำเพ็ญท่านอยากจะหลุดพ้นจากสามภพท่านอยากจะกลับไปสถานที่เดิมของท่านท่านอยากจะช่วยสรรพชีวิตของโลกฝั่งนั้นของท่านถ้าท่านกำลังช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่าจริงๆนี่มิใช่การให้ความสะดวกแก่ท่านนี่ไม่ใช่ให้ท่านบำเพ็ญตัวท่านเองอย่างแท้จริงหรอกหรือเรื่องไม่ดีเหล่านั้นที่ท่านพบ มิใช่เป็นการปูทางให้ท่านหรือแล้วทำไมท่านไม่พอใจละ
ที่จริงคำพูดนี้ข้าพเจ้าเคยพูดใน “จ้วนฝ่าหลุน”หลายปีมานี้ข้าพเจ้าก็พูดอยู่ตลอดโดยไม่หยุดบางคนพอพบกับปัญหารูปธรรมก็คิดไม่ตกคิดแต่จะดีใจในความขัดแย้งไม่ค้นหาตนเองกระทั่งผิดไปแล้วก็ไม่ยอมรับผิดท่านไม่บำเพ็ญตนเองท่านจะช่วยข้าพเจ้าเจิ้งฝ่าได้อย่างไรข้าพเจ้าจะใช้ท่านได้อย่างไรละทั้งวันท่านพบแต่เรื่องดีใจทั้งนั้นในการช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า ก็ต้องให้ท่านทำเรื่องที่ดีใจให้แล้วแต่ท่านถือเอาท่านเป็นศูนย์กลางท่านจึงอยากทำ ไม่มีนะ คนในโลกเป็นอย่างไรทุกท่านก็มองเห็นกันแล้วเมื่อวานข้าพเจ้ายังพูดเล่นกับพวกเขา ข้าพเจ้าว่านักแสดงในปัจจุบันไม่ว่านักแสดงภาพยนตร์หรือว่านักแสดงบนเวทีถ้าแสดงเป็นคนชั่วไม่ต้องแสร้งทำ (เหล่าศิษย์หัวเราะ) คนในวัยเดียวกับข้าพเจ้านี้ กับผู้ที่อาวุโสกว่าเหล่านั้นต่างทราบกัน ในเวลานั้นใจคนดีงามมากรูปลักษณ์ภายนอกดีงามคำพูดดีงามพฤติกรรมของเขา มาตรฐานของคนก็อยู่ที่ตรงนั้นดังนั้นเมื่อเขาแสดงเป็นคนชั่ว เขาต้องคิดหาวิธีว่าจะแสดงอย่างไรให้เหมือนต้องไปศึกษาต้องไปฝึกฝนจึงจะสามารถแสดงเป็นคนชั่วนั้นออกมาได้ในเวลาไม่กี่สิบปีคนมีความแตกต่างกันมากเพียงไรคนเดี๋ยวนี้นะจะแสดงเป็นคนดีต้องไปครุ่นคิดต้องไปเสแสร้งก็ยังไม่เหมือนก็พูดว่าคนในโลกลื่นไถลลงไปกันอย่างนี้ท่านยังคิดจะไปบำเพ็ญท่ามกลางความยินดีปรีดาหรือศิษย์ต้าฝ่านั้น ด้านของคนก็บำเพ็ญอยู่ในสภาพที่เป็นจริงก็มีจิตยึดติดของคนดังนั้นจึงสามารถบำเพ็ญขณะเดียวกันก็จะมีการร่วมมือที่ไม่ดีและจะมีการรบกวนของใจคนรวมทั้งตัวท่านเองแต่พูดในทางกลับกัน คนในโลกนี้ลื่นไถลลงไปอย่างนี้ความทุกข์ยากที่ยื่นให้มิใช่เป็นการหยิบยื่นโอกาสของการบำเพ็ญให้ท่านหรืออิทธิพลเก่าก็ทำอย่างนี้พวกมันก็คิดกันอย่างนี้มันเจตนาเปลี่ยนคนให้เลวลงให้เงื่อนไขแก่ศิษย์ต้าฝ่าให้พวกท่านบำเพ็ญแต่มันกลับทำลายโลกทำลายชาวโลกแต่คนเดี๋ยวนี้พวกท่านทราบว่า ล้วนไม่ธรรมดานะข้าพเจ้าว่าการเจิ้งฝ่าของจักรวาล เรื่องที่ใหญ่อย่างนี้ในจักรวาลล้วนจัดวางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอย่างนี้ไว้แล้วในเวลาที่จักรวาลทำการเจิ้งฝ่า ใครจะมาเกิดเป็นคนนั่นจะเป็นเรื่องธรรมดาๆได้หรือเหตุใดคนปัจจุบันจึงเน้นการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติกันละหลายปีก่อนเมื่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติยังไม่ถูกทำลายอย่างร้ายแรงเช่นนั้น ก็พูดถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติ อนุรักษ์สัตว์กันแล้วเรื่องอะไรๆก็ไม่บังเอิญชีวิตชั้นสูงมากมายล้วนลงมาจุติอยากจะผูกวาสนากับต้าฝ่า คนก็กำลังหมุนเวียนกลับชาติมาเกิดมนุษยชาติจึงมีมากเท่านี้หนังคนจึงมากเท่านี้ถ้ามากกว่านี้โลกนี้ก็ไม่สามารถบรรจุได้ดังนั้นชีวิตชั้นสูงจึงจุติเป็นสัตว์เป็นพืชก็มีทั้งนั้นที่ตรงนี้มนุษย์มีชีวิตมากมายล้วนไม่ธรรมดาล้วนไม่ใช่ชีวิตทั่วไปแล้ว และบนโลกนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามล้วนยึดกุมไว้โดยเทพ ล้วนเป็นระเบียบ ที่วุ่นวายก็คือเทพที่ให้มันวุ่นวายนี่ก็เป็นระเบียบในความไม่เป็นระเบียบไม่เชื่อ พวกท่านก็ลองตรวจสอบทั้งหมดนี้ดูแต่ตัวเอกของที่นี่กลับเป็นศิษย์ต้าฝ่าสรรพชีวิตต่างรอคอยให้พวกท่านช่วยให้สภาพแวดล้อมของการบำเพ็ญแก่พวกท่านพร้อมกับรอให้พวกท่านช่วยเหลือ
ท่านว่า หากท่านไม่บำเพ็ญให้ดีพอท่านพบกับเรื่องไม่สบายใจท่านก็ไม่พอใจแล้วเรื่องของต้าฝ่าก็ไม่ทำแล้วคนไหนพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังไม่กี่คำฉันก็ไม่ช่วยท่านแล้วละ(เหล่าศิษย์หัวเราะ)แต่ท่านทราบไหมพวกเขาล้วนมาเพื่อฝ่าคือถูกอิทธิพลเก่านั้นถูกองค์ประกอบที่ไม่ดีถูกมังกรแดงตัวนั้น คือพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนบนโลกหรือชีวิตที่เบี่ยงเบนซาตานภูตผีปีศาจเปลี่ยนพวกเขาให้เลวลงกรอกใส่วัฒนธรรมที่ทำลายล้างประเพณีดั้งเดิม วัฒนธรรมดั้งเดิมของมนุษย์กรอกใส่วัฒนธรรมชั่วร้ายแบบอเทว นิยม การต่อสู้ระหว่างคนกับคน คนกับโลก คนกับสวรรค์จงใจทำลายวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของจีนนั่นคือสิ่งที่เทพสร้างขึ้น กรอกใส่ปรัชญาการต่อสู้ที่ชั่วร้ายของพรรคชั่วนี่คือการต่อต้านจักรวาลแม้แต่มารก็ล้วนจะดับสลายมันถ้าไม่ใช่เพื่อการเจิ้งฝ่า