(Minghui.org) เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และออสเตรเลีย ได้ยื่นรายชื่อผู้ที่เข้าร่วมการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในประเทศจีนฉบับเดียวกันให้รัฐบาลในประเทศของพวกเขา ผู้ฝึกขอร้องให้รัฐบาลปฏิเสธวีซ่าและระงับการดำเนินการทางทรัพย์สินของผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้

แม้ผู้ฝึกในประเทศต่าง ๆ จะเคยยื่นรายชื่อที่คล้ายกันให้รัฐบาลของพวกเขามาก่อน แต่การยื่นครั้งล่าสุดนี้ไม่เคยมีมาก่อนตรงที่รายชื่อใหม่เอี่ยมนี้ได้ยื่นไปที่รัฐบาลของ 4 ประเทศ พร้อมกัน

ก้าวต่อไปคือผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจะทำงานร่วมกับรัฐบาลของประเทศทางตะวันตกมากขึ้น แต่ละครั้งที่มีการรวบรวมรายชื่อของผู้ประทุษร้ายใหม่ รายชื่อเหล่านี้จะถูกส่งไปยังรัฐบาลหลายแห่งพร้อมกัน เพื่อให้ผู้ประทุษร้ายและสมาชิกในครอบครัวหาที่หลบภัยให้ตัวเองและทรัพย์สินยากยิ่งขึ้น

ชาติตะวันตกจำนวนมากมีความเข้าใจที่เหมือนกันว่า จะต้องปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน รวมถึงสิทธิในอิสรภาพแห่งความเชื่อ กฎหมายมีขึ้นเพื่อป้องกันผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการใช้ประเทศเหล่านี้เป็นที่หลบภัย เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งจากกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาพูดก่อนหน้านี้ในปีนี้ว่า 28 ประเทศ ได้ผ่านกฎหมายหรือมีแผนที่จะประกาศใช้กฎหมายที่คล้าย ๆ กับกฎหมายแม็กนิตสกีของสหรัฐ (U.S. Global Magnitsky Act) กฎหมายลักษณะนี้จะยอมให้รัฐบาลลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลต่างประเทศที่ทำผิดทางด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการปฏิเสธการเข้าเมืองและการระงับการดำเนินการทั้งทางด้านทรัพย์สินและด้านธุรกรรมการเงิน

เดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในประเทศแคนาดาได้ยื่นรายชื่อผู้ประทุษร้ายที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงให้กับรัฐบาลแคนาดาตามหลักกฎหมายแมกนิตสกี เพื่อขอให้ปฏิเสธวีซ่าและระงับธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของพวกเขาในแคนาดา ในเดือนกรกฎาคม 2019 ผู้ฝึกในสหรัฐอเมริกายื่นรายชื่อของพวกเขา (รวมทั้งผู้ประทุษร้ายจากหลายหลายพื้นที่ หลายอาชีพ และหลายระดับในรัฐบาล) ต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เพื่อขอให้ปฏิเสธวีซ่าของพวกเขา หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ฝึกในแคนาดาและออสเตรเลียได้ส่งรายชื่อผู้ประทุษร้ายให้กับรัฐบาลของพวกเขาเพื่อสะกัดกั้นคนเหล่านี้ไม่ให้เข้าประเทศ

เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐพูดว่า หลักฐานเกี่ยวกับผู้ประทุษร้ายที่ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงส่งให้ในเดือนกรกฎาคม 2019 น่าเชื่อถือและจัดรูปแบบได้ดี และดีที่สุดในหมู่รายชื่อที่กลุ่มศาสนาที่ถูกประทุษร้ายยื่นมา และเขาเต็มใจที่จะรับรายชื่อที่จะส่งเพิ่มเติมเข้ามา เขายังชี้ให้เห็นว่าไม่นานมานี้คนจีนจำนวนมากถูกปฏิเสธวีซ่าจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนเนื่องจากมีส่วนร่วมในการปราบปรามฝ่าหลุนกง

เมื่อรัฐบาลอังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย ได้รับรายชื่อล่าสุด พวกเขายืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเหมาะสม

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจะรวบรวมรายชื่อผู้ประทุษร้ายต่อไปและจะยื่นให้รัฐบาลหลาย ๆ แห่งพร้อมกัน เพื่อให้ผู้ประทุษร้ายเหล่านี้และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขารับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาทำ นอกจากการขอให้ปฏิเสธวีซ่าและระงับธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินแล้ว ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงยังจะรายงานผู้ประทุษร้ายที่อยู่ต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว (เช่น ในสหรัฐอเมริกา) ให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา และ/หรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่เดียวกันในประเทศอื่นเพื่อขอให้เนรเทศพวกเขาออกนอกประเทศ

เราเร่งรัดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในประเทศจีนหยุดทำร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในทันที เราสนับสนุนให้พวกเขาบันทึกและรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทำโดยผู้ที่ปฏิเสธที่จะหยุดมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง

สิ่งที่แนบมาด้วย :

รายชื่อล่าสุดที่ยื่นให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และออสเตรเลีย ครอบคลุมผู้ประทุษร้ายจากหลากหลายพื้นที่ อาชีพ และระดับชั้นของรัฐบาล ที่มีส่วนร่วมในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง

รายชื่อต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้กระทำผิดหลักส่วนหนึ่ง

1. เจียง เจ๋อหมิน (江泽民)

เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (กรกฎาคม 1989 - พฤศจิกายน 2002) ประธานคณะกรรมาธิการทหาร (1989 – 2004) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน (1993 – 2003)

ในฐานะผู้ออกแบบการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง เจียง เจ๋อหมิน กระทำการโดยส่วนตัวตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ วางแผน จัดระบบ สั่งการ และดำเนินการประทุษร้ายและก่ออาชญากรรมต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกงนับล้าน ๆ คน ในประเทศจีนเริ่มตั้งแต่ปี 1999 เขาก่อตั้งการปราบปรามอย่างรุนแรง ไม่ใช่ด้วยโปรแกรมการบังคับใช้ตามกฎหมายภายในบริบทของกฎหมายอาญาหรือไม่ใช่กระบวนการทางกฎหมาย แต่เป็นการรณรงค์ทางการเมืองนอกกฎหมายที่ใช้พรรคคอมมิวนิสต์เป็นหลัก - ไม่ใช่รัฐ – ทั้งด้านบุคลากรและทรัพยากร ที่ส่งผลในการทรมาน สังหาร และปล้นอวัยวะผู้ฝึกฝ่าหลุนกง

การประทุษร้ายฝ่าหลุนกงเป็นการตัดสินใจโดยส่วนตัวของอดีตผู้นำจีน เจียง เจ๋อหมิน เขาสั่งการให้คณะกรรมการกลางพรรคทำตามการตัดสินใจของเขาโดยให้ก่อตั้งองค์การพรรคคอมมิวนิสต์นอกกฎหมาย “สำนักงาน 610” เพื่อบริหารและดำเนินการตามนโยบายการประทุษร้ายของเขา “สำนักงาน 610” ได้ก่อตั้งขึ้นภายใต้การออกคำสั่งโดยตรงของเจียง “สำนักงาน 610” คือระบบการบัญชาการของเจียงอย่างแท้จริง และเป็นฐานส่วนตัวในการสั่งการและควบคุมการรณรงค์การประทุษร้าย

2. หลัว กั้น (罗干)

หลัวกั้นรับผิดชอบและร่วมกระทำผิดในการสังหารนอกกฎหมาย ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนที่นานาชาติยอมรับอย่างต่ำช้าต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกง โดยใช้ตำแหน่งหลักคือ รองเลขาธิการของเลขาธิการคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย (Political and Legal Affairs Committee, PLAC) ของรองหัวหน้าคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายของ “ทีมผู้นำในการจัดการปัญหาฝ่าหลุนกง” ของหัวหน้าคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party Central Committee, CCPCC) ของ “ทีมผู้นำในการจัดการปัญหาฝ่าหลุนกง” ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน

3. หลิว จิง (刘京)

หลิวจิงรับผิดชอบการสังหารนอกกฎหมาย ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนที่นานาชาติยอมรับอย่างต่ำช้าต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกง โดยใช้ตำแหน่งหลักคือ :

