(หลี่ หงจื้อ ~ 16 ตุลาคม 2014)
(ท่านอาจารย์เข้าสู่ห้องประชุม ลูกศิษย์ในที่ประชุมทั้งหมดลุกขึ้น เสียงปรบมือดังกึกก้อง)
สวัสดีทุกท่าน ทุกท่านนั่งลง ฝ่าฮุ่ยครั้งนี้ มีคนไม่น้อยมาจากที่ต่างๆ จากจีนแผ่นดินใหญ่ก็ออกมาส่วนหนึ่ง แต่ว่าส่วนใหญ่ออกมาในช่วงแรกๆเมื่อหลายปีก่อน ที่ทยอยกันมาในสองปีนี้ก็มี ศิษย์ต้าฝ่าที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ อาจารย์คาดหวังให้พวกท่านรีบปรับความนึกคิดข้ามมาเร็วสักหน่อย สามารถที่จะมีความนึกคิดเหมือนกับคนในสังคมนานาชาติ
วัฒนธรรมพรรคที่ชั่วร้ายของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน แอบกรอกใส่อย่างแนบเนียนมาหลายสิบปี ได้ทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงศิษย์ต้าฝ่าบางคน มีอุปนิสัยที่เบี่ยงเบน การคิดปัญหาล้วนเป็นแบบสุดขั้ว กระทั่งมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวิธีคิดของคนในสังคมนานาชาติ และคนจีนแต่เก่าก่อนดั้งเดิม จีนแผ่นดินใหญ่มีคนหลายพันล้าน ในระหว่างที่กรอกใส่ให้อย่างช้าๆ ก็ไม่มีความรู้สึกว่าถูกทำให้เบี่ยงเบนไปแล้ว ทุกท่านรู้สึกว่าล้วนเหมือนกันหมด ไม่มีอะไรที่ไม่ถูกต้อง คนก็เป็นอย่างนี้กันมิใช่หรือ ไม่ใช่ บางครั้งที่งานสื่อใช้พวกท่าน บางครั้งโครงการต่างๆ ใช้พวกท่าน วิธีคิดของพวกท่าน วิธีการทำงานที่สุดขั้วของวัฒนธรรมพรรคชนิดนั้น พูดปด สไตล์การทำงานแบบหลอกต้มคน ทำให้พวกเขารับไม่ได้จริงๆ หากพวกท่านสัมผัสติดต่อกับชาวอเมริกัน หรือคนเหล่านี้ในที่ต่างๆ ของประเทศเสรีทั่วโลก พวกเขาจะรู้สึกว่าท่านดูแปลกประหลาด จุดนี้ อาจารย์เคยประสบมาด้วยตัวเอง ในปีนั้นอาจารย์ก็ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ว่า ในทันทีข้าพเจ้าก็รู้สึกได้ถึงสิ่งนี้ มองเห็นความแตกต่างนี้ บางเวลา ผู้ฝึกในสังคมนานาชาติไม่กล้ายอมรับพวกท่าน โครงการต่างๆ ไม่กล้ายอมรับพวกท่าน ไม่ใช่เพราะว่าพวกท่านมีปัญหาอะไร ไม่มีวิธีใดที่จะร่วมมือกับท่านได้จริงๆ
ความคิดที่ก่อเกิดขึ้นจากการกรอกใส่วัฒนธรรมพรรค ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรมของคน รวมทั้งวิธีการเขียนบทความ ล้วนเป็นวัฒนธรรมพรรค บางครั้งข้าพเจ้าก็คิด ข้าพเจ้าว่า ต้าจี้หยวนก็ดี เว็บไซต์หมิงฮุ่ยก็ดี เว็บไซต์อื่นๆ ก็ดี ล้วนแต่ต้องการกำลังคน คนวัยหนุ่มแน่นบางคนที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ บางคนก็มีประวัติการศึกษาที่สูงระดับหนึ่ง แต่ว่าพอใช้พวกท่านเข้าจริงๆ สื่อมวลชนเหล่านี้ก็จะกลายเป็นสื่อของวัฒนธรรมพรรคของจีนแผ่นดินใหญ่ นี่ไม่ใช่ความแตกต่างด้านวัฒนธรรมของชนชาติ ทว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดจากความคิดคนที่เบี่ยงเบนไป ของพรรคมาร ดังนั้น ต้องไปสัมผัสกับคนในสังคมนานาชาติ ไปทำความเข้าใจพวกเขาให้มาก ปรับความคิดข้ามมาโดยเร็ว หาไม่แล้ว ถึงจะเป็นคนหนุ่มสาว ก็จะทำอะไรไม่ได้ และสภาพจิตใจนั้นก็ไม่เหมือนกัน จะทำเรื่องอะไรก็จะป้องกันตัวเองจากคนอื่น พูดจาแอบแฝง ลับๆล่อๆ ทำให้คนรู้สึกว่าท่าทางดูเหมือนพวกขโมย เรื่องอะไรก็ล้วนหลบๆซ่อนๆ เรื่องอะไรก็อยากรู้อยากเห็นไปหมด เช่นนี้แล้วจะพูดคุยกับท่านได้อย่างไร จะไปติดต่อ ประสานร่วมมือกับท่านได้อย่างไร ดังนั้นศิษย์ต้าฝ่ามากมายในสังคมนานาชาติจึงรู้สึกว่า นี่ล้วนเป็นสายลับ เขาจึงรู้สึกกันอย่างนี้
จิตใจของศิษย์ต้าฝ่านั้นกว้างขวาง มีอะไรที่น่ากลัวละ ที่นี่คือสหรัฐอเมริกาแล้ว อยู่ที่นี่ พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนคือภัยพิบัติ คือมารร้าย คนทั้งโลกล้วนคิดกันอย่างนี้ ที่นี่ไม่ใช่แผ่นดินของพวกมัน แล้วยังจะกลัวอะไรอีก พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนเสียอีกที่ต้องกลัว หากท่านบอกว่าท่านเป็นสมาชิกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน เขาก็จะไม่ทำกรีนการ์ดให้ท่าน ใช่หรือไม่ ทุกท่านล้วนทราบกัน ประเทศไหนๆ ล้วนจะไม่รับพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน เห็นศิษย์ต้าฝ่าจากจีนแผ่นดินใหญ่ออกมามากมายอย่างนี้ ก็คิดจะพูดเรื่องนี้สักหน่อย
ข้าพเจ้าพูดมาโดยตลอด ข้าพเจ้าว่า ในช่วงสิบกว่าปีนี้ ผ่านกันมาอย่างโชกโชน ดูแล้วก็ยุ่งเหยิงมาก ในระหว่างที่ศิษย์ต้าฝ่าถูกพรรคมารประทุษร้าย เที่ยวจับคนไปทั่ว สร้างความสะพรึงกลัว ปราบปรามประทุษร้าย ทำจนวุ่นวายไปหมด แต่พวกท่านทราบไหมว่า ความยุ่งเหยิงนี้เป็นการจัดวางไว้ และสำหรับผู้ฝึกแต่ละคน สำหรับแต่ละคนบนโลก ความนึกคิด อากัปกิริยาของเขานั้น ล้วนแต่มองเห็นได้อย่างใกล้ชิดมาก ล้วนแต่เห็นได้อย่างชัดเจนมาก “ความยุ่งเหยิง” นั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปอย่างมีลำดับ มีการจัดวางไว้
พวกท่านรู้จักโครงสร้างของจักรวาลนี้แล้ว ข้าพเจ้าเคยบรรยายให้พวกท่านฟัง ข้าพเจ้าบอกว่าจากอนุภาคจนถึงดวงดาว แนวคิดอย่างนี้ของมิติหนึ่ง ที่จริงยังมีมากกว่านี้มากนัก ทั้งแนวดิ่ง แนวนอน ไหนเลยจะเป็นแค่สถานที่ใหญ่เท่าปลายนิ้วอย่างนี้ ก็มีโลกต่างๆ เป็นร้อยล้านใบ นับไม่ถ้วน ทว่าล้วนแต่เป็นเทพ ทั้งจักรวาลมีชีวิตเท่าไร เทพเท่าไร ถี่ยิบไปหมด ไม่มีช่องว่างใดๆ ล้วนจับตาดูท่านอยู่ กำลังเฝ้าจับตาดูความคิดของคนบนโลก เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับทั่วทั้งร่างนภา ทุกความนึกคิดของศิษย์ต้าฝ่า ทิศทางของสถานการณ์ทั้งหมด เจิ้งฝ่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้น จะกำหนดว่าจักรวาลจะคงอยู่ต่อไปหรือไม่ เรื่องที่ใหญ่อย่างนี้ ดูเหมือนว่าไม่มีลำดับ ที่จริงนั้นมีลำดับ แต่ที่สะท้อนออกมานั้นกลับยุ่งเหยิง แต่สำหรับแต่ละคนนั้นเป็นไปอย่างละเอียดยิบ
แน่ละข้าพเจ้าไม่ยอมรับการประทุษร้ายครั้งนี้ ข้าพเจ้าคิดจะใช้วิธีเมตตาแก้ไขมัน แต่อิทธิพลเก่า รวมทั้งชีวิตทั้งปวงของจักรวาลเก่า พวกมันล้วนไม่เป็น พวกมันล้วนไม่เข้าใจ พวกมันก็ทำได้แค่นี้ ในปีนั้นพวกมันก็ทำกับพระเยซูเช่นนี้ ต่อองค์ศากยมุนีในเวลานั้น พวกมันก็ทำอย่างนี้ ก็รวมทั้งนักปราชญ์เหล่านั้นในสมัยก่อน เช่น โซคราติส โมเสส เป็นต้น พวกมันล้วนแต่ทำอย่างนี้ พวกมันได้แต่ทำอย่างนี้ และนักปราชญ์เหล่านี้ล้วนแต่ปูเส้นทางหนึ่งของวัฒนธรรมเพื่อให้คนรู้จักเทพ นี่เพียงแต่พูดถึงเรื่องราวห้าพันปีของยุคนี้เท่านั้น ในประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยล้านปีมานี้ มีช่วงเวลาห้าพันปีกี่ช่วงเวลาละ สองหมื่นช่วงเวลา แต่ละช่วงเวลาล้วนมีเทพลงมา ล้วนแต่วางรากฐานทางวัฒนธรรมของคน ทำการปรับแก้อารยธรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง สร้างความนึกคิดและพฤติกรรมของคนอย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วงสุดท้าย จนมาถึงยุคสมัยนี้ มนุษยชาติจึงกลายเป็นอย่างนี้
จัดวางกันไว้เนิ่นนานอย่างนี้ เรื่องที่ใหญ่อย่างนี้ เป็นไปอย่างมีลำดับมาก ถ้าข้าพเจ้าจะพูดถึงแต่ละก้าวที่พวกท่านเดินไป ก้าวนั้นของท่านย่างก้าวไป จะยาวหรือสั้น ก็ล้วนแต่มีการจัดวางไว้ ท่านอาจจะไม่เชื่อ ในขณะที่ท่านถูกประทุษร้าย ร้องตะโกนออกมากี่คำ ทุบตีท่านกี่ครั้ง นั่นล้วนแต่เป็นการจัดวางของพวกมัน แน่ละ เจิ้งเนี่ยนของผู้บำเพ็ญเข้มแข็งหรือไม่ก็สามารถจะเปลี่ยนแปลงเรื่องเหล่านี้ได้ แต่จะไม่คลาดเคลื่อนมากนัก สภาพจิตของท่าน กระทั่งจะสามารถแบกรับได้ถึงระดับไหน พวกมันล้วนแต่รู้ได้อย่างชัดเจนมาก แล้วจะไม่มีลำดับได้หรือ มันกำหนดชีวิตนับไม่ถ้วน ชีวิตทั่วทั้งจักรวาล ว่าจะสามารถช่วยไว้ได้หรือไม่ในระหว่างการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ ทุกท่านคิดดู ไหนเลยจะมีเรื่องที่ไม่เป็นไปอย่างมีลำดับได้ละ ในการบำเพ็ญ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมอะไร ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นไหน ไม่ว่าท่านจะมีฐานะอะไร ท่านรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้ที่ตนเองทำ เป็นเรื่องบังเอิญ เป็นความโชคดีหรือโชคร้าย หากท่านสามารถมองเห็นได้จริงๆ แล้ว ก็จะพบว่า นั่นล้วนเป็นเพราะคำสัญญาของท่านก่อให้เกิดเส้นทางนี้ขึ้น ไม่มีเรื่องบังเอิญเลย
การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าเป็นเรื่องอันดับแรก เมื่อท่านบำเพ็ญได้ดีแล้ว จึงจะสามารถตัดสินได้ว่าทางที่พวกท่านเดินนั้นเที่ยงธรรม คงเป็นเพราะการประทุษร้าย ทุกท่านจึงเกลียดชังพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน กระทั่ง มีบางคนคิดว่าหากมีโอกาสก็จะเสี่ยงชีวิตกับพวกเขา ไม่คู่ควรเลย พวกท่านไม่ทราบ พรรคมารนั้นเป็นกระบองอันหนึ่งที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้ พวกท่านเคยเป็นเทพที่ยิ่งใหญ่ พวกอิทธิพลเก่ามันกำลังใช้กระบองนี้ตีให้จิตยึดติดท่านออกมา คิดจะทำอย่างนี้ ตีให้ความคิดเหล่านั้นของท่านที่ไม่ควรมีอยู่ออกมา ตีกรรมของพวกท่านทิ้งไป แม้ว่าอาจารย์ไม่ยอมรับวิธีการอย่างนี้ แต่พวกมันก็ทำอย่างนี้แล้วจริงๆ เมื่อครู่ข้าพเจ้าจึงพูดว่า ชีวิตเหล่านี้ของจักรวาล พวกมันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร มันก็ได้แต่ทำอย่างนี้ ดังนั้นจึงเกิดการประทุษร้ายครั้งนี้ขึ้น
ไม่มีเรื่องบังเอิญ อย่ามองว่ามันยุ่งเหยิง มันไม่ยุ่งเหยิงแม้แต่น้อย เขาแสดงออกอย่างนี้ เขาแสดงออกอย่างนั้น นั่นเป็นการทำโดยมุ่งต่อจิตใจนี้ของเขา มุ่งต่อจิตใจนั้นของเขา โดยภาพรวมประกอบขึ้นมาให้เห็นดูยุ่งเหยิง ที่ปรากฏออกมาว่ายุ่งเหยิงนั้น ล้วนแต่ไม่ยุ่งเหยิงแม้แต่น้อย สิ่งชั่วร้ายเอ็ดตะโรอย่างนี้ เอ็ดตะโรอย่างนั้น ใช้วิธีการที่ชั่วร้ายนานาชนิด นั่นเป็นเรื่องต่างๆ กันที่มุ่งต่อผู้บำเพ็ญที่ต่างกัน เมื่อรวมขึ้นมา มองดูตำรวจชั่วเหล่านี้ที่คล้ายกับจิ้งจอกหรือเสือ ช่างชั่วร้ายนัก แต่ว่ามันไม่ยุ่งเหยิงแม้แต่น้อย ข้างหลังของเขาล้วนควบคุมโดยเทพเหล่านั้น ซึ่งข้าพเจ้าเรียกพวกมันว่าอิทธิพลเก่า แต่เส้นทางนี้ มันเป็นอย่างนี้ไปแล้ว ก้าวผ่านมาแล้ว ศิษย์ต้าฝ่า หากเพียงแต่มีเจิ้งเนี่ยนพอ พูดอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าศิษย์ต้าฝ่ามีเจิ้งเนี่ยนพอ ท่านจึงจะสามารถก้าวข้ามมาได้
บางคนอาจจะเข้าใจอย่างนี้ว่า ตอนนั้นเจิ้งเนี่ยนของฉันเข้มแข็งมากนะ ฉันทำไมยังถูกประทุษร้ายรุนแรงอย่างนี้ ใช่ เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่จะเหมือนผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมชิ้นหนึ่ง ที่ออกมาจากแบบพิมพ์อันเดียว ที่เหมือนกันหมด เนื่องจากในช่วงเวลาที่ยาวนานของชีวิต ท่านมีจิตอย่างนี้ เขามีจิตอย่างนั้น ในประวัติศาสตร์เคยติดค้างอะไรต่างๆ เอาไว้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซินซิ่งสูงต่ำของแต่ละคน และจิตยึดติดล้วนต่างกัน ด้วยเหตุนี้เส้นทางเดินจึงไม่เหมือนกัน บรรดาสิ่งที่แบกรับ สภาพการณ์ที่สะท้อนออกมา ก็ล้วนไม่เหมือนกัน รวมทั้งท่าทีของตำรวจชั่วที่มีต่อคนในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ ก็ไม่เหมือนกัน
อย่าได้รู้สึกว่า เมื่อผ่านการประทุษร้ายครั้งนี้ เรื่องนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อแรกเริ่มพวกเรามีเพียงใจที่จะบำเพ็ญ พรรคมารไม่ให้พวกเราบำเพ็ญ ประทุษร้ายต้าฝ่า พวกเราจึงต่อสู้กับพวกท่าน ไม่มีอย่างนี้ แต่ไหนแต่ไรมา ข้าพเจ้าไม่เคยบอกให้ต่อสู้กับพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน มันไม่คู่ควร ข้าพเจ้าเพียงแต่ไม่ยอมรับวิธีการอย่างนี้ที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้ ในอนาคต แน่นอนว่าข้าพเจ้าจะปรับเปลี่ยนมันข้ามมา แต่ปัจจุบัน ณ ขณะนี้ สถานการณ์ก็เป็นอย่างนี้
ทุกท่านคิดดู ผู้บำเพ็ญนั้น แต่ละคนล้วนก้าวผ่านขั้นตอนของประวัติศาสตร์ช่วงนี้ที่ยาวนาน หลักการของโลกนี้ กลับกัน สิ่งที่ท่านเห็นว่าดี เมื่ออยู่ที่ฝั่งนั้นมองกลับไม่ดี กลิ่นที่ท่านว่าหอม ที่ฝั่งนั้นดม คือเหม็น อะไรๆ ล้วนกลับตรงกันข้าม ในสภาพการณ์เช่นนี้ บำเพ็ญขึ้นมาจึงยาก คิดจะรักษาเจิ้งเนี่ยนไว้ยิ่งยาก แต่ว่า เพราะว่าเป็นอย่างนี้ จึงจะทำให้จิตมนุษย์เหล่านั้นแสดงออกมาได้ หากทำได้ดีก็จะพัฒนาไปสู่ด้านที่ดี หากทำไม่ดี ไม่ค้นหาจากภายในใจ ก็จะพัฒนาไปสู่ด้านตรงข้าม ที่ข้าพเจ้าพูดนี้ ไม่ใช่เพียงผู้บำเพ็ญเท่านั้น คนธรรมดาสามัญก็เป็นเช่นเดียวกัน
ในขั้นตอนทั้งหมดของประวัติศาสตร์ ล้วนแต่เป็นเช่นนี้ หากพวกท่านไม่สามารถปฏิบัติต่อมันอย่างถูกต้อง ไม่ปฏิบัติตนเป็นผู้บำเพ็ญ ไปค้นหาจากภายใน เช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะบำเพ็ญได้ โดยเฉพาะในการประทุษร้ายครั้งนี้ หากท่านไม่สามารถมีเจิ้งเนี่ยนขึ้นมาได้ ในทางกลับกันยังเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังนับไม่ถ้วนเข้ามา พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนนั้นชั่วร้ายนัก แต่ไม่นานนักก็จะต้องกวาดมันทิ้งอย่างแน่นอน แต่พวกท่านทราบไหมว่า อะไรคือคนชั่ว กับคนดี ในใจท่านมีความชิงชัง ความเลวร้าย ทุกท่านคิดดู นี่เป็นชีวิตชนิดไหน มันจะแสดงออกทางพฤติกรรม หรือกระทั่งแสดงออกบนใบหน้า คนมองท่านก็เห็นแต่ความเลวร้าย ข้าพเจ้าไม่ได้พูดว่าศิษย์ต้าฝ่าบางคนบำเพ็ญไม่ดี ด้านที่บำเพ็ญดีแล้วก็กันออกไป เพียงแต่คนที่ฝั่งนี้ยังมีของของคนคงอยู่ จึงมีสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้น จึงมีความคิดที่ไม่ดี ยิ่งถึงชั้นผิว ก็ยิ่งแสดงออกมายิ่งแย่ เหตุใดอาจารย์จึงบรรยายฝ่าให้กับพวกท่าน ก็คือจะบอกสิ่งเหล่านี้ให้กับพวกท่าน ให้พวกท่านเข้าใจ
อะไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง อาจารย์ยังคงเป็นอาจารย์เมื่อตอนแรกเริ่ม ฝ่าของจักรวาลจะไม่เปลี่ยนตลอดไป (เสียงปรบมือกึกก้อง) เพียงแต่พวกเราอยู่ในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ ท่ามกลางการทดสอบที่เรียกกัน บางคนทิ้งจิตยึดติดไปแล้ว บางคนไม่ได้ทิ้งจิตยึดติดไป บางคนกลับเพิ่มจิตยึดติดอีก นี่ก็คือสภาพการณ์ที่แสดงออกมาในการทดสอบครั้งนี้ตามที่เรียกกัน เป็นพวกท่านที่กำลังเปลี่ยนแปลง เป็นศิษย์ต้าฝ่าที่กำลังเปลี่ยนแปลง หากไม่เปลี่ยนไปทางที่ถูกต้อง นั่นก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ย่อมเป็นเช่นนี้แน่นอน
เมื่อมองจากสถานการณ์ในปัจจุบันรูปการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในประวัติ ศาสตร์ใครที่แส้ซ้องให้ยืนยงนับหมื่นปีเขาก็ไม่ยืนยง ใครๆ ต่างก็ร้องว่าประเทศที่แกร่งกล้า แต่มันไม่ได้แกร่งกล้าจริง หนึ่งยุคหนึ่งรัชสมัยก็ผ่านกันมาเช่นนี้ กระแสแดงนี้ก็จะตกลงไปแล้ว (เสียงปรบมือ) ประวัติศาสตร์นี้ใครก็หมุนกลับไม่ได้แล้ว นั่นเป็นการจัดวางของเทพ ใครที่คิดจะเดินทวนประวัติศาสตร์ เขาก็คือตัวตลก ในประวัติศาสตร์นี้ก็ได้พบเห็นไม่น้อยแล้ว ใครก็กอบกู้พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนไม่ไหว แต่ว่า ศิษย์ต้าฝ่านั้น เมื่อยิ่งเข้าใกล้สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ก็ยิ่งต้องระมัดระวังการบำเพ็ญของตนเอง เพราะมันจะยิ่งแสดงจิตยึดติดเหล่านั้น ที่ท่านรู้สึกไม่ได้ออกมา ยิ่งง่ายที่จะเพิ่มจิตยึดติด ต้องระมัดระวังเอาไว้ ไม่ว่าสถานการณ์อะไรจะมาถึง ล้วนต้องระมัดระวังบำเพ็ญตนเอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ล้วนสามารถคงไว้ซึ่งจิตใจเมื่อแรกเริ่มนั้น ท่านย่อมสำเร็จได้แน่ (เสียงปรบมือกึกก้อง)
ลองคิดดู ไม่ใช่ทุกท่านเองที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่หรือ เส้นทางที่ศิษย์ต้าฝ่าเดินผ่านมาอย่างโชกโชน เมื่อมองจากมุมมองของคน นั่นคือบทเพลงที่ยิ่งใหญ่บทหนึ่ง เมื่อพูดจากมุมมองของเทพ นี่คือขั้นตอนของการหล่อหลอมทองแท้ในเบ้าหลอม ในการบำเพ็ญจึงมีการร่อนทรายในคลื่นใหญ่ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่จะเหลือไว้ในประวัติศาสตร์ บางทีจะเป็นที่เล่าขานต่อๆ กันไปนานแสนนาน (เสียงปรบมือ) ในช่วงนี้ ศิษย์ต้าฝ่า ทำได้ดีหรือไม่ดี เมื่อเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ก็จะไม่มีโอกาสหวนกลับ เพราะสิ่งชั่วร้ายนั้นไม่คงอยู่แล้ว สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นค่อยๆถูกทำลายไปจนไม่มีพลังแล้ว คิดจะมาทดสอบท่านอีก โอกาสที่จะให้ท่านเดินอีกเที่ยวหนึ่ง ล้วนไม่มีแล้ว ตนเองทำไว้เป็นอย่างไร ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแล้ว ดีที่เรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด ในฐานะศิษย์ต้าฝ่า ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมใด ท่านสมควรทำให้ดีทั้งหมด ทำให้ดียิ่งขึ้น รีบทิ้งข้อบกพร่องเหล่านั้น กับสิ่งที่ไม่ควรมีเหล่านั้นไปเสีย
ไหนเลยจะกลัวว่าท่านอยู่ในอาชีพต่างๆ ไหนเลยจะกลัวท่านเป็นข้าราชการใหญ่เพียงไร ไหนเลยจะกลัวว่าท่านมีฐานะอะไร แต่ละระดับชนชั้นของสังคมมนุษย์ ทั่วทั้งสังคมมนุษย์ ก็คือสภาพแวดล้อมหนึ่งของการบำเพ็ญ คำพูดนี้ที่ข้าพเจ้าพูดหาใช่การพรรณนา พวกท่านทราบการจัดวางนานหลายร้อยล้านปีนี้ไหม ผู้บำเพ็ญทางสายเล็ก (เต๋าเล็ก) รู้จักแต่การเข้าไปบำเพ็ญในวัด ในภูเขา เขาไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมที่จัดวางไว้ให้ศิษย์ต้าฝ่านั้น คือมนุษยชาติทั้งหมด ที่ไหนๆ ก็สามารถบำเพ็ญได้ ดูแต่เพียงท่านจะไปปฏิบัติกับมันอย่างไร
อาจจะเป็นในช่วงนี้ก็ดี หรือผ่านไปอีกระยะหนึ่งก็ดี เรื่องการเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นั้นสามารถดึงดูดความสนใจของคนได้มาก ในฐานะศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าคิดว่า ได้ก้าวผ่านการทดสอบที่รุนแรงสิบกว่าปีนี้แล้ว เช่นนั้นจึงควรมองเห็นได้อย่างชัดเจน เรื่องของชาวโลก มันก็คือการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของชาวโลก แน่นอน ข้าพเจ้าทราบ นี่ล้วนเป็นการจัดวางอย่างเป็นระบบของเทพ ก็เป็นเช่นนี้ อย่าไปเข้าร่วมการเมืองของคนธรรมดาสามัญ อย่าได้ถูกคนธรรมดาสามัญชักนำ หลายปีนี้ มีนักประชาธิปไตยหลายคน หลายกลุ่มการเมือง ให้การสนับสนุนพวกเรา ด้วยเหตุนี้พวกท่านจึงไปเข้าร่วมกับเรื่องของพวกเขา ท่านต้องทราบว่าท่านเป็นผู้บำเพ็ญ พวกเราไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทว่ามีเรื่องที่ใหญ่กว่า ใหญ่มหึมากว่ากำลังรอท่านไปทำ
เรื่องของฮ่องกง เมื่อเร็วๆนี้ส่งผลกระทบใหญ่มาก คนมากมายก็กำลังเฝ้าใส่ใจ กล่าวในฐานะสื่อมวลชน สามารถจะไปรายงานตามความเป็นจริง รวมทั้งการวิเคราะห์วิจารณ์ เปิดโปงพรรคมารที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า เนื่องด้วยการรายงานข่าวตามจริงเรื่องของจีนแผ่นดินใหญ่กับเรื่องของฮ่องกงในขณะนี้ และเรื่องประเทศอื่นๆ ด้วยเหตุนี้หนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวน จึงกลายเป็นสื่อหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก บารมีก็เพิ่มขึ้นแล้ว กล่าวสำหรับสื่อโดยตัวมันเอง การวิเคราะห์รายงานข่าวนั้นไม่มีปัญหา กล่าวสำหรับแต่ละคน เราไม่อาจคิดว่าจะทำอะไรก็จะทำอะไร ท่านเป็นผู้บำเพ็ญ ท่านต้องระวังว่าท่านบำเพ็ญตนเองอยู่ ไม่ใช่การต่อสู้ทางการเมือง ไม่ใช่อย่างเด็ดขาด และจะไม่ใช่ตลอดไป ทางสายนี้หากเดินไม่เที่ยงตรง เบี่ยงเบนไปสักหน่อย มนุษยชาติก็จบสิ้นแล้ว มนุษยชาติก็ไม่มีความหวังแล้ว จักรวาลก็ไม่มีความหวังแล้ว ชีวิตทั้งจักรวาล กระทั่งมนุษยชาติ ล้วนกำลังเฝ้าดูว่าทางที่ศิษย์ต้าฝ่าเดินนั้นเที่ยงตรงหรือไม่
ขอพูดเป็นรูปธรรมสักหน่อย โครงการต่างๆ ของต้าฝ่าที่ศิษย์ต้าฝ่าทยอยทำกัน ยังมีบางคนที่ทำการค้าบางอย่างในหมู่คนธรรมดาสามัญ และคิดจะอุทิศให้กับต้าฝ่า ข้าพเจ้าขอเตือนสติพวกท่าน เรื่องการเงินจะต้องชัดเจน เพราะไม่ว่าท่านจะทำอะไร ที่ปรากฏออกมาล้วนคือด้านที่เป็นคนของศิษย์ต้าฝ่าที่ทำ เมื่อคนทำก็ย่อมมีใจคนแสดงออกมา ท่านย่อหย่อนต่อตัวเอง ปล่อยตามใจชอบ แต่ในสายตาของเทพหาได้มองเช่นนี้ไม่ ในโครงการของต้าฝ่า หากการดูแลจัดการเรื่องการเงินไม่เข้มงวด หรือหากทำด้วยจิตใจที่ไม่ถูกต้องจริงๆ บาปนั้นย่อมใหญ่เหลือเกิน เพราะนั่นไม่ใช่รอยด่างของเฉพาะบุคคล แต่นั่นเป็นการทำลายเส้นทางนี้ของศิษย์ต้าฝ่า
เมื่อก่อนเคยมีบทเรียนอย่างนี้ ในสายตาของเทพ จะมองบางคนด้วยสายตาอีกแบบหนึ่งแล้ว ตัวเองยังไม่รู้ ยังไม่ได้สติอีก ยังคงดีใจจนลืมตัวอยู่อีก ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ไม่ว่าศิษย์ต้าฝ่าทำโครงการอะไร เมื่อเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทุน จะต้องทำระบบการเงินการบัญชีให้สมบูรณ์ครบถ้วน อย่าทำผิดกฎหมายในด้านนี้ บริษัทของคนธรรมดาสามัญทำกันอย่างไร ท่านก็ทำอย่างนั้น ต้องเป็นเช่นนี้ อย่าได้เดินผิดเพี้ยนบนเส้นทางนี้อย่างเด็ดขาด หากไม่ใช่การประทุษร้ายครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะไม่ให้พวกท่านทำเรื่องเหล่านี้อย่างเด็ดขาด
หากท่านคิดจะก่อตั้งบริษัทหนึ่ง หรือท่านคิดทำโครงการหนึ่ง ไหนเลยจะเกรงว่า ท่านรู้สึกว่านี่เป็นโครงการของศิษย์ต้าฝ่า ก่อนอื่นท่านต้องจัดทำระบบการเงินการบัญชีให้สมบูรณ์ครบถ้วน หาไม่ท่านก็อย่าทำ ท่านต้องมีระบบการจัดการที่เข้มงวด ปัญหาที่อาจารย์พูดถึง นั้นเป็นเรื่องที่ต้องทำ ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า อิทธิพลเก่าพวกนั้นจะทำร้ายท่านเมื่อไร แต่ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน จะต้องทำให้ดี
ยังมี ศิษย์ต้าฝ่าบางคน หลังจากที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ทำเรื่องที่ถูกต้อง ทำไมข้าพเจ้าจึงพูดเช่นนี้เสมอๆ เพราะผู้ฝึกที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มีจำนวนคนมากกว่าศิษย์ต้าฝ่าในต่างประเทศแต่เดิมแล้ว แต่ว่านะ บางคนหลังจากออกมาแล้ว อาศัยชื่อที่เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงยื่นเรื่องขอลี้ภัยแล้ว แต่กลับไปดำเนินชีวิตของตัวเอง เรื่องช่วยคนอะไรก็ไม่เข้าร่วม การช่วยคนเป็นภาระหน้าที่ของศิษย์ต้าฝ่า ท่านปัดภาระไม่พ้นอย่างแน่นอน เมื่ออิทธิพลเก่าเห็นว่าท่านไม่ไหวแล้วจริงๆ ท่านก็อันตรายแล้ว เพราะชีวิตของท่าน มาเพื่อเรื่องนี้ มีศิษย์ต้าฝ่าบางคนอยู่ในประเทศ แสดงออกไม่ดี เดิมทีก็บำเพ็ญไม่ดี มาถึงต่างประเทศ ใจคนยังมีมากอย่างนั้น พออยู่ด้วยกันก็ถกเถียงกันไม่เลิกรา เรื่องอะไรก็ปนเปกันไปหมด ยังมีใจคนมากอย่างนั้น และมีบางคนก็ไม่ได้ออกมาทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ หากท่านไม่ไปช่วยคน ท่านก็ไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่า นี่เป็นความรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่า
อาจารย์จึงได้แต่พูดเช่นนี้ ไม่มีใครบังคับท่าน การบำเพ็ญใช่ไหม ล้วนเป็นเรื่องของแต่ละคน ท่านบอกว่าท่านไม่คิดจะบำเพ็ญ เช่นนั้นท่านก็ไม่บำเพ็ญ อิทธิพลเก่าจะปฏิบัติต่อท่านอย่างไร นั่นเป็นเรื่องของมัน ในระหว่างที่ถูกประทุษร้าย ใจนั้นก็ทนไม่ไหว จึงคิดจะอยู่อย่างสงบสักหน่อย ครั้งนี้มาต่างประเทศแล้ว หาที่เงียบๆสักแห่ง ใช้ชีวิตอย่างสบายๆ เพื่อให้ จิตใจที่ถูกทำร้ายกลับเป็นปกติ ก็ทำได้ แต่ท่านต้องทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ เวลาไม่รอคนนะ
มองดูการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์นี้ พรรคมารคอมมิวนิสต์จีน เครื่องจักรชิ้นนั้น หากเพียงมันไม่สลายไปหรือมีประกาศยุติการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง มันจะยังคงหมุนทำงานต่อไป ฟันเฟืองใหญ่น้อยยังคงหมุนอยู่ ภาพการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในที่ต่างๆ ยังคงเกิดขึ้น บางคนที่เข้าร่วมการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง เข้าใจได้แล้ว ไม่ทำต่อแล้ว กระทั่งแสดงออกมาในด้านที่ดีมาก นี่คือสถานการณ์โดยรวมที่กำลังเปลี่ยน เป็นสภาพการณ์ที่ปรากฏออกมา แต่ไม่ใช่พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนออกคำสั่งไม่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงแล้ว ไม่มีเรื่องนี้ ดังนั้นเครื่องจักรชิ้นนั้นของมันยังคงหมุนอยู่ ที่ปรากฏออกมาคือท่าทีของคนต่อศิษย์ต้าฝ่า สถานการณ์ชนิดนี้เกิดขึ้นในที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก หน่วย 610 บางคน คือตำรวจชั่วเหล่านั้นที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ถึงกับไปเยี่ยมเยียนถึงบ้าน และพูดว่าพวกเราไม่ยุ่งด้วยแล้ว ขอโทษขอโพยอย่างนั้นอย่างนี้ ข้าพเจ้าขอบอกท่าน นั่นไม่ใช่นโยบายการเมือง นั่นเป็นการแสดงออกของเขาแต่ละคน บางทีอาจเกิดจากเจิ้งเนี่ยนของตน บางทีอาจเกิดจากความกะล่อนของตัวเอง กลัวว่าหลังจากการรณรงค์ครั้งนี้ผ่านพ้นไปแล้ว จะไปตามหาเขา
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเถอะ สถานการณ์กำลังเปลี่ยน ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเป็นอย่างไร ท่านก็คือผู้บำเพ็ญ เมื่อเริ่มต้นการประทุษร้าย ข้าพเจ้ามิใช่พูดแล้วหรือว่า ข้าพเจ้าว่าใจดวงหนึ่งที่ไม่หวั่นไหวสามารถสยบการเคลื่อนไหวนับหมื่น ซึ่งมีคนเข้าใจว่า ให้อยู่กับบ้านไม่ต้องออกมา อยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลย สถานการณ์กำลังเปลี่ยน สภาพการณ์ที่น่ากลัวของการประทุษร้ายชนิดนี้ จึงสามารถสะเทือนใจคนได้ สถานการณ์ที่ดีเยี่ยมก็สามารถชักนำใจคนได้ ลมพัดหญ้าไหว ใจของคนก็ไหวตาม สิ่งนี้จึงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้บำเพ็ญ
ผู้ฝึกมากมายอาจจะยังมีปัญหาบางอย่างอยู่ เดินทางมาจากที่ไกลมาก อาจารย์ได้แต่บรรยายคร่าวๆ ข้าพเจ้าจะให้เวลากับทุกท่านสักหน่อย พวกท่านสามารถส่งคำถามได้ (เสียงปรบมือกึกก้อง) เรื่องเหล่านั้น เช่น ท่านพูดว่า บ้านฉันพบกับความยากลำบากอะไร ร่างกายฉันกำลังชำระกรรมเป็นอย่างไรบ้าง ข้าพเจ้าคิดว่า กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า พวกเราอย่าถามคำถามอย่างนี้เลย หากท่านจะถามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ขอบอกท่านคำหนึ่ง เพราะท่านเป็นผู้บำเพ็ญแล้ว ท่านจึงได้ประสบ เพราะท่านเป็นผู้บำเพ็ญแล้ว เรื่องเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนออกมาในด้านดี หรือด้านที่ไม่ดี ก็ล้วนเป็นเรื่องดี (เสียงปรบมือกึกก้อง) เพราะมันอยู่บนเส้นทางการบำเพ็ญนี้ของท่าน เตรียมไว้เพื่อให้ท่านยกระดับขึ้น
เอาละต่อไปส่งคำถามมาได้ (เสียงปรบมือกึกก้อง) (อาจารย์เปลี่ยนจากยืนเป็นนั่ง)
ศิษย์ เมื่อเร็วๆนี้พื้นที่ของเรา มีเพื่อนผู้บำเพ็ญหลายคน ได้ส่งประวัติการถูกประทุษร้ายไปให้ “ทีมตรวจสอบ” มีการริเริ่มใช้วิธีการของคนธรรมดาสามัญคัดค้านการประทุษร้าย พวกเรายังเข้าใจว่าควรจะให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่แต่ละคนฟ้องร้องหัวโจกมารเจียง เจ๋อหมิน เรื่องนี้จำเป็นต้องให้ศิษย์ต้าฝ่าเราไปผลักดันไหม
อาจารย์ขอเพียงศิษย์ต้าฝ่า หากท่านรู้สึกว่า เรื่องที่ทำ เป็นประโยชน์ต่อการเปิดโปงการประทุษร้าย ช่วยเหลือชาวโลกได้ ท่านก็ไปทำ แต่ถ้า ทั้งหมดนั้นทำเพื่อสนองจิตใจที่คิดจะแก้แค้นชนิดนี้ของคน นี่ก็ไม่อาจทำได้ ต้องระมัดระวังความปลอดภัยในการส่งวัสดุหรือเอกสารคัดค้านการประทุษร้ายไปยังหน่วยงานใดๆ ของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน เพราะนั่นเป็นการบริการให้กับพรรคมาร
ศิษย์ปัจจุบันเพื่อนผู้บำเพ็ญหลายคนต่างกำลังอาศัยกฎหมายของคนธรรมดาสามัญในการคัดค้านการประทุษร้าย ช่วยเหลือสรรพชีวิต แต่มักจะรู้สึกกันว่า ไม่สามารถคัดค้านการประทุษร้ายครั้งนี้ได้อย่างแท้จริง (อาจารย์ ทำไมไม่คัดค้านการประทุษร้ายครั้งนี้หรือ อาจารย์ไม่ยอมรับทั้งสิ้น) หากพวกเราสามารถจะอาศัยบทบาทที่ดีให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น และยังสามารถจะร่วมมือกับทนายความได้อย่างดี ทำให้เป็นผลจริงๆ.........
อาจารย์ใช่ เรื่องการคัดค้านการประทุษร้าย โดยตัวมันเองคือการอธิบายความจริง ก็คือการช่วยเหลือสรรพชีวิต ทำไมพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนต้องการเปลี่ยนแปลงความคิดของคน ทำไมอำนาจการเมืองนี้ต้องการทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิม ทำไมอำนาจการเมืองนี้ต้องการกรอกใส่แนวคิดที่ชั่วร้ายของมัน นี่เป็นสิ่งที่อำนาจการเมืองใดๆ ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมี ศาสนาใดๆล้วนบรรลุไม่ถึงระดับนี้ของมัน รวมทั้งศาสนานอกรีตเหล่านั้นก็เทียบกันไม่ติด พวกท่านลองดูให้ละเอียด นี่ไม่ใช่มารที่ทำลายมนุษยชาติหรือ แต่มันก็ไม่ใช่มารที่แท้จริงในจักรวาล แม้ว่ามันไม่ใช่มารของจักรวาล และมันก็ไม่ใช่ชีวิตที่ปกติ ทว่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนไป สิ่งที่เบี่ยงเบนไปสิ่งนี้ก็คือการทำลายที่มุ่งต่อการวางรากฐานความคิดชนิดนั้นไว้สำหรับมนุษยชาติตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เพื่อ ให้คนได้ฝ่า เข้าใจฝ่า อะไรที่เรียกว่า “อเทวนิยม” สิ่งนี้โดยตัวมันเองก็ชั่วร้ายยิ่งนัก คนเป็นสิ่งที่เทพสร้างขึ้น จักรวาลล้วนแต่สร้างขึ้นโดยเทพ มันบอกให้ท่านหันหลังให้กับเทพ จากนั้นบอกให้เทพละทิ้งท่าน
ศิษย์ผู้ประสานงานของจีนแผ่นดินใหญ่ถูกประทุษร้ายทีละกลุ่ม ละกลุ่ม ผู้ประสานงานหลายคนฝ่าออกมาจากรังมืดของสิ่งชั่วร้ายด้วยเจิ้งเนี่ยน แต่กลับจากโลกไปเพราะกรรมแห่งโรค ทำให้การประสานงานในหลายพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง ไม่สามารถรวมเป็นร่างเดียวกันได้อย่างแท้จริง ศิษย์คิดจะอาศัยรูปแบบของโครงการต่างๆ สร้างระบบของการประสานงานชนิดหนึ่งขึ้นมา....
อาจารย์ข้าพเจ้าคิดว่า วิธีการที่ศิษย์ต้าฝ่าคิดนั้น มีจุดมุ่งหมายที่ดี ภายใต้สภาพการณ์ที่ชั่วร้ายชนิดนั้น หากท่านไปติดต่อกัน นั่นก็จะไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจะนำอันตรายมาสู่ผู้ฝึกเหล่านั้นในพื้นที่ พวกท่านต้องใคร่ครวญจากจุดนี้ ที่จริง มีฝ่าอยู่ ศิษย์ต้าฝ่าเหล่านั้น ไม่ว่าเขาจะติดต่อกับทุกท่านหรือไม่ ขอเพียงเขารู้สถานการณ์ของต้าฝ่า สามารถขึ้นเว็บไซต์ได้ ทะลวงการปิดกั้นทางอินเตอร์เน็ต เขาก็จะตามทันสถานการณ์ได้ทั้งหมด เพราะมีเทพคอยดูแลอยู่
แน่ละ หากพวกท่านประสานกันขึ้นมาทำเรื่องอะไรได้ นั่นยิ่งดี แต่จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย อย่างน้อยที่สุด ในขณะนี้ไม่อาจไปทำเป็นวงกว้าง ไม่อาจไปรวบรวมรายชื่อของผู้ฝึกในพื้นที่ต่างๆ เป็นวงกว้าง ใครที่ทำ คนนั้นก็คือ ทำเรื่องไม่ดี
“ผู้ฝึกบางคนจากโลกไปเพราะกรรมแห่งโรค” แต่ไหนแต่ไรมา ข้าพเจ้าไม่เคยพูดว่าผู้ประสานงานบำเพ็ญได้ดี ข้าพเจ้าไม่ได้พูดว่าผู้ประสานงานคือศิษย์ต้าฝ่าเราที่บำเพ็ญได้ดีที่สุด หลายๆคนที่ชื่อเสียงไม่โด่งดัง ที่จริงนั้นบำเพ็ญได้ดีมาก ผู้ประสานงานเมื่อเริ่มแรกนั้น เนื่องจากเขามีความตั้งใจที่จะเป็นธุระให้กับทุกท่านจึงได้แต่งตั้งเขา แน่ละ ในหมู่ผู้ประสานงานที่บำเพ็ญได้ดีมากก็มีมากเช่นกัน ซึ่งมีจำนวนไม่ใช่น้อย แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ใช้เรื่องนี้มาแบ่งแยก ผู้ประสานงานนี้ ก็มีสิ่งที่ตนเองต้องบำเพ็ญ หาไม่ก็เป็นเทพแล้วซิ เมื่อเป็นคนก็ต้องบำเพ็ญ ผู้ประสานงานก็สามารถจะแสดงใจคนออกมาได้ และอาจมีจิตยึดติดที่แรงมากก็ได้ และอาจเป็นว่าในประวัติศาสตร์มีหนี้กรรมชนิดนี้ หนี้กรรมชนิดนั้นอยู่ เส้นทางชีวิตของแต่ละชีวิตนั้น ซับซ้อนมาก สถานการณ์ที่ประสบก็ซับซ้อนมาก ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด สามารถจะก้าวข้ามมา หรือก้าวข้ามมาไม่ได้นั้น ก็อยู่ในเวลาที่อาจเป็นไปได้ทั้งสองทาง หากทำได้ไม่ดีก็จะสูญเสียชีวิต หากทำได้ดีแล้วก็ฝ่าข้ามมาได้
ศิษย์เมื่อปี ค.ศ. 2009 ท่านอาจารย์เคยพูดว่าเสินยวิ่นจะกลับประเทศ หลายปีผ่านไปแล้ว ผู้ฝึกส่วนใหญ่คิดว่า หากพรรคมารไม่ดับสลาย เสินยวิ่นก็กลับประเทศไม่ได้ ( ที่ประชุมหัวเราะ)
อาจารย์เสินยวิ่นต้องไปแสดงที่ประเทศจีนอย่างแน่นนอน (เสียงปรบมือกึกก้อง) นี่ต้องดูสถานการณ์การเจิ้งฝ่า เป็นเรื่องเวลาของการเจิ้งฝ่า
ศิษย์เรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าถูกจับ ก่อให้เกิดความสนใจของสังคมนานาชาติ สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาก็จัดคนไปฟังที่ศาล แต่สื่อของเรากลับขาดการใส่ใจอย่างต่อเนื่อง
อาจารย์พูดขึ้นมานะ สื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำกัน ปัจจุบันนี้เมื่อเทียบกับสื่อของคนธรรมดาสามัญ ในด้านรากฐานการก่อตั้ง กับระดับความเป็นมืออาชีพ (ความเชี่ยวชาญ) ยังคงมีความด้อยกว่า จุดนี้แน่นอน แต่สถานการณ์ของการอธิบายความจริงโดยรวมในระหว่างการเจิ้งฝ่า มันก็มีบทบาทอย่างมากแล้ว แต่ข้าพเจ้าหวังว่าสื่อนั้นของพวกท่านจะสามารถดำเนินการได้เป็นปกติยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่านะ ขณะนี้พวกท่านก็ไม่มีบุคลากรที่ชำนาญการมากพอ ก็มีแต่ศิษย์ต้าฝ่าเหล่านี้ ช่างยากเย็นอย่างนี้ หากก้าวออกมาได้ อิทธิพลเก่าจึงจะถือว่าท่านมีธรรมานุภาพ เรื่องอะไรล้วนแต่ยากเย็นอย่างนี้ ถ้ามีบุคลากรมากมาย ทำขึ้นมาย่อมจะง่าย มันจะถือว่าท่านไม่มีธรรมานุภาพ นี่คือสิ่งที่อิทธิพลเก่าต้องการทำ พวกมันคิดอย่างนี้ และทำอย่างนี้
แน่นอนว่า สื่อที่พวกท่านทำนั้น ข้าพเจ้าขอถือโอกาสพูดสักนิด บางครั้ง ข่าวสารที่สำคัญเหล่านั้นของศิษย์ต้าฝ่า ไม่ได้รายงาน ท่านต้องรู้ว่าท่านทำอะไรอยู่ ที่ผ่านมา ไม่มีศิษย์ต้าฝ่าที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ว่าสถานการณ์ของศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดนั้นเร่งรัดมาก ท่านรู้ว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ ท่านต้องรู้ว่าท่านเป็นสื่อของใคร ขณะนี้ มีการลืมตัวไปหน่อย ไม่รายงานเรื่องที่สำคัญมากของศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าเคยพูดเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว แต่(ท่าน)ไม่ให้ความสำคัญ กระทั่งใช้อารมณ์ส่วนตัวมาทำสื่อ กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า การบำเพ็ญส่วนบุคคลของท่านจะดีหรือไม่ดี ไม่เป็นไร แต่เรื่องที่สำคัญเหล่านี้ เรื่องของศิษย์ต้าฝ่า ถ้าท่านไม่ทำให้ดี หนี้บัญชีนี้ ในอนาคตอิทธิพลเก่าอาจจะคิดบัญชีกับท่าน พวกท่านพึงระวังไว้เสมอ ท่านอย่าได้รู้สึกว่า ฉันอยู่ในตำแหน่งนี้ ตอนนี้ฉันพูดคำไหนเป็นคำนั้น ความรับผิดชอบมีมาก ถ้าทำไม่ดีปัญหาก็จะใหญ่ ความตั้งใจด้อยไปสักหน่อย ย่อมใช้ไม่ได้ทั้งนั้น
เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ชีวิตของจักรวาลมีนับไม่ถ้วน ข้าพเจ้าขอพูดกับพวกท่าน ในระหว่างการเจิ้งฝ่า ข้าพเจ้าทำจากตรงกลางของร่างนภาไปยังสองขั้ว เพราะอะไรการเจิ้งฝ่าของมนุษยชาติยังมาไม่ถึงตรงนี้ จนถึงขณะนี้ข้าพเจ้ายังทำไม่ถึงที่สุด ทำไปยังสองขั้ว ที่ฝั่งนี้ยังทำไม่ถึงชั้นผิว ที่ฝั่งนั้นยังไม่ถึงด้านบนสุด เทพของร่างนภาใหญ่ต่างเห็นว่า ไม่อาจจะคาดคิดได้ ชีวิตนั้นมีมากจนไม่อาจจะนับได้ ไม่อาจจินตนาการ บางครั้งข้าพเจ้าเองยังตะลึง ทว่าชีวิตที่มากมายอย่างนี้กำลังตั้งใจจดจ่อที่พวกท่าน แต่ละความนึกคิด และอากัปกิริยา ของท่าน ล้วนถูกสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนเฝ้ามองอยู่ ที่ข้าพเจ้าพูดคือ ความนึกคิดหนึ่งๆของคนๆหนึ่ง ก็จะถูกเทพนับไม่ถ้วนจับตามองอยู่ แต่ใครก็ไม่ยื่นเข้ามาแทรก แต่ใครๆ ก็ล้วนกำลังจับตามองอยู่ สุดท้ายพวกเขาจะไปประเมินชีวิตนี้ของท่าน
ศิษย์ศูนย์กลางพรรคมารจีนแผ่นดินใหญ่ ทำเรื่อง “ เปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ” ศิษย์ต้าฝ่าจึงเรียกร้องให้เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับ กฎหมายพื้นฐานในการจัดตั้งหน่วยงานของห้องล้างสมองในแต่ละแห่ง เปิดเผย ฐานะของผู้เข้าร่วมการประทุษร้าย และที่มาของเงินทุนที่ใช้ในการประทุษร้าย คือใช้วิธีการแบบนี้เปิดโปงการประทุษร้าย จะเหมาะสมหรือไม่
อาจารย์ หากรู้สึกว่าสมควรทำก็ทำเถิด อย่างไรเสียศิษย์ต้าฝ่าก็อาศัยการอธิบายความจริงเป็นจุดประสงค์ในการช่วยเหลือคน เรื่องเหล่านี้พวกท่านพิจารณาเอง อาจารย์เฝ้าดูสถานการณ์โดยรวม ไม่ให้เกิดปัญหา การบำเพ็ญส่วนบุคคลนั้น ฝ่าเซินของข้าพเจ้าดูแลอยู่ เรื่องที่เป็นรูปธรรม ข้าพเจ้าจะไม่ดูแลโดยตรง ถ้าใจคนนั้นออกมาแรงมาก ท่านจะสร้างความขัดแย้งกับข้าพเจ้าได้ (ที่ประชุมหัวเราะ) แต่ว่า เส้นทางการบำเพ็ญนั้น ท่านยังคงต้องเดินด้วยตัวเองจริงๆ จึงจะนับ หากข้าพเจ้าบอกท่านว่าจะเดินอย่างไร เส้นทางการบำเพ็ญนี้ของท่านก็ไม่นับ ดังนั้น บางคนมักคิดแต่จะถามอาจารย์ ทำเรื่องนิดหน่อยก็คิดจะถามอาจารย์ บางครั้งข้าพเจ้าจึงขมวดคิ้ว บางครั้งข้าพเจ้าไม่ค่อยสนใจเขา เขาอาจจะรู้สึกว่า ทำไมอาจารย์ปฏิบัติต่อฉันอย่างนี้ หากข้าพเจ้าบอกให้ท่านจริงๆ ข้าพเจ้าก็เท่ากับรื้อทางเส้นนี้ของท่านทิ้งแล้ว ขาดไปห่วงโซ่หนึ่งก็จะใช้ไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่อาจรื้อทิ้ง (อาจารย์หัวเราะ)
ศิษย์ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวมากมายที่มาเองจากจีนแผ่นดินใหญ่ และไชน่าทาวน์ก็เป็นจุดสำคัญของการอธิบายความจริงของเมืองนี้ ซานฟรานซิสโกมีผู้ฝึกนับร้อย แต่ผู้ฝึกหลายคนไม่เห็นความสำคัญของการอธิบายความจริงที่ไชน่าทาวน์กับแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นจึงมีผู้ฝึกจำกัดมากที่อธิบายความจริงเป็นเวลานานที่แหล่งท่องเที่ยวกับไชน่าทาวน์ หลายครั้งที่มีแค่หนึ่งคนในหนึ่งแห่ง
อาจารย์ได้ยินกันแล้วนะ ข้าพเจ้าหวังอย่างยิ่งให้ศิษย์ต้าฝ่ามากอีกสักหน่อยอยู่ที่นั่นช่วยเหลือคนให้มาก ท่านไปทำอะไรกันหรือ โดยเฉพาะคือคนเหล่านั้นที่ไม่ได้ทำให้ดี มาถึงที่นี่ท่านทำอะไรอยู่หรือ
ศิษย์ลูกๆของศิษย์ต้าฝ่าในประเทศโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว สภาพการบำเพ็ญของเรายังจะกระทบต่อพวกเขาได้หรือไม่
อาจารย์กระทบต่อพวกเขาได้มากเหลือเกิน ลูกของศิษย์ต้าฝ่าบางคน เมื่อยังเล็กอยู่ เขาไม่มีทัศนคติอะไร ตามผู้ใหญ่ไปฝึกพลัง แสดงออกได้ไม่เลว ลูกยังเล็กอยู่ใช่ไหม ตาทิพย์ก็มองเห็นทัศนียภาพบางอย่างได้ ยังมีส่วนช่วยท่านได้ แต่พอโตขึ้น ทัศนคติ ความเป็นตัวตนของเขาจึงมีแล้ว จึงถูกสังคมชักนำอย่างแรง หากท่านปล่อยปละเขาอีก เขาก็จะไหลไปตามกระแส ไม่ใช่ว่ามีลูกของศิษย์ต้าฝ่าบางคน ประพฤติตัวได้แย่มากหรือ กระทั่งยังเทียบกับลูกของคนธรรมดาสามัญไม่ได้เลย
ศิษย์หลายปีมานี้ พื้นที่นี้มีผู้ฝึกไม่น้อยที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่พวกเขาหลายคนเมื่อทำบัตรประจำตัวแล้วก็ไม่เห็นหน้าอีกเลย มีน้อยมากที่ออกมาร่วมการช่วยเหลือคน ถึงแม้ก่อนฝ่าฮุ่ยครั้งนี้อาจารย์ได้บรรยายฝ่าที่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม แต่พวกเขายังคงรับรู้ไม่ได้ บางคนลืมภาระหน้าที่ของตนในฐานะที่เป็นศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า
อาจารย์เป็นเช่นนี้ พวกเราในแต่ละประเทศล้วนมีสภาพการณ์นี้ หลายปีมานี้ก็มีคนอย่างนี้ตลอดมา พอข้าพเจ้าบรรยายฝ่า เขาก็มาแล้ว แต่หนึ่งปีมานี้ท่านไม่เห็นว่าเขาไปไหนแล้ว ท่านก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร พอข้าพเจ้าบรรยายฝ่าเขาก็มา ฝ่าของข้าพเจ้าไม่ใช่จะมาฟังตามชอบใจได้นะ นั่นคือความลับสวรรค์ หลังจากฟังแล้วหากท่านไม่ไปทำเรื่องของศิษย์ต้าฝ่า นั่นมิใช่การแอบฟังความลับสวรรค์หรือ อิทธิพลเก่าจะให้คนที่ไม่บำเพ็ญได้ฟังความลับสวรรค์หรือ ไม่อันตรายหรือ
ศิษย์เมื่อเร็วๆนี้ผู้ฝึกหลายคนที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ในหมู่เพื่อนผู้บำเพ็ญ ใช้แซ่ปลอม ชื่อปลอม
อาจารย์ใช่ซิ มาถึงต่างประเทศแล้วท่านยังกลัวอะไรละ ท่านไม่สามารถทำตัวให้สง่างาม ความนึกคิดหนึ่งๆของท่านนั้น เทพกำลังจับตาดูอยู่ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายท่านยังเป็นอย่างนี้หรือ หากพูดว่าท่านกลัวจนเคยชินแล้ว กลายเป็นความเคยชิน เช่นนั้นท่านก็รีบแก้ไขเสีย หากพูดว่าฉันมีสภาพจิตใจอย่างนี้ตลอดมานั่นก็เป็นปัญหาแล้ว นั่นมิใช่จิตยึดติดหรือ คนอื่นก็ไม่มีทางร่วมมือกับท่านได้ ใครก็ไม่รู้ว่าท่านคือใคร เช่นนั้นแล้วจะไม่ถือว่าท่านเป็นสายลับได้หรือ
ศิษย์ในพื้นที่ของพวกเรา แต่ละสัปดาห์หลังจากศึกษาฝ่าร่วมกัน ทุกคนต่างไม่อยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นานๆ เข้าจึงก่อให้เกิดฉากกั้นที่ไร้รูปชนิดหนึ่ง ยากจะก่อเกิดเป็นร่างรวม แต่ละสัปดาห์ของการแลกเปลี่ยนความคิดเรื่องเสินยวิ่น คนที่เข้าร่วมก็น้อยมาก ตลอดมาพวกเราในพื้นที่ขายตั๋วเสินยวิ่นได้ไม่ดี ผู้รับผิดชอบหลายคนเกิดความชินชา ไม่รู้ว่าจะแก้ไขสภาพการณ์อย่างนี้ได้อย่างไร
อาจารย์สภาพการณ์ของพื้นที่หนึ่งจะดีหรือไม่ ผู้รับผิดชอบก็สำคัญมาก มีใจของคนธรรมดาสามัญมากอย่างนั้น กลัวนั่นกลัวนี่ ยิ่งกลัวก็ยิ่งลำบาก กล่าวสำหรับผู้รับผิดชอบ อาจารย์มอบผู้ฝึกเหล่านี้ให้ท่านแล้ว ท่านรู้สึกว่าพวกเขาบำเพ็ญได้ดีหรือไม่ดี ไม่ใช่ความรับผิดชอบของท่านหรือ ต้องรับผิดชอบ ข้าพเจ้าจึงรู้สึกว่า มีบางพื้นที่ คล้ายกับว่า สภาพการบำเพ็ญย่อหย่อน ในบริษัทของคนธรรมดาสามัญก็ดี หรือทำงานอะไรก็ดี ท่านจะทำอย่างนี้ นั่นก็คือการทำพอให้รอดไปวันๆ ศิษย์ต้าฝ่า สามารถจะทำอย่างขอไปทีได้หรือ เรื่องที่เข้มงวดอย่างนี้ ข้าพเจ้าพูดไปแล้ว แน่ละสภาพการบำเพ็ญล้วนไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีระดับการรับรู้ต่อฝ่า ต่อระดับชั้นของการบำเพ็ญ ก็ไม่เหมือนกันทั้งนั้น ซึ่งปรากฏออกมาแตกต่างกันมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สิบกว่าปีของเส้นทางที่ยากลำบากอย่างนี้ ก็ก้าวข้ามมาแล้ว ยังไม่ทะนุถนอมไว้(ไม่รู้ค่า)
แต่ข้าพเจ้าก็พูดแล้วว่า ท่านนั้นไม่รู้ค่า เช่นนั้นก็หมดหนทาง คนระดับกลางได้ฟังเต๋า คนระดับล่างได้ฟังเต๋า เขาก็อยู่ในสภาพการณ์ชนิดนี้แต่ว่า ศิษย์ต้าฝ่า อีกมาก รวมทั้งอาจารย์ เฝ้ารอว่าพวกท่านจะสามารถเข้าใจขึ้นมาได้จริงๆ สามารถที่จะมีใจคนน้อยลงสักหน่อยได้จริงๆ สามารถที่จะรับรู้ได้โดยอยู่ในฝ่า การบอกกล่าวยังคงได้แต่บอกกล่าว การเฝ้ารอยังคงเป็นการเฝ้ารอ หากท่านไม่ไปบำเพ็ญจริง ท่านไม่คิดที่จะเห็นความสำคัญจริงๆ เช่นนั้นก็ต้องคิดหาวิธีเอาเองแล้ว
ที่จริงศิษย์ต้าฝ่าที่ทำได้ดี ในการประทุษร้ายครั้งนี้ศิษย์ต้าฝ่าที่สามารถก้าวข้ามมาได้ ไม่ใช่หรือว่าเพราะพวกเขาศึกษาฝ่าได้ดี ปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงสามารถข้ามมาได้ คนเหล่านั้นที่ได้บำเพ็ญ แต่ไม่บำเพ็ญ นั่นก็ยากมากที่จะเดินได้ดีบนเส้นทางนี้
ศิษย์ผมเพิ่งมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ได้หนึ่งปี ทำงานอยู่ในสื่อ รู้สึกว่าแรงกายแรงใจไม่พอ ใช่ไหมว่าควรอยู่ในสังคมตะวันตกปรับตัวสักระยะหนึ่งจึงจะทำงานสื่อได้
อาจารย์ไม่มีการพูดอย่างนี้กระมัง ท่านอยู่ในสภาพแวดล้อมของต้าฝ่า ร่างกายล้วนไม่ดี สภาพการณ์ล้วนไม่ดี ไปอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ ข้าพเจ้าว่าไม่แน่ว่าจะดีกว่า อาจเป็นเพราะงานยุ่งเกินไปแล้ว อยู่ในสื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ มีบทบาทที่ต้อง รับภาระมากเกินไป ก็มีสภาพการณ์นี้อยู่ กังวลจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ก็มีสภาพการณ์นี้ แน่ละนี่เป็นส่วนน้อย หากไม่ใช่สภาพการณ์นี้ เช่นนั้นก็จงมุมานะให้มากในการบำเพ็ญ
พวกเราหลายๆคนเวลาที่ผ่านด่าน พูดตามภาษาของพวกท่านคือ “ด่านกรรมแห่งโรค” ก็ดี ความลำบากอะไรก็ดี ค้นหาไม่พบว่าจิตยึดติดของตัวเองอยู่ตรงไหน คิดไม่ออก คิดไม่ออกว่า ที่แท้เป็นสาเหตุอะไรกันแน่ ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน ศิษย์ต้าฝ่านั้นไม่อาจจะคลุมเครือไม่จริงจัง (ขายผ้าเอาหน้ารอด) โดยเด็ดขาด ท่านจวนจะผ่านด่านนี้ได้แล้ว ก็จะข้ามไปได้แล้ว แต่หากยังคงมีจิตยึดติดหนึ่งที่ไม่ได้ทิ้งไป ก็ไม่บรรลุมาตรฐาน ก็จะข้ามไปไม่ได้ บำเพ็ญเสร็จแล้ว (ดีแล้ว) ก็ข้ามไปได้แล้วมิใช่หรือ ก็ข้ามไปไม่ได้ เขาจึงหยุดค้างอยู่ตรงนั้น แต่สิ่งนั้นกลับไม่ได้ใหญ่โตอะไร จิตยึดติดนั้นกลับไม่ใหญ่โตอะไร มันเล็กมาก แต่ก็เพราะว่าท่านรับรู้มันไม่ได้ ท่านจึงข้ามไปไม่ได้ มัวแต่หยุดค้างอยู่ตรงนั้น นี่ไม่ได้พูดว่าท่านบำเพ็ญได้ไม่ดี ทว่าท่านไม่ได้ลองคิดอย่างจริงจัง รับรู้ให้ได้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับการบำเพ็ญ หากเพียงมันไม่สอดคล้องกับสภาวะของผู้บำเพ็ญ ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บำเพ็ญสมควรมี มันก็คือปัญหานี้ (เสียงปรบมือกึกก้อง)
ศิษย์สวัสดีครับท่านอาจารย์ กรุณาพูดเรื่องเงินทุนที่เพิ่งบรรยายไปเมื่อครู่ให้ละเอียดอีกสักหน่อย ผู้บำเพ็ญที่ทำการค้า จะยึดกุมให้ดีได้อย่างไร
อาจารย์ผู้ที่ทำการค้า ไม่ใช่ปัญหาที่ข้าพเจ้าพูดถึง นั่นเป็นการงานของท่านเอง ท่านว่าฉันเป็นนายจ้าง หากเพียงสิ่งที่ท่านทำเหมือนดังเช่นผู้บำเพ็ญ ไม่ทำลายผู้อื่น ทำการค้าตามปกติ ก็จะไม่มีปัญหา คำพูดนี้ข้าพเจ้าเคยพูดตั้งนานแล้ว นั่นล้วนเป็นเงินของท่านเอง (อาจารย์หัวเราะ) เก็บไว้ที่บ้านของพวกท่านเอง หรือเก็บไว้ในธนาคาร นั่นเป็นเรื่องของตัวท่านเอง ที่ข้าพเจ้าพูดคือโครงการของศิษย์ต้าฝ่า
โครงการหลายอย่างของศิษย์ต้าฝ่า ท่านว่ามันเกิดขึ้นเพราะเป็นโครงการของศิษย์ต้าฝ่า แต่เงินทุนของท่านกลับจัดการจนวุ่นวายไปหมด ที่ข้าพเจ้าพูดนี้ มีจำนวนมากทีเดียวนะ มันเป็นปัญหาหนึ่ง ซึ่งอิทธิพลเก่าจะสร้างความยุ่งยาก พวกท่านบางคนเกิดปัญหาทางด้านนี้ขึ้นแล้ว ตนเองยังไม่ได้สติ ยังไม่เห็นความสำคัญ ข้าพเจ้าจะดูว่าท่านจะข้ามด่านนั้นไปได้อย่างไรกัน
ศิษย์ คนส่วนหนึ่งเข้าใจว่า ล้วน ไม่ควรออกไปต่างประเทศ ควรอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ช่วยคน อีกส่วนหนึ่งเข้าใจว่า ท่านอาจารย์ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ทำ ก็สามารถออกไปต่างประเทศได้(ที่ประชุมหัวเราะ) เพื่อนผู้บำเพ็ญว่า ล้วนแต่คิดจะออกไปต่างประเทศกัน นี่เป็นจิตยึดติดที่รุนแรงอย่างหนึ่ง
อาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ อาจารย์ไม่ได้พูดคำนี้ ทำไมไม่พูดละ เพราะแต่ละคนต่างมีการจัดวางของแต่ละคน เส้นทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจไปพูดอย่างนี้โดยตรงว่าทำได้หรือไม่ได้ แต่กล่าวในฐานะศิษย์ต้าฝ่า ท่านมิใช่กำลังใช้ฝ่ามาประเมินหรือ
เมื่อก่อน ในเวลานั้นที่เสินยวิ่นจะใช้คน เคยพบกับสถานการณ์อย่างนี้ แต่ก็ไม่ใช่เป็นอย่างนี้ทั้งหมด อาทิเช่น คิดว่าต้องการคนๆหนึ่ง เขาก็มาไม่ได้ จะทำอย่างไรก็วุ่นวายไปหมด ก็คือไม่ยอมให้เขามา พูดตามหลักการ เรื่องการช่วยคน หากอาจารย์มานำด้วยตนเอง ให้ทำ เรื่องนี้ย่อมสำคัญอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้ ต่อมาพบว่า คนที่เขาควรช่วย เขาไม่ได้ช่วย ชั่วชีวิตนี้ เรื่องที่เขาควรทำโดยเฉพาะคือเรื่องที่รับปากไว้ เขาไม่ได้ทำ มาไม่ได้ เขาต้องทำเรื่องนั้นให้เสร็จจึงจะสามารถมาได้ พบว่ามีปัญหานี้อยู่
ศิษย์ เนื่องจากในช่วงที่มีการประทุษร้าย ได้เข้าไปเมืองเป่ยจิงปกป้องฝ่า จึงไม่มีประวัติการศึกษา ตอนนี้หาเวลาไปเรียน ใช่ไหมว่า จะสามารถบรรลุมาตรฐานที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนเฟยเทียนได้
อาจารย์ ไม่มีประวัติการศึกษา ใช่ ศิษย์ต้าฝ่ามากมายไม่ได้เรียนหนังสือ การประทุษร้ายครั้งนี้ชั่วร้ายมากต่อเยาวชน ไม่ยอมให้ศิษย์ต้าฝ่าวัยหนุ่มสาวเข้าเรียน อันนี้มีมาก สิ่งชั่วร้ายก็ทำอย่างนี้ หากท่านว่า ฉันยังอายุน้อย ฉันจะหาเวลาไปเล่าเรียน ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่ว่านะ ตนเองก็ต้องเข้าร่วมโครงการของต้าฝ่าทำอะไรต่างๆ บ้าง ขณะเดียวกันก็เร่งศึกษาเล่าเรียน นี่ไม่เป็นปัญหา
จะเข้าโรงเรียนเฟยเทียน ต้องมีเงื่อนไขจึงจะได้ เฟยเทียนเป็นโรงเรียนเฉพาะทาง มันเป็นโรงเรียนศิลปะ ดังนั้นจึงรับแต่ศิลปิน ไม่ใช่โรงเรียนทั่วไป ทว่าในอนาคตจะเปิดสอนในสังคม มหาวิทยาลัยเฟยเทียนเตรียมที่จะเปิดสอนในสังคม จะทำเป็นมหาวิทยาลัยรวม ภาควิชาอื่นๆก็จะต้องทำ และจะเปิดสอนในสังคม เปิดรับนักศึกษาจากสังคม จึงจะไม่จำกัดอยู่แต่ในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า ขณะนี้กำลังลงมือทำแล้ว (เสียงปรบมือ)
ศิษย์ การค้าส่วนตัวจัดอยู่ในขอบเขตที่ท่านพูดหรือไม่
อาจารย์ การค้าส่วนตัวไม่เข้าข่าย การค้าส่วนตัว นั้น ถึงอย่างไรก็ต้องจัดการให้ดี อะไรๆท่านก็ต้องดูแลให้ดี (อาจารย์หัวเราะ) หาไม่การค้าก็จะขาดทุนได้ ใช่ไหม (ที่ประชุมหัวเราะ)
ศิษย์ มีผู้ฝึกคนหนึ่ง บำเพ็ญได้สิบกว่าปีแล้ว ยังอาศัยการเจ็บป่วยยื่นขอความช่วยเหลือจากประเทศ พวกเราไม่รู้ว่าจะแลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนผู้บำเพ็ญคนนี้ได้อย่างไร เนื่องจากเขาบำเพ็ญแล้วร่างกายก็ไม่มีโรค และขึ้นเขาไปทำงานยังสถานที่ก่อสร้าง และทำได้ดี (ที่ประชุมหัวเราะ)
อาจารย์ ถ้ายังมีใจคนอยู่ ย่อมจะสะท้อนออกมาได้ ไม่ใช่อย่างนี้ ก็อย่างนั้น แต่ไม่อาจพูดว่าผู้ฝึกคนนี้บำเพ็ญได้ไม่ดี ใจคนนั้นหนา ไม่แน่ว่าเขายึดติดอยู่ที่ตรงไหน อย่างนี้ก็ไม่ต้องทำมาหากินแล้ว จะได้ ทำงานให้ต้าฝ่ามากสักหน่อย อย่างนั้นเอาของหลวงก็แล้วกัน บางทีอาจเป็นวิธีคิดแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราเป็นผู้บำเพ็ญ ยังคงต้องเดินให้เที่ยงตรงบนทางของตัวเองนะ
ศิษย์ เมื่อประสบกับความตกต่ำทางศีลธรรม กระทั่งเรื่องชาวโลกที่ไม่มีขอบเขตใดๆ ทางศีลธรรม ยากที่จะเกิดจิตเมตตา ใช่หรือไม่ว่า ไม่ต้องไปใส่ใจว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไร ศิษย์ต้าฝ่า สนใจแต่เพียงไปช่วยคน
อาจารย์ใช่ คนนั้นหนา ในสถานการณ์ที่ต่างกัน สภาพการณ์ที่ปรากฏออกมา นั่นก็จะต่างกันมากจริงๆ ปัจจุบันนี้ข้าพเจ้ามองดูชาวจีนแผ่นดินใหญ่ มาตรฐานศีลธรรมของคนตกต่ำลงรวดเร็วจริงๆ ข้าพเจ้าออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่สิบกว่าปีแล้ว ข้าพเจ้าเฝ้าตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของคนจีนแผ่นดินใหญ่เรื่อยมา เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจิ้งฝ่า การช่วยเหลือ ข้าพเจ้าจึงพบว่าคน ช่างเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน แต่ เมื่อข้าพเจ้าตรวจสอบพวกเขาโดยละเอียด ข้าพเจ้าพบว่าพวกเขายังมีจิตใจที่ดีงาม เพียงแต่ความคิดเปลี่ยนแปลงไปอย่างร้ายแรงมาก และถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนเร่งระดับให้เกิดการเบี่ยงเบนอย่างรวดเร็วขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แต่จะได้รับการช่วยเหลือหรือไม่ ที่จริงก็ต้องดูที่ความคิดที่ดีงามของเขา คนจีนแผ่นดินใหญ่นั้นไม่ว่าเขาจะแปดเปื้อนอย่างไร ถัดจากชั้นผิวลงไปเหมือนมีเยื่อบางๆ ชั้นหนึ่งคั่นอยู่ พอลอกทิ้งไปก็คือตัวเขาเองแล้ว ก็จะเหมือนกับคนยุคทศวรรษหกศูนย์ ที่มีศีลธรรมประจำใจ ในอนาคต ข้าพเจ้าจะลอกสิ่งนี้ทิ้งไป (เสียงปรบมือดังกึกก้อง)
ศิษย์ บางครั้งศิษย์มักจะตกอยู่ในสภาพท้อแท้ หดหู่ ข้อหนึ่งคือรู้สึกเลือนลางกับความหมายของชีวิตหลังจากหยวนหมั่น อีกข้อหนึ่งคือรู้สึกเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากแล้ว ไม่ว่าจะขยันอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะชดเชยความสูญเสียที่เกิดจากความไม่ก้าวหน้า โดยผ่านการศึกษาฝ่าอย่างมากมาย ก็ดีขึ้นหน่อยหนึ่ง แต่บรรลุไม่ถึง “บำเพ็ญเหมือนเมื่อแรกเริ่ม” ศิษย์ที่ไม่มุมานะใคร่ขอให้ท่านอาจารย์ให้ความกระจ่าง
อาจารย์กล่าวในฐานะคนๆหนึ่ง ต่อเทพ ต่อการหยวนหมั่นก็ไม่เหลือเจิ้งเนี่ยนแล้ว นั่นย่อมเกิดจากการรบกวนเป็นเวลานานของสิ่งชั่วร้ายต่อความนึกคิดของคน อย่างแน่นอน รวมทั้งกรรม ในสภาพการณ์ที่ปกติ ท่านบอกว่าต้องการรู้ว่าสภาวะของชีวิตบนสวรรค์เป็นอย่างไร ที่จริงในขณะนี้ท่านกำลังคิดว่าเทพจะเป็นอย่างไร ก็เป็นการใช้ความนึกคิดของคนในการคิดอยู่ ซึ่งท่านก็ไม่อาจคิดได้กระจ่าง ดังนั้นคิดจะใช้วิธีนี้ทำให้เจิ้งเนี่ยนสูงขึ้นมาก็ยากมาก แต่พวกเรา ศิษย์ต้าฝ่า แต่ละคน รวมทั้งชาวโลก ในส่วนลึกของความนึกคิดของท่านล้วนมีความทรงจำอยู่ คือ มายังโลกเพื่อค้นหาต้าฝ่า ศิษย์ต้าฝ่า มาเพื่อช่วยเหลืออาจารย์ในการเจิ้งฝ่า บางครั้งข้าพเจ้าทำการตรวจสอบศิษย์ต้าฝ่าบางคน หลายๆเรื่องที่แสดงออกมา นั้น ช่างน่าเป็นห่วง แต่ว่านะ เมื่อประสบกับปัญหาหลักการของศิษย์ต้าฝ่า นั่นก็จะมองออกได้จริงๆว่า อ้อ นี่คือศิษย์ต้าฝ่า
เมื่อใจคนแรงขึ้นมา ท่านย่อมมองไม่เห็นเจิ้งเนี่ยนของเขา เมื่อเจิ้งเนี่ยนเข้มแข็งจึงจะรู้สึกได้ว่า ศิษย์ต้าฝ่า นั้น ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในระหว่างผู้ฝึกจึงมักจะมองเห็นได้ไม่ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ในสภาวะอะไร การแสดงออกของใจคนก็ไม่แน่ว่าจะเหมือนกันทั้งหมด จึงทำให้ท่านจำใจเอย ท้อแท้เอย ทำให้ท่านเปลี่ยนกลายเป็นเกียจคร้านย่อหย่อน สิ่งนี้จึงทำให้ท่านกระตือรือร้นขึ้นมาไม่ได้ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ชีวิตที่เล็กกระจิดริดและไม่ดีเหล่านั้นจำนวนมาก พวกมันก็เหมือนฝุ่นละอองที่ปกคลุมตัวท่าน ปกคลุมความคิดของคนไว้ แต่ว่านั่นไม่ใช่อะไรทั้งนั้น เมื่อท่านฟาเจิ้งเนี่ยนก็สามารถจะดับสลายสิ่งที่เน่าเปื่อยเหล่านี้ทิ้งไปได้ หลายคนฟาเจิ้งเนี่ยนอย่างขอไปที หากท่านไม่ชำระล้างสิ่งเหล่านี้ในตัวท่านให้หมดจด การบำเพ็ญของท่านก็จะถูกกระทบ แต่สิ่งเหล่านั้น แค่หนึ่งความคิดก็จะดับสลายไปจนหมด ส่วนท่านนั้น มีเจิ้งเนี่ยนไม่พอ เจิ้งเนี่ยนจึงออกมาไม่ได้ จึงไม่บังเกิดผล
อิทธิพลเก่าเหล่านั้นที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าเข้มงวดกับพวกมันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อิทธิพลเก่าก็มองออกว่า บาปนั้นหนักเพียงไร พวกมันก็ไม่กล้าประทุษร้ายอย่างกำเริบเสิบสานจนเกินไป กระทั่งไม่กล้าบงการเทพเหล่านั้นที่ต่างกันหรือชีวิตตามปกติ ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าโดยตรงอีกแล้ว ปัจจุบันพวกมันกำลังควบคุมแมลงเหล่านั้นเป็นต้นกับของเลอะเทอะ เน่าเปื่อยชั้นต่ำเหล่านั้น ที่จะต้องถูกกวาดทิ้งไป ในการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ซึ่งล้วนไม่อาจจะเปรียบได้(กับศิษย์ต้าฝ่า) แต่ว่าศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมาก ก็เป็นเพราะเจิ้งเนี่ยนไม่เข้มแข็ง แสดงออกมาอย่างจำใจ บางครั้งด่านที่ข้ามไปไม่ได้ในระหว่างการบำเพ็ญ ค้นหาจิตยึดติดไม่พบ เพราะไม่ใส่ใจปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่จริงต่อให้เป็นเรื่องที่เล็กลงไปอีก หากไม่บรรลุมาตรฐานก็ใช้ไม่ได้ พอเวลายาวนาน คนก็จะเกิดท้อแท้ใจ มันก็จะทำให้ท้อแท้หนักยิ่งขึ้น ขณะนี้การสลายกรรมที่ปรากฏออกมาก็เป็นสิ่งเน่าเปื่อยชั้นต่ำเหล่านี้เป็นผู้ทำทั้งสิ้น
จะต้องเห็นความสำคัญของการฟาเจิ้งเนี่ยน ทุกท่านต่างก็ฟาเจิ้งเนี่ยน ขจัดพวกมัน(เสียงปรบมือกึกก้อง) นี่ก็เป็นการจัดวางของอิทธิพลเก่ามาถึงเวลานี้แล้ว มันอ่อนแอมาก แต่ก็ไม่ดีอย่างมาก จะต้องปฏิบัติต่อมันอย่างจริงจัง ที่จริง เวลานี้พวกท่านลองคิดดู ตอนเริ่มต้นของการประทุษร้ายอย่างชั่วร้ายมากนั้น เวลานั้นจิตใจพวกท่านกระตือรือร้นอย่างมาก อาจารย์บอกให้ทำอะไร ก็ทำได้ดีอย่างแน่นอน พวกท่านลืมพลังของความกระตือรือร้นนั้นเมื่อหลายปีก่อนแล้วหรือ ในเวลานั้นจิตใจก็เข้มแข็งมาก ต้านทานแรงกดดันที่ใหญ่ขนาดนั้นจนก้าวข้ามมาได้แล้ว ท่านทราบไหมว่าแรงกดดันนั้นใหญ่เพียงไรละ แต่ตอนนี้กลับย่อหย่อนเสียแล้ว การไม่ก้าวหน้า ย่อมทำให้เจิ้งเนี่ยนของท่านมีไม่พอจริงๆ ยิ่งมาถึงเวลานี้ สิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นที่จริงก็ไม่ไหวแล้ว แต่ท่านกลับเปลี่ยนเป็นท้อแท้ใจ
ข้าพเจ้าจะขอพูดอย่างนี้ก็แล้วกัน ด้านที่เป็นคนของพวกท่านก็มาถึงชั้นผิว ที่ มีพลังน้อยแล้ว (อาจารย์หัวเราะ) มุ่งไปสู่ชั้นผิวที่สุดของคนแล้ว ดังนั้นแรงพลังที่แสดงออกมาจึงไม่มากเหมือนเดิม แต่หากเจิ้งเนี่ยนของท่านเข้มแข็ง ก็จะสามารถกระตุ้นพลังงานให้มากอย่างนั้นได้เช่นกัน ดังนั้นพวกท่านจึงต้องใส่ใจยิ่งขึ้นในการฟาเจิ้งเนี่ยน ที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่คือ อะไรๆก็ล้วนแต่มีกฎเกณฑ์ แต่ดูคล้ายกับว่าไม่มีลำดับ ที่จริงล้วนมีลำดับ ท่านต้องรักษาความกระตือรือร้นเช่นนั้นไว้เหมือนเมื่อตอนนั้น ขณะนี้ในทันใดสิ่งชั่วร้ายก็จะหมดไปแล้ว อิทธิพลเก่านี้มันก็อาจจะไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว มันก็จะไม่จัดวางเอาไว้อย่างนี้
ศิษย์การสร้างสรรค์วรรณกรรมจะหวนคืนสู่แบบดั้งเดิมได้อย่างไร
อาจารย์ที่จริงข้าพเจ้าก็กำลังคิดถึงปัญหาที่ท่านถาม การสร้างสรรค์รายการของเสินยวิ่นก็กำลังทำกันอย่างนี้ พูดถึงการฟื้นคืนสู่วัฒนธรรมดั้งเดิม แม้ว่าจะพูดได้ง่าย แต่อะไรคือวัฒนธรรมดั้งเดิมละ จะฟื้นคืนสู่วัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างไร มาตรฐานอยู่ตรงไหน วิธีที่เป็นรูปธรรมจะไปทำกันอย่างไร
ในช่วงต้นของสาธารณรัฐ ก็คือช่วงท้ายของรัชสมัยชิง เมื่อสาธารณรัฐเกิดขึ้น วรรณกรรมในเวลานั้นล้วนเป็นกึ่งร้อยแก้ว กึ่งคลาสิก หลังจากนั้น แบบร้อยแก้วก็มากขึ้นมาแล้ว แต่ยังคงมีความสุภาพ ยิ่งมาในช่วงหลัง เมื่อกลายเป็นแบบร้อยแก้วทั้งหมด สิ่งเหล่านั้นที่เป็นแบบดั้งเดิมก็พบว่าไม่มีอีกแล้ว การอธิบายคำศัพท์ภาษาฮั่นก็เปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันการอธิบายคำศัพท์ภาษาฮั่นในยุคนี้ก็ยิ่งเป็นการอธิบายความหมายของยุคนี้ไปแล้ว ไม่ใช่ความหมายดั้งเดิมของคำศัพท์โบราณนั้นแล้ว ดังนั้นสิ่งเหล่านั้น เมื่อพูดขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ หากพวกเราคิดจะทำให้ได้ทั้งหมด คนยุคนี้ก็ยากที่จะทำได้ข้าพเจ้าพูดเล่นๆกับพวกเขา ว่า ข้าพเจ้ามีวิธี (เสียงปรบมือ)
แนวคิดที่ชั่วร้าย ซึ่งพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนกรอกใส่ให้นี้ ในความคิดของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ถูกถือเป็นสิ่งปกติไปแล้ว คนหนุ่มสาวบางคน ตั้งแต่เกิดก็ผ่านกันมาท่ามกลางการกรอกใส่ให้อย่างนี้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว วัฒนธรรมที่ชั่วร้ายเบี่ยงเบนชนิดนี้ ได้กลายเป็นเรื่องธรรมชาติ ในทางกลับกัน กลับถือว่าสิ่งที่ปกติเป็นของน่าขัน หรือว่าไม่เข้าใจ แล้วจะแก้ไขเขาได้อย่างไรกัน พวกเขาไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรมจีนอย่างเป็นระบบและจริงจัง ล้วนศึกษาประวัติศาสตร์จีนกันอย่างผิวเผินไม่ลึกซึ้งและศึกษาแบบวิพากษ์วิจารณ์ ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของอารยธรรมชนชาติจีนในระยะห้าพันปี แม้แต่เทพยังสรรเสริญ ครั้นมารชั่วคอมมิวนิสต์จีนมาถึงแล้ว วัฒนธรรมก็ถูกทำลายวัตถุสิ่งของต่างๆ ล้วนถูกพรรคมารทำลาย การทำลายสิ่งเก่าสี่อย่าง นั่นคือความหายนะที่มนุษยชาติไม่เคยมีมาก่อน ปัจจุบันยังคงกรอกความคิดให้กับนักเรียน นักศึกษาว่า ยุคสมัยโบราณของจีนนั้นล้าหลัง จักรพรรดิ ขุนพล ขุนนาง ชายหนุ่มที่มีความรู้ หญิงสาวที่สวยงามไม่มีใครดีสักคน มีแต่พรรค ที่ดีที่สุด คนจีนในยุคสมัยนี้ช่างน่าเวทนานัก
ในอดีตวัตถุทางวัฒนธรรมจีนโบราณมีมากมาย เวลานั้นในหนึ่งอำเภอก็มีวัดหลายแห่ง มีบ้านเกิดของผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ มีหินแกะสลักทั้งหัวถนนและท้ายซอย มีกำแพงเมืองโบราณ มีแบบบ้านเรือน นับไม่ถ้วน และเมืองกับชนบทล้วนเป็นแบบโบราณและเรียบง่าย ในเวลานั้นอารมณ์ของคนและกิริยาท่าทางที่แสดงออก ล้วนไม่เหมือนกับยุคนี้โดยสิ้นเชิงวัตถุโบราณกับตัวอักษรและภาพวาดที่เขียนด้วยพู่กันตำราโบราณห้าพันปีที่ตกทอดมาล้วนถูกเผาทิ้งไปแล้ว ปัจจุบันทุ่มเทกำลังไปลักลอบขุดหลุมฝังศพในสุสานอะไร และยังคุยโม้ว่าเป็น “การวิจัยศึกษาทางโบราณคดี” ลักลอบขุดหลุมฝังศพ เพิ่มทวีการทำลายคนโบราณพอลักลอบเอาของออกมาได้สักนิดยังบอกว่า “ ภายใต้การนำของพรรคเรา สามารถค้นพบอะไร ต่อมิอะไรบ้าง” พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนทำลายวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ของประเทศจีนของพวกเราไปมากเท่าไร นี่ไม่ใช่อยู่ภายใต้ “การนำ” ของมันด้วยหรือ จากหลุมฝังศพขุดได้ของอะไรออกมาสักหน่อย และยังตรวจสอบไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่ยังบอกว่าอยู่ภายใต้ “การนำ”
พูดถึงเรื่องเหล่านี้ ค่อยๆทำเถิด พวกท่านพยายามทำไป สามารถศึกษาเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมดั้งเดิมเหล่านั้นที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ศิษย์ศิษย์ต้าฝ่าหลายล้านคนสูญเสียชีวิตไปแล้ว แต่ขณะนี้ ตัวเลขที่ประกาศในเว็บหมิงฮุ่ยมีเพียงไม่กี่พันราย พวกเราจะค้นหาหลักฐานที่ศิษย์ต้าฝ่านับล้านที่ถูกประทุษร้ายได้อย่างไร
อาจารย์ศิษย์ต้าฝ่าเอย ถูกประทุษร้ายตายไปมากมาย กล่าวสำหรับสื่อมวลชน ถ้าจะรายงานก็ต้องนำหลักฐานจริงออกมา ตรวจว่าเขาเป็นใคร ทำความเข้าใจเอกสารที่เป็นของเขา จึงจะน่าเชื่อถือ ดังนั้นกล่าวในฐานะสื่อ กล่าวในฐานะเว็บหมิงฮุ่ย ก็ได้แต่ทำอย่างนี้ บางคนหาแหล่งที่มาไม่ได้ เช่นนั้นก็ไม่อาจนับเป็นเอกสารที่ถูกต้อง
จะค้นหาได้อย่างไร ปัจจุบันไม่มีเวลาที่จะไปทุ่มเท เทพกำลังดูแลอยู่ ศิษย์ต้าฝ่าจากไปเร็วหรือช้า ก็หยวนหมั่นทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร การประทุษร้ายครั้งนี้ ใครที่ทำ ผู้นั้นก็ต้องรับผิดชอบ รวมทั้งพวกที่เข้าร่วม การแสดงออกลักษณะนี้ของมนุษย์ก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำครั้งนี้
ศิษย์คนธรรมดาสามัญ ไม่เข้าใจว่า “ใคร”จะคิดบัญชีกับพรรคมาร ไม่เชื่อว่าเทพกำลังทำอยู่
อาจารย์สำหรับเรื่อง หลักการของสวรรค์ กับเทพ พระพุทธ เพียงแต่พูดอย่างทั่วๆ ไปสักหน่อยก็พอ พูดตามหลักการพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนมิใช่ประทุษร้ายคนดีหรอกหรือ ทำลายและปกปิดประวัติศาสตร์จีน คนไม่รู้หรือ แต่ละครั้งในอดีตผู้ที่ถูกรณรงค์ประทุษร้าย ล้วนแต่เป็นหัวกะทิของประเทศจีน คนไม่รู้หรือ ความจริงของการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ท่านไม่รู้หรือ พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนคืออะไร คนไม่รู้หรือ บอกคนว่ามารร้ายตนนี้มันชั่วร้ายแค่ไหน คนก็จะเข้าใจได้
พูดถึงว่าเทพกำลังดูแลอยู่ หากท่านอธิบายความจริงสูงเกินไป พูดว่าเทพกำลังทำอยู่ เทพกำลังดูแลอยู่ ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สามารถจะเข้าใจได้ ข้าพเจ้าว่าหากท่านพูดสูงเกินไป เขาก็จะไม่ยอมรับ ท่านก็เท่ากับบอกเขาว่า “คุณอย่าฟังฉันอธิบายความจริง ฉันกำลังพูดจาแบบหลับหูหลับตา” แน่ละคนจีนบางคนนั้นเชื่อถือเทพ ท่านพูดอย่างทั่วๆ ไปสักหน่อย เขาก็จะเข้าใจได้จากเหตุผล
ศิษย์ผมเป็นผู้ฝึกที่พูดภาษาอังกฤษ ขณะนี้กำลังช่วยจำหน่ายหนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวนฉบับภาษาจีน ผมอยากถามว่า การสนับสนุนต้าจี้หยวนสำคัญกว่า หรือว่าไปนิวยอร์กสนับสนุนต้าจี้หยวนฉบับภาษาอังกฤษสำคัญ
อาจารย์อาจารย์ไม่อาจตอบปัญหานี้ให้ท่านได้ เส้นทางของแต่ละคน ต้องเดินด้วยตัวเองทั้งหมด ท่านรู้สึกว่าทำอย่างไรดีท่านก็ทำอย่างนั้นเถิด สภาพการณ์ของสื่อ ที่เป็นรูปธรรม พวกเขาเองยึดกุมเอาเอง หากทำได้ไม่ดี ข้าพเจ้าจะถามพวกเขา โดยรูปธรรมจะทำอย่างไร นั่นเป็นเรื่องของพวกเขา
ศิษย์ผมอยากถามว่า ในบทที่ห้า ของ “จ้วนฝ่าหลุน”เขียนว่า “ ทว่าพวกเรามุ่งตรงที่ใจคน ไปบำเพ็ญตามคุณสมบัติพิเศษสูงสุดของจักรวาลของเรา ไปบำเพ็ญตามรูปแบบชนิดนั้นของจักรวาล” ศิษย์ไม่เข้าใจคำว่า “รูปแบบชนิดนั้น” อะไรของจักรวาล ขอบพระคุณท่านอาจารย์
อาจารย์“รูปแบบ”หรือ ไม่ใช่รูปแบบการเคลื่อนไหวของจักรวาล ของทางช้างเผือก และอนุภาคหรือ ปฏิบัติตาม คุณสมบัติพิเศษ “เจิน ซั่น เหยิ่น” นี่ก็เป็นมาตรฐานของจักรวาลนะ ท่านเป็นผู้ฝึกใหม่หรือ หรือว่าในระหว่างการประทุษร้าย ออกไปแล้วค่อยก้าวกลับมาใหม่ หากผู้ที่ก้าวกลับมาใหม่ ท่านจะถามคำถามนี้ได้ คนทั้งหมด ที่ตามไม่ทันจังหวะก้าวในหลายปีมานี้ ตกลงไปจนถึงที่สุดแล้ว ค่อยก้าวกลับมาใหม่อีก จะเหมือนกับผู้ฝึกใหม่ แต่ปัญหาที่ถาม ดูประหลาดมาก ไม่เหมือนผู้ฝึกใหม่
จงศึกษาฝ่า ทั้งหมดก็อยู่ข้างในนั้น คนเหล่านี้ที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมดต่างเข้าใจได้จากการศึกษาฝ่า (เสียงปรบมือกึกก้อง)
ศิษย์การโปรโมตวงซิมโฟนีออเคสตร้าเสินยวิ่นเมื่อปีกลายที่นิวยอร์ก ไม่ดีตามที่คิดไว้ พวกเราควรจะแก้ไขอย่างไรดี
อาจารย์เรื่องเหล่านี้ กล่าวสำหรับเสินยวิ่นก็เช่นเดียวกัน เมื่อผ่านระยะเวลาหนึ่ง ชาวโลกต่างก็รู้จักแล้ว กระทั่งรู้จักเสินยวิ่นกันดีทุกบ้าน อย่างน้อยที่สุดก็ทำได้ถึงจุดนี้แล้วในอเมริกา ทุกคนพอได้ยิน “เสินยวิ่นมาแล้ว” เช่นนั้นก็จะทำได้ง่ายแล้ว เพราะเปิดตลาดได้แล้ว ความยากไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว ฉันจะเทกระเป๋าซื้อตั๋วได้อย่างไร ฉันจะแก้ปัญหาระยะทางในการเดินทางอย่างไรดี จะจัดเวลาอย่างไรดี ผู้ชมเขาจะคิดถึงปัญหาเหล่านี้
วงซิมโฟนีออเคสตร้าเสินยวิ่นเป็นเพียงดนตรี ดนตรีตอนนี้ยังไม่คึกคัก วงซิมโฟนีออเคสตร้าเสินยวิ่น ไม่มีชื่อเสียงมากเหมือนเสินยวิ่น ดังนั้นคนจำนวนมากจึงมีท่าทีแบบดูอยู่ห่างๆ ไม่รู้ว่าคุณแสดงเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยผู้คนก็รู้ว่าคณะศิลปินเสินยวิ่นแสดงได้มหัศจรรย์มาก ส่วนวงซิมโฟนีออเคสตร้าเสินยวิ่น ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นนี่จึงเป็นปัญหาช่วงเริ่มต้น แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ถึงอย่างไรมันก็เป็นวงซิมโฟนีออเคสตร้าของเสินยวิ่น ตอนที่พวกเขาแสดงอยู่ในนิวยอร์ก วันนั้นวงรักดนตรีนิวยอร์กก็กำลังแสดงอยู่เช่นกัน พวกเขาแสดงอยู่ที่ลินคอนเซ็นเตอร์ วงซิมโฟนีออเคสตร้าเสินยวิ่นแสดงอยู่ที่หอประชุมคาร์เนกี้ฝั่งนี้ ได้ยินว่าผู้ชมบางคนไปชมทั้งสองฝั่ง และพูดว่าที่ฝั่งนั้นไม่มีคนมากเท่าของเราฝั่งนี้ และคนที่ชมทั้งสองฝั่งยังพูดว่า ดนตรีทางฝั่งนี้ของวงซิมโฟนีออเคสตร้าเสินยวิ่น ดีมาก พลังก็แรงมาก(เสียงปรบมือ) เนื้อหาที่แสดงค่อนข้างหลากหลาย และแปลกใหม่มาก นี่เป็นเสียงสะท้อนของผู้ชมนะ
ศิษย์ดิฉันเป็นศิษย์ที่อธิบายความจริงอยู่ที่จุดอธิบายความจริงของนิวซีแลนด์ เมื่อเร็วๆนี้จุดท่องเที่ยวถูกรบกวนอย่างหนัก ไกด์ท่องเที่ยวถ่ายภาพและวิดีโอพวกเรา ทำให้เราไม่อาจอยู่ข้างรถทัวร์อธิบายความจริง แนะนำให้ลาออกจากพรรค
อาจารย์อย่างนั้นก็ไปอธิบายความจริงกับไกด์คนนั้น หลายปีก่อนในแต่ละแห่งก็พบกับสภาพการณ์นี้ และก้าวข้ามมากันอย่างนี้ เวลานั้นไกด์บางคนไม่ยอมให้อ่านเอกสารเรื่องความจริง ปัจจุบันนี้ไกด์บางคนยังนำหน้าอ่านเอกสารเรื่องความจริง ถึงแม้ไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนี้ทั้งหมด แต่กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า การอธิบายความจริงช่วยคนใช่ไหม ไกด์คนนั้น เขาก็เป็นคน ก็สมควรอธิบายความจริงให้เขา บางทียังมีปัญหาอื่นอีก อย่างไรเสียพวกท่านก็พิจารณาดูเถิด การอธิบายความจริงก็ไม่ง่าย การบำเพ็ญใช่ไหม การสถาปนาธรรมานุภาพใช่ไหม อิทธิพลเก่านั้นเห็นพวกท่านวันหนึ่งๆชักชวนคนลาออกจากสามองค์กรได้มากมาย สบายเกินไปแล้ว จึงหาเรื่องยุ่งยากให้สักหน่อย (อาจารย์หัวเราะ)ที่จริงทางของพวกท่านก็เดินข้ามมากันอย่างนี้
ศิษย์ผู้ฝึกอิตาลีโดยรวมตามไม่ทันจังหวะก้าวของเจิ้งฝ่า จะฝ่าข้ามไปได้อย่างไร
อาจารย์พื้นที่ที่มีผู้ฝึกใหม่มาก จะต้องเร่งรีบศึกษาฝ่า ให้พวกเขาศึกษาฝ่าให้มาก และบำเพ็ญไปพร้อมกัน เข้าร่วมกิจกรรมของส่วนรวมให้มาก นำพาพวกเขาให้มาก ให้พวกเขาตามให้ทัน พวกเขาก็จะค่อยๆเข้าใจ หากท่านยิ่งปล่อยให้ตามสบาย เขาเองก็ไม่ทราบความสำคัญของการก้าวหน้า เขาก็จะยิ่งย่อหย่อนต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่ว่ายังจะเดินเข้ามาไม่ได้ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งนั้น จะต้องนำพาพวกเขาให้มาก
ศิษย์ขอเรียนถาม พวกเรายังมีเวลาพอที่จะช่วยเหลือคนจีนได้ถึงครึ่งหนึ่งไหม หากคอมมิวนิสต์จีนดับสลายไปก่อนที่เจิ้งฝ่าจะมาถึง คนที่ไม่ได้ลาออกจากพรรคยังจะมีโอกาสไหม
อาจารย์นั่นแน่นอนละ ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว ดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกว่าเวลามีจำกัด ก็รวมถึงอิทธิพลเก่าก็ดี เดิมทีมันก็ไม่อยากให้พวกท่านช่วยคนได้มากมายอย่างนั้น ข้าพเจ้ากำลังยื้อกับพวกมันอยู่ หาไม่แล้ว ดูเหมือนว่าปีกลายพวกมันก็จะให้จบสิ้นลงแล้ว แต่มีไม่กี่คนเหลือเอาไว้จะทำอย่างไรได้ละ โลกว่างเปล่า มนุษยชาติยังจะต้องบุกเบิกยุคสมัยที่รุ่งโรจน์ให้ต้าฝ่า หากไม่มีคนแล้ว นี่จะทำได้อย่างไรกัน
ศิษย์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม วันต้าฝ่า ปีนี้ ศิษย์จี่หนานไปฝึกพลังหงฝ่าที่ จัตุรัสใจกลางเมือง หลายคนถูกตำรวจนอกเครื่องแบบจับไป ศิษย์ห่วงใยพวกเขามาก เรื่องที่สำคัญที่สุดเบื้องหน้าเราคือ การทำสามเรื่องให้ดี แย่งชิงคน ช่วยคน จึงไปที่สาธารณะฝึกพลัง หงฝ่า แต่ถูกจับไปหมดแล้วจะช่วยสรรพชีวิตได้อย่างไรกัน
อาจารย์เรื่องนี้ รีบทำเกินไปสักหน่อย จัดตั้งผู้ฝึกมากมายอย่างนั้นไปอธิบายความจริง อย่างเปิดเผยในจีนแผ่นดินใหญ่ จะนำอันตรายมาสู่ผู้ฝึกได้ ยังคงต้องคำนึงถึงความปลอดภัย มีบางพื้นที่ ซึ่งผ่อนคลายแล้วจริงๆ ข้าพเจ้าได้ยินว่า พวกเขาฝึกพลังอยู่ข้างนอก ตำรวจดูคล้ายกับมองไม่เห็น ตำรวจบางคนยังคอยดูต้นทางให้อีก สภาพการณ์ของแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน มันไม่ใช่ว่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนมีท่าทีใหม่อะไร เครื่องจักรที่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงนั้นยังคงหมุนอยู่ พื้นที่ที่ผ่อนคลายนั้น เป็นเพราะพื้นที่นั้นทำเรื่องอธิบายความจริงได้ดี คนกำลังเปลี่ยนแปลง การทำอย่างนี้โดยเปิดเผย จะต้องมีเงื่อนไขพร้อม หากไม่มีเงื่อนไขพร้อม ก็อย่าทำอย่างเปิดเผย จะนำความยุ่งยากมาสู่ผู้ฝึกได้ นำมาซึ่งการประทุษร้ายที่ไม่จำเป็น
ศิษย์การที่เพื่อนผู้บำเพ็ญมีความคิดด้านลบต่อเพื่อนผู้บำเพ็ญด้วยกัน คือ “ภูเขาใหญ่สีเทา” (อุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ท้อแท้ผิดหวัง) นี่เป็นบทความแลกเปลี่ยนประสบการณ์บทหนึ่งที่เขียนไว้บนเว็บหมิงฮุ่ย ผมมองไม่เห็นอีกมิติหนึ่ง แต่เมื่อผมมีความขัดแย้งกับเพื่อนผู้บำเพ็ญ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างมาก ถูกสสารที่ไม่ดีห่อหุ้มไว้ ผมรู้สึกว่าคนอื่นคิดไม่ดีกับผมนั้นเป็นสสารที่อยู่ภายนอก ไม่สามารถทำร้ายผมได้ ขอเพียงผมปฏิบัติตามต้าฝ่า ปรับตัวเองให้กลับสู่ความถูกต้อง ผมก็สามารถก้าวออกมาจากหมอกที่หนาทึบนี้ได้ แต่ผมก็รู้ว่าผมเดินได้อย่างยากลำบากมาก
อาจารย์สภาพการณ์รูปธรรมบางอย่าง ของแต่ละคนล้วนแต่ไม่เหมือนกัน สภาพการณ์ที่มองเห็นนั้น เป็นวิธีการบรรยายแบบหนึ่งเพื่อเตือนสติผู้บำเพ็ญ และไม่แน่ว่าจะเป็นสภาพการณ์ที่แท้จริง พูดได้ว่ามันเหมือนกับภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง โดยตัวมันเองไม่ใช่มาร ดังนั้นจึงต้องผ่านการมุมานะช่วงหนึ่ง จึงจะทะยานข้ามมาได้ ที่จริงหลายปีมานี้ มิใช่ผ่านกันมาอย่างนี้หรือ ต่างช่วยเหลือกัน ร่วมมือกัน เข้าใจกัน มองจุดดีซึ่งกันและกันให้มาก ก็ไม่ควรจะเป็นปัญหา
ศิษย์หนูเป็นนักเรียนมัธยมเกรดสอง หนูอยากจะไปร่วมเสินยวิ่น เมื่อเร็วๆนี้พอดีเริ่มเรียนเครื่องดนตรี ยังทันเวลาไหม หนูจัดความสมดุลได้ไม่ดีระหว่างการเรียนวิชาวัฒนธรรมกับการทำสามเรื่อง รู้สึกว่าเวลาไม่พอ
อาจารย์ใช่ละ คิดจะเรียนเครื่องดนตรี ยังจะต้องเรียนวิชาอื่น ยุ่งมาก พูดอย่างนี้ก็แล้วกัน เมื่อเสินยวิ่นเพิ่งเริ่มก่อตั้งนั้น ได้รับเอาลูกๆของศิษย์ต้าฝ่าบางคนเข้ามาอย่างง่ายๆ รวมทั้งนักเรียนเหล่านั้นในวงดนตรี มาตรฐานนั้นหนา (อาจารย์หัวเราะ) เมื่อเปรียบกับปัจจุบัน ห่างไกลกันลิบลับจริงๆ ปัจจุบันเงื่อนไขการรับคนของคณะศิลปินเสินยวิ่น สูงมาก พวกท่านคงเห็นกันแล้ว คือรับมาจากสังคม อันดับแรกนั้นจะต้องบำเพ็ญ จะต้องปรารถนาที่จะบำเพ็ญ อันดับที่สองนั้น คือ ไม่ใช่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาโท ไม่รับผู้ที่บรรลุไม่ถึงมาตรฐานระดับปริญญาโท พวกเขาพูดกันว่าวงซิมโฟนีออเคสตร้าเสินยวิ่นมีผลลัพธ์ของการแสดงที่ดีมาก แน่นอนละ เพราะล้วนแต่เป็นผู้มีฝีมือสูง และนักเรียนเหล่านั้น ล้วนเป็นศิษย์ต้าฝ่า ในเวลานั้นก็ไม่มีครูนะ ดังนั้นจึงขึ้นไปไม่ได้ ก็อึดอัดใจกันแต่พอพวกที่มีฝีมือสูงเหล่านี้เข้ามา เป็นครู พวกเขาก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก นักเรียนบางคนยังเก่งกว่าผู้ใหญ่ ปัจจุบันนี้จึงต่างกันโดยสิ้นเชิง
ศิษย์มีเพื่อนผู้บำเพ็ญพูดว่า วิธีคิดของผู้รับผิดชอบอันดับหนึ่งของฝอเสวียฮุ่ยนั้น ไม่ว่าจะถูกหรือไม่ ถึงแม้จะมีผลกระทบต่อการช่วยคนและการยกระดับขององค์รวม ก็ไม่ต้องมีข้อสงสัย ให้ไปทำเลย
อาจารย์ไม่ร้ายแรงอย่างนั้นหรอกกระมัง หากมีปัญหาจริงๆ ก็สามารถถามผู้รับผิดชอบศูนย์ใหญ่ ที่จริงผู้รับผิดชอบก็เป็นผู้บำเพ็ญ เขาเพียงแต่จัดตั้งให้ทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมของศิษย์ต้าฝ่าที่เป็นกิจกรรมรวม แต่อาจคิดได้ไม่รอบด้านในบางเรื่อง ข้าพเจ้าคิดว่า ส่วนที่เป็นข้อบกพร่องนั้น ในฐานะผู้บำเพ็ญ ตัวเองริเริ่มทำในส่วนที่บกพร่องให้ดี นั่นจึงจะเป็นสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ บางเรื่องเวลาที่ยุ่งอยู่ ไม่ไปก็ได้ หากมีเวลาก็ไป ไม่ว่ากิจกรรมอะไร ข้าพเจ้าคิดว่าต้องเป็นประโยชน์ต่อการช่วยคนอย่างแน่นอน เป็นประโยชน์ต่อการคัดค้านการประทุษร้าย จึงได้ทำ หาไม่ผู้รับผิดชอบจะไม่ทำเรื่องอย่างนี้
แต่เวลาที่ทำเรื่องเหล่านี้อยู่ มักจะมีคนข้างในพูดว่านี่ไม่ดี นั่นไม่ได้ กวนไปกวนมา กระทั่งถ่วงเวลาในการทำเรื่องเหล่านี้ หากท่านรู้สึกว่าตรงไหนที่บกพร่อง ท่านก็ไปทำมันให้ดีด้วยตัวเอง สิ่งที่ผู้รับผิดชอบคิดไม่ถึงท่านก็ไปทำให้มากขึ้น ทำมันให้ดี ก็จบแล้วใช่ไหม การบำเพ็ญ สิ่งที่เทพดู ก็คือใจคน ไม่ดูว่าตัวกิจกรรมได้ครบถ้วนหรือไม่ รอบด้านหรือไม่รอบด้านเทพไม่ดูตรงนี้ มันยิ่งไม่รอบด้าน เขายังจะดีใจ ดูว่าพวกท่านคนไหนที่เห็นว่าเรื่องนี้ไม่สมบูรณ์แบบ แล้วสามารถไปทำมันให้ดีได้ ดูว่าใครที่ทำเรื่องนั้นที่บกพร่อง ทำมันให้ดีได้ เพราะไม่ว่าทำเรื่องอะไร ก็มีการบำเพ็ญของท่านอยู่ในนั้น ที่ดู ก็คือการบำเพ็ญของท่าน ไม่ใช่เพียงแค่ศึกษาแต่ไม่เอาไปใช้ ท่านริเริ่มไปบำเพ็ญหรือไม่ หรือท่านถูกนำพาให้เดินไปอย่างเป็นฝ่ายถูกกระทำ ที่ปรากฏออกมายังคงเป็นปัญหาว่าท่านบำเพ็ญหรือไม่บำเพ็ญ
ศิษย์จุดท่องเที่ยวของฮ่องกงขาดคน ไต้หวันมีเพื่อนผู้บำเพ็ญริเริ่ม จัดตั้งเพื่อนผู้บำเพ็ญโดยไม่กำหนดวันเวลา ไม่กำหนดว่าเป็นใครก็ได้ ไปยังอำเภอหรือเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกัน ให้กำลังใจทุกคนไปอธิบายความจริงที่จุดท่องเที่ยวของฮ่องกง เพื่อนผู้บำเพ็ญบางคนพูดว่า นี่เป็นการก่อกวนฝ่า
อาจารย์การอธิบายความจริง อันนี้ไม่ใช่ก่อกวนฝ่า การมุ่งไปอธิบายความจริงกับคน นี่กลับเป็นเรื่องสำคัญ จุดประสงค์ของการแลกเปลี่ยนความคิดคือเพื่อยกระดับและช่วยคน ไม่ใช่วิธีการที่ขาดสติ การช่วยคนนั้นยังคงสำคัญ หากวิธีการมีปัญหา หรือวิธีคิดมีปัญหา เช่นนั้นย่อมจะก่อให้เกิดแรงต้านแน่
ศิษย์ในพื้นที่ของเรามีผู้ฝึกที่อาศัยวิธีการปกปิดชื่อแซ่ใช้อีเมล์ส่งบทความ อยู่ในกลุ่มผู้ฝึก ฝอเสวียฮุ่ยแนะนำให้ใช้ชื่อจริง แต่ผู้ฝึกบางคนยืนยันว่าไม่มีปัญหา
อาจารย์หากอยู่นอกจีนแผ่นดินใหญ่ ใช้ชื่อจริงจะดีกว่า เวลามีปัญหาทุกคนจะได้แลกเปลี่ยนกับท่านได้ง่าย ท่านใช้ชื่อปลอม ใครก็ไม่รู้ว่าท่านคือใคร เมื่อมีปัญหาก็ไม่มีทางจะแลกเปลี่ยนด้วยได้
บางทีท่านได้ไตร่ตรองปัญหานี้ไว้นานแล้ว “ถึงอย่างไรเมื่อฉันทำสุ่มสี่สุ่มห้า คุณก็หาฉันไม่เจอ ใช่หรือไม่” แต่ท่านคิดอะไรอยู่ เทพมิใช่กำลังเฝ้าดูอยู่หรือ ท่านพูดว่าท่านบำเพ็ญ อะไรคือการบำเพ็ญละ ที่ให้คนมองเห็นคือการบำเพ็ญหรือ นั่นเป็นของปลอม ความคิดท่านเคลื่อนไหวอย่างไร นั่นจึงจะเป็นของจริง แล้วใครสามารถจะมองเห็นความคิดท่านได้ละ พวกท่านระหว่างเพื่อนผู้บำเพ็ญด้วยกันสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวความคิดของกันและกันได้หรือ เขาได้แต่เห็นการแสดงออกที่ภายนอกซึ่งชักนำโดยความคิดของท่านแต่แก่นแท้ของจุดประสงค์ของท่านคืออะไร เขายังคงมองไม่เห็น ใครที่สามารถจะมองเห็นหรือ เทพสามารถมองเห็น ฝ่าเซินของอาจารย์มองเห็น ชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนในจักรวาลมองเห็น
ท่านทำเรื่องอะไร เว้นแต่คนที่มองไม่เห็น แต่ทั้งหมดล้วนเปิดเผยเหลือเกิน ท่านทราบไหม ท่านกำลังทำอะไร มันเปิดเผยยิ่งกว่าที่คนชมภาพยนตร์เสียอีก ความคิดของท่านเคลื่อนไหวอย่างไร ทั่วทั้งจักรวาลล้วนรู้หมด ชีวิตทั้งหมดในจักรวาลกำลังดูอยู่ ท่านว่าเรื่องที่ใหญ่อย่างนี้เหล่าเทพสามารถจะวางใจได้หรือ รวมทั้งอิทธิพลเก่า พวกมันไม่ต้องดูหรือ มันเกี่ยวพันถึงเรื่องการคงอยู่ของแต่ละชีวิตในจักรวาล พวกมันมิต้องใส่ใจหรือ มีชีวิตมากเท่าไรที่กำลังเฝ้าดูพวกท่านอยู่
ศิษย์การตอบสนองของผู้บริโภค (ลูกค้า) ต่อการโฆษณามีผลลัพธ์ไม่ดี เป็นเพราะเหตุใด คือความพยายามในการอธิบายความจริงไม่พอ หรือว่าความชำนาญไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นการรบกวนของอิทธิพลเก่า
อาจารย์ผลลัพธ์ของการโฆษณานั้น เกี่ยวข้องอย่างมากกับตัวเจ้าของธุรกิจโดยตัวมันเอง และเกี่ยวข้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันเช่นกัน ท่านบอกว่าฉันทำโฆษณาแล้ว ลูกค้าควรจะมากขึ้นมา ไม่แน่ว่าจะเป็นอย่างนี้ทั้งหมด โฆษณาก็คือโฆษณา
ศิษย์ ผู้ฝึกบางคนขยายการจำหน่ายสินค้าแบบขายต่อและขายตรงในหมู่ผู้ฝึก ไม่ฟังคำแนะนำด้วยดีของคนอื่น
อาจารย์ใครที่เผยแพร่สิ่งเหล่านั้นที่ไม่ใช่เรื่องเจิ้งฝ่าในหมู่ผู้ฝึก คนนั้นก็กำลังรบกวนศิษย์ต้าฝ่า ทำลายสถานการณ์การเจิ้งฝ่า ทำบาปยิ่งกว่ามาร หากพูดตามอิทธิพลเก่า ยังร้ายแรงกว่าที่มารทำ คือการทำลายอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดว่า ใครที่จะสามารถทำลายรูปแบบการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าละ องค์ประกอบภายนอก ผ่านการประทุษร้ายครั้งนี้ ทำลายได้หรือไม่ มีแต่ศิษย์ต้าฝ่า ที่บำเพ็ญจนสุกงอมแล้ว ทรายที่ถูกร่อนออกไป ใครที่สามารถจะทำลายกลุ่มผู้บำเพ็ญนี้ได้จริงๆ ละ ทำลายต้าฝ่าแล้ว ใครก็ทำไม่ได้ ในทางปฏิบัติก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ ก็คืออย่างนี้ ผู้ที่รบกวนคือคนที่ยึดติด ฝ่านั้นไม่อาจจะทำลายได้ ผู้ที่สามารถก่อให้เกิดผลที่ไม่ดี มีเพียงคนใน คนทั้งหมดที่ทำเรื่องนี้ ล้วนไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่า ท่านก็อย่าปฏิบัติต่อเขาโดยถือว่าเขาเป็นศิษย์ต้าฝ่า ไม่ว่าเขาบำเพ็ญมานานแค่ไหน
ศิษย์ สื่อทีวีของเราควรจะเพิ่มรายการบันเทิงให้หลากหลายมาดึงดูดคน ในการผลิตเนื้อหา สื่อของคนธรรมดาสามัญกระตุ้นอารมณ์ของคนได้มาก ดึงดูดผู้ชมที่เป็นคนธรรมดาสามัญได้มาก
อาจารย์สื่อแบบไหนก็มีทั้งนั้น รูปแบบศิลปะอะไรก็มีทั้งนั้น ไม่ต้องสนใจสิ่งเหล่านั้น คนที่รสนิยมต่ำเขาจึงชอบของเกรดต่ำแต่คนกระแสหลักของสังคม เขาไม่ชอบของเกรดต่ำทุกท่านทำเสินยวิ่นก็จะทราบ ไม่ว่าระบำกับดนตรียุคปัจจุบันจะเป็นที่นิยมอย่างไร แต่คนกระแสหลักของสังคมก็จะดูแต่บัลเลย์ ฟังซิมโฟนี ที่ควรเจาะจงคือกลุ่มคนกระแสหลัก กล่าวสำหรับสื่อ ท่านจะต้องเป็นสื่อกระแสหลักที่มีบารมีมาก หากเริ่มต้นจากของเกรดต่ำ ท่านก็จะยืนขึ้นมาไม่ได้ตลอดไป สิ่งเหล่านี้หากปรากฏออกมาในสังคมกระแสหลัก คนก็จะถือว่าสื่อของท่านเป็นของเกรดต่ำแม้ว่าพวกท่านจะเป็นสื่อภาษาจีน แต่คุณภาพต้องสูงด้วย
สื่อของพวกท่าน มีลักษณะเด่นของพวกท่าน ปัจจุบันทุกท่านทราบว่า ทั่วโลกต่างกำลังสนใจการรายงานข่าวของต้าจี้หยวน ซินถังเหยิน ขณะนี้มีเพียงพวกท่านกล้าที่จะรายงานสถานการณ์ที่แท้จริงของที่นั่น ข่าวของพวกท่าน รวมทั้งอีกหลายๆอย่าง มีน้ำหนักมาก และดึงดูดคนมาก ทำเนื้อหาให้หลากหลายยิ่งขึ้น รวมทั้งรูปแบบศิลปะ กิจกรรมทางศิลปะเหล่านั้นที่แสดง เนื้อหารายการ ก็ต้องมีคุณภาพด้วย พอคนดูก็รู้ว่าเป็นสื่อที่คุณภาพสูง มีความน่าเชื่อถือมาก เช่นนั้นก็จะยิ่งมีบารมีและชื่อเสียง
ศิษย์ปัจจุบันฮ่องกงกำลังเผยแพร่แผ่นเสียงซีดีอย่างหนึ่งที่ผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่ผลิต ในนั้นมีการบรรยายฝ่าของอาจารย์ในระยะแรก รวมทั้งที่จี่หนาน ต้าเหลียน เป็นต้น ดนตรีฝึกพลังก็มีส่วนที่เว็บหมิงฮุ่ยไม่ได้เผยแพร่ ยังมีบทความแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับการอธิบายความจริงอื่นๆของหมิงฮุ่ย ขายแผ่นละเจ็ดสิบหยวน ได้ยินว่าฝอเสวียฮุ่ยได้บอกให้ผู้ฝึกหยุดขายแล้ว แต่ก็ยังมีคนทำ ขณะนี้มาถึงอเมริกาแล้ว ศิษย์อยากจะถามสักหน่อยว่าสิ่งนี้จะเผยแพร่ได้หรือไม่
อาจารย์วิธีรบกวนการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่า เกิดขึ้นด้วยวิธีการรูปแบบหลายๆอย่างมากมาย ในช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุด ในช่วงเวลาที่การประทุษร้ายรุนแรง อะไรๆก็มา ดูคล้ายกับถูกต้อง ที่จริงคือกำลังรบกวน แผ่นละเจ็ดสิบหยวน เงินนั้นไปอยู่ที่ไหนหรือ ใครที่ทำ ศิษย์ต้าฝ่ามอบสิ่งของแบบให้เปล่ามากมายแก่ทุกคน นอกเหนือจากการเปิดร้านหนังสือแบบเป็นทางการ โดยพื้นฐานนั้น ไม่เก็บค่าใช้จ่าย บนเว็บก็มี จุดมุ่งหมายคืออะไรหรือ ก็เพื่อให้สะดวกต่อการศึกษาฝ่าของทุกท่าน ซึ่งยังต้องตกลงให้ดีกับฝอเสวียฮุ่ยและผู้ฝึกที่ดูแลเรื่องการพิมพ์จัดจำหน่าย
ศิษย์ในสิงคโปร์ การวางป้ายอธิบายความจริงในที่สาธารณะจำเป็นต้องยื่นขออนุญาตตำรวจก่อน แต่ไม่เคยได้รับอนุญาต มีผู้ฝึกยืนหยัดอธิบายความจริงมาสิบกว่าปี ด้วยเหตุนี้จึงถูกตำรวจฟ้องศาลด้วยข้อหาเท็จที่กุขึ้น ในหมู่ผู้ฝึกมีการถกเถียงกันมาก
อาจารย์อาจารย์พูดอยู่ที่นี่ก็อยู่ในที่สาธารณะ ดังนั้นข้าพเจ้าไม่อยากพูดในที่สาธารณะ การอธิบายความจริง จะต้องทำ ส่วนจะทำอย่างไร ผู้ฝึกในแต่ละแห่งให้ดูตามสภาพการณ์ของตนเอง ประเทศสิงคโปร์นั้น หลายปีมานี้ปฏิบัติต่อศิษย์ต้าฝ่า ในลักษณะที่ใกล้ชิดกับพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนมากเกินไปทางด้านการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงนั้นก็จวนจะกลายเป็นมณฑลหนึ่งของประเทศจีนแล้ว
ศิษย์ปัญหาศิษย์เยาวชนเล่นเกมคอมพิวเตอร์
อาจารย์เครื่องเล่นเกมคอมพิวเตอร์นี้ทำร้ายคนมากเหลือเกินแล้ว มันไม่ใช่เพียงมุ่งต่อลูกของศิษย์ต้าฝ่า มันดึงดูดคนมาก สำหรับคนธรรมดาสามัญมันก็ก่อผลทางลบอย่างมากชนิดหนึ่ง ทำให้ท่านทำงานได้ไม่ดี นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่พอ ทำให้ท่านเป็นคนไม่มีน้ำใจ ทำให้ท่านไม่สนใจครอบครัว ทำให้ท่าน นักเรียนไม่สนใจการเรียน ดึงดูดใจท่าน ทำให้ท่านถลำเข้าไป ทำลายมนุษยชาติเช่นกัน พ่อค้าเครื่องเล่นเกมคอมพิวเตอร์เหล่านั้น เพื่อที่จะเผยแพร่มัน จึงเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิธีอย่างต่อเนื่อง ทำกันอย่างเต็มที่อย่างนี้ ผลักดันกันอย่างนี้ คนสร้างบาปกรรมใหญ่หลวงอย่างนี้ แล้วจะทำอย่างไรดี เป็นการทำลายมนุษยชาตินะ
ศิษย์หนี้(สามฝ่าย)ระหว่างบริษัทของศิษย์ต้าฝ่าด้วยกันเองจะแก้ไขอย่างไร
อาจารย์ จะแก้ไขอย่างไร นั่นต้องจ่ายให้คนเขา ท่านพูดว่าท่านพิมพ์หนังสือพิมพ์แต่ไม่ให้เงิน โรงพิมพ์จะทำอย่างไร ของท่านเป็นโครงการของต้าฝ่า ของเขาก็ใช่ จะทำอย่างไรหรือไม่บริหารให้ดี คือตัวเองไม่ทำให้ดี นั่นก็ต้องพยายาม ระหว่างศิษย์ต้าฝ่าด้วยกันติดค้างหนี้ ต้องจ่ายคืน ล้วนแต่เป็นศิษย์ต้าฝ่า ของท่านก็คือของฉัน ไหนเลยจะมีการพูดแบบนี้ละ (ที่ประชุมหัวเราะ) นั่นจะใช้ได้หรือ กล่าวสำหรับชีวิตหนึ่งที่เป็นเอกเทศ ท่านก็คือท่าน เขาก็คือเขา ในการบำเพ็ญเขาทำแทนท่านไม่ได้ ท่านก็ทำแทนเขาไม่ได้ รวมทั้งพ่อแม่ พี่น้อง สามีภรรยา บุตรธิดา ใครก็ทำแทนใครไม่ได้
ศิษย์สภาพแวดล้อมของการทำงานสื่อซับซ้อนมาก เพื่อนผู้บำเพ็ญโดยรอบก็รู้สึกเหมือนกัน บางครั้งปัดแข้งปัดขากัน มากยิ่งกว่าคนธรรมดาสามัญ
อาจารย์ระหว่างกันและกัน ใครก็ไม่น่าเชื่อถือ ล้วนไม่พูดความจริง ระหว่างกันและกัน ไม่อาจแตะต้องกันได้ ล้วนแต่ไม่ค้นหาจากภายใน นั่นย่อมจะซับซ้อนแน่ ท่านว่าท่านเป็นสื่ออะไรหรือ ท่านว่า พวกท่านกลุ่มนี้กำลังทำอะไรกัน บำเพ็ญหรือ จิตยึดติดรุนแรงออกอย่างนี้ พวกท่านไม่ว่าสถานีทีวีก็ดี ต้าจี้หยวนก็ดี สื่ออื่นๆ ก็ดี นับจากวันนี้ไป ให้แก้ไขสภาวะของพวกท่าน ช่างไม่เหมือนผู้บำเพ็ญเสียเลย ข้าพเจ้าพูดไว้นานแล้วว่า พวกท่านยังจะรอจนถึงเวลาไหน พวกท่านยังจะรอจนถึงเวลาไหน ไม่มีเวลาแล้ว (เสียงปรบมือกึกก้อง)
ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคน พวกท่านเคยเป็นราชา พวกท่านเคยนำบุญวาสนาใหญ่มากติดตัวมาถึงโลกมนุษย์ แต่พวกท่าน ล้วนไม่เอา ต้องการช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า ขณะนี้พวกท่านไม่ตั้งอกตั้งใจ หากท่านคิดจะใช้เงินจริงๆ หากท่านคิดจะเป็นข้าราชการจริงๆ ท่านคิดจะเป็นใหญ่จริงๆ ท่านอยู่ในสังคมมนุษย์ก็คือคนที่ฉลาดเก่งกาจ(คนชั้นหัวกะทิ)คนหนึ่ง ท่านสามารถทำได้จริงๆ แต่พวกท่านไม่ต้องการ พวกท่านล้วนก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว เหตุใดยังปล่อยวางของเล็กน้อยนั้นไม่ได้ อะไรก็วางลงทั้งหมด ปฏิบัติตนเป็นผู้บำเพ็ญที่สง่างาม นับจากนี้ไป ระหว่างพวกท่านด้วยกันลองดูซิ ใครที่แก้ไขได้แล้ว คนนั้นก็ฟังคำพูดของอาจารย์ ใครที่ไม่แก้ไข คนนั้นก็ไม่ฟังคำของอาจารย์ (เสียงปรบมือกึกก้อง)
อาจารย์เรียกร้องอย่างนี้แล้ว เมื่อกลับไปสู่ความเป็นจริงเฉพาะหน้า ระหว่างพวกท่านด้วยกัน พอมองดูขัดหาขัดตาเมื่อกลับไปสู่ความเป็นจริงเฉพาะหน้า ถูกผลประโยชน์เฉพาะหน้านั้น กับการชักนำของจิตยึดติดของแต่ละคน พวกท่านก็ไม่มีสภาพจิตใจอย่างในขณะนี้แล้ว พวกท่านต้องรู้ว่าพวกท่านเป็นผู้บำเพ็ญนะ พวกท่านมีภาระหน้าที่ใหญ่เพียงไร ในอนาคตพวกท่านก็จะทราบ ถึงตอนนั้นพวกท่านก็ได้แต่ สำนึกเสียใจภายหลัง
ศิษย์คนธรรมดาสามัญเน้นให้เลี่ยงคำพูดที่ไม่เป็นมงคล เมื่อเร็วๆนี้ระหว่างผู้บำเพ็ญด้วยกันพูดต่อๆ กันว่า ควรพูดแต่ด้านบวก อย่าพูดด้านลบ พูดกันว่าเสินยวิ่นก็ทำอย่างนี้ แต่เมื่อจะพูดแลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างนี้ ก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้
อาจารย์คนธรรมดาสามัญชอบฟังอะไรก็พูดอะไร ถึงอย่างไรก็จะช่วยเขาใช่ไหม ท่านก็ไม่อาจถือเขาเป็นผู้บำเพ็ญ ให้เขาทิ้งจิตยึดติด ในขณะนี้ท่านให้เขาทิ้งจิตยึดติด เขาก็วิ่งหนีแล้วใช่ไหม (ที่ประชุมหัวเราะ) เพื่อที่จะช่วยเขา ยังต้องพูดคำพูดที่เขาอยากฟัง ก็ต้องเป็นเช่นนี้ ช่วยคนยากนักนะ เช่นนั้นพวกท่าน ผู้บำเพ็ญต้องการอย่างนี้ไหม ใครที่ไม่อยากฟังคำแนะนำ เขาก็ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญ ใครที่พูดไม่ดี ก็ไม่ใช่พฤติกรรมของผู้บำเพ็ญเช่นกัน
ศิษย์ศิษย์ต้าฝ่าในพื้นที่ต่างๆ และในห้าสิบกว่าประเทศนอกจีนแผ่นดินใหญ่ กับแปดสิบกว่าเมืองและมณฑลในจีนแผ่นดินใหญ่ ขอกล่าวสวัสดีท่านอาจารย์
อาจารย์ขอบใจทุกท่าน (ปรบมือ) เนื่องจากคำกล่าวสวัสดีต่อข้าพเจ้า นั้น ข้าพเจ้าได้บอกพวกเขาไม่ให้ส่งขึ้นมาทั้งหมด พวกเขาจึงเขียนรวมในแผ่นเดียว (ที่ประชุมหัวเราะ) ว้า นี่ก็ยังเขียนมาเป็นกองโตไม่อ่านละ
ศิษย์ดิฉันอยู่ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งของเวียดนาม เมื่อเร็วๆนี้มีการพูดต่อๆ กันว่าฝ่าหลุนกงมีการรณรงค์ระดมทุน จุดประสงค์ของการระดมทุนคือใช้สร้างวัดในอเมริกาและสนับสนุนสถานทีวีซินถังเหริน ก่อนหน้านี้ไม่นาน น้องสาวเคยไปอเมริกาเยี่ยมญาติที่ทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย ได้พบผู้ฝึกคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการระดมทุน น้องสาวได้บริจาคให้แล้ว ผู้ฝึกในเวียดนามจำเป็นต้องตอบสนองด้วยหรือไม่
อาจารย์ไม่มีเรื่องอย่างนี้ ไม่มีเรื่องอย่างนี้ ผู้ฝึกบางคนอาจจะมีใจนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าได้ทำ ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าได้ทำ ถ้าจะทำข้าพเจ้าก็ทำแล้วข้าพเจ้าพูดแค่คำหนึ่ง “ทุกท่านให้เงินอาจารย์สักหน่อย เรามาสร้างวัดกัน” ข้าพเจ้าทราบว่าพวกท่านก็จะให้ทันที เช่นนั้นข้าพเจ้าทำเอง ช่างดีกระไร ข้าพเจ้าจะใช้ท่านไปทำไมกันละ (เสียงปรบมือกึกก้อง) อย่าทำ ถึงอย่างไรก็อย่าได้ทำ
ศิษย์ต้าฝ่าเราที่ทำการค้า ยังมีผู้ที่ฐานะการเงินดีมากๆ นำส่วนหนึ่งออกมาสนับสนุน และส่วนที่นำออกมาก็สามารถจะแก้ไขปัญหาได้บ้าง นอกนั้นไม่รับ ข้าพเจ้าทราบว่าในหลายปีนี้ ในการอธิบายความจริง ศิษย์ต้าฝ่า ล้วนแต่ออกเงินเอง ภาระนั้นก็หนักมากแล้ว พวกท่านทราบไหมว่าทำไมโรงเรียนเฟยเทียนจึงไม่เก็บค่าเล่าเรียน เหตุใดคนที่ไปเรียนทั้งหมดบนเขาจะเลี้ยงดู เพราะข้าพเจ้าต้องการลดภาระของศิษย์ต้าฝ่า (เสียงปรบมือ) เด็กๆ ที่อยู่บนเขา บางครั้งมีพฤติกรรมการแสดงออกที่ไม่ดี ข้าพเจ้าจึงรู้ว่าพ่อแม่ที่บ้านบำเพ็ญได้ไม่ดี(เสียงปรบมือ)
ศิษย์ผมรับรู้ได้ว่าศิษย์ต้าฝ่าเวียนว่ายตายเกิดหลายชาติหลายภพ แต่ไม่ได้อยู่ในวัฏจักรหกทาง นอกเหนือจากศิษย์ต้าฝ่า ชีวิตอื่นๆ เมื่อก่อนล้วนเวียนว่ายตายเกิดในวัฏจักรหกทาง ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากสาวกของบางศาสนาไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏจักรหกทาง แต่เชื่อว่าหลังจากคนตายแล้ววิญญาณ กลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง ควรจะอธิบายความจริงอย่างไรและนำพาคนของศาสนาให้ได้ฝ่า
อาจารย์เพื่อให้คนได้ฝ่าก็ไม่อาจพูดโกหก คนนั้นหนา ก็หมุนเวียนอยู่ในวัฏจักรหกทาง คนในอดีตล้วนเป็นเช่นนี้ ชีวิตบนโลกโดยพื้นฐานก็เป็นอย่างนี้กันทั้งหมด ในนั้นรวมทั้งศิษย์ต้าฝ่า เพียงแต่เวลาที่กลับชาติมาเกิดเป็นคนกับชาวสวรรค์จะมากสักหน่อยเท่านั้น
ศิษย์ดิฉันมาจากญี่ปุ่น ทำงานสื่อ การดูแลเว็บไซต์ลำบากมาก จนถึงขณะนี้ตลอดมาต้องอาศัยเงินของผู้ฝึกมาอุปการะ
อาจารย์งานสื่อ ไม่อาจจะให้ผู้ฝึกไปทำอย่างนี้เป็นเวลานาน หากไม่ทำการตลาด ทั้งหมดล้วนอาศัยเงินบริจาคของผู้ฝึกในการทำ นั่นก็คือใบปลิว ไม่ใช่บริษัทของสื่อมวลชน นานไปย่อมจะเกิดปัญหาได้ ผู้ฝึกเองก็ต้องไปทำงาน การดำรงชีพก็ต้องสามารถพึ่งตนเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กล่าวในฐานะที่เป็นสื่อ ไม่อาจพึ่งการสนับสนุนจากผู้ฝึกเป็นเวลานาน
ปัจจุบันสื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำล้วนได้รับความสนใจจากชาวโลก บารมีและชื่อเสียง เพิ่มสูงขึ้น นี่เป็นช่วงเวลาอะไรหรือ หากคนธรรมดาสามัญที่รู้จักโอกาสทางการค้า เขาก็จะเข้าใจ นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะดีมากที่จะคว้าโอกาสทางการค้า ผู้คนมีความรู้สึกที่ดีกับมัน มีบารมีและชื่อเสียง หากในเวลานี้ท่านไม่จับจองดึงดูดกลุ่มลูกค้าไว้ให้มั่น ใช้กำลังคนจำนวนมากทำการตลาด ท่านยังจะรอไปถึงเวลาไหนอีกละ จะรอให้ขนมผิงหล่นจากฟ้าลงมาให้จริงๆ หรือ บริษัทคืออะไร คือผลิตภัณฑ์ทางเศรษฐกิจ ใช้ในการหาเงิน มีเงินทุน จึงจะสามารถทำสื่อได้ดี จึงจะมีการหมุนเวียนที่ดีได้ จึงจะมีเงื่อนไขในการอธิบายความจริง จึงมีเงื่อนไขในการช่วยคน
ศิษย์ผู้ฝึกเก่าบางคน เป็นเพราะจิตยึดติดของผู้รับผิดชอบฝอเสวียฮุ่ยบางคนจึงไม่ค่อยออกมา ตัวเองมองหางานหรือติดต่อกับเพื่อนผู้บำเพ็ญในวงแคบๆ บ้างก็ออกไปจากสภาพแวดล้อมของส่วนรวม วิธีการจัดการกับเพื่อนผู้บำเพ็ญหรือโครงการต่างๆ ของผู้รับผิดชอบหลักของฝอเสวียฮุ่ย ควรจะเป็นเหมือนกับการจัดการของสื่อมวลชนของคนธรรมดาสามัญ ใช่หรือไม่
อาจารย์เหมือนสื่อมวลชนอะไรหรือ เหมือนการจัดการของคนธรรมดาสามัญหรือ การจัดการของคนธรรมดาสามัญ มันก็ไม่ใช่การบำเพ็ญ กล่าวในฐานะศิษย์ต้าฝ่า อย่ามัวแต่จับตามองที่ผู้รับผิดชอบ เขาดีแล้วท่านค่อยดี เขาชมชอบท่าน ท่านค่อยบำเพ็ญ เขาไม่ชมชอบท่าน(มองไม่ขึ้น)ท่านก็ไม่บำเพ็ญ ท่านบำเพ็ญเพื่อเขาหรือ
กล่าวในฐานะผู้รับผิดชอบ ท่านดูซิว่าท่านส่งผลกระทบมากแค่ไหน เป็นเวลาเนิ่นนานมาแล้ว พวกเขาเคยเซ็นสัญญากับอาจารย์ ท่านทำให้เขาไม่บำเพ็ญ ท่านทราบไหมว่าในอนาคตท่านจะแบกรับไหวไหม หากเป็นเพราะท่าน แล้วเขาก็ไม่อยากบำเพ็ญจริงๆ ในอนาคตท่านจะแบกรับอย่างไร ในชั่วขณะสุดท้ายที่จะหยวนหมั่น ท่านจะทำอย่างไร
ดังนั้นผู้ที่ไม่ทำให้ดี ตอนนี้อาจารย์ขอถามพวกท่านสักคำ พวกท่านตั้งใจฟังให้ละเอียดนะ ในชั่วขณะสุดท้ายที่จะหยวนหมั่น จิตยึดติดที่พวกท่านวางไม่ลง เรื่องเหล่านั้นที่พวกท่านทำผิดไว้ พวกท่านจะตอบว่าอย่างไร พวกท่านทั้งหมดไปคิดดูเถิด ข้าพเจ้าห่วงใยมาก
ศิษย์ผู้รับผิดชอบในโครงการมักจะใส่ร้ายเพื่อนผู้บำเพ็ญลับหลัง แต่คนทั่วไปแตะต้องเขาไม่ได้ ต่อสภาพการณ์เช่นนี้ พวกเราบำเพ็ญความอดทน ก็พอ หรือว่าควรเปิดโปงให้เต็มที่
อาจารย์ “เปิดโปง”ก็ไม่ถูกต้อง เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในวัฒนธรรมพรรค (ที่ประชุมหัวเราะ) นี่เป็นวิธีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องนี้ต้องมองสองด้าน หากเป็นการให้ท่านบำเพ็ญจริงๆ ท่าทีของเขาต่อท่านกลับจะไม่กระทบต่อโครงการ งานของท่านก็จะไม่ได้รับผลกระทบ เช่นนั้นข้าพเจ้าแนะนำให้ท่าน อดทนไว้ บำเพ็ญไป (อาจารย์หัวเราะ) (ที่ประชุมปรบมือ)
ทำไมพูดอย่างนี้หรือ ทุกท่านทราบ ผู้บำเพ็ญใช่ไหม มักจะพูดคำนั้นอยู่เสมอ คือ ในเมื่อท่านมีใจดวงนั้น ใจของท่านจึงหวั่นไหวได้ หากท่านไม่มีใจดวงนั้น ก็จะเหมือนลมที่พัดผ่าน ท่านจะไม่รู้สึกแต่อย่างใดเลย หากมีคนพูดว่าท่านฆ่าคนวางเพลิง ท่านได้ฟังแล้วรู้สึกน่าสนุก(อาจารย์หัวเราะ) นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน หัวเราะ แล้วผ่านไป ไม่เอาเรื่องเอาราว เพราะท่านไม่มีใจดวงนั้น คำพูดนี้สะกิดใจท่านไม่ได้ เมื่อไม่มีใจดวงนั้น ก็กระทบไม่ถูก หากใจท่านหวั่นไหวแล้ว ก็พูดได้ชัดว่า ท่านมี หากในใจท่านไม่สงบอย่างมาก ก็พูดได้ชัดว่า สิ่งนี้หาใช่เล็กๆไม่ (เสียงปรบมือ) นั่นไม่ควรแก้ไขหรือ
ดังนั้นเมื่อพูดในทางกลับกัน คนที่มักจะมีท่าทีที่ไม่ดีต่อคนเขา ศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญความเมตตา หากท่านรู้สึกว่าเพื่อนผู้บำเพ็ญของท่านบำเพ็ญได้ดีกว่าท่าน ท่านก็ไม่ต้องเมตตาต่อเขาละหรือ ใช่หรือไม่ ท่านเห็นว่าเขาสูงมากใช่หรือไม่ ท่านไม่เมตตาเขา หรือเขาคือคนกลุ่มที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ท่านก็ไม่ต้องเมตตาเขา ใช่ไหม กับคนกลุ่มที่เข้าร่วมการประทุษร้าย ถูกหลอกขึ้นเรือโจรสลัด ท่านก็ต้องเมตตาเขา กับเพื่อนผู้บำเพ็ญของท่าน เหตุใดท่านไม่เมตตาเขา เขาเป็นศิษย์ของอาจารย์ ท่านทราบไหม (เสียงปรบมือ) เมื่อท่านพูดจาโดยไม่ระวัง ท่านไม่คิดว่าในเวลานั้นท่านเหมือนกับมารหรือไม่ใช่มาร ที่ข้าพเจ้าพูดคือสภาวะนั้นหากท่านเป็นเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ เป็นสภาวะที่เหมือนกับมารอยู่เรื่อยๆ ท่านบำเพ็ญสู่ทางมารแล้วหนา มักจะมองไม่เห็นใบหน้าที่เบิกบานแจ่มใสของท่าน ยังมักจะแสดงความกะล่อนออกมา ท่านว่า ท่านอยู่ในสภาพอะไร เทพเฝ้าดูท่านอยู่นะ
ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน เดิมทีข้าพเจ้าคิดไม่ถึงเลยว่า เทพมากมายอย่างนั้นจ้องมองศิษย์ต้าฝ่าอยู่ เนื่องจากข้าพเจ้ายิ่งทำก็ยิ่งใหญ่ขึ้น พบว่าชีวิตนี้ มีนับไม่ถ้วน ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเห็นเพียงสายตาที่พวกเขาส่งออกมามองดูพวกท่าน ขณะนี้ข้าพเจ้าพบว่าดวงตานั้นแน่นขนัดจนเต็มไปหมด ชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเฝ้ามองดูพวกท่าน และยังไม่กระพริบตา มันเกี่ยวพันกับทั่วทั้งจักรวาล พื้นที่ขนาดใหญ่เท่าปลายเข็มล้วนมีชีวิตนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองพวกท่านอยู่ชีวิตนั้นไม่ได้แบ่งว่าใหญ่หรือเล็ก สติปัญญากับความสามารถก็ไม่ได้พิจารณาจากความใหญ่เล็ก “นกกระจอกแม้ตัวจะเล็ก” แต่ก็มีครบถ้วนทั้งห้าอวัยวะ “ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่านหนา มีเทพเหล่านั้นในระดับชั้นสูงยิ่ง ซึ่งเล็กยิ่งกว่าปลายเข็ม แต่กลับมีพลานุภาพไร้ที่เปรียบ ในฉับพลันก็สามารถจะกลายเป็นเทพองค์มหึมาได้
ข้าพเจ้าพูดตลอดมา ข้าพเจ้าว่าโลกมนุษย์คือเวทีใหญ่ ท่านแสดงอยู่บนนี้ ผู้ชมคือเหล่าเทพ เหล่าชาวสวรรค์ ทั้งหมดในจักรวาล ชมการแสดงอยู่ในโรงละคร นั่งอยู่ข้างล่างเวที คนดูคนแสดง จะมองไม่เห็นการแสดงออกของความคิดท่าน เทพเหล่านั้นกำลังดูความคิดของพวกท่านอยู่ ดูพฤติกรรมของพวกท่านอยู่ พวกท่านลองเงยหน้าขึ้น มองดูเซลล์นั้นที่อยู่ข้างในศีรษะของพวกท่าน ยังสามารถเห็นว่าใจเคลื่อนไหวอย่างไร เวลาที่พวกท่านทำเรื่องที่น่าขัน พวกเขาก็กลั่นหัวเราะไม่อยู่ เมื่อพวกท่านทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าไม่ควรทำ พวกเขาก็จะเฝ้าดูท่านอย่างเข้มขรึมมาก
ศิษย์สื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ รู้สึกว่าให้ความสำคัญกับการต่อสู้ภายในมากเกินไปกลับทำให้สวรรค์พิโรธคนเคียดแค้น ไม่ให้ความสำคัญอย่างเพียงพอกับเนื้อหาการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ของศิษย์ต้าฝ่า โดยเฉพาะบนเว็บต้งไท่ (ทะลวงการปิดกั้น)
อาจารย์ข้าพเจ้าเห็นว่าคำพูดนี้ไม่ถูกต้อง “สวรรค์พิโรธคนเคียดแค้น” “การต่อสู้ภายใน”หากคำพูดของท่านยืนอยู่ในมุมมองของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน เช่นนั้นท่านก็เป็นคนที่มีปัญหา ท่านกำลังพูดว่าการต่อสู้กันเองของชาวจีนเรา ใช่หรือไม่ พวกเรากับพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน มันคือมารปีศาจ มันกำลังทำลายชาวจีน โดยเปลือกนอกคือรัฐบาลจีน พวกเรานั้นเปิดโปงมันว่า เหตุใดจึงประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ขณะเดียวกันก็บอกชาวโลกว่ามันเป็นอะไร
คำพูดนี้ของข้าพเจ้าก็พูดอยู่ก่อนจะมีการประทุษร้ายแล้วข้าพเจ้าว่าในระหว่างที่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกง พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนจะประทุษร้ายตนเองจนล้มคว่ำไป(เสียงปรบมือ) ข้าพเจ้าก็ไม่เพียงเป็นนักพยากรณ์นะ แต่ข้าพเจ้ามองเห็นได้แล้ว เนื่องจากอิทธิพลเก่าได้จัดวางไว้อย่างนั้น ถือว่ามันเป็นตัวตลก เมื่อเล่นกับมันจนพอแล้วก็ดับสลายมัน จุดประสงค์คือในการประทุษร้ายครั้งนี้ จะทดสอบศิษย์ต้าฝ่าอย่างเข้มงวด ขจัดใจคนที่ยึดติดของศิษย์ต้าฝ่า ด้วยเหตุนี้จึงสร้างมารตนนี้ขึ้นมา แล้วจะให้มันคงอยู่เนิ่นนานได้หรือ
ศิษย์ศิษย์ต้าฝ่า จากเมืองกงจู่หลิงและฉางชุนมาแล้ว ไม่ทราบว่าควรอยู่ต่อหรือไม่
อาจารย์นี่เป็นเรื่องของแต่ละคน ท่านรู้สึกว่าควรอยู่ต่อก็อยู่ หากพวกท่านรู้สึกว่าที่นี่มีที่ที่ให้ท่านพอจะทำอะไรได้ก็อยู่ต่อ หากพวกท่านรู้สึกว่าที่นี่ไม่มีที่ที่ท่านพอจะทำอะไรได้ ท่านก็ไม่ต้องอยู่ต่อ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อขณะนี้ศิษย์ต้าฝ่ามาอเมริกา หรือจะไปที่ไหนๆ ในโลก ก็ง่ายมากแล้ว และจะยิ่งง่ายขึ้นเรื่อยๆ ตามที่สิ่งชั่วร้ายที่ทำการประทุษร้ายถูกเปิดโปงออกมา ชาวโลกก็ยิ่งเฝ้าจับตามองศิษย์ต้าฝ่า เมื่อความจริงเปิดเผยออกมาทั้งหมด คนทั้งโลกล้วนจะนับถือศิษย์ต้าฝ่า (เสียงปรบมือ)
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเถิด ที่จริงสิ่งที่อาจารย์อยากจะพูดมากที่สุดก็คือ สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลง แต่การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ จะต้องไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ใดๆ จงเป็นเหมือนกับศิษย์ต้าฝ่า เมื่อประสบกับปัญหาอะไร ล้วนแต่ต้องบำเพ็ญตนเอง (เสียงปรบมือกึกก้อง)
อาจารย์ขอพูดเพียงเท่านี้นะ ปัญหาที่ถามขึ้นมา กลุ่มผู้จัดงานอาจจะยังมีอยู่(เสียงปรบมือกึกก้อง) ข้าพเจ้าทราบว่าข้าพเจ้านั่งอยู่ตรงนี้ ก็จะตอบให้แต่ละคนได้จนหมด แต่ พวกท่านก็ไม่แน่ว่าจะหมดคำถาม จะยังมีคำถาม จึงขอพูดเพียงเท่านี้ อาจารย์ได้แต่บรรยายบนหลักการของฝ่า การบำเพ็ญนั้นหนา นั่นต้องอาศัยตัวพวกท่านเอง หากท่านสามารถจะรักษาสภาพจิตใจของพวกท่านในฝ่าฮุ่ย ณ ขณะนี้ เอาไว้ได้เรื่อยไป ท่านก็จะสำเร็จแน่นอน (เสียงปรบมือกึกก้อง)
ใจดวงนี้หนา อย่าถูกความเป็นจริงในสังคมคนธรรมดาสามัญควบคุม อย่าถูกทัศนคติควบคุม พอกลับไปอยู่ในความเป็นจริงเฉพาะหน้ามองเพื่อนผู้บำเพ็ญ ก็อย่าเป็นเช่นนั้นอีก ฝ่าฮุ่ยนี้อย่าให้สูญเปล่า ฝ่าฮุ่ยของต้าฝ่า ทำเพื่อให้พวกท่านสามารถยกระดับได้ สามารถจะมีเจิ้งเนี่ยนขึ้นมา สามารถจะเป็นประโยชน์กับการบำเพ็ญได้ จึงเปิดประชุม ดังนั้นข้าพเจ้าหวังว่าทุกท่าน จะรักษาสภาพจิตใจ ณ ขณะนี้ไว้ได้ต่อไป เหมือนกับศิษย์ต้าฝ่า สถานการณ์บีบรัดคน ชีวิตมากมายอย่างนั้นกำลังรอคอยพวกท่านไปช่วยอยู่ ข้าพเจ้าร้อนใจมาก
ชีวิตที่มายังโลก ไม่อาจเกิดเป็นคน แต่เกิดเป็นสัตว์ เป็นพืช ล้วนกำลังรอคอยศิษย์ต้าฝ่าไปช่วยเหลืออยู่ ถ้าพวกท่านทำได้ไม่ดี ไม่เพียงแต่พวกท่านที่ทำได้ไม่ดี ชีวิตเหล่านั้นที่ท่านตั้งปณิธานจะไปช่วยเหลือ จะพลาดโอกาสไปทั้งหมด ภาระหน้าที่ของพวกท่านหนักมาก อนาคตกำลังรอพวกท่านอยู่ ชีวิตมากมายในจักรวาลล้วนกำลังรอคอยพวกท่าน
ให้บำเพ็ญเหมือนเมื่อแรกเริ่ม ย่อมสำเร็จแน่นอน (ศิษย์ต้าฝ่ามอบช่อดอกไม้ เหล่าศิษย์ปรบมือยาวนาน)
หมายเหตุจากผู้แปล : บทความนี้จะมีการแก้ไขเพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับภาษาจีนมากที่สุด วันที่แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 สิงหาคม 2016