การบรรยายธรรม ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยนานาชาติกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ปี 2009

(หลี่ หงจื้อ ~ 18 กรกฎาคม 2009)

ทุกท่านลำบากกันแล้ว

เพิ่งเสร็จการประชุมฝ่าฮุ่ยที่นิวยอร์กได้พบหน้าทุกท่านครั้งหนึ่งแล้วครั้งนี้จึงไม่อยากจะพูดมากดังนั้นจึงมาช้าสักหน่อย (หัวเราะ) (ที่ประชุมปรบมือ)สถานการณ์เจิ้งฝ่าทั้งหมดก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วผลที่เกิดจากการที่ศิษย์ต้าฝ่าร่วมมือกันช่วยเหลือสรรพชีวิตและยืนยันความถูกต้องของฝ่าได้ทำให้สถานการณ์ทั้งหมดบนโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากแล้ว จุดนี้ทุกท่านต่างก็เห็นแล้วชาวโลกก็เห็นแล้วเมื่อตอนเริ่มต้นของการประทุษร้ายเมื่อ “20 ก.ค.” ปีค.ศ.1999 หลายคนชี้ขาดว่า ฝ่าหลุนกงยืนหยัดอยู่ได้ไม่กี่วันแน่เดิมทีมีคนจำนวนหนึ่งคิดจะสนับสนุนฝ่าหลุนกงเมื่อได้รับอิทธิพลจากความคิดชนิดนี้ ก็ไม่แสดงท่าทีแล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่นักศึกษาถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนปราบปรามเมื่อ “4 มิ.ย.” คนมากมายรู้สึกเหมือนว่าประเทศจีนไม่มีความหวังอะไรแล้วกระทั่งมีบางคนพูดอย่างเปิดเผยว่า อย่าไปสนใจฝ่าหลุนกงพวกเขายืนหยัดอยู่ได้ไม่กี่วันหรอกไม่ว่าพวกเขาจะมีความคิดมาจากอะไรแต่ฝ่าหลุนกงไม่เป็นเหมือนเช่นคำชี้ขาดนั้นของพวกเขาฝ่าหลุนกงก้าวข้ามมาแล้ว(เสียงปรบมือกึกก้อง)โดยเฉพาะคือ เป็นการก้าวข้ามมาได้แล้วโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากภายนอก (เสียงปรบมือกึกก้อง) จุดนี้หนาทำให้ชาวโลกมองด้วยสายตาที่ทึ่งแล้วยิ่งแสดงออกถึงความยอดเยี่ยมของศิษย์ต้าฝ่ายิ่งแสดงออกถึงความแตกต่างเหนือธรรมดาของผู้บำเพ็ญฝ่าหลุนกงปัจจุบันมีคนจำนวนหนึ่งเปลี่ยนจากเย็นชามาเป็นให้ความสนใจเปลี่ยนท่าทีที่เคยเยาะเย้ยมาเป็นการยกย่อง

เมื่อเรื่องยังมาไม่ถึงจุดสิ้นสุด เจิ้งฝ่ายังคงรุดหน้าไป ศิษย์ต้าฝ่ายังยืนยันความถูกต้องของฝ่าช่วยเหลือสรรพชีวิตไม่หยุดหย่อนสถานการณ์ยังคงเปลี่ยนแปลงไม่หยุดหย่อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายในอีกมิติถูกทำลายไปเป็นปริมาณมหาศาลในเวลาเดียวกันชาวโลกจึงยิ่งมีสติยิ่งขึ้นเรื่อยๆ องค์ประกอบที่ไม่ดีเหล่านั้นที่ควบคุมความคิดคนยิ่งน้อยลงเรื่อยๆเช่นนี้จึงทำให้ชาวโลกไตร่ตรองอย่างสุขุมเยือกเย็นเกี่ยวกับการประทุษร้ายครั้งนี้กับการปฏิบัติอย่างไรต่อศิษย์ต้าฝ่าที่จริงชาวโลกจะมองพวกเราอย่างไรนี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย และไม่สำคัญที่สำคัญที่สุดคือพวกเราต้องทำเรื่องของตัวเองให้ดี ในระหว่างการถูกประทุษร้ายพวกเราไม่สนใจท่าทีของชาวโลกและพวกเราก็ไม่ได้ฝากความหวังไว้กับคนธรรมดาสามัญว่าจะทำอะไรให้ต้าฝ่าได้บ้างและไม่ได้ทอดทิ้งการช่วยชีวิตชาวโลกกับสรรพชีวิตเรื่องการช่วยเหลือชาวโลกนี้มีแต่ศิษย์ต้าฝ่าที่สามารถทำได้เป็นความรับผิดชอบที่หนักมากในช่วงที่การประทุษร้ายรุนแรงที่สุดก็ไม่ได้ทอดทิ้งความรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่าในขณะที่ถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ล้วนแต่ถือการบำเพ็ญตนเองให้ดีเป็นมูลฐาน ยืนยันความถูกต้องของฝ่าช่วยเหลือสรรพชีวิตด้วยสติปัญญา

ใช่เมื่อการประทุษร้ายเริ่มขึ้นมีหลายๆเรื่องที่ทำได้ไม่ดีพอซึ่งยากจะหลีกเลี่ยงเพราะระยะแรกคนมากมายไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อเผชิญกับการประทุษร้ายครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันใส่ร้ายป้ายสีแบบมืดฟ้ามัวดิน ถ่ายทอดคำหลอกลวงไปทั่วโลกฝ่าหลุนกงในเวลานั้นไม่มีสื่อสารมวลชนไม่มีที่ที่จะพูดชี้แจงสื่อทั่วโลกล้วนรายงานตามการโฆษณาชวนเชื่อของสื่อของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนจึงเท่ากับเป็นการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าอย่างมืดฟ้ามัวดินไปทั่วทุกมุมโลกแทนพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้พวกเราก็ไม่ได้เสียขวัญต่อหน้าทุกสิ่งของคนธรรมดาสามัญผู้บำเพ็ญก็ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญตั้งแต่ต้นการบำเพ็ญคือการหลุดพ้นของแต่ละคนที่บำเพ็ญนั้นคือตนเองคนอื่นจะพูดอย่างไรก็เป็นเรื่องของคนอื่นเพียงแต่ศิษย์ต้าฝ่ามีความรับผิดชอบในการช่วยเหลือสรรพชีวิตดังนั้นจึงใส่ใจสภาพการณ์ของสรรพชีวิตนี่ไม่เหมือนกับการบำเพ็ญในอดีตและเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบที่ค่อนข้างหนักหน่วงสรรพชีวิตที่เผชิญอยู่คนบนโลกทุกวันนี้ก็ต่างจากชีวิตในแต่ละยุคของประวัติศาสตร์แล้วดูๆไปล้วนเป็นคนแต่มีมากมายที่มาจากระดับชั้นสูงเป็นเทพที่จุติมาเกิดเป็นคนดังนั้นจึงทำให้เรื่องที่ต้องทำ ต้องช่วยเหลือจึงเป็นความรับผิดชอบที่หนักยิ่งขึ้นอีกและยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นเช่นนั้นเรื่องนี้จึงมีความจำเป็นต้องทำหากมิใช่เช่นนี้การประทุษร้ายครั้งนี้ก็จะไม่สามารถยาวนานอย่างนี้และจะไม่อาจคงอยู่ต่อไปจะเป็นแค่การบำเพ็ญตัวเองของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเองไม่มีการคุกคามใดๆต่ออิทธิพลเก่าแต่เพราะจักรวาลจะเจิ้งฝ่าอิทธิพลเก่า และองค์ประกอบที่ไม่ดีถูกแตะต้องเข้าแล้วการประทุษร้ายในสังคมคนธรรมดาสามัญเป็นเพียงผลสะท้อนของระดับชั้นนี้มองจากเปลือกนอกรูปแบบการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าในสังคมคนธรรมดาสามัญนั้นไม่เหมือนกับในอดีตและยังเป็นคนกลุ่มใหญ่ถึงเพียงนั้นผลกระทบด้านบวกได้ทำลายดุลยภาพระหว่างธรรมะกับอธรรมดีกับเลวในโลกดังนั้นองค์ประกอบที่ไม่ดีจึงลุกขึ้นมา แต่ก็ไม่ถึงกับก่อให้เกิดการประทุษร้ายที่ใหญ่โตอย่างนี้ได้แต่เป็นเพราะการจัดวางขององค์ประกอบของจักรวาลเก่าในขณะเดียวกันชีวิตที่ไม่ดีในอีกมิติก็จมลง ตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อนในระหว่างการเจิ้งฝ่าจึงทำให้สนามมิติของโลกมนุษย์ไม่ดีเป็นพิเศษ ทำให้ศีลธรรมของสังคมตกต่ำ จิตใจคนเปลี่ยนแปลงอย่างมากบนโลกจึงปรากฏออกมายิ่งยุ่งเหยิงยิ่งขึ้นเพิ่มระดับความยากลำบากอย่างมากในการช่วยเหลือสรรพชีวิตในเวลาเดียวกันการแสดงออกของมารก็ยิ่ง ใหญ่โตการเผชิญกับสภาพการณ์อย่างนี้ศิษย์ต้าฝ่าสามารถก้าวข้ามมาได้ก็ไม่ง่ายแล้วไหนเลยยังต้องช่วยเหลือสรรพชีวิตเหล่านี้ที่ถูกทำให้ยุ่งเหยิงจนไม่ไหวแล้ว

เมื่อตอนเริ่มต้นนั้น ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรบ้างก็ไม่สุขุมเยือกเย็นพอเมื่ออยู่ต่อหน้าแรงกดดันในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าการบำเพ็ญในสภาพต่างๆนานาล้วนมีทั้งนั้นดังนั้นจึงทำให้ศิษย์ต้าฝ่าเมื่อทำงานขึ้นมา จึงยากจะร่วมมือกันในการบำเพ็ญจึงมีทั้งพวกที่ไม่ก้าวหน้าและพวกที่ก้าวหน้าและมีจิตมนุษย์นานาชนิดผสมปนเปกันจึงทำให้เรื่องราวซับซ้อนที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดว่าใครก็ทำลายฝ่านี้ไม่ได้มีแต่ศิษย์ต้าฝ่าที่ทำได้ไม่ดีจึงจะบังเกิดผลที่ไม่ดีทุกท่านมองเห็นแล้วการประทุษร้ายครั้งนี้มันทำอะไรฝ่าหลุนกงได้ไหม ไม่มีพลังที่จะทำอะไรได้ การประทุษร้ายครั้งนี้ได้แต่เสริมธรรมานุภาพของผู้บำเพ็ญอย่างอื่นไม่ใช่อะไรทั้งนั้นไม่เกิดผลอะไรเลยมีแต่ทำลายพวกมันเองในระหว่างการประทุษร้ายแต่ในระหว่างการประชันกันระหว่างธรรมะกับอธรรมศิษย์ต้าฝ่านั้น จากเดิมที่ประสานกันไม่ดี ก็ค่อยๆสามารถประสานกันได้ต่อมาค่อยๆไปสู่การมีสติยิ่งขึ้นจนถึงวันนี้แม้ว่ายังมีเรื่องอีกมากมายยังมีอีกหลายพื้นที่มีปรากฏการณ์ที่ประสานกันได้ไม่ดีอยู่แต่เมื่อมองโดยรวมศิษย์ต้าฝ่าโดยรวมเมื่อผ่านการบำเพ็ญและยืนยันความถูกต้องของฝ่าหลายปีมานี้ฝึกฝนจนสุกงอมยิ่งขึ้นมีสติยิ่งๆขึ้นจากที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ค่อยๆเข้าใจว่าจะทำอย่างไรแล้วจากที่ไม่มีเหตุผลก็กลับค่อยๆมีเหตุผลแล้ว

การบำเพ็ญในอดีตมันเป็นเพียงเรื่องการหยวนหมั่นของแต่ละคนจะทำดีหรือไม่ดีก็เป็นเรื่องของแต่ละคนแต่ขณะนี้จะต้องช่วยเหลือสรรพชีวิตจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องการประสานงาน ร่วมมือซึ่งกันและกันในขั้นตอนของการประสานงานกันย่อมจะเกิดใจคนสะท้อนออกมาแต่ที่น่ายินดีคือ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม กระแสหลักของพวกเรานั้นทำได้ดีตลอดมาความมุ่งหวังของทุกท่านนั้นถูกต้องไม่ว่าใจคนจะแสดงออกมาอย่างไร และองค์ประกอบที่อิทธิพลเก่าจัดวางมาจะแสดงออกมาอย่างไรแต่จุดริเริ่มของทุกท่านคือการยืนยันความถูกต้องของฝ่า จุดนี้ใครก็ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ดังนั้นเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่านี้ไม่ได้หยุดชะงัก การช่วยเหลือสรรพชีวิตเรื่องนี้ไม่ได้หยุดชะงักประสานงานกันไม่ดีก็ทำกันเอง ประสานงานกันในวงกว้างไม่ดีก็ทำกันในวงแคบๆถ้าสามารถประสานงานกันได้ดีก็ร่วมกันทำไม่ว่าจะเป็นอย่างไร พวกท่านก็ก้าวข้ามมาแล้วข้าพเจ้าหวังว่าต่อไปทุกท่านควรมีสติสัมปชัญญะยิ่งขึ้น ทำให้ดีในสิ่งที่พวกท่านควรจะทำ

การยืนยันความถูกต้องของฝ่ากับการบำเพ็ญส่วนตัวได้ก้าวมาถึงวันนี้แล้วไม่ง่ายเลยจริงๆทุกท่านฝึกฝนจนสุกงอมแล้วที่จริงขั้นตอนของการฝึกฝนนี้ก็คือขั้นตอนของการทิ้งใจคนไปพูดขึ้นมาแล้วทุกสิ่งที่ทุกท่านทำนั้นล้วนเชื่อมโยงกับการบำเพ็ญของแต่ละคนหาใช่ทำเพื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเอกเทศหรือทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้นทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกับการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกับหน้าที่ของศิษย์ต้าฝ่า ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกับการบำเพ็ญของท่านแต่ละคนนี่ล้วนไม่อาจแยกออกจากกันดังนั้นท่านทำอะไรล้วนจะสะท้อนเข้าไปในสภาพการบำเพ็ญของท่านในการร่วมมือซึ่งกันและกันของพวกท่าน หากจิตใจไม่สงบโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ในเวลานั้นยากที่จะคิดพิจารณาตัวเองดูว่าตนเองมีสภาพอย่างไรจุดตั้งต้นนั้นเป็นใจคนชนิดไหนส่วนมากคือความเห็นของตนไม่ได้รับคัดเลือกหรือมองคนอื่นไม่ขึ้นจิตสองชนิดนี้สะท้อนออกมานั้นรุนแรงที่สุดข้าพเจ้ามองเห็นแล้วว่าปัจจุบันยังมีปรากฏการณ์เหล่านี้อยู่แต่ไม่ว่าอย่างไรการบำเพ็ญใช่ไหมหวังว่าทุกท่านจะสามารถฝึกฝนให้สุกงอมยิ่งขึ้นเรื่อยๆมีสติสัมปชัญญะมากขึ้นเรื่อยๆยิ่งเหมือนกับผู้บำเพ็ญที่ทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดว่าเวลาของการเจิ้งฝ่าจะไม่ยาวนานแล้วสั้นมากข้าพเจ้าหวังอย่างมากว่าพวกท่านจะสุกงอมขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วมีสติสัมปชัญญะขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำให้เรื่องนี้จบสิ้นลงได้ในเวลาอันสั้นมากหากศิษย์ต้าฝ่าล้วนไม่มีสติสัมปชัญญะล้วนไม่สุกงอมขึ้นมาเอาแต่ใช้ใจคนไปทำงานอยู่เสมอแสดงออกมาอย่างรุนแรงเช่นนั้นเรื่องนั้นจะจบสิ้นได้อย่างไรละจะพูดได้อย่างไรว่าศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญได้ดีแล้ว

ยังมีอีกนะการช่วยเหลือสรรพชีวิตเรื่องนี้มีคนส่วนหนึ่งนั้นยากที่จะเร่งแข่งกับเวลาในขณะนี้ศิษย์ต้าฝ่าที่ทำงานก็คือคนเหล่านี้ที่กำลังทำอยู่มีคนส่วนหนึ่งไม่ออกมาไม่เห็นความสำคัญมองเรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิตนี้ไม่สำคัญอะไรนักที่จริงความรับผิดชอบทั้งหมดในฐานะที่ท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าก็อยู่ตรงนั้นแล้วถ้าไม่ทำเรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิตเรื่องนี้ท่านก็ไม่ได้บรรลุภาระหน้าที่ของศิษย์ต้าฝ่าการบำเพ็ญของท่านก็เท่ากับศูนย์เพราะให้ท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าไม่ใช่เพื่อการหยวนหมั่นส่วนบุคคลของท่านหากเป็นการแบกรับภารกิจที่หนัก


ข้าพเจ้าหวังว่าต่อๆไปทุกท่านจะยิ่งเหมือนกับศิษย์ต้าฝ่าร่วมมือกันดียิ่งขึ้นทำอะไรให้คิดถึงผู้อื่นเมื่อพบกับความขัดแย้งก็คิดพิจารณาตนเองคำพูดนี้ทุกท่านคงสามารถพูดได้กันทั้งนั้นและเข้าใจกันหมด แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญก็ไม่คิดแล้วในฝ่าฮุ่ยแต่ละครั้งข้าพเจ้าก็พูดคำพูดเหล่านี้ซ้ำๆกำชับทุกท่านเสมอๆหากทุกท่านสามารถทำได้ถึงจุดนี้ภายในของพวกท่านไม่มีความขัดแย้งหากล้วนสามารถทำได้ถึงจุดนี้เรื่องอะไรก็จะสามารถแก้ไขได้และพวกท่านจะสามารถร่วมมือกันได้ดี

พูดถึงผู้ที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่เข้าใจสังคมนานาชาติเฉพาะด้านนี้ ข้าพเจ้าคิดว่า ในระยะเวลาอันสั้นพวกท่านก็จะเข้าใจก็จะสามารถกลมกลืนเข้ากับสังคมนี้ได้นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือใจคนมีมากเกินไปแน่ละเมื่อพูดถึงใจคนในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าการช่วยเหลือสรรพชีวิตการบำเพ็ญในด้านนี้ต้องมีเจิ้งเนี่ยนที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิตตามปกติในการแสดงออกในสังคมนี้ไม่อาจจะอยู่ในลักษณะที่เหนือธรรมดาท่านบอกว่าพวกเราควรจะดำเนินชีวิตเหมือนกับเทพเดินอยู่บนถนนก็ไม่เหมือนกับคนทั่วไปอากัปกิริยาในเวลาปกติก็ไม่เหมือนกับคนทั่วไปนั่นก็เดินไปสู่อีกสุดขั้วหนึ่งต้องบำเพ็ญให้สอดคล้องที่สุดกับสังคมคนธรรมดาสามัญ นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดดังนั้นต้องบำเพ็ญอย่างมีสติบำเพ็ญอย่างสง่าผ่าเผยความสัมพันธ์นี้ข้าพเจ้าว่าทุกท่านล้วนจัดได้ไม่ยากเวลานานเข้าก็จะทราบว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรคนเหล่านั้นที่ไม่ค่อยมีสติสัมปชัญญะ ก็มีไม่มากแล้ว

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการแสดงออกมาอย่างไม่เป็นปกติทั้งหมดในสภาพแวดล้อมของศิษย์ต้าฝ่านี้ – คือไม่มีเหตุผลบ้าๆบอๆบ้างก็เจาะจงที่จะอยู่กับคนที่ไม่ก้าวหน้าคนที่มีจิตมนุษย์มากไม่เหมือนผู้บำเพ็ญ ก่อให้เกิดผลด้านลบบ้างก็ยังมีการติดต่อกับสายลับเหล่านั้นบ้างก็ยังมีพวกที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ เจาะจงก่อความวุ่นวายอยู่ในหมู่ผู้ฝึกข้าพเจ้าเป็นห่วงอนาคตของคนเหล่านี้จริงๆแต่ข้าพเจ้าคิดอยู่ว่า พอเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นพวกเขาก็ไม่คิดถึงสภาพการณ์บำเพ็ญของตนเองแล้วคิดแต่ว่าคนๆนี้ไม่ดีอย่างนั้นเขาเป็นคนอย่างไรแต่ในเวลานั้นตนเองไม่ลองคิดดูว่า เหตุใดจึงมีคนอย่างนี้อยู่ในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าหรือเกิดเรื่องชนิดนี้ขึ้นมาได้อย่างไรนะเขามุ่งมาที่คนกลุ่มไหนโดยเฉพาะหรือเปล่านะหรือมุ่งมาที่จิตใจของคนกลุ่มไหนนะต้องเป็นเช่นนี้แน่นอนในระหว่างการบำเพ็ญจะไม่มีเรื่องใดๆที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุเมื่อเกิดสภาวะที่ไม่ถูกต้อง ณ ที่นี้ของพวกเราหรือพฤติกรรมของคนที่ไม่ดีนั่นก็คือมันมุ่งมาที่ใจคนโดยเฉพาะพวกเราไม่ยอมรับการจัดวางของอิทธิพลเก่า หากทำไม่ดีก็จะถูกเจาะช่องว่างบางทีในด้านนี้จำเป็นต้องมีเรื่องชนิดนี้(เกิดขึ้นมาโดยเฉพาะ)จึงเกิดขึ้นได้พอเกิดเรื่องชนิดนี้ขึ้นทุกท่านต่างร้อนใจทำไมทำให้ศิษย์ต้าฝ่าเสียหน้าได้นะมีคนเหล่านี้ปรากฏนะ ทุกท่านต่างไม่คิดว่าพวกเราทำไม่ถูกต้องในด้านไหนแล้วใช่หรือไม่ที่จริงหากตนเองเข้าใจได้จริงๆทำได้ถูกต้องแล้ว คนเหล่านี้การกระทำเหล่านี้ก็จะไม่มีแล้วเพราะจะไม่มีเรื่องใดๆ ที่ปรากฏออกมาในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าโดยไม่มีสาเหตุและไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นได้ใครก็ไม่กล้าท่านอย่าได้เห็นว่าสิ่งชั่วร้ายมันชั่วร้ายอย่างไรมันไม่กล้าทำเช่นนี้องค์ประกอบของอิทธิพลเก่ามันกล้าแสดงบทบาทในหมู่ศิษย์ต้าฝ่านั้นก็เพราะท่านมีใจคนชนิดนี้จึงจำเป็นต้องให้มีคนอย่างนี้ปรากฏขึ้นในด้านนี้ทุกท่านจะต้องมีสติขึ้นมา

เรื่องมากมายที่ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าไม่คิดจะพูดข้าพเจ้าก็ไม่อาจพูดด้วยหากพูดออกมาความทุกข์ยากนั้นจะยิ่งมากขึ้นยุ่งยากยิ่งขึ้นเพราะพวกองค์ประกอบเก่ามันรู้สึกว่าข้าพเจ้าเปิดเรื่องนี้กระจ่างให้แล้วจิตมนุษย์เหล่านั้นก็ทิ้งไปไม่ได้แล้วยิ่งกว่านั้นพวกมันจะทำให้คนเหล่านี้เดินไปสู่ฝั่งตรงข้ามด้วยเหตุนี้เกิดความยุ่งยากยิ่งขึ้นดังนั้นพวกท่านจึงต้องก้าวข้ามมาเองเพราะฝ่าก็ถ่ายทอดให้กับพวกท่านแล้วทุกท่านต่างก็กำลังบำเพ็ญอยู่เรื่องอะไรก็สามารถจะแก้ไขได้ในระหว่างการบำเพ็ญท่านเองตั้งใจบำเพ็ญหรือไม่หากตั้งใจบำเพ็ญจริงๆอะไรก็แก้ไขได้ทั้งนั้น

สิ่งเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าพูดไปนั้นก็คือต้องการจะบอกทุกท่านไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าแน่นอนว่าจะต้องมุ่งมาที่ใจของใครบางคนหรือกลุ่มคนบางกลุ่มเป็นอย่างนี้แน่นอนอิทธิพลเก่านี้ก็ไม่กล้าทำลายการเจิ้งฝ่าเนื่องจากถ้าทำลายเรื่องการเจิ้งฝ่านี้แล้ว จักรวาลก็จะไม่คงอยู่อีกแล้วศิษย์ต้าฝ่ากำลังช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า เรื่องนี้เป็นตัวแปรใครก็ไม่กล้าไปทำลายจริงๆอิทธิพลเก่าคิดจะทำเรื่องนี้ตามที่พวกมันต้องการจะทำ ในการบำเพ็ญของพวกท่าน จะทิ้งใจคนไปได้อย่างไรอาจารย์มีวิธีการของอาจารย์พวกมันมีวิธีการของพวกมันไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามไม่ให้พวกมันเจาะช่องว่างในการบำเพ็ญต้องมองดูตัวเองให้มากไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก่อนอื่นต้องพิจารณาตัวเองคิดถึงส่วนรวมที่ทำงานอยู่ในเวลานั้น ก็จะค้นพบต้นตอของปัญหาได้

ผู้บำเพ็ญใช่ไหมการค้นหาจากภายในนี้คือเคล็ดลับอันหนึ่งพระสงฆ์ในอดีตพูดกับผู้บำเพ็ญบางคนว่า “พระพุทธอยู่ในใจ” ต้องบำเพ็ญที่ใจที่จริงที่เขาพูดทั้งหมดก็คือความหมายนี้เป็นเช่นนี้จริงๆสังคมมนุษย์เกือบจะอยู่ศูนย์กลางของจักรวาลนี้อยู่ตรงกลางระหว่างสสารขนาดใหญ่กับเล็กเมื่อมองออกไปข้างนอก ใหญ่จนไม่มีขอบใหญ่จนกระทั่งไม่มีขอบเขตที่สิ้นสุดที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยบอกทุกท่านว่าจักรวาลนี้ใหญ่แค่ไหนพูดอยู่ตลอดสุดท้ายข้าพเจ้าไม่พูดแล้ว ไม่มีทางที่จะพูดได้แล้วเพราะภาษาของคนก็ถึงสุดทางแล้วความคิดของคนก็บรรจุเข้าไปไม่ได้แล้ว มีเพียงความคิดของเทพจึงจะเข้าใจได้เช่นนั้น เมื่อมองเข้าข้างใน จักรวาลนี้ก็ใหญ่ถึงระดับนั้นข้าพเจ้าจำได้ว่าแต่ก่อนมีภาพยนตร์อะไรเรื่องหนึ่งคือ มีน้ำหยดหนึ่งล่วงลงมาแล้วจากนั้นขยายภาพของหยดน้ำนี้ให้ใหญ่ ขยาย ๆๆๆๆๆจนใหญ่มากๆก็กลายเป็นโมเลกุลของน้ำมากมายจากนั้น ขยายภาพของโมเลกุลหนึ่งของน้ำอีกพบว่าโมเลกุลของน้ำนี้ประกอบด้วยอณูมากมายและการประกอบกันขึ้นมาของอณูเหล่านี้ก็เหมือนกับดวงดาวของจักรวาลอย่างนั้นจากนั้นขยายภาพดวงดาวดวงหนึ่งให้ใหญ่ก็มองเห็นอณูนั้นที่ประกอบขึ้นเป็นโมเลกุลของน้ำข้างบนนั้นมีโลกอยู่มีเมือง มีภูเขามีมหาสมุทรจากนั้นก็ขยายภาพหยดน้ำฝนหยดหนึ่งที่ตกลงบนโลกนั้นให้ใหญ่ขึ้นอีกพบว่ายังคงเป็นจักรวาลที่กว้างใหญ่ก็ไม่มีที่สิ้นสุดอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้นแน่ละผู้ประพันธ์บทภาพยนตร์นั้นคงจะมีความคิดชนิดหนึ่งแบบวิทยาศาสตร์แต่ว่าความคิดนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนเองจะสามารถคิดออกมาได้ก็จะพูดถึงตัวอย่างนี้ละกันที่จริงสภาพการณ์ที่แท้จริงนั้นซับซ้อนยิ่งกว่าที่เขาคิดนักยังใหญ่กว่าด้วยอณูนั้นจุลทรรศน์จนถึงระดับไหนไม่มีทางที่จะจินตนาการได้เลยในเม็ดทรายเม็ดหนึ่งเป็นมิติที่กว้างใหญ่มหึมาที่ไร้ขอบเขตจำนวนนับไม่ถ้วน,สรรพชีวิตที่นับไม่ถ้วน ไม่มีที่สิ้นสุดสายเต๋าพูดถึงจักรวาล ก็คือจักรวาลใหญ่ร่างกายคนคือจักรวาลเล็กไม่เพียงเท่านั้นเมื่อเปรียบร่างกายคนกับภายนอก เหมือนว่ามีความใหญ่เล็กอย่างนี้ที่จริงยังไม่ใช่แนวคิดนี้ไม่ว่าจะมองสู่ภายนอกหรือภายในล้วนไม่มีที่สิ้นสุดระดับจุลทรรศน์ของสสารองค์ประกอบดั้งเดิมที่ประกอบขึ้นเป็นความคิดของคน มูลเหตุของสรรพสิ่งทั้งปวงต้นกำเนิดที่สุดของปรากฏการณ์ทั้งปวงในอนาคตพวกท่านลองดูเองเถอะช่างสลับซับซ้อนเหลือเกิน ไม่อาจจะพูดได้ (หัวเราะ)

เมื่อครู่ที่ข้าพเจ้าพูดว่าการบำเพ็ญต้องค้นหาจากภายในไม่ใช่เพียงสิ่งเหล่านี้ศิษย์ต้าฝ่าอยู่บนโลกอยู่ในที่ต่างๆกันล้วนครอบคลุมระนาบที่ใหญ่อย่างยิ่งก็คือว่าท่านอยู่บนโลกนี้ดูไปท่านคือผู้บำเพ็ญคนหนึ่งสนามของท่านสามารถมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวท่านนี่คือการพูดโดยใช้ภาษาที่ตื้นเขิน ที่จริงทั่วทั้งโลกนั้นได้ถูกศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนรับเหมาไว้ส่วนหนึ่งแล้วดังที่ปรากฏอยู่บนโลกนี้และคนบนโลกยังสอดคล้องกับจักรวาลถ้าเขามาเพื่อรับฝ่าเขาก็คือตัวแทนของสรรพชีวิตในระบบนั้นข้างหลังของเขามีระบบที่กว้างใหญ่และระบบนั้นก็เหมือนกับอณูที่ประกอบกันขึ้นมามันก็ไม่ใช่ว่าพอถึงตรงนั้นก็ไม่มีแล้วและระบบนั้นของมันที่ระดับจุลทรรศน์ยิ่งกว่า ยังมีระบบที่กว้างใหญ่ที่จุลทรรศน์ยิ่งกว่าอณูที่ประกอบขึ้นเป็นเทพองค์หนึ่งมีเท่าไรละอณูเหล่านั้นทั้งหมดยังเป็นระบบที่กว้างใหญ่มหึมาทั้งสิ้นสูงขึ้นไปอีกก็ยังเป็นอย่างนี้มันซ้ำแล้ว ซ้ำอีกซ้ำแล้ว ซ้ำอีกอย่างนี้เช่นนั้นบนโลกก็คือคนๆหนึ่งบนโลกนี้ศิษย์ต้าฝ่ายังไม่ใช่เพียงแค่นี้แต่ละคนครอบคลุมระนาบหนึ่งที่ใหญ่มากในนั้นรวมทั้งคนอีกมากมายหากใจของศิษย์ต้าฝ่าไม่มั่นคงก็จะทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบของท่านเกิดการเปลี่ยนแปลง เวลาที่ท่านกลัว ท่านจะพบว่าสรรพชีวิตล้วนไม่ปกติแล้ว ในเวลาที่สีหน้าท่าทางของท่านแจ่มใสใจกว้าง เปี่ยมด้วยความหวังท่านจะพบว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวก็จะไม่เหมือนกันแล้วในการอธิบายความจริง ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าในการทำงานของพวกท่านเมื่อเกิดความยากลำบากลองปรับใจตนเองใช้เจิ้งเนี่ยนมาใคร่ครวญปัญหาอาจจะได้ผลที่ดีมาก ก็ได้

พร้อมกับการรุดไปข้างหน้าของการเจิ้งฝ่าอย่างต่อเนื่องปรากฏการณ์อย่างนี้จะยิ่งชัดแจ้งยิ่งขึ้น เพราะพลังงานของท่านแรงกล้ายิ่งขึ้นเรื่อยๆพลังของสิ่งชั่วร้ายยิ่งถดถอยลงเรื่อยๆในเวลาที่ใจคนของท่านหนัก และยังมีการรบกวนของสิ่งชั่วร้ายกับองค์ประกอบที่ไม่ดีก็จะปรากฏออกมาว่า พอท่านเข้มแข็งมันก็อ่อนแอพอท่านอ่อนแอมันก็เข้มแข็ง พร้อมกับการรุดหน้าของการเจิ้งฝ่าองค์ประกอบที่ไม่ดีก็ยิ่งอ่อนล้าลงเรื่อยๆเมื่อไม่อาจเปรียบกันได้แล้ว ท่านก็จะปรากฏออกมาเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆในอนาคตดูซิในเวลานั้น ศิษย์ต้าฝ่าก็จะยิ่งปรากฏพลังออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อถึงจุดนี้ก็ถึงจุดสุดท้ายแล้วสุดท้ายของสุดท้ายแล้ว ดังนั้นในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่าช่วยเหลือสรรพชีวิตท่าทีและสภาพความคิดของตนเองวิธีทำงานนี่ล้วนสำคัญมากสามารถกำหนดการเปลี่ยนแปลงบนโลกได้คนๆหนึ่งสามารถกำหนดขอบเขตอันหนึ่งเช่นนั้นศิษย์ต้าฝ่าที่มากมายหนาศิษย์ต้าฝ่ามากมายเช่นนั้น กี่สิบล้านคนพอความคิดนี้ขยับก็ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว

แรกเริ่ม แม้ศิษย์ต้าฝ่าทำให้สังคมจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่มาก ---- เมื่อผู้บำเพ็ญมีมากแล้วคนดี เรื่องที่ดีปรากฏออกมาไม่ขาดสายหนังสือพิมพ์ในพื้นที่ต่างๆก็รายงานข่าวว่าศิษย์ต้าฝ่าแสดงออกอย่างไร ดีอย่างไรวิทยุทีวี ก็รายงานกันบทบาทด้านบวกนี้ทำให้องค์ประกอบด้านลบทะลักออกมาในตรีภูมิก็คือมีการเสริมและต้านซึ่งกันและกันสังคมมนุษย์ไม่ใช่สังคมของเทพมันเป็นสังคมที่ ดีชั่วอยู่คู่กันรวมทั้งตัวของคนๆหนึ่งเองก็ประกอบขึ้นด้วยองค์ประกอบที่ดีและชั่ว 2 ชนิดในเวลาเดียวกันองค์ประกอบของสสารบนโลกทั้งหมดก็ใช่ ธัญพืชห้าชนิดที่ท่านกินก็ล้วนเป็นเช่นนี้ ดังนั้นองค์ประกอบที่ประกอบเป็นตัวท่านก็เป็นสสารของมิตินี้ ในเวลาที่ท่านมีเหตุผลในเวลาที่แสดงออกมาดีงามมากๆท่านก็คือมีจิตพุทธก็คือดีงามในเวลาที่คนไม่มีสติสัมปชัญญะหุนหันพลันแล่นโมโหโกรธากระทั่งขาดเหตุผลนั่นก็คือจิตมารเพียงแต่แสดงออกมาในระดับที่ต่างกันเท่านั้นเองดังนั้น ในการช่วยเหลือสรรพชีวิตของพวกท่านในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าอยู่ในสภาพแวดล้อมของโลกนี้สรรพชีวิตก็มีการแสดงออกเช่นนี้ในขณะที่ท่านอธิบายความจริงก็มุ่งต่อคนที่มีความดีชั่วมากน้อยไม่เท่ากันไม่ว่าจะอย่างไรแม้ว่าโลกจะมีความดีกับความชั่วอยู่คู่กันแต่สังคมมนุษย์จะต้องใช้ความดีงามมาปกปักษ์รักษาไว้แม้ว่ามนุษย์ไม่มีหลักการที่ถูกต้องแต่มันมีสภาวะหนึ่งที่เป็นสากลทุกท่านต่างยอมรับร่วมกันที่จะใช้ความดีงามมาปกปักษ์รักษาดังนั้นในการอธิบายความจริงจึงควรทำอย่างมีสติมีเหตุผลในการอธิบายความจริงของศิษย์ต้าฝ่าต้องทำให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลงต้องสามารถช่วยคนๆนี้ท่านจึงไม่อาจกระตุ้นองค์ประกอบด้านลบของคนจะต้องเมตตาจึงจะสามารถแก้ปัญหาจึงจะช่วยเหลือคนๆนี้ได้

เมื่อก่อนข้าพเจ้าก็เคยพูดกับทุกท่านว่าอะไรคือความเมตตาบางคนพูดว่าท่านมองคนๆนี้แล้วยิ้มกับเขา ท่านก็แสดงออกมาอย่างสุภาพอ่อนโยนมากก็คือความเมตตานั่นเป็นเพียงสภาวะที่เป็นมิตรอย่างหนึ่งที่คนแสดงออกมา ความเมตตาที่แท้จริง คือผู้บำเพ็ญอยู่ในขั้นตอนของการบำเพ็ญ ในขั้นตอนของการบำเพ็ญความเมตตาได้บำเพ็ญความเมตตาที่แท้จริงสำเร็จแล้ว ในเวลาที่อยู่ต่อหน้าสรรพชีวิต เนื่องจากท่านยังมีด้านหนึ่งของคนที่ยังบำเพ็ญไม่สำเร็จดังนั้นท่านไม่อาจทำให้ส่วนที่เป็นเทพ ที่บำเพ็ญสำเร็จแล้วแสดงออกมาทั้งหมดในเวลาที่จำเป็นท่านก็ต้องมีสติสัมปชัญญะ มีสติเหมือนกับผู้บำเพ็ญให้ความรับผิดชอบของตนเองให้เจิ้งเนี่ยนของตนเองมาชี้นำจากนั้นความเมตตาที่แท้จริงของท่านจึงจะสามารถปรากฏออกมาได้นี่คือสิ่งที่ต่างกันระหว่างผู้บำเพ็ญกับเทพนี่คือความเมตตากรุณาเขาไม่ใช่ตั้งใจแสดงออกมาไม่ใช่การแสดงออกของความดีความชั่ว รักชอบของคนไม่ใช่เธอดีต่อฉันแล้วฉันก็แสดงความเมตตาต่อเธอ เขา(ความเมตตา)ไม่อาจตีค่าเป็นราคา ไม่ต้องการค่าตอบแทนเป็นการทำเพื่อสรรพชีวิตทั้งสิ้นดังนั้นเมื่อความเมตตากรุณานี้ออกมาพลังของเขาจึงไร้ที่เปรียบ องค์ประกอบอะไรที่ไม่ดีก็จะสลายสิ้นความเมตตากรุณายิ่งมากพลังนั้นก็จะยิ่งแรงเนื่องจากในอดีตสังคมมนุษย์ไม่มีหลักการที่ถูกต้องดังนั้นคนจึงไม่อาจใช้ความเมตตามาแก้ปัญหาแต่ไหนแต่ไรมาคนล้วนแต่ใช้วิธีการยกทัพไปปราบปรามมาแก้ปัญหาของคน ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นหลักการของคนถ้าคนคิดจะเป็นเทพก้าวออกจากสภาวะของคนนั่นก็ต้องปล่อยวางจิตใจชนิดนี้ต้องใช้ความเมตตากรุณามาแก้ปัญหา

ที่จริงความเมตตากรุณาเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่เป็นพลังงานของเทพที่ถูกต้องยิ่งเมตตา กรุณา พลังงานนี้จะยิ่งใหญ่สิ่งไม่ดีอะไรล้วนสามารถสลายไปนี่เป็นสิ่งที่ในอดีต องค์ศากยมุนีก็ดีผู้บำเพ็ญเหล่านั้นก็ดี ต่างไม่เคยพูดถึงความดีงามที่แสดงออกมายิ่งใหญ่ที่สุดคือความเมตตา กรุณาเขาคือปรากฏการณ์ของพลังงานที่ยิ่งใหญ่เขาสามารถทำให้ทุกสิ่งที่ไม่ถูกต้องสลายไปแน่ละ พลังแห่งความเมตตากรุณาจะเพิ่มขึ้นตามระดับชั้นที่เพิ่มขึ้นดังนั้นเขาจึงกำหนดระดับชั้นที่ใหญ่กับเล็กพลังงานกำหนดระดับชั้นที่สูงต่ำของมรรคผลนี่แน่นอนทีเดียว

สิ่งเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ คือจะบอกทุกท่านว่าในการอธิบายความจริง ช่วยเหลือสรรพชีวิตในขณะนี้สมควรทำให้ดียิ่งขึ้นและจะทำให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไรข้าพเจ้าก็พูดโดยล้อมรอบสิ่งเหล่านี้ฝ่าฮุ่ยครั้งก่อน เนื่องจากได้ตอบคำถามจำนวนหนึ่งให้ทุกท่านแล้วดังนั้นครั้งนี้จึงไม่คิดจะพูดมากพูดมากขึ้นไปอีกก็ล้วนเป็นการอธิบาย “จ้วนฝ่าหลุน”เมื่อพูดมากแล้วการใคร่ครวญของพวกท่านก็จะน้อยลงดังนั้นจึงไม่คิดจะพูดมากหลายปีมานี้ ช่วงเวลาในการบรรยายฝ่าของข้าพเจ้าไม่มากก็ด้วยเหตุนี้ย่อมต้องเหลือไว้ให้พวกท่านบำเพ็ญเอาเองย่อมต้องเหลือไว้ให้พวกท่านก้าวไปสู่ความสุกงอมหากอาจารย์พูดตลอดไปจนถึงท้ายที่สุด ก็ไม่นับเป็นการบำเพ็ญของพวกท่านหากพบกับปัญหาใหญ่ๆข้าพเจ้าจะออกมาพูดหากไม่มีอะไรขวางกั้นเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิตของทุกท่านข้าพเจ้าก็จะไม่ออกมาหากไม่ใช่มีปัญหาโดยทั่วไปของส่วนรวม ข้าพเจ้าก็จะไม่พูดให้พวกท่านเดินเส้นทางของท่านออกมานี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าคิด

ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าพูดแค่นี้ก็แล้วกันฝ่าฮุ่ยของพวกท่านยังต้องดำเนินต่อไปครั้งนี้ก็คือมาพบทุกท่าน ข้าพเจ้าทราบว่ามีหลายคนมาจากประเทศอื่นไกลไม่น้อยเลยมาประชุมฝ่าฮุ่ยเป้าหมายหนึ่งคือเก็บเกี่ยวประสบการณ์เก็บส่วนดีชดเชยส่วนด้อยจากฝ่าฮุ่ยในการบำเพ็ญในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าเรื่องนี้หากสามารถเดินได้ดี ทำให้ตนเองทำได้ดียิ่งขึ้นยังมีอีกหลายๆคนก็อยากมาพบอาจารย์ข้าพเจ้าทราบ(เสียงปรบมือกึกก้อง)ข้าพเจ้าก็อยากพบทุกท่านดังนั้นจึงมาแล้ว (เสียงปรบมือกึกก้อง) เอาละข้าพเจ้าก็พูดเพียงเท่านี้ ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือกึกก้อง)


หมายเหตุจากผู้แปล : บทความนี้จะมีการแก้ไขเพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับภาษาจีนมากที่สุด วันที่แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 เมษายน 2012