รองผู้อำนวยการสำนักงานกลาง 610 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 1999 ถึงเดือนสิงหาคม 2001 ; ผู้อำนวยการสำนักงานกลาง 610 ตั้งแต่เดือนกันยายน 2001 ถึงเดือนตุลาคม 2009

4. โจว หย่งคัง (周永康)

ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจ โจว หย่งคัง รับผิดชอบต่อการประทุษร้ายที่ดำเนินการโดยกระทรวงตำรวจ เขายังรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่ทำโดยระบบกฎหมายของจีนทั้งหมดเนื่องจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุมระบบนี้ผ่านทางคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย ทีมผู้นำในการจัดการปัญหาฝ่าหลุนกงและสำนักงาน 610 เป็นองค์กรบริหารที่ประสานงานการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง

โจว หย่งคัง ควรรับผิดชอบเต็มที่กับการประทุษร้ายทั้งหมดที่กระทำโดยระบบกฎหมายของจีนตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2007 จนถึงวันเกษียณของเขาในปี 2012 เนื่องจากเขาเป็นเลขาธิการของคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย และเป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้นำที่กล่าวถึงข้างต้นของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการการเมืองและกฎหมายส่วนกลางควบคุมกระทรวงตำรวจ ศาลประชาชนสูงสุด อัยการประชาชนสูงสุด กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงความปลอดภัยแห่งชาติ กลุ่มผู้นำมีบทบาทสำคัญในระบบของลูกโซ่คำสั่ง ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกงโดยเฉพาะ

5. หลี่ หลันชิง (李岚清)

หลี่ หลันชิง วางแผนคิด ร่วมกันคิดอุบาย ปลุกปั่น ริเริ่ม สั่งการ ประสานงาน กำกับ มอบอำนาจ ควบคุม อำนวยการ ตรวจสอบ และบังคับบัญชา การปล้นเอาอวัยวะคนขณะมีชีวิต สังหารนอกกฎหมาย ลักพาตัว บีบบังคับให้หายสาบสูญ กักขังหมู่ตามอำเภอใจ ปล้น ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่ำช้าต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกงตั้งแต่ปี 1999 ถึง 2002 โดยใช้ตำแหน่งหลักของเขาในฐานะหัวหน้าของ“กลุ่มผู้นำกลางของกลุ่มผู้นำในการจัดการปัญหาฝ่าหลุนกง” (ในรายงานนี้จะเรียกว่า “กลุ่มผู้นำ”) ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลางประจำกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์

6. ป่อ ซีไหล (薄熙来)

ป่อ ซีไหล เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง และในที่สุดเป็นผู้ร่วมกระทำอาชญากรรมอย่างกระตือรือร้นในการผลักดันนโยบายขุดรากถอนโคนฝ่าหลุนกงในเขตของเขาคือเทศบาลนครฉงชิ่ง

ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำ ทั้งมณฑลเหลียวหนิงและเทศบาลนครฉงชิ่งรายงานการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่เลวร้ายที่สุด ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกจำคุกและทรมานจำนวนมาก หลายคนถูกทำให้พิการถาวรหรือถูกฆ่าขณะถูกคุมขังและถูกทรมาน ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนมากถูกรวบรวมตัวอย่างผิดกฎหมายและถูกบังคับให้เข้าสถานที่เปลี่ยนแปลงเพื่อล้างสมอง

จากข้อมูลที่หาได้ ระหว่างที่ป่อ ซีไหล ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของต้าเหลียน มีรายงานว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกทรมานจนตาย 15 คน ระหว่างที่ป่อ ซีไหล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลเหลียวหนิง มีรายงานว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกทรมานจนตาย 103 คน - จำนวนนี้เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ ในปี 2007 เมื่อป่อ ซีไหล ย้ายไปฉงชิ่ง มีรายงานผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกทรมานจนตายประมาณ 20 คน

ภายใต้คำสั่งและนโยบายของป่อ ซีไหล ค่ายบังคับใช้แรงงานและคุก เช่น ค่ายบังคับใช้แรงงานมาซานเจีย คุกต้าเปย ค่ายบังคับใช้แรงงานจางซี ค่ายบังคับใช้แรงงานลองซาน ค่ายบังคับใช้แรงงานต้าเหลียนทำให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกทรมานด้วยวิธีที่ทำให้เจ็บปวดอย่างที่สุดและเป็นขั้นสุดยอดของการพัฒนา ซึ่งต่อมาถูกใช้เป็นแบบอย่างในการใช้อำนาจตัดสินคดีอื่น ๆ

การสังหารผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในวงกว้างโดยใช้วิธีปล้นอวัยวะก็ดูเหมือนจะเริ่มที่มณฑลเหลียวหนิงภายใต้การนำของป่อ ซีไหล รายงานแรกสุดของการปล้นอวัยวะและการขายศพมนุษย์เป็นอุตสาหกรรมเกิดขึ้นที่เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ในขณะที่ป่อ ซีไหล เป็นนายกเทศมนตรี มีการบกบ่องว่าการปล้นอวัยวะพบมากที่สุดในมณฑลเหลียวหนิง

7. อู๋ กวันเจิ้ง (吴官正)

อู๋ กวันเจิ้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคระดับมณฑลของมณฑลซานตงในช่วงปี 1997 - 2002 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งทางการเมืองที่สูงที่สุดในระดับมณฑล เมื่อการรณรงค์ขุดรากถอนโคนฝ่าหลุนกงเริ่มขึ้นในปี 1999 อู๋ กวันเจิ้งเป็นผู้นำมณฑลในการรณรงค์ที่ชั่วร้ายเลวทรามเกี่ยวกับการทรมาน คุมขัง สังหารนอกกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่ำช้าต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกง

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงทุกข์ทรมานจากการทรมานที่น่ากลัวและเสียชีวิตอย่างสยดสยองภายใต้ความรับผิดชอบของอู๋ ตามที่มีการแถลงในหมิงฮุ่ย “ระหว่างปี 1997 และ 2002 เมื่อ อู๋ กวันเจิ้งได้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของมณฑลซานตง มณฑลซานตงก็กลายเป็นหนึ่งในมณฑลที่ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกประทุษร้ายมากที่สุด” หมิงฮุ่ยมีเอกสารยืนยันผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ถูกทรมานหรือถูกประทุษร้ายจนตายในมณฑลซานตงจนถึงเดือนธันวาคม 2013 จำนวน 96 ราย การสังหารนอกกฎหมายส่วนใหญ่เกิดภายใต้คำสั่งและการควบคุมของอู๋ กวันเจิ้งเขาจึงต้องรับผิดชอบ

8. หลี่ ตงเซิง (李东生)

การรณรงค์ขุดรากถอนโคนฝ่าหลุนกงในความนึกคิดของระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์จีนมี 2 แง่มุมกว้าง ๆ - การฆ่าและทรมานทางร่างกายและการทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นผิดไป การฆ่าและทรมานทางร่างกายทำโดยสถาบันบีบบังคับ ของรัฐ โดยเริ่มด้วยการนำของอดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานกลาง 610 หลิวจิงการทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงผิดไปนั้นดำเนินการโดยตัวแทนสื่อ หน่วยงาน และองค์กรประโคมข่าวเท็จ ที่นำโดย หลี่ ตงเซิงซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการของสำนักงานกลาง 610 อีกคนหนึ่ง อาชญากรรมและการกระทำผิดที่ หลี่ ตงเซิงทำต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าการประโคมข่าวเท็จตั้งแต่ปี 1999 ถึงปี 2009 เป็นเนื้อหาหลักของรายงานฉบับนี้

ในปี 2009 หลี่ ตงเซิงได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้อำนวยการของสำนักงานกลาง 610 และรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจของจีนและมีอำนาจควบคุมเครื่องมือประทุษร้ายทั้งหมด รวมทั้งการประโคมข่าวเท็จและความมั่นคงสาธารณะ ในการนัดหมายใหม่ ๆ ของ หลี่ ตงเซิงมีการแวะเยี่ยมเมืองต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและกระชับงานความมั่นคง นี่คือการใช้ภาษาที่สุภาพนุ่มนวลสำหรับการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง การแวะเยี่ยมเมืองของเขาจะตามมาด้วยการเพิ่มระดับการทรมาน คุมขัง และบังคับให้เปลี่ยนแปลง ของผู้ฝึกฝ่าหลุนงในเมืองเหล่านี้