มารก็ดับสลายมันไปแล้วเพราะมันเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนคือสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในจักรวาลโดยแท้จริง เป็นเพราะการเจิ้งฝ่า อิทธิพลเก่าปกป้องมันอยู่ใช้มันมาทดสอบศิษย์ต้าฝ่าอาจารย์คัดค้านอิทธิพลเก่านั้นก็เพียงไม่เห็นด้วยกับการทำอย่างนี้ของพวกมันอาจารย์มีวิธีอย่างอื่นแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามโลกมาถึงขั้นนี้แล้วกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าพวกท่านไม่อาจย่อหย่อนต่อการบำเพ็ญของตนเองก็คือต้องรีบเร่งบำเพ็ญตนเองให้ดียิ่งวุ่นวายก็ยิ่งสามารถบำเพ็ญตนเองในท่ามกลางความวุ่นวายยิ่งประสบกับความทุกข์ยากยิ่งประสบกับเรื่องที่ไม่สบายใจ ก็ยิ่งสามารถหันกลับมามองปัญหานี่ล้วนเป็นการยื่นบันไดไต่เต้าขึ้นไปของการบำเพ็ญสำหรับตนเองบันไดของการยกระดับขึ้นไปทุกท่านว่าเป็นอย่างนี้ใช่หรือไม่ละ (เหล่าศิษย์: ใช่ ปรบมือ)
ทุกท่านต่างอยากจะฟังอาจารย์บรรยายฝ่าเพราะอาจารย์สามารถพูดเรื่องเหล่านี้ให้กระจ่างได้ใช่ไหม (เหล่าศิษย์ตอบ ใช่) ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่านว่า ธาตุแท้ของชีวิตนั้นของพวกท่านยังเข้าใจชัดเจนกว่าที่อาจารย์พูดเพราะขณะนี้อาจารย์ใช้ภาษาคนบรรยายตัวตนที่แท้จริงของพวกท่านนั้นเข้าใจแจ่มแจ้งเพียงแต่ถูกองค์ประกอบหลังกำเนิดในสามภพ เรื่องราวสิ่งของที่ไม่ดีเหล่านี้ก่อเกิดเป็นทัศนคติ ประสบการณ์สิ่งต่างๆที่สะสมมาให้กับท่านเหมือนกับดินที่กลบฝังท่านไว้ข้างใน ความคิดที่แท้จริงกลับออกมาไม่ได้ดังนั้นจึงต้องบำเพ็ญก็คือปีนป่ายออกมาปัดสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ทิ้งไป ชำระล้างตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์ ในระหว่างการบำเพ็ญ พวกท่านก็กำลังทำเรื่องนี้อยู่ขณะเดียวกันในความทุกข์ยากยังต้องไปช่วยเหลือสรรพชีวิตอย่าลืมว่า อิทธิพลเก่าได้ทำให้ชาวโลกทุกวันนี้โดยเฉพาะชาวจีน เสียคนหมดแล้วปากบอกว่าให้สภาพแวดล้อมของการบำเพ็ญแก่พวกท่านแต่เมื่อท่านบำเพ็ญสำเร็จแล้ว จักรวาลกลับไม่มีอยู่แล้ว มีเพียงพวกท่านโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ในแต่ละแห่งดังนั้นต้องช่วยพวกเขาแม้อยู่ในความทุกข์ยากก็ต้องช่วยพวกเขาไว้นี่ก็คือธรรมานุภาพของศิษย์ต้าฝ่าคือสิ่งที่คนธรรมดาสามัญทำไม่ได้ในประวัติศาสตร์ก็ไม่มีใครเคยทำใครๆต่างก็ร้องตะโกนว่าช่วยเหลือสรรพชีวิตช่วยเหลือสรรพชีวิตแต่ใครก็ไม่ได้ทำแต่พวกท่านกำลังทำอยู่ (เสียงปรบมือ)
แต่ว่านะ ข้าพเจ้าบอกแล้วว่า เจิ้งฝ่าต้องสำเร็จ ใช่ไหม (อาจารย์หัวเราะ) เดินมาถึงวันนี้ก็เข้าใกล้ตอนจบแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามทำไมจึงบอกว่าเจิ้งฝ่าต้องสำเร็จหรือเพราะจากจุดเริ่มต้นจนถึงตอนสุดท้ายฝ่าก็สำเร็จสมบูรณ์แล้วเพียงแต่ช่วยเหลือชีวิตเท่านั้นเมื่อครู่ข้าพเจ้าบรรยายเรื่องโครงสร้างของจักรวาลจุดประสงค์คือจะบอกท่านถึงที่มาของการรบกวนความคิดของท่าน โดยชีวิตชนิดต่างๆในระดับชั้นต่างๆข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ตัวท่านที่แท้จริงกำลังยึดกุมอยู่ แต่พลังไม่มากพอกระทั่งไม่สามารถทำได้เพราะอิทธิพลเก่าของจักรวาลนั้นใหญ่กว่ามากมายนักท่านเองยังถูกกลบฝังอยู่ด้วยหลักการที่กลับกันของสามภพดังนั้นจึงต้องมีอาจารย์ดูแลท่านช่วยเหลือท่านยึดกุมทุกสิ่งนี้ไว้ไม่เพียงแค่นี้โดยแก่นแท้ที่สุดนั้น ข้าพเจ้าก็ยึดกุมทุกสิ่งอยู่รวมทั้งตั้งแต่ไม่มีอะไรจนมีนั่นล้วนไม่อาจใช้ภาษาคนมายกตัวอย่างอธิบายให้ชัดเจนได้แล้ว ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ไม่มีทางจะอธิบายให้ชัดเจนได้พลังนั้นยิ่งใหญ่ที่สุด ขับให้ชีวิตทั้งหมดเด่นขึ้นมา ขับให้ทุกสิ่งตั้งแต่จุลทรรศน์จนถึงมหทรรศน์เด่นขึ้นมาล้วนอยู่ในการควบคุมไม่ว่าจะเป็นเทพที่สูงเพียงใด ล้วนถูกควบคุมอยู่ในนั้นรูปแบบของจักรวาลสถานการณ์ของโลก จากสูงถึงต่ำ บรรดาสิ่งต่างๆทั้งปวงอยากจะให้เกิดสภาพการณ์อะไรก็เป็นอย่างนั้นคิดจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้นทุกท่านทราบแล้วว่าเหตุใดเจิ้งฝ่าจึงทำกันอย่างนี้คือเพื่อจะเหลือชีวิตดั้งเดิมเอาไว้ซึ่งยากมากเนื่องจากชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือต้องอยู่ในโลกที่สับสนวุ่นวาย แล้วรับรู้ความดีความชั่วได้ชัดเจนเปลี่ยนกลับเป็นดีศิษย์ต้าฝ่าก็ต้องอยู่ในโลกที่สับสนวุ่นวาย บำเพ็ญออกมา ชำระล้างตนเองให้สะอาดบริสุทธิ์จึงจะใช้ได้
เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยบอกทุกท่านแล้วเทพจะสร้างอะไร เพียงแต่คิดก็สำเร็จเทพที่สูงที่สุดเมื่อสร้างจักรวาล แค่คิดก็สำเร็จเพราะเขามีปัญญาญาณสูงเพียงนั้นพลังงานที่สูงอย่างนั้นในขอบเขตของเขาก็มีสนามที่ใหญ่อย่างนั้นในสนามนั้นก็มีอณูของระดับชั้นต่างๆมากมายเพียงนั้นหากอณูของแต่ละระดับชั้นแต่ละระดับชั้น แต่ละระดับชั้น จากใหญ่ถึงเล็กล้วนเป็นชีวิตดังว่าทุกท่านลองคิดดูพอความคิดของเขาคิดจะทำอะไรโมเลกุลทั้งหมดพลังทั้งหมดอณูทั้งหมดที่มีอยู่ล้วนคือชีวิตไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน หรือจุลทรรศน์แค่ไหน ก็จะบังเกิดผลพร้อมกันล้วนทำไปตามคำบัญชาและยังอยู่เหนือมิติกับกาลเวลาใดๆใช่ไหมว่าชั่วพริบตาก็สำเร็จได้แล้วละนี่ก็คือ ความอัศจรรย์นี่คือการสร้างสิ่งของของเทพ พอคิดก็สำเร็จผลเทพ พระพุทธไม่ได้ขยับเลยแต่สิ่งที่ดำเนินการอย่างแท้จริงคืออณูเหล่านั้นทั้งหมดที่มีอยู่ในทันทีก็ประกอบขึ้นมา ก็สร้างขึ้นมาเขาสร้างระดับชั้นนี้เขาสร้างระดับชั้นนั้นเขาสร้างสิ่งนี้เขาสร้างสิ่งนั้นความหนาแน่นมหาศาลยิ่งนักคนไม่มีความสามารถอะไรคนไม่มีความสามารถอันนี้คนต้องลงมือไปทำเองอยู่ในเวลาของมิตินี้ ทำสิ่งที่เขาต้องการทีละน้อย ทีละน้อยจนสำเร็จนี่ก็คือคน
กล่าวสำหรับพวกท่านศิษย์ต้าฝ่าเอยยิ่งใกล้จุดสุดท้ายก็ยิ่งควรเดินบนทางของตนเองให้ดีแข่งกับเวลาบำเพ็ญตนเองให้ดีทำสิ่งต่างๆไว้เป็นกองโตพอหันกลับมามองดูล้วนแต่ใช้ใจคนทำทั้งนั้นคนทำเรื่องของคนหาได้ใช้เจิ้งเนี่ยนไม่มีธรรมานุภาพของศิษย์ต้าฝ่าอยู่ในนั้นหากพูดในทางกลับกันในสายตาของเทพ นั่นคือทำเรื่องฉาบฉวยไม่ใช่ธรรมานุภาพและไม่ใช่การบำเพ็ญ แม้ได้ทำแล้วท่านว่านี่ไม่ใช่ทำไปโดยเปล่าประโยชน์หรือฉะนั้นต้องศึกษาฝ่าให้ดีนั่นคือหลักประกันที่แท้จริงของการหวนคืนกลับสู่ตำแหน่งของพวกท่าน (เหล่าศิษย์ปรบมือ) นั่นไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์คิดออกมาตามอำเภอใจสิ่งที่อาจารย์พูดออกมาให้พวกท่านฟังคือฝ่าของจักรวาลเมื่อครู่ที่พูดไปก็คือจะบอกทุกท่านว่าไม่ว่าอย่างไรอย่าได้ย่อหย่อนในการบำเพ็ญไม่ว่าอย่างไรอย่าได้ย่อหย่อนในการศึกษาฝ่าจะต้องจริงจังเมื่อก่อนไม่ได้ศึกษาให้ดี วันนี้อาจารย์ก็บอกกับท่านอีกครั้งหลังจากท่านกลับไปต้องอ่านหนังสือ บำเพ็ญอย่างจริงๆจังๆ ความคิดอย่าได้เลื่อนลอย (เหล่าศิษย์ปรบมือ)
ทุกท่านอาจจะมีความเห็นมากมายต่อเรื่องเสินยวิ่นข้าพเจ้าขอถือโอกาสพูดสักหน่อยทุกท่านล้วนทราบว่า ศิษย์ต้าฝ่าได้ทำโครงการไว้มากมายจุดประสงค์คือเปิดโปงการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายในขณะที่ชาวโลกซึ่งถูกพิษร้ายเดินไปอยู่กับสิ่งชั่วร้ายท่ามกลางการใส่ร้ายป้ายสีของสิ่งชั่วร้ายถูกภาพที่ไม่จริงหลอกลวงนั่นอันตรายเหลือเกินดังนั้นพวกท่านต้องช่วยเหลือชาวโลกไปอธิบายความจริงนี่คือสิ่งที่พวกท่านต้องทำให้ดีในขณะนี้เช่นนั้นแต่ละโครงการที่พวกท่านทำ สามารถพูดได้ว่าบังเกิดผลอย่างมากจริงๆ และไม่เพียงบังเกิดผลอย่างมาก แต่ยังบังเกิดผลที่สำคัญยิ่ง เช่นนั้น เสินยวิ่นใช้รูปแบบศิลปะช่วยเหลือคน ประเด็นนี้ข้าพเจ้าไม่ต้องพูดในรายละเอียด ทุกท่านต่างก็ทราบ ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าก็เคยพูดแล้ว ฉะนั้นกล่าวสำหรับศิลปะของเสินยวิ่นจะต้องสัญจรไปแสดงทั่วโลกข้อกำหนดแต่ต้นของพวกเขาจึงต้องสูง สูงอย่างไรหรือเมื่อแรกเริ่มข้าพเจ้าก็คิดอยู่ว่าหากไม่มีการแสดงที่เลิศล้ำกว่ามาตรฐาน ผลลัพธ์ก็จะไม่อาจโน้มน้าวใจคนได้และช่วยคนไม่ได้ชนชาติใดๆก็เข้าใจว่าศิลปะของตนเองมีมาตรฐานดีข้าพเจ้าไม่ได้พูดว่าชนชาติใดเป็นอย่างไรชนชาติใดๆล้วนเลื่อมใสและส่งเสริมในศิลปะของชนชาติตนจุดนี้กล่าวสำหรับคน ไม่มีอะไรที่จะตำหนิได้ดังนั้นบางครั้งข้าพเจ้าจึงคิดว่าดนตรีซิมโฟนีระบำบัลเล่ย์ละครโอเปร่าของอิตาลี ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลสิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นรูปแบบศิลปะที่เป็นแบบฉบับที่สุดโดดเด่นที่สุดสูงที่สุดของโลกโดยเฉพาะคนในสังคมกระแสหลักต่างอยากชมต่างชมชอบที่จะดูแต่ละครร่วมสมัยเหล่านั้นที่จัดอยู่ในระดับแนวหน้าเพียงทำตลาดได้จำนวนน้อยในหมู่ชนชั้นกลางล่างกับผู้ใช้แรงงาน ยังมีนักศึกษามหาวิทยาลัยนักศึกษามหาวิทยาลัยเหล่านั้นพอสำเร็จการศึกษาก็ออกห่างแล้วก้าวเข้าสู่สังคมกระแสหลักไปโดยปริยายมันก็เป็นสภาพการณ์อย่างนี้
ทุกท่านทราบ เราต้องการใช้รูปแบบศิลปะช่วยคนถ้าท่านไม่มีรูปแบบศิลปะที่ยอดเยี่ยมท่านก็ช่วยคนไม่ได้ เพราะอะไรละหากบนเวทีล้วนเป็นเทพที่กำลังช่วยแสดงความคิดนี้ที่คนส่งออกมา คิดว่า โอ้การแสดงของท่านนี้แย่เหลือเกินมาตรฐานก็ไม่ดีพอหัวเราะเยาะไม่หยุดทุกท่านคิดดูนั่นคือเทพที่ช่วยแสดงอยู่ไม่เพียงช่วยคนไม่ได้คนยังทำบาปด้วยนี่ก็ใช้ไม่ได้ ดังนั้นจำเป็นต้องมีรูปแบบศิลปะที่ยอดเยี่ยม เสินยวิ่นสัญจรไปแสดงทั่วโลกในหลายประเทศหากรูปแบบศิลปะของท่านมาตรฐานศิลปะของท่านไม่ยอดเยี่ยมท่านบรรลุไม่ถึงมาตรฐานของพวกเขาชาวโลกก็จะไม่บอกว่าท่านดีนั่นก็ช่วยคนไม่ได้ดังนั้นท่านก็จำเป็นต้องมีความล้ำเลิศราวกับความมหัศจรรย์ ใครก็จะพูดว่าดีใครก็ไม่อาจพูดว่าท่านไม่ดีท่านจึงจะสามารถช่วยคนๆนั้นได้คณะศิลปินเสินยวิ่นจำเป็นต้องมีจุดเริ่มต้นที่สูงจึงจะใช้ได้เริ่มต้นนั้นมีจุดประสงค์ในการเลือกระบำเพลงชนิดนี้ ที่แต่ละชนชาติในโลกล้วนสามารถเข้าใจได้ ล้วนสามารถรับได้ล้วนสามารถชมแล้วเข้าใจได้ มาทำรูปแบบศิลปะชนิดนี้และข้าพเจ้าก็คิดจะให้เป็นแบบอย่างแก่โครงการอื่นดูว่าเสินยวิ่นทำอย่างไรมีที่อ้างอิงดังนั้นคุณภาพของการแสดงการฝึกฝนนักแสดงด้านนี้ล้วนไปทำอย่างจริงๆจังๆในความเป็นจริงก็ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากเริ่มต้นเวลาที่ทุกท่านไปขายตั๋วในที่ต่างๆไม่กล้าจะบอกว่าของพวกเรานั้นดีที่สุดแต่ผลลัพธ์ของการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเสินยวิ่นทำให้ทุกท่านมีความเชื่อถือต่อมายิ่งทำก็ยิ่งมีความมั่นอกมั่นใจและกล้าพูดว่าดีที่สุดแล้ว (เสียงปรบมือ)
แน่ละข้าพเจ้าไม่ใช่จะบอกว่าพวกท่านเก่งอย่างไรแต่บอกทุกท่านว่าผลลัพธ์ของการแสดงที่ดีมากอันหนึ่ง เสริมกับการช่วยเหลือของเทพนั่นเป็นเรื่องที่คนทำไม่ได้พลังงานที่ออกมาล้วนคือ “เจิน ซั่น เหยิ่น”ไม่ว่าพวกเขาจะเต้นระบำอยู่หรือเพลงที่ร้องออกมาเสียงที่ส่งออกมาของดนตรีในนั้นล้วนมีพลังงานที่เที่ยงธรรมอยู่กระทั่งสีสันบนเวทีก็ล้วนส่งพลังงานที่เที่ยงธรรมออกมา (เสียงปรบมือ) อะไรก็เป็นสสารทั้งสิ้นผลลัพธ์โดยรวมที่เที่ยงธรรมอย่างนี้ก็จะทำให้คนได้ประโยชน์ดังนั้นบางคนเวลาที่ชมการแสดงอยู่โรคจึงหายแล้วพอออกประตูไปรับโทรศัพท์โอ้ มีข่าวดีมาแล้วเดิมทีชีวิตได้ประสบกับด่านใหญ่ที่ลำบากในทันใดก็แก้ไขได้แล้วแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอย่างไรก็ตามพอชมการแสดงนี้จบก็ดีใจแล้วเรื่องมากมายเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะทุกข์ภัยของคนนั้นมาจากกรรมของคนสะสมเรื่องไม่ดีที่ทำไว้เมื่อก่อนสะสมไว้ยิ่งมากทุกข์ภัยยิ่งมากมากจนคนต้องประสบภัยทุกข์ภัยนี้อาจจะสร้างเป็นภัยพิบัติให้แก่ชีวิตในภายหน้าของท่านและอาจทำให้ร่างกายท่านมีเคราะห์เป็นโรคเมื่อชมการแสดงเสินยวิ่นจบลง ก็สลายกรรมนี้ไปแล้วพลังงานที่เที่ยงธรรมของการแสดงครั้งนี้ก็บังเกิดผลอย่างนี้ทุกท่านคิดดูทุกข์ภัยข้างหน้ายังจะมีไหมไม่มีแล้วเพราะทุกข์ภัยอันนั้นเกิดจากกรรมนี่คือสาเหตุที่ทำให้คนได้ประโยชน์ในขณะนั้น
ไม่เพียงเท่านี้ทุกท่านทราบวัฒนธรรมจีนเป็นวัฒนธรรมที่เทพถ่ายทอดให้ข้าพเจ้าก็เคยบอกทุกท่านว่า“รัชสมัย”ของจีน กับ “ประเทศ” นั้นไม่ใช่แนวคิดเดียวกัน“ฮ่องเต้(จักรพรรดิ)”นั้น กับ “พระราชา”ของประเทศอื่น ก็ไม่ใช่แนวคิดเดียวกัน“รัชสมัย”นั้นเป็นสัญลักษณ์ในยุคหนึ่งของมนุษยชาติ “ฮ่องเต้”กับ”พระราชา”นั้นแตกต่างกันมาก ฮ่องเต้คือจ้าวแห่งแว่นแคว้นของรัชสมัยหนึ่งเป็นราชา(อ๋อง)แห่งราชา(อ๋อง)ต่ำกว่าฮ่องเต้คือราชา(อ๋อง)ขอเพียงสามารถดูแลประเทศได้ก็จะได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ในสมัยนั้นให้เป็นอ๋อง การขึ้นดำรงตำแหน่งของอ๋องก็ต้องได้รับพระบรมราชโองการจากฮ่องเต้จึงจะถูกกฎหมาย เป็นเพราะประเทศจีนคือด่านเข้าออกสำหรับสวรรค์ที่แตกต่างกันจุติลงมาเป็นคนและมาที่นี่ผูกวาสนาเป็นจ้าวแห่งแว่นแคว้นผู้กุมอำนาจจากนั้นในช่วงสุดท้ายของประวัติศาสตร์สานต่อวาสนาบรรลุปณิธานวัฒนธรรมหนึ่งรัชสมัย คือชาวสวรรค์หนึ่งยุคสิ่งที่นำมาคือเครื่องแต่งกายที่ต่างกันอุปนิสัยและความเคยชินในการดำรงชีพที่ต่างกันกระทั่งการกิน การแต่งตัว การอยู่อาศัยล้วนไม่เหมือนกันพอเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัยก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แน่ละ พูดถึงการเปลี่ยนยุคสมัยของมนุษย์คนที่นี่มีหลักการหนึ่งเรียกว่า “กรีฑาทัพใต้หล้าราชาปกครองประเทศ” มันเป็นหลักการที่กลับกัน มันไม่ใช่หลักการที่เที่ยงธรรมคนที่นี่ก็คือหลักการที่กลับกันต้องสอดคล้องกับหลักการของคนที่นี่ดังนั้นเขาจึงทำสงครามกันโค่นล้มเขา หาไม่เขาก็จะไม่ยอมไป เช่นนั้นแต่ละยุคของประเทศจีนนั้น คนที่มากันไปไหนแล้วละหากรออยู่ในประเทศจีนกันหมดก็บรรจุไม่ไหวนะจึงไปประเทศอื่นดังนั้นจึงมีหลายประเทศหลายชนชาติชนิดของคนที่ต่างกัน คือหนังของมนุษย์ที่ต่างกันซึ่งสร้างโดยเทพที่ต่างกันซึ่งจิตหลักไม่แน่ว่าจะเป็นของคนชนิดนั้นครั้งแรกที่จุติจากสวรรค์มายังโลกนั้นก็มาที่ประเทศจีนก่อนจุติอยู่ที่นี่เป็นหนึ่งรัชสมัย จากนั้นจึงเวียนไปเกิดที่ประเทศอื่นพื้นที่อื่นไปเป็นประเทศหนึ่งหรือชนชาติหนึ่งรอจนสุดท้ายเมื่อต้าฝ่าถ่ายทอดกว้างไกลการเจิ้งฝ่าเริ่มต้น
เช่นนั้นทุกท่านคิดดู วัฒนธรรมจีนห้าพันปีนั้น คือใครที่วางรากฐานไว้คือมนุษย์ทั้งหมดซึ่งเทพจะใช้วัฒนธรรมจีนในเวลาที่เจิ้งฝ่าและเป็นเทพที่วางรากฐานไว้เดิมทีก็เป็นวัฒนธรรมกึ่งเทพสิ่งต่างๆในนี้ดีเพียงไรความรุ่งโรจน์ของวัฒนธรรมห้าพันปีซึ่งรวมทั้งเรื่องราวของประวัติศาสตร์มีมากเสียจนบันทึกได้ไม่หมดล้วนแต่เป็นจุดเด่น จุดแล้ว จุดเล่าทางวัฒนธรรมที่เทพถ่ายทอดให้จากคนในยุคโบราณ สร้างจนเป็นคนที่มีความนึกคิดแบบสมัยใหม่ในระหว่างขั้นตอนของการวางรากฐานทางวัฒนธรรมฉะนั้นเมื่อนำวัฒนธรรมอย่างนี้ออกมา ทุกท่านคิดดู นี่น่าดูหรือไม่ละเป็นแบบฉบับหรือไม่ละ ผู้คนอยากดูหรือไม่ละไม่ว่าท่านจะดำรงชีพอยู่ในมุมไหนของโลกเมื่อได้เห็นวัฒนธรรมนี้ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ย่อมรู้สึกคุ้นเคยกันทั้งนั้นคล้ายการเผชิญกับเหตุการณ์ด้วยตัวเองราวกับตนเองเคยอยู่ที่นั่นล้วนเป็นความรู้สึกนี้ใช่ซิก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะกลับชาติไปเกิดที่ใดแต่ความทรงจำของเขายังคงอยู่ก็เหมือนปลั๊กไฟ พอเสียบปลั๊กไฟฟ้าก็ไหลผ่านแต่เมื่อนานเข้า หลักการที่กลับกันของโลก ที่ก่อเกิดพฤติกรรมทัศนคติวิธีการดำรงชีพขึ้นมาได้กลบฝังตัวตนที่แท้จริงอยู่ในนี้แล้วใจคนชนิดต่างๆจิตยึดติดทัศนคติที่ต่างกัน ซึ่งก่อเกิดหลังกำเนิดสิ่งที่เล่าเรียนในชาตินี้ ภพนี้ ล้วนสามารถปิดคลุมทุกสิ่งของท่านเมื่อก่อนนั้นไว้จนหมดฝังอยู่ข้างใน ทำให้ท่านคิดไม่ออกว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรแต่ก็จะรู้สึกตื่นเต้น ด้านนั้นที่เข้าใจรู้สึกตื่นเต้นและดูโดยเข้าใจได้อย่างชัดเจนและทราบได้ซึ่งก็คือตัวของท่านที่แท้จริงรู้ชั้นผิวของคนกลับพูดได้ไม่ชัดเจนสมองใหญ่นี้ใช้หลักการที่มีอยู่ในปัจจุบันจะนึกคิดไม่ออกแล้วโรงงานแปรรูปนี้สร้างออกมาไม่ได้ จัดเรียบเรียงไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไรก็เป็นความรู้สึกอย่างนี้ดังนั้นประสิทธิผลของเสินยวิ่นที่ช่วยคน จึงมีพลังมากๆ
ในเวลาเดียวกันเสินยวิ่นยังบอกผู้ชมว่าเพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกง พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึง กุเรื่องหลอกลวงขึ้นมากมายที่จริงการรณรงค์ทางการเมืองในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ มันก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้นคือกุเรื่องใส่ร้ายป้ายสีท่านก่อน จากนั้นจึงใช้คนจีนประทุษร้ายคนจีนด้วยกันปลุกระดมมวลชนให้โกรธแค้น มัน “เอาแต่พูดเพียงฝ่ายเดียว” ท่านพูดไม่ได้ท่านดีหรือเลวก็ไม่มีใครรู้มันบอกว่าท่านดีหรือเลวหนังสือพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ทั่วประเทศที่มันควบคุมไว้ทั้งหมดประดังขึ้นมาพร้อมกันอย่างมืดฟ้ามัวดินในประวัติศาสตร์เมื่อจะโจมตีใครสักคน เกินสามวัน มีใครที่ไม่ล้มคว่ำบ้างลงหนังสือพิมพ์หน้าเดียวก็คว่ำแล้ว พรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนแต่ไหนแต่ไรมามิใช่ทำอย่างนี้หรือแต่นี่เป็นผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่ง ตีไม่ล้มแต่ว่า พิษร้ายของมันนั้นกลับซึมลึกมากทำร้ายชาวโลกให้ไปอยู่ข้างเดียวกับมันด่าต้าฝ่าด่าศิษย์ต้าฝ่านี่เป็นผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งและยังจะช่วยคนทุกท่านคิดดูคนๆนี้มิใช่ทำบาปแล้วหรือ การทำบาปของคนนั้น เมื่อพูดในทางกลับกัน ก็เป็นเพราะผู้บำเพ็ญดังนั้นเมื่อพูดจากจุดนี้ศิษย์ต้าฝ่าจะไม่ไปช่วยเขาได้หรือก็ต้องช่วยการแสดงของคณะศิลปินเสินยวิ่นการแสดงออกของนักแสดงการวางเค้าโครงของรายการแสดง กระทั่งท่วงท่าหนึ่งๆ เนื้อเพลงที่เสินยวิ่นขับร้องดนตรีที่เสินยวิ่นสร้างสรรค์ขึ้นมาทั้งหมด ล้วนเป็นวัฒนธรรมจีนที่สืบทอดกันมาเป็นแบบดั้งเดิมแบบที่บริสุทธิ์ถูกต้องต้นสายปลายเหตุของวัฒนธรรมห้าพันปี ที่คนทั้งโลกวางรากฐานไว้ เมื่อปรากฏออกมา คนจึงเข้าใจได้ก็เหมือนที่คนๆหนึ่งประเมินอีกคนหนึ่ง ไม่กี่คำพูด สังเกตทีเดียว ก็รู้ได้ว่าคนๆนี้ดีหรือเลวสองชั่วโมงกว่าที่แสดงออกมาบนเวที ผู้คนก็เข้าใจได้ว่านี่เป็นกลุ่มคนชนิดไหนการแสดงที่บริสุทธิ์งดงามไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปในยุคใหม่จะสามารถทำได้เมื่อครู่ข้าพเจ้ายังพูดอีกว่าข้าพเจ้าว่าคนสมัยนี้จะแสดงเป็นคนดีก็ต้องแสร้งทำแต่นี้เสแสร้งออกมาไม่ได้นี่เป็นการแสดงออกจากข้างในใจอย่างเป็นธรรมชาติและร่างกายของผู้บำเพ็ญก็บริสุทธิ์มากผู้ชมมากมายมองเห็นนักแสดงที่ดีงามอย่างนี้ยิ้มแย้มไม่เหมือนนักแสดงทั่วไป ที่ยิ้มแบบประจบประแจงอย่างนั้นการแสดงออกของพวกเขาคือใจที่บริสุทธิ์ดีงามของผู้บำเพ็ญทั้งสิ้นผู้คน พอเห็นก็เข้าใจได้แล้วมิใช่หรือฝ่าหลุนกงคือคนอย่างไรแน่ละในรายการก็ให้คติของความดีงามและความงดงามดั้งเดิมของคน และมีเรื่องราวของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ถูกประทุษร้ายดังนั้นผลที่บังเกิดนั้นทุกท่านก็เห็นแล้วโดยพื้นฐานเป็นด้านที่เที่ยงธรรมร้อยละเก้าสิบห้าขึ้นไปเราพูดอย่างสงวนท่าทีสักหน่อยพอชมการแสดงจบล้วนแต่บอกว่าดีและรู้สึกสะเทือนใจเนื่องจากการแสดงสมัยนี้ สิ่งที่เที่ยงธรรมนั้นมีน้อยมากไม่อาจพูดว่าไม่มีแต่น้อยมาก
ฉะนั้นแสดงให้ดีอย่างเดียวยังใช้ไม่ได้นะเมื่อเสินยวิ่นเริ่มก้าวออกมานั้นหลายพื้นที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จักเสินยวิ่น ไม่ว่าชนชาติไหนเสินยวิ่นไปแสดงที่ไหนคนที่นั่นรู้จักแต่คณะบัลเล่ย์ของพวกเขารู้จักแต่โรงละครโอเปร่าของพวกเขา รู้จักแต่วงดนตรีซิมโฟนีของพวกเขาไม่รู้ว่าเสินยวิ่น คุณเป็นใครดังนั้นในช่วงนี้ศิษย์ต้าฝ่าจึงสามารถมีบทบาทได้มาก ในขั้นตอนของการโปรโมตเสินยวิ่นนั้น ก็มีบทบาทมากจริงๆและก็คือกำลังช่วยเสินยวิ่นช่วยเหลือคนที่จริงการช่วยเสินยวิ่นก็คือการช่วยท่านเองเพราะเรื่องใดๆที่ท่านทำล้วนแต่เป็นการบำเพ็ญตนเอง และการช่วยเหลือคนของเสินยวิ่นก็มีท่านเป็นส่วนหนึ่งนี่แน่นอนธรรมานุภาพนี้ล้วนอยู่ข้างในเรื่องนี้ในช่วงระยะนี้คือการร่วมกันช่วยเหลือคนอย่างขยันขันแข็งของทุกท่านแต่อาจารย์มีความคิดหนึ่งมาโดยตลอดหากพวกท่านอาศัยแต่การที่นักแสดง แสดงได้ดีก็ไม่ถูกถ้าศิษย์ต้าฝ่าในพื้นที่ร่วมมือกันไม่ดีทำได้ไม่ดีคนดูก็ไม่อาจมาในระยะนี้ทุกท่านต่างร่วมมือซึ่งกันและกันเปิดตลาดขึ้นมาให้ได้ในทันทีเหมือนภาคตะวันออกของแคนาดากับไต้หวันอย่างนี้เมื่อเปิดตลาดได้แล้วทุกคนต่างรู้จักแล้วพอเสินยวิ่นมาแสดงอีกก็ไม่ต้องใช้เวลานานอย่างนั้นกำลังคนมากอย่างนั้น กำลังโภคทรัพย์มากอย่างนั้นทุกท่านล้วนแต่อยู่ในโครงการต่างๆล้วนมีเรื่องมากมายต้องทำแต่ล้วนมาทำเสินยวิ่นตรงนี้แล้วอะไรก็วางลงแล้ว อาจารย์ไม่อยากให้พวกท่านทำอย่างนี้เป็นเวลานานแต่ในระยะนี้ข้าพเจ้าก็อยากให้พวกท่านรวมพลังร่วมกันเปิดตลาดให้ได้
สี่ปีผ่านไปแล้วบางพื้นที่เปิดตลาดได้แล้วบางพื้นที่ไม่เพียงเปิดไม่ได้แต่ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆและยังเกิดปัญหาที่ไม่ควรเกิดนี่คือความแตกต่างของการบำเพ็ญ นี่คือการแสดงออกของการใช้จิตใจที่ไม่เหมือนกันในการช่วยคนเดิมทีข้าพเจ้าคิดจะใช้เวลาสามปีเปิดตลาดของการแสดงต่อไปก็ไม่ต้องใช้ศิษย์ต้าฝ่ามากมายอย่างนั้นแล้วเช่นนี้จึงต้องเปิดตลาดในสังคมกระแสหลักเสียก่อนจึงจะสามารถเปิดตลาดของทั้งสังคมได้ ที่จริงนี่เป็นเพียงกลยุทธ์หนึ่งแต่ท่านพูดว่าทำกับสังคมกระแสหลักก็ทำกับสังคมกระแสหลักแล้วหรือถ้าคนไม่มา ท่านมิเท่ากับเหมือนกันหรือท่านว่าจะทำตรงไหนก็ทำตรงไหนหรือไม่ใช่ท่านต้องเลือกรูปแบบบางอย่างรูปแบบอะไรละ ท่านต้องมีราคาตั๋วของสังคมกระแสหลักคนก็จะมาชมท่านต้องโปรโมตและทำด้วยวิธีการแบบนั้นของสังคมกระแสหลักสิ่งเหล่านี้ถ้าตามไม่ทันนั่นก็ใช้ไม่ได้แต่พอข้าพเจ้าบอกว่าทำสังคมกระแสหลักนะหลายปีก่อนผู้ฝึกที่ไปตามถนนแจกใบปลิวไปไชน่าทาวน์เร่ขาย ทำจนเคยชินแล้วตั๋วขายออกไปดีมากคนก็มากันกระทั่งคนที่มาก็มีไม่น้อยโรงละครก็เต็มแต่พวกท่านทราบไหมว่าคนเหล่านี้มากันอย่างไรเป็นการใช้พลังทั้งหมดของศิษย์ต้าฝ่า จึงได้มากันสามารถทำกันอย่างนี้ต่อไปได้นานไหมไม่ได้ ดังนั้นพวกเราต้องคิดหาวิธีเปิดตลาดนี้ให้ได้ดังนั้นอาจารย์จึงต้องทำสังคมกระแสหลักก่อนนี่จึงทำให้ผู้ฝึกมากมายไม่เข้าใจทำไมละเมื่อก่อนฉันขายตั๋ว ก็ขายได้ดีออก........ ตั๋วส่วนหนึ่งราคาต่ำมากบางครั้งก็แจกฟรีพวกเราจะทำอย่างนี้ตลอดไปได้หรือ
ในสังคมตะวันตกนั้นคือ เงินหนึ่งเหรียญสินค้าหนึ่งอย่างการแสดงชั้นสูงอย่างนี้ของเราท่านเอาแต่จะแบกับดินขายแต่อาจารย์ไม่คิดอย่างนี้ดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกทุกท่านว่ากับสังคมกระแสหลักต้องทำอย่างไรที่จริงอาจารย์จะทำอย่างไรหาใช่ว่าพอคิดก็เสร็จเรื่องข้าพเจ้าจะต้องเตรียมการหลายอย่างซึ่งพวกท่านมองไม่เห็นเทพเหล่านั้นก็กำลังทำอยู่ อะไรๆก็เตรียมการไว้หมดแล้วขาดแต่ท่านไปทำก็เดินก้าวนั้นออกไปไม่ได้กันแล้วสังคมกระแสหลักนี้จะทำอย่างไรละทำไม่เป็น ไปเขตที่สภาพแวดล้อมดีพบกับคนก็ไม่กล้าพูดจาถือเอกสารอยู่แบบกล้าๆกลัวๆท่านว่าท่านจะช่วยคนได้ไหมคนๆนั้นก็รู้สึกทันทีว่าท่าน คนนี้ไม่น่าเชื่อถือ ใช่ไหมไม่ต้องให้ท่านสิ้นเปลืองสมองจนเกินไปท่านก็ไปทำอย่างสง่างามท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่า ท่านไม่รู้หรือว่าท่านกำลังช่วยคนอยู่ตั๋วของเสินยวิ่นไม่คุ้มค่ากับเงินเหล่านี้หรือคุ้มข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน (เสียงปรบมือ)หากสังคมกระแสหลักของตะวันตกทำละครอันดับหนึ่งอย่างนี้ออกมา ทำเป็นอย่างนี้ พวกท่านทราบไหมว่าพวกเขาจะขายตั๋วใบหนึ่งราคาเท่าไรไม่ว่าในเมืองไหน อย่างต่ำที่สุดใบหนึ่งก็ต้องห้าร้อยเหรียญ(ปรบมือ) เราก็ไม่ได้ขายแพงอย่างนั้นนะท่านกลัวอะไรละท่านก็ไม่ได้ไปหาเขาเพื่อเอาเงินมากๆท่านกำลังช่วยเขาอยู่จริงๆนะใจที่ไม่มั่นคง ขับรถไปแล้วก็ไม่กล้าลงไป ไปที่นั่นวนหนึ่งรอบฉันไปแล้วหรือไม่ก็หลบๆซ่อนๆอยู่ในเขตของชนชั้นสูงโยนตรงนี้ใบหนึ่งโยนตรงนั้นใบหนึ่งอากัปกิริยาที่ทำเหมือนกับไม่กล้าพบหน้าผู้คนใช่ มีบางคนที่ไม่พอใจมากกับไปรษณีย์ขยะย่อมมีบางวิธีที่ไม่เห็นด้วยแต่ท่านต้องแบ่งแยกว่าเรื่องอะไรนะเรื่องใหญ่อย่างนี้คนล้วนรอการช่วยเหลืออยู่ขอเพียงท่านอย่าได้ทำเกินเลยคนเขาก็จะเข้าใจได้พวกเราก็มีที่ทำได้ดีมากจริงๆเดินเข้าไปในเขตที่ดีด้วยท่าทางที่สบายๆจากนั้นก็พูดกับคนเขาอย่างไม่สะทกสะท้านในทันใดเขาก็มีท่าทางดีใจมาก เหมือนกับกำลังคอยท่านอยู่ที่จริงก็ใช่ล้วนแต่เตรียมการไว้ให้แล้วก็ขาดเพียงให้ท่านใช้เจิ้งเนี่ยนทำเรื่องนี้แต่ท่านก็ไม่มีเจิ้งเนี่ยนอันนั้น
ทุกท่านทราบว่าสาเหตุที่การขายตั๋วต้องสิ้นเปลืองกำลังมากเมื่อปีกลาย ยังมีผู้ฝึกส่วนหนึ่งรวมตัวกันฟาเจิ้งเนี่ยนแน่ละการฟาเจิ้งเนี่ยนกำจัดสิ่งชั่วร้ายที่เป็นอุปสรรคในการช่วยคนได้ที่จริงสิ่งชั่วร้ายมีไม่มากอย่างนั้นแล้วการกำจัดสิ่งชั่วร้ายเป็นเรื่องดีแน่คนมากมายอย่างนั้นฟาเจิ้งเนี่ยนไม่ได้ผลหรือได้ผล แต่พวกเราบางคนที่ฟาเจิ้งเนี่ยนส่งความคิดอะไรออกไปหรือนั่งตรงนั้นตั้งฝ่ามือขึ้น แต่ความคิดกลับไม่ใช่เจิ้งเนี่ยนคือคิดว่า ปีนี้ทำไมทำอย่างนี้ละปีกลายฉันขายตั๋วก็ขายได้ดีมากเฮ้อ ทำไมให้ฉันอยู่ตรงนี้ฟาเจิ้งเนี่ยนไม่ให้ฉันไปขายตั๋วทำไมจึงจะต้องทำกับสังคมกระแสหลักนะตั๋วนี้ก็แพงอย่างนี้คนเขาจะซื้อได้หรือพวกท่านฟังอยู่ในขณะนี้รู้สึกว่าน่าขันแต่กลับเป็นปรากฏการณ์ทั่วไปมากพวกท่านทราบไหมสิ่งเหล่านี้ที่ส่งออกไป ก่อเกิดเป็นสิ่งที่เหนียวเหนอะหนะสิ่งชั่วร้ายที่น้อยมากจึงสามารถรบกวนพวกท่านได้แต่พวกท่านกลับกำจัดไม่ได้ขัดขวางการขายตั๋วของศิษย์ต้าฝ่าโดยตรงศิษย์ต้าฝ่าที่ฟาเจิ้งเนี่ยนจริงๆ ก็กำจัดไม่ได้เมื่อสิ่งชั่วร้ายมาสร้างความวุ่นวายพวกท่านฟาเจิ้งเนี่ยนก็จะกำจัดได้ ดับสลายมันได้ในทันที ทำให้มันกลัวจนหนีไปแต่ศิษย์ต้าฝ่า ก็ไม่อาจดับสลายหนึ่งความคิดของเขาที่ย่อหย่อน ในปัญหานี้เขาไม่สามารถรับรู้ได้ดีพอดังนั้นท่านจะทำอย่างไรละไม่มีทางแม้แต่อาจารย์ก็หมดหนทางเพราะข้าพเจ้าต้องรอพวกท่าน ผู้ฝึกที่บำเพ็ญได้ดี บำเพ็ญได้ดียิ่งขึ้นในโอกาสนี้เดินจบเส้นทางช่วงนี้ไม่ว่าจะอย่างไรยังมีส่วนหนึ่งที่ทำได้ดีและเข้มแข็งก้าวข้ามมาแล้วแต่พวกท่านทราบไหมเดิมทีคนที่ควรได้รับการช่วยเหลือเมื่อปีกลายกลับพลาดโอกาสไปตลอดกาลแล้วเพราะเจิ้งฝ่ารุดหน้าไปอย่างไม่หยุดหย่อนทีละก้าว ทีละก้าวพอถึงระดับชั้นนั้นคนของระดับชั้นนั้นข้างบนไปถึงสวรรค์ไหนไปถึงร่างนภา(เทียนถี่)ระดับชั้นไหนก็คือคนในระดับชั้นนั้นที่มาชมครั้งต่อไปที่นั่งตรงนั้นจะเป็นของคนอื่น ไม่ใช่ของเขาแล้วพวกท่านทราบไหมว่าพลาดไปกี่ชีวิตพอมองเห็นที่นั่ง ที่ว่างเปล่าของโรงละครนั้นพวกท่านทราบไหมว่าข้าพเจ้ารู้สึกอย่างไร
ศิษย์ต้าฝ่ามากมายต่างพูดว่า “ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า”“อาจารย์ต้องการอะไร พวกเราก็ไปทำอะไร” พูดอย่างหนักแน่นมาก พออาจารย์ให้ท่านไปทำเรื่องนั้นจริงๆ เมื่อไม่ถูกใจท่านหรือเมื่อมีความยากลำบากสักหน่อยท่านก็คิดไม่ถึงเจิ้งเนี่ยนที่จะช่วยอาจารย์สักนิดมีความคิดตามอารมณ์ความคิดที่ออกมาเกิดผลในการขัดขวางที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดว่า ใครก็ทำลายศิษย์ต้าฝ่าไม่ได้ทุกท่านทราบว่าพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนนั้นชั่วร้ายเพียงไรมันอยากจะตีใครให้ล้มคว่ำ เขาจะต้านทานได้เกินสามวันไหมศิษย์ต้าฝ่าถูกตีล้มลงไปหรือเปล่าละยิ่งบำเพ็ญก็ยิ่งดียิ่งยืนหยัด ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งสุกงอมยิ่งขึ้นเรื่อยๆมันก็บังเกิดผลอันนี้และก็พูดได้ว่าองค์ประกอบภายนอก ใครก็ทำลายการบำเพ็ญในต้าฝ่าไม่ได้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเกิดการรบกวนอะไรที่นิวซีแลนด์มิใช่เกิดมีสายลับของคอมมิวนิสต์จีนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังใช้ผู้ฝึกที่รับรู้ผิดๆให้ทำรายชื่อผู้ฝึกอยู่หรือท่านให้เขาลองทำดูท่านดูซิว่ามันจะมีจุดจบอย่างไรใครที่สามารถทำลายต้าฝ่าได้ละใครก็ทำลายไม่ได้องค์ประกอบภายนอกทั้งหมดล้วนไม่มีผลหากศิษย์ต้าฝ่าที่บำเพ็ญทำได้ไม่ดีความสูญเสียก็จะมากที่จริงฝ่านั้น ใครจะสามารถทำลายได้ฝ่าของจักรวาล ใครจะทำลายได้ละก็เพียงแค่ทดสอบพวกท่านพลิกใจคนกับจิตยึดติดเหล่านั้นของพวกท่านออกมาให้ท่านองค์ประกอบทั้งหมดที่รบกวนต่อศิษย์ต้าฝ่าที่พวกท่านพบเจอไม่ใช่ล้วนแต่มุ่งต่อผู้ฝึกที่ไม่ก้าวหน้า เอาตัวรอดไปวันๆหรือก็เหมือนเว็บไซต์ของสิ่งชั่วร้ายในช่วงก่อนนั้น ที่ชักนำจนบางคนจิตใจแทบจะเคลิบเคลิ้ม สติไม่แจ่มชัด ดูเหมือนแทบจะไม่ใช่ตัวเองแล้ว แล้วยังกระจายเว็บไซต์ของสิ่งชั่วร้ายนั้น เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ละมิใช่เพราะท่านมีใจคนมีจิตยึดติดเหล่านั้น มีนิสัยและความเคยชินที่ชอบพูดปดชอบเผยแพร่เรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านั้นหรือพลิกออกมาให้ท่านอาศัยเรื่องนี้ให้ท่านล้มคว่ำหัวคะมำให้ท่านเห็นข้อบกพร่องของท่านเองและกวาดพวกที่ไม่ไหวจริงๆเหล่านั้นออกไปหรืออิทธิพลเก่าอาศัยคนชั่วเหล่านี้สิ่งที่ไม่ดี ทำให้พวกมันกระโดดออกมามิใช่บังเกิดผลเช่นนี้หรือดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่าใครก็ก่อความวุ่นวายไม่ได้ทั้งนั้น มีแต่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆทุกท่านทราบ สายลับอันธพาลคอมมิวนิสต์จีน ทำการหว่านเงินซื้อโรงละครมากมายทั่วโลก โทรศัพท์ส่งจดหมายข่มขู่หรือปลอมเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเขียนจดหมายอย่างไร้สติ ทำให้คนเขารู้สึกไม่พอใจผู้ฝึกฝ่าหลุนกงไม่ว่าวิธีอะไรก็ใช้จนหมดแล้ว คนเขาล้วนมองเห็นมันอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วมันก็ไม่มีคาถาจะท่องแล้ว เมื่อเสินยวิ่นแสดงอยู่ที่เกาหลี นับแต่คอมมิวนิสต์จีนจงใจส่งคนชั่วไม่กี่คนออกไปก่อกวนไปตบอก พูดรับรองว่าเสินยวิ่นจะแสดงไม่สำเร็จแต่สุดท้ายแสดงได้แล้วมันพ่ายแพ้อย่างยับเยินสุดท้ายไม่มีคาถาจะท่องอีกแล้วและไม่ก่อกวนแล้วแต่เมื่อมันไม่ก่อกวนแล้ว พวกท่านเองกลับทำให้เกิดการสูญเสียมากอย่างนี้
ภาระรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่า คือการช่วยเหลือสรรพชีวิตทุกท่านคิดดูเสินยวิ่นนั้นรีบเร่งช่วยเหลือคนรอบหนึ่งสามารจะมีผู้ชมมากเท่าไรต่อคนเจ็ดพันล้านคนทั่วโลกพวกท่านกับเสินยวิ่นจะสามารถช่วยได้สักกี่คนสื่อทั้งหมดที่มีโครงการทั้งหมด แต่ละโครงการที่ศิษย์ต้าฝ่าทำล้วนกำลังช่วยคนอยู่แม้พวกท่านทุ่มเทอย่างเต็มที่ก็ยังมีคนจำนวนมหาศาลไม่อาจได้รับการช่วยเหลือข้าพเจ้าก็เคยบอกพวกท่านที่จริงคนที่พวกท่านช่วย ไม่ใช่ช่วยให้กับอาจารย์และไม่ใช่ช่วยให้กับคนอื่น แต่ช่วยให้กับตัวพวกท่านเอง เป็นไปได้อย่างมากว่า นั่นล้วนจะเป็นสรรพชีวิตในโลกอนาคตของพวกท่านหรือในขอบเขตของพวกท่านท่านย่อมไม่อาจจะเป็นว่าหลังจากคืนสู่ตำแหน่งแล้ว เป็นผู้บัญชาการที่โดดเดี่ยวเดียวดาย อะไรก็ไม่มีว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย ร่างนภา(เทียนถี่)อันมหึมาก็มีแต่ท่านอยู่ที่นั่นคนเดียวพระพุทธนั้นไม่พูดเรื่องความยากจนข้นแค้นมีแต่อุดมสมบูรณ์ชีวิตก็คือทรัพยากรจึงจะสามารถทำให้โลกของท่านเจริญรุ่งเรือง นั่นล้วนเป็นทรัพยากร แต่ละชีวิตล้วนคือทรัพยากร
ข้าพเจ้าทราบว่าผู้ที่กำลังนั่งอยู่ในวันนี้บางคนเป็นสมาชิกครอบครัวของศิษย์ต้าฝ่ายังมีเพื่อนของศิษย์ต้าฝ่าที่เป็นคนธรรมดาสามัญเข้ามาที่ห้องนี้เนื่องจากห้องนี้ไม่ค่อยสะอาดแน่ละยังมีส่วนน้อยไม่กี่คนที่โจรคอมมิวนิสต์ส่งมาไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน เมื่อมาถึงที่นี่ก็คือวาสนาไม่ว่าท่านจะมีสถานภาพอะไรทำอะไรท่านสามารถได้ฟังฝอฝ่าท่านสามารถมีโอกาสแห่งวาสนานี้ล้วนไม่ธรรมดาดูไปคือคนอื่นเรียกท่านมาหากเทพไม่ให้ท่านเข้ามาท่านก็เข้ามาไม่ได้แน่ (เหล่าศิษย์ปรบมือ) ข้าพเจ้านั้นมาช่วยคน(เหล่าศิษย์ปรบมือ) ใครๆก็ทราบว่าข้าพเจ้าแบกรับแทนสรรพชีวิตอยู่เป้าหมายคือเพื่อให้คนได้รับการช่วยเหลือข้าพเจ้าไม่มีการแสวงหาใดๆเพื่อตัวเองอะไรๆข้าพเจ้าก็สามารถละทิ้งได้ข้าพเจ้าก็ไม่มีจิตยึดติดของคนในเมื่อข้าพเจ้ามาช่วยคน ข้าพเจ้าจึงไม่เลือกข้าพเจ้ากำลังช่วยคนทั้งโลกรวมทั้งคนทั้งหมดที่กำลังนั่งอยู่ (เสียงปรบมือกึกก้อง)
หมายเหตุจากผู้แปล : บทความนี้จะมีการแก้ไขเพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับภาษาจีนมากที่สุด วันที่แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 กรกฎาคม2011