บรรยายธรรม ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยนานาชาติ อเมริกาฝั่งตะวันตก

หลี่ หงจื้อ

26 กุมภาพันธ์ 2005

(เสียงปรบมือของที่ประชุมดังกึกก้องยาวนาน) สวัสดีทุกท่านทุกท่านลำบากกันแล้ว

ฤดูหนาวได้ผ่านไปแล้วฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้วประวัติศาสตร์ก็เหมือนกับ ฤดูใบไม้ผลิฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาวที่มีการแปรเปลี่ยนเรื่อยไปในกระแสธารประวัติศาสตร์ของมนุษย์อันยาวนาน มีเรื่องราวต่าง ๆ นานาเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อนเพื่อวางรากฐานและสร้างสรรค์วัฒนธรรมสุดท้ายที่จำเป็นแก่มนุษย์ ในประวัติศาสตร์ก็เคยปรากฏผู้บำเพ็ญออกมามากมาย มีรูปแบบวิธีการบำเพ็ญมากมายและรูปแบบวิธีการบำเพ็ญเหล่านี้ล้วน ไม่เหมือนกันเลยโดยเฉพาะเมื่อมาถึง ช่วงสองพันปีก่อนและหลังได้เกิดศาสนาของความเชื่อที่ถูกต้อง หลายศาสนาแม้สิ่งที่เชื่อถือกันในศาสนาเหล่านี้ ล้วนเป็นเทพแต่วิธีการบำเพ็ญก็ไม่เหมือนกันกระทั่งผลักไส ไม่ยอมรับซึ่งกันและกันแน่ละ ในการผลักไสซึ่งกันและกันนั้น ย่อมมีจุดมุ่งหมายของพวกเขาอยู่เช่นนี้จึงสามารถปกป้องวิธีการบำเพ็ญของพวกเขาให้มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงหรือกล่าวได้ว่า รูปแบบความเชื่อที่ถูกต้องต่อเทพนั้นไม่เหมือนกันก่อนฝ่าปรับโลกมนุษย์ นั้น รูปแบบการบำเพ็ญใดๆ ต่างก็ไม่ใช่สิ่งที่กำหนดไว้โดยเฉพาะของจักรวาลที่จะต้องทำให้เป็นรูปแบบที่เป็นเอกภาพ อันคงที่แน่นอน ซึ่งการเชื่อในเทพของชาวโลก จะต้องทำตามกันไปตามเส้นทางนี้เท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ทุกท่านได้มองเห็นแล้วว่ารูปแบบการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้นั้น ไม่เหมือนกับของศาสนาอื่นและรูปแบบการบำเพ็ญชนิดต่าง ๆ ในแต่ละยุคของประวัติศาสตร์ ไม่เพียงไม่เหมือนกันแต่มองดูแล้วยังต่างกันอย่างมากเพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเหล่าเทพต่างมองเห็นปัญหาหนึ่งนั่นคือรู้สึกว่า การที่ผู้บำเพ็ญบำเพ็ญอยู่ในโลกียโลก ไม่ออกไปจากสังคมคนธรรมดาสามัญ นั้นจะบำเพ็ญไม่สำเร็จเพราะ สำหรับคนธรรมดาสามัญนั้น ผลประโยชน์ที่จับต้องได้การรบกวนของจิตมนุษย์นานาชนิดต่อผู้บำเพ็ญทำให้ผู้บำเพ็ญยกระดับขึ้นได้ยากมากผู้ที่มาช่วยเหลือคนก็รู้สึกว่าความสามารถไม่อำนวยให้ไม่มีใครกล้าที่จะเดินไปบนเส้นทางเช่นนี้โดยเฉพาะคือการช่วยเหลือคนอย่างกว้างขวางพอเผชิญกับผู้บำเพ็ญมากมายพอผู้บำเพ็ญเข้าไปปะปนอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญก็จะรู้สึกว่าไม่มีทางที่จะดูแลได้ไม่มีทางที่จะช่วยเหลือได้ดังนั้น รูปแบบการบำเพ็ญรูปแบบการช่วยเหลือคน ชนิดต่างๆในอดีต จึงไม่กล้าแม้แต่จะคิดอย่างนี้ก็ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าผู้บำเพ็ญจะไปปฏิบัติจริงๆในโลกียโลก

เส้นทางนี้ที่ศิษย์ต้าฝ่าเดินไปในวันนี้ไม่เคยมีมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ในสมองของชาวโลกจำนวนมากได้ก่อเกิดทัศนคติดั้งเดิมชนิดหนึ่งขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อถือศรัทธาของศาสนาก็ดี หรือจะกล่าวในฐานะตัวผู้บำเพ็ญเองก็ดีหากไม่ออกบวช ไม่ไปจากโลกียโลก ย่อมเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นกล่าวสำหรับรูปแบบการบำเพ็ญชนิดนี้ของศิษย์ต้าฝ่าคือสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ไม่มีแบบอย่างที่ผ่านมาข้าพเจ้าพูดมาโดยตลอดว่า ในการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีแบบอย่าง ไม่เพียงแต่เส้นทางของการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่านที่ต้องเดินกันไปเอง แม้แต่รูปแบบการบำเพ็ญที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดให้กับพวกท่านก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวอย่างเส้นทางนี้ทุกท่านต้องเดินกันออกมาเองเพราะอะไรละ ในท่ามกลางการบำเพ็ญที่ผ่านมา ทุกท่านอาจจะเคยรับรู้ได้แล้ว ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ข้าพเจ้าก็คือบรรยายฝ่าอย่างนี้ เนื่องจากภาระรับผิดชอบที่ประวัติ ศาสตร์มอบให้กับศิษย์ต้าฝ่านั้น หนักเหลือเกินต้องเผชิญกับสรรพชีวิตมากเหลือเกินมีข้อกำหนดต่อศิษย์ต้าฝ่า สูงอย่างยิ่งและรากฐานของจิตหลักของสรรพชีวิตในโลกวันนี้ ก็ใหญ่มากผู้คนรู้ไหมว่าพวกท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่า เป็นศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่าความรับผิดชอบของ“ศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า”จึงยิ่งใหญ่มาก ความนัยของชื่อเรียกนี้ ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน ทำอย่างไรศิษย์ต้าฝ่า จึงจะสามารถบรรลุถึงธรรมานุภาพ ที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นนี้จึงกำหนดรูปแบบการบำเพ็ญที่พิเศษของพวกท่าน ถ้าพวกท่านไม่เลือกรูปแบบการบำเพ็ญชนิดนี้ หรือเลือกรูปแบบการบำเพ็ญ ชนิดหนึ่งชนิดใดในอดีต ศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่าล้วนจะไม่อาจบรรลุเป้าหมายของการบำเพ็ญได้ไม่อาจทำให้ภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่รับผิดชอบ สมบูรณ์ได้ยิ่งไม่อาจบรรลุระดับ ชั้นที่ต้องการ และสำเร็จมรรคผลไม่ได้

ดังนั้นจึงปรากฏปัญหาหนึ่งออกมาคือ คนๆหนึ่งจะก้าวออกมาจากโลกียโลก บำเพ็ญออกมาจากในหมู่มนุษย์ นั้นเป็นสิ่งที่ยากอย่างยิ่งและประวัติศาสตร์ก็ไม่มีตัวอย่างใดๆเหลือเอาไว้ให้ถ้าหากจะบำเพ็ญตามศาสนาเมื่อก่อน หรือ ศาสนาในปัจจุบัน ย่อมไม่ได้คนรู้กันแล้วว่า พระสงฆ์บำเพ็ญกันอย่างไร นักพรตเต๋าบำเพ็ญอย่างไรนักบวชของศาสนาคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก บำเพ็ญกันอย่างไรชาวโลกเชื่อถือเทพกันอย่างไร แน่ละการเชื่อถือเทพ กับ การบำเพ็ญของผู้บำเพ็ญเองนั้น ไม่เหมือนกัน เพราะการเชื่อถือเทพนั้นอย่างมากก็คือ เทพจะเอาใจใส่ดูแลคนในระดับหนึ่งให้โชคลาภแก่ท่านหรือ คนที่ดีเป็นพิเศษนั้นจะสามารถขึ้นไปเป็นสรรพชีวิตในโลกของเทพแต่ว่าพวกนั้นล้วนแต่ไม่มีมรรคผล การเชื่อถือแบบทั่วไปนั้นไม่นับว่าเป็นการบำเพ็ญส่วนการบำเพ็ญนั้นต้องสำเร็จมรรคผล หรือพูดว่าผู้ที่มีมรรคผลนั้นเขาก็จะไม่ใช่สรรพชีวิตโดยทั่วไปของสวรรค์แล้ว เขาจะมีตำแหน่งของเทพและศิษย์ต้าฝ่านั้นกำหนดให้มีมรรคผลยิ่งใหญ่เพราะความรับผิดชอบสูง จึงผลักให้ผู้บำเพ็ญไปถึงตรงนั้นได้ ซึ่งจำเป็นต้องแบกรับภาระที่หนักเช่นนั้นดังนั้นระดับความยากลำบากที่ปรากฏออกมาจึงหนักหนามากนี่ข้าพเจ้าไม่ได้พูดถึงความยากลำบากชนิดนี้ที่อิทธิพลเก่ายัดเยียดให้ แต่เป็นระดับความยากลำบากของรูปแบบการบำเพ็ญในตัวมันเอง ในทางปฏิบัติพวกท่านเองก็เคยรู้สึกได้ถึงความทุกข์ยากกับความลำบากยากเข็ญที่ได้รับ ของการบำเพ็ญชนิดนี้ก้าวออกมาจากความลำบากของคนในขั้นตอนของการบำเพ็ญพวกท่านล้วนตกอยู่ในท่ามกลางการซัดสาดของทัศนคติต่างๆผลประโยชน์นานาจิตมนุษย์นานาชนิด จากนั้นก็ตกลงไปในฉิง และวังวน ทำให้ขาดสติ ใจคนที่ไม่แจ่มชัด จึงยากจะตัดได้ ในสภาพที่เป็นจริงของ ครอบครัว สังคมการงานการบำเพ็ญ และการประทุษร้ายจากภายนอกที่เสริมเข้ามาทำให้เกิด แรงกดดันและความยากลำบากด้านต่างๆของการประทุษร้ายครั้งนี้ต่อศิษย์ต้าฝ่าที่จริงนี่คือส่วนที่พวกท่านสามารถรู้สึกได้ยังมีส่วนที่ไม่อาจรู้สึกได้ดูไปแล้วเรื่องที่พวกท่านทำนั้น ดูธรรมดามากดูไปแล้วเรื่องที่พวกท่านทำนั้น เหมือนกันมากกับเรื่องการทนทุกข์ที่คนธรรมดาสามัญก็ทำได้แต่มันไม่เหมือนกันหรอกเรื่องเดียวกันที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ กับที่คนธรรมดาสามัญทำนั้นต่างกันความรับผิดชอบ นั้นต่างกัน

ดูอย่างผิวเผินนั้น เงื่อนไขไม่ต่างกันที่จริงไม่เหมือนกันเลยเพราะเหตุใดละข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างหนึ่งณ ที่ต่างๆบนโลก มีผู้นับถือศาสนาคริสต์มากมายพอถึงวันที่คล้ายวันที่พระเยซูทนทุกขเวทนา พวกเขาก็จะจัดกิจกรรมอย่างหนึ่งขึ้นมาบางคนใช้ตะปูตอกตรึงตนเองไว้กับไม้กางเขน เป้าหมายของพวกเขาอาจเป็นว่า ต้องการให้เทพได้เห็น ว่าฉันก็รับความทุกข์ยากแบบเดียวกันซึ่งย่อมไม่เหมือนกับการทนทุกขเวทนาของพระเยซูแม้แต่น้อยทำไมไม่เหมือนกันละเวลาที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขนนั้น คนมองไม่เห็นว่า พระองค์กำลังไถ่บาปแทนคนบาปกรรมใหญ่หลวงของชาวโลกมากมายล้วนกดลงบนตัวของพระองค์มากมายเหลือเกินหนักหนาเหลือเกิน ระดับความเข้มข้นนั้นสูงมากนี่จึงก่อให้เกิดความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสต่อพระองค์ในขณะนั้นแม้พระองค์ไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ก็แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว แบกรับไว้หนักหนาเหลือเกิน ทำให้พระองค์หายใจอย่างลำบากยากเย็น ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่สะท้อนออกมาจากแรงกดดัน ของบาปกรรมของสรรพชีวิตอย่างมหาศาลชนิดนั้นการเสียดแทงอย่างน่ากลัวในความนึกคิด ก่อให้เกิดผลสะท้อนของการเข่นฆ่าทำร้ายต่อเซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนจะสามารถทนรับไหว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ชาวโลกทั่วไป จะสามารถทนได้เลย ในสภาพของความเจ็บปวดทุกข์ทรมานชนิดนี้ ยังถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนอีก ลองคิดดูซิว่ามันเป็นรสชาดอย่างไรกันเรื่องอย่างเดียวกัน ไม่ใช่เหมือนกับที่คนธรรมดาสามัญคิดกัน ดูไปเหมือนกับเรื่องของคนธรรมดาสามัญมากที่จริงสภาพการณ์ที่อยู่เบื้องหลังนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิงต่างกันนับพันลี้

แม้อาจารย์ จะตัดทอนกรรมหนักและมากมายที่มีมาแต่เดิมของศิษย์ต้าฝ่าแล้ว แต่ความรับผิดชอบที่ศิษย์ต้าฝ่าแบกเอาไว้นั้นหนักหนามาก ในการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่า นอกจากการแบกรับความยากลำบาก ที่มาพร้อมกับกรรมที่แน่นอนจำนวนหนึ่งแล้ว โดยพื้นฐานแล้ว ล้วนแต่เป็นความทุกข์ยาก ที่สะท้อนออกมาจากการที่ต้องยกระดับซินซิ่งการประทุษร้ายครั้งนี้ คือสิ่งที่อิทธิพลเก่ายัดเยียดเพิ่มเข้ามาให้ ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในการเจิ้งฝ่า แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ทุกท่านก็ได้ก้าวข้ามมาแล้วเส้นทางนี้ไม่ว่าจะยากลำบากอย่างไรทุกข์ยากอย่างไรเมื่อเผชิญกับความลำบากเหล่านี้ ทุกท่านไม่ได้ถดถอยยังคงเดินต่อไปบนเส้นทางของเทพโดยตลอดแน่ละบางคนก็เดินล้มคว่ำไป ทางซ้ายทีทางขวาทีบางคนเดินได้ค่อนข้างดีค่อนข้างแน่วแน่มั่นคง ไม่ว่าจะอย่างไรสภาพการณ์โดยรวมของการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่า กับสภาพการณ์ยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า นั้นมั่นคงและสุขุมในสายตาของเทพนั้น สภาพการณ์บำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่า ไม่อาจจะขวางกั้นได้หรือกล่าวว่า ไม่ว่าเส้นทางนี้จะเดินได้อย่างลำบากเพียงไร แม้ในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีรูปแบบการบำเพ็ญเช่นนี้ศิษย์ต้าฝ่าก็ทะลวงข้ามมาได้แล้วดูไปแล้วในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของพวกท่านนั้น มีหลายๆอย่างคล้ายกันกับรูปแบบของคนธรรมดาสามัญมาก เหมือนกันมากแต่องค์ประกอบที่อยู่เบื้องหลังจุดหมายปลายทางของเรื่องที่ทำ ความรับผิดชอบที่แบกรับอยู่ เป้าหมายที่จะบรรลุนั้นไม่เหมือนกับของคนธรรมดาสามัญอย่างสิ้นเชิง

ในขณะนี้ เนื่องมาจากองค์ประกอบของอิทธิพลเก่ากับองค์ประกอบของจักรวาลเก่า ที่ก่อให้เกิดฉากกั้นและการรบกวนในสังคมมนุษย์ เทพจึงไม่อาจปรากฏออกมาที่นี่อย่างเปิดเผย ไม่อาจให้สรรพชีวิตมองเห็นปรากฏการณ์ของมารที่มารบกวน กับพวกที่ถูกตีตกสลายไปสภาพที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างผู้บำเพ็ญ กับคนธรรมดาสามัญก็ถูกฉากกั้น ขวางกั้นไว้โดยตลอดก่อนที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์จะมาถึงพวกชั่วร้ายก็จะทำเรื่องชั่วร้ายเรื่อยไป การเจิ้งฝ่าที่ทำกันที่นี่ ก็ไม่ใช่เพื่อทำให้ศิษย์ต้าฝ่า กับการเจิ้งฝ่าเองตกอยู่ในวังวนจริงๆ การสร้างสภาพแวดล้อมของตรีภูมิขึ้นมา ก็เพื่อใช้ในการเจิ้งฝ่าจุดประสงค์คือทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ของการเจิ้งฝ่า ไม่รบกวนต่อโลกของเทพ ดังนั้นจึงได้อาศัยสภาพแวดล้อมชนิดนี้ อาศัยรูปแบบชนิดนี้ของคนมาใช้ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าแต่ไม่ถือว่า เป็นการเห็นด้วยกับการรบกวนการเจิ้งฝ่า ของอิทธิพลเก่า ทว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามข้อกำหนดของต้าฝ่าในการช่วยเหลือสรรพชีวิตไม่ถือว่าเป็นการเห็นพ้องกับการจัดวางชุดนั้นของพวกมันสังคมมนุษย์ล้วนอยู่ในวังวนผู้คนมองไม่เห็นภาพที่แท้จริงของจักรวาลมองไม่เห็นสภาพที่แท้จริงของชีวิต นี่คือสภาพการณ์ของชีวิตในระดับชั้นนี้แต่สถานการณ์ในระหว่างการเจิ้งฝ่านั้น เป็นไปตามการควบคุมของต้าฝ่าคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามข้อกำหนดของต้าฝ่าในการช่วยเหลือสรรพชีวิตที่จริงในเวลานี้เป็นสิ่งจำเป็นในการทำเรื่องของเทพของศิษย์ต้าฝ่า เพราะการบำเพ็ญส่วนบุคคลของศิษย์ต้าฝ่าไม่ใช่เรื่องอันดับหนึ่งการช่วยเหลือสรรพชีวิตในระหว่างการเจิ้งฝ่าก่อตั้งนภาใหญ่จึงจะเป็นเป้าหมายเรื่องของการเจิ้งฝ่าการช่วยเหลือสรรพชีวิตนั้นคือสิ่งจะต้องทำ ดังนั้นจึงต้องทำลายอุปสรรคของสภาพแวดล้อมชนิดนี้ยืนยันความถูกต้องของฝ่าในสภาพอย่างนี้ที่ไม่อาจมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของตนเองในระหว่างการบำเพ็ญ อย่างที่เทพเห็นทั้งหมด แต่ในท่ามกลางการรบกวน กับ ในความทุกข์ยากระหว่างการข้ามด่านที่ต้องตัดจิตยึดติดทิ้งไปนั้นกลับอาศัยเจิ้งเนี่ยนที่เกิดจากการศึกษาต้าฝ่าอย่างต่อเนื่อง ก้าวหน้าเรื่อยไป ยากเหลือเกินที่จะสามารถข้ามมาได้ แต่ศิษย์ต้าฝ่าโดยรวมได้ข้ามมาได้แล้ว โดยเฉพาะในช่วงหลายปีของการประทุษร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่าที่อิทธิพลเก่าจัดวางเอาไว้ ยังสามารถก้าวข้ามมาได้นั้น ยอดเยี่ยมมาก ศิษย์ต้าฝ่าโดยรวมได้ก้าวข้ามมาได้แล้วอย่างแท้จริงไม่ว่าในระหว่างนี้ได้เกิดเรื่องอะไรกับพวกท่านไหนเลยจะกลัวว่าได้เกิดเรื่องที่ไม่สมควรขึ้นหลายอย่างเกิดเรื่องหลายอย่างที่ทำให้ทุกท่านไม่พอใจแต่โดยสรุปแล้วนับว่าดีมากกำลังก้าวรุดหน้าไปโดยรวม

หนทางนั้น ยังเดินไปไม่ถึงที่สุดการประทุษร้ายครั้งนี้ยังไม่จบสิ้นดังนั้นหนทางของพวกท่าน ยังจะต้องมุ่งหน้าเดินต่อไปทางที่เหลืออยู่นั้น ข้าพเจ้าคิดว่า ทุกท่านก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรได้ดีแล้วในเวลานี้พวกเหล่านั้นที่ทำร้ายศิษย์ต้าฝ่า กับพวกชั่วร้ายมากมายที่ รบกวนการเจิ้งฝ่า ล้วนไม่มีใครที่ไม่รู้สึกสำนึกเสียใจ ว่า ตอนแรกทำไมต้องประทุษร้ายฝ่าหลุนกงด้วยละถ้าไม่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ไหนเลยจะลงเอยแบบนี้ หรือพูดได้ว่า อนาคตกับทางที่ทอดอยู่ข้างหน้าของศิษย์ต้าฝ่านั้น สว่างรุ่งโรจน์ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆจุดนี้ทุกท่านก็มองเห็นได้เองแล้ว การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ การเจิ้งฝ่าทั้งหมดของจักรวาลนั้นรวดเร็วมากเพราะการเจิ้งฝ่า รุดหน้าไปโดยอยู่เหนือกาลเวลาทั้งหมด ใกล้เข้ามาสู่มิติที่จับต้องได้นี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาสู่ขอบเขตที่ตามนุษย์สามารถมองเห็นได้ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มุ่งเข้ามาใกล้ชั้นผิวยิ่งขึ้น จากระดับจุลทรรศน์ ขอบเขตทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็เล็กมากแล้ว แน่ละ ขอบเขตที่เหลืออยู่ของมิติชั้นผิวของมนุษย์นั้นเล็กลงแล้ว แต่ทุกท่านทราบว่า องค์ประกอบสุดท้ายนั้นยิ่งสูงมาก พื้นที่องค์ประกอบของฉากกั้นยิ่งกว้างใหญ่ดังนั้นในขณะนี้ หลังจากวิญญาณชั้นต่ำของพวกปีศาจร้ายลดน้อยลง จุดอ่อนของพวกชั่วร้ายกลับถูกองค์ประกอบของฉากกั้นชดเชยให้แล้ว แม้ว่ากำลังเพิ่มพูนระดับความเร็วของการรุดหน้าไปแต่ว่ายังคงมีแรงต้านทานอยู่ไม่ว่าจะอย่างไรในขณะนี้เหมือนกับ ฝ่ายดีกับฝ่ายชั่วกำลังยืนอยู่บนปลายทั้งสองของคานชั่ง พวกชั่วร้ายนั้นได้เสียสมดุลไปจนหมดแล้วน้ำหนักเปรียบเทียบทางฝั่งนี้ของศิษย์ต้าฝ่า ได้กดด้านนี้ลงไปจนสุดแล้ว หรือกล่าวได้ว่าการเจิ้งฝ่า กับ การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่า ล้วนต้องสำเร็จ เป็นจริงอย่างแท้จริง เรื่องสุดท้ายยังทำไม่จบกล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญแต่ละก้าวอาจจะเป็นจุดเป็นจุดตายของการหยวนหมั่นได้หรือไม่ ของศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนข้าพเจ้าคิดว่าไม่ว่าจะไปถึงระดับไหนในท้ายที่สุด จะมีการรบกวนมากแค่ไหน หรือในการเจิ้งฝ่าจะทำให้พวกท่านเองเข้าใจได้ทั้งหมดแล้วก็ต้องบำเพ็ญอย่างสง่างามอย่าได้ถูกทั้งเรื่องบวก และเรื่องลบ รบกวน อย่างไรเสียอย่าได้ถูกความเปลี่ยนแปลงที่สถานการณ์ ชักนำมา หรือ การเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นมา รบกวนได้

