(Minghui.org) วันนี้เป็นวันครบรอบปีที่ 19 ของ “การทักท้วงในวันที่ 25 เมษายน”ซึ่งเป็นวันสำคัญสำหรับผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

แม้เวลาจะผ่านไป 19 ปีแล้ว ฉันยังคงน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงวันที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์สำคัญวันนั้น ผู้ฝึกกว่า 10,000 คน มีส่วนร่วมในการสร้างประวัติศาสตร์

ฉันเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ฝึกที่เดินทางจากพื้นที่ของเราไปกรุงปักกิ่งเพื่อทักท้วงในวันนั้น ผู้ฝึกบางคนในกลุ่มของเราเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังจากถูกประทุษร้าย ผู้ฝึกจำนวนหนึ่งหยุดฝึกเพราะแรงกดดันและถูกรังควานอย่างหนัก แต่กลุ่มของเราที่ไปปักกิ่งในวันนั้นส่วนใหญ่ยังคงบำเพ็ญต่ออย่างแน่วแน่ และทำให้คำสัญญาก่อนประวัติศาสตร์ที่จะช่วยเหลือผู้คนของพวกเขาสำเร็จ

ในวันที่ 23 และ 24 เมษายน 1999 มีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธกว่า 300 นาย จากกรมตำรวจเมืองเทียนจินจับกุมผู้ฝึกที่มารวมตัวกันเพื่อคัดค้านบทความในนิตยสาร ผู้ฝึกจำนวนนับไม่ถ้วนถูกจับกุมในช่วงสองวันนั้น และหลายคนถูกทุบตีและได้รับบาดเจ็บ

ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ากว่า 10,000 คน จากกรุงปักกิ่ง เทศบาลนครเทียนจิน และมณฑลเหอเป่ย์ แสวงหาการใส่ใจในความไม่ยุติธรรมครั้งนี้โดยมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องขอความยุติธรรมกับกรมอุทธรณ์ของรัฐในทำเนียบรัฐบาลกลางจงหนานไห่ในรุ่งขึ้น คือวันที่ 25 เมษายน เมื่อฉันไปถึงถนนฟู่โหยว (ใกล้ตัวอาคาร) เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายยืนเรียงแถวกลางถนน โดยมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ทุก 100 ฟุต

หลายคนยืนอยู่ข้างถนนด้านตะวันตกของถนน ตำรวจนำกลุ่มผู้ฝึกของเราไปรวมกับกลุ่มที่ยืนอยู่ข้างถนนด้านทิศตะวันตกเหล่านั้น กำแพงยาวสีแดงของทำเนียบรัฐบาลกลางจงหนานไห่ปรากฏขึ้นลาง ๆ ด้านหลังของเรา เราเปิดทางเพื่อให้คนที่เดินบนถนนเดินผ่านได้

จากนั้นนายกรัฐมนตรี จู หรงจี มาพบกับตัวแทนของผู้ฝึกที่มาอุทธรณ์ และมีคำสั่งให้หัวหน้าสำนักงานของรัฐทำตามที่พวกเขาขอ ดังต่อไปนี้

1. ปล่อยผู้ฝึกเทียนจินที่ถูกจับกุม

2. ให้สิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็นปรปักษ์แก่ผู้ฝึกได้ฝึก

3. อนุญาตให้ตีพิมพ์หนังสือฝ่าหลุนต้าฝ่า

มีคนเข้ามาในตอนบ่ายพร้อมเอกสารที่พิมพ์หนังสือแจ้งให้พวกเรากลับ พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้รับหนังสือนั้น รวมทั้งฉันด้วย พวกเราทุกคนยังอยู่ที่นั่นอย่างสงบและเงียบ เพื่อส่งข้อความด้วยการอยู่ที่นั่นอย่างสงบ

เวลาประมาณ 21:00 น. มีการส่งข้อความด้วยวาจาให้ผู้ฝึกว่าเรื่องนี้ได้รับการแก้ไขเบื้องต้นแล้ว ให้พวกเรากลับได้แล้ว ผู้ฝึกทั้งหมด 10,000 คน จึงกลับอย่างเงียบ ๆ

ผลที่ตามมา

หลิว ฮุ่ยหมิน ร้อยโทจากกองพัน 65 ของเขตทหารปักกิ่งมาเข้าร่วมการอุทธรณ์โดยสวมเครื่องแบบของเขาด้วย ตามรายงานของหมิงฮุ่ย หลิวได้รับสิ่งดี ๆ มากมายจากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมการฝึกที่ดีเช่นนี้จึงถูกประทุษร้าย

หลิวตัดสินใจใส่เครื่องแบบชุดใหม่ของเขาไปร้องเรียนที่รัฐบาลกลางอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน เขาต้องการให้รัฐบาลรู้ว่าประชาชนจากทุกสาขาอาชีพฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

เนื่องจากหลิวเข้าร่วมร้องเรียน เขาจึงถูกบังคับให้ออกจากกองทัพในเดือนตุลาคม 1999 เขาและครอบครัวถูกพาตัวกลับไปยังบ้านเกิด เขาต้องอดทนกับการถูกรังควานหลายปี

หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดอำนาจ ก็ได้มีการรณรงค์ทางการเมืองหลายครั้ง ส่งผลให้ประชาชนจีนเสียชีวิตนับล้านคน ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงหลายพันคนไม่ยอมละทิ้งความเชื่อ จึงต้องอดทนต่อความกดดันจากสังคม จากนายจ้าง และจากครอบครัวของตน พวกเขาก้าวออกมาอุทธรณ์ต่อรัฐบาลอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน นี่คือการแสดงออกถึงความเมตตาและความอดทนที่ยิ่งใหญ่

แม้ผู้ฝึกสูงอายุหลายคนจะผ่านประสบการณ์ “การปฏิวัติวัฒนธรรม” และ “การสังหารหมู่ที่เทียนอันเหมินในวันที่ 4 มิถุนายน” และเข้าใจธาตุแท้ที่ชั่วร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นอย่างดี พวกเขาก็ยังคงเข้าร่วมการทักท้วงอย่างสงบในครั้งนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ถึงความเสี่ยงที่จะโดนพรรคคอมมิวนิสต์จีนแก้แค้น

ในขณะนี้ประชาชนชาวจีนมากกว่า 300 ล้านคน ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว จุดจบของพรรคกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วแล้ว

หลังจากผ่านมา 19 ปี การประทุษร้ายยากจะคงอยู่แล้ว ผู้ที่เป็นเป้าสายตาของสาธารณชนหลายคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบให้ดำเนินการประทุษร้าย เช่น โจว หย่งคัง, ป๋อ ซีไหล, หลี่ ตงเฉิง, โจว เป๋นชุน และจางยู ถูกจำคุกเรียบร้อยแล้ว ในไม่ช้า เจียง เจ๋อหมิน, หลัว กัง และเจิง ชิงหง จะต้องถูกจับกุมและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยเช่นกัน

“เหตุการณ์ 25 เมษายน” เป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ ความจริง-ความเมตตา-ความอดทน อยู่ฝั่งตรงข้ามกับหลักการทำลายล้างและเป็นอันตรายถึงตายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างชัดเจน ผลกระทบของมันจะสั่นสะเทือนไปทั่วประเทศจีนและแพร่ไปทั่วโลก