(Minghui.org) ท่ามกลางกระแสของการฟ้องร้องเจียง เจ๋อหมิน ฉันได้ยินเรื่องราวของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่เพิ่งฝึกมาประมาณสองปีกว่าคนหนึ่ง เธอบำเพ็ญอยู่ในพุทธศาสนามาประมาณ 30 ปี เนื่องจากเธอประสบกับเคราะห์กรรมและได้ฟื้นกลับคืนมา จนในที่สุดเธอได้เดินเข้าสู่การบำเพ็ญในต้าฝ่า

เธอกำพร้าแม่ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ พ่อจึงต้องเลี้ยงดูเธอและพี่น้องผู้หญิงรวมสามคนด้วยความยากลำบากจนเติบใหญ่ เธอมีสุขภาพไม่ดีนัก จึงมีคนแนะนำให้เธอปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา ซึ่งเธอได้ปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนาเป็นเวลานานเกือบ 30 ปี แม้เธอจะมีการศึกษาไม่สูง แต่เธอก็มีความจำดีมาก เธอสามารถจำคัมภีร์ของศาสนาพุทธได้มากมาย

ตอนแรกที่ปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา สุขภาพของเธอก็ดีขึ้นจริง ๆ แต่จากสังคมที่ตกต่ำทางด้านศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการทำลายการสืบสานวัฒนธรรมที่เทพถ่ายทอดมาด้วยวัฒนธรรมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้คนจึงไม่รู้ว่าอะไรคือการนับถือเทพ อะไรคือการนับถือพระพุทธอย่างแท้จริง ในวัดผู้คนที่แสวงหาความร่ำรวย แสวงหาชื่อเสียงและผลประโยชน์ ได้ชักนำเอาวิญญาณร้ายต่าง ๆ เข้ามามากมาย โรคภัยไข้เจ็บในร่างกายของเธอจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ญาติของเธอที่ฝึกฝ่าหลุนกงคนหนึ่งบอกเธอว่า ในวัดไม่มีเทพ ไม่มีพระพุทธดูแลแล้ว ปัจจุบันนี้มีแต่ต้าฝ่าเท่านั้นที่ช่วยเหลือสรรพชีวิตอยู่ พร้อมกับแนะนำให้เธอฝึกฝ่าหลุนกงที่มีผลในการช่วยยกระดับศีลธรรมและขจัดโรคภัยไข้เจ็บเสริมสร้างสุขภาพอย่างน่าอัศจรรย์ เธอบอกอย่างหวาดกลัวว่า “ฉันไม่ฝึกฝ่าหลุนกง ถ้าฉันถูกจับ ครอบครัวจะต้องระส่ำระสาย” จากนั้นเธอจึงยังคงปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนาต่อไปอีกหลายปี

เวลาผ่านไปจนถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 2013 เธอมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ดื่มน้ำไม่ได้ ทานอาหารไม่ได้ อาการป่วยรุนแรงจนทนไม่ไหว ทำให้เธอต้องไปโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนในเมือง เพื่อรับการรักษา ร่างกายเธอผ่ายผอม เส้นเลือดหดตัว ฉีดยาไม่เข้า แพทย์ในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนว่ากล่าวเธอที่ไม่รีบมารับการรักษา เนื่องจากฉีดยาไม่เข้า และเธอกลืนยาทางปากก็ไม่ได้ แพทย์จึงบอกให้เธอกลับบ้าน เมื่อโรงพยาบาลไม่รับเธอเข้ารักษา เธอจึงไปโรงพยาบาลประชาชน ซึ่งก็ถูกปฏิเสธเข้ารับการรักษาเช่นเดิม เธอจึงจำต้องกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำบลใกล้บ้าน

ที่โรงพยาบาลตำบล เธอเห็นตัวทากไต่อยู่ทั่วร่างกาย เธอใช้แขนขวาปัดตัวทากที่ยาวสี่นิ้วออกจากแขนซ้าย แล้วสะบัดลงไปที่พื้น แขนซ้ายของเธอถูกกัดจนเลือดไหล เธอได้ยินเสียงคนบรรยายธรรมให้เธอฟังเป็นเวลาสามคืนโดยที่ผู้ป่วยคนอื่นในห้องเดียวกันนั้นไม่มีใครได้ยินเลย เธอรู้ว่าการอยู่โรงพยาบาลต่อไปก็จะเสียเงินเปล่าเพราะฉีดยาไม่เข้า กินยาก็ไม่ได้ เธอจึงขอออกจากโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลไม่ให้เธอออก เธอจึงหนีออกจากโรงพยาบาลโดยพลการ แล้วกลับไปบ้านตัวเอง