ที่จริงมาถึงวันนี้แล้ว ทุกท่านต่างก็สุขุมรอบคอบมากแล้ว มีเรื่องมากมายที่ทุกท่านสามารถปฏิบัติต่อมันโดยใช้เจิ้งเนี่ยน ใคร่ครวญด้วยความสุขุมรอบคอบภายใต้บทบาทของเจิ้งเนี่ยน จึงมีพลังในการทำให้สถานการณ์การยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่าโดยรวมมีความมั่นคง เพราะทุกท่านสุกงอมกันแล้วเข้าใจเรื่องต่างๆมากมายได้แล้วเช่นนี้จึงทำให้คลื่นลมของการรบกวนใดๆไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่นนี้ จึงไม่มีช่องว่างให้องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายเจาะเข้ามาได้พอมีจิตอะไรของมนุษย์ที่สะท้อนออกมาในหมู่ศิษย์ต้าฝ่านั่นคือที่ๆสิ่งชั่วร้ายจะเจาะเข้ามาได้สิ่งชั่วร้ายจึงอาศัยเรื่องพวกนี้ ทำเรื่องชั่วที่พวกมันต้องการทำเมื่อศิษย์ต้าฝ่ามีจิตมนุษย์น้อยลงแล้วเจิ้งเนี่ยนเข้มแข็งแล้วล้วนจะสุขุมรอบคอบมากล้วนจะแน่วแน่มั่นคงมากฉะนั้นสิ่งชั่วร้ายก็ไม่มีโอกาสจะใช้ประโยชน์ได้จึงทำให้สถานการณ์การยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่าเพิ่มความมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไม่นานมานี้ เรื่องว้าวุ่นอะไรภายในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าก็เกิดขึ้นน้อยมากแล้วข้าพเจ้าไม่เพียงพูดถึงแต่เฉพาะนอกประเทศจีนศิษย์ต้าฝ่าในประเทศจีนก็เป็นอย่างนี้ด้วยมีความมั่นคงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

แน่ละเป็นการบำเพ็ญใช่ไหมย่อมจะต้องมีจิตยึดติดของมนุษย์บางอย่าง สะท้อนออกมาอย่างแน่นอนเพราะเป็นคนที่บำเพ็ญ ไม่ใช่เทพที่บำเพ็ญในเมื่อเป็น คน ที่บำเพ็ญอยู่จึงมีจิตมนุษย์แสดงออกมาในระหว่างการบำเพ็ญ ดังนั้นจึงพบเห็นปรากฏการณ์ของความไม่ก้าวหน้าจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะคือมีผู้ฝึกบางคนที่หุนหันพลันแล่นได้ง่าย และมีผู้ฝึกบางคนที่เจิ้งเนี่ยนค่อนข้างบกพร่องจึงถูกสิ่งชั่วร้ายอาศัยใช้ทำเรื่องไม่ดี ได้ผ่านบทเรียนเหล่านี้แล้ว ต่อไปทุกท่านต้องระวังในระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่า อย่าถูกองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายใช้ประโยชน์อีก โดยเฉพาะพวกผู้ฝึกที่ไม่ศึกษาฝ่าเจิ้งเนี่ยนไม่เข้มแข็ง และมีความคิดของคนมากเกินไปทำเรื่องที่ไม่ดีอยู่เสมอข้าพเจ้าขอบอกพวกท่านโอกาสที่อยู่ข้างหน้าท่าน ลดน้อยลงเรื่อยๆแล้วข้าพเจ้าทราบว่า แม้พวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าละอายต่อต้าฝ่ามากมายท่านก็ยังไม่คิดจะจากต้าฝ่าไปจริงๆแต่เมื่อถึงเวลาที่ทุกสิ่งจบสิ้นลงในเวลาที่ศิษย์ต้าฝ่าหยวนหมั่นกันหมดท่านจะทำอย่างไรกันและก่อนหน้าเวลานี้ ยังจะเกิดการกวาดล้างมนุษย์ครั้งใหญ่ต่อหน้าการกวาดล้างใหญ่ครั้งนี้ท่านจะทำอย่างไรกันอะไรๆอาจารย์ก็รู้หมดและข้าพเจ้าก็จะไม่พูดอะไรทั้งนั้นในระหว่างความถูก-ผิด พวกท่านพยายามแสดงตัวตนของพวกท่านเองออกมาท่านจะทำตัวให้สมกับเป็นศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่ง หรือว่าท่านจะยึดติดกับด้านของคนในหมู่คนธรรมดาสามัญท่านอาจมีชีวิตอยู่เพื่อแสวงหาเป้าหมายต่างๆของคน และอาจซ่อนอยู่ในมุมมืดเพราะจิตหวาดกลัวแต่ในเมื่อเดินเข้ามาสู่ต้าฝ่าแล้วข้าพเจ้าก็หวังว่าท่านจะมีโอกาสได้รับการช่วยเหลือดังนั้นข้าพเจ้าจึงให้โอกาสท่าน ตลอดมาให้โอกาสข้าพเจ้าสามารถให้โอกาสท่านเรื่อยไปแต่ท่านจะสามารถเป็นศิษย์ต้าฝ่าท่านจะรับโอกาสนี้หรือไม่ท่านจะสามารถมีสติขึ้นมา ดำเนินชีวิตเพื่อตัวของตัวเอง หรือไม่จนถึงวันนี้แล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะต่อออกไปได้อีกก็คือท่านต้องเริ่มต้นชดเชยให้กับทุกสิ่งไล่กวดขึ้นมา และมีเพียงโอกาสที่น้อยมากแล้วพอผ่านไปอีกระยะหนึ่งข้าพเจ้าว่าแม้แต่โอกาสอันน้อยนิดนี้ก็จะหมดสิ้นไปแล้ว

ในขณะนี้เรื่องต่างๆที่ศิษย์ต้าฝ่าทำขึ้นมาในระหว่างการคัดค้านการประทุษร้ายนั้นทำให้ชาวโลกหวั่นไหวอย่างมากผู้คนมองเห็นกันหมดแล้วถึงความแข็งแกร่งทรหดของศิษย์ต้าฝ่าในขณะถูกปราบปรามอย่างบ้าคลั่งคนมากมายล้วนพูดกันว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ยอดเยี่ยมมาก แข็งแกร่งอะไรเช่นนั้น ต้านทานความชั่วร้ายอย่างนั้นเอาไว้ได้ พรรคมารที่ชั่วร้ายที่สุดซึ่งควบคุมรัฐบาลทำการปราบปรามอย่างสุดกำลัง สร้างเรื่องเท็จหลอกลวงมวลชนแบบมืดฟ้ามัวดิน ด้วยเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมดของประเทศ แทบจะทำให้ประชาชนทั้งหมดเข้าร่วมกับการประทุษร้ายในท่ามกลางการปราบปรามที่ชั่วร้ายที่สุดครั้งนี้ และความน่ากลัวแบบการปฏิวัติที่โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างนั้น เหล่าศิษย์ต้าฝ่าสามารถต้านทานเอาไว้ และก้าวผ่านมาได้นี่คือสิ่งที่ชาวโลกวันนี้ต่างมองด้วยสายตาที่ทึ่งแล้วที่จริงชาวโลกเห็นเพียงด้านที่คงอยู่ทางภววิสัยเท่านั้นพวกเขาไม่อาจเข้าใจ เนื้อแท้ของศิษย์ต้าฝ่ากับความนัยของต้าฝ่าไม่อาจเข้าใจสภาพการณ์ในฐานะผู้บำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าแต่ภววิสัยที่ปรากฏออกมานี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คนเหล่านั้นที่เป็นพวกเดียวกับสิ่งชั่วร้ายคนที่มีสติสัมปชัญญะไม่แจ่มชัด ได้สติขึ้นมาแล้ว เหตุใดศิษย์ต้าฝ่าสามารถทำได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้เหตุใดเจิ้งเนี่ยนจึงแน่วแน่อย่างนี้ได้ ในท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้เหตุใดจึงสามารถทำให้พวกชั่วร้าย ในขณะที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า พังทลายไปได้เพราะนี่คือชีวิตของเทพที่ถูกต้อง แห่งหลักธรรมที่ถูกต้องซึ่งต้าฝ่าสร้างขึ้นมามีรากฐานที่แข็งแกร่งแน่นหนาคือศิษย์ของต้าฝ่า ที่แบกภารกิจเดินอยู่บนหนทางของเทพอันที่จริงนี่กำลังอยู่ในช่วงก่อนที่พลังยิ่งใหญ่ของการเจิ้งฝ่าจะมาถึง ก็ได้ทำให้สถานการณ์ในโลกนี้เปลี่ยนแปลงได้แล้วและทุกสิ่งที่แสดงออกมาของ เจิ้งเนี่ยนเจิ้งสิง (ความคิดและการกระทำที่ถูกต้อง)และวางสนามของต้าฝ่าลงในมิติภววิสัยนี้แล้ว สนามนี้สามารถก่อบทบาททางบวกได้แล้ว เพราะทุกท่านยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการบำเพ็ญหากเปลี่ยนเป็นอีกรูปแบบหนึ่งการปรากฏของสนามนี้ก็จะแสดงบทบาทนำเป็นหลักได้แล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกท่านกำลังอยู่บนเส้นทางการบำเพ็ญ ยังมีทางที่ยังเดินไปไม่จบ ดังนั้นสนามที่ถูกต้องนี้ของต้าฝ่า ก็จะสามารถทำให้องค์ประกอบใดๆของสิ่งชั่วร้ายกับ องค์ประกอบที่ไม่ถูกต้องในอดีตทั้งหมด สลายตัวไปได้หรือ ขจัดทิ้ง หรือ พ้นจากตำแหน่ง ทุกท่านมองเห็นกันแล้ว ว่าสิ่งชั่วร้ายกำลังประทุษร้ายฝ่าหลุนกง เริ่มแรกนั้นมีความรุนแรงชั่วร้ายเพียงไร เดี๋ยวนี้ทำไมมันจึงแสดงออกมาไม่เหมือนกันแล้วละเพราะสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น กับ องค์ประกอบที่ควบคุมคนชั่วอยู่และสนามที่พวกมันเคยสร้างเอาไว้ถูกดับสลายไปแล้วและองค์ประกอบอันมหึมาที่ ต้าฝ่าปรับให้ถูกต้องแล้ว ได้ควบคุมและดับสลายสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นแล้ว คนชั่วได้กลายเป็น บ่าวที่ไร้นายไปแล้ว

หรือกล่าวได้ว่า ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารนี้ ยังมีบางคนที่ไม่ได้สติสัมปชัญญะก็สมควรได้สติแล้วต้องเข้าใจว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ หลักการที่ข้าพเจ้าหลี่ หงจื้อ บรรยายออกมานั้นเป็นหลักการที่ นับแสน นับล้านๆปีไม่ว่าใครเป็นผู้มาช่วยเหลือคนไม่ว่าจะมีผู้รู้แจ้งสักเท่าไรลงมาสู่โลกไม่ว่าจะมีเทพเซียนสักเท่าไรที่รับรู้อย่างแจ่มแจ้งในหลักการที่ถูกต้องต่างก็ไม่เคยพูดกันออกมาก่อน (เสียงปรบมือ) นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามัญจะสามารถทำได้บรรดา การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่า และขั้นตอนการบำเพ็ญที่ปรากฏออกมา แสดงออกมาและสิ่งที่ตนเองสามารถประจักษ์แจ้งได้นั้น นี่ล้วนไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามัญจะสามารถรับรู้ได้ และก็ไม่ใช่สิ่งที่สภาพการณ์ในการบำเพ็ญในอดีตจะมาเปรียบเทียบได้ โดยเฉพาะคือการช่วยเหลือคนอย่างกว้างขวางเช่นนี้ กับรูปแบบที่ไม่รวมศูนย์อย่างนี้ของการบำเพ็ญ และในสภาพการณ์ของการดูแลจัดการอย่างหลวมๆ นั้นสภาพการณ์ ในการบำเพ็ญของคนที่ปรากฏออกมา นี่ ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นประวัติการณ์ก็คือว่าไม่ว่าจะมองจากด้านไหน ก็ควรที่จะทำให้ท่านสงบอกสงบใจใคร่ครวญด้วยตัวเองอย่างแท้จริงรับรู้อย่างมีสติสักหน่อย เกี่ยวกับสถานการณ์ของการถ่ายทอดต้าฝ่านี้

นับจาก 20 กรกฎาคม ค.ศ.1999 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงเรื่อยไปทุกท่านมองเห็นแล้วการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การเจิ้งฝ่าในจักรวาลของต้าฝ่านั้นเร็วยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งปรากฏออกมาถึงภววิสัยของคนนี้ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่า ตลอดมานั้นมีผู้ฝึกบางคนแน่ละที่ข้าพเจ้าพูดก็รวมถึงผู้ฝึกในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยก็คือว่าปากกำลังพูดว่า “พวกเราจะต้องตามให้ทันการพัฒนาของการเจิ้งฝ่าอาจารย์บอกอย่างไรพวกเราก็ทำอย่างนั้น”ที่จริงเวลาที่จำเป็นต้องทำอะไรนั้นข้าพเจ้าไม่แน่ว่าจะพูดชัดๆว่านี่เป็นสถานการณ์ใหม่ทุกท่านต่างทราบว่าในระหว่างการยืนยัน ความถูกต้องของฝ่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์หนึ่งจริงๆนี่เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นแน่ ตอนที่อาจารย์กำลังเจิ้งฝ่า กับ ก่อนที่ยังไม่ได้เจิ้งฝ่า นั้นย่อมไม่เหมือนกัน เรื่องราวใดๆ จะทำหรือไม่ทำกระทั่งว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการทำล้วนจะค่อยๆเกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่กินขอบเขตกว้างขวางก็จะมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์อย่างหนึ่ง

หรือกล่าวได้ว่า ทุกท่านต่างพูดถึงการตามให้ทันช่วงวิถีของการเจิ้งฝ่าแต่หลังจาก “จิ่วผิง(เก้าบทวิจารณ์)”ออกมาแล้วผู้ฝึกมากมายยังคงไม่เข้าใจต่อมา ข้าพเจ้าได้เขียนบทความสั้นๆสองหน้า คือ หมุนหลุนสู่โลกมนุษย์ ในเวลานี้ดูเหมือนทุกท่านจะเข้าใจได้ในทันทีอ้อ อาจารย์ทำอย่างนี้แล้วฉะนั้นพวกเราก็ควรทำอย่างนี้ด้วยที่จริงเวลาที่ศิษย์ต้าฝ่าไม่ใช้จิตมนุษย์ไตร่ตรองด้วยใจที่สงบย่อมเข้าใจได้ในทันทีทุกท่านสามารถหยวนหมั่นโดยนำพาการรับรู้ ต่อความเชื่อถือในคอมมิวนิสต์จีน กับ (ความคิดที่ว่า) “คอมมิวนิสต์จีนที่ปราบปรามศิษย์ต้าฝ่านั้นดี” ไปด้วยได้หรือไม่ไม่ได้อย่างเด็ดขาดใช่ไหมโดยเฉพาะ “จิ่วผิง” ศิษย์ต้าฝ่าเราล้วนอ่านกันแล้วในเมื่อมันเป็นสิ่งของประเภทนี้มีชาวโลกตั้งเท่าไรถูกมันหลอกให้งงงัน ไม่เชื่อถือเทพ มีคนตั้งเท่าไรทำบาปต่อต้าฝ่าไปด้วย ในขณะที่มันประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า จะไม่ช่วยเหลือคนส่วนนี้ได้หรือ จะคล้อยตามมันได้หรือดังนั้นข้าพเจ้าเห็นว่าผู้ฝึกบางคนยังใช้จิตมนุษย์ขัดขวางตัวเอง ยังมีเจิ้งเนี่ยนไม่พอเข้าใจว่านี่คือการยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงเขียนบทความสั้นๆสองหน้านั้นแม้จะเป็นเช่นนี้ข้าพเจ้าทราบว่าในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ยังมีผู้ฝึกกลุ่มหนึ่ง ใจคน(ของเขา)กำลังก่อเหตุอยู่ไม่คิดจะเข้าใจที่จริงยังไม่ใช่เกิดจากจิตหวาดกลัว กับ จิตยึดติดต่อผลประโยชน์ที่วางไม่ลง นั่นคือในระหว่างให้การช่วยเหลือ ก็ได้เปิดประตูที่ใหญ่ที่สะดวกที่สุดให้แล้วไม่ใช่พูดไปแล้วหรือว่า จะใช้ชื่อสมมติในการประกาศ(ลาออกจากพรรคฯ)ก็ได้มิใช่หรือ จะใช้ชื่ออะไรก็ได้ทั้งนั้นสิ่งที่เทพดูนั้น คือใจคนคนนั้นมีความคิดอะไรออกมาทำเรื่องอะไรเทพสามารถมองเห็นได้ที่มีมูลเหตุทางภววิสัย(เหตุแวดล้อมจำกัด) จะใช้ชื่ออะไรก็ได้ทั้งนั้นเดิมทีชื่อบนโลกของคนนั้น บนสวรรค์ เขาไม่เรียกกัน คนบนโลกตั้งชื่อให้คนเทพก็จะเรียกตามด้วยหรือ ไม่ได้ และชื่อซ้ำกันก็มีมากมายคนบนโลกนั้นมีเลขประจำตัวพวกเขาเรียกเลขประจำตัว (ที่ประชุมหัวเราะ)

เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่จะบอกว่าผู้ฝึกบางคนตามสถานการณ์ไม่ทัน และก็ไม่ใช่ความคิดเชื่องช้า แต่คือจิตสำนึกของคนบางคนถูกองค์ประกอบของพรรคมารรบกวนอยู่คือมีองค์ประกอบของพรรคมารกำลังก่อผลอยู่ถูกวัฒนธรรมพรรคที่สิ่งชั่วร้ายสร้างขึ้นมา ทำให้หลักเหตุผลที่กระจ่างชัดของเขาไขว้เขววัฒนธรรมที่บิดเบือนชนิดนี้เริ่มตั้งแต่ชั้นประถม มัธยมเป็นปีๆ จนกระทั่งตั้งแต่เมื่อท่านเริ่มจำความได้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยมีเป้าหมายที่จะกรอกเข้าไปตลอดทางที่ก้าวผ่านมาหรือพูดว่า ปัจจุบันคนที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมดล้วนใช้ความคิดของวัฒนธรรมพรรคมารกัน แน่ละในระหว่างการเจิ้งฝ่า ถ้าหากพรรคมารไม่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงเช่นนั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วเพราะหลักเหตุผลและวัฒนธรรมที่คลุมเครือ(ไม่กระจ่างชัด)มากมายล้วนจะฟื้นคืนสู่ความถูกต้องไปเอง ในระหว่างการเจิ้งฝ่าด้านนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้ผู้บำเพ็ญไปทำอะไรในฐานะที่เป็นวิญญาณชั่วของพรรคนั้นก็จะถูกปรับให้ถูกต้อง และได้รับการช่วยเหลือฉะนั้นพอมันประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า กับการเจิ้งฝ่า มันจึงกลายเป็นวิญญาณที่ชั่วร้ายที่สุดดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าต้องรับรู้มันอย่างกระจ่างแจ้งชาวโลกที่ถูกมันอ้างเป็นตัวแทนก็จะต้องแสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมาว่าจะเดินไปกับมารร้ายนี้หรือจะเลือกทางที่สว่างไสวและมีชีวิตนิรันดร ต่อเรื่องนี้จะต้องรับรู้ได้อย่างมีสติแจ่มชัดแล้วเทพนั้นจะกวาดล้างมันจากหมู่มนุษย์และในหลายปีมานี้มันกำลังประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าอย่างชั่วร้ายอย่างยิ่งจริงๆรบกวนการเจิ้งฝ่าเช่นนั้นเหตุใดชาวโลกต้องแสดงท่าทีละเพราะคนเคยพูดไว้ว่าจะเดินไปพร้อมกับมันในเวลาที่คนประกาศปฏิญาณเข้าสู่พรรค องค์กรสันนิบาตล้วนแต่ชูกำปั้นขึ้นปฏิญาณว่าจะต่อสู้เพื่อลัทธิมารร้ายคอมมิวนิสต์ชั่วชีวิตอุทิศชีวิตเพื่อพรรคมารวิญญาณพรรคมารก็จะยึดกุมจุดนี้ประทุษร้ายคนจนตายวิญญาณชั่วพูดว่าเขาได้ให้คำมั่นไว้แต่แรกเขาพูดว่าเขาได้มอบชีวิตของเขาให้มันแล้วมันจึงอาศัยจุดนี้มาประทุษร้ายคนและองค์ประกอบของพรรคมารก็จะดำรงอยู่ในร่างกายของเขาในขณะที่ความคิดของเขาไม่รับรู้อย่างแจ่มชัดดังนั้นจะไม่รับรู้มันอย่างแจ่มชัดจะได้ไหมจึงต้องขจัดมันไปหลังจากรับรู้แจ่มชัดได้แล้ว

แน่ละที่ผ่านมาข้าพเจ้าไม่ได้ยกปัญหาของพรรคมารนี้ขึ้นมาพูดอย่างชัดแจ้ง เพราะว่าเวลานั้นกำลังให้โอกาสสรรพชีวิตอยู่โดยตลอด รวมถึงวิญญาณชั่วของพรรคมารนี้ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งคือ ในเวลาที่องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายมากมายที่มาจากภายนอก เข้าร่วมการรบกวน เจิ้งฝ่าประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าเมื่อเผชิญกับชีวิตชั่วร้ายนานาชนิดจำนวนมหาศาล ที่กดเข้ามาในตรีภูมินั้นวิธีที่ดีที่สุด คือรวมศูนย์พลังงานไปกำจัดสิ่งเหล่านี้กวาดล้างให้หมดไปก็ต้องจับออกมาให้ได้ว่าใครที่เป็นผู้ชักนำมารร้ายเหล่านี้เข้ามา ใครที่อยู่ในโลกปลุกระดมการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงและมีบทบาทชี้นำมาโดยตลอด นั่นก็คือพรรคของสิ่งชั่วร้ายนี้กับเจ้าตัวตลกชาติชั่วในหมู่คน เจ้าตัวตลกหัวหน้ามารคือหัวหน้าของพรรคนั้นใช่ไหมความอิจฉาริษยาทำให้มันนำการทำชั่วต่อศิษย์ต้าฝ่าในโลกมนุษย์วิญญาณชั้นต่ำที่จุติเข้าไปในท้องคนนั้นโดยตัวมันเองไม่ใช่อะไรทั้งนั้นความอิจฉาริษยาของมันพอดีถูกวิญญาณชั่วของพรรคมารใช้ประโยชน์คนชั่วกับวิญญาณร้ายคบคิดกันโดยคนชั่วออกนำวิญญาณร้ายของพรรคมารนั้นเข้าสิงร่างคนประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าอย่างชั่วร้ายจริงๆ องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายทั้งหมด ที่มาจากนอกตรีภูมิยังใช้วิญญาณชั่วของพรรคมารร่วมกันในการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าในขณะที่ประทุษร้ายสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดก็แทรกอยู่ในนั้นหมดแล้วสิ่งเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าบรรยายทุกท่านต่างรับรู้กันหมดแล้ว“จิ่วผิง”แจกออกไปนานเพียงนี้แล้วผู้ฝึกมากมายก็แจ่มแจ้งอย่างมากกันแล้ว

ในระหว่างการเจิ้งฝ่าสถานการณ์ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดอย่างแน่นอน มีคนถามข้าพเจ้าว่า “ท่านอาจารย์ตอนนี้พวกเราควรจะเข้าสู่สถานการณ์อะไรแล้ว” ข้าพเจ้าตอบว่า “พวกท่านก็ทำเรื่องที่พวกท่านทำอยู่เดี๋ยวนี้” การเจิ้งฝ่าของจักรวาลนั้นไม่อาจเป็นไปตามคำพูดว่า เปลี่ยนก็จะเปลี่ยน (ที่ประชุมหัวเราะ)เวลาที่การเจิ้งฝ่าจำเป็นต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้น ย่อมต้องมีสถานการณ์อย่างหนึ่งปรากฏออกมาแต่เมื่อสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้นแล้วก็จะกระทบต่อจิตยึดติดของใจคนจำนวนหนึ่งเพราะคือ คนที่กำลังบำเพ็ญจิตยึดติดที่ยังไม่ทิ้งไปย่อมจะส่งผลได้ดังนั้นในใจบางคนจึงมีการสะท้อนความรู้สึกที่ไม่ถูกต้องอย่างหนึ่งออกมา กระทั่งปะปนกับความรับรู้ของคนธรรมดาสามัญ หลังจาก “จิ่วผิง” ออกมาช่วยเหลือ จึงมีผู้ฝึกที่ไม่เข้าใจพูดว่า พวกเรายุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้วใช่หรือไม่ เป็นต้น ที่จริงเรื่องใดๆล้วนแต่จะถูกคนชั่วที่ประทุษร้ายท่านกล่าวหาว่า “เล่นการเมือง”ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ท่านทำล้วนแต่จะถูกบิดเบือนเพราะว่ามันนั้นต้องการจะประทุษร้ายท่านมันก็ต้องการจะพาลใส่ท่านดังนั้นท่านพูดอะไรมันก็จะพลิกกลับมาใช้ป้ายสีท่าน ท่านทำเรื่องที่ดีอย่างไรมันก็จะพูดว่าท่านทำเรื่องเลว ในเวลาที่เปิดโปงการประทุษร้ายของมันมันก็จะพูดว่าท่านยุ่งเกี่ยวการเมืองนำมาใช้ยั่วยุใจคนหาเหตุในการประทุษร้ายอย่าถูกชักนำเวลาที่คนชั่วพูดอะไรคนธรรมดาสามัญชักนำผู้บำเพ็ญไม่ได้ผู้บำเพ็ญนั้นไม่อาจถูกคนธรรมดาสามัญชักนำได้ พวกท่านได้ผ่านสิ่งเหล่านี้มาแล้ว มีสติยิ่งขึ้นแล้วไม่ว่าอะไรที่คิดจะรบกวนต้าฝ่า องค์ประกอบที่ประทุษร้ายต่อสภาพการณ์การยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิตของศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าคิดว่าจากนี้เป็นต้นไป ล้วนแต่ไม่อาจทำให้ศิษย์ต้าฝ่าหวั่นไหวได้แล้วโดยเฉพาะในช่วงเวลาใกล้ๆนี้ มีเรื่องมากมายที่ศิษย์ต้าฝ่าทำนั้นโดยพื้นฐานข้าพเจ้าก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวและพูดน้อยมากเพราะว่าจะทำอะไร พวกท่านก็ทราบว่าควรทำอย่างไรกันแล้วทุกท่านทำไปตามช่วงวิถีของการเจิ้งฝ่าเถิด