อาชีพทางการเมือง หลี่ ตงเซิงจบลงในปี 2013 เมื่อเขาถูกสืบสวนเกี่ยวกับ “การละเมิดระเบียบและกฎของพรรคอย่างร้ายแรง” อย่างไรก็ตาม หลี่ ตงเซิงไม่เคยถูกสืบสวน ลงโทษ หรือรับผิดชอบต่อบทบาทของเขาในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง

9. เฉียง เว่ย (强卫)

เฉียงเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสั่งการ กำกับ และมอบอำนาจให้ละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก รวมทั้งการสังหารนอกกฎหมายและการทรมานในปักกิ่ง มณฑลชิงไห่ และมณฑลเจียงซีเขาสั่งการ ยุยง และปลุกระดมตำรวจ ผู้คุมคุก และบุคลากรอื่น ๆ ให้กระทำการรุนแรงต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกง

เพื่อกำหนดบทลงโทษเฉียงที่ทำการละเมิดอย่างร้ายแรง รัฐบาลของเราจะเปิดเผย และให้ผู้ที่รับผิดชอบต่อการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงอย่างต่อเนื่องของระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์มารับผิดชอบ การสังหาร ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ต่อฝ่าหลุนกงต้องหยุด

10. หวัง ลี่จวิน (王立军)

หวัง ลี่จวินคือโยเซ็ฟ เม็งเงอเลอ ของจีน การที่เขาดำรงตำแหน่ง 2 ส่วน คือหัวหน้าตำรวจและนักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ เขาจึงนำการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงและโดยส่วนตัวได้ทำการทดสอบที่ทำให้ถึงตายและทำการทดลองทางการแพทย์กับผู้ถูกคุมขัง

หลักฐานชี้ให้เห็นว่าการทดสอบและการทดลองของเขาที่ทำภายใต้ข้ออ้างว่าเพื่อความก้าวหน้าทางการแพทย์ นำมาซึ่งการทรมานและสังหารนอกกฎหมายเหยื่อนับพันคนซึ่งรวมผู้ฝึกฝ่าหลุนกงด้วย

11. จาง เชายิง (张超英)

เดือนพฤษภาคม 2003 ถึงเดือนเมษายน 2013 (อาจจะหลังจากนั้น) : ผู้อำนวยการของสำนักงานบังคับใช้แรงงานมณฑลเหลียวหนิง (ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สำนักงานบริหารยาของมณฑลเหลียวหนิง) เดือนกรกฎาคม 1999 (อาจจะก่อนหน้านั้น) ถึงเดือนเมษายน 2003 : ผู้อำนวยการของค่ายบังคับใช้แรงงานมาซานเจีย เลขาธิการพรรค

จาง เชายิงเป็นผู้อำนวยการของค่ายบังคับใช้แรงงานมาซานเจีย เขารับผิดชอบต่อกิจกรรมทุกชนิดที่ใช้ในการทรมานและสังหารที่เกิดขึ้นที่มาซานเจีย รวมทั้งกองหญิงที่ 2 แห่งมาซานเจีย ซึ่งต่อมารวมเข้ากับกองหญิงที่ 1 เป็นค่ายแรงงานหญิงมาซานเจีย ในปี 2003 จาง เชายิงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานบังคับใช้แรงงานของมณฑลเหลียวหนิง เขาเป็นผู้ควบคุมค่ายแรงงานทั้งหมดในมณฑลเหลียวหนิง

12. เจี่ย ชุนวั่ง (贾春旺)

ปี 1998 – 2002 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจ ปี 2003 – 2008 อัยการสูงสุดของอัยการประชาชนสูงสุด