ที่บ้าน เธอเห็นหมูขาวแออัดอยู่เต็มบ้านทั้งชั้นบนและชั้นล่าง หมูบางตัวตกลงไปในท่อน้ำกำลังปีนป่ายขึ้นมาตามท่อน้ำ เธอรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งไม่ดีในมิติอื่น แต่จนปัญญา ไม่รู้จะจัดการอย่างไร คนในหมู่บ้านมาเตือนว่า “เธอป่วยขนาดนี้ รีบไปเรียกให้ญาติกลับมา ไม่เช่นนั้น ถ้าเกิดอะไรขี้นจะไม่มีใครช่วยเก็บศพ” ในเวลานั้น ลูกชายคนโตและลูกสะใภ้ไม่อยู่บ้าน สามีก็ไปช่วยลูกชายคนรองเลี้ยงหลาน

ในขณะที่สิ้นหวัง เธอบังเอิญได้อ่านเอกสารอธิบายความจริงฉบับหนึ่งของฝ่าหลุนกง นัยน์ตาของเธอสว่างขึ้นในทันใด คำพยากรณ์ในคัมภีร์ของพุทธศาสนาปรากฏอยู่ในเอกสารอธิบายความจริงนั้น เช่น เมื่อดอกโยวถังฝอหลัวฮวาปรากฏให้เห็นในรอบสามพันปี นั่นคือช่วงเวลาที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ฝ่าหลุนลงมาช่วยเหลือมนุษย์โลก หลายปีก่อนเพราะกลัวถูกเจียงเจ๋อหมินประทุษร้าย เธอจึงพลาดโอกาสที่จะได้ฝ่า จนทำให้เจ็บหนัก โรงพยาบาลรักษาไม่ได้ ได้แต่นอนรอความตาย เวลานี้โชคดีได้พบกับท่าน ขอให้ท่านได้โปรดรับฉัน ผู้เข้ามาช้าคนนี้เป็นศิษย์

พอเธอส่งคำอธิษฐานในใจออกไป อาจารย์ก็ชำระร่างกายให้เธอ ในเวลากลางคืนเธอได้ยินเสียงของฝ่าหลุนหมุนอยู่ที่ใบหูทั้งสองข้างของเธอ อาจารย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่าชำระร่างกายของเธอเสร็จสิ้นในเวลาสองวันครึ่ง

หลังจากนั้นก็ได้ปรากฏปาฏิหาริย์ เธอสามารถรับประทานอาหารได้ชามใหญ่ ๆ ร่างกายฟื้นฟูเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เธอไปหาญาติที่เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกง คนที่เคยแนะนำให้เธอฝึกเมื่อหลายปีก่อน เธอขอฝึกฝ่าหลุนกงทันที ญาติผู้นี้ให้แผ่นวีดิทัศน์บรรยายฝ่าของอาจารย์ให้เธอดู เธอมองดูอาจารย์อย่างตื่นเต้น รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงของอาจารย์ เธอจำได้ว่าเป็นเสียงของอาจารย์ที่บรรยายฝ่าให้เธอฟังในโรงพยาบาลนั่นเอง เธอบอกกับตัวเองในใจโดยไม่ลังเลว่า นี่ก็คืออาจารย์ที่ฉันต้องการหาอย่างแท้จริง เธอโชคดีที่เดินเข้ามาสู่การบำเพ็ญในต้าฝ่า

เธอกลับไปที่โรงพยาบาลตำบลเพื่อเดินเรื่องการออกจากโรงพยาบาล หมอต่างพากันแปลกใจและถามเธอว่าฟื้นฟูสุขภาพอย่างน่าอัศจรรย์ได้อย่างไร เธอบอกว่าเป็นอาจารย์ของต้าฝ่าที่ช่วยชีวิตเธอ คนชราในหมู่บ้านก็ได้ประจักษ์ถึงปาฏิหาริย์ในตัวเธอ หลังจากนั้นเธอก็จะบอกกล่าวกับผู้คนที่พบเจอว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นฝ่าที่ถูกต้องเที่ยงธรรม ผู้บริหารที่ใจดีในหมู่บ้านบอกเธอว่า เธอพูดกับพวกเรา พวกเราเชื่อ แต่ต้องระมัดระวังความปลอดภัย ระวังอย่าให้ถูกตำรวจจับ เธอตอบว่าต้าฝ่าช่วยชีวิตฉัน ถ้าฉันไม่ยืนยันความถูกต้องว่าต้าฝ่าดี เช่นนั้นฉันมิกลายเป็นคนที่ไม่มีจิตสำนึกหรือ

เพื่อนในพุทธศาสนาถามเธออย่างไม่เข้าใจ เธอปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนาเป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว ทำไมจึงเปลี่ยนไปบำเพ็ญฝ่าหลุนกงในทันทีทันใดได้ล่ะ เธอตอบว่า พวกคุณไปอ่านคัมภีร์พระพุทธให้จริง ๆ จัง ๆ อีกครั้ง ฝ่าหลุนกงนั้นคือพระพุทธลงมาช่วยเหลือคน ฉันถูกโรงพยาบาลปฏิเสธไม่รับรักษา เป็นอาจารย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่าที่ช่วยชีวิตฉันไว้ ประสบการณ์ของการเกิดใหม่หลังจากหมดหนทางที่ฉันประสบกับตัวเองก็คือประจักษ์พยานที่มีน้ำหนักมากที่สุด

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ลูกชายคนรองโทรศัพท์มาบอกเธอว่าพ่อป่วยหนัก มีซีสต์ที่หลอดเลือดกล้ามเนื้อหัวใจ หายใจลำบาก เพียงตรวจร่างกายก็เสียค่าใช้จ่ายไป 4 หมื่นหยวน หมอบอกว่าต้องทำการผ่าตัดทันที และต้องใช้เงิน 120,000 – 140,000 หยวน ลูกชายบอกให้เธอรีบเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นเพื่อดูแลพ่อ หลังจากเธอไปถึงอู่ฮั่น ก็พบว่าสามีป่วยหนักมาก แพทย์จึงเสนอให้ย้ายสามีออกไปรักษาที่โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านทรวงอก โรงพยาบาลทหารมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ที่สอง เมืองซีอาน หลังจากตรวจอาการแล้ว แม้โรงพยาบาลจะรับสามีของเธอเข้ารักษา ก็ยังต้องรอ 9 วัน จึงจะได้คิวเข้ารับการผ่าตัด

เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของสามี เธอจึงบอกกับสามีว่า “มีแต่ต้องขอให้อาจารย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่าช่วยคุณเท่านั้น อาการของคุณรอได้ไม่ถึง 9 วัน” สามีถามว่าจะขออย่างไร เธอบอกว่า “คุณต้องท่อง ‘ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี เจิน ซั่น เหยิ่นดี’ อย่างจริงใจ เป็นอันใช้ได้” สามีถามเธออย่างสงสัยไม่เชื่อ “ถ้าท่อง ‘ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี เจิน ซั่น เหยิ่นดี’ โรคก็หาย อย่างนั้นก็ไม่ต้องเปิดโรงพยาบาลแล้วซิ” เธอบอกสามีว่า พวกคุณไม่เข้าใจฝ่าหลุนกงจึงพูดอย่างนี้ คุณดูฉันซิ ฉันรอความตายอยู่ที่บ้าน อาจารย์ก็ได้ช่วยชีวิตฉัน นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม สามีบอกว่า ดูจากตัวเธอก็เป็นเรื่องจริง เช่นนั้นฉันก็จะขอให้อาจารย์ช่วยฉันด้วย สามีของเธอจึงท่อง ‘ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี เจิน ซั่น เหยิ่นดี’ ทุกวัน

ผลปรากฏว่าสามีผ่าน 9 วันไปได้อย่างราบรื่น เมื่อเข้าไปในห้องผ่าตัด ก่อนลงมือผ่าตัดหมอตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ปรากฏว่าน้ำตาลในเลือดไม่มีแล้ว ตรวจหัวใจ ซีสต์ก็หายไปแล้ว หมอตกตะลึงและร้องตระโกน “โชคดี โชคดีอะไรอย่างนี้ ในหมื่นคนก็ยังไม่เคยพบเจอกรณีเช่นคุณมาก่อน” พร้อมกับบอกให้สามีของเธอมาตรวจอีกครั้งในสามเดือนข้างหน้า ที่ผ่านมาเพียงแค่ตรวจร่างกายก็ต้องจ่ายเงินไป 4 หมื่นหยวน เวลานี้สามีร่างกายดีแล้ว สามีของเธอจึงไม่คิดจะตรวจซ้ำให้เสียเงินอีก

ผู้ฝึกใหม่ที่เพิ่งฝึกมาได้สองปีกว่าคนนี้พูดอย่างสะท้อนใจว่า อาจารย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่าช่วยชีวิตเธอและสามี ข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ชัดแจ้งเป็นสิ่งยืนยันแล้ว ฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นหลักธรรมใหญ่ คุณธรรมสูงส่งที่มีคุณอนันต์ต่อมนุษยชาติ นายเจียง เจ๋อหมินกลับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือใส่ร้ายป้ายสีประทุษร้ายฝ่าหลุนกง เป็นหัวโจกที่สร้างภัยพิบัติต่อประเทศชาติและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน สมควรต้องถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย หวังว่าประชาชนรวมทั้งผู้ที่นับถือศาสนาอื่นที่ถูกคำโกหกหลอกลวงจนถอนตัวไม่ขึ้นนั้นจะเข้าใจต้าฝ่าให้ถูกต้อง ขออย่าได้พลาดโอกาสที่ดีที่จะได้รับการช่วยเหลือ