แต่ละคนต่างมีเส้นทางการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของตนเองผู้ฝึกมากมายร่วมกันจัดทำสื่อนานาชนิด มีผู้ฝึกหลายคนได้ก่อตั้งรูปแบบการยืนยันความถูกต้องของฝ่าอย่างนี้รูปแบบการคัดค้านการประทุษร้ายอย่างนั้น เช่นนั้นก็ไปทำเถอะข้าพเจ้าทราบว่าเมื่อเร็วๆนี้ ทุกท่านล้วนทำได้ดีมากและดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์รู้สึกดีใจจริงๆบางครั้งดูบนเว็บไซด์อ่านหนังสือพิมพ์ดูทีวีฟังๆ ดูๆ เรื่องเหล่านี้ที่พวกท่านทำ รู้สึกซาบซึ้งใจมาก เมื่อก่อนข้าพเจ้ามีความรู้สึกเช่นนี้น้อยมาก เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปเร็วมากศิษย์ต้าฝ่าล้วนสุกงอมกันแล้วด้านที่ถูกต้องที่แสดงออกมานั้นยอดเยี่ยมจริงๆโดยเฉพาะผู้ฝึกที่อธิบายความจริงอยู่ในแมนฮัตตันใน สภาพอากาศที่หนาวเหน็บในสภาพแวดล้อมที่ทุกข์ทรมานในสภาพการณ์ที่เงื่อนไขและเงินทุน ไม่เพียงพอศิษย์ต้าฝ่าเอาชนะความยากลำบากนานาชนิด ทำเรื่องยืนยันความถูกต้องของฝ่า อธิบายความจริง ช่วยเหลือสรรพชีวิต ปณิธานอันเด็ดเดี่ยวที่แสดงออกมานั้น สะท้านฟ้าสะเทือนดินล้วนอยู่ในสายตาเหล่าเทพแล้วยอดเยี่ยมยอดเยี่ยมจริงๆแน่ละสภาพแวดล้อมอื่นๆก็เหมือนกันอยู่หน้าสถานกงสุลอธิบายความจริงยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าในสภาพแวดล้อมต่างๆโดยตลอด ศิษย์ต้าฝ่าอยู่ที่ไหนล้วนเป็นดั่งทองเปล่งประกายล้วนก่อผลในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า

ข้าพเจ้าไม่ขอพูดมากแล้วเวลาที่เหลืออยู่ ทุกท่านอยากจะถามอะไรก็ทำตามวิธีการแบบเดิม (เสียงปรบมือ) ทุกท่านสามารถเขียนคำถามส่งขึ้นมาข้าพเจ้าจะตอบให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้ทุกท่านมีปัญหาอะไร ก็ส่งขึ้นมาได้

ศิษย์: เรียนเชิญท่านอาจารย์ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับ “พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” (ที่ประชุมหัวเราะ ปรบมือ)

อาจารย์: แต่ก่อนผู้ฝึกที่เคยอ่านคัมภีร์ของพุทธศาสนาคงจะทราบในปีนั้นที่องค์ศากยมุนีทรงแสดงธรรม ได้ทรงตรัสไว้ว่า “พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” “พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร”วิธีเรียกนี้ ใช้เรียกกันในโลกมนุษย์มีค่อนข้างมาก “พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” เป็นชื่อเรียกตามศักดิ์ ชื่อหนึ่งบนสวรรค์

ในเวลาที่องค์ศากยมุนีทรงเรียก“พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” คือพระยูไลองค์หนึ่งที่มีความสามารถที่สุด มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ที่สุด พระยูไลพุทธก็คือธรรมราชาราชาแห่งโลกพระพุทธก็คือพระยูไลพุทธ พวกเราเรียกพระยูไลพุทธนั้น ก็เรียกไปตามหลักคิดจากการบำเพ็ญ กับการประจักษ์แจ้ง พระยูไลพุทธนั้นหมายถึง ผู้ที่มาพร้อมกับสัจธรรมแห่งความสมปรารถนา ดังนั้นโลกจึงเรียกธรรมราชาทั้งหมดว่า พระยูไลฉะนั้นหากใช้แนวคิดนี้ไปทำความเข้าใจก็ถูกต้องเพราะพวกเขาคือผู้ที่ยึดกุมสัจธรรมที่แท้จริงของระดับชั้นนั้น เขาคือผู้ที่สูงที่สุดภายในขอบเขตของสรรพชีวิตของเขายึด กุมสัจธรรมที่สูงที่สุดในระดับชั้นนั้นดังนั้นเขาจึงเป็นธรรมราชาก็คือราชาของระดับชั้นนั้น หรือ สรรพชีวิตส่วนนั้นมีธรรมราชามากมาย แน่ละ กล่าวสำหรับคนแล้ว พระยูไลนั้นมีนับไม่ถ้วน “พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” นั้นก็คือหนึ่งในนั้นเหตุใดองค์ศากยมุนีทรงตรัสถึง “พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” ขึ้นมาโดยเฉพาะละ เพราะ“พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” จะลงมาสู่โลกถ่ายทอดหลักธรรมช่วยเหลือคน แน่ละทุกท่านยังเคยได้ยินว่าองค์ศากยมุนีก็เคยตรัสว่า มีเล่อ (พระศรีอริยเมตไตรย์) จะลงมาสู่โลกช่วยเหลือคน ที่จริง “มีเล่อ” คือพระนาม ส่วน“พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร” คือชื่อตำแหน่งขององค์ราชาใช้คำพูดของคนก็คือ ชื่อตำแหน่งหน้าที่ (อาจารย์หัวเราะ)

ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับทุกท่านว่าเทพแต่ละชั้นที่อยู่ใกล้ตรีภูมิพอถึงระยะเวลาที่แน่นอนหนึ่ง พวกเขาต้องมีการเปลี่ยนใหม่ดังนั้นการเปลี่ยนใหม่จึงนำมาซึ่งปัญหาหนึ่งคือว่าสรรพชีวิตที่ลงมาสู่โลกนั้น สำหรับเขา เทพก็ควรจะเป็นสิ่งนิรันดร์ดังนั้นไม่อาจพูดว่า เทพองค์นี้ไปแล้วเทพองค์นี้ไปไหนแล้วคนก็ไม่รู้ ใครก็ไม่รู้แล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนใหม่เรื่อยไปแบบนี้กล่าวสำหรับชีวิตภายในตรีภูมิแล้วก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายชนิดหนึ่งคือสรรพชีวิตที่ลงมาสู่โลกนั้นมีฉิงจึงรู้สึกถึงความงงงวย สรรพชีวิตจะคิดกันว่าเทพที่ฉันเชื่อถือไปไหนแล้วละ อ้อเขาจากไปแล้ว เขาจากไปแล้วใครจะมาดูแลฉันละ จึงอาจเกิดปัญหานี้ได้ดังนั้นคนที่เทพองค์ก่อนจะช่วยเหลือเทพองค์ถัดมาที่จะมารับช่วงก็จะดูแลเขาต่อเพราะเขามารับช่วงต่อจากองค์ก่อน ดังนั้นในเวลาที่เขารับช่วงต่อจากองค์ก่อน เขาก็จะรับช่วงต่อจากชื่อบรรดาศักดิ์ขององค์ก่อนพร้อมกันไปด้วยกระทั่งรูปลักษณ์ด้วย รูปลักษณ์นั้นไม่ใช่จะเหมือนกันทุกประการ แต่เหมือนกันโดยพื้นฐาน จะคล้ายกันมาก กล่าวโดยแท้จริงแล้ว ที่รับช่วงต่อ จากนั้นเป็นชื่อบรรดาศักดิ์ของพระพุทธ เทพคนล้วนรู้จักพระโพธิสัตว์กวนอินพระโพธิสัตว์กวนอินมีเท่าไรแล้วมีอยู่เต็มไปหมดวา! มากเสียจนต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะนับได้หมดแล้วองค์ศากยมุนีพุทธนี้มีเท่าไรแล้วก็มีกันมากมายเหลือเกิน 2500 ปีก็มีมากมายหลายพันองค์ พระอาหนีถอฝอมีเท่า ไรแล้วพระเยซูมีเท่าไรแล้ว พระแม่มารีมีเท่าไรแล้ว องค์ปฐมแห่งเทพมีเท่าไรแล้ว ก็มากเสียจนมองไปก็จะเห็นเต็มแน่นไปหมด ที่พูดนี่ไม่ใช่ฝ่าเซิน หรือ เฟินเซิน (ร่างที่แบ่งออกมา) เพราะพวกเขาอยู่ใกล้ตรีภูมิมากเกิน ไปการอยู่ใกล้ตรีภูมินะฉิงนี้ภายในตรีภูมิและการแสดงออกต่างๆของสรรพชีวิตในตรีภูมิ องค์ประกอบของทัศนคติชนิดต่างๆของชาวโลกที่สะท้อนออกมา จะถูกพวกเขามองเห็นได้โดยตรง สามารถสะท้อนไปถึงพวกเขาที่นั่นโดยตรงและสามารถรบกวนพวกเขาได้ พวกเขาเป็นเทพนอกตรีภูมิไม่เหมือนกับสรรพชีวิตในตรีภูมิ แต่นานๆไป ก็เป็นการรบกวนต่อพวกเขา

ทุกท่านทราบว่า ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดเหตุผลหนึ่งให้พวกท่านฟัง คือคนๆนี้ ไม่ว่าเขาได้มองเห็นอะไรแล้วก็ล้วนแต่กรอกเข้าไปในสมองของเขาสิ่งที่ดีกรอกเข้าไปมากแล้ว เขาก็คือคนดี สิ่งที่ไม่ดีกรอกเข้าไปมากแล้ว เขาก็คือคนเลว ศิษย์ต้าฝ่าอ่านหนังสือของต้าฝ่าอยู่เสมอเขาก็เป็นชีวิตของหลักธรรมที่ถูกต้อง เมื่อบำเพ็ญสำเร็จเป็นเทพ เขาก็คือ ธรรมราชา เทพอยู่ที่สูงมองดูการแสดงออกของสรรพชีวิตในตรีภูมิแม้ว่าพวกเขาเป็นเทพแต่พอเวลานานเข้า ก็จะเป็นการรบกวนต่อพวกเขา แม้สรรพชีวิตในตรีภูมิแตกต่างจากพวกเขามาก แต่ก็สามารถรบกวนเขาได้ ดังนั้น เทพนอกตรีภูมิ พอถึงช่วงเวลาที่แน่นอนหนึ่ง พวกเขาก็ต้องมีการเปลี่ยนตัว ก็ต้องไป ก็ต้องจากไป พูดว่าจากไปแล้ว คนที่รับการช่วยเหลืออยู่ข้างล่าง เขายังคงอยู่ตรงนั้น คิดถึงพระเยซูเอย องค์ศากยมุนีเอย พระโพธิสัตว์กวนอิน แต่เทพไปแล้ว จะทำอย่างไรดีละ เขาจะช่วยคนๆหนึ่งขึ้นมารับช่วงต่อจากเขาให้พลังแห่งธรรมอย่างเดียวกันแก่เขา หล่อหลอมรูปร่างอย่างเดียวกันออกมาให้เขาซึ่งก็เรียกว่าร่างของเทพ รูปลักษณ์ล้วนเหมือนกันเพราะเป็นรูปลักษณ์ที่เทพองค์ก่อนหล่อหลอมให้กับเขา ดังนั้นจึงเหมือนกับรูปลักษณ์ของเทพองค์ก่อนมากและใส่องค์ประกอบของเขาเข้าไปให้อีก มีความแตกต่างกัน แต่คล้ายกันมากและโดยพื้นฐานของธรรมานุภาพ และความเมตตาพลังธรรมของ เทพนั้น ไม่ต่างกันสักเท่าไรเพราะผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนนั้นต้องบรรลุถึงระดับชั้นนี้หลังจากนั้นจึงรับช่วงต่อจากเขาได้ไม่อาจพูดได้ว่า เธอชื่อ จางซัน เขาชื่อ หลี่ซื่อ เมื่อท่านขึ้นไปแล้วถามว่า ท่านคือใครท่านบอกว่าท่านชื่อจางซัน ไม่ใช่ หลี่ซื่อนั่นใช้ไม่ได้ท่านต้องเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิน ท่านต้องเป็นเยซู ท่านต้องเป็นองค์ศากยมุนี ท่านต้องเป็นองค์ปฐมแห่งเทพ ชื่อนั้นบนโลก ไม่อาจนำมาเรียกได้แล้ว หรือพูดว่าพอถึงช่วงระยะเวลาที่แน่นอนหนึ่ง จะเกิดการเปลี่ยนเทพองค์ใหม่ทว่าตำแหน่งของเทพ ชื่อและฉายานามของเทพ ธรรมานุภาพของเทพ ไม่อาจเปลี่ยน

เช่นนั้นมีเล่อฝอนั้นทุกท่านทราบว่าในโลกนี้มี มีเล่อฝอมากเท่าใด แต่ก่อนมีพระปู้ไต้ (พระสังฆจาย) บำเพ็ญสำเร็จเป็นมีเล่อฝอ ตอนที่ยังอยู่บนโลกมักจะถือย่ามใบหนึ่ง คือในเวลาที่บิณฑบาต ก็จะใส่อาหารที่ได้ไว้ในย่าม สะพายอยู่ด้านหลัง พระปู้ไต้มักจะอาศัยอยู่ที่เมืองหังโจวบ่อยๆ ฤดูร้อนในเจียงหนานอากาศค่อนข้างร้อน ดังนั้นเขาจึงมักจะเปิดอกเสื้อออกเผยหน้าท้อง ป่องๆ ดังนั้น จากนั้นเป็นต้นมา จึงปรากฏรูปลักษณ์อย่างนี้ของมีเล่อฝอในแดนฮั่นประเทศจีน เพราะเวลาที่เขาละสังขาร เขาเคยเขียนกลอนบทหนึ่ง พูดว่า ตนเองคือมีเล่อ “มีเล่อ มีเล่อ มีเล่อจริง” ชาวโลกในเวลานั้นเหล่าผู้ออกบวชต่างไม่เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ผู้คนล้วนเข้าใจว่า คือมีเล่อกลับชาติมาเกิดอ้อ พระปู้ไต้นั้นเดิมทีคือมีเล่อกลับชาติมาเกิดนั่นเอง ที่จริงไม่ใช่ มีเล่อ กลับชาติมาเกิด คือเขาบำเพ็ญสำเร็จเป็นมีเล่อในศาสนาพุทธวัชรยาน (ทิเบต) กำหนดให้ลามะบำเพ็ญมุ่งสู่เทพที่เลือกเอาไว้ ก็คือจุดมุ่งหมายนี้ ที่แท้เพราะเหตุใด พวกเขาไม่กระจ่างชัดที่จริงก็คือจุดมุ่งหมายเช่นนี้ พอบำเพ็ญสำเร็จกลายเป็นเทพที่รับช่วงต่อจากเทพองค์นั้น แต่ว่าล้วนแต่เป็นจิตรองที่บำเพ็ญจิตรองที่รับช่วงต่อ

ในประวัติศาสตร์ มีผู้บำเพ็ญขึ้นไปเป็นมีเล่อฝอมากมายที่จริงล้วนเป็นการคัดเลือกจากโลกสวรรค์จัดให้ลงมาบำเพ็ญ มีเล่อเป็นตำแหน่งพระพุทธ 佛乘 เป็นตำแหน่งทางธรรมของพระพุทธในหมู่ศิษย์ ในสมัยขององค์ศากยมุนี มีคนหนึ่งจะสำเร็จเป็นมีเล่อ ด้วยเหตุนี้องค์ศากยมุนีพุทธจึงตรัสถึงเรื่อง ที่มีเล่อจะลงสู่โลกในยุคธรรมะปลายที่จริงหาใช่ หมายถึง มีเล่อในเวลานั้น ที่พระองค์ตรัสคือตำแหน่งของพระพุทธนี้ กับ มีเล่อองค์หนึ่งที่จะลงมาสู่โลกในอนาคต หรือพูดว่าในเมื่อเป็นชื่อบรรดาศักดิ์ของพระพุทธแล้ว ดังนั้นผู้ที่มารับช่วงต่อเป็นใคร จึงไม่ให้ชาวโลกรู้ได้แล้วชื่อเดิมก็ไม่สำคัญแล้วแต่พอถึงประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน สรรพชีวิตต่างก็รู้เรื่องเล่าเกี่ยวกับการลงมาของ พระศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนธรรมจักร กับ มีเล่อฝอ เช่นนั้นที่แท้พวกเขามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญมากแล้ว มีเล่อที่มาในครั้งนี้ ที่แท้เขาคือใครจึงกลายเป็นปัญหาที่สรรพชีวิตให้ความสนใจกัน ในอดีต กล่าวสำหรับคนแล้ว ไม่อาจให้คนรู้ได้ว่ามีเรื่องการรับช่วงต่อตำแหน่งพระพุทธ ยิ่งไม่อาจให้คนรู้ว่าเทพในกลุ่มนั้นคือใคร แต่เมื่อพูดกันภายในเขตแดนของเทพเซียนในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า นั่นก็ไม่เป็นไร

เช่นนั้นก็พูดได้ว่าบรรดามีเล่อ ที่องค์ศากยมุนีตรัสนั้นที่จริงก็อยู่ในยุคปลายคือมีเล่อฝอที่ลงมาสู่โลกช่วยเหลือคนในช่วงสุดท้ายของมนุษยชาติที่จริงเรื่องนี้ในโลกก็มีบางคนรู้ไม่เพียงแต่ในฝั่งบูรพาในสังคมตะวันตกก็มีบางคนรู้ผู้ที่จะมาจริงๆคือมีเล่อเนื่องจากในเวลาที่ว่านี้ เทพที่อยู่ในหมู่พระพุทธเป็นผู้ช่วยเหลือเพียงหนึ่งเดียวของสรรพชีวิตในจักรวาล เป็นราชาที่สูงที่สุดในบรรดาราชาแห่งสวรรค์อาศัยตำแหน่งพระพุทธมีเล่อ มาช่วยเหลือสรรพชีวิตของจักรวาลในเมื่ออาศัยตำแหน่งมีเล่อฝอเช่นนั้น ก่อนที่จะลงมาสู่โลก เขาคือใครกันละคือผู้ที่ลงมาจากที่สูงกว่าเป็นผู้ที่เคยจุติลงมาในระดับชั้นมากมายที่ต่างกันทั้งหมดนั้นในขณะที่ก้าวลงมาทีละชั้นๆ ก็เคยเป็นเทพในแต่ละชั้นนั้นล้วนมีตำแหน่งทางธรรมของระดับชั้นที่ต่างกันในเวลานั้นเมื่อลงมาถึงโลกแห่งธรรม ก็เป็นพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ฝ่าหลุนหรือเรียกอีกอย่างว่าพระผู้ศักดิ์ผู้หมุนธรรมจักร (เสียงปรบมือ)

ในสภาพการณ์ทั่วไป ผู้ที่ลงมาโดยตรงจากระดับชั้นสูงข้างบน มารับช่วงต่อจากเทพองค์หนึ่งองค์ใดเลยนั้นเรื่องอย่างนี้มีปรากฏน้อยมากแต่เทพที่เกิดอยู่ในระดับชั้นเดียวกัน นั้นเป็นเรื่องปกติไม่จำเป็นว่าต้องบำเพ็ญขึ้นมาจากข้างล่างทั้งหมดหรือพูดว่า ที่เกิดอยู่บนสวรรค์ตามปกตินั้นมีมากที่จัดให้ลงไปบำเพ็ญจากข้างล่างขึ้นมานั้น นับจากมีตรีภูมิเป็นต้นมา ก็มีไม่น้อย ดังนั้นต่อมาภายหลัง ผู้ที่สืบต่อตำแหน่งของพระพุทธ หรือ เทพองค์นั้น ก็เป็นวิธีการที่ปรากฏทั่วไปแล้วพระศักดิ์สิทธิ์ฝ่าหลุนก็คือ มีเล่อที่ลงมาสู่โลกช่วยคนในยุคนี้ และมีเล่อก็เป็นชื่อตำแหน่งหนึ่งของพระพุทธไปแล้ว องค์ศากยมุนีตรัสว่า มีเล่อที่อยู่ในหมู่ศิษย์ของพระองค์ในปีนั้น ขณะนั้นมีมรรคผลพระโพธิสัตว์ สิ่งนี้ในความคิดของผู้คน โดยเฉพาะคือในศาสนาจึงเข้าใจกันว่า ก่อนที่มีเล่อยังไม่ลงมาสู่โลกนั้น ทรงมีมรรคผลพระโพธิสัตว์พอลงมาสู่โลกช่วยคน เวลาที่หยวนหมั่นก็พอดีได้มรรคผลพระยูไลหรือคือมรรคผลสุดท้ายของพุทธะนี่คือหลักการปกติโดยทั่วไปที่องค์ศากยมุนีพุทธทรงตรัส ไม่ใช่สภาพการณ์ทั้งหมดของมีเล่อ หรือรูปธรรมของสภาพการณ์ ของมีเล่อองค์ไหน ที่จริงในปีนั้นเรื่องพระศักดิ์สิทธิ์ฝ่าหลุน ที่องค์ศากยมุนี ทรงตรัสถึงนั้น ตรัสไว้อย่างละเอียดมาก มากมายอย่างยิ่งทุกท่านทราบว่าคัมภีร์พุทธศาสนานั้นจัดทำขึ้น หลังจากองค์ศากยมุนีไม่ทรงอยู่ในโลก ได้ 500 ปีแล้วฉะนั้นกล่าวสำหรับคนรุ่นหลัง ในระหว่างการเล่าสืบต่อๆกันมานั้น คำพูดที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ก็ค่อยๆสูญหายไปมากมายเมื่อเขียนลงในคัมภีร์พุทธศาสนา คำพูดจำนวนมากก็ไม่ใช่คำพูดเดิมขององค์ศากยมุนีพุทธแล้วโดยเฉพาะไม่สามารถจะสะท้อนคำพูดที่องค์ศากยมุนีทรงตรัสไว้ในขณะบรรยายธรรมนั้น ออกมาได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อมเอยเวลาและสถานที่เอยทั้งหลายทั้งปวงที่ทรงเจาะจง ได้อย่างถูกต้องแม่นยำดังนั้นจึงไม่ได้บันทึกเรื่องสภาพการณ์ทั้งหมดที่พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ฝ่าหลุน ลงมาสู่โลก เอาไว้