เจี่ย ชุนวั่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจ เป็นกระทรวงของรัฐที่คุมสำนักงานความมั่นคงสาธารณะ ตำรวจ และค่ายแรงงาน ช่วงระยะเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจในช่วงปี 1998 – 2002 ตรงกันกับช่วงที่เริ่มรณรงค์การขุดรากถอนโคนฝ่าหลุนกง ในฐานะที่เป็นหัวหน้ากระทรวงตำรวจ เจี่ย ชุนวั่งเป็นผู้สนับสนุนและผู้ร่วมกระทำอาชญากรรมต่อฝ่าหลุนกงที่กระตือรือร้น ในลูกโซ่คำสั่งของระบบปฏิบัติงานต่อต้านฝ่าหลุนกง เจี่ย ชุนวั่งรับคำสั่งโดยตรงจากคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายส่วนกลาง และสำนักงาน 610 เพื่อสั่งการเครือข่ายของตำรวจทั้งประเทศและบุคลากรด้านความมั่นคงให้กระทำการบรรลุผลตามคำสั่งเหล่านี้ ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนมากถูกกักขัง ถูกจำคุก ถูกทรมาน และถูกสังหารนอกกฎหมายโดยตำรวจและบุคลากรความมั่นคงในสถานีตำรวจ สถานที่กักกัน และค่ายแรงงาน ทั่วประเทศ ภายใต้ความรับผิดชอบของเขา

13. หลี่ เหวิน จาง (李文章)

เดือนกรกฎาคม 2006 ถึงเดือนมกราคม 2008 : ผู้อำนวยการและเลขาธิการพรรคของกรมยุติธรรมของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ผู้นำทางการเมืองอันดับที่หนึ่งของสำนักงานเรือนจำหนิงเซี่ย เดือนมิถุนายน 2015 ถึงเดือนมิถุนายน 2016 : คณะกรรมการประจำพรรคของเขตปกครองหนิงเซี่ยหุย เลขาธิการของคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายหนิงเซี่ย ประธานสมาคมกฎหมายหนิงเซี่ย เดือนมิถุนายน 2016 ถึงเดือนมกราคม 2019 : คณะกรรมการประจำของคณะกรรมการพรรคระดับมณฑลเหลียวหนิง เลขาธิการของคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย เดือนมกราคม 2019 ถึงปัจจุบัน : ผู้อำนวยการของกรมการเมือง กระทรวงความปลอดภัยแห่งชาติ

คณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้รุกรานหลักในการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงมานานแล้ว ในฐานะที่หลี่เป็นเลขาธิการพรรคของกรมยุติธรรมของหนิงเซี่ยและมณฑลเหลียวหนิง เขารับผิดชอบต่อการประทุษร้าย ทรมาน สังหาร และทำให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงพิการในพื้นที่เหล่านี้

14. ฟาง กุง (方工)

รองหัวหน้าอัยการปักกิ่งสาขาที่ 1 หัวหน้าอัยการปักกิ่งสาขาที่ 1 รองหัวหน้าอัยการของอัยการประชาชนปักกิ่ง

เมื่อเจียง เจ๋อหมิน เริ่มประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในเดือนกรกฎาคม 1999 อัยการประชาชนสูงสุดและศาลประชาชนสูงสุดปฏิบัติตามคำสั่งของเจียงอย่างใกล้ชิด พวกเขาจับกุมและคุมขังผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอย่างผิดกฎหมาย และบัญญัติกฎหมายใหม่ที่สนับสนุนการประทุษร้ายอย่างเต็มที่ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่บริสุทธิ์ถูกล้างสมองและถูกจับเข้าคุกอย่างผิดกฎหมาย แม้กระทั่งถูกประทุษร้ายจนตาย

15. หลิง หรุง เซิ่ง (刘荣胜)

สมาชิกของคณะกรรมการอัยการของอัยการประชาชนฉางชุนในมณฑลจี๋หลิน รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคดีอาญา อัยการอาวุโส

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจากฉางชุน มณฑลจี๋หลินออกอากาศภาพยนตร์ “ฝ่าหลุนต้าฝ่าทั่วโลก” และ “ความจริงเบื้องหลังการเผาตัวตายที่เทียนอันเหมิน” ผ่านทางเคเบิลทีวีในเมืองฉางชุนและซงหงวน ในวันที่ 5 มีนาคม 2002 เพื่ออธิบายความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขา เหตุการณ์ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวงกว้างครั้งแรกที่พลเรือนเอาชนะสื่อที่รัฐบริหารอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุมประเทศจีน จวบจนถึงทุกวันนี้ประชาชนในประเทศจีนใช้