การบรรยายฝ่าที่นิวยอร์ก ค.ศ. 2019

17 พฤษภาคม 2019

หลี่ หงจื้อ

สวัสดีทุกคน

(เหล่าศิษย์ : สวัสดีท่านอาจารย์)

ฝ่าฮุ่ยหนึ่งปีมีหนึ่งครั้ง ทุกคน บางคนมาจากที่ไกลมาก และบ้างก็มาจากแผ่นดินใหญ่ ค่าใช้จ่ายนี้ยังคงไม่น้อย ฝ่าฮุ่ยแต่ละปี มีค่าเดินทางหลายสิบล้าน หมดเงินไปกับค่าอยู่ค่ากิน ทุกคนอยากจะมีโอกาสในการยกระดับของการบำเพ็ญโดยผ่านฝ่าฮุ่ย เรียนรู้จากกันและกัน หรือพูดได้ว่า ผู้บำเพ็ญมองว่าการบำเพ็ญ โดยตัวมันเองนั้นสำคัญมาก ศิษย์ต้าฝ่าต้องทำสามเรื่องให้ดี หากไม่บำเพ็ญตัวเองให้ดี นั่นก็จะทำได้ไม่ดี แน่ละ บางคนคิดจะอาศัยโอกาสนี้พบอาจารย์ อาจารย์ทราบ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม มีฝ่าอยู่ ย่อมสามารถชี้นำการบำเพ็ญให้ทุกคนได้

อาจารย์อยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาสามัญ มีรูปแบบพฤติกรรมเหมือนคนธรรมดาสามัญ มีเรื่องมากมายของคน นั่นจึงไม่อาจจะเหมือนกับฝ่า ดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกให้ทุกคน ต้องปฏิบัติตามฝ่าชุดนี้ ถือฝ่าเป็นอาจารย์ ศิษย์ต้าฝ่า สามารถก้าวผ่านมาจนถึงวันนี้ได้ ก็เพราะมีฝ่าอยู่ ฝ่าฮุ่ยของพวกเราก็ดี ทุกคนอยู่ในการบำเพ็ญของตัวเองก็ดี ก็อาศัยฝ่าชุดนี้ก้าวผ่านมาจนถึงวันนี้ หรือพูดว่า หากไม่มีฝ่าชุดนี้ พวกคุณก็เดินมาไม่ถึงวันนี้ ดังนั้นกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า การบำเพ็ญย่อมถือเป็นเรื่องอันดับหนึ่งตลอดกาล โดยเฉพาะคือถึงช่วงเวลาสุดท้ายแล้ว

แน่ละ เมื่อข้าพเจ้าพูดถึงเวลาช่วงสุดท้าย ที่จริงทุกคนก็มองเห็นแล้ว การเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์สวรรค์กับการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้คือเหมือนกัน อาทิเช่น มารร้ายนี้ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าได้ถึงเวลาอับจนแล้ว ตัวมารร้ายเองก็ยากจะคงอยู่ต่อไปแล้ว เพียงแต่เครื่องจักรชุดนั้นที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่ายังคงหมุนอยู่ แต่ว่าเมื่อครู่ข้าพเจ้าพูด เดินถึงสุดท้ายแล้ว พวกเราจะต้องทำเรื่องที่เราควรทำให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่ายิ่งถึงช่วงสุดท้ายก็ยิ่งสำคัญ สภาพแวดล้อมเมื่อแรกเริ่มที่ยากลำบาก สภาพแวดล้อมที่ชั่วร้ายอย่างนั้น พวกคุณก็ก้าวผ่านมาได้หมดแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำให้ดียิ่งขึ้นในช่วงสุดท้าย การประทุษร้ายในระยะแรก สื่อมวลชนทั่วโลกทุกหนแห่ง ล้วนตีพิมพ์บทความปลุกปั่นข่าวลือของสื่อคอมมิวนิสต์จีน คนทั้งโลก ยากที่จะแยกแยะได้ว่าที่แท้เรื่องราวเป็นอย่างไร ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างนั้น ศิษย์ต้าฝ่าในสังคมนานาชาติได้อธิบายความจริง แก้ไขความเข้าใจของผู้คนทั่วโลก จึงก้าวผ่านมาได้แล้ว สุดท้ายพวกคุณเองต้องทะนุถนอมทุกสิ่งที่ได้ทำไป อย่าย่อหย่อนตนเอง อย่าย่อหย่อนตนเองอย่างเด็ดขาด

ข้าพเจ้าก็กำลังสังเกต โดยเฉพาะคือภายใต้สภาพแวดล้อมนั้นในจีนแผ่นดินใหญ่ ศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมากอยู่ในสังคมแบบนั้นที่ความสัมพันธ์ของความเป็นมนุษย์ถูกบิดเบือนไป การกระทำของคนถูกบิดเบือนไป และรูปแบบความคิดถูกบิดเบือนไป ใคร ๆ ล้วนยากที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบของมัน แม้ศิษย์ต้าฝ่าต้องไปทำตามต้าฝ่า แต่พอคุณออกจากบ้าน สิ่งที่ประสบก็คือสังคมคนธรรมดาสามัญที่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เป็นอย่างนี้ ทั่วทั้งสังคมล้วนบิดเบือนไป ฉะนั้นคุณก็ต้องไปทำอย่างนั้น นานวันเข้าก็จะผสมปนเปเข้าไปกับพฤติกรรมระหว่างคนกับคนในสังคมนี้ กระทั่งรวมถึงรูปแบบการใคร่ครวญปัญหา เคยชินกับรูปแบบในการดำรงชีวิตชนิดนี้ของคน และรู้สึกว่าก็คืออย่างนี้ หลายคนหลังจากออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อมาถึงสังคมนานาชาติ เห็นคนทำไมล้วนแต่เรียบง่ายอย่างนี้กันหมดละ การพูดจาหรือทำเรื่องอะไรก็ล้วนแต่อ่อนโยนนุ่มนวล แต่คนแผ่นดินใหญ่ทำเรื่องอะไร ล้วนอยากจะทำเรื่องนั้นอย่างสุดขั้วที่สุด ทำแบบสุดสุด ทำให้ถึงที่สุด ล้วนคือสภาพจิตใจชนิดนั้น นั่นไม่ใช่สภาวะปกติของคน ดังนั้นพอนำความคิด พฤติกรรมแบบนี้ มาอยู่ในสังคมนานาชาติ จึงทำให้ผู้คนในสังคมนานาชาติรู้สึกไม่พอใจ

คนที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แทบทั้งหมดล้วนทำให้คนในประเทศอื่นไม่เข้าใจ ทำไมคนจีนเป็นอย่างนี้ ที่จริงคือ เพราะถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนตั้งใจทำให้พฤติกรรมและคุณสมบัติของคนจีนเสื่อมเสียอย่างเป็นระบบ ทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิม ทำลายความคิดทางศีลธรรมกับคุณค่าสากล ปัจจุบันล้วนแต่เป็นของชนิดนั้นที่เป็นแบบสุดขั้วของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน แน่ละ จึงย่อมไม่เหมือนกัน เมื่อมาถึงสังคมนานาชาติเป็นเวลานานมากจึงสามารถเปลี่ยนกลับมาได้

ขณะนี้มีผู้ฝึกส่วนหนึ่งที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ภายใต้สภาพแวดล้อมนั้นในแผ่นดินใหญ่ บางคนอาจจะทำได้ไม่ดี ดังนั้นจึงยิ่งสมควรบำเพ็ญตนเองให้ดีในสภาพแวดล้อมใหม่ ทำให้ดีในสิ่งที่ตนเองสมควรทำ อย่ามีความคิดแบบสุดขั้วชนิดนั้นอีกในการทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งง่ายที่จะก่อความยุ่งยาก เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ของศิษย์ต้าฝ่า พวกคุณทราบ คนในสังคมนานาชาตินั้น น้อยมากที่จะวิจารณ์คนอื่นลับหลัง คนจำนวนไม่น้อย เขามีแนวคิดและรูปแบบการกระทำที่เป็นสากลและบริสุทธิ์เรียบง่าย มักจะรู้สึกว่าควรเป็นคนจิตใจดีงาม ทำดีต่อผู้อื่นบ้าง ภายใต้สถานการณ์ทั่วไปจะไม่ทำเรื่องเหล่านั้นที่ให้ร้ายคนอื่นและเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ดังนั้นคนเหล่านั้นที่พกพารูปแบบพฤติกรรมมากมาย และความเคยชินในการดำรงชีวิตที่ก่อเกิดในแผ่นดินใหญ่ อยู่ในสังคมนานาชาติต้องไปเปลี่ยนแปลงตัวเองสักหน่อย ข้าพเจ้าพูดเรื่องนี้ เพราะว่าขณะนี้ผู้ฝึกที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ มีจำนวนมากกว่าศิษย์ต้าฝ่าที่เคยอยู่ในสังคมนานาชาติแต่เดิม กระทั่งได้กลายเป็นกลุ่มหลักแล้ว ดังนั้นพวกคุณจึงยิ่งสมควรระวังสิ่งเหล่านี้

พวกคุณทราบไหม ในปีนั้นเวลาที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าอย่างมืดฟ้ามัวดินนั้น ในประเทศจีนคือสถานการณ์แบบนั้น ในสังคมนานาชาติ แม้ว่ามันไม่มีความรุนแรง แต่ความกดดันชนิดนั้น สายตาที่เหยียดหยามของการเลือกปฏิบัติต่อศิษย์ต้าฝ่า นั่นก็เป็นความยากลำบากมาก เนื่องจากในเวลานั้น บรรดาสื่อมวลชนในสังคมนานาชาติ ล้วนแต่เผยแพร่ข่าวลือตามสื่อของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน ไม่มีใครรู้ความจริง ศิษย์ต้าฝ่านอกประเทศจีนมีจำนวนจำกัดมาก แต่พวกเขาทำได้มีประสิทธิภาพมาก ก่อตั้งสื่อมวลชนขึ้นเอง ก่อตั้งกลุ่มอธิบายความจริงย่อย ๆ หลายแห่ง บ้างก็เจาะจงทำงานต่อรัฐบาล บ้างก็มุ่งอธิบายความจริงกับสื่อมวลชนประเภทต่าง ๆ ก่อตั้งจุดอธิบายความจริงมากมาย ยังมีที่ก่อตั้งสื่อมวลชน เว็บไซต์ เป็นต้น ทำให้สถานการณ์นานาชาติ ทำให้ผู้คนทั่วโลกที่ความคิดถูกการกุข่าวของพรรคมารกรอกใส่ หันกลับมาเข้าใจศิษย์ต้าฝ่าแล้ว นั่นช่างยอดเยี่ยมมากแล้ว การบุกเบิกสร้างสภาพแวดล้อมนี้ไม่ง่าย และพวกเขาก็รู้คุณค่ามาก อย่าได้เป็นเพราะผู้ฝึกที่ออกมาจากแผ่นดินใหญ่ ที่มีรูปแบบความคิดที่ก่อเกิดจากวัฒนธรรมพรรค มาทำลายสภาพแวดล้อมนี้ เนื่องจากข้าพเจ้ามองเห็นแล้ว คนจีนทั่วไปที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่มากมาย อยู่ในสังคมนานาชาติ ได้ส่งผลกระทบที่ไม่ดีมากมาย ทำให้คนอายจริง ๆ ทำให้ชาวจีนเงยหน้าไม่ขึ้นจริง ๆ พวกคุณอย่าเป็นอย่างนั้น พวกคุณเป็นผู้บำเพ็ญ ต้องรู้ถึงข้อบกพร่องของตนเอง มันไม่ใช่เป็นปัญหาการกระทบต่อภาพลักษณ์ของชนชาติหนึ่งเท่านั้น หน้าที่ของพวกคุณคือช่วยเหลือสรรพชีวิตทั่วโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น ดังนั้นพวกคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง

อย่ามองคนในสังคมนานาชาติง่ายเกินไป แม้ว่าความคิดของพวกเขาจะเรียบง่าย เนื่องด้วยความคิดยิ่งเรียบง่าย ก็ยิ่งชัดเจน ปัญหาที่เขามองก็ยิ่งแจ่มแจ้ง เขาเพียงแต่ไม่แสดงออก เพียงแต่ไม่พูดมาก ในใจมีความตระหนักรู้อย่างมาก โครงสร้างความคิดของคนก็ล้วนเหมือนกัน ระดับความฉลาดก็ล้วนเหมือนกัน ไม่ด้อยไปกว่าคนอื่นแม้แต่น้อย ความคิดและพฤติกรรมของพวกเขามีเกณฑ์ขั้นต่ำ มีมาตรฐานศีลธรรม ดังนั้นเขาจะไม่ทำอย่างนั้น ความเคยชินชนิดนั้นของทุกคนที่ก่อเกิดขึ้นมาในจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ว่าการเขียนบทความ ทำเรื่องอะไร ก็คือต้องสุดขั้ว ท่าทีการทำงานแบบนั้น ความคิดแบบนั้น ทำให้คนในสังคมนานาชาติรับไม่ได้จริง ๆ ที่จริงคนจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงที่ไม่มีพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนอยู่นั้น มีค่านิยมที่ดีงาม เน้นกุศล เหตุใดพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนจึงรณรงค์เคลื่อนไหวครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะว่าคนจีนในสมัยนั้นมีวัฒนธรรมสูง ค่านิยมเป็นแบบสากล ผ่านการรณรงค์เคลื่อนไหวครั้งแล้วครั้งเล่า โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายวัฒนธรรมจีน กำจัดสิ่งสุดยอดทางด้านวัฒนธรรม กรอกใส่สิ่งไม่ดีเหล่านั้นของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป้าหมายของมันชัดเจนมาก ก็คือต้องการทำให้ความคิดและพฤติกรรมของคนจีนเป็นเหมือนขยะ เนื่องจากในสังคมนานาชาติมีศิษย์ต้าฝ่าที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหานี้จึงยิ่งโดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงต้องพูดกัน ทุกคนจะต้องระวังไว้

นอกจากนี้ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มอธิบายความจริงแต่ละกลุ่ม ในกิจกรรมเหล่านี้ที่ศิษย์ต้าฝ่าจัดตั้งกันขึ้นเอง ในขณะที่อธิบายความจริงอยู่ ช่วยเหลือสรรพชีวิตอยู่ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมาก ดีมาก ไม่ได้อยู่ที่ว่า คุณทำให้สะเทือนเลือนลั่นอย่างไร ดูว่าที่คุณทำนั้นบังเกิดผลหรือไม่ ดูว่าคุณทำด้วยจิตใจอย่างไร เป็นผู้บำเพ็ญหรือไม่ ผู้ฝึกเหล่านั้นที่ตั้งมั่นอยู่ตรงหน้าสถานกงสุลจีนตลอดปี ตั้งมั่นอยู่ที่จุดอธิบายความจริงตลอดปี ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ บางคนมีอายุค่อนข้างมาก มีคนพูดว่า พวกเขามีอายุมาก จึงเหมาะที่จะทำตรงนั้น แล้วคุณซึ่งมีอายุไม่มาก คุณทำอะไรล่ะ เหมือนกัน ดูแต่ว่าศิษย์ต้าฝ่าไปทำกันอย่างไร

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผู้ฝึกคนหนึ่งถามข้าพเจ้าว่า : ท่านอาจารย์ จำนวนคนที่ลาออกจากพรรค ลาออกจำนวนมากเท่าใด พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนจึงจะล้มได้ (อาจารย์หัวเราะ) ข้าพเจ้ากางนิ้วมือออกห้านิ้ว เขาจึงคิด “อ้อ ลาออกห้าพันคน พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนก็ล้ม” (ที่ประชุมหัวเราะ) ผลคือจำนวนห้าพันผ่านไปอย่างรวดเร็วแล้ว “เฮ้อ มันเป็นอย่างไรกันนะ อาจารย์กางนิ้วมือห้านิ้วนี่นะ อ้อ ห้าหมื่นคน” ห้าหมื่นคนนี้ก็ผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว “นี่ไม่ถูกนะ อาจารย์กางนิ้วมือห้านิ้วทำไมนะ อ้อ งั้นก็ห้าแสนคน” (อาจารย์หัวเราะ) จำนวนห้าล้านคน ห้าสิบล้านคน ก็ผ่านไปหมดแล้ว เดี๋ยวนี้เป็นสามร้อยล้านกว่าคนแล้ว ประเทศจีนมีประชากรหนึ่งพันห้าร้อยล้านคน คุณลาออกห้าพัน ดูเหมือนไม่กระทบอะไร (อาจารย์หัวเราะ) ที่จริงข้าพเจ้าเพียงเปรียบเปรย หรือพูดว่า เรื่องนี้ที่พวกเราทำนั้นสำคัญมาก ทำจากใจ ทำลายมันจากในใจของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน ขณะนี้สภาพการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นอย่างไรละ แต่ละคน นอกจากพวกที่กุมอำนาจไม่กี่คน แต่ละคนต่างกำลังคิดว่า “เมื่อไรจะล้มนะ” ล้วนกำลังเตรียมหาทางถอย ล้วนกำลังเตรียมการสำหรับวันสุดท้าย ส่งเงินออกนอกประเทศ ส่งลูกไปต่างประเทศ ตัวเองก็ทำบัตรประจำตัวของต่างประเทศ พาสปอร์ตเอย ล้วนกำลังเตรียมการ พอวันไหนเกิดเรื่องขึ้น ก็จะแอบหนี ล้วนเป็นสภาพจิตใจแบบรอวันสุดท้ายชนิดนี้

ระหว่างตัวพวกเขาเองล้วนกำลังหลอกตัวเอง เพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองนั้นไว้ สายลับมากมายล้วนแต่เป็นคนของคางคก ล้วนกำลังหลอกลวงผู้นำพรรคในปัจจุบัน ตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นเวที ก็สร้างรายงานเท็จให้ หลังจากขึ้นเวที ก็ยังคงสร้างรายงานเท็จให้พวกเขามาโดยตลอด พวกเขาไม่รู้สถานการณ์ข้างนอกที่แท้จริง รายงานที่ได้รับล้วนเป็นการหลอกลวงของผีเจียง คำสั่งการก็ออกไปไม่พ้นจงหนานไห่ ต่อสู้ซึ่งกันและกันอย่างลับ ๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แกตายฉันอยู่ หัวหน้าพรรคในปัจจุบัน ฝ่ายใดก็ไม่ไว้ใจ คนที่คิดจะเดินแนวทางประชาธิปไตยเวลานี้ก็ไม่เชื่อถือเขาอีกต่อไป พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนยิ่งไม่เชื่อถือเขา ไม่มีใครจริงใจกับเขา

ทุกคนได้มองเห็นแล้ว พรรคมารจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว เพราะจุดประสงค์ของการคงอยู่ของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน การประทุษร้ายชนิดนี้ต่อศิษย์ต้าฝ่า มันไม่ใช่การจัดวางของอิทธิพลเก่าเพื่อทดสอบศิษย์ต้าฝ่าหรอกหรือ ประเทศจีนก็เหมือนเตาเคี่ยวตานของเหล่าจวินที่กำลังหล่อหลอมศิษย์ต้าฝ่าอยู่ เผาไฟนั้นให้แรงยิ่งขึ้น เหมือนการทดสอบที่เข้มงวดมาก เพื่อทิ้งใจคน ทิ้งจิตยึดติด แน่นอนการทรมานชนิดนี้ยากที่จะทนได้ แต่ที่หลอมออกมาคือทองแท้ พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนก็เหมือนกับถ่านหิน ที่เผายิ่งแดงเท่าไร มันก็เหมือนจะยิ่งมีพลัง รอจนเผาหมดแล้ว พอมองดูอีกที ทองแท้ถูกหลอมออกมาแล้ว พรรคมารคอมมิวนิสต์จีน มันคืออะไร เป่าทีเดียว “พึ่บ” เป็นขี้เถ้า ไม่มีแล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ) เวลาที่มองดูศิษย์ต้าฝ่าถูกประทุษร้าย น่าสงสารมาก ที่จริงที่น่าเศร้าอย่างแท้จริงคือพวกที่วิ่งตามพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน − นั่นจึงจะน่าเศร้าที่สุดนะ บาปกรรมทั้งหมดที่พรรคมารก่อไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ พวกเขาล้วนต้องไปแบกรับ

ทุกคนคิดดู พวกหัวหน้าเหล่านั้นของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนทำแต่เรื่องชั่ว แต่พวกเขายังเสวยสุขอยู่ เวลาที่มีชีวิตอยู่ก่อกรรมทำชั่ว เสวยสุขจนหมดวาสนาของพวกเขา หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน คุณยังจะวิ่งตามพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน คนเขาจูงลาไปแล้ว คุณไปถอนหลักที่ผูกลา ก็จะจับคุณ หรือพูดว่าบาปกรรมทั้งหลายของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนสุดท้ายล้วนต้องคิดบัญชีกับเขา เป็นเหตุผลอย่างนี้ใช่ไหม เพราะคุณเป็นหัวหน้าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน ที่จริงบางครั้งข้าพเจ้าคิดว่า เขารู้สึกว่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนสามารถปกป้องอำนาจของเขาได้ ในอดีตใช่ ปัจจุบันยังใช่หรือ ในอดีตคนจีนอยู่ในห้องสุขาตัวคุณเองคนเดียวล้วนไม่กล้าด่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน เป็นอย่างนั้นจริง ๆ วิญญาณชั่วของพรรคมารมีอยู่ทั่วไป เดี๋ยวนี้วิญญาณชั่วเหล่านั้นถูกทำลายไปหมดแล้ว ทุกคนต่างกำลังด่าพรรคมาร คนที่นั่งกินข้าวด้วยกันไม่กี่คน พอคุยกันขึ้นมา หากไม่ด่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรจะทำ ใครที่ไม่ด่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน คนนั้นผิดปกติ ก็กลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ) พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนมาถึงเวลาผลักทีเดียวก็ล้ม คุณจะอาศัยพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนปกป้องอำนาจของคุณ คุณดูผิดหรือเปล่า พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนอาศัยคุณปกป้องมันหนา ไม่ใช่คุณอาศัยพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนปกป้องนะ ปัจจุบันผู้ที่มีอำนาจพูดคำเดียวว่า “เดี๋ยวนี้พวกเราไม่ต้องการพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนแล้ว” พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนก็จะอยู่ไม่ได้แม้แต่วันเดียว วันที่สองก็จะไม่มีแล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ) เพราะผู้คนต่างกำลังรอคอยวันนั้น (เหล่าศิษย์ปรบมือ) ข้าพเจ้าจึงพูดว่าผู้ที่มีอำนาจได้ทำเรื่องหนึ่งที่โง่เขลามาก

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สำหรับพวกเรานั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจนมาก เมื่อสักครู่ข้าพเจ้าพูดถึงสถานการณ์นี้ไปหน่อยหนึ่ง มาถึงขั้นนี้แล้ว องค์ประกอบเหล่านั้นที่ใช้ทดสอบศิษย์ต้าฝ่ามีไม่มากแล้ว ถ่านหินมีไม่มากแล้ว จะหลอมทองแท้อีกก็หลอมได้ไม่มากแล้ว ดังนั้นคุณว่าไฟนี้ต้องดับใช่หรือไม่ ต้องดับ (เหล่าศิษย์ปรบมือดังกึกก้อง) ต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไรละ ใช่หรือไม่ว่าศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญจนหยวนหมั่นก้าวนั้นละ ใช่หรือไม่ (เหล่าศิษย์ปรบมือ) แม้ว่าศิษย์ต้าฝ่าบางคนจะตามอาจารย์ไปด้วยกันถึงฝ่าปรับโลกมนุษย์นะ แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ต้องขีดจุดจบแล้ว ศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า ขั้นตอนช่วงนี้นั่นคือสำคัญอย่างยิ่ง เรื่องในภายหลังข้าพเจ้าจะไม่พูดมากไปกว่านี้

การประชุมคืนเมื่อวานบนภูเขาข้าพเจ้ายังพูดว่า ข้าพเจ้ามักพูดถึงอิทธิพลเก่าเสมอ ๆ ทุกคนเข้าใจชัดเจนโดยพื้นฐานแล้วในแนวคิดนี้ แต่สำหรับการเกิดขึ้นของอิทธิพลเก่านี้ มักจะมีความไม่ชัดเจนเล็กน้อย ที่จริงทุกคนคิดดู การเกิดขึ้นของอิทธิพลเก่านี้ มันมีมูลเหตุทางประวัติศาสตร์ จักรวาลเป็นขั้นตอนหนึ่งของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอย ดับสูญ คนมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสภาพการณ์นี้ ทุกคนต่างทราบ โตถึงอายุสิบกว่าปี สิบห้า สิบหก สิบเจ็ด สิบแปดปี นี่คือขั้นตอนของการเจริญเติบโต ถึงสิบแปด สิบเก้า ยี่สิบปี เรื่อยไปจนถึงสามสิบกว่าปี นี่คือขั้นตอนของการ “ตั้งอยู่” รอถึงสี่สิบกว่าปีขึ้นไป นั่นก็เริ่มก้าวสู่ทางลาดลงแล้ว นี่ก็คือขั้นตอนของการ “เสื่อมถอย” ร่างกายแย่มากแล้ว ไม่ไหวแล้ว เมื่อแก่ชราไปอีก ก็เป็นเวลาต้องตายแล้ว นั่นก็คือขั้นตอนของการ “ดับสูญ”

กล่าวสำหรับชีวิตคนขั้นตอนนี้ ก็สั้นอย่างนี้ กล่าวสำหรับขอบเขตนี้ของจักรวาล มันช่างยาวนาน เช่นนั้นในขอบเขตของร่างนภาที่ใหญ่ยิ่งขึ้น มันเป็นแนวคิดอะไรหรือ ข้าพเจ้าพยายามอธิบายด้วยคำที่สามารถพูดออกมาได้แล้วกัน ก็คือใช้คำว่านับไม่ถ้วน นับไม่ถ้วน หน่วยกัลป์ (ล้านล้าน) นั้นที่นับไม่ถ้วนมาคำนวณปี นั่นคือขั้นตอนของการ “เกิดขึ้น” ในกัลป์ของปีที่บันทึกจำนวนนับไม่ถ้วนนี้ มีชีวิตจำนวนเท่าใดที่เริ่มจากเกิดถึงตาย ! เทพก็เหมือนกัน หมุนเวียนกลับไปกลับมา เขาไม่ใช่ไม่ตาย แต่การตายของเขา เขาจะรู้ เกิดเขาก็รู้ แต่เขาจะไม่พกพาความจำเดิมของเขา เพียงแต่เขามีชีวิตอยู่ยาวนานจนเบื่อหน่ายแล้ว เขาจึงจะมีสภาพนั้นปรากฏ และในขั้นตอนนี้ การหมุนเวียนชนิดนี้คือขั้นตอนการเปลี่ยนใหม่ของชีวิต ชีวิตที่หมุนเวียนอยู่ชนิดนี้ไม่รู้ว่าอยู่ในขั้นตอนของการ “เกิดขึ้น” ก็ได้เกิดมาเป็นกัลป์ครั้งที่นับไม่ถ้วนแล้ว นี่คือใช้กัลป์ หน่วยนับที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ใช้เสมอ ๆ มาคำนวณ ใช้ร้อยล้านก็คำนวณไม่ได้ กัลป์ที่นับไม่ถ้วน อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่เทพก็จะเป็นเช่นนี้ จักรวาลนี้ยาวนานเหลือเกินแล้ว

แล้วในขั้นตอน “คงอยู่” ละ นี่ยิ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งที่ยาวนานที่สุด ในขั้นตอนนี้ แทบจะไม่มีทางอธิบายได้ ใช้จำนวนกี่กัลป์ก็ไม่อาจอธิบายขั้นตอนของกาลเวลาที่ยาวนานอย่างนั้นได้ ในจักรวาล ไม่มีชีวิตใดที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดขั้นตอน “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอย ดับสูญ” ก็คือไม่มีชีวิตที่เริ่มจาก “เกิดขึ้น” มีชีวิตอยู่จนถึง “ตั้งอยู่” ในระดับชั้นที่สูงที่สุดของจักรวาลก็ไม่มีแล้ว ระดับชั้นสูงเท่าใดก็ไม่มีแล้ว เช่นเดียวกับการผลัดเซลล์ของร่างกายคน ไม่มีเซลล์ดั้งเดิมแล้ว ล้วนแต่เป็นเช่นนี้ ต่อเนื่องเรื่อยมา คือขั้นตอนหนึ่งที่ใหญ่ ยาว และเนิ่นนานอย่างนี้ คุณถามชีวิตที่อยู่ในช่วงระยะเวลา “ตั้งอยู่” ว่าช่วงระยะเวลา “เกิดขึ้น” นั้นเป็นอย่างไร เขาไม่รู้อะไรเลยแม้แต่น้อย คิดก็คิดไม่ออก

ดังนั้นเมื่อจักรวาลมาถึงช่วงระยะเวลา “เสื่อมถอย” ขั้นตอนนี้ก็ยาวนานเช่นกัน เป็นเวลาที่ยาวนานมากคือกัลป์ปีที่นับไม่ถ้วน เหมือนอนุภาคที่มีอยู่เต็มไปหมดในมิตินี้ ยาวนานเหมือนกัน มากมายอย่างนี้ ในอากาศนี้มีอนุภาคจำนวนมากแค่ไหน ในขั้นตอนนั้นของการ “เสื่อมถอย” คุณถามชีวิตเหล่านั้นที่อยู่ในระดับชั้นสูงมาก คุณว่าเมื่อก่อนสภาพการของชีวิตในช่วงระยะเวลา “ตั้งอยู่” นั้นเป็นอย่างไร เขาก็ไม่รู้อะไรเลย เพราะเหตุใดละ เนื่องจากแม้แต่ฝ่าในขั้นตอนนี้ก็ล้วนกำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ ทั้งหมดล้วนเป็นไปตามการ “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอย ดับสูญ” ล้วนกำลังเปลี่ยนแปลงอยู่

รอจนมาถึงช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” ขั้นตอนนี้ก็ยาวนานอย่างยิ่ง สุดท้ายเดินสู่การดับสูญอย่างถึงที่สุด ในช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” นี้ ก็เป็นการใช้จำนวนกัลป์ปีที่นับไม่ถ้วน จึงสามารถประเมินระยะเวลาอันยาวนานได้ ที่นั่นมีเทพระดับชั้นต่าง ๆ นับไม่ถ้วน เทพที่ใหญ่ยิ่งขึ้น เทพองค์นั้นที่ใหญ่ยิ่ง ใหญ่ยิ่งขึ้นเอย ราชาเอย จ้าวของแต่ละโลกเอย คุณถามเขาว่า ระยะแรก ระยะกลาง ของจักรวาลเป็นอย่างไร เขาก็ไม่รู้อะไรเลย

เหตุใดในการเจิ้งฝ่าของอาจารย์ จึงปรากฏอิทธิพลเก่าขึ้นมา หากอาจารย์ไม่ได้ปรับฝ่านี้ ไปจนถึง ระยะแรกของการ “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอย ดับสูญ” นั่นจะเรียกได้ว่าเจิ้งฝ่าไหม (เหล่าศิษย์ปรบมือ) แต่ว่าบรรดาเทพแต่ละชั้น แต่ละชั้นในช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” พวกมันก็ไม่รู้ว่านั่นคืออะไร พวกมันเป็นเทพในช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” มันเป็นเพียงระดับชั้นที่ต่างกันของแต่ละระดับชั้น ยังมีการเปรียบเทียบอันหนึ่ง บนเขตแดนยังมีการเปรียบเทียบ แต่ระดับชั้นใดล้วนไม่ใช่มาตรฐานดั้งเดิมแล้ว เพราะมันเสื่อมไปแล้ว จะดับสูญแล้ว ก็คืออิทธิพลเก่าซึ่งเป็นชีวิตที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาของการ “ดับสูญ” นี้พูดว่า “ท่านเจิ้งฝ่าอย่างนี้ใช้ไม่ได้ พวกเราไม่เคยพบเห็นมาก่อน นี่ไม่อาจจะสำเร็จ พวกเราจะช่วยท่านให้สำเร็จ” พวกมันจึงทำเรื่องอย่างนี้ มาตรฐานของมันคืออะไร มันเป็นเทพในช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” ราชาของจักรวาลในช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” เทพเหล่านั้นที่คิดจะเข้าร่วมกับการช่วยข้าพเจ้าเจิ้งฝ่า พวกคุณว่า พวกมันจะสามารถทำอะไรออกมาได้ละ มาตรฐานสูงสุดของมันเป็นมาตรฐานสูงสุดของจักรวาลในช่วงระยะเวลาที่จักรวาลดับสูญแล้ว เมื่อทำเสร็จแล้ว นั่นเป็นการเจิ้งฝ่าแล้วหรือ ข้าพเจ้าทำตามพวกมัน นั่นจะเจิ้งฝ่าได้ไหม จะสามารถใช้มาตรฐานของพวกมัน หวนคืนกลับไปสู่ระยะแรกของ “เกิดขึ้น” ได้ไหม นั่นมิหวนกลับไปสู่ช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” อะไรก็ไม่ได้ทำหรือ นั่นจะห่างไกลแค่ไหนจากมูลฐานที่สุดของจักรวาลและมาตรฐานอันนั้นของ “เกิดขึ้น”

ดังนั้นทุกคนจึงคิดไม่ถึงว่าพวกมันมีใจกล้าเยี่ยงนี้ได้อย่างไร พวกมันกล้าทำเรื่องนี้ได้อย่างไร มันรู้สึกจริง ๆ ว่าตัวเองถูกต้อง ของเหล่านั้นที่สูงที่สุดของอิทธิพลเก่า มันรู้สึกว่า “ฉันเป็นเทพที่สูงที่สุด ที่ฉันรู้ก็คืออันนี้ ไม่มีใครรู้ได้สูงไปกว่าที่ฉันรู้อีกแล้ว นี่เป็นสัจธรรมที่แท้นะ” มันไม่รู้ว่ามันเป็นมาตรฐานของช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” มีบางเวลาขณะที่ข้าพเจ้าบรรยายฝ่าอยู่ ศิษย์ต้าฝ่าล้วนเข้าใจ แต่พวกมันกลับไม่เข้าใจ มีบางเวลาข้าพเจ้ารู้สึกว่าพวกมันแกล้งทำเป็นไม่รู้ เหตุใดพวกมันเป็นอย่างนี้ได้ละ ที่จริงหากพูดโดยแก่นแท้ เพราะข้าพเจ้ามีร่างมนุษย์ มีพฤติกรรมของมนุษย์ ดังนั้นพวกมันรู้สึกว่า พวกมันมีพฤติกรรมของเทพ “พวกเราจะไม่เหนือกว่าท่านได้อย่างไรละ” คือสิ่งนี้ที่ขวางกั้นพวกมัน ฝ่าที่อาจารย์ถ่ายทอดมีหลักการชัดเจน ภาษาชัดเจน ไม่มีสิ่งใดให้คุณไปคาดเดา ล้วนปรากฏอย่างชัดแจ้งตรงนี้ แต่ความเคยชินของชีวิตในช่วงระยะเวลา “ดับสูญ” สิ่งใด ๆ ล้วนต้องไปคาดเดา ค้นหามัน ให้ของสิ่งหนึ่งกับคุณ ไปขุดคุ้ยมัน จึงจะสามารถหาสิ่งที่เป็นของจริงออกมาได้ พวกมันเคยชินกันอย่างนี้แล้ว ดังนั้นฝ่าที่อาจารย์ถ่ายทอด กล่าวสำหรับคน ไม่มีปริศนา แต่พวกมันกลับหลงอยู่ในปริศนา เข้าใจว่าฝ่าไม่อาจจะกระจ่างแจ้งได้อย่างนี้ ไร้ปริศนาที่ชั้นผิว กลับกลายเป็นปริศนาของพวกมันแล้ว ล้วนแต่หลงอยู่ในความไม่มีวังวน (อาจารย์หัวเราะ) เป็นอย่างนี้จริง ๆ อิทธิพลเก่าก็คือมาอย่างนี้

แต่สิ่งใดที่ข้าพเจ้าต้องการอย่างแท้จริง ไม่มีชีวิตใดสามารถรู้ได้ เพราะว่าเทพที่สูงที่สุดใด ๆ ของช่วงระยะเวลานี้ล้วนไม่รู้ว่าลักษณะของช่วง “เกิดขึ้น” ของจักรวาลเป็นอย่างไร หรือ “เกิดขึ้น” ระยะแรกสุดลักษณะเป็นอย่างไร นั่นก็ห่างไกลกันเหลือเกิน ดังนั้นพวกมันจึงไม่เข้าใจ พวกมันเองก็พูดว่า “ที่ท่านต้องการ พวกเราทำไม่เป็น ที่เราทำเป็นก็คืออันนี้” คุณทำไม่เป็น แล้วทำไมคุณเข้าร่วมละ มันพูดว่า “ช่วยไม่ได้ ข้างบนเรียกให้ฉันทำ” รอจนข้าพเจ้าจับตัวที่เลวที่สุดได้ เมื่อจับตัวที่สูงที่สุดนั้นได้ มันพูดว่า “ของฉันนี่ คือดีที่สุด ฉันก็ช่วยท่านนะ” แต่กลับทำลายชีวิตไปนับไม่ถ้วน ทำลายสรรพชีวิตในจักรวาลไปนับไม่ถ้วน

สำหรับศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญไปตามฝ่าชุดนี้ อาจารย์เคยพูดไว้ประโยคหนึ่งว่า “คุณนะ คิดจะบำเพ็ญสูงแค่ไหน คุณเพียงมีความกล้า” ทุกคนทราบ การบำเพ็ญนั้นไม่ง่ายเลย ชำระกรรม ข้ามด่าน พบกับการเสียดสีทางซินซิ่งที่ข้ามไปไม่ได้มีจำนวนเท่าใด นับประสาอะไรกับด่านใหญ่เหล่านั้น จะข้ามอย่างไร คนที่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ พอคิดขึ้นมาก็จะกลัว ยากจริง ๆ ยากจริงหนา ระหว่างคนกับคน ต่อให้พบกับเรื่องที่ไม่ดียิ่งขึ้นไปอีก ล้วนต้องมองในแง่บวก “อ้อ เรื่องนี้มีประโยชน์ต่อการยกระดับของฉัน” เมื่อพบกับความขัดแย้ง ไม่โทษใคร ให้ค้นหาที่ตัวเองก่อน ในฐานะผู้บำเพ็ญ หากคุณไม่อาจปลูกฝังความเคยชินอย่างนี้ ถ้าคุณไม่สามารถมองปัญหาตรงข้ามกับคน คุณก็จะอยู่ในหมู่คนไปตลอดกาล อย่างน้อยที่สุดที่ทำได้ไม่ดี ในขั้นนั้นคุณอยู่ในหมู่คน

เมื่อเกิดความขัดแย้ง ไม่สุขุมเยือกเย็น พอใจเย็นขึ้น หวนคิดอีกที ฉันเป็นผู้บำเพ็ญนะ เรื่องนี้ฉันทำไม่ถูก ข้ามด่านนี้ได้ไม่ดี ต้องเป็นด่านอย่างแน่นอน ทุกคนทราบ เพราะว่าอาจารย์พูดแล้ว ในชีวิตของคุณ ไม่ว่าพบกับเรื่องอะไร ขอเพียงคุณก้าวเข้ามาในกลุ่มผู้บำเพ็ญนี้ ล้วนไม่ใช่บังเอิญ ล้วนแต่เพื่อให้คุณยกระดับ แต่พวกเรามีกี่คนที่ผลักออกไปข้างนอก ไม่เพียงผลักออกไป ยังกลายเป็นพวกเจ้าเล่ห์มาก บางครั้ง เมื่อข้าพเจ้าช่วยพวกเขาทำเรื่องอะไร พวกเขาล้วนพูดปดต่อหน้าข้าพเจ้า เถียงข้าง ๆ คู ๆ ข้าพเจ้ามองดูพวกเขา รู้สึกน่าขัน แต่ข้าพเจ้าก็รู้ว่า คนก็เป็นอย่างนี้แหละ คุณบำเพ็ญไม่ดี ด้านนี้ก็คือใจคน คนก็เป็นอย่างนี้เอง

สิ่งที่เป็นของคนที่ข้าพเจ้าเหลือไว้ให้พวกคุณ เพื่อสามารถจะดำเนินชีวิตอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญได้นั้น ไม่กระทบต่อการบำเพ็ญของพวกคุณ คุณสามารถใช้ชีวิตแบบคนของคุณ แต่เมื่อพบกับความขัดแย้งที่แท้จริง โดยเฉพาะคือศิษย์ต้าฝ่า ในการยกระดับส่วนบุคคลของคุณ ในการร่วมมือกัน คุณทำสามเรื่องที่คุณควรทำให้ดี เมื่อคุณพบกับความขัดแย้ง นี่ก็คือสิ่งสำคัญ ต่อการยกระดับตัวเอง นั่นล้วนเป็นสิ่งสำคัญ ในระยะแรก พวกคุณมีกี่เรื่องที่ถูกตนเองรบกวน ที่ควรทำให้ดี ก็ไม่ทำให้ดี ระยะแรกของการประทุษร้าย ใช้ใจคนไปมองปัญหา ทะเลาะกันอยู่ตรงนั้น ยังโกรธจนหัวเสีย ความโกรธนั้นของคุณ รวมทั้งจิตใจชนิดนั้นของคุณที่ทะเลาะกัน ทั้งหมดล้วนคือคนหนา

ร่วมมือกันให้ดีอย่างสง่าผ่าเผย ไม่แน่ว่า ข้อเสนอของใครจะดีที่สุด ต่อให้ข้อเสนอของเขาไม่ดี ไม่รอบด้าน ตัวคุณช่วยชดเชยให้มันดีอย่างเงียบ ๆ ทำจนครบถ้วนแล้ว เทพจึงจะมองว่าคุณยอดเยี่ยม และยังทำอย่างเงียบ ๆ สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครออกความคิด แต่อยู่ที่ในระหว่างขั้นตอนนี้ ใครฝึกตัวเองออกมาได้แล้ว − ใครบำเพ็ญตัวเองได้แล้ว ใครก็ยกระดับขึ้นมาแล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ) อาจารย์พูดเรื่องเหล่านี้ ก็คือจะบอกทุกคนว่า พวกเราวันนี้ล้วนเดินมาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ข้าพเจ้าสามารถพูดอย่างชัดเจนกับพวกคุณ การจัดวางในระยะแรกของอาจารย์ ก็คือยุติการประทุษร้ายในปีนี้ (เหล่าศิษย์ปรบมือกึกก้อง) ก่อนและหลังยี่สิบปี แม้ว่าสุดท้ายแล้ว อิทธิพลเก่ายื่นมือแทรกเข้ามาเปลี่ยนแปลงบางเรื่องไปแล้ว แต่ถ่านหินในเตาเผาล้วนหมดแล้ว ความร้อนนี้ก็ไม่พอเพียงแล้ว เรื่องนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว ดังนั้นทุกคนยิ่งต้องทำให้ดี ศิษย์ต้าฝ่าเอย วันนั้นข้าพเจ้ายังได้พูดว่าใครที่สามารถเป็นศิษย์ต้าฝ่า ช่างมีวาสนาใหญ่เพียงไรหนา

เมื่อสักครู่ข้าพเจ้านั่งอยู่บนรถ มีคนพูดว่าบางคนฟังไม่เข้าใจว่า อนุภาค โมเลกุล อะไร คำศัพท์เหล่านี้ในวิชาฟิสิกส์ ข้าพเจ้าก็ยืมภาษาของคนปัจจุบันมาบรรยาย หาไม่แล้วจะบรรยายได้อย่างไรละ แต่การที่จะพรรณนาขึ้นมาจริง ๆ แล้ว เป็นเรื่องอย่างนั้นจริง ๆ ดวงดาวเหล่านี้ที่พวกเรามองเห็น หากเล็กเท่ากับขนาดของโมเลกุล ใช่ไหมว่าก็เหมือนกับโมเลกุล ชีวิตขนาดใหญ่ของจักรวาลมองดูโลกกับดวงดาวอื่นในมิตินี้ ก็เหมือนกับที่เรามองเห็นโมเลกุล ใช่หรือไม่ เช่นนั้นโลกของเรานี้จึงเล็กมากในสายตาของชีวิตที่ใหญ่กว่า คือเล็กเท่ากับอะตอม มอง ๆ ดู ใช่หรือไม่ว่าก็เหมือนกับที่คนมองดูอะตอม ในสายตาของเทพที่สูงกว่ามองดู ก็เป็นอย่างนั้น ดวงดาวนี้มีอยู่เต็มไปทั่วทั้งมิติ มีทั้งที่คุณมองเห็นได้และมองไม่เห็น เป็นเพราะเป็นปัญหาของจักษุสัมผัสของคุณ เทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าขึ้นอีก ก็จะถูกขวางกั้นด้วยอุปสรรคนานาชนิดในจักรวาล จึงมองไม่เห็นทั้งหมด ดังนั้นข้าพเจ้าพูดว่า มองจักรวาลอย่างทะลุปรุโปร่ง เพราะมนุษย์ล้วนมองไม่เห็นร่างนภาที่แท้จริงตลอดกาล

หรือพูดว่า ไม่ว่าระดับชั้นใดล้วนมีแนวคิดอย่างนี้ ชีวิตขนาดใหญ่มองดูข้างล่าง ก็คืออนุภาคเล็ก ๆ ชีวิตขนาดเล็กมองดูข้างบน ก็คือดวงดาว บนระดับชั้นนั้นของอะตอม ชีวิตที่อยู่บนนั้น ไม่ใช่ถือว่าอะตอมเป็นดวงดาวของพวกเขาหรือ ข้างบนอะตอม ชีวิตที่อยู่บนนั้นมองดูโลกของเรา โอ้ ช่างใหญ่ไม่มีที่เปรียบ อนุภาคแต่ละชั้นของมันกับอนุภาคที่ใหญ่กว่าหรือเล็กกว่า ก็เป็นความสัมพันธ์ชนิดหนึ่งอย่างนี้ อนุภาคแต่ละชั้น แต่ละชั้น แต่ละชั้น แต่ละชั้น โลกก็เป็นอนุภาคหนึ่ง รวมทั้งดวงอาทิตย์ รวมทั้งทางช้างเผือกที่เรามองเห็น ทั้งหมดที่มีโครงสร้างพื้นฐานของร่างนภาก็เป็นโครงสร้างอย่างนี้

อนุภาคที่คนมองเห็นไม่เพียงแค่การแสดงออกอย่างนี้ของอนุภาคและดวงดาวที่ตาคนสามารถมองเห็นได้ ที่ผู้คนมองไม่เห็นยังมีอนุภาคที่ต่างกัน การแสดงออกของโมเลกุลก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็อยู่ในมิตินี้ บนรูปแบบของโมเลกุลที่ต่างกัน ล้วนมีชีวิตอยู่นับไม่ถ้วน ล้วนอยู่ในมิติระดับชั้นนี้ของมนุษย์ แต่ที่คงอยู่ในเวลาเดียวกันกับโมเลกุล ยังมีรูปแบบอื่นของอนุภาคที่คงอยู่ ทั้งหมดนี้เบียดเสียดกันอยู่เต็มไปหมด มนุษย์กับชีวิตชั้นนี้ก็เหมือนอยู่ในชั้นดิน นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันรู้จักแค่อนุภาคเหล่านี้ที่สามารถมองเห็น ข้าพเจ้าเพียงแต่ใช้ความรู้ในยุคนี้ไปบรรยายเท่านั้น ที่จริงไม่เพียงมีแค่นี้ ยังมีอีกมากนัก ไม่เพียงแค่นี้ จึงพูดว่าชีวิตทั้งปวงมีมากเหลือคณา ชีวิตมากมายอย่างนี้ เวลาที่คุณสูดอากาศ โมเลกุลที่ประกอบขึ้นเป็นอากาศ ถูกคุณสูดเข้าไปมากแค่ไหนละ บนโมเลกุลนั้นก็เป็นดวงดาว บนนั้นมีโลกจำนวนมากเท่าไร มีชีวิตมากเท่าไร ถูกคุณสูดเข้าไปแล้ว แปรเปลี่ยนเป็นสารบำรุงที่ร่างกายของคุณต้องการ (อาจารย์หัวเราะ)

เพราะว่าสิ่งนี้เกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้งมาก เมื่อก่อนความรู้ของมนุษย์มีจำกัด ดังนั้นในอดีต เทพเหล่านั้นจึงไม่พูดถึง และไม่มีทางที่จะอธิบายได้ พระเยซูบอกว่าคนมีบาป แท้ที่จริงแล้ว บาปนี้เรื่องเป็นอย่างไร ไม่ได้อธิบายชัดเจน ข้าพเจ้าก็พูดกับพวกคุณ ข้าพเจ้าว่า คนมีชีวิตอยู่ก็กำลังก่อกรรม กิน อยู่ เดิน พฤติกรรมทางสังคมระหว่างคนด้วยกัน ล้วนจะก่อกรรม คุณบอกว่า ฉันไม่ไปก่อกรรมระหว่างคนด้วยกันในสภาพการดำรงชีวิต จะออกบวชหรือหันหน้าเข้ากำแพง คุณนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อน ก็ก่อกรรมอยู่ (อาจารย์หัวเราะ) การมีชีวิตอยู่ของคุณ ก็จะมีโลกมากมายเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะคุณ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าเคยพูดหลักการข้อหนึ่ง ข้าพเจ้าว่าคนมีสภาพแวดล้อมของการดำรงชีวิตของคน เนื่องจากกรรมที่เกิดขึ้นจากการดำรงชีวิต ล้วนไม่นับเป็นความผิดของคุณ แน่ละก็จะไม่มีการบันทึกความผิดของคุณ แต่ยังมีปัญหาอื่นอีก ก็คือมันจะก่อเกิดกรรม นี่คือแน่นอน นี่ก็คือที่ใน 〈〈พระคริสตธรรมคัมภีร์ใหม่〉〉 พูดว่าคนนั้นมีบาป ดังนั้นบางคนที่พูดว่า มีชีวิตอยู่บนโลกย่อมมีทุกข์ภัย หากชั่วชีวิตไม่เจ็บป่วยเลย พอตายไปต้องตกนรกแน่นอน เพราะอะไรละ กรรมชั่วชีวิตของคุณทั้งหมดไม่ได้สลายไป คุณก็มีกรรมหนักมากแล้ว กรรมนั้นเป็นตัวแทนของบาปนะ ดังนั้นได้แต่ลงนรกไปชำระกรรม ก็คือความหมายนี้

ดังนั้นในเวลาปกติ เราในฐานะผู้บำเพ็ญ ทนทุกข์สักหน่อย รับเคราะห์กรรมเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องไม่ดี บางครั้งกำลังสลายกรรมอยู่ “ไม่ไหวแล้ว ฉันป่วยแล้ว เป็นหวัด ตรงนี้ไม่สบาย ตรงนั้นไม่สบาย” ที่จริงคือการสลายกรรม ผู้ฝึกใหม่ไม่ค่อยเข้าใจ ก็เข้าใจว่า “เฮ้อ พอเจ็บป่วย พูดว่าป่วยไม่ได้ พูดว่าสลายกรรม” ไม่ใช่ มันคือการสลายกรรมจริง ๆ เส้นทางชีวิตของคุณนี้ถูกจัดวางไว้แล้ว ไม่อนุญาตให้ร่างกายคุณมีโรค ไม่อนุญาตให้ร่างกายคุณมีโรคจริง ๆ เพราะโรคนั้นไม่อาจทำร้ายคุณได้อีกแล้ว เชื้อโรคนั้นจะถูกพลังงานด้านบวกของคุณฆ่าตาย แต่คนย่อมก่อกรรม เมื่อก่อกรรมนั้นแล้ว มันก็สะท้อนอยู่บนร่างกายของคุณ คือเหมือนกับโรคนั้นทุกประการ ถ้ามันสะท้อนอยู่ในจมูกของคุณ คุณก็คัดจมูก น้ำมูกไหล “โอ้ย เป็นหวัดแล้ว” คุณบอกว่าเป็นหวัดแล้ว (อาจารย์หัวเราะ) แต่มันไม่ใช่โรคหวัด ถ้าสิ่งนี้สะท้อนอยู่ในกระเพาะของคุณ คุณจะปวดท้อง “โอย วันนี้ฉันกินอะไรมีปัญหา” (อาจารย์หัวเราะ) มันไม่ใช่ คือกรรมทำให้เป็นอย่างนั้น เช่นนั้นทำไมต้องส่งไปตรงนั้น ไม่ใช่ต้องไปตรงนั้น ก็อาจส่งมาตรงนี้ ก็อาจส่งไปตรงนั้น เป็นเพราะตัวคุณเองมีอะไรยึดติด ในเวลาที่จะช่วยให้คุณบำเพ็ญ มันก็จะส่งไปตรงนั้น

ตัวอย่างเช่น ก่อนการบำเพ็ญของคุณเคยป่วยหนัก พอบำเพ็ญหายดีแล้ว โอ้โฮ ดีใจเหลือเกิน แต่พอคิดบ่อย ๆ ว่า “เมื่อก่อนฉันเคยป่วยหนัก ต่อไปอาจจะไม่มีอีกแล้ว” คุณกำลังคิดว่า “ฉันอาจจะไม่ป่วยอีกแล้ว” ที่จริงคุณกำลังกังวล โดยผิวเผินคิดว่า “อ้อ หมดเรื่องแล้ว” อิทธิพลเก่านั้นพอมองดู “ทำอะไรนะ” (อาจารย์หัวเราะ) อิทธิพลเก่าก็ไม่ใช่เป็นแบบนี้หรือ ปีนั้นมันก็ประทุษร้ายอย่างนี้ต่อศิษย์ของพระเยซู กับองค์ศากยมุนี มันทำอย่างนี้ทั้งนั้น มันพูดว่า “เรากำลังช่วยเขาบำเพ็ญ” งั้นดีละ คุณไม่วางใจใช่ไหม ดีละ รอเมื่อกรรมของคุณมากหน่อย ก็จะรวบรวมกรรมของคุณ โยนไปที่นั่น “โอย โรคฉันกำเริบแล้ว” (เหล่าศิษย์หัวเราะ)

ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญ ใจดวงนั้นจะถูกทดสอบอย่างนี้ ในเวลานี้คือการทดสอบคุณจริง ๆ ที่แท้แล้ว คุณปฏิบัติตัวในฐานะผู้บำเพ็ญ หรือใช้ใจคนธรรมดาสามัญไปคิด คุณใช้ใจคนไปคิด เช่นนั้นคุณก็ไปรักษาโรคเถิด แต่ว่านะ ในฐานะคนที่บำเพ็ญไม่ค่อยก้าวหน้า หรือเป็นผู้ฝึกใหม่ นั่นก็เป็นอีกกรณี เนื่องจากซินซิ่งของเขาไม่ถึง หรือพูดว่าเขตแดนของเขาไปไม่ถึงตรงนั้น คุณย้ำบอกเขาว่า “มันไม่ใช่โรค” แต่ในใจของเขาไม่มั่นใจจริง ๆ เนื่องจากเขตแดนความคิดของเขาไม่ถึง เขาเข้าใจจริง ๆ ว่า “ก็คือโรค” อย่างนั้นก็ต้องไปโรงพยาบาลรักษา เพราะอิทธิพลเก่าจะทดสอบคน มันไม่ใช่ “ฉันล้อเล่นกับคุณเท่านั้นเอง” มันเอาจริง “ฉันไม่อยากให้คุณเป็นเทพ จับใจคนของคุณไว้ จะต้องดึงคุณลงมาให้ได้ ดังนั้นพอคุณพูดว่ามันเป็นโรค เช่นนั้นฉันก็ทำให้บริเวณนี้ของคุณเป็นเหมือนโรคจริง ๆ แม้กระทั่งเอกซเรย์หรือการตรวจเช็ค ฉันก็ให้บริเวณนี้เหมือนกับมัน”

หลายคนจากไปเพราะอย่างนี้ เป็นธรรมหรือไม่ แต่ก็หมดปัญญา เขาไม่ก้าวหน้า ก็มีบางคนก้าวหน้ามาก แต่มีเพียงปัญหานี้เขาก็ปล่อยวางไม่ค่อยได้ ดังนั้นจึงซับซ้อนมาก ด้านอื่นล้วนใช้ได้ แค่ปัญหานี้ที่ยังคงใช้ไม่ได้ ทุกคนทราบ การบำเพ็ญนั้นเน้นการไร้จุดรั่ว คุณมีจุดรั่ว มันจะยอมให้คุณขึ้นสวรรค์หรือ เรื่องก็เป็นอย่างนี้ แม้ว่าอิทธิพลเก่าเป็นชีวิตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา “ดับสูญ” มันมีมาตรฐานต่ำ แต่ข้อกำหนดของระดับชั้นนั้นยังมีอยู่ คุณไม่มีใจดวงนั้น จึงใช้ได้นะ หรือใช้มาตรฐานของมันดู ไม่มีจิตใจดวงนั้นแล้ว − “คุณต้องบรรลุมาตรฐานของฉัน”

เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ละโครงการของศิษย์ต้าฝ่า หลายโครงการทำได้ดีมากมาโดยตลอด ขยันขันแข็งยิ่งขึ้นเท่าตัว และมีไม่น้อยจัดอยู่ในสภาพสุกเอาเผากิน เนื่องจากแรงกดดันไม่มากแล้ว แต่พวกคุณต้องทราบว่า คุณกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต ทั้งหมดที่พวกคุณทำ ล้วนเกิดผลในการช่วยเหลือสรรพชีวิต ดังนั้นไม่อาจจะผ่อนคลาย ชีวิตมากมายล้วนรอพวกคุณไปช่วย ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชมมากในตัวผู้ฝึกหลายคน ที่ทำโครงการของต้าฝ่า อาทิเช่น ผู้ฝึกเหล่านั้นที่ทำหมิงฮุ่ย พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเหมือนคนอื่น กิจกรรมอื่นของศิษย์ต้าฝ่า ก็ไม่อาจเข้าร่วมเช่นกัน หากแม้เข้าร่วมแล้ว ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองทำอะไร เพราะอยู่ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ปกติ บางคนพูดว่า ฉันเป็นนักข่าวของต้าจี้หยวน ฉันเป็นบรรณาธิการของซินถังเหริน ฉันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ภาระรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่าหนักมาก แต่รู้สึกมีเกียรติ แต่พวกเขาไม่สามารถบอกได้ มีผลงานใหญ่แค่ไหนก็ต้องเก็บเอาไว้ในใจตัวเอง หนึ่งวัน สองวัน ไม่มีปัญหา หนึ่งปี สองปี ก็ไม่มีปัญหา ในฉับพลันก็ผ่านไปยี่สิบปี (เหล่าศิษย์ปรบมือ) ที่จริงหลายคนนั้นทำโครงการของศิษย์ต้าฝ่าอย่างเงียบ ๆ ศิษย์ต้าฝ่าคนอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน ทำแบบเงียบ ๆ ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ในสายตาของเทพ ก็มองต่างออกไป ข้าพเจ้าชื่นชมแบบนี้ (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ขอถือโอกาสพูดเรื่องเสินยวิ่นสักหน่อย เสินยวิ่น ทุกคนทราบ หากคิดจะให้การช่วยคนสามารถบังเกิดผลใหญ่มาก นั่นก็ต้องบรรลุถึงมาตรฐานชั้นนำในแต่ละด้าน ในทางเทคนิคล้วนต้องมีส่วนที่เหนือกว่าคนอื่น คนอื่นทำไม่ได้หรือบรรลุไม่ถึง จึงจะได้ ในแต่ละด้านล้วนต้องเหนือกว่าคนอื่น นั่นจึงจะสามารถบังเกิดผลที่ดีกว่า จึงจะสามารถดึงดูดผู้ชมได้มาก มิฉะนั้นทำแต่รูปแบบก็ไม่บังเกิดผลอะไร

ปีนั้นที่ทำเสินยวิ่น ทุกคนล้วนทราบ ข้าพเจ้าก็เคยพูดแล้ว พวกคุณ ความร่วมมือระหว่างผู้ฝึกไม่ค่อยกลมเกลียว ข้าพเจ้าดูปฏิกิริยาของผู้ชม พูดอะไรก็มีทั้งนั้น คุณภาพของรายการแสดงไม่สูงนัก ดังนั้นผู้ชมบางคนจึงพูดว่า “โธ่เอ๋ย ไม่เท่าไร” ข้าพเจ้าฟังแล้ว ในใจไม่สบายใจมาก ศิษย์ต้าฝ่าอาศัยจิตใจตัวเองทำ แต่นั่นช่วยไม่ได้ ทุกคนก็พยายามแล้ว แม้ความร่วมมือจะด้อยสักหน่อย แต่ก็พยายามทำแล้ว ต่อมาข้าพเจ้าจึงคิดว่า ข้าพเจ้าเองดีกว่า ข้าพเจ้านำพวกเขาทำ ข้าพเจ้านำพาพวกเขาออกมา หลังจากนั้นค่อยว่ากัน พอข้าพเจ้านำพา ก็ไม่สามารถปล่อยมือแล้ว ไม่มีใครสามารถทำแทนข้าพเจ้าแล้ว

เสินยวิ่นโดดเด่นมากในทุก ๆ ด้าน ในหลาย ๆ ด้าน ที่คณะการแสดงศิลปะคณะอื่นไม่มีเลย ข้อกำหนดทางด้านเทคนิค และคุณภาพ รูปแบบการดำเนินงาน ล้วนเหนือกว่าคนอื่น ขณะเดียวกัน เนื่องจากเป็นผู้บำเพ็ญ โดยมากล้วนลงแรงครึ่งหนึ่งแต่สำเร็จเป็นเท่า เหตุใดทำอย่างนี้ละ เพราะเป็นความต้องการในการช่วยเหลือสรรพชีวิต แน่ละ ในขณะช่วยเหลือสรรพชีวิต ยังต้องเกิดผลได้จริง จึงจะใช้ได้ ผู้ชมหนึ่งถึงสองพันคน ร้อยละเก้าสิบขึ้นไป เมื่อชมจบแล้ว ความคิดก็เปลี่ยนแปลงไปหมด เข้าใจได้แล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ) เข้าใจแล้วว่า ศิษย์ต้าฝ่าเป็นกลุ่มคนชนิดไหน เข้าใจแล้ว ความเชื่อของศิษย์ต้าฝ่าถูกต้อง เข้าใจแล้วว่าทำไมคอมมิวนิสต์จีนต้องการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ข่าวลือทั้งหมดที่กุขึ้นถูกความจริงที่ไร้คำพูดนี้ทำให้พ่ายไประหว่างการแสดงหนึ่งรอบ หนึ่งรอบ (เหล่าศิษย์ปรบมือ) ตลอดการแสดงไม่มีการพูดแม้แต่คำเดียว เว้นแต่การแจ้งหัวข้อรายการ อะไร ๆ ผู้คนกลับดูเข้าใจทั้งหมดแล้ว ดังนั้นผลลัพธ์ที่ใหญ่อย่างนี้ หากต้องผ่านรูปแบบอื่น ๆ ในการอธิบายความจริง ต้องพูดให้ชัดเจนทุกด้าน สิ้นเปลืองคำพูดมากมายจริง ๆ ก็ยากมากที่จะทำได้รอบด้านอย่างนี้

และก้าวเดียวก็ถึงเป้าหมาย บางคนหลังจากชมการแสดงจบก็อยากจะเรียนฝ่าหลุนกง บางคนพอชมการแสดงจบ พูดว่าผมรู้ว่าพวกคุณกำลังทำอะไร บางคนมองเห็นจริง ๆ ว่ามีเทพปรากฏอยู่บนเวที ดังนั้นจึงเกิดผลลัพธ์อย่างมาก ปีนี้การแสดงสัญจรของหกคณะคำนวณแล้ว ถ้าหนึ่งรอบเฉลี่ย 1,500 คน ก็คือ 1 ล้านคน (เหล่าศิษย์ปรบมือกึกก้อง) หนึ่งล้านคนนะ ผู้ชมหนึ่งล้าน พลังในการช่วยคนนี้ใหญ่แค่ไหน ทุกคนมองเห็นแล้ว เนื่องจากผลกระทบของเสินยวิ่นกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพูดตามคำพูดของคนธรรมดาสามัญ ตลาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ การแสดงไม่เพียงพอกับความต้องการ ดังนั้นจะทำอย่างไรดีละ ปีนี้ยังก่อตั้งคณะใหม่ขึ้นอีก (อาจารย์หัวเราะ เหล่าศิษย์ปรบมือกึกก้อง) ไม่ว่าคอมมิวนิสต์จีนรบกวนอย่างไรก็ไม่เป็นผล เครื่องจักรที่ผุพังชุดนั้นที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่ายังหมุนอยู่ ถ้ามันไม่ทำ มันก็ทนไม่ได้ แต่มันก็ไม่สามารถมีบทบาทใหญ่โตได้ เพราะโลกมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับเสินยวิ่นแล้ว

การดำเนินงานของเสินยวิ่นไม่ได้อาศัยสื่อมวลชนในการเผยแพร่ ล้วนเป็นการพูดปากต่อปาก ทุกคนทราบ ปีนั้นที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่า ก็ไม่มีสื่อมวลชนช่วยข้าพเจ้าเผยแพร่ ก็คือพูดปากต่อปาก ปากต่อปาก รวดเร็วมาก วันนี้เสินยวิ่นก็เป็นแบบเดียวกัน สามารถทำให้ทั้งสังคมรู้จัก ทั้งหมดอาศัยความแข็งแกร่งของเสินยวิ่น เช่นนี้จึงทำให้ผู้คนรู้สึกว่าดีมาก ผู้คนพูดคุยกันในสังคมและในสภาพแวดล้อมของครอบครัว การขยายอย่างนี้เป็นเรื่องจริง ฉันบอกเพื่อนว่าดี ฉันไม่ได้หลอกเพื่อน ฉันบอกคนในครอบครัวว่าดี ฉันไม่ได้หลอกคนในครอบครัว ดังนั้นนี่น่าเชื่อถือมาก การโฆษณาไม่มีผลลัพธ์อย่างนี้ ดังนั้นคนที่อยากชมเสินยวิ่นจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ บางแห่งถูกยกเลิกเนื่องจากเหตุผลบางประการ ไม่ได้แสดงรอบนั้น คนที่คืนตั๋วน้ำตาไหล ทำไมหรือ เพราะคนมากมายล้วนทราบ คำสรรเสริญที่เผยแพร่ระหว่างผู้คนด้วยกันเองเป็นด้านบวกอย่างมาก บางคนพูดได้ชัดเจนมาก รู้ว่าเสินยวิ่นกำลังทำอะไรอยู่ และพบว่าสองปีมานี้ คนยิ่งเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเสินยวิ่นกำลังทำอะไร นี่ก็คือที่พวกเราต้องทำ

มีจำนวนมากในประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดฝ่าที่ถูกต้อง ล้วนถูกประทุษร้ายจนเสียชีวิตไปแล้ว กระทบถูกทัศนคติของคน กระทบถูกผลประโยชน์ของคน คนล้วนแต่ใช้ใจคนไปปฏิบัติ โดยผิวเผินเสินยวิ่นคือการแสดง อยากดูไม่อยากดูก็แล้วแต่ ยังไม่ใช่ดูฟรี ๆ ยังต้องจ่ายเงิน ยังต้องจ่ายเงินจำนวนมาก คุณมาดูด้วยความสมัครใจ ไม่ดู คุณก็ไม่ต้องซื้อตั๋ว ดูเหมือนไม่มีคำอธิบายอะไร ฉันก็คือการแสดง แต่สรรพชีวิตล้วนกำลังรอคอยอยู่ ใครก็คิดไม่ถึงว่าใช้รูปแบบหนึ่งอย่างนี้มาช่วยสรรพชีวิต เนื่องจากสังคมมาถึงขั้นนี้แล้ว บทเรียนในประวัติศาสตร์ก็มีมากมาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเราศิษย์ต้าฝ่าคือคิดหาวิธีช่วยคน ก็คือเรื่องอย่างนี้

เมื่อสักครู่ข้าพเจ้าพูดว่า การก่อกวนของคอมมิวนิสต์จีน ยิ่งนานยิ่งไม่มีกลอุบายแล้ว กระทั่งแสร้งปลอมเป็นผู้ฝึกพูดจาอย่างไร้สติ ผู้จัดการโรงละครต่างก็มอบจดหมายให้เราดู ยังหัวเราะขัน พูดว่า พวกเขาใช้กลอุบายจนหมดแล้ว คนเขาล้วนรู้กัน ใช้เงินติดสินบน เดี๋ยวนี้เงินในกระเป๋าของพวกเขาก็น้อยลงเรื่อย ๆ ถึงอย่างไรก็ขัดขวางไม่อยู่แล้ว ใช้เงินก็ขวางไม่อยู่แล้ว เพราะคนเขารู้หมดแล้ว ล้วนรู้ว่าดี ล้วนต้องการดู บางครั้งข้าพเจ้าพูดเล่นกับทุกคนว่า สถานที่ไหนขายตั๋วไม่ดี คุณก็โทรศัพท์ให้สถานกงสุลจีน (เหล่าศิษย์หัวเราะ) คุณบอกเขาว่า ที่นี่แสดงเสินยวิ่นนะ พวกคุณต้องทำอะไรหน่อยนะ (เหล่าศิษย์หัวเราะ) เพราะว่าเพียงคอมมิวนิสต์จีนเผยแพร่ ทำลาย ลงบทความในหนังสือพิมพ์ ว้าว ทุกคนก็จะรู้กันหมดว่าเสินยวิ่นมาแล้ว ก็มาดูทันที (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ยังมีเวลาเหลือเล็กน้อย ข้าพเจ้าจะตอบคำถามให้ทุกคนสักหน่อย (เหล่าศิษย์ปรบมือ) ต่อไปทุกคนส่งคำถามมาได้

ถาม :ต้าฝ่าเผยแพร่ยี่สิบเจ็ดปี การแสดงเสินยวิ่นในปีนี้ เมื่อเปิดฉากแรก อาจารย์พูดว่า “ตามข้าพเจ้าลงสู่โลก ฝ่าปรับโลกมนุษย์” ใช่ไหมว่าฝ่าปรับโลกมนุษย์ได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่

อาจารย์ :การแสดงนะ แน่ละก็เป็นการแสดง แต่พวกคุณมองดูสถานการณ์ก็เข้าใจได้หมด ฝ่าปรับโลกมนุษย์ใกล้มาถึงแล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ) เสินยวิ่นนี้ แสดงต่อไปอีก คนก็จะรู้แล้วว่าทำอะไรกัน เวลาที่พวกคุณเดินพาเหรดอยู่ในนิวยอร์ก คนที่ยืนอยู่ด้านนอกถามว่า “พวกเขาทำอะไรกัน” คุณทราบไหมว่า ผู้ชมพูดว่าอะไร หมายถึงผู้ชมทั่ว ๆ ไป เขาพูดว่า พวกเขากำลังช่วยคนทั้งโลกอยู่ (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ถาม :ขณะนี้สภาพแวดล้อมผ่อนคลายกว่าเมื่อก่อน มีผู้ฝึกส่วนหนึ่งไม่ขยันขันแข็งกับการบำเพ็ญและการอธิบายความจริงเหมือนเมื่อก่อน ใช้เวลามากกับการทำงานของคนธรรมดาสามัญหรือการดำรงชีวิต เราจะช่วยกระตุ้นซึ่งกันและกัน รักษาสภาพความก้าวหน้าของทุกคนได้อย่างไร

อาจารย์ :สามเรื่องของศิษย์ต้าฝ่า ชัดเจนมากแล้ว คุณทำครบแล้วหรือ ที่ไม่ได้ทำก็ไปทำ อย่าเข้าใจว่าจุดอธิบายความจริงนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของหญิงสูงวัย ยังมีนะ ที่จริงหากคุณคิดจะทำ มีเรื่องมากมายที่ล้วนสามารถทำได้ ในสภาพแวดล้อมของคุณ แม้กระทั่งคุณโพสต์สักกี่บทความบนอินเทอร์เน็ต ล้วนเกิดผล ศิษย์ต้าฝ่านะ คุณควรทำอะไร คุณก็ทำ

ถาม :ปีนี้เว็บไซต์หมิงฮุ่ยก่อตั้งได้ยี่สิบปี ศิษย์ต้าฝ่าหมิงฮุ่ยตามท่านอาจารย์เจิ้งฝ่ามายี่สิบปี รู้สึกเป็นเกียรติและวิเศษมาก ในระหว่างขั้นตอนที่เราถูกต้าฝ่าฝึกฝน ชำระล้าง ประสบความสำเร็จ ก้าวผ่านมาได้ท่ามกลางมรสุมแล้ว เมื่อเทียบกับการทุ่มเทไป ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนที่ตั้งใจทำ ล้วนรู้สึกได้รับประโยชน์อย่างมาก หลายปีนี้เมื่อถึงวันฝ่าหลุนต้าฝ่าโลกแต่ละครั้ง เว็บไซต์หมิงฮุ่ยได้รับการ์ดอวยพรเพิ่มขึ้นจากหนึ่งหมื่นเป็นสองหมื่นกว่าชิ้น เมื่อถึงวันเทศกาลของปี พวกเรามักจะยุ่งอยู่กับการจัดการและตีพิมพ์การ์ดอวยพรของคนอื่น ยากจะมีโอกาสแสดงออกซึ่งความปรารถนาของตน จึงขอถือโอกาสครบรอบยี่สิบปี ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ที่เมตตาให้ความช่วยเหลือ ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ที่มอบภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ให้ศิษย์ และให้ศิษย์ประสบความสำเร็จ (อาจารย์หัวเราะ เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ยี่สิบปีผ่านไปแล้ว บุคลากรบางคนมีอายุแปดสิบกว่าปีแล้ว (อาจารย์ ใช่นะ คนก็แก่แล้ว) คนหนุ่มสาวในปีนั้นก็เข้าสู่วัยกลางคน ขอเรียนถามท่านอาจารย์ ศิษย์ต้าฝ่าวัยหนุ่มสาว เมื่อไรจะตามขึ้นมา เหมือนกับพวกเราที่แบกรับงานของหมิงฮุ่ยในปีนั้น

อาจารย์ :ดูเหมือนคนหนุ่มสาวล้วนมีใจทะเยอทะยานสักหน่อย สงบลงมาไม่ได้ ศิษย์ต้าฝ่านะ จะทำอะไรก็ต้องทำให้ดีอย่างจริง ๆ จัง ๆ คุณเป็นผู้บำเพ็ญ ในปีนั้นคนที่นั่งหันหน้าเข้ากำแพงเก้าปี ก็สามารถบำเพ็ญสำเร็จเป็นเทพ อะไร ๆ ก็ไม่ทำ อยู่ตรงนั้น หันหน้าเข้ากำแพง ก็สามารถบำเพ็ญสำเร็จเป็นเทพแล้ว เรื่องการช่วยคน แม้จะเหงาสักหน่อย แต่คุณยังมีเรื่องให้ทำนะ (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ถาม :ผู้ฝึกบางคนที่บำเพ็ญต้าฝ่ามาหลายปี ไปอยู่กับศาสนาพุทธแล้ว คนอย่างนี้ต่อไปยังจะมีโอกาสไหม

อาจารย์ :มีโอกาส แค่เพียงไม่ไปทางฝ่ายชั่วร้ายนั้น ก็มีโอกาส (เหล่าศิษย์ปรบมือ) ข้าพเจ้าหมายความว่า หากคุณเป็นศิษย์ต้าฝ่า โอกาสนั้นมีไม่มากแล้ว เวลาของศิษย์ต้าฝ่าสั้นมาก เพราะเมื่อจบสิ้น ก็หมดโอกาสแล้ว

ถาม :มีบางคนที่เรียกตัวเองว่าผู้ฝึก ใช้กฎหมายของคนธรรมดาสามัญฟ้องร้องและข่มขู่เสวียฮุ่ยของศิษย์ต้าฝ่าของเรา หมิงฮุ่ย กับศิษย์ต้าฝ่าในบางโครงการ

อาจารย์ :ข้าพเจ้าขอบอกทุกคน การทำเรื่องชนิดนี้ ไม่ว่าคุณใช้ข้ออ้างอะไร คุณล้วนคือกำลังทำเรื่องที่พวกมารปีศาจทำ ศิษย์ต้าฝ่าล้วนกำลังตกอยู่ในทุกข์ภัย ทุกคนล้วนกำลังต่อต้านการประทุษร้าย ช่วยเหลือคนอยู่ คุณรบกวน บ่อนทำลายจากภายในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า คุณเองไม่รู้ว่าบาปนี้หนักเพียงใดหรือ คุณยังบอกว่าตนเองเป็นผู้บำเพ็ญ กลับใช้กฎหมายของคนธรรมดาสามัญต่อการบำเพ็ญ กฎหมายของคนธรรมดาสามัญนั่นก็คือคนธรรมดาสามัญใช้กับคนธรรมดาสามัญ จิตยึดติดในใจที่ข้ามไปไม่ได้ ไม่บำเพ็ญให้ดี กลับใช้กฎหมายมาขวางกั้นใจคนที่ทิ้งไปไม่ได้ คุณก็กำลังทำเรื่องที่มารปีศาจทำ ไม่ว่าใคร พวกคุณ ใครที่คิดฟ้องร้องโครงการของศิษย์ต้าฝ่า หรือฝอเสวียฮุ่ย หรือคนอื่น ๆ หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือคนกับการบำเพ็ญ คุณหยุดเสียโดยเร็ว โอกาสมีไม่มากแล้ว เวลาก็มีไม่มากแล้ว และต้องกอบกู้ความเสียหายที่คุณก่อขึ้นกลับคืนมา (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

บางคนยังพูดว่า “ชำระสะสางเสนาบดีเลวที่อยู่ใกล้ชิดกับจักรพรรดิ” ข้าพเจ้าเป็นคนธรรมดาสามัญหรือ ข้าพเจ้าคืออาจารย์ของคุณ ข้าพเจ้ามีอะไรที่ไม่รู้หรือ ข้าพเจ้าทำอะไรไม่เป็นหรือ ข้าพเจ้าต้องให้คุณมาชำระสะสางหรือ คุณคู่ควรหรือ คุณพูดคำพูดอย่างนั้นออกมาได้อย่างไร ข้าพเจ้ากำลังช่วยคุณอยู่นะ คุณจะมาช่วยข้าพเจ้าหรือ พอเข้าสู่ทางมาร อะไรก็กล้าพูด

อาจารย์ให้โอกาสคุณ รีบกอบกู้ผลกระทบที่เกิดขึ้นคืนกลับมา แต่เวลาไม่มาก รีบเข้า คืออิทธิพลเก่าจับยึดคุณไว้แน่น ทำให้คุณขาดสติ ให้คุณทำจนถึงที่สุด

ถาม :สังคมมนุษย์พัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ แผ่นดินใหญ่ติดตั้งกล้องวงจรปิดมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับการสแกนใบหน้าคน ลักษณะท่าทางของคน เป็นต้น ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปหมด ศิษย์ต้าฝ่าที่แจกเอกสารหรืออธิบายความจริงเผชิญกับปัญหาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หรือว่าไม่ต้องใส่ใจกับเรื่องนี้

อาจารย์ :ศิษย์ต้าฝ่ามีเส้นทางของศิษย์ต้าฝ่า หากคุณเดินเที่ยงตรงการรบกวนก็จะน้อย ข้าพเจ้าพูดมาตลอดว่า คุณเดินเที่ยงตรงก็จะไม่มีปัญหา หากทำไปโดยมีใจคนอยู่ แม้ว่าจะทำเรื่องของต้าฝ่า ก็ยากจะหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหา แต่มาตรฐานนี้ ขอบเขตนี้ ยากที่จะทำได้ ไม่มีพื้นฐานนี้ยังคงยากที่จะทำได้ ดังนั้นอาจเกิดปัญหา

แต่ในทางกลับกัน ข้าพเจ้าคิดว่าทุกคนล้วนทราบกัน ผลิตภัณฑ์ของจีนแผ่นดินใหญ่ ในใจของผู้คนทั่วโลกคือแย่ที่สุด ใช่หรือไม่ ข้าพเจ้าได้ยินว่ากล้องวงจรปิดนั้น ติดตั้งหนึ่งพันอัน ใช้ไม่ได้ห้าร้อยอัน (เหล่าศิษย์หัวเราะ ปรบมือ) ทำอันนั้นเพิ่งเสร็จ ฝั่งโน้นก็เสียอีกแล้ว คุณภาพของมัน สิ่งเหล่านั้นของมัน บวกกับคนทำงานมากกว่างาน ไม่ว่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนทำเรื่องอะไร ล้วนแต่เป็นเรื่องฉาวโฉ่ ไม่ใช่กำลังทำ 5G ไปทั่วโลกหรือ สิ่งนั้นของมัน ทำไปทำมาคนเขาล้วนรู้ว่าคุณภาพไม่ดี ยังจะทำไปได้หรือ ไม่นานทุกคนก็ต้องโยนทิ้งแล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ถาม :การช่วยเหลือเพื่อนผู้บำเพ็ญที่กำลังทรมานด้วยกรรมแห่งโรคร้ายแรง อย่างเช่น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลึกซึ้ง กับการชำระสนามมิติของพวกเขา ตัวเองก็พลอยเกิดทุกข์ภัยไปด้วย รวมทั้งแบกรับทั้งกายและใจอย่างทุกข์ทรมาน ถูกคุกคามจากมิติอื่น เป็นต้น ไม่ทราบว่านี่จัดเป็นการทุ่มเทแบบปกติหรือว่าพลังความสามารถของตัวเองไม่เพียงพอ

อาจารย์ : การช่วยศิษย์ต้าฝ่าให้ออกมาจากทุกข์ภัย นี่เป็นหน้าที่ของพวกเรา สมควรทำ ไม่ผิด แต่หากคนคนนี้ ตัวเองไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดอาศัยภายนอกคือไม่ได้เด็ดขาด ตัวเขาเองภายใต้การช่วยเหลือของพวกคุณ เขามีเจิ้งเนี่ยนมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับผลของพลังจากภายนอกของพวกคุณ ก็จะบังเกิดผลมากขึ้นเรื่อย ๆ มันสัมพันธ์กันอย่างนี้

ถาม :ยี่สิบปีแล้ว ในหมู่ผู้ฝึกต่างประเทศมีกลุ่มหนึ่งยืนยันมาตลอดว่าหมิงฮุ่ยไม่เหมาะที่จะให้คนธรรมดาสามัญดู ดังนั้นจึงปฏิเสธที่จะเผยแพร่หมิงฮุ่ย เว็บไซต์หมิงฮุ่ยมีอุปสรรคค่อนข้างมากมาโดยตลอดในหมู่ผู้ฝึกต่างประเทศ เทียบไม่ได้กับในแผ่นดินใหญ่ที่ให้ความสำคัญและยอมรับ พวกเราไตร่ตรองตลอดมาว่า จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร

อาจารย์ :ที่จริงมีเนื้อหาส่วนหนึ่งในหมิงฮุ่ยที่ให้ผู้บำเพ็ญอ่านและแลกเปลี่ยนความเห็น ระดับชั้นไม่ถึงก็อ่านไม่เข้าใจ แต่มีบางบทความยังคงสามารถให้คนธรรมดาสามัญอ่าน แต่มักจะมีคนสร้างอุปสรรคให้ตัวเอง แม้ว่าหมิงฮุ่ยเป็นเวทีหนึ่งของผู้บำเพ็ญ ที่พูดเป็นการยกระดับซินซิ่งของผู้บำเพ็ญ บางคนสามารถอ่านเข้าใจได้

คนในสังคมนี้ก็แบ่งเป็นระดับชั้นต่าง ๆ คุณดู คนธรรมดาทั่วไปเดินอยู่บนถนน ไม่เหมือนกันนะ บางคนมีระดับศีลธรรมสูงหน่อย เขารับรู้ได้ต่างกัน บางคนระดับศีลธรรมสูงกว่าหน่อย เขารับรู้ยิ่งไม่เหมือนกัน บางคนนั้นมีความสามารถ และบางคนมีความสามารถมาก คนชนิดนี้ก็มีมากมาย ซึ่งระดับชั้นต่างกัน คนที่มีความสามารถในหมู่คนที่มีความสามารถอย่างเดียวกัน พวกเขาจะมีการติดต่อซึ่งกันและกัน คนที่ความสามารถยิ่งสูง ก็อยู่ในระดับชั้นหนึ่ง ระหว่างพวกเขาด้วยกันล้วนสามารถติดต่อกัน สังคมมนุษย์นี้ไม่ใช่เรียบง่ายอย่างที่คิดกัน อย่าใช้ทัศนคติที่ตายตัวในการมองสังคมมนุษย์

ถาม :สภาพการบำเพ็ญดีบ้างไม่ดีบ้าง บางครั้งยึดติดกับของที่ชอบ ดูคอมพิวเตอร์ เล่นเครื่องเล่นเกมส์ เล่นมือถือ การบำเพ็ญเสียเวลาไปเปล่า ๆ จะควบคุมตัวเองได้อย่างไร ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ

อาจารย์ :คนพูดว่าเสพติด ข้าพเจ้าขอบอกทุกคนอะไรที่เรียกว่าเสพติด ในทางการแพทย์ ผู้คนเข้าใจว่า เส้นประสาทถูกกระตุ้น เมื่อพัฒนาต่อไปก็กลายเป็นเสพติด ที่จริงไม่ใช่ แล้วคืออะไรละ ข้างในร่างกายของคุณ เวลานานเข้าสะสมรูปลักษณ์หนึ่งที่เหมือนคุณทุกประการ ทว่ากลับประกอบขึ้นมาจากสิ่งนั้น ควบคุมคุณไว้ เพราะว่ามันเป็นรูปลักษณ์ของคุณที่ประกอบขึ้นมาจากการยึดติดที่รุนแรงมาก ดังนั้นมันจึงมีกำลังมากจนสามารถควบคุมใจของคุณได้ เพราะมันเกิดจากจิตยึดติดที่รุนแรงมาก

แม้แต่การเสพยาก็ใช่ พวกเสพยาบางคนบอกว่าไม่มีปัญหา ฉันแค่ลองเสพ ไม่เป็นไร ใช่ รู้สึกว่าไม่เลว ลองอีกที ไม่มีปัญหา ลองอีกที ได้เรื่องแล้ว ควบคุมไม่ได้แล้ว ทำไมละ หลังจากเสพสารนั้นเข้าไปอยู่ในร่างกายคุณ ก็จะเกิดเป็นคุณคนหนึ่งที่บาง ๆ จาง ๆ ครั้งเดียวก็เกิดได้ เพราะมันมีฤทธิ์แรง พอเสพครั้งที่สอง ตัวคุณที่บาง ๆ จาง ๆ ก็เปลี่ยนเข้มข้นขึ้น เสพอีก มันก็เข้มข้นขึ้น ยิ่งเสพ ยิ่งเข้มข้น มันจึงยิ่งแข็งแรง แม้แต่ทั่วทั้งโครงสร้างร่างกายของคุณล้วนมี ในความคิดก็มี ทั้งหมดล้วนเป็นตัวคุณที่มีจิตมาร ซึ่งประกอบขึ้นจากสารพิษ แน่ละ มันคงไม่ทำอย่างอื่น มันต้องเสพสารพิษ ถ้าหมดแล้ว ไม่เสพไม่ได้ เพราะอะไรละ เพราะมันมีชีวิตขึ้นมาแล้ว หลังจากมีชีวิตแล้ว ทุกคนทราบ คุณไม่เสพนะ ร่างกายของคุณมีการผลัดเซลล์ใหม่ มันก็จะค่อย ๆ จางลง จางหายไปเรื่อย ๆ มันก็ตาย มันไม่อยากตาย ดังนั้นมันต้องให้คุณไปเสพ เสพให้มันแข็งแรงยิ่งขึ้น

การเล่นคอมพิวเตอร์กับเครื่องเล่นเกมส์เกิดผลอย่างเดียวกัน เป็นเหตุผลเดียวกัน คุณเลิกแล้ว คุณเลิกแล้วจะให้ฉันตายหรือ ไม่ได้ ฉันต้องให้คุณดู ไม่ดูหรือ ก็ไม่ให้คุณทำงาน ไม่ให้คุณเรียนหนังสือ ก็จะให้ความคิดของคุณคิดจะไปเล่นมัน ไม่ดู ฉันจะให้คุณเล่น แม้ขณะนอนฝัน

คนหนา ข้าพเจ้าคิดอยู่เสมอว่า คน ง่ายที่จะถูกสิ่งของอย่างอื่นควบคุม ร่างกายคน มันเป็นเพียงเครื่องนุ่มห่มธัญพืชทั้งห้าที่พ่อแม่ให้ กินธัญพืช มันก็เติบโต ช่างอ่อนแอนัก ใครล้วนสามารถควบคุม สิ่งที่ก่อเกิดในมิติอื่นล้วนมีวิญญาณ แม้ว่าจะเป็นวิญญาณระดับต่ำ ก็สามารถจะควบคุมได้ เพราะร่างกายคนมันอ่อนแอ

ถาม :สถานที่อธิบายความจริงในพื้นที่ของฉัน ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่นับพันนับหมื่น ขาดคนอธิบายความจริง แต่เพื่อนผู้บำเพ็ญในพื้นที่ที่รู้จักรับรู้ไม่ได้ บางคนพูดว่าขณะนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายความจริงแล้ว บางคนไปที่นั่นก็ไม่อธิบายความจริง ศึกษาฝ่าอยู่ตรงนั้น หรือดูมือถือ ผู้ฝึกเก่ามาอธิบายความจริงที่สถานที่อธิบายความจริงน้อยมาก

อาจารย์ :ใช่นะ เจิ้งฝ่ายังไม่สิ้นสุด สามเรื่องของศิษย์ต้าฝ่าจึงไม่อาจจะสิ้นสุด สิ้นสุดอะไรหรือ ไม่อธิบายความจริงอะไรหรือ สรรพชีวิตมากมายรอการช่วยเหลือนะ ไม่อธิบายความจริงได้หรือ ข้าพเจ้าก็กำลังช่วยพวกคุณทำ ช่วยคนธรรมดาสามัญ เดิมทีเป็นเรื่องของพวกคุณ ข้าพเจ้าช่วยพวกคุณ พวกคุณช่วยคนธรรมดาสามัญ ขณะนี้แม้แต่ข้าพเจ้าก็ช่วยคุณทำ คุณไม่ทำแล้ว คุณเป็นศิษย์ต้าฝ่าหรือ สุดท้ายเวลาปิดบัญชี คุณจะนับอย่างไร ร้องไห้ก็ไม่ทันแล้ว

ถาม :สื่อของเรารายงาน “บุคคลที่เป็นแหล่งข่าว” ที่ให้ข่าว เช่น การทำนายสถานการณ์ปัจจุบันหรือความผันผวนของบุคลากร เป็นต้น ในอดีตเคยเชื่อแหล่งข่าวเพียงแหล่งเดียวที่ให้โดยสายลับคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งทำให้ความน่าเชื่อถือของหนังสือพิมพ์ได้รับผลกระทบ ทำให้คนธรรมดาสามัญไม่เข้าใจและรู้สึกว่าสื่อของเราถูกใช้โดยคอมมิวนิสต์จีน

อาจารย์ :ใช่ ฮ่องกง ที่นั่น มีความซับซ้อนสักหน่อย ทุกคนก็ระวังบ้าง บางคน ดูว่าเขาแสดงออกอย่างไร ก็รู้ว่าเขาบำเพ็ญเป็นอย่างไร ดูว่าเขาแสดงออกอย่างไร ก็รู้ว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร เพียงแต่คุณไม่ดูด้วยฉิงของคน ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ฉันรู้สึกว่าคนนี้พอใช้ได้ คุณคือใช้ใจคนฉิงของคนไปดู คุณใช้ฝ่าไปประเมิน ไปดูคนนั้น ก็จะรู้ แม้แต่สภาพการบำเพ็ญก็รู้หมด เป็นคนอย่างไร ดูทีเดียวก็ออก

ถาม :ขอเรียนถามว่า กิจกรรมขนาดใหญ่ของฮ่องกงแต่ละครั้ง ศิษย์ต้าฝ่าจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วม ล้วนมีการถูกส่งตัวกลับ ในระยะนี้ด่านเข้าเมืองของฮ่องกงชั่วร้ายยิ่งขึ้น

อาจารย์ :ใช่ เรื่องเหล่านี้ข้าพเจ้าล้วนทราบ ข้าพเจ้าก็กำลังเฝ้ามองอยู่ แต่ศิษย์ต้าฝ่าก็คือศิษย์ต้าฝ่า ยอดเยี่ยมมาก

ถาม : ผู้ฝึกบางคนจัดกลุ่มขึ้นเอง เพื่อเผยแพร่เสินยวิ่นในพื้นที่ต่าง ๆ และช่วยทำงานระหว่างการแสดง คนในกลุ่มเหล่านี้ค่อนข้างซับซ้อน บางคนไม่ทราบว่าภูมิหลังเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็ไม่มีการแนะนำจากฝอเสวียฮุ่ย ผู้ฝึกเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมการบำเพ็ญของพื้นที่ที่จัดเสินยวิ่น

อาจารย์ :ดูเหมือนไม่รุนแรงอย่างนั้น การริเริ่มช่วยงานของโครงการของต้าฝ่า ข้าพเจ้ารู้สึกว่ายังสมควรส่งเสริม ที่พูดว่า มีบางคนที่ไม่เหมาะสม เช่นนั้นก็ไปพูดกับผู้จัดตั้งกลุ่ม คุยกันหน่อย หากไม่ไหวจริง ๆ ก็สามารถไปคุยกับหัวหน้าคณะของเสินยวิ่น เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ถาม : หนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวน ขณะนี้กลายเป็นหนังสือพิมพ์ที่เก็บเงิน

อาจารย์ :น่ายินดี น่าสรรเสริญ (เหล่าศิษย์ปรบมือ) หนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวนฮ่องกงกลายเป็นหนังสือพิมพ์ที่วางจำหน่ายบนแผงหนังสือแล้ว คือเข้าสู่การหมุนเวียนที่ดีแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก

ถาม :.....แต่พูดกันว่าสถานการณ์ไม่ดี ศิษย์รู้สึกว่าจุดประสงค์การทำหนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวนคือการอธิบายความจริงช่วยคน

อาจารย์ :ไม่แย่ถึงอย่างนั้น ต่อให้ขายได้ร้อยฉบับ ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าเป็นความสำเร็จ ต้าจี้หยวนก้าวเข้าสู่สื่อของสังคมกระแสหลัก นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรือ มองไปที่ทิศทางใหญ่ ที่พูดว่าอธิบายความจริง ไม่ใช้ต้าจี้หยวน ก็ใช้สื่ออื่นได้ ไม่ใช่มี “คั่นจงกั๋ว (มองประเทศจีน)” หรือ แจกพวกนั้นก็ได้ ไม่อยู่บนแผง ยังสามารถทำในปริมาณมาก ทำได้ดียิ่งกว่า ย้ายบทความที่มีพลังเหล่านั้นไปทำที่สื่อความจริงอื่น ๆ ไม่พูดอีกแล้ว ข้าพเจ้าให้การรับรองเรื่องนี้

ถาม :ท่านอาจารย์บรรยายกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว

อาจารย์ :ไม่เป็นไร (เหล่าศิษย์ปรบมือ) ข้าพเจ้าเพียงแต่ไม่อยากให้กระทบต่อการรับประทานอาหารของพวกคุณ คือจุดนี้ ไม่ต้องส่งคำถามแล้วนะ

ถาม :พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนแทรกซึมระบบการศึกษาและสื่อมวลชนของทางตะวันตก ทำให้ประชาชนชาวตะวันตกจำนวนมาก รวมทั้งผู้ฝึก ในสมองถูกกรอกใส่ด้วยทัศนคติที่เบี่ยงเบนในปริมาณมาก เพิ่มความยากลำบากในการช่วยเหลือสรรพชีวิต

อาจารย์ :มีความยากลำบาก แต่ไม่ร้ายแรงนัก บอกพวกเขาว่า อะไรที่เป็นวัฒนธรรมพรรค บางคนไม่ใช่รู้สึกว่าไม่มีงานทำหรือ ก็ไปทำ

ถาม :ฉันพบว่าพ่อค้าคนธรรมดาสามัญขายเสื้อทีเชิ้ตสีเหลือง ที่พิมพ์ “ฝ่าหลุนต้าฝ่า” เอง ขายให้กับผู้ลี้ภัย เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมของต้าฝ่า เราควรปฏิบัติต่อพ่อค้าเหล่านี้อย่างไร

อาจารย์ :ในประเทศที่มีผู้อพยพเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้สามารถหลอกเจ้าหน้าที่ดูแลผู้อพยพ ใช่ ก็มีเรื่องแบบนี้ จัดการยากมาก ไปอธิบายความจริงกับพ่อค้าคนนั้น : ถึงแม้คุณจะหาเงิน คุณก็หาได้ไม่เท่าไร แต่คุณทำเรื่องที่น่ากลัวที่สุด บอกเขาถึงความสัมพันธ์ที่ร้ายแรงนี้ ที่จริงเมื่อมองจากอีกมุมหนึ่ง คนบนโลกนี้ล้วนใส่เสื้อ “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” คอมมิวนิสต์จีนย่อมจะกลัว (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ถาม :ปัจจุบันผู้ฝึกจำนวนมากกับฝอเสวียฮุ่ยแตกแยกกันมาก กระทั่งรุนแรงมาก ฉันเข้าใจว่า ด้านหนึ่งผู้ฝึกชี้ปัญหาที่มีอยู่ของฝอเสวียฮุ่ย อีกด้านหนึ่งบทบาทของฝอเสวียฮุ่ยในยุคเจิ้งฝ่าไม่อาจที่จะทดแทนได้ ในฐานะผู้ฝึกทั่วไป เราควรปฏิบัติต่อปัญหาพวกนี้อย่างไร

อาจารย์ :ผู้ฝึกแผ่นดินใหญ่ที่เพิ่งออกมามักก่อเรื่องแบบนี้ ต่างประเทศมีวิธีการของต่างประเทศ ฝอเสวียฮุ่ยในพื้นที่ได้นำศิษย์ต้าฝ่าเดินข้ามช่วงระยะเวลาที่ยากลำบากที่สุดแล้ว พวกเขารู้จักการดำเนินงานของสังคมต่างประเทศ ทำอย่างไร ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด อย่าได้นำคนกลุ่มหนึ่งไปต่อต้านฝอเสวียฮุ่ยเป็นอันขาด อย่าทำเรื่องอย่างนั้น เรื่องที่พวกคุณทำล้วนเป็นเรื่องที่มารปีศาจดีใจ เรื่องแบบนี้ทั้งหมด ฝอเสวียฮุ่ยนั้น เขาเพียงแต่นำทุกคน จัดให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นกลุ่ม จัดให้ทุกคนศึกษาฝ่าด้วยกัน เป็นต้น คุณอย่าถือว่าเขาเป็นอาจารย์ คุณอย่าถือว่าเขาเป็นเทพที่บำเพ็ญสำเร็จ ที่ไม่ควรมีข้อบกพร่อง เขาเพียงมีบทบาททำให้ทุกคนร่วมมือกัน เดิมทีเรื่องเหล่านี้ ล้วนสมควรริเริ่มทำด้วยตัวเอง แต่มักจะมองออกภายนอกอยู่เรื่อย

แน่ละ กล่าวสำหรับฝอเสวียฮุ่ย คุณทำจนเขาดูไม่ดี เขาก็เป็นคนที่บำเพ็ญอยู่ เวลาที่ใจคนถูกกระทบ เขาก็ต้องการปกป้องหน้าตาตนเอง และนำทุกคนไปทำเรื่องต่าง ๆ ดังนั้นเขาก็จะเกิดจิตมนุษย์ คุณยิ่งทำอย่างนั้น เขาก็ยิ่งเกิดอารมณ์ ไม่เป็นการสร้างความวุ่นวายให้สภาพแวดล้อมของศิษย์ต้าฝ่าเองหรือ

คุณทราบว่าเขาไม่ใช่เทพ ไม่ใช่คนที่บำเพ็ญสำเร็จแล้ว เขาเหมือนกับคุณนะ เพียงแต่อาจารย์มอบหน้าที่ให้เขา บอกให้เขาไปทำ มักจะแสวงหาจากภายนอก ค้นหาจากภายนอก อย่านำนิสัยเหล่านั้นของแผ่นดินใหญ่ออกมาละ

ถาม :ฝ่ายบรรณาธิการหมิงฮุ่ยประกาศมานานแล้ว ในหัวข้อ “ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนควรทราบ” ว่ายังมีผู้ฝึกต่างประเทศที่ยังคงใช้ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมโดยคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้ข้ออ้างต่าง ๆ ซึ่งเราเชื่อว่าแต่ละครั้งของการแจ้งเตือน และการขอร้องจากฝ่ายบรรณาธิการ คือการทดสอบผู้ฝึก ให้ก้าวพ้นจากความเป็นคน ผู้ฝึกที่ไม่สามารถทำได้ ก็คือไม่คิดจะออกไปจากเขตแดนของคน

อาจารย์ :ขณะนี้มือถือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดที่พวกคุณติดตัวอยู่ ล้วนเป็นเครื่องดักฟัง ปัจจุบันที่สนใจศิษย์ต้าฝ่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแค่พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนแล้ว ข้าพเจ้าขอบอกพวกคุณ ประเทศมากมายล้วนกำลังดักฟังพวกคุณ คุณรู้สึกว่า ฉันเป็นผู้ฝึกทั่วไป ไม่เป็นไร คุณโทรศัพท์ แม้แต่คำพูดทั่วไปที่พวกคุณพูด พวกคุณซื้อกับข้าว กินอาหารเมื่อไร พวกเขาล้วนบันทึกไว้ ทำการวิเคราะห์ตัวคุณทั้งหมด เป็นต้น คุณรู้ไหมนักธุรกิจเวลาวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ เขาวิเคราะห์อย่างไร ก็คือวิเคราะห์เช่นนี้ รู้ชัดเจนมากเกี่ยวกับคุณ เพียงคุณพกมือถือเครื่องหนึ่งบนตัว

ถาม :ในจีนแผ่นดินใหญ่ ทนายความที่กล้าที่จะปกป้องสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของศิษย์ต้าฝ่า ถูกปราบปรามอย่างต่อเนื่อง จึงยากที่จะหาทนายความช่วยเพื่อนผู้บำเพ็ญหลายคนที่ถูกลักพาตัวและถูกประทุษร้าย นี่เป็นเพราะเราพึ่งพาทนายความมากเกินไปใช่หรือไม่ เราควรเผชิญกับมันอย่างไร

อาจารย์ :คุณคิดจะทำอย่างไร คุณก็ทำอย่างนั้น ถ้าข้าพเจ้าบอกว่าควรทำอย่างไร คอมมิวนิสต์จีนก็จะเตรียมก่อนคุณ ใช้สติปัญญาไปทำเถอะ

ถาม :ระยะนี้ผู้ฝึกบางคนประสบกับทุกข์ภัยอย่างมากในการบำเพ็ญ จำเป็นต้องออกไปจากโครงการที่ทำอยู่ เพื่อนผู้บำเพ็ญอื่น ๆ แต่ละคนมีภาระหน้าที่หลายหน้าที่อยู่แล้ว อยู่ในโครงการยุ่งมาก ดังนั้นมีบางเวลาแม้อยากจะช่วยเขาข้ามด่านที่ยากลำบาก กลับรู้สึกว่าใจสู้แต่กำลังไม่พอ เราควรจัดความสัมพันธ์นี้ให้ดีได้อย่างไร ในการช่วยเพื่อนผู้บำเพ็ญให้ดียิ่งขึ้น

อาจารย์ :เรื่องใด ๆ ที่เกิดขึ้นในการบำเพ็ญ ล้วนแต่ให้พวกคุณบำเพ็ญ หากคุณจะถาม พอข้าพเจ้าบอกว่า ทำอย่างไร ด่านนั้นก็ยกเลิกแล้ว แม้จะยากมาก ข้าพเจ้าก็มองเห็นแล้ว นั่นไม่ใช่ปัญหาที่พวกคุณต้องเผชิญหรือ ความขัดแย้งนั้นไม่ใช่ด้านลบทั้งหมด ความขัดแย้งนั้นก็มีด้านบวก เมื่อเกิดปัญหา จะปฏิบัติอย่างไร นั่นไม่ใช่กำลังบำเพ็ญคุณอยู่หรือ

บางครั้งผู้รับผิดชอบในพื้นที่หรือผู้รับผิดชอบโครงการ มักอยากจะพบกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงมักไม่อยากพบเขา ผู้รับผิดชอบในพื้นที่บางคนต้องการพบข้าพเจ้า เป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้วนี่ อาจารย์ก็ควรจะให้พบสักหน่อย บางครั้งข้าพเจ้าคิด ไม่พบ เขาเป็นผู้รับผิดชอบ ก็ปฏิเสธไม่ได้ ให้พบ ข้าพเจ้าไม่อยากพบจริง ๆ ทำไมไม่อยากพบ พวกคุณรู้ไหม เพราะพอข้าพเจ้าให้พบ ปัญหาที่พวกคุณถาม เพียงแต่ข้าพเจ้าพูด ด่านนั้นก็ถูกยกเลิกทั้งหมด หากข้าพเจ้าพบพวกคุณ แล้วปิดปากไม่พูด นี่ก็ไม่ค่อยดี ใช่ไหม ถึงอย่างไรพวกคุณคือผู้บำเพ็ญ พวกคุณไม่อาจจะคิดเอาข้าพเจ้า − อาจารย์เป็นหัวหน้า มาขอคำชี้แนะ แต่อาจารย์เพียงแต่ดูแลการบำเพ็ญนะ อาจารย์ไม่ใช่เจ้านายนะ เรื่องพวกนั้นที่พวกคุณทำ พวกคุณจะต้องคิดหาวิธีเดินออกมาเอง ทำให้ดีด้วยตัวเอง นั่นก็คือเส้นทางการบำเพ็ญของคุณ คือธรรมานุภาพของคุณ

เรื่องที่พวกคุณทำ โดยตัวมันเองไม่ใช่การบำเพ็ญ คุณเปิดบริษัทก็ดี โครงการต้าฝ่าของคุณก็ดี คุณทำอะไรก็ดี โดยตัวมันเองไม่ใช่การบำเพ็ญ แต่ท่าทีในการทำงานของคุณ จะปฏิบัติต่อปัญหาเหล่านี้อย่างไร แก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร ใช้มาตรฐานของผู้บำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าปฏิบัติต่อมัน จัดการมันให้ดี นี่คือการบำเพ็ญ แต่ว่าคุณรู้สึกว่ายากมากฉันต้องถามอาจารย์ว่าจะทำอย่างไร เรื่องนี้ทำแล้ว ถูกหรือไม่ ฉันต้องถามอาจารย์ คือพูดว่าพวกคุณมักจะยกเส้นทางการบำเพ็ญให้ข้าพเจ้า พวกคุณล้วนไม่รู้ เวลาที่ข้าพเจ้าพบพวกคุณ พวกคุณเห็นข้าพเจ้า ดีใจมาก ข้าพเจ้าก็ต้องแสร้งทำเป็นดีใจ แต่ในใจข้าพเจ้า ไม่สบายใจอย่างมาก (อาจารย์หัวเราะ)

ก็เพราะทุกคนทราบ คนบำเพ็ญอยู่ในความไม่รู้ และไม่รู้ว่าตนเองบำเพ็ญถูกหรือไม่ จึงต้องทำเช่นนี้ต่อไป สุดท้ายหยวนหมั่นแล้ว เนื่องจากถูกกับไม่ถูก เขาเองตัดสินใจทำเอง นั่นนับว่าเขาบำเพ็ญ ถ้าพวกคุณถามข้าพเจ้าแล้ว นั่นก็ไม่นับแล้ว คุณมิทำไปโดยเปล่าประโยชน์หรือ บางคนพูดว่า ฉันไม่ถาม ฉันได้พบอาจารย์ก็ดีใจ เพียงคุณได้พบข้าพเจ้า ในใจคุณรู้สึกมั่นใจ เรื่องนั้นก็ไม่นับแล้ว

เนื่องจากคุณเป็นศิษย์ต้าฝ่า ข้อกำหนดต่อคุณนั้นสูง คนหันหน้าเข้ากำแพงอยู่ตรงนั้น อยู่ต่อหน้ากำแพง คุณว่าเขาจะถามใคร ขณะที่เขาหันหน้าเข้ากำแพง ความคิดของเขาไม่ได้ว่างเปล่า ทุกข์ภัยอะไรก็ล้วนจะสะท้อนออกมา เขาจะปฏิบัติอย่างไร ไม่มีใครให้เขาถาม สำหรับพวกคุณ เดิมทีข้อกำหนดนั้นสูงยิ่งกว่า − เขาหยวนหมั่นด้วยตัวเอง พวกคุณแบกรับความผิดชอบใหญ่หลวงในการช่วยเหลือสรรพชีวิต พวกคุณคือศิษย์ต้าฝ่า ระดับชั้นที่ต้องบำเพ็ญสูงกว่าเขาไม่รู้มากเท่าไร ข้อกำหนดสูงยิ่งกว่า ในปีนั้นอิทธิพลเก่าบีบคั้นให้ข้าพเจ้าไปอยู่ขั้วโลกเหนือ พวกคุณทราบไหม ไม่ให้ข้าพเจ้าพบพวกคุณ ให้พวกคุณ หาข้าพเจ้าไม่พบ

ถาม :ฉันเป็นผู้ประสานงานของโครงการสื่อ เร็ว ๆ นี้คนหนุ่มสาวจำนวนมากเข้าร่วมทำงานสื่อ และมีผู้ฝึกเก่า พวกเขาขยันทำงานกัน แต่ความสามารถทางเทคนิคมีจำกัด พวกเราควรหรือไม่ ......

อาจารย์ :เรื่องของการงานก็ถามข้าพเจ้า (อาจาย์หัวเราะ) เห็นข้าพเจ้าเป็นเจ้านายจริงๆ

ถาม :ศิษย์ควรทำอย่างไร จึงจะสามารถลดภาระของท่านได้มากที่สุด

อาจารย์ : (อาจารย์หัวเราะ) นี่ไม่ต้องสนใจ พวกคุณ ไม่มีใครทำได้ ไม่มีทาง เรื่องของอาจารย์ ไม่อาจพูดกับพวกคุณได้ ข้าพเจ้าพูดว่า “อยู่บนที่สูงช่างหนาวเหน็บ” ไม่ใช่ที่พวกคุณเข้าใจกันว่า เป็นข้าราชการชั้นสูง ไม่มีคนจะระบายความในใจด้วย อย่างมากคือเขาโดดเดี่ยวสักหน่อยเท่านั้นเอง ข้าพเจ้าต้องแบกรับแรงกดดันที่ใหญ่หลวง ทุกข์ภัยของสรรพชีวิตนะ (เหล่าศิษย์ปรบมือ รู้ซึ้งในพระคุณ)

ถาม :ในการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันจะยึดกุมปรากฏการณ์บางอย่างของอำนาจการเมืองปัจจุบันกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนอย่างไร

อาจารย์ :พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ใช่ไหม เปิดโปงมัน พูดเรื่องเหลวแหลกของพวกชั่วร้ายออกมา วิธีการทั้งหมดของอำนาจการเมืองอันธพาลของพรรคมารล้วนคือไม่ถูกต้อง ความขัดแย้งทั้งหลายในสังคมมนุษย์ล้วนเกิดขึ้นเพราะมัน คนปกติไม่อาจยืนอยู่ฝั่งเดียวกับมันโดยเด็ดขาด

ถาม :พอผู้ฝึกเกิดปัญหา อาทิเช่น ด้านร่างกายหรือมีทุกข์ภัยอย่างอื่น ผู้บำเพ็ญคนอื่นมักพูดว่า “เขาต้องมีปัญหาอะไรแน่นอน” พยายามช่วยเขาค้นหาจากข้างใน

อาจารย์ :พูดอย่างนี้แล้วกัน หากศิษย์ต้าฝ่าประสบทุกข์ภัยอะไรหรือสลายกรรมอยู่ แน่นอนเขาต้องมีเหตุมาก่อน ให้ค้นหาที่ตัวเอง ถูกละ พอค้นพบแล้ว รีบทำให้ดี สภาพการณ์นั้นจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีทันที เปลี่ยนไปในทางบวก บางคนพอพูดถึงจุดบกพร่องของเขา เขาก็ไม่อยากฟัง โดยเฉพาะผู้ฝึกที่อยู่ในความทุกข์ เขาทุกข์มากแล้ว คุณบอกว่า “คุณต้องมีปัญหาแน่” เขาจะยิ่งเป็นทุกข์ เขาไม่อยากฟัง ไม่อยากฟัง พวกเราก็ระวังวิธีการสักหน่อย

ถาม :กลุ่มนำการวิจัยการเก็บเกี่ยวอวัยวะกับกลุ่มอธิบายความจริงกับสังคมกระแสหลักมีอยู่หลายกลุ่ม เรียนถามว่าสมควรหรือไม่ที่จะประสานงานร่วมมือกัน

อาจารย์ :พวกคุณควรที่จะปรึกษาหารือจัดการกันเอง พวกคุณรู้สึกว่ามีพลังอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น ทุกคนประสานงานให้ดี รวมอยู่ด้วยกัน มีพลังก็ทำ ถ้ากระจายกันทุก ๆ ที่ล้วนเกิดผล นั่นก็เป็นสถานการณ์อีกแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตามพวกคุณดูแล้วกัน จะทำอย่างไรก็ได้

ถาม :ระยะนี้สถานการณ์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงมาก สำหรับไต้หวันดูแล้วละลานตา เรียนเชิญท่านอาจารย์กรุณาพูดกับศิษย์ไต้หวันสักหน่อย

อาจารย์ :พูดสักหน่อย ก็พูดสักหน่อย (เหล่าศิษย์หัวเราะ ปรบมือ) พูดถึงว่าไต้หวันจะถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนรวมเป็นเอกภาพหรือไม่ พวกคุณสนใจเรื่องนี้กระมัง ข้าพเจ้าขอบอกทุกคน วาสนานี้ไม่ได้ให้มัน (เหล่าศิษย์ปรบมือ) และหากหลังจากที่ไม่มีพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนจะเป็นอย่างไร เทพมีการจัดวางไว้นานแล้ว ไม่ใช่พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนแล้ว ใครก็จะไม่บีบบังคับใคร ทุกคนอยากจะรวมก็รวม ไม่อยากรวมก็ไม่ต้องรวม

สำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ยุ่งกับเรื่องเหล่านี้ ที่ข้าพเจ้าคำนึงถึงคือคนทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นคนชนชาติไหน คนพื้นที่ไหน ข้าพเจ้าล้วนช่วยให้พ้นทุกข์ ข้าพเจ้าล้วนช่วยเหลือ สำหรับศิษย์ต้าฝ่าก็เหมือนกัน อย่าดูแคลนสิ่งนี้สิ่งนั้น ไม่ว่าชนชาติไหน ชั้นผิวของคนคนนี้ไม่เหมือนกับหนังของเขา แต่ข้างในนั้น จำนวนมากล้วนเป็นเทพ คนปัจจุบันนี้กับคนในอดีตแตกต่างกัน

ถาม :ในยุคอินเทอร์เน็ต เต็มไปด้วยข่าวลวง ยากจะแยกแยะจริงหรือเท็จ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันกับสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2020 ข่าวลวงจะสามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้คนหรือไม่

อาจารย์ :โลกที่ยุ่งเหยิงก็คือปรากฏการณ์ที่ยุ่งเหยิง คนอยากจะได้อะไรที่ดี ล้วนยากมาก นี่ก็คือปรากฏการณ์ของโลกที่ยุ่งเหยิง ตอนที่สหรัฐอเมริกาเลือกตั้งใหญ่ คนมากมายไม่คิดว่าทรัมป์จะได้รับเลือกตั้ง เขาก็ได้รับเลือกแล้ว บางคนรู้สึกว่าเรื่องอะไรก็ควรเป็นอย่างนี้ ผลลัพธ์มันไม่เป็นอย่างนี้ ข้าพเจ้าพูดเรื่องหนึ่งตลอดมาว่าเทพควบคุมมนุษยชาติอยู่ เทพเป็นผู้ตัดสิน เรื่องนี้พูดไปมากแล้ว พูดเป็นรูปธรรมแล้วจะกระทบต่อการช่วยเหลือสรรพชีวิต จึงไม่พูดให้เป็นรูปธรรมอย่างนั้นแล้ว (เหล่าศิษย์ปรบมือ)

ถาม :สิบกว่าปีไม่ได้พบหน้ากับญาติสนิทในประเทศจีน ขอเรียนถามว่าก้าวต่อไปจะมีโอกาสกลับประเทศไหม

อาจารย์ :สำหรับศิษย์ต้าฝ่า เพื่อการช่วยคน จึงได้เหลือใจคนไว้ส่วนหนึ่งให้พวกคุณ สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ มีความคิดเหล่านี้ ก็ไม่นับเป็นการยึดติด ใครก็คิดอยากจะพบญาติสนิทของตน คุณอยากให้ข้าพเจ้ายืนยันว่าคุณจะได้พบหรือไม่ เรื่องนี้พูดออกมาดูเหมือนจะไม่ได้นะ (อาจารย์หัวเราะ) ยังต้องบำเพ็ญนะ เมื่อครู่ตอนเริ่มต้นข้าพเจ้าก็พูดถึงสถานการณ์นี้ มองเห็นการพัฒนาของสถานการณ์รวดเร็วมาก และเมื่อพรรคชั่วร้ายสิ้นสุดลงจะหมุนในทันทีแล้วดิ่งลง อย่างรวดเร็วมาก (เหล่าศิษย์ปรบมือ) กระแสน้ำนี้ (อาจารย์ทำมือกระแสน้ำขึ้น) กระแสน้ำกำลังขึ้นแล้ว เมื่อพรั่งพรูขึ้นมา “ฮวา” เวลายาวสักหน่อย ขึ้นมาแล้ว ตกลงไป (อาจารย์ทำท่ามือกระแสน้ำลง) “ซวบ” ลงเร็วมาก (อาจารย์หัวเราะ เหล่าศิษย์ปรบมือ) ไม่ว่าคนที่ทำเรื่องไม่ดีเหล่านั้นจะคิดหนีอย่างไรล้วนไม่ทัน

ถาม :ศิษย์ต้าฝ่านับหมื่น ซึ่งมาร่วมประชุมฝ่าฮุ่ยจากทั่วโลก ขอสวัสดีท่านอาจารย์ผู้เปี่ยมเมตตา

อาจารย์ :ขอบใจทุกคน (เหล่าศิษย์ปรบมือกึกก้อง)

ถาม :ปัจจุบันผู้รับผิดชอบหลายคนล้วนจะพูดประโยคหนึ่ง “คนนี้มีปัญหา” คำพูดนี้พอออกมา สภาพแวดล้อมของผู้ฝึกคนนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที ด้วยเหตุนี้ผู้รับผิดชอบจะกีดกันผู้ฝึกคนนี้ ไม่ให้มีสิทธิ์และโอกาสในการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ

อาจารย์ :ผู้รับผิดชอบเราอย่าไปพูดคำคำนี้ออกมาพล่อย ๆ แม้คุณพบว่ามีปัญหาก็ต้องตรวจสอบอย่างเงียบ ๆ ไม่ถึงเวลาที่สำคัญ อย่าไปพูด บางคนมีการแสดงออกแปลก ๆ ทำอะไรตามใจตัวเอง ที่จริงหากพวกเราในการบำเพ็ญ ในการดำรงชีวิต ให้หมั่นดูพฤติกรรมของตัวเอง ดูสภาพการบำเพ็ญของตัวเอง เปรียบเทียบกับคนอื่นสักหน่อยว่า ใช่หรือไม่ว่าแปลกเกินไปแล้ว ใช่หรือไม่ว่าสุดขั้วไปแล้ว ใช่หรือไม่ว่าทำตามอำเภอใจเกินไปแล้ว คุณอยู่ในสังคมนานาชาติ อยู่ในช่วงเวลาพิเศษนี้ของปัจจุบัน จึงง่ายที่คนอื่นจะเข้าใจว่าท่านมีความไม่ปกติเล็กน้อยจริง ๆ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องระวังไว้ทั้งสองด้าน

ข้าพเจ้าขอย้ำอีกที ข้าพเจ้าบอกว่าผู้ฝึกที่ออกมาจากแผ่นดินใหญ่ ต้องระวังปัญหาพวกนี้ พฤติกรรมแปลกประหลาด วิธีการทำงานแบบสุดขั้วนั้นใช้ไม่ได้จริง ๆ ในสังคมจีน แม้แต่ในหนังทีวี ล้วนเป็นเรื่องคนวางแผนจัดการคน คุณอยู่ต่างประเทศจะไม่เห็นสิ่งนี้ ผลงานวรรณกรรมที่เขียนออกมาล้วนเป็นเรื่องปัดแข้งปัดขากัน คนวางแผนจัดการคน ผีก็วางแผนจัดการกับผี วรรณกรรม นิยาย ละครทีวี ภาพยนตร์ ล้วนเป็นอย่างนี้ คล้ายกับไม่มีเรื่องอื่นจะทำ ก็คือคนวางแผนจัดการคน วางแผนจัดการกับคนคนนั้นจนหายแค้น ดูเหมือนว่าจะถ่ายทำได้ดี จิตใจคนล้วนเปลี่ยนเป็นเช่นนั้นแล้ว การมองปัญหาก็ล้วนบิดเบี้ยว จะแก้ไขกลับมา ยังต้องระวังเป็นพิเศษจริง ๆ

ข้าพเจ้าผ่านสภาพของคนยุคก่อนการปฏิวัติใหญ่ทางวัฒนธรรมของประเทศจีน ทีละขั้น ทีละตอน ข้าพเจ้ามองเห็นการเปลี่ยนแปลงของคนจีน เห็นอย่างชัดเจน แต่ไหนแต่ไรมา ข้าพเจ้าไม่เหมือนกับคนทั่วไป ข้าพเจ้าไม่เข้าไปอยู่ในกระแสสังคม ไม่เคลื่อนไหวไปตามการเคลื่อนไหวทางสังคมของพรรคมาร ข้าพเจ้ารักษาสติที่แจ่มชัดโดยตลอด ข้าพเจ้ามองเห็นสิ่งเหล่านั้นของพรรคมารได้อย่างชัดเจน ชาวโลกล้วนผสมโรงไปกับกระแสนั้น ดังนั้นจึงมองตัวเองไม่ชัดเจน สงบใจลงมองดูตนเอง อย่าสุดขั้ว อย่าให้คนเขารู้สึกว่าคุณแปลก ๆ ปัญหามากมายก็จะไม่ทำให้ในหมู่ผู้ฝึกซับซ้อนอย่างนั้น

โดยเฉพาะผู้ฝึกเก่าเหล่านั้นในต่างประเทศ ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน พวกเขาไม่มีทางร่วมงานกับพวกคุณที่เพิ่งออกมาจากแผ่นดินใหญ่ แม้ว่าเมื่อนานมาแล้ว พวกเขาก็ออกมาจากแผ่นดินใหญ่ แต่พวกเขาคนที่ออกมาในยุคสมัยนั้นไม่เป็นเช่นนั้น คนปัจจุบันล้วนเปลี่ยนเป็นอย่างนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องเป็นอย่างไร

อาจารย์จะไม่พูดไปมากกว่านี้อีก “ศิษย์ต้าฝ่า” เป็นฉายานามที่พิเศษ ล้วนไม่เคยมีมาก่อนในประวัติการณ์ การเจิ้งฝ่าของจักรวาลก็ไม่เคยมีมาก่อน จักรวาลไม่ไหวแล้วก็ทำลายทิ้ง แล้วสร้างขึ้นใหม่อีกอันหนึ่ง ทุกคนต่างทราบ ความสามารถของเทพคือเพียงคิดก็เกิดขึ้น แต่ที่เกิดขึ้นใหม่ มีแต่ชีวิตเหล่านั้นเมื่อแรกเริ่ม ในช่วงเวลาอันยาวนาน สิ่งสุดยอดเหล่านั้นล้วนไม่มีแล้ว อะไรก็ไม่มีแล้ว สร้างขึ้นใหม่อีก รอจนทั้งหมดเดินสู่อีกขั้นตอนอย่างนั้น ยังไม่แน่ว่าเป็นอย่างนั้นใช่หรือไม่ สูญเสียไปแล้วมักจะรู้สึกเสียดาย และสรรพชีวิตเหล่านี้ล้วนสร้างโดยเทพ เทพมีความเมตตาในแบบที่คิดจะเหลือพวกเขาเอาไว้ จึงทำเรื่องนี้

หรือพูดได้ว่า นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นประวัติการณ์ไม่มีปรากฏการณ์สวรรค์อันยิ่งใหญ่ของการเจิ้งฝ่าของจักรวาล เป็นประวัติการณ์ก็ไม่เคยมีศิษย์ต้าฝ่า อาจารย์บุกเบิกความรุ่งโรจน์อันนี้ นำพวกคุณเข้าสู่ช่วงประวัติศาสตร์นี้ พวกคุณบำเพ็ญตนเองให้ดี พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือสรรพชีวิต แสดงตัวพวกคุณเองออกมา ทำให้ดียิ่งขึ้นเถิด

ขอบใจทุกคน (เหล่าศิษย์ปรบมือกึกก้องยาวนาน)