ตรงนี้ ข้าพเจ้าไม่ใช่จะพูดว่า คัมภีร์พุทธศาสนาไม่ดีในอดีตคัมภีร์พุทธของเขานั้นสามารถใช้บำเพ็ญได้มีพระพุทธดูแลอยู่แต่เพราะชาวโลกนั้นตกอยู่โลกที่ชั่วร้ายด้วยเบญจพิษดังนั้นสวรรค์จึงกำหนดไว้ว่าหลักธรรมที่จะเหลือทิ้งไว้ให้คนนั้น ไม่สามารถเหลือ เป็นคัมภีร์ที่แท้จริงทั้งหมดไว้ให้ได้ดังนั้นคำพูดเดิมมากมายที่องค์ศากยมุนีทรงบรรยายไว้จึงไม่สามารถ บันทึกไว้ได้ในเวลานั้นกล่าวตามคำพูดของคนนี่ก็คือเจตนารมณ์ของสวรรค์กล่าวตามคำพูดของเทพ คือความต้องการของการเจิ้งฝ่าเหตุใดคำพูดเดิมของพระเยซูที่ทรงบรรยายไว้ จึงถูกจัดทำโดยการหวนระลึกของคนรุ่นหลังเหตุใดธรรมะเต๋าที่เหลาจื่อบรรยายไว้ชั่วชีวิตจึงเหลือไว้เพียง 5000 คำละก็เพราะไม่อาจเหลือคัมภีร์ที่แท้จริงทั้งหมดไว้ให้โลกที่ชั่วร้ายได้เทพชั้นสูงมากไม่อนุญาตให้เหลือคัมภีร์ที่แท้จริงทั้งหมดให้มนุษย์ที่จริง การที่ไม่เหลือคัมภีร์ที่แท้จริงไว้ให้คน ประการหนึ่งเป็นเพราะสังคมมนุษย์ไม่ใช่สังคมของเทพ ตรีภูมิควรจะเป็นโลกของหลักการที่กลับกัน การเหลือคัมภีร์ที่แท้จริงเป็นการลบหลู่อย่างหนึ่งต่อเทพ มีเพียงดินแดนแห่งธรรมะกับดินแดนต่างๆที่สูงกว่าจึงจะมีหลักธรรมที่แท้จริง กับคัมภีร์ที่แท้จริงของโลกพระพุทธ-เทพมีอีกสาเหตุหนึ่งคือเทพนั้น ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรไม่อาจจะแสดงออกมาอย่างง่ายๆเพียงเพื่อจุดมุ่งหมายหนึ่งดังนั้นเขาจะมีองค์ประกอบมากมายอยู่ในนั้นพวกเขาทราบว่าการสร้างตรีภูมิกับมนุษยชาติ และจุดมุ่งหมายของการดำรงอยู่ที่แท้จริงนั้น คือเพื่อจุดมุ่งหมายที่จะใช้ในการเจิ้งฝ่าพวกเขาไม่คิดจะเหลือหลักธรรมที่ตนเคยพูดเอาไว้ ไปรบกวนต่อต้าฝ่าที่แท้จริงของจักรวาลที่สุดท้ายจะถ่ายทอดในระหว่างการเจิ้งฝ่านี่คือมูลเหตุที่แท้จริงแต่ไม่ว่าคนรุ่นหลังจะรำลึกขึ้นมาก็ดีจัดทำขึ้นมาเป็นคัมภีร์ก็ดีนั่นคือการที่คน มุ่งสู่ความดีงามคนกำลังแสวงหาเทพนั่นก็เป็นคนละเรื่องแล้ว

ศิษย์: ในจ้วนฝ่าหลุน ที่ท่านอาจารย์พูดถึงข้อกำหนดของการห้ามดื่มเหล้านั้น รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วยใช่หรือไม่อย่างเช่นในเวลากินข้าว ดื่มเบียร์สักแก้วแทนเครื่องดื่ม (ที่ประชุมหัวเราะ) มื้อเช้าทานโจ๊กชามหนึ่งเหล้าข้าวเหนียวหรือในเวลาปกติ บางครั้งทานช้อกโกเลตผสมแอลกอฮอล์สักแท่ง(ที่ประชุมหัวเราะ) ถือว่าเป็นการละเมิดข้อกำหนดหรือไม่

อาจารย์: ถ้ารับรู้ได้จริงว่า บำเพ็ญเพื่ออะไรเรื่องพวกนี้ล้วนสามารถเข้าใจได้เพียงแต่ว่าสังคมยุคนี้ทำอะไรเสียจนยุ่งเหยิงไปหมดแล้วท่านไม่ดื่มเหล้าก็ผสมองค์ประกอบของเหล้าเข้าไปท่านไม่ได้ดื่มเหล้า แต่ในท้องท่านก็อาจมีเหล้าอยู่แล้วเพราะสังคมนี้ได้กลายเป็นอย่างนี้ไปแล้วและไม่ใช่ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกท่านก็ไม่ทานอาหารแล้วและการดำเนินชีวิตในสังคมตะวันตก ก็เคยชินกับปัญหานี้แล้วโดยเฉพาะชาวฝรั่งเศส เวลาทานข้าวก็ดื่มเหล้าหนึ่งแก้ว เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องดื่มผู้คนต่างทำเช่นนี้กันหมดตัวเองไม่ทำเช่นนี้คนในบ้านจะรู้สึกแปลกประหลาดดังนั้นในเวลาที่ถ่ายทอดฝ่าในปีนั้น ข้าพเจ้าจึงพูดว่าถ้าเป็นสภาพการณ์อย่างนี้ผู้ฝึกใหม่ท่านก็ดื่มถ้วยเล็กๆสักถ้วยก็ไม่เป็นไรการบำเพ็ญใช่ไหมที่ดูก็คือใจคนแต่กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญ ถ้าจะก้าวหน้าก็ต้องปฏิบัติต่อการบำเพ็ญอย่างเข้มงวดถ้าหากสามารถกำหนดต่อตัวเองอย่างเข้มงวดได้จริงเช่นนั้นทุกท่านก็จะสามารถทำด้านนี้ได้ดีหน่อย หากตนเองรู้สึกไม่เห็นความสำคัญกับด้านนี้ก็จะย่อหย่อนไปหน่อยจะมีความแตกต่างกันเช่นนี้

พูดถึงตรงนี้นะข้าพเจ้าจะขอพูดถึงตัวเองสักเล็กน้อยพวกท่านล้วนทราบว่าหลายปีก่อน อาจารย์มักจะไม่อยู่ประจำที่หนึ่งๆเพราะในท่ามกลางการประทุษร้ายนั้นสิ่งชั่วร้ายจำนวนมหาศาลของอีกมิติ พากันตระเวนหาข้าพเจ้าไปทั่วในตอนนั้นองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายมีมากมายเหลือเกินเต็มไปหมดในมิติต่างๆของตรีภูมิพวกมันก็สามารถควบคุมคนชั่วค้นหาข้าพเจ้าจนพบได้แล้วรบกวนข้าพเจ้าในการรวมพลังเจิ้งฝ่า กับการกวาดล้างสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงย้ายสถานที่อยู่เสมอในเวลานั้น โดยพื้นฐานแล้ว ก็อยู่ในรถยนต์ทั้งวันเดินทางอยู่ทุกวันบทกลอนที่ข้าพเจ้าเขียนไว้ว่า “รถวิ่งนับแสนลี้” ที่แท้ก็คือสภาพการณ์ในเวลานั้นเคลื่อนย้ายอยู่เสมอ ร่วมกับการป้องกันของเทพและพลังกงที่ยิ่งใหญ่ซึ่งกล่าวสำหรับสิ่งชั่วร้ายแล้ว คือการซ่อนอำพรางตัวทั้งหมดสิ่งชั่วร้ายก็ตรวจไม่พบว่าข้าพเจ้าอยู่ที่ไหนโดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครรู้ว่าข้าพเจ้าอยู่ที่ไหนจุดประสงค์คือข้าพเจ้าต้องการกวาดล้างองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายโดยเร็วเพิ่มความเร็วของวิถีการเจิ้งฝ่ายังมีอีกคือ เพื่อไม่ให้การจัดการเรื่องต่างๆของการเจิ้งฝ่า ถูกรบกวนในขณะเดียวกันข้าพเจ้าก็ดูว่าผู้ฝึกทำกันอย่างไรบ้างเช่นนี้แล้วก็จะมีปัญหาของการกินอยู่ ในการเดินทางใช่ว่าไปถึงไหนก็จะมีร้านอาหารจีนอยู่ (ที่ประชุมหัวเราะ)บ่อยครั้งไปทานอาหารอเมริกันอาหารญี่ปุ่นอาหารเกาหลีอาหารยุโรปอะไรๆข้าพเจ้าก็ทานได้แต่มีร้านอาหารหลายๆแห่งท่านเข้ามาทานแต่อาหารไม่ดื่มเครื่องดื่มเจ้าของร้านก็ไม่ค่อยพอใจ(หัวเราะ)โดยเฉพาะเมื่อคนรอคิวกันมากเพราะร้านอาหารจำนวนมากหารายได้จากเครื่องดื่มเป็นหลักข้าพเจ้าจึงคิดวิธีการหนึ่งเดี๋ยวนี้มีเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ข้าพเจ้าจึงเอาเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ยอมจ่ายสักหน่อยเมื่อพูด ก็ต้องพูดกันอย่างนี้แต่ไม่ใช่บอกให้พวกท่านเลียนแบบข้าพเจ้า

พูดถึงตรงนี้ข้าพเจ้านึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้หลายปีมานี้ข้าพเจ้าไม่ได้บรรยายฝ่าเรื่องหนึ่งให้กับทุกท่านเมื่อตอนที่การประทุษร้ายรุนแรงมาก โดยเฉพาะในปีค.ศ.2000ในขณะที่ผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่เปิดโปง การกุข่าวเท็จโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับข้าพเจ้าของพวกชั่วร้ายนั้นมีผู้ฝึกคนหนึ่งพูดออกมาประโยคหนึ่งทำให้ข้าพเจ้าประทับใจอย่างลึกซึ้งและต้องแก้การรับรู้ให้ถูกต้องหัวหน้ามารกับคอมมิวนิสต์จีนกุข่าวเท็จกับผู้ฝึกว่า อาจารย์ของพวกท่าน มีเงินอย่างนั้น อย่างนี้พักอยู่ในห้องพักหรูหราที่ปักกิ่ง กับ ฉางชุนใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยอย่างไรบ้างในเวลานั้น ที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่าอยู่ในประเทศจีน การดำรงชีพของข้าพเจ้านั้นเรียบง่ายมากผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่งพูดว่าอาจารย์ของพวกเรานั้นดีที่สุดไม่ใช่เป็นอย่างนี้ถ้าหากอาจารย์ของพวกเราเป็นเช่นว่านั้น ฉันก็ไม่เอาแล้วในใจข้าพเจ้าเวลานั้นยากจะรับได้ข้าพเจ้ารู้สึกเห็นใจและเข้าใจได้ถึงความทุกข์ยากของเทพที่เคยลงมาช่วยคนในปีนั้นยิ่งขึ้นการบำเพ็ญนั้นคือ การบำเพ็ญตนเองทำไมต้องดูคนอื่นด้วยละ

ข้าพเจ้าสอนทุกท่านบำเพ็ญแต่ไม่เท่ากับว่าข้าพเจ้าก็เหมือนพวกท่านที่กำลังบำเพ็ญหากเป็นเช่นนี้พวกเราไม่ดีแล้วพวกท่านก็ไม่บำเพ็ญกันแล้วใช่เช่นนี้ไหมในฝ่าที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดให้พวกท่านไม่อาจพูดว่าผู้เป็นอาจารย์ต้องบำเพ็ญอย่างทุกข์ยากเหมือนกับคนที่บำเพ็ญ เพราะข้าพเจ้านั้นกำลังรับทุกข์แทนสรรพชีวิตจึงถูกสิ่งชั่วร้ายโจมตีโดยเฉพาะการบำเพ็ญต้าฝ่านั้น บำเพ็ญโดยไม่ออกจากโลกียโลก มีศิษย์ทุกระดับชั้นในสังคม จะสามารถเหมือนกับศิษย์ทั้งหมดได้อย่างไร และทำไมจะต้องเอาแต่ดำเนินชีวิตเหมือนกับผู้ฝึกที่มีกรรมหนักที่สุดหรือยากลำบากที่สุดถ้าหากสิ่งที่อาจารย์ทำไม่เหมือนกันกับท่านก็ไม่ได้ก็ไม่บำเพ็ญแล้วใช่ไหมอาจารย์ที่ช่วยเหลือพวกท่านก็ต้องเหมือนกับศิษย์นี่ไม่ใช่พิษร้ายของวัฒนธรรมพรรคของคอมมิวนิสต์จีนหรือ คน คิดที่จะให้อาจารย์ที่มาช่วยเหลือ ทนทุกข์พร้อมกับคนด้วยจริงๆจึงจะยอมรับอย่างนั้นหรือที่จริงสิ่งที่ข้าพเจ้าจะบุกเบิกปัญหาที่ข้าพเจ้าจะแก้ไขในระหว่างการเจิ้งฝ่าก็รวมถึงปัญหาที่เทพซึ่งลงมาช่วยคน จะไม่ถูกสรรพชีวิตในตรีภูมิทำร้าย นับจากนี้เป็นต้นไปเทพที่ช่วยเหลือคนนั้นมาช่วยคนไม่อาจจะเหมือนกับคนได้ในอดีตการแสดงออกของพวกเขานั้นยากลำบากเหมือนกับคน กระทั่งยังทุกข์ยากกว่าคนเสียอีกเพราะว่าคนนั้นช่วยเหลือได้ยากเทพเองช่วยแบกรับบาปกรรมแทนคนและเพื่อสอนคนด้วยการกระทำบอกให้คนศึกษามีเจตนาทำเช่นนี้ให้คนบอกให้คนทำดีเทพนั้นไม่มีบาปกรรมจะทุกข์ยากได้อย่างไรกันแต่ถูกกระทำเพราะกรรมของคน

อันที่จริงเทพที่มาช่วยคน ไม่อาจจะเหมือนกับผู้ที่ถูกช่วยเหลือคนๆหนึ่งตกลงไปในบ่อโคลนแล้วบอกว่า ฉันอยู่บนฝั่งดึงท่านขึ้นมา ท่านจะไม่ยอมท่านพูดว่า คุณต้องกระโดดลงมา เป็นเหมือนกับฉัน จึงจะช่วยฉันได้ใช่อย่างนี้หรือไม่ไม่มีเหตุผลเช่นนี้ในระหว่างการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายครั้งนี้ มีผู้ฝึกเท่าไรที่มีจิตใจอย่างนี้ ก็มองเห็นได้แล้วหลังจากได้ยินข่าวโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับอาจารย์ ก็ตกลงไปที่ผ่านมาในการบรรยายธรรมข้าพเจ้าเคยพูดถึงเหตุผลหนึ่ง อย่างเช่น มีวิธีพูดอย่างหนึ่งในวัฒนธรรมพรรคของคอมมิวนิสต์จีน ว่าเวลาที่จะบอกให้คนอื่นทำดี ตนเองต้องทำดีก่อนเช่นนั้นในขณะที่มีคนกำลังทำเรื่องไม่ดี พอถูกคนอื่นชี้ออกมาแล้ว ก็จะพูดว่าคุณยังทำดีไม่ได้ คุณอย่ามายุ่งกับฉันคุณจะยุ่งกับฉัน ก่อนอื่นคุณต้องทำดีก่อน นี่เป็นหลักการที่บิดเบือนแบบเดียวกับการรับรู้ข้างต้น อาจารย์ที่มาช่วยคน ไม่มีปัญหาการทำไม่ดีมันเป็นหลักการที่เลวของวัฒนธรรมที่บิดเบือนของพรรคมาร หรือพูดว่าเทพไม่สนใจว่าจะใช้รูปแบบอะไรมาช่วยคนดังนั้นเทพองค์นี้ก็ต้องเหมือนกับคนเช่นนี้ก็ไม่ใช่หลักการที่แท้จริงแต่เทพก็สามารถจะเลือกใช้คำพูดหรือการกระทำในการสั่งสอนคนนั่นเป็นความเมตตาของเทพและหาใช่ว่าเทพสมควรต้องเป็นเช่นนั้นจุดนี้ทุกท่านต้องเข้าใจให้ชัดเจน(เสียงปรบมือ)องค์ศากยมุนีก็ดีพระเยซูก็ดี นั้นทรงทนทุกข์อย่างมากอยู่ในโลกก็เพื่อคนที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อยแต่เนื่องจากการแบกรับกรรมแทนคนมากเหลือเกินขณะเดียวกัน ในด้านนี้ ยังมีเหตุที่เกิดจากหลักธรรมเก่าของจักรวาลที่ไม่สามารถ หยวนหรง(ปรับแก้อย่างสมบูรณ์แบบ)สภาพการณ์ชนิดนี้ได้ทำให้พวกเขาต้องภิกขาจารในหมู่คน และถูกคนประทุษร้ายล้วนแต่ทุกข์ยากมากตราบชั่วชีวิตในจุดนี้ทุกท่านต้องกระจ่างชัด

ต่อจากเรื่องที่ข้าพเจ้าพูดเมื่อครู่ในอาหารที่มีองค์ประกอบของเหล้าอยู่นั้น ในช้อกโกเลตมีแอลกอฮอล์อยู่พวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่ผู้ที่กำหนดตัวเองอย่างเข้มงวดได้ ก็จะทำได้ดีหน่อยสำหรับผู้ฝึกใหม่ หรือผู้ฝึกที่ศึกษาฝ่าไม่มาก ก็ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องเหล่านี้ ก็เข้าใจว่าเขาทำได้แย่มากยึดกุมให้ดีด้วยตัวเองเถิดฝ่านั้นก็บรรยายกันได้เช่นนี้อาจารย์บอกให้พวกท่านบำเพ็ญโดยสอดคล้องกับสภาพของคนธรรมดาสามัญมากที่สุดแต่โดยสรุปแล้วต้องเรียกร้องตนเองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป เรียกร้องตนเองให้สูงยิ่งขึ้นอีกนี่ก็มีความแตกต่างกันในฐานะผู้บำเพ็ญต้าฝ่าหากพูดว่าฉันต้องดื่มเหล้านั่นก็คือจิตยึดติด

ศิษย์: จักรวาลทั้งหมดได้ทำไปจนถึงที่สุดแล้วในการเจิ้งฝ่า ประวัติศาสตร์กำลังจะเข้าสู่ ช่วงเวลาใหม่แล้วแต่คำพูดที่ใช้แสดงความเคารพต่ออาจารย์ ยังไม่เป็นเอกภาพ (ที่ประชุมหัวเราะ)

อาจารย์: จะปฏิบัติอย่างไรต่ออาจารย์หรือที่จริงนับตั้งแต่ข้าพเจ้าเริ่มถ่ายทอดฝ่าก็ได้พูดอย่างชัดเจนแล้วผู้คนจะเรียกข้าพเจ้าว่าอะไรก็ได้ทั้งนั้นท่านเรียกชื่อของข้าพเจ้าเรียกข้าพเจ้าว่าอาจารย์อะไรก็ได้อาจารย์ไม่เกี่ยงแต่ว่า ถ้าท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าจริงๆท่านจะเรียกชื่ออาจารย์โดยตรงนั้น ไม่ถูกคนธรรมดาสามัญเรียกชื่อข้าพเจ้าไม่เป็นไรเขาเรียกอะไรก็ได้ศิษย์ต้าฝ่าต้องเรียกอาจารย์เรียกครูได้ทั้งนั้นท่านอยากจะเรียกอะไรพวกท่านก็เรียกอย่างนั้น แต่อย่าได้เรียกว่า พระพุทธ เพราะไม่ว่าอย่างไรอาจารย์ก็ใช้ร่างกายคน บรรยายฝ่ากำลังช่วยเหลือพวกท่านโดยใช้รูปแบบของร่างกายคน เมื่ออยู่ในโลก ก็ปรากฏออกมาโดยอาศัยร่างกายคนร่างคนนี้ไม่อาจเรียกเป็นพระพุทธได้ถ้าเรียกร่างคนว่าพระพุทธ ก็เป็นการลบหลู่พระพุทธเช่นนั้นผู้ฝึกบางคนคิดในใจว่าในใจฉันรู้ว่าท่านคือใครนั่นคือท่านรู้อยู่ในใจ ( ที่ประชุมหัวเราะ ,ปรบมือ) ในใจท่านจะเรียกอะไรก็ไม่มีปัญหา (อาจารย์หัวเราะ)

ศิษย์: ศิษย์ต้าฝ่าเขตหนานชงเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ขอส่งความคารวะอย่างสูงมายังท่านอาจารย์ฝากสวัสดีท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ คนที่อยู่ไกลบนเขตภูเขานั้นไม่อาจได้รับข่าวสาร จะทำอย่างไรดี

อาจารย์: ขอบใจศิษย์ต้าฝ่า เขตหนานชงไม่เป็นไรทุกท่านอย่าได้ร้อนใจ เรื่องมากมาย ไม่ใช่มีฝ่าเซินของอาจารย์ทำอยู่หรือ ยังมีเหล่าเทพที่แสดงบทบาทที่ถูกต้องกำลังช่วยเหลืออยู่อีกและในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มีศิษย์ต้าฝ่า มากมายอย่างนั้น เรื่องมากมายพวกเขาล้วนสามารถไปทำได้หากพวกเขาไม่ได้ยินจริงๆเช่นนั้นก็มีวิธีที่จะทำได้หากตกหล่นไปจริงๆก็สามารถจัดการได้ที่จริงไม่อาจตกหล่นได้ทุกท่านทราบไหมว่า หลังจากที่ “จิ่วผิง” ออกมาเพียงแค่หนึ่งเดือนทั่วประเทศจีนก็รู้กันแล้วนี่คือสิ่งที่ให้กับคน โดยเฉพาะคนจีน ต้องให้ทุกๆคนได้มีโอกาส (เสียงปรบมือ)ในชนบทที่ห่างไกลนั้น มีบางแห่งค่อนข้างห่างไกลข่าวสาร(ไกลปืนเที่ยง)เทพต่างกำลังช่วยถ่ายทอดให้ส่งต่อไปไม่ช้าก็ล้วนจะทราบกันเพราะทุกๆคนต่างต้องแสดงท่าที ในช่วงที่สำคัญที่สุดนี้

ศิษย์: การพูดกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่มากมาย โดย เฉพาะคือสมาชิก 60 ล้านคนของคอมมิวนิสต์จีนให้สามารถกระจ่างในธาตุแท้ของพรรคมารได้ จนแตกหักกับมันได้อย่างถึงที่สุดนั้น จำเป็นต้องมีขั้นตอนหนึ่ง(ระยะเวลาหนึ่ง) ถ้าหากในวันที่เริ่มต้นการคิดบัญชีกับพรรคชั่วคนเหล่านี้ที่ถูกตีตราประทับจะเป็นอย่างไรบ้าง

อาจารย์: เรื่องที่เทพจะทำนั้นย่อมจะละเอียดรอบคอบอย่างแน่นอน

โอกาสที่ให้กับแต่ละคนนั้นเท่าเทียมกันในอนาคตพวกท่านจะเห็นได้หมดหากในการเจิ้งฝ่าครั้งนี้พูดว่าไม่ได้ถ่ายทอดไปถึงหูใครจะเป็นไปได้หรือขณะ ที่ชาวโลกกำลังหลบหลีกการประทุษร้ายแล้วพูดว่า ไม่ได้ยินต้าฝ่ามาก่อนนั้นไม่จริงแน่ละการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าในระหว่างการเจิ้งฝ่านั้นจะไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าคนทั้งหมดจะสามารถเป็นศิษย์ต้าฝ่าได้แต่นี่เกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ของการคงอยู่หรือดับสูญของสรรพชีวิตการคงอยู่ของตรีภูมิล้วนแต่เพื่อการเจิ้งฝ่าครั้งนี้สุดท้ายเรื่องใหญ่อย่างนี้ของการช่วยเหลือสรรพชีวิต จะไม่ถ่ายทอดให้คนหนึ่งคนใด ไม่ถ่ายทอดให้สรรพชีวิตข้าพเจ้าผู้ทำการเจิ้งฝ่าย่อมจะไม่ให้อภัยพวกเขา (เสียงปรบมือ)คนนั้นล้วนจะทราบกันหมดสักคนเดียวก็ไม่อาจให้ตกหล่นจะเลือกอะไรนั่นเป็นเรื่องของพวกเขาเองนี่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดทั่วทั้งตรีภูมิสรรพชีวิตในตรีภูมินั้น ล้วนสร้างขึ้นมาเพื่อเรื่องนี้กลับจะตกหล่นคนในวันนี้ได้หรือนั่นย่อมไม่ได้ข้าพเจ้าคิดว่านี่ไม่ควรมีปัญหานะ

ศิษย์: ขอเรียนถามท่านปรมาจารย์เร็วๆนี้มีผู้ฝึกส่วนหนึ่งรู้สึกว่า ถูกสสารอีกมิติบีบรัด รุนแรงมากนี่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ เจิ้งฝ่าหรือไม่

อาจารย์: ช่วงก่อนหน้านี้ มีผู้ฝึกบางคนไอ ผู้ฝึกบางคนเกิดอาการแพ้ที่ไม่ปกติบางอย่างโดยเฉพาะคือ หลังจาก “จิ่วผิง”ออกมาได้ช่วงหนึ่งแล้วก็คือการกระทำต่อองค์ประกอบในร่างกายของคนโดยวิญญาณร้ายของพรรคชั่วขณะที่ทุกท่านฟาเจิ้งเนี่ยน ต้องกำจัดมันทิ้งไปสำหรับศิษย์ต้าฝ่า มันไม่สามารถส่งผลได้มากนักแต่มันสามารถรบกวนได้เมื่อไม่นานมานี้รวมถึงบรรดาการรบกวนที่เกิดขึ้นในด้านอื่นโดยพื้นฐานล้วนเป็นการกระทำขององค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้

โดยพื้นฐานแล้ว องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นทั้งในและนอกตรีภูมิ ที่กดอัดลงมาเมื่อ วันที่ 20 กรกฎาคม 99 นั้นถูกกวาดล้างไป ไม่เหลืออะไรแล้วคือก่อนที่พลังยิ่งใหญ่ของการเจิ้งฝ่า ยังมาไม่ถึงชั้นผิวนอกของมิตินี้ ที่นี่ยังจะมีองค์ประกอบที่อิทธิพลเก่าเคยสร้างเอาไว้อยู่บวกกับองค์ประกอบของวิญญาณร้ายของพรรคชั่ว ซึ่งจะยังคงทำชั่วกันอยู่เพราะว่าในมิตินี้ก็มีพลังกงที่ข้าพเจ้าเหลือไว้ตั้งนานมาแล้วยังมีเหล่าเทพถูกต้องอีกจำนวนหนึ่ง กับศิษย์ต้าฝ่า และองค์ประกอบที่ถูกต้องของศิษย์ต้าฝ่า ซึ่งได้กวาดล้างองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าไปจนเหลือไม่ถึง หนึ่งในร้อยล้านส่วน ของที่ผ่านมาสิ่งชั่วร้ายจำนวนมากมายล้วนถูกกวาดล้างไปแล้วในปัจจุบันมิติชั้นผิวนอกมีอยู่เพียง ร้อยละ 8-9 (เสียงปรบมือ)และองค์ประกอบของวิญญาณร้ายของพรรคชั่ว ก็กำลังถูกดับสลายเป็นบริเวณกว้างใหญ่แล้ว โดยเฉพาะช่วงเร็วๆนี้กวาดล้างไปอย่างรวดเร็วมากมิติอื่นที่เจิ้งฝ่าเสร็จแล้ว ล้วนแต่สลายไปแล้ว ขณะนี้ในมิติชั้นผิวนอกมีเพียงไม่ถึง 1 ใน หมื่นของยอดรวมในอดีต ประมาณว่าเหลืออยู่ในมิติชั้นผิวนอกเพียงร้อยละ7 สนามที่ต้าฝ่าวาง(แผ่คลุม)ลงไปในโลกที่ ครอบครองมิตินี้ควรจะกระจายไปได้ถึงร้อยละ 45เมื่อดูจากสัดส่วนนี้องค์ประกอบของอิทธิพลเก่าที่เหลือไว้ในมิติชั้นผิวนอก กับพวกปีศาจทราม บวกกับองค์ประกอบของวิญญาณร้ายของพรรคชั่วรวมกันแล้วเป็นร้อยละ 15สนามที่ต้าฝ่าวางลงมาในมิตินี้ ครอบครอง ร้อยละ 45 นี่ยังไม่ได้นับรวม ผลกระทบของศิษย์ต้าฝ่าเองเข้าไปด้วยเมื่อข้าพเจ้านับรวมองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าเข้าด้วย ก็มีเพียงร้อยละ 15นี่ข้าพเจ้าพูดถึง ก่อนที่พลังเจิ้งฝ่าที่ยิ่งใหญ่จะมาถึง ชั้นผิวนอก ขณะนี้สนามมิติชั้นผิวนอกของมนุษย์นั้นองค์ประกอบของต้าฝ่าได้ครอบครองสนามไว้ร้อยละ 45 แล้วยังไม่นับตัวศิษย์ต้าฝ่าเองเข้าไป

ศิษย์: เรียนถามว่าควรแบ่งแยกการงานกับ การบำเพ็ญอย่างไรดี ปัจจุบันโครงการมากมายของพวกเรามีปัญหาการจัดการอยู่

อาจารย์: ถ้าเป็นเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า ที่แท้โดยตัวมันเองก็คือ การบำเพ็ญแต่ไม่อาจพูดว่า เมื่อทำเรื่องของต้าฝ่าแล้ว ก็ แทนการศึกษาฝ่าได้แล้วนั่นไม่ถูกข้าพเจ้าพูดแล้วมิใช่หรือว่าทั้งสามเรื่องล้วนต้องทำทั้งสามเรื่องล้วนต้องทำให้ดี ใช่ไหม

นอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ผู้ฝึกบางคนได้ก่อตั้งรูปแบบวิธีการของสื่อ หลายๆอย่างขึ้นมาหรือรูปแบบอื่นในลักษณะของบริษัทในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าบริหารจัดการตามรูปแบบบริษัทของคนธรรมดาสามัญนี่ไม่ผิดทุกท่านอย่าเข้าใจว่านี่ ผิดหากเรื่องใดไม่สามารถจัดการมันอย่างได้มาตรฐานไม่แน่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าทำสื่อก็ดีก่อตั้งบริษัทก็ดีนี่ล้วนเป็นรูปแบบของสังคมมนุษย์คนที่นี้ มันมีรูปแบบการจัดการชุดหนึ่งศิษย์ต้าฝ่าสามารถถือเป็นกระจกสะท้อนได้ไม่อาจพูดว่ามันผิดแต่เมื่อถึงระยะหนึ่งแล้วบริษัทยังไม่สามารถเดินได้บนทางที่เที่ยงตรงก็จะมีความยากลำบากระดับหนึ่ง แต่จะต้องค่อยๆทำให้ได้เช่นเดียวกับการจัดการบริษัทยิ่งมีผลกระทบต่อการยืนยันความถูกต้องของฝ่าทั้งทางตรงและทางอ้อมได้ข้าพเจ้าคิดว่าทุกท่านก็พยายามร่วมมือกันให้ดีสิ่งที่มีผลดีต่อการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ก็พยายามทำมันให้ดี

ศิษย์: หลังจาก “จิ่วผิง”ออกมาแล้ว คนในบ้านที่ไม่บำเพ็ญบางคนไม่เข้าใจตรงนี้คือการสะท้อนว่าเมื่อก่อนการบำเพ็ญของศิษย์ไม่ดีพอ จะขจัดการรบกวนชนิดนี้ได้อย่างไร

อาจารย์: คนในบ้าน แต่ก่อนแม้จะเข้าใจแต่ก็ตื้นเขินมากท่านไม่ได้ให้เขาเข้าใจความจริง อย่างแท้จริง

หลังจาก “จิ่วผิง”ออกมา ได้เกิดสถานการณ์อย่างหนึ่งคือการประกาศลาออกแทนคนในบ้านคนในบ้านบางคนไม่ยอม“ไม่ทำไม่ได้” ฉันลาออกแทนให้คุณแล้ว (ที่ประชุมหัวเราะ) ที่จริงเขาไม่ยอม ก็ไม่ถูกจริงๆสามารถทำแทนผู้อื่นได้ แต่เขาต้องเห็นชอบด้วยเขาไม่เห็นชอบด้วย ก็ทำไม่ได้เทพล้วนมองที่การเลือกของคนเรื่องนี้สะท้อนว่าผู้ฝึกหลายคนนั้น อธิบายความจริงกับคนในบ้านได้ไม่ดีไม่เพียงพอหรือทำไม่ชัดเจนพวกท่านทราบไหมว่าสาเหตุที่สำคัญที่สุดคืออะไรก็คือท่านรู้สึกว่า เขาเป็นญาติฉัน ท่านไม่ได้ถือว่าเขาเป็นสรรพชีวิตหนึ่งท่านไม่ได้ถือเขาเหมือนกับ ชีวิตที่เป็นเอกเทศทั้งหลายท่านต้องไปอธิบายกับคนในบ้านอย่างละเอียดจริงๆจังๆเหมือนกับที่อธิบายกับชาวโลกเมื่อท่านถือว่าเขาเป็นญาติของตัวเองแล้วแสดงออกมาอย่างไม่เห็นความสำคัญแล้วก็บรรลุผลที่ดีมากไม่ได้กระทั่งท่านรู้สึกว่าเขาเป็นญาติฉันฉันสามารถทำแทนเขานั่นล้วนไม่ถูกองค์ประกอบของตรีภูมินั้น ล้วนแต่เพื่อการเจิ้งฝ่าวันนี้เรื่องที่ใหญ่อย่างนี้จะทำแบบขอไปทีนั้นไม่ได้ชีวิตหนึ่งๆนั้น ไหนเลยจะสั้นๆง่ายๆในเวลาวิกฤตชีวิตไหนจะสามารถถูกผู้อื่นแทนได้ชีวิตหนึ่งชีวิตใด จะไม่ให้โอกาสเขา ในการเลือกอนาคตของตัวเองได้ไหมในเวลาวิกฤต ชีวิต ต้องยืนยันความเป็นจริงให้กับตนเอง ดังนั้นทุกท่าน ที่ในบ้านมีสถานการณ์เช่นนี้ล้วนแต่ต้องอธิบายความจริงอย่างรอบคอบจะทำแทนเรื่องอะไรของคนธรรมดาสามัญในบ้าน ก็สามารถทำได้แต่เรื่องใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของชีวิตหนึ่งนั้น จะทำแทนไม่ได้ถ้าท่านคิดจะช่วยเหลือญาติจริงๆเช่นนั้นท่านก็ไปอธิบายกับเขา เหมือนกับการอธิบายความจริงกับคนอื่นเพราะด้านนั้นที่เข้าใจของคน ต่างทราบดีชาตินี้ฉันเป็นญาติของคุณชาติต่อมาไม่แน่ว่าจะเป็นญาติของใครพวกเรานั้น มีวาสนาต่อกันชาติเดียวก็เหมือนกับอยู่โรงเตี๊ยมน้อยหน่อยก็คืนหนึ่งรุ่งขึ้นต่างแยกย้ายกันไปใครจะแทนใครได้ละที่จริงก็เป็นเช่นนี้

ศิษย์: ควรจะผลักดันเรื่องการฟ้องร้องคนชั่วอย่างไร ในอัฟริกาสถานการณ์ปัจจุบันมักมีการรบกวนบทบาทของการฟ้องร้องเจียงในระหว่างการเจิ้งฝ่าเป็นอย่างไร

อาจารย์: เรื่องเหล่านี้ที่ทุกท่านทำกัน ข้าพเจ้าล้วนแต่ยอมรับ และทำได้ดีมากสามารถพูดว่า ได้ทำหลายเรื่องที่งดงามสร้างความหวาดหวั่นให้สิ่งชั่วร้ายกับคนชั่วได้ทำให้ชาวโลกรับรู้ต่อสิ่งชั่วร้ายได้แล้ว และกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต ล้วนแต่ก่อผลที่ดีมากในด้านต่างๆสมควรทำและไม่ได้ทำโดยสูญเปล่าพูดถึงว่าจะทำให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไรนั้นจะผลักดันกันอย่างไรอันนี้ต้องให้พวกท่านทำเองทำได้ระดับไหนก็ต้องดูพวกท่าน ที่จริงสำหรับการบำเพ็ญของแต่ละคนนั่นคือพวกท่านกำลังเดินบนเส้นทางของตัวเอง เรื่องเหล่านี้ทำได้ดีมากบางครั้งได้เห็นเรื่องเหล่านี้ที่พวกท่านทำข้าพเจ้านั้นร้องเชียร์พวกท่านอยู่จริงๆ

ศิษย์: ผมมีญาติคนหนึ่งเป็นสมาชิกพรรคในจีนแผ่นดินใหญ่ตัวเขาเองไม่อยากลาออกจากพรรคพอผมแนะให้ทำ ก็ไม่ฟังเมื่อถึงเวลากวาดทิ้ง จะเสียชีวิตหรือไม่

อาจารย์: (หัวเราะ) กวาดทิ้ง หรือไม่กวาดทิ้งเหลือรอดหรือไม่นี่เป็นเรื่องในวันหน้า ขณะนี้ได้แต่คิดช่วยเหลือคน ยึดติดกับอนาคตก็ไม่มีประโยชน์เพราะเจิ้งฝ่ามาถึงที่นี่ ก็จะมีมาตรฐานอยู่แต่มีจุดหนึ่งที่แน่นอนไม่ว่าพวกเราจะทำกันอย่างไรมีคนส่วนมากจำนวนหนึ่งซึ่ง จะช่วยเหลือไม่ได้แล้ว ในนี้อาจรวมถึงพวกที่ไม่อยากฟังความจริงเหล่านั้น ต่อความจริงไม่อยากรับฟัง คนที่ไม่อยากอ่าน “จิ่วผิง” นั่นก็เป็นการเลือกของพวกเขาเอง สิ่งที่ทุกท่านควรทำก็ทำไปหมดแล้วในระหว่างถูกประทุษร้าย ศิษย์ต้าฝ่ายังต้องช่วยเหลือสรรพชีวิต ฟันฝ่าความยากลำบากนานาชนิดไปบอกความจริงกับคน คนบางคนกลับไม่อยากฟังและศิษย์ต้าฝ่านั้นช่วยเหลือคนในขณะถูกประทุษร้าย ไม่อยากฟังไม่อยากอ่านนั่นก็เป็นวิธีการเลือกอย่างหนึ่งของคนไม่อยากจะได้รับการช่วยเหลือ ก็ได้แต่ตามพรรคมารไปแล้ว

ศิษย์: ก่อนบำเพ็ญและหลังบำเพ็ญ ไม่ได้ออกไปทำงานตลอดมาหลังบำเพ็ญ อยู่ในบ้านยิ่งมีเรื่องการเผยแพร่ฝ่ามากยิ่งขึ้น เช่นนี้นับว่าสอดคล้องกับรูปแบบสังคมของคนธรรมดาสามัญหรือไม่หรือว่าตอนนี้ต้องออกไปหางานทำ

อาจารย์: ถ้าหากด้านเศรษฐกิจของครอบครัวไม่ลำบากไม่มีภาระจะทำงานหรือไม่ทำงาน นั่นขึ้นอยู่กับท่านเองไม่มีปัญหาสอดคล้องกับรูปแบบการบำเพ็ญข้าพเจ้าทราบว่ามีผู้ฝึกบางคนยืมเงินไว้มากมายตัวเองไม่ไปทำงานบอกว่าตัวเองยืนยันความถูกต้องของฝ่าไม่มีเวลาทำงานเงินที่ยืมก็ชดใช้ไม่ได้นี่จึงเป็นปัญหาพวกท่านเคยคิดหรือไม่ในหลักการของฝ่า อาจารย์เคยพูดไว้ว่าติดหนี้ต้องชดใช้บำเพ็ญแล้วหรือหยวนหมั่นแล้วหนี้อะไรก็ไม่ชดใช้ทั้งนั้นก็ไปแล้วหยวนหมั่นเป็นเทพไปแล้วหนี้ที่ติดค้าง ใครจะชดใช้ละต่อให้ติดค้างศิษย์ต้าฝ่าด้วยกันก็ไม่ถูกต้องแน่ละผู้ฝึกบางคนบอกว่าไม่เอาฉันให้เธอนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งนั่นคือการมอบให้เป็นคนละเรื่องกับการติดค้างอย่าเดินสุดขั้วในใจนั้นกำลังคิดว่าเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่านี้กำลังจะจบสิ้นแล้วฉันติดค้างเธอ ฉันก็ไม่ต้องชดใช้แล้วพอถึงเวลาที่สิ้นสุด ก็จบกันแล้ว(ที่ประชุมหัวเราะ)นี่จะใช้ได้หรือความคิดนี้ถูกต้องไหมนั่นคือไม่รับผิดชอบข้าพเจ้าไม่ใช่พูดแล้วหรือว่าศิษย์ต้าฝ่าอยู่ตรงไหนก็ต้องเป็นคนดีใช่ไหมเพราะศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมากต่างก็ทำงานไปพลาง ยืนยันความถูกต้องของฝ่าไปพลางแน่ละหากพูดว่าฉันไม่จำเป็นต้องทำงานการเงินไม่มีปัญหา ฉันก็จากครอบครัวไปได้นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งทุกท่านต่างก็มีครอบครัวมีเรื่องทางสังคมต้องทำต่างก็บำเพ็ญอยู่ในสังคมมนุษย์ยืนยันความถูกต้องของฝ่าอยู่ในโลกียโลกเหตุใดจึงจงใจไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของฝ่าละแน่ละ คนเขาบอกว่าไม่ต้องการเงินบ้านของพวกเราไม่ต้องการให้เราทำงานนั่นเป็นคนละเรื่อง นั่นก็ไม่มีปัญหา

ศิษย์: ขอเชิญท่านอาจารย์ให้ความกระจ่าง ในความหมายที่ลึกซึ้ง ของ“หมุนหลุนสู่โลกมนุษย์”

อาจารย์: “หมุนหลุนสู่โลกมนุษย์” หมุนหลุนอะไรหรือแน่ละ คือฝ่าหลุน(เสียงปรบมือ) ฝ่าหลุน หมุนสู่โลก นั่นมิใช่เจิ้งฝ่าสู่โลกหรือคือความหมายนี้

ศิษย์: หลังจากที่จิงเหวิน “หมุนหลุนสู่โลกมนุษย์”ของท่านอาจารย์ ตีพิมพ์ออกมาศิษย์บางคนรู้สึกว่า จิงเหวินนี้ให้ลูกศิษย์อ่านศิษย์บางคน รู้สึกว่าควรตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ให้คนธรรมดาสามัญอ่านศิษย์ยึดกุมได้ไม่ดี

อาจารย์: ให้คนธรรมดาสามัญอ่านก็ได้ ในหมู่คนธรรมดาสามัญมีบางคนสามารถอ่านเข้าใจได้แต่ก็มีคนมากมายที่เลอะเลือน ก็จะอ่านไม่เข้าใจและอาจก่อให้เกิดผลที่ไม่ดี ขณะนี้สังคมมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้กันแล้วดังนั้นรูปธรรมของเรื่องเหล่านี้ พวกท่านหารือกันเองเถิดก็เหมือนกับภาพถ่ายของอาจารย์ที่ ใส่ไว้ในหนังสือพิมพ์ในเมื่ออาจารย์บอกว่าทำได้พวกท่านก็ทำกันแล้วไม่มีปัญหา แต่อย่านำสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียน หรือพูด พิมพ์เป็นใบปลิวแจก เรื่องเหล่านี้ทุกท่าน ต้องพยายามทำอย่างมีสติรับผิดชอบต่อฝ่ารับผิดชอบต่อการช่วยเหลือสรรพชีวิตและก็คือรับผิดชอบต่อตนเอง

ศิษย์: ในสังคมตะวันตก มีคนธรรมดาสามัญบางคน โดยเฉพาะปัญญาชนนักวิชาการ กระตือรือร้นในการค้นคว้าลัทธิพรรคคอมมิวนิสต์ชั่ว กับลัทธิมาร์กชั่วแต่คนธรรมดาสามัญเหล่านี้ หาใช่สมาชิกพรรคมารของประเทศจีนเรียนถามท่านอาจารย์สำหรับคนธรรมดาสามัญเหล่านี้พวกเราควรช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง

อาจารย์: ให้เขาลองอ่าน “จิ่วผิง”ซิท่านบอกเขาว่า ลองดูซิว่า การค้นคว้าของเรา เปรียบกับการค้นคว้าของพวกคุณ เป็นอย่างไรบ้างพวกเราออกมาจากสังคมนั้นการค้นคว้าของพวกเรานั้นได้ผ่านประสบการณ์มาด้วยตัวเองคุณลองดูซิว่าการค้นคว้าของใครทำได้ชัดเจนเรามาถกกันดู (หัวเราะ)(เสียงปรบมือ)

ศิษย์: ศิษย์ได้ฝ่าเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว ขอขอบพระคุณการช่วยเหลือด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์หลังได้ฝ่าศิษย์รีบเข้าร่วมงานของต้าฝ่าบางครั้งยุ่งเสียจนไม่มีเวลาฝึกพลังรู้สึกร้อนใจมากเรียนเชิญท่านอาจารย์กรุณาพูดอีกครั้งว่า จะเดินไปให้ดีบนเส้นทางการยืนยันความถูกต้องของฝ่า กับการบำเพ็ญส่วนบุคคลได้อย่างไร

อาจารย์: กล่าวสำหรับผู้ฝึกนั้นไม่มีทางลัดของการบำเพ็ญผู้ฝึกใหม่ก็เช่นกันคือบำเพ็ญไปอย่างจริงๆจังๆทำสามสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำให้ดีดูคล้ายธรรมดาๆธรรมานุภาพทั้งปวง ทุกสิ่งของการหยวนหมั่นในอนาคตของศิษย์ต้าฝ่าล้วนแต่มาจากสิ่งเหล่านี้อย่าร้อนใจและอย่าทำเรื่องที่เดินสุดขั้วก็คือให้ทำเป็นปกติ อย่างมีสติรูปแบบการบำเพ็ญของพวกท่านก็คือเช่นนี้ผู้มีใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่สุดท้ายย่อมสำเร็จ

ศิษย์: ผู้ฝึกชาวตะวันตกควรปฏิบัติอย่างไร ต่อเรื่องการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ ผู้ฝึกชาวตะวันตกที่เคยอยู่ในประเทศจีน ก็ได้รับผลกระทบจากวิญญาณคอมมิวนิสต์จีนด้วยไหม

อาจารย์: บางคนนั้นได้รับผลกระทบ บางคนไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากชาวตะวันตกมากมายไปประเทศจีน ไม่แน่ว่าจะกลืนเข้าไปอยู่ในแวดวงของคนจีนมีจำนวนมากที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่ก็มีบางรายที่คิดจะมุดเข้าไปในพรรคมารกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่มีปัญหา

ศิษย์: สวัสดีท่านอาจารย์ผมลาออกจากพรรคแล้วแต่ค่าสมาชิกพรรคนั้น จ่ายโดยผ่านการหักจากเงินเดือนทำอย่างไรดีครับ

อาจารย์: งั้นก็ถือเสียว่าถูกลัทธิมารฉกเอาไปก็แล้วกัน( ที่ประชุมหัวเราะ ปรบมือ ) ไม่เป็นไร

ศิษย์: ผู้ฝึกบางคนคิดจะลาออกแทนญาติที่เสียชีวิตไปแล้วจำเป็นหรือไม่

อาจารย์: ได้ไม่มีปัญหาเพราะว่าเสียชีวิตไปแล้วเขาไม่สามารถวิ่งมาฝั่งนี้ ค้นหาต้าจี้หยวนลงประกาศทางหนังสือพิมพ์ หรือเว็บไซด์ใช่ไหม (หัวเราะ) (เสียงปรบมือ) ได้จะเกิดประโยชน์หรือไม่ละเกิดประโยชน์(เสียงปรบมือ)

ศิษย์: ศิษย์โพ้นทะเล ใช้ชื่อสมมติลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ในหลักความเชื่อที่ถูกต้องความคิดที่ถูกต้อง การกระทำที่ถูกต้อง กับการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์โดยใช้ชื่อจริง เหมือนกันหรือไม่

อาจารย์: เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดไปแล้วใช้ชื่อสมมติไม่เป็นไรเพราะเทพดูที่ใจคน แต่สำหรับคนในสังคมมนุษย์ รูปแบบก็ให้ความสว่างทางปัญญาได้และเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยเหลือคน

ศิษย์: ผมควรพลิกแพลงใช้ประโยชน์ของสื่อภาพยนตร์ และ ทีวีสอดแทรกเข้าในกระแสหลักของสังคมให้ดียิ่งขึ้น ด้วยปัญญาได้อย่างไร

อาจารย์: ถ้ามีความสามารถทางด้านนี้ก็ทำเถอะ อาศัยรูปแบบเหล่านี้ยืนยันความถูกต้องของฝ่า เปิดโปงการประทุษร้ายช่วยเหลือสรรพชีวิตนั่นยิ่งจะดีอย่างแน่นอน สอดแทรกเข้าไปในกระแสหลักของสังคมเพียงสามารถแก้ ไขได้นิดหน่อยก็ใช้ได้ก็คือถ้าสามารถถ่ายทำสิ่งที่ดีออก มาได้จริงไม่เกินไปกว่าเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ก็ต้องเพิ่มเข้าไป สื่อมวลชนก็เช่นเดียวกันทำกันได้ดีจริงๆและต้องสามารถเข้าสู่กระแสหลักของสังคม เข้าสู่กระแสหลัก ของสื่อมวลชนได้นี่ล้วนดีมากแน่ๆข้าพเจ้าทราบว่ามีเรื่องมากมาย ทุกท่านก็ล้วนขยันขันแข็งกันจริงๆและจะทำได้ดีทั้งหมดข้าพเจ้าเชื่อว่าจะต้องมีวันหนึ่งที่สามารถทำได้แน่นอน อย่างค่อยเป็นค่อยไป (เสียงปรบมือ)ข้าพเจ้ายังจะขอพูดประโยคนั้นไม่เพียงแต่จะทำได้ดีในอนาคตจะต้องเป็นสื่อที่ใหญ่ที่สุดด้วย(เสียงปรบมือ) เมื่อมนุษย์สามารถเข้าใจทั้งหมดนี้ได้ข้าพเจ้าว่ามนุษย์ต่างก็จะไม่อาจมีความสนใจต่อ อะไรๆมากมายอย่างนั้นแล้วมีเพียงเสียงเสนอข่าวการได้ฝ่าเท่านั้น การเลือกอนาคตที่งดงามให้กับตนเองจะเป็นเรื่องอันดับหนึ่ง (เสียงปรบมือ)

ศิษย์: เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศจีนนั้นเผยแพร่ในอเมริกาเงินทุนย่อมจะไหลเข้าไปในประเทศจีน และถูกใช้ในการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงดังนั้นผมจึงไม่ซื้อหาผลิตภัณฑ์ที่ทำในจีนอีกวิธีคิดของผมเช่นนี้ถูกหรือไม่

อาจารย์: แน่นอน ไม่ผิดผู้ฝึกเรามากมาย ก็ไม่ซื้อกันมิใช่หรือ (หัวเราะ) แต่ว่า มีแต่ผู้ฝึกที่ไม่ซื้อ ดูเหมือนว่าส่งผลกระทบได้ไม่มาก(หัวเราะ)และอย่าทำให้การดำรงชีพยากลำบากด้วยเหตุนี้ หากในการดำรงชีพ จำเป็น ต้องซื้อก็ไม่เป็นไรถ้าชาวโลกล้วนรับรู้ทั้งหมดนี้ได้กล่าวสำหรับสิ่งชั่วร้าย นั่นก็น่ากลัวมากแล้ว

ศิษย์: หากชาวโลกมีท่าทีที่ถูกต้องต่อต้าฝ่า แต่ยังรับรู้ ต่อพรรคมารวิญญาณชั่ว ได้ไม่ถูกต้องผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร

อาจารย์: เช่นนั้นก็ต้องดูสภาพการณ์ของเขาแล้วเพราะท่าทีต่อต้าฝ่านั้นเป็นเรื่องอันดับหนึ่งถ้าหากโดยรากเหง้าของเขา นั้นคือ สนับสนุนพรรคมารยอมรับพรรคมารเช่นนั้นกล่าวสำหรับเขาแล้ว ก็อันตรายจริงๆ

ศิษย์: ผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่อยากเรียนถามท่านอาจารย์คนธรรมดาสามัญมากมายนั้น เมื่อก่อนเป็น ทหารแดงน้อยสมาชิกสันนิบาตยุวชนเรียนถามว่า ต้องลาออกด้วยหรือไม่

อาจารย์: การสลัดทิ้งตราประทับของสิ่งชั่วร้ายนั้นเป็นเรื่องจำเป็น แม้การประกาศลาออกจะเป็นรูปแบบหนึ่งแต่หากคนสามารถออกมาประกาศตัวก็พูดได้ว่าเขาสามารถก้าวออกมาจากก้าวนี้ได้โดยผ่านเรื่องนี้ ใจคนก็จะเปลี่ยนดังนั้นองค์ประกอบเหล่านั้นในร่างกายคนก็จะถูกกวาดทิ้งไปบางคนพูดว่าฉันไม่ต้องเขียนหรอกใจฉันลาออกไปแล้วนั่นยังไม่อาจบรรลุถึงการกวาดล้างองค์ประกอบของพิษร้ายในร่างกายอย่างแน่นอนจริงๆ เทพก็กำลังดูว่าคนนั้นยืนหยัดจริงหรือไม่เพราะมูลเหตุของความคิดนึกของคนนั้น สลับซับซ้อนมากดังนั้นพฤติกรรมของคน จึงเป็นการแสดงออกที่แม่นยำถูกต้องที่สุด

ศิษย์: ยังมีคนธรรมดาสามัญจำนวนมากพูดว่า ตนเอง ไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกพรรคหรือสันนิบาตตั้งนานมาแล้วไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคตั้งนานมาแล้ว ไม่ต้องทำตามรูปแบบการลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ก็ได้แล้วจะมองปัญหานี้อย่างไรดี

อาจารย์: ก็ยังคงเป็นประเด็นนั้นมันไม่ใช่เพียงเป็นปัญหาของรูปแบบของการเข้าสู่พรรคมันได้ตีตราลัทธิมารให้กับคนแล้วจริงๆเข้าเป็นสมาชิกของพวกมันแล้วตราประทับนี้ต้องลบทิ้งไปตราประทับชนิดนี้ไม่ได้ปรากฏออกมาในโลกมนุษย์ ส่วนที่บังเกิดผลนั้นยังมีองค์ประกอบในร่างกายคนเพราะคนเคยปฏิญาณต่อหน้าธงสีเลือดนั้นได้มอบชีวิตให้มันแล้วท่านพูดว่าท่านไม่ประกาศลาออกมา เพียงแต่คิดอยู่ในใจ ก็นับว่าใช้ได้ละหรือ ที่จริงพูดไปแล้วพรรคมารนี้ มันช่างชั่วร้ายอย่างสุดยอดจริงๆมันเรียกให้คนปฏิญาณต่อธงสีเลือดอุทิศชีวิตให้กับพรรคมารมอบอุทิศชีวิตให้กับพรรคมารนั้น ทำตามต้องการแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีพรรคการเมืองใดหรือองค์กรอะไรของมนุษย์ที่โหดเหี้ยมอำมหิตถึงระดับนี้

ศิษย์: ผู้ฝึกชาวตะวันตกบางคน เข้าใจว่า ท่วงทำนองการพูดของ “จิ่วผิง” ไม่ง่ายสำหรับสังคมตะวันตกที่จะยอมรับได้ เมื่อพวกเราแนะนำ “จิ่วผิง” ให้แก่สังคมตะวันตกนั้น ควรระวังอะไรบ้าง

อาจารย์: ไม่ใช่อย่างนี้ทำไปตามแบบเดิม ไม่เป็นไร อย่าเน้นย้ำเรื่องเหล่านี้วิธีคิดของตะวันออก-ตะวันตกนั้นต่างกันแต่เบื้องหลังของ “จิ่วผิง”นั้นมีองค์ประกอบของเทพอยู่ จะส่งผลในทางที่ถูกต้องต่อคนไม่ว่าชาวตะวันออก หรือ ชาวตะวันตกองค์ประกอบหลายอย่างของอิทธิพลเก่าที่ทิ้งเอาไว้ไม่ยอมให้เขายุ่งเกี่ยวกับต้าฝ่า เป็นการชั่วคราว อาจจะควบคุมเขาอยู่ ต้องดูสภาพการณ์รูปธรรมชาวตะวันตกมากมายไม่ได้รับพิษร้ายของพรรคมารดังนั้นกล่าวสำหรับคนๆนั้นอาจเป็นว่าเขาจะแสดงออกมาแบบเย็นชานี่ไม่เป็นไรพูดถึง “จิ่วผิง” ณ ขณะนี้กล่าวสำหรับมนุษย์แล้ว ก็เป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งในการช่วยเหลือชาวโลกก้าวต่อไป นั้นบางทีในเร็วๆนี้ ทุกๆคนบนโลก ต่างจะต้องแสดงท่าที ต่อปัญหาที่ว่าจะเอาหรือไม่เอาพรรคมารแต่ละคนต่างต้องเลือกอนาคตไม่ใช่ประเทศของพรรคมาร แต่ที่แท้ก็เป็นคอมมิวนิสต์พวกหนึ่งด้วยในคำพยากรณ์ไม่ใช่กล่าวไว้หรือว่า ผู้นั้นๆๆ ปกครองใต้ฟ้า (โลก) หรอกหรือ

และมีบางคนพูดว่า “จิ่วผิง”นั้นยาวเกินไปจะย่อให้สั้นหน่อยได้หรือไม่ ไม่ได้ร้อยกว่าปีมานี้ กลุ่มอันธพาลคอมมิวนิสต์ ต่อสู้กับสังคมเสรีไม่หยุดหย่อนแต่ไม่มีใครเคยพูดให้กระจ่างว่า พรรคมารคืออะไรสาธารณรัฐจีนก็ต่อสู้กับคอมมิวนิสต์จีนอยู่หลายสิบปี เขียนบทความออกมาไม่หยุดหย่อนแต่ก็ไม่ได้พูดให้กระจ่างว่าพรรคมารคืออะไรเช่นเดียวกัน พวกเราพูดมันออกมาอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกแล้วจะย่อให้สั้นได้อย่างไรกันละยังจะทำเหมือนบทความสั้นๆ ที่ไม่สลักสำคัญอะไรเหมือนเมื่อก่อนได้หรือ เช่นนั้นจะสามารถบังเกิดผลและความรับผิดชอบ ที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ที่ประวัติศาสตร์มอบให้ได้หรือ เป้าหมายที่พวกเราพูดถึงพรรคมารอย่างชัดแจ้งนั้นคือ เปิดโปงธาตุแท้ของพรรคมารให้คนได้เห็นมันอย่างชัดแจ้งจากนั้นก็ช่วยเหลือชาวโลก และให้ชาวโลกเข้าใจมันว่า เหตุใดมันจึงประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ พวกเราไม่ได้เล่นการเมือง และนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่การเมืองจะสามารถทำได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ปณิธานยิ่ง ใหญ่ในใจของข้าพเจ้าคือการช่วยเหลือสรรพชีวิต ไม่จำเป็นต้อง รับรองอะไรกับชีวิตที่มีความคิดไม่เที่ยงตรงประวัติศาสตร์สามารถจะปรับแก้ทุกสิ่งให้ถูกต้องสำหรับพรรคมารนี้ ข้าพเจ้าก็ได้ให้โอกาสมันหลายครั้งแล้วในวาระสุดท้ายของสิ่งชั่วร้ายนี้ ข้าพเจ้าก็ยังจะเตือนอีกครั้งข้าพเจ้า หลี่ หงจื้อ นั้นอะไรก็รู้หมดอะไรๆก็สามารถพูดกระจ่างได้หมดแต่เพราะสิ่งชั่วร้ายบ้าคลั่งจนเสียสติไปแล้วตราบจนขณะนี้พวกมันก็ยังประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า โดยไม่มีสติแจ่มชัดรอดูตอนจบละกัน

ศิษย์: ยังมีคนธรรมดาสามัญที่เข้าใจว่า “จิ่วผิง”ดีมาก แต่ไม่ยอมรับต้าฝ่า

อาจารย์: ความคิดของคนธรรมดาสามัญนั้น บ่อยครั้งเป็นผลจากทัศนคติ ไม่ใช่คำพูดที่ผ่านการไตร่ตรองอย่างแท้จริงมักไม่ใช่ออกมาจากใจจริงคล้ายจะใช่แต่ไม่ใช่สภาพการณ์เช่นนี้ก็ต้องบอกให้เขามีสติขึ้นมาท่านไม่ยอมรับต้าฝ่านั้น หมายถึงอะไรละพูดว่าเขาไม่เรียนไม่เรียนก็ไม่เรียนไม่มีใครรบเร้าให้ท่านเรียนมีแต่ลัทธิมารที่รบเร้าจะให้คนเรียนให้ได้และท่านคิดจะลาออกก็ไม่ยอมต้าฝ่าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ท่านอยากเรียนก็เรียนท่านไม่เรียนก็ไม่ต้องเรียนสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดกับคนในวันนี้ ก็คือบอกความจริงกับคน ข้าพเจ้าบอกให้ท่านเข้าใจว่าต้าฝ่าคืออะไร เหตุใดพรรคมารต้องการประทุษร้ายเป็นการช่วยคนขจัดพิษร้ายในสมองพูดถึงว่าท่านคิดจะเรียนหรือไม่นั่นเป็นเรื่องของท่านหากท่านไม่เห็นด้วยกับต้าฝ่าจริงๆนั่นคือการเลือกอนาคตแล้ว

ศิษย์: นับตั้งแต่ “จิ่วผิง”ออกมาตัวเองกระตือรือร้นมากกับการเขียนบทความเปิดโปงพรรคมารแต่กลับย่อหย่อนในการศึกษาฝ่า ควรปรับสมดุลอย่างไร

อาจารย์: นี่กลับไม่ใช่การรบกวนอะไรอย่างแน่นอนก็คือต้องหาเวลาศึกษาฝ่าศึกษาฝ่าอย่างจริงจังอย่าทำแบบขอไปทีทั้งสามเรื่องล้วนต้องทำใช่ไหมการเขียนบทความก็เป็นการยืนยันความถูกต้องของฝ่าด้านหนึ่งแต่ไม่สามารถแทนอีกสองเรื่อง

ศิษย์: มีเพื่อนผู้บำเพ็ญในจีนแผ่นดินใหญ่เข้าใจว่า บทบรรณาธิการบางบทของหมิงฮุ่ย ไม่ได้ปฏิบัติตามเจตจำนงของต้าฝ่าจะพูดเกลี้ยกล่อมเพื่อนผู้บำเพ็ญในจีนแผ่นดินใหญ่เหล่านี้ได้อย่างไร

อาจารย์: อันนี้ไม่เป็นไร ที่พูดว่าหมิงฮุ่ยมีปัญหา เช่นนั้นก็ส่งผลให้เกิดการกระตุ้น ต่อการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าหมิงฮุ่ยใช่หรือไม่และก็จะเกิดผลทางบวกเช่นนั้นพวกเราก็แก้ไขตัวเองมากๆหน่อยผิดไปแล้วพวกเราก็แก้ไขถ้าไม่มีความผิดก็ต้องยืนหยัดไม่ถูกชักนำโดยผู้ฝึกที่มีจิตของคนธรรมดาสามัญแต่หาใช่ว่า ผู้ฝึกล้วนแต่มีจิตของคนธรรมดาสามัญแต่อาจเป็นว่าวิธีทำงาน จะมีวิธีการที่ดียิ่งขึ้นกล่าวโดยสรุปหมิงฮุ่ยนั้นยิ่งทำยิ่งดีทางที่เดินนั้นถูกต้องเที่ยงตรง สภาพการณ์ของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่นั้นสลับซับซ้อนผู้ฝึกบางคน จิตของคนธรรมดาสามัญของเขานั้นยึดติดอย่างรุนแรงองค์ประกอบที่รบกวนของพรรคมารก็กำลังแสดงบทบาทอยู่และมีคนชั่วจำนวนหนึ่งที่กำลังแสร้งทำเป็นผู้ฝึกนี่ล้วน ไม่เป็นไรรบกวนหมิงฮุ่ยไม่ได้แล้ว

ศิษย์: ในระยะแรกที่ท่านอาจารย์บรรยายธรรม ได้พูดถึงการช่วยเหลือพระสงฆ์กับชีว่า กำหนดเอาไว้หลังสุดใช่ไหมว่าการอธิบายความจริงกับพวกเขาจัดเป็นลำดับรอง

อาจารย์: การช่วยเหลือสำหรับคนในศาสนาอื่นได้วางไว้ท้ายสุดแล้วก้าวต่อไปจึงจะทำมีคนพูดว่าทำไมศิษย์ต้าฝ่าจึงพิเศษเช่นนี้ละ พิเศษยิ่งกว่าคนในศาสนาอีกละทำไมไม่ช่วยเหลือพวกเขาเป็นศิษย์ต้าฝ่าก่อนกลับช่วยคนเหล่านี้ในปัจจุบันเป็นศิษย์ต้าฝ่าละ เวลาคนดูคน มักจะดูที่ชาตินี้ภพนี้ ที่แท้ภายในของคนเหล่านี้ในปัจจุบันประวัติศาสตร์ที่ผ่านไป หลายๆคนล้วนเคยเป็นศาสนิกชนกลุ่มแรกในศาสนาใหญ่ที่ถูกต้องหลายศาสนา ของทั้งตะวันออกและตะวันตก เป็นคนที่เคยได้ฟังธรรมของพระเยซูและองค์ศากยมุนี ด้วยตัวเองศิษย์ต้าฝ่าจึงเป็นผู้ศรัทธา ที่ยืนหยัดในความเชื่อที่ถูกต้อง อย่างแท้จริง(เสียงปรบมือ) และในประวัติศาสตร์คนเหล่านั้นที่เป็นศิษย์นักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงนักพรตเต๋าที่มีชื่อเสียงคริสต์ชนที่มีชื่อเสียง นั้นก็กำลังอยู่ในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า(เสียงปรบมือ)

ศิษย์: มีพุทธศาสนิกชนหลายคนไม่เข้าใจ บทที่เจ็ดในจ้วนฝ่าหลุน ที่ท่านอาจารย์บรรยายถึง เรื่องขององค์ศากยมุนีบอกว่าตรวจดูในคัมภีร์วัชรยาน ทั้งหมดก็ไม่พบด้วยเหตุนี้ทำให้กระทบต่อความเข้าใจต้าฝ่าของพวกเขา

อาจารย์: ถูกละข้าพเจ้าสามารถบรรยายหลักธรรมทั้งปวงออกมาได้ข้าพเจ้าสามารถบรรยายถึงพระพุทธบนสวรรค์ทั้งหมดเทพทั้งหมด ออกมาได้ข้าพเจ้าสามารถบรรยายเรื่องที่ผ่านมาขององค์ศากยมุนีเรื่องปัจจุบันกับอนาคตซึ่งล้วนแต่ไม่มีอยู่ในคัมภีร์ข้าพเจ้ายังสามารถพูดถึงอดีตของจักรวาลปัจจุบันและอนาคตกับเรื่องราวต่างๆทั้งปวง กับสรรพชีวิตทั้งปวงเทพที่องค์ศากยมุนีไม่ได้ตรัสถึง ข้าพเจ้าล้วนสามารถพูดออกมาได้ทั้งหมด รวมถึงความเป็นมาของพวกเขาสภาพการณ์ที่กว้างใหญ่จนถึงที่สุดของจักรวาลสวรรค์ที่ต่างกันเป็นอย่างไรแน่ละสวรรค์ของระดับชั้นที่ต่างกัน ก็เป็นเทพด้วยร่างนภาที่ต่างระดับชั้นกัน เกิดขึ้นมาได้อย่างไรรากเหง้าของสิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีเพียงข้าพเจ้าที่สามารถพูดเขาออกมาได้(เสียงปรบมือ)รวมทั้งประวัติศาสตร์ทั้งหมดของมนุษย์ในตรีภูมิ รวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประวัตศาสตร์ ทั้งเรื่องที่เล็ก จนถึงเรื่องที่ใหญ่ที่สุดข้าพเจ้าล้วนสามารถพูดมันออกมาได้คัมภีร์พุทธศาสนาจะสามารถบันทึกทั้งหมดนี้ลงไปในนั้นได้อย่างไรกัน ในขณะที่องค์ศากยมุนีทรงอยู่ในโลกได้ตรัสไว้มากมายคัมภีร์นั้นก็ยังไม่ได้บันทึกเอาไว้องค์ศากยมุนีพุทธทรงบรรยายธรรมอยู่ 49 ปี นั้นคือแค่ในหนังสือไม่กี่เล่มหรือเป็นไปไม่ได้กระมังคนเอยคนเอาแต่ใช้ทัศนคติของตนขวางกั้นตนเองไว้ อย่าไปสนใจวิธีพูดของคนธรรมดาสามัญเหล่านั้นใครคือผู้บำเพ็ญ ใครคือผู้ที่กำลังเดินบนเส้นทางของเทพอย่างแท้จริงใครคือผู้ที่สามารถบำเพ็ญได้สำเร็จ นับแต่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมีเพียงพวกท่าน (เสียงปรบมือ)

เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยพูดว่าการบำเพ็ญในอดีตศาสนาในอดีตเทพที่ลงมาช่วยคนในอดีตพวกเขาช่วยคนได้จริงๆหรือ ที่จริงบทบาทที่แท้จริงของพวกเขาคือ การวางรากฐานวัฒนธรรมให้กับตรีภูมิวางรากฐานวัฒนธรรมให้กับมนุษย์ปูทางให้กับการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ของจักรวาลในยุคสุดท้าย และคนที่ช่วยเหลือในเวลานั้นคือจิตรองของคนทั้งสิ้นหาใช่ตัวคนเองที่แท้จริงแม้จะเป็นเช่นนี้จิตรองพวกนั้นที่ได้รับการช่วยเหลือก็เป็นชีวิตที่ถูกจัดวางลงมาเป็นพิเศษ มูลเหตุคือหลังจากตรีภูมิถูกสร้างขึ้นมาแล้วมีร่างนภาที่อยู่ใกล้ตรีภูมิเกินไปดังนั้นเหล่าเทพที่อยู่ใกล้ตรีภูมิจึงสามารถมองเห็น กระทั่งสัมผัสได้ถึงตรีภูมิเช่นนี้แล้วเทพที่อยู่ใกล้ตรีภูมิ จึงถูกแปดเปื้อนได้ง่าย และตกลงมาด้วยเหตุนี้ในตรีภูมินั้นมีฉิงหลักการของสรรพชีวิตก็กลับตาลปัตรสภาพแวดล้อมก็ทุกข์ยากคนยังยึดติดอย่างรุนแรงแต่ทว่าเทพที่ถูกต้องนั้นมีเมตตา ง่ายที่จะถูกรบกวนจากสรรพชีวิตที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกข์ยากของตรีภูมิดังนั้นเทพที่อยู่ใกล้ตรีภูมิจึงต้องเปลี่ยนบ่อยๆคำนวณโดยใช้เวลาของคนคือประมาณ ไม่เกินสิบปี ต้องเปลี่ยนอย่างแน่นอนจึงเกิดปัญหาหนึ่งอย่างนี้เช่นนั้นจึงเกิดการใช้ประโยชน์จากรูปแบบนี้ของสังคมคนธรรมดาสามัญในตรีภูมิ บำเพ็ญอย่างทุกข์ยากเกิดสภาพการณ์ที่ จิตรองของคนนั้นหลังจากหยวนหมั่น ก็จะรับช่วงต่อจากเทพที่จะเปลี่ยนใหม่บางชีวิตของโลกเทพสวรรค์ที่จัดวางลงมาให้เขาเป็นจิตรองของคนบำเพ็ญอยู่ในโลก ที่จริงยังมีที่จุติลงมาเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นหลังจากหยวนหมั่นจะกลับไปเป็นเทพที่เขาจะรับช่วงต่อ หลังจากมีตรีภูมิ สภาพการณ์ชนิดนี้จึงปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ ยังไม่มีเรื่องการเปลี่ยนตัวเทพแบบนี้แต่นี่ไม่ใช่จุดประสงค์ในการสร้างตรีภูมิขึ้นมาแต่เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น หลังจากสร้างตรีภูมิออกมาแล้ว และเป็นวิธีจัดการกับการรบกวนเทพจุดประสงค์ที่แท้จริงของการสร้างตรีภูมิ ก็คือเพื่อใช้ในการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งที่เทพทำให้กับตรีภูมิในระหว่างนี้กับทุกสิ่งที่ปรากฏออกมาบนโลกก็ล้วนแต่เป็นการวางรากฐานวัฒนธรรมให้กับคนเป็นขั้นตอนพื้นฐานของการวางรากฐานแก่คนในอนาคตที่จะเข้าใจฝ่า

ภาษาที่ข้าพเจ้านำมาใช้ในวันนี้ พูดขึ้นมาแล้วสบายๆ พวกท่านเองได้ฟังก็สบายๆการรับรู้และเข้าใจก็สบายเวลามิติประวัติศาสตร์สรรพสิ่งฟ้าดินสรรพชีวิตเรื่องราวทั้งปวงการบำเพ็ญอินหยางทุกข์สุขรวมทั้งคนกับเทพข้าพเจ้าพูดออกมาอย่างสบายๆพวกท่านทราบไหมแนวคิดของแต่ละคำความนัยของมันล้วนเป็นการแสดงออกมาโดยผ่านประวัติศาสตร์นับสิบล้านปี จึงก้าวข้ามมาในขั้นตอนของประวัติศาสตร์ได้ฟูมฟักความนัยของภาษาไว้แล้วที่สำคัญคือภาษาจีนวัตถุทั้งหลายที่มนุษย์รู้จักแต่ละเรื่องล้วนสามารถใช้คำศัพท์ในภาษาคนไปสรุปมันอธิบายมันแสดงมันออกมานี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆของการสร้างตัวหนังสือขึ้นมาตัวหนึ่ง ก็จะสามารถจัดการได้คือสิ่งที่จำเป็นต้องมีขั้นตอนหนึ่งที่ลึกซึ้งมากที่คนสามารถรู้สึกได้จริงๆ เคยเข้าใจได้ด้วยตนเองและเป็นขั้นตอนที่ลุ่มลึกและสร้างขึ้นมาโดยผ่านประสบการณ์เช่นนั้นจริงๆ จึงสามารถทำให้คนเข้าใจบรรดาความหมายที่แสดงออกมาของอักษรตัวนี้คำๆนี้ คำศัพท์นี้ อย่างแท้จริงฝ่าที่บรรยายในวันนี้ พอพูดออกมา ทุกท่านก็ฟังเข้าใจได้ในทันทีหากไม่มีขั้นตอนนี้วันนี้สิ่งที่ข้าพเจ้าบรรยายคืออะไร ทุกท่านอาจจะไม่ทราบเลย

อะไรคือศัพท์คำว่า “การบำเพ็ญ”เหตุใดจึงเรียกว่าการบำเพ็ญการบำเพ็ญบำเพ็ญกันอย่างไรรูปแบบการบำเพ็ญปรากฏออกมาอย่างไรผู้บำเพ็ญคืออย่างไรทั้งหมดนี้ ถ้าคนไม่เข้าใจเลยนั่นก็เป็นเรื่องยุ่งยากแล้วองค์ศากยมุนีพุทธเอยเหลาจื่อเอยพระเยซูเอยเทพเหล่านี้จึงต้องลงมาสู่โลกจึงต้องมาแสดงให้เห็นจริงๆสักครั้งอย่างนี้เหลือวัฒนธรรมเหล่านี้ไว้ให้คนสอนคนให้รู้ความนัยของเขาเข้าใจได้ว่านี่คืออะไรรวมทั้งขั้นตอนที่ผู้บำเพ็ญ ผ่านการบำเพ็ญที่ทุกข์ยาก กับการมีความเชื่อที่ถูกต้องจวบจนหยวนหมั่นอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นต้นพระพุทธเต๋าเทพก็ล้วนได้เหลือขั้นตอนของการยกระดับ โดยมีความเชื่อที่ถูกต้องการบำเพ็ญที่ถูกต้องจนได้มรรคผล ไว้ให้แล้วผู้คนจึงเข้าใจได้ว่า เขา(การบำเพ็ญ) คืออะไรแม้จะเป็นเช่นนี้ทุกสิ่งนั้นก็ยังไม่ตรงกับรูปแบบการบำเพ็ญในวันนี้ของศิษย์ต้าฝ่าดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกว่า การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่านั้นไม่มีแบบอย่างทางนั้นพวกท่านต้องเดินกันออกมาเอง

ศิษย์: หน่วยช่วยชีวิต กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการอธิบายความจริงช่วยเหลือเด็กกำพร้า พบว่านี่คือรูปแบบขั้นตอนการอธิบายความจริงที่ดีมาก กับสังคมระดับต่างๆในแวดวงรัฐบาลการเงิน การธนาคาร ในขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงว่านี่คือขั้นตอนของการประสานงานร่วมมือที่ดียิ่งขึ้นด้านหนึ่ง ในการอธิบายความจริงของหน่วยงานเล็กๆ จะลดความซ้ำซ้อนของการทำงานและควรใช้ทรัพยากรชนิดต่างๆที่จำกัดของศิษย์ต้าฝ่าในขณะนี้ ในการทำงานช่วยเหลือเด็กกำพร้าให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไรขอเชิญท่านอาจารย์ให้ความกระจ่าง

อาจารย์: เรื่องนี้ทุกท่านต่างกำลังเตรียมการอยู่ หรือล้วนกำลังอยู่ในขั้นตอนการทำงาน การทำเช่นนี้ ถูกต้องสมควรทำเพราะเรื่องเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับด้านต่างๆมากมายของสังคม รวมทั้งรัฐบาลสหรัฐดังนั้นเรื่องเหล่านี้ต้องทำจริงจังจึงจะเกิดผลสิ่งที่เป็นรูปธรรมไปกว่านี้ข้าพเจ้ายังไม่พูดนะเพราะรูปธรรมนั้นต้องให้พวกท่านทำกันแต่เรื่องนี้จำเป็นต้องทำลูกของศิษย์ต้าฝ่าลูกที่สูญเสียญาติสนิทไปพวกเราไม่อาจ ไม่ดูแลนั่นเป็นศิษย์น้อยๆของข้าพเจ้า เพื่อนผู้บำเพ็ญน้อยๆของพวกท่านข้าพเจ้าในฐานะอาจารย์ คิดถึงเรื่องนี้อยู่เสมอข้าพเจ้าคิดจะนำพวกเขาขึ้นไปบนเขา รวมกลุ่มกัน ตั้งโรงเรียนให้พวกเขารวบรวมเข้ามาโอบอุ้มเลี้ยงดู (เสียงปรบมือ)

ศิษย์: ขณะนี้มีผู้ฝึกบางคนยังเข้าใจว่า การล้างกรรมทางร่างกายจนลุกไม่ขึ้นนั้น เกิดจากกรรมของตนเองเนื่องจากมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ต้องล้างกรรมออกไปเรียนถามว่าความคิดชนิดนี้ถูกหรือไม่

อาจารย์: ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะคนมีชีวิตอยู่ย่อมจะก่อกรรมได้ในการบำเพ็ญของทุกท่าน ก็เป็นขั้นตอนของการชำระกรรมอย่างไม่หยุดหย่อนตราบที่ยังอยู่ในโลก ก็จะเกิดกรรม ดังนั้นในขั้นตอนการบำเพ็ญ ก็คืออยู่ในระหว่างขจัดมันไปอย่างต่อเนื่อง เพราะศิษย์ต้าฝ่านั้นอยู่ในท่ามกลางการเจิ้งฝ่าใช่ไหมเปรียบกับคนธรรมดาสามัญนั้น ก็น้อยมากๆแล้ว จะล้างกรรมชนิดนี้ ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้วเมื่อก่อนข้าพเจ้า มิใช่พูดว่า ได้จัดวางให้กับผู้บำเพ็ญทีละก้าวๆหรือ คือจัดวางทีละก้าวๆ มาจนถึงก้าวนี้ยังมีกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ จำนวนน้อยมากแต่สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถเกิดผลในทางบวกต่อศิษย์ต้าฝ่า หลังจากที่สามารถปฏิบัติต่อมันได้อย่างถูกต้องมันไม่พอที่จะรบกวนการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่าเมื่อมาถึงก้าวนี้เรื่องนี้ก็ลดน้อยเบาบางลงไปมากโดยพื้นฐานแล้ว เพราะไม่อาจรบกวนการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า

เช่นนั้นเหตุใดจึงเกิดพวกที่ปัญหาค่อนข้างหนักเหล่านั้นละ ข้าพเจ้าได้บอกทุกท่านแล้วองค์ประกอบชนิดต่างๆของสิ่งชั่วร้าย ล้วนสามารถเจาะช่องว่างที่ยังมีการยึดติดของศิษย์ต้าฝ่า และในเวลาที่ไม่รู้เท่าทันจิตของคนธรรมดาสามัญของตนเอง ฉะนั้นเมื่อก่อน การรบกวนที่ใหญ่ที่สุด ชัดแจ้งที่สุดนั้นล้วนเกิดจากบทบาทของวิญญาณชั่วของพรรคมาร โดยเฉพาะคือในปัจจุบันในสภาพการณ์ที่สิ่งชั่วร้ายอย่างอื่นถูกดับสลายจนไม่มีอะไรแล้ว สิ่งที่แสดงออกมาอย่างชัดแจ้งก็คือ บทบาทขององค์ ประกอบชั่วร้ายเหล่านั้นของพรรคมารการประทุษร้าย และการรบกวนต่างๆนานาในขณะนี้ก็มาจากสาเหตุนี้ดังนั้นต้องมีท่าทีที่เข้มงวด ขจัดมันไปคนธรรมดาสามัญไม่เชื่อว่าพรรคมารมีปีศาจทรามวิญญาณชั่ว ศิษย์ต้าฝ่ารู้ เพราะมีสนามนั้นของวิญญาณชั่วอยู่ พรรคมารจึงสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในโลก หนึ่งร้อยกว่าปีมานับตั้งแต่ คอมมูนปารีสเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันวิญญาณชั่วได้วางสนามที่ใหญ่มากลงในมิติของมนุษย์ในอดีตระดับความเข้มของสนามนี้สูงมาก แม้สังคมตะวันตกจะต่อต้านพรรคของทฤษฎีชั่วนี้แต่ที่จริงสังคมตะวันตกก็กำลังใช้ลัทธิชั่วคอมมิวนิสต์ของวิญญาณชั่วของพรรคมารกันอยู่ ปัจจุบันการจัดเก็บภาษีขั้นสูงของสังคมตะวันตกจัดสวัสดิการนั้นเหมือนกัน กับสิ่งที่พรรคมารเสนอในเวลานั้นพรรคมารนั้นเพียงแต่ใช้ความรุนแรงบีบบังคับเอาของๆผู้อื่นส่วนในสังคมตะวันตก เพียงแต่เลือกใช้วิธีการทางกฎหมาย ในการทำเช่นนี้ที่แท้ล้วนคือการใช้ของๆลัทธิชั่วร้ายคอมมิวนิสต์ไม่ใช่รูปแบบการเคลื่อนไหวตามปกติของสังคมมนุษย์ที่แท้จริงสังคมตะวันตกต่อต้านทฤษฎีชั่วคอมมิวนิสต์แล้วทำไมยังเกิดสภาพการณ์เช่นนี้อีกละก็เพราะเป็นผลจากองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายในอีกมิติประเทศจีนนั้น โดยรูปแบบเป็นการใช้ลัทธิชั่วร้ายคอมมิวนิสต์ที่แท้ มันคือแก๊งอันธพาลลัทธิมารส่วนในสังคมตะวันตก โดยรูปแบบแล้วมันต่อต้านลัทธิชั่วร้ายคอมมิวนิสต์ ที่จริงกลับกำลังใช้ลัทธิชั่วร้ายคอมมิวนิสต์อยู่

ศิษย์: ในระยะนี้ต้าจี้หยวนตีพิมพ์ คำพยากรณ์มากมายเกี่ยวกับ การใกล้จะดับสูญของพรรคมารเรียนท่านอาจารย์ ให้ความกระจ่าง

อาจารย์: นี่คือสิ่งที่เทพระดับชั้นต่างๆที่ลงมาสู่โลก ได้เหลือเอาไว้ให้คนดูพวกเราศิษย์ต้าฝ่านั้นเดินบนเส้นทางของตนเอง

ศิษย์: ท่านพูดถึง ทางช้างเผือก แยกตัวออกมาจากจักรวาล เพื่อชำระล้างตรีภูมิ อันนี้หมายความว่าตรีภูมิอยู่ในระบบทางช้างเผือก ไม่ใช่อยู่ในระบบสุริยะจักรวาล ใช่หรือไม่

อาจารย์: ถูกละที่ผ่านมาข้าพเจ้าไม่ใช่พูดอย่างนี้หรือที่จริงตำแหน่งที่ถูกต้องของตรีภูมิ นั้นไม่อาจรับรู้โดยใช้เรื่องเกี่ยวกับขอบเขตที่แน่นอนของคนได้ในการรับรู้เกี่ยวกับทิศทางวัตถุของมนุษย์ยุคนี้ระบบสุริยะจักรวาล ก็คือขอบของตรีภูมิ ในระดับชั้นนี้ทว่าส่วนต่างๆที่ประกอบขึ้นมาจากอนุภาคขนาดต่างๆกันในระดับจุลทรรศน์ และยังสอดคล้องกับมิติที่กว้างใหญ่ยิ่งกว่าในระดับต่างๆ ซึ่งตามนุษย์มองไม่เห็นนั้นในชั้นผิวชั้นหนึ่งที่คนอาศัยอยู่ที่สอดคล้องกับสุริยะจักรวาลในขอบเขตของระดับชั้นจุลทรรศน์ที่แน่นอนหนึ่งที่สอดคล้องกับสุริยะจักรวาลและระดับชั้นจุลทรรศน์ที่เล็กลงไปอีกซึ่งสอดคล้องกับขอบเขตที่ใหญ่ยิ่งขึ้นอีก ที่ประกอบกันขึ้นเป็นตรีภูมินั้นคือการรวมตัวกันของบรรดาอนุภาคจำนวนมหาศาล ตั้งแต่ระดับจุลทรรศน์ จนถึงระดับที่ใหญ่กว่า อนุภาคขนาดต่างกันประกอบขึ้นเป็นเขตแดนที่ต่างกันขอบเขตที่ต่างกันที่จริงนี่ก็เป็นส่วนที่สามารถ แสดงออกมาโดยการใช้ความนึกคิด และภาษา ของคนนี่เป็นเพียงมิติที่ต่างกันที่ประกอบขึ้นมาจากอนุภาค ซึ่งสอดคล้องกับความสามารถในการเห็นได้ของตาคนและเป็นขอบเขตที่สามารถจะบรรยายออกมาได้ ที่จริงขอบเขตของตรีภูมิที่ใหญ่กว่านั้น กลับสอดคล้องกับจักรวาลน้อยทั้งหมด ในเรื่องเล่าเกี่ยวกับผานกู่นั้น ที่แท้ก็คือการแยกสวรรค์และโลกออกจากกันในส่วนนี้ พูดถึงขอบเขตนี้กันอย่างนี้ ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวเพราะในขอบเขตนี้ก็สอดคล้องเช่นเดียวกัน กับส่วนข้างในที่เป็นเขตแดนนอกตรีภูมิภาษาคนนั้นมีขีดจำกัดใช้รูปแบบความนึกคิดของคนบรรยายฝ่านั้นไม่อาจจะพูดให้รับรู้ได้พร้อมกันโดยใช้ทิศทางทั้งหมด กับหลักการของระดับชั้นต่างๆหรือใช้ภาษาของความนึกคิดกับทิศทางทั้งหมดในการบรรยายฝ่าการที่ทางช้างเผือกกับร่างนภาข้างนอกแยกออกจากกันนั้นดูไปก็คือ ขอบเขตนี้แยกออกจากกันแล้วเมื่ออยู่นอกทางช้างเผือกก็จะไม่เห็นร่างนภาอีกแล้วต่อให้ตาเนื้อของคน และกล้องโทรทัศน์มีความสามารถมากไปกว่านี้ก็มองไม่เห็นแล้วที่จริงเขตแดนที่ต่างกัน ซึ่งประกอบกันเป็นตรีภูมินั้น มีสภาพการณ์ที่ไม่เหมือนกันแต่ฝ่าที่บรรยายให้กับผู้ที่กำลังบำเพ็ญ นั้นเป็นภาษาที่มีความยากมาก และสลับซับซ้อน สามารถทำให้คนมากมายบำเพ็ญได้ลำบากผู้ที่สามารถบำเพ็ญหยวนหมั่นได้ จึงจะสามารถมองเห็นสภาพการณ์ที่แท้จริงของจักรวาลต้องผ่านช่วงเวลาหลังฝ่าปรับโลกมนุษย์แล้วโลกและตรีภูมิบรรลุการชำระล้างทั้งหมดแล้ว จึงสามารถกลับไปได้

ศิษย์: ศิษย์รู้สึกว่าเรื่องที่ทำไม่ดีไว้เมื่อก่อน ต่อมาได้ทำชดเชยแล้วสถานการณ์การเจิ้งฝ่าทั้งหมดจึงสามารถผ่านไปได้เร็วมากเมื่อศิษย์ต้าฝ่าในที่ต่างๆ ทำได้ไม่ดีจะกระทบต่อจังหวะก้าวของการเจิ้งฝ่าทั้งหมดได้หรือไม่

อาจารย์: จังหวะก้าวของการเจิ้งฝ่าไม่ได้รับการกระทบ แต่กระทบต่อเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่านี้ของศิษย์ต้าฝ่าจะถ่วง(หน่วงรั้ง)ได้ เพราะที่อื่นๆล้วนกวาดล้างหมดเกลี้ยงแล้ว แต่มีบางแห่ง สิ่งชั่วร้ายยังแสดงบทบาทอยู่ การประทุษร้ายจบลงไม่ได้ ขจัดสิ่งชั่วร้ายไม่หมดพวกท่านทราบว่า ปัจจุบันคน ตกต่ำลงเร็วยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ศีลธรรมของมนุษย์เสื่อมทรามจนน่ากลัวมากหากยังไม่ยอมหยุดคนๆนี้ คิดจะเอาไว้ก็ ไม่อาจจะเอาไว้ได้แล้ว

ศิษย์: ต้าจี้หยวนเป็นสื่อหนึ่งของมหาชนปัจจุบันมีเพียงผู้ฝึกจำนวนเล็กน้อย เข้าร่วมการวางแผนจัดการด้านโฆษณาเมื่อเร็วๆนี้มีผู้รับผิดชอบสมาคมศึกษาพุทธ เข้าร่วมอย่างกระตือรือร้นแต่มีผู้ฝึกบางคนไม่เข้าใจเรียนถามท่านอาจารย์ จะทำอย่างไรให้ผู้ฝึกเข้าร่วมมากขึ้น

อาจารย์: ถูกละผู้รับผิดชอบเข้าร่วม ทำเรื่องของต้าจี้หยวน นั้นเป็นเรื่องดี ผู้รับผิดชอบที่จริงเป็นคนประสานงาน หากสามารถเรียกให้คนที่มีความสามารถเข้าร่วมได้นี่จึงจะเป็นสิ่งสำคัญท่านเองคนเดียวจะสามารถ มีบทบาทได้สักเท่าไรทั่วทั้งหมดล้วนสามารถมีบทบาท นั่นจึงจะนับว่าผู้รับผิดชอบทำได้ดีผู้รับผิดชอบเองทำได้ดีมากท่านทำได้ดีมาก ก็เป็นเพียง การทำดีของผู้ฝึกคนหนึ่งเช่นนั้นก็เป็นผู้ฝึกทั่วไปก็พอแล้ว ที่สำคัญคือ ความรับผิดชอบของผู้รับผิดชอบนั้นต้องบังเกิดผลเช่นนี้ให้ได้ขอพูดอีกปัญหาหนึ่งผู้รับผิดชอบในแต่ละแห่ง ควรปล่อยมือจากท่วงทำนองที่ยุ่งเกี่ยวไปหมด ทั้งเรื่องใหญ่ เรื่องเล็ก แต่ละแห่งที่ผู้ฝึกมีความพร้อมในการริเริ่มทำงานยืนยันความถูกต้องของฝ่าได้ ก็ควรสนับสนุน อย่ากีดกัน นอกเสียจากมีการเดินสุดขั้วบ่อย ๆ ศิษย์ต้าฝ่าเก่า ๆ ล้วนแต่สุกงอมกันแล้ว พวกเขาล้วนกำลังเดินบนเส้นทางสู่การหยวนหมั่นของตนเอง ต้องแจ่มชัด

ศิษย์: ผู้ฝึกยุโรปตะวันออก ควรลาออกจากพรรคและสันนิบาตคอมมิวนิสต์หรือไม่

อาจารย์: ชาวโลกล้วนต้องแสดงท่าทีต่อสิ่งนี้แต่ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ พรรคมารในยุโรปตะวันออกนั้นดับสลายไปหมดแล้ว หากที่นั่นมีคนที่ยังยืนหยัดเป็นสาวกพรรคมารอยู่ในปัจจุบัน นั่นก็จะถูกกวาดล้างเช่นเดียวกัน คอมมิวนิสต์จีนเป็นร่างหลักสุดท้ายของวิญญาณชั่วพรรคมาร การช่วยเหลือคนจีนก็คือการดับสลายวิญญาณชั่วของพรรคมาร

ศิษย์: ผมรู้สึกว่าผู้ฝึกชาวตะวันตก เข้าใจว่า “จิ่วผิง” เป็นเรื่องของผู้ฝึกชาวจีนโพ้นทะเล ท่านจะกรุณาให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้หรือไม่

อาจารย์: โดยหลักคือผู้ฝึกชาวจีนโพ้นทะเล นี่ไม่มีปัญหาแต่ชาวโลกล้วนต้องแสดงท่าทีออกมาและในฝั่งตะวันตกมีคนจำนวนมากรับรู้ไม่แจ่มชัด ต่อพรรคมารของคอมมิวนิสต์จีนนี้

ชาวโลกพูดว่าฝ่าหลุนกง ยอดเยี่ยมนั้นยังครอบคลุมความนัยหลายชั้นอยู่ข้างในประเด็นหนึ่งที่อยู่ในนั้นคือหลายร้อยปีมานี้กลุ่มสังคมคอมมิวนิสต์ และสังคมเสรี ได้ต่อสู้กันมาโดยตลอดและรุนแรงตลอดมายุคสงครามเย็น ดูเหมือนจะมีอันตรายของสงครามปรมาณูอยู่ทุกเวลา แต่ไม่มีใครพูดได้ชัดว่าพรรคมารคืออะไร ใครพูดได้ชัดละ ได้แต่ด่าทอกันไปมา มีองค์กรและผู้วิจัยพรรคมารนี้ตั้งมากมายแต่ก็ไม่มีใครวิจัยออกมาได้ชัดเจนว่ามันคืออะไรกันพรรคก๊กมินตั๋ง ต่อสู้กับคอมมิวนิสต์จีน มาหลายสิบปีก็ไม่ได้พูดให้ชัดว่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนคืออะไรฝ่าหลุนกง กลับพูดมันออก มาได้ชัดแล้ว นี่ไม่ยอดเยี่ยมมากหรือนี่ไม่ใช่สิ่งที่ชาวโลก ในวันนี้ เบิ่งตามองกันและกันอยู่หรือเหตุใดสังคมคนธรรมดาสามัญ มีคนมากมายยกย่องศิษย์ต้าฝ่าละเรื่องมากมายของมนุษย์นั้นคนธรรมดาสามัญไม่อาจพูดได้ชัดเจนศิษย์ต้าฝ่าสามารถพูดมันได้ชัดเจนนี่คือความยอดเยี่ยม

ไม่เพียงแต่สังคมตะวันตกคนทั้งโลกล้วนไม่รู้ชัดว่าพรรคมารคืออะไรขณะนี้สิ่งที่ทุกท่านกำลังรีบจัดการคือ การช่วยเหลือชาวจีนที่ถูกพิษร้ายบอกให้ชาวจีนรู้ชัดในพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนแต่ทางตะวันตกก็มีหลายคนไม่รู้ชัดเกี่ยวกับพรรคมาร และมีคนจำนวนน้อยมาก ถึงกับปกป้องพรรคมารเช่นนั้นกล่าวสำหรับพวกเขา มันไม่อันตรายด้วยหรอกหรือ เพียงแต่ขณะนี้ กำลังรีบแก้ปัญหาของชาวจีนจำนวนมากที่ล้วนถูกพิษร้ายของมันดังนั้นจึงไม่ได้วางเรื่องที่ชนชาติอื่นถูกพิษร้าย ซึ่งไม่หนักหนา ไว้เป็นลำดับแรกกล่าวสำหรับในขณะนี้ พื้นที่อื่นที่ถูกพิษร้ายนั้นมีจำนวนน้อยมากคนจำนวนมากล้วนไม่เชื่อพรรคมารคอมมิวนิสต์และรังเกียจมันแต่คนจีนนั้นต่างกัน คนจีนอยู่ภายใต้การสั่งสอนของวัฒนธรรมของพรรคมารหลายสิบปีจะมีสักกี่คนที่สามารถรู้ชัดในพรรคมารนี้ก่อนที่ “จิ่วผิง”จะออกมาชาวจีนแต่ละคน ล้วนพูดได้ไม่ชัด รับรู้ไม่ชัดในพรรคมารนี้ที่ด่ามัน ก็ด่าโดยอยู่ในวัฒนธรรมที่มันสร้างขึ้นมาถูกมันมอมพิษจนไม่มีสติแล้วกระทั่งในการประกาศลาออกจากพรรคก็ล้วนใช้คำที่ พรรคมารสร้างขึ้นมา เช่น “ฉันคือ คนที่เกิดอยู่ในประเทศจีน “ใหม่”“ฉันคือผู้ที่เติบโตในยุคใต้ร่มธงแดง”“ฉันทำเพื่อ “พรรค”มาชั่วชีวิต” เป็นต้น

ศิษย์: ศิษย์บัลแกเรียนฝากความคิดถึงท่านอาจารย์พวกเรากำลังแปล จ้วนฝ่าหลุน เป็นภาษาบัลกาเรียนท่านจะกรุณากล่าวแนะอะไรสักหน่อยได้ไหมครับ

อาจารย์: (หัวเราะ) ถ้าสามารถแปลหนังสือต้าฝ่าออกมาให้ดีที่จริงก็เป็นขั้นตอนของการบำเพ็ญของตนเอง อย่าใช้การรับรู้ในระดับชั้นสูงของผู้บำเพ็ญที่รับรู้ได้ไปแปลทั้งหมด เพราะระดับชั้นของการบำเพ็ญของพวกท่านแต่ละคน สูงต่ำ ไม่เท่ากันความเข้าใจฝ่าในประโยคเดียวกัน ของทุกท่านไม่เหมือนกันดังนั้นจะเกิดเรื่องถกเถียงไม่จบ เพียงแต่ความหมายของคำนี้ ประโยคนี้สอดคล้องกับความหมายชั้นผิวของวัฒนธรรมของคนก็ใช้ได้แล้ว เพราะความนัยชั้นสูงเป็นการแสดงออกของฝ่า ดังนั้นความนัยนั้นเป็นสิ่งที่แปลออกมาไม่ได้รูปแบบความนึกคิดของชาวตะวันออก กับชาวตะวันตกนั้นมีความต่างกันขั้นแรกของการรับรู้ฝ่านั้นมี ความไม่คุ้นเคยอยู่สักหน่อยแต่ถ้าหาก ไปอ่าน ไปศึกษาจริงๆ ก็จะไม่มีผลกระทบเพราะเทพเป็นผู้ทำให้บังเกิดผล

ศิษย์: ขอเรียนถามถึง ความเป็นมาของพรรคมาร กับลัทธิชั่วคอมมิวนิสต์ว่าแตกต่างกันหรือไม่

อาจารย์: นี่ก็คือการพูดหลอกคนที่ลัทธิชั่วคอมมิวนิสต์สร้างขึ้นเพื่อพรรคมาร ไม่มีอะไรต่างกัน เป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด สมาชิกของพรรคมาร คือคนแต่ละคนสมาชิกกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง ก็คือ ศูนย์รวมของพรรคนั้นศูนย์รวมนี้มันมีวิธีคิดหลอกคนอย่างหนึ่งคือ “จะสร้างสวรรค์บนโลก” ก็คือลัทธิชั่วคอมมิวนิสต์ตามที่พูดกันโลกมนุษย์จะเป็นสวรรค์ไปได้อย่างไรเมื่อตอนที่เทพสร้างตรีภูมิก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นสวรรค์คือสร้างเพื่อใช้ในการเจิ้งฝ่า (หัวเราะ)ถ้าหากในอนาคตตรีภูมิยังคงอยู่ รูปแบบสังคมมนุษย์ ก็จะเป็นสังคมของคนชั่วนิรันดร์เพราะนี่คือความต้องการของจักรวาล จะเปลี่ยนเป็นสวรรค์อะไรกัน สวรรค์นั้น มีอยู่ทุกหนแห่งทั่วไปหมดทั้งจักรวาล สวรรค์นั้น มีมากกว่ามนุษย์มากมายนักเมื่อออกไปจากมิติชั้นผิวแล้ว ล้วนแต่เป็นโลกของเทพสวรรค์ ในจักรวาลล้วนเป็นสวรรค์

ศิษย์: คลื่นทะเลยักษ์ในเอเชียอาคเนย์ คือเรื่องอะไรกัน

อาจารย์: กรรมของมนุษย์มากแล้วก็จะเกิดปัญหาขึ้นแต่ทุกท่านสามารถมองเห็นได้จาก เรื่องต่างๆ เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ในวันนี้ล้วนเป็นการกระทำขององค์ประกอบของอิทธิพลเก่าซึ่งไม่ได้เป็นผลดีอะไรกับคนเมื่อเกิดเรื่องอะไรเรื่องหนึ่งขึ้นกับมนุษย์ ต้องเป็นบทเรียนด้านบวกต่อมนุษย์นั่นจึงจะสามารถทำให้คนเข้าใจได้อย่างแท้จริงว่านั่นคือ เทพกำลังลงโทษคน จากนั้นจึงจะช่วยคนได้มากยิ่งขึ้น หากเพียงแต่ลงโทษ เพื่อการลงโทษเท่านั้น คนก็จะยิ่งไม่เชื่อถือเทพองค์ประกอบของอิทธิพลเก่าทำเรื่องเหล่านี้แล้ว ไม่เป็นผลด้านบวกต่อมนุษย์คนไม่ดีแล้วก็กวาดทิ้งไปการเกิดคลื่นทะเลยักษ์ในเวลานี้ทำให้คนหวาดกลัวคน 3 แสนหายไปในไม่กี่วินาทีแผ่นดินไหวที่ถังซานในปีนั้นไม่ใช่ชั่วครู่เดียวคนหลายแสนก็หายไปหมดแล้วหรือคอมมิวนิสต์จีนบอกว่ามีทหารกี่สิบล้านคน ถ้าท่านเกิดชั่วร้ายขึ้นมาจริงๆ ไม่แน่ว่าชั่วครู่เดียวก็จะหายไปหมดแล้ว (หัวเราะ) (เสียงปรบมือ) องค์ประกอบของอิทธิพลเก่านั้นไม่นับว่าคนเป็นอะไรมีแต่ศิษย์ต้าฝ่าที่ช่วยเหลือคน

ศิษย์: ในแผ่นดินใหญ่ ผู้ฝึกเก่ากลุ่มหนึ่ง ยึดกุมช่วงเวลาสุดท้าย ลุกขึ้นมายืนยันความถูกต้องของฝ่าบางคนใช้ชื่อจริงลาออกพวกเขาฝากความคิดถึงท่านอาจารย์ที่เคารพศิษย์ต้าฝ่าที่ทำงานในองค์กรของรัฐฝากความคิดถึงท่านอาจารย์

อาจารย์: ขอบใจทุกท่านนะ(เสียงปรบมือ) ผู้ฝึกกลุ่มหนึ่งที่ถูกพวกชั่วร้ายประทุษร้ายอย่างรุนแรงก็เพราะเกิดจากจิตยึดติด เนื่องจากจิตยึดติดนั้น เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าภายใต้แรงกดดันวันนี้เขียนหนังสือสำนึกผิดแล้วพอออกมาได้แล้วก็รู้สึกเสียใจภายหลัง จึงประกาศชื่อ(ลาออก)รุ่งขึ้นถูกพวกชั่วร้ายจับเข้าไปอีกเจิ้งเนี่ยนไม่พอ ก่อให้เกิดการประทุษร้ายอย่างรุนแรงเขาก็เขียน “หนังสือสำนึกผิด” อีกแล้วหลังจากนั้นเขาก็ประกาศชื่อลาออกอีกผู้ที่ถูกประทุษร้ายรุนแรงที่สุด ก็คือผู้ฝึกกลุ่มนี้และมีผู้ฝึกบางคนที่เจิ้งเนี่ยนเข้มแข็งทำได้ดีมากจริงๆเนื่องจากการรายงานข่าวของหมิงฮุ่ยนั้น ทำเพื่อเปิดโปงการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าที่ทำได้ดีมากนั้น(หมิงฮุ่ย)ไม่ได้ทำการรวบรวม(สถิติ)เป็นจุดหลักที่จริงผู้ที่แสดงออกมาได้ดีนั้นมีมากมายเหลือเกิน

ศิษย์: ผู้ฝึกใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้ามาในต้าฝ่าได้ไม่กี่เดือนควรยึดกุมสัดส่วนเวลาในการศึกษาจ้วนฝ่าหลุน จิงเหวินใหม่กับจิงเหวินในอดีตจำนวนมากมายอย่างไรดี เพราะพวกเราพอดีได้ฝ่าในช่วงเจิ้งฝ่านี้ ดังนั้นอยากจะทำให้ชัดเจนว่าอันไหนควรทำก่อน

อาจารย์: กล่าวสำหรับผู้ฝึกใหม่นั้น ที่สำคัญคือศึกษา จ้วนฝ่าหลุน หลังจากนั้นค่อยอ่านหนังสืออื่นๆ ของต้าฝ่าเสริมไม่ว่าจะเป็นหนังสือในช่วงไหน รวมทั้ง “จิงจิ้นเย่าจื่อ” หากมีเวลาก็สามารถอ่านได้และอย่ามีความคิดว่าต้องอ่านให้หมดทั้งๆที่มีเวลาน้อย ไม่ใช่อย่างนี้ ผู้ฝึกใหม่สามารถทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำนั้นช่างยอดเยี่ยมจริงๆที่สำคัญที่สุดคือต้องอ่านจ้วนฝ่าหลุนอย่างอื่นให้อ่านเสริมมีเวลาอ่านก็อ่านไม่มีเวลาอ่านก็อ่านแต่ จ้วนฝ่าหลุน ก็ใช้ได้แล้ว

ศิษย์: ท่านกรุณาพูดถึง ความสำคัญของงานแสดง(ศิลปะต่างๆ) สักหน่อยได้หรือไม่

อาจารย์: งานราตรีปีใหม่ที่ทุกท่านทำนั้นเวลาที่จัดรายการแสดงอยู่นั้นลำบากกันมากดำเนินรายการได้ดีมากแสดงเพียงครั้งเดียวก็จบแล้วมีบางคนที่ไม่อยากวางมือจริงๆ เดินทางไปหลายเมืองหมุนเวียนแสดงให้คนได้ดูมากยิ่งขึ้นนี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งหรือแต่มีจุดหนึ่งที่พึงระวังคือต้องมีเงื่อนไขทำได้ใครเดินสุดขั้วก็ไม่ถูก ใครๆก็อย่าได้ทำลายรูปแบบการบำเพ็ญของตนเอง ทำลายสภาพแวดล้อมของการบำเพ็ญของตนข้าพเจ้าพูดถึง“ผู้ที่มีเงื่อนไข”ถ้าไม่มีเงื่อนไขทำก็ไม่ถูกไม่อาจเลิกเรียนพักการเรียนเงื่อนไขทางเศรษฐกิจไม่เพียงพอและไม่ทำงานจะมาเป็นนักแสดงไม่ได้ โดยเฉพาะต้องการเพียงช่วงระยะปีใหม่นั้นระยะเวลาไม่นาน อย่าพักการเรียน ลาออกจากหน้าที่การงาน อย่าเดินสุดขั้วถ้าเดินสุดขั้วจะนำความยุ่งยากมาได้มากมาย

ศิษย์: ในเวลาที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์ คอมมิวนิสต์จีนบนโลกก็จะดับสลายหมดเกิดโรคระบาดใหญ่ สังคมวุ่นวายเป็นต้นในนี้องค์ประกอบไหนสำคัญที่สุด

อาจารย์: ดูเหมือนจะไม่วุ่นวายกระมังสังคมมนุษย์นั้นเทพ ควบคุมอยู่เทพให้สังคมของคนวุ่นวายมันไม่วุ่นวายก็ไม่ได้เทพจะให้มันมั่นคงมันไม่มั่นคงก็ต้องมั่นคงใช่หรือไม่อย่าว่าแต่เรื่องใหญ่อย่างนั้น ล้วนจัดวางไว้เพื่อการเจิ้งฝ่าเช่นนั้นสถานการณ์นี้ ไม่ควบคุมจะได้ไหม

ศิษย์: ศิษย์คิดจะอยู่ในไต้หวันทำงานในหมู่ศิษย์ที่เป็นครูจัดตั้งโครงการใหม่เตรียมวัสดุการสอนภาษาจีนชุดหนึ่ง จากระดับปีที่ 1 จนถึงปีที่ 12โครงการใหม่นี้มีปริมาณงานมากอย่างยิ่งจะกระทบต่องานยืนยันความถูกต้องของฝ่าอื่นๆที่สำคัญหรือไม่

อาจารย์: หากเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่าท่านก็ทำได้ถ้าไม่เกี่ยวกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่า เช่นนั้นก็ไม่อาจไปยุ่งเกี่ยวกับกำลังของผู้ฝึกถ้าสามารถส่งผลให้ศีลธรรมมนุษย์ฟื้นคืนขึ้นมาได้ก็ทำได้ลองทำ ทำดู

ศิษย์: ผู้ฝึกบางคนนั้นทำการค้า แต่สินค้านั้นมาจากจีนแผ่นดินใหญ่การค้าอย่างนี้ไม่ควรทำหรือไม่

อาจารย์: การค้าเล็กน้อยนี้ของพวกท่านไม่นับว่าเป็นอะไรได้กลุ่มทุนใหญ่นานาชาติเหล่านั้นกำลังถ่ายเลือดเข้าไปไม่หยุดหย่อนเนื่องจากผู้ฝึกก็ต้องดำรงชีพยังต้องยืนยันความถูกต้องของฝ่า ยังต้องมีสภาพแวดล้อมของการยืนยันความถูกต้องของฝ่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นปัญหาใหญ่ถ้ากลุ่มการเงินขนาดใหญ่เหล่านั้นไม่ทำทั้งหมดการค้าเล็กน้อยของท่านนั้นช่วยชีวิตคอมมิวนิสต์จีนไม่ได้หรอกและศิษย์ต้าฝ่าทำอะไร ล้วนแต่มีองค์ประกอบของการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่าอยู่ด้วย

ศิษย์: คนที่อยู่ในแผ่นดินใหญ่ เมื่อใช้ชื่อสมมติลาออกจากพรรคแล้ว คอมมิวนิสต์จีนก็ยังจะบังคับให้ศึกษาเรื่องของพรรค กำหนดให้สมาชิกพรรคศึกษา จดบันทึกผู้ที่ใช้ชื่อสมมติลาออกจากพรรคนั้น หากถูกบังคับเข้าร่วมการศึกษาใช่ไหมว่าก็จะถูกตีตราอีก

อาจารย์: ลาออกแล้วก็คือลาออกแล้ว ในใจเขามีความเข้าใจ พอเขาประกาศชื่อลาออกแล้ว ก็จะมีชีวิตที่คอยดูแลเขา (เสียงปรบมือ)

ศิษย์: มีศิษย์ที่อยู่ในเมืองการพนัน ทำงานแจกไพ่จะเป็นการเพิ่มกรรมได้หรือไม่ ไม่ควรทำงานส่วนนี้ใช่ไหม

อาจารย์: ทำงานใช่ไหม ก็คืองานแล้วสังคมมนุษย์ก้าวมาถึงก้าวนี้แล้วบอกว่างานนั้นในเมืองการพนันไม่ดีที่แท้งานชนิดไหนในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน คือ งานของมนุษย์ที่แท้จริงละมาถึงรูปแบบของสังคมชนิดนี้ในวันนี้ทุกสิ่งล้วนกำลังเปลี่ยนไปตามรูปแบบของสังคมดังนั้นจึงเป็นเพียงงานอย่างหนึ่งถ้าหากมีงานอย่างอื่นท่านก็เปลี่ยนเสียถ้าไม่มีงานอื่น ท่านก็ทำไปเพราะสังคมปัจจุบัน ก็คือสังคมอย่างนี้แล้ว

พูดถึงตรงนี้ข้าพเจ้าจึงคิดจะพูดถึงสถานการณ์หนึ่งชาวตะวันตกมากมายไปที่เมืองการพนันที่จริงนั้น เขาไปเที่ยวกันไปหาความบันเทิงทว่าคนจีน และมีชาวตะวันออกประเทศอื่นบางคน เขาไปเล่นพนันจริงๆกระทั่งพนันแบบหมดกระเป๋าจุดมุ่งหมายไม่เหมือนกัน

ศิษย์: ท่านบอกว่าศิษย์ต้าฝ่าไม่อาจหยวนหมั่นโดยติดค้างหนี้สิน แต่ผมซื้อบ้านไว้แล้ว กู้เงินธนาคารไว้ 5 หมื่นต้องใช้เวลา 30 ปีจึงจะชดใช้หมด (ที่ประชุมหัวเราะ)ผมควรจัดการปัญหานี้อย่างไรดี

อาจารย์: เรื่องหนึ่งเรื่องใดของมนุษย์ล้วนไม่ใช่บังเอิญ หากท่านบอกว่ากู้เงินธนาคารไว้แล้วหลายสิบปีกว่าจะใช้คืนหมดแต่ศิษย์ต้าฝ่าจะหยวนหมั่นกันหมดจะรอหลายสิบปีได้อย่างไรกันละเช่นนั้นเรื่องนี้จะทำอย่างไรดี เรื่องเหล่านี้เกี่ยวพันกับมนุษยชาติในก้าวต่อไป เมื่อเกี่ยวพันกับมนุษยชาติในก้าวต่อไปและแบบแผนของสังคมมนุษย์ รูปแบบสังคมมนุษย์ล้วนเปลี่ยนไปหมดแล้วยังมีเมื่อศิษย์ต้าฝ่าถึงเวลาหยวนหมั่นจริงๆเรื่องทั้งหมดที่ท่านมีอยู่ อาจารย์ก็ต้องจัดการให้ท่านที่จริงในเวลานั้นท่านก็จะมีความสามารถที่จะจัดการได้แล้ว (เสียงปรบมือ)นี่ไม่เหมือนกับปัญหาที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี่เป็นเรื่องการดำรงชีพตามปกติผู้ฝึกบางคน ในสมองอาจกำลังคิดว่าฉันยืมเงินแล้ว ก็ไม่ต้องคืนพอไปแล้วระหว่างเราก็จบเรื่องแล้ว(ที่ประชุมหัวเราะ)จุดมุ่งหมายนั้นต่างกัน จุดมุ่งหมายที่ไม่ดีนั้นย่อมไม่ถูกต้อง

ศิษย์: (คำถามแปล) ผมฝึกพลังได้ ปีกว่าแล้วผมได้รับประโยชน์ดีมากผมรู้สึกขอบพระคุณท่านจากก้นบึ้งหัวใจ

อาจารย์: ล้วนคือสิ่งที่มาจากการประจักษ์แจ้งของพวกท่านอาจารย์เพียงแต่ช่วยเหลือพวกท่าน ถ้าพวกท่านสามารถก้าวอย่างแน่วแน่ ไปจนถึงที่สุดได้ ไม่ถูกสั่นคลอนแม้จะพบการรบกวนอย่างนี้การรบกวนอย่างนั้นพวกท่านยังสามารถยืนหยัดเดินต่อไปได้ท่านก็ไม่ต้องขอบใจข้าพเจ้าเทพทั้งจักรวาล ต่างก็จะสรรเสริญท่าน(เสียงปรบมือ)

ศิษย์: ศิษย์ต้าฝ่า แห่ง ซานตงเมืองฉางซา มณฑลหูหนานเสิ่นหยางกว่างตงฝอซานเหอหยวนกว่างโจวเม่าหมิงเมืองจงซานตงหว่านเซินเจิ้น ไห่หนานซันซีเฉิงตูหลูโจว กุ้ยหยาง เจียมู่ซือฝู่ซุ่น ไท่หยวน อานซันเป่ยจิงเป่ยจิงเขตเฟิงไถ เขตส่งเหวินเป่ยต้า(มหาวิทยาลัยเป่ยจิง)มหาวิทยาลัยชิงหวาถังซันสือเจียจวงเชิงเต๋อเทียนจินจั้นเจียงต้าเหลียนเยียนไถเปิ่นซีเกาะฉินหวางซั่งไห่(เซี่ยงไฮ้)คุนหมิงซินเจียงฟู้โจวหูเป่ยหูหนานฮาปาฮาเอ่อปิงไคอัน ซันซีหนานจิงเหลียวหนิงมองโกเลียใน(เน่ยเหมิงกู่)ฮู มากมายเหลือเกิน(ที่ประชุมหัวเราะ)ฮอลแลนด์ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศสเยอรมันอินโดนีเซียสิงคโปร์อังกฤษออสเตรเลียเดนมาร์กเนปาลไต้หวันมาเก๊าสวีเดนโตรอนโตซานฟรานซิสโกรัฐแคลิฟอร์เนีย โอ๊คแลนด์ซานโฮเซ่ คูเปอร์ติโน มาเลเซียอาร์เจนติน่าฮ่องกงอินเดียตุรกี คาริเบียนเวียดนาม21 ประเทศ 6 เขตพื้นที่ฝากสวัสดีท่านปรมาจารย์

อาจารย์: ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือกึกก้องยาวนาน)

ข้าพเจ้าได้ตอบคำถามให้หมดแล้วไม่ว่าข้าพเจ้าจะพูดมากเพียงไรเส้นทางการบำเพ็ญนี้ ต้องให้พวกท่านเดินกันเองทำอย่างไรจึงจะเดินให้ดีบนเส้นทางนี้เดินจนถึงที่สุดนั่นจึงจะยอดเยี่ยมเพราะระหว่างขั้นตอนการเดินบนเส้นทางนี้ของท่าน ย่อมมีความยากลำบากย่อมมีการทดสอบอย่างนี้อย่างนั้นย่อมมีอุปสรรคที่ท่านคาดคิดไม่ถึงย่อมมีการรบกวนของจิตยึดติดและฉิงนานาชนิดที่ท่านคาดคิดไม่ถึงการรบกวนชนิดนี้ มีที่มาจาก ครอบครัวสังคมญาติสนิทมิตรสหายกระทั่งเพื่อนผู้บำเพ็ญของพวกท่านเองและยังมีการรบกวนของสถานการณ์นานาชนิดของสังคมมนุษย์การรบกวนของทัศนคติที่เกิดขึ้นจากการที่มนุษย์อยู่ในสังคมทั้งหลายทั้งปวงนี้ล้วนสามารถฉุดท่านกลับไปยังหมู่คนธรรมดาสามัญได้หากท่านสามารถทะลวงทั้งหมดนี้ได้ท่านจึงจะสามารถเดินไปสู่ความเป็นเทพดังนั้นกล่าวในฐานะผู้บำเพ็ญหากสามารถยืนหยัดด้วยตนเองสามารถมีเจิ้งเนี่ยนอันแน่วแน่ที่ไม่มีอะไรจะสั่นคลอนได้นั่นจึงจะยอดเยี่ยมจริงเหมือนกับวัชรแกร่งดุจหินผาใครก็แตะต้องไม่ได้สิ่งชั่วร้ายเห็นแล้ว ต่างก็หวาดกลัวหากความคิดถูกต้องเที่ยงตรงได้จริงเมื่อเผชิญกับความยากลำบากเผชิญกับการประทุษร้ายของพวกชั่วร้ายเผชิญกับการรบกวนเมื่อท่านพูดออกไปประโยคหนึ่งด้วยเจิ้งเนี่ยนที่แน่วแน่ก็จะสามารถทำให้สิ่งชั่วร้ายดับสลายได้ในทันที (เสียงปรบมือ)ก็จะทำให้คนที่ถูกสิ่งชั่วร้ายใช้ประโยชน์ คอตกหนีไปใครที่สามารถรักษาเจิ้งเนี่ยนไว้ได้ใครที่สามารถก้าวไปจนถึงที่สุดผู้นั้นจึงจะเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่ต้าฝ่าสร้างขึ้นได้ (เสียงปรบมือยาวนาน)ข้าพเจ้ายังจะรอคอยข่าวดีของพวกท่าน (เสียงปรบมือดังกึกก้อง)