อะไรที่เรียกว่า ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า

เป็นเวลานานมาแล้วตลอดเวลาที่ผ่านมาในขณะที่กำลังทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำสามเรื่อง มีผู้ฝึกส่วนหนึ่งมีปัญหาหนึ่งที่สำคัญมากอยู่เรื่องหนึ่ง ก็คือปัญหาว่าควรช่วยอาจารย์อย่างไร อาทิเช่นอาจารย์บอกเรื่องอะไรแล้ว หรืออาจารย์กำหนดอย่างแน่นอน ให้ทุกท่านไปทำเรื่องอะไร จะมีผู้ฝึกจำนวนหนึ่งมักจะใช้ใจคนไปประเมินอาจารย์ รู้สึกว่าเรื่องนี้อาจารย์ควรทำอย่างนี้เรื่องนี้ต้องทำอย่างนั้น อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ใช่ตั้งอกตั้งใจที่จะทำตามที่อาจารย์บอก ในการประสานกลมกลืนให้ดีได้อย่างไร คิดหาวิธีให้เป็นรูปธรรม มีผู้ฝึกบางคนถึงกับคิดแก้ไขความคิดของอาจารย์ ยังมีผู้ฝึกบางคนเผยแพร่ความคิดของตนในหมู่ผู้ฝึกว่าสูงส่ง และบางคนใช้ใจคนคิดจึงไม่เข้าใจเรื่องที่อาจารย์พูด ทำให้รู้สึกท้อแท้บางคนกระทั่งไปหาคนในครอบครัวของอาจารย์ปรึกษาต่อรองหาวิธีอื่นที่จริงอาจารย์จะทำอะไร นั่นคือความต้องการของร่างนภานับไม่ถ้วนในระหว่างการเจิ้งฝ่า ระดับชั้นนี้ของมนุษย์แม้ว่าจะต่ำแต่กลับเป็นการสะท้อนออกมา ณ ระดับชั้นที่ต่ำของชีวิตระดับชั้นสูง และเป็นสภาพการณ์ที่ปรากฏออกมา ณ ระดับชั้นที่ต่ำ และนี่ก็เป็นศูนย์กลางของการเจิ้งฝ่าเป็นจุดศูนย์รวมของทั้งหมด ความคิดของท่านต่อให้ดูดียิ่งขึ้นไปอีก ก็เป็นเพียงการเปรียบกับระดับชั้นนี้ จุดนี้เรื่องนี้เท่านั้นท่านทราบได้อย่างไรว่าเรื่องที่อาจารย์ต้องการจะทำ มีประโยชน์อะไรต่อร่างนภาอันมหึมาจำนวนนับไม่ถ้วนในฐานะผู้ฝึก ต้องช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่าได้แต่ประสานกลมกลืนกับสิ่งที่อาจารย์ต้องการให้ดีได้อย่างไร จึงนับว่าเป็นสิ่งที่ท่านสมควรทำ จะเรียกให้อาจารย์ช่วยท่านได้อย่างไรกันละ ในระหว่างการเจิ้งฝ่า จะใช้ต้าฝ่าไปประสานกลมกลืนกับความคิดคนของท่านได้อย่างไรกันละ

ในขณะที่ศิษย์ต้าฝ่ากำลังเผชิญกับการประทุษร้ายครั้งนี้ มีหลายคนตกลงไปตามขึ้นมาไม่ทัน ทั้งหมดเป็นเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่อาจารย์ทำ ใช้ใจคนประเมินอาจารย์ เช่นหลายคนกำลังคิดว่าทำไมจึงไม่สามารถปฏิบัติต่อการประทุษร้ายครั้งนี้เหมือนอย่างศาสนาอื่น ละจิตมนุษย์ต่าง ๆ เป็นต้น ที่จริงในประวัติศาสตร์  เป้าหมายที่แท้จริงของศาสนาคือการวางรากฐานวัฒนธรรมของคน สิ่งที่มนุษย์รอคอยอย่างแท้จริงคือต้าฝ่า ต้าฝ่าทำอย่างไรจึงจะเป็นพฤติกรรมและการแสดงออกที่แท้จริงของผู้บำเพ็ญ แน่ละ ผู้ที่ตามไม่ทันนั้นยังมีสาเหตุอีกมากมาย ที่จริงล้วนเป็นเพราะไม่สามารถรับรู้ต้าฝ่าได้อย่างแท้จริง แน่ละ เจิ้งเนี่ยนจึงไม่ดี พอในระหว่างการประทุษร้ายจึงหวั่นไหว

ยังมีคนอีกส่วนหนึ่ง ในระหว่างการบำเพ็ญ ไม่อาจทิ้งนิสัยที่เลวในการสร้างความสัมพันธ์ ใช้เส้นสายเข้าทางประตูหลัง ซึ่งเกิดจากการปลูกฝังในหมู่คนธรรมดาสามัญเช่น ในเวลาที่หาอาจารย์ไม่พบ เพื่อแสดงความคิดเห็นของเขาเอง ก็ไปหาคนในครอบครัวอาจารย์ ถกกันพอกลับไปอยู่ในหมู่ผู้ฝึกก็พูดว่าคนในครอบครัวอาจารย์บอกว่าอะไรอะไรแล้วพวกท่านคิดดูอาจารย์นั้น มายังโลกเจิ้งฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิตคนในครอบครัวสามารถจะเป็นตัวแทนอาจารย์ได้ไหม คนในครอบครัวอาจารย์ก็เหมือนกับพวกท่าน  ล้วนเป็นผู้บำเพ็ญถ้าไม่บำเพ็ญให้ดี ใครก็ใช้ไม่ได้อาจารย์มาอยู่ในหมู่คนแต่ละภพ แต่ละชาติ มีพ่อแม่ ภรรยา บุตรธิดา พี่น้องชายหญิงในโลกมากเท่าไร ใครละที่จะแทนอาจารย์ได้ อาจารย์มาอยู่ในโลกก็เหมือนพวกท่านที่มาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์มาเป็นพ่อแม่ของอาจารย์ในหมู่คน มาเป็นพี่น้องชายหญิงและมาเป็นภรรยา กับบุตรธิดาในการช่วยอาจารย์ทำเรื่องใหญ่ของการเจิ้งฝ่าให้สำเร็จ พวกเขาเพียงแต่ทำเรื่องที่เป็นรูปธรรมที่แต่ละคนสมควรทำเท่านั้น พวกเขาก็กำลังบำเพ็ญตนเองและมีปัญหาระดับความเข้าใจต่อหลักการของฝ่าไม่ดีพอ พวกท่านถือสิ่งที่ถกกับเขาเป็นฝ่านี่เป็นการสร้างความยุ่งเหยิงให้ฝ่าใช่หรือไม่ และกำลังทำให้คนในครอบครัวอาจารย์ทำผิดต่อต้าฝ่า สำหรับศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่งพวกท่านต้องเข้าใจผู้ที่เจิ้งฝ่ามีแต่อาจารย์ หากอาจารย์ไม่อยู่แล้ว ล้วนต้องปฏิบัติตามฝ่าในการทำงาน ไม่อาจทำตามคนใดในครอบครัวอาจารย์ นั่นจึงจะเป็นศิษย์ต้าฝ่า จึงจะเป็นศิษย์ของอาจารย์ จึงจะเป็นการช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า

ตลอดเวลาที่ผ่านมายังมีคนอีกส่วนหนึ่งคล้อยตามเว็บไซต์ของสิ่งชั่วร้าย คนเหล่านี้ห่างไกลจากต้าฝ่าไปไกลมากแล้วช่วยแพร่กระจายข่าวเท็จของเว็บไซต์ของสิ่งชั่วร้าย กระทั่งทำลายภาพลักษณ์ของคนในครอบครัวอาจารย์และในฝ่าฮุ่ยที่อาจารย์เรียกให้ศิษย์ต้าฝ่าเปิดประชุมนั้น ก็เคยบอกทุกท่านว่าอย่าฟัง อย่าเชื่อ อย่าดูเว็บไซต์ของสิ่งชั่วร้าย บางคนนั้นฟังไม่เข้าหู นับเป็นตัวอย่างที่ต้องพิษสิ่งชั่วร้ายลึกมากแล้วจริง ๆ จนเดี๋ยวนี้ยังมีสติไม่แจ่มแจ้ง คน ๆ หนึ่งเดินผิดทางไปแล้ว ยังสามารถเริ่มต้นใหม่ ถ้าคน ๆ หนึ่ง ในขณะที่ทำเรื่องที่ผิดนั้นเนื่องด้วยท่านแพร่กระจายเว็บไซต์ของสิ่งชั่วร้าย แล้วทำลายคนส่วนหนึ่งไป แล้วจะทำอย่างไรดี ข้างหลังแต่ละคนล้วนมีสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนรอการช่วยเหลืออยู่ แต่เป็นเพราะท่าน ทำให้พวกเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือไปตลอดกาล จะทำอย่างไรดี ผลลัพธ์นั้นร้ายแรงแค่ไหนท่านทราบไหม อาจารย์พูดแล้วยังไม่ฟัง นี่จะเรียกว่าเป็นศิษย์ต้าฝ่าที่ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่าได้ไหม

ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า” ไม่ใช่คำพูดหนึ่งที่ฮึกเหิม หรือคำพูดกำมะลอที่จริงข้าพเจ้าเพียงพูดไม่กี่ปัญหา เรื่องที่ไม่เชื่อฝ่ายังมีอีกมากในฐานะศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่ง การรอคอยนับพันนับหมื่นปี.......ในฐานะผู้ฝึกคนหนึ่ง มูลเหตุที่แท้จริงประการเดียวที่ท่านมายังโลก......ในฐานะอาจารย์ ในระหว่างการเจิ้งฝ่าจะสามารถช่วยท่านกับสรรพชีวิตได้หรือไม่ ความสำเร็จหรือล้มเหลวนั้นอยู่ในพิบัติภัยครั้งนี้

หลี่ หงจื้อ

11 มิถุนายน 2011


หมายเหตุจากผู้แปล : บทความนี้จะมีการแก้ไขเพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับภาษาจีนมากที่สุด วันที่แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มิถุนายน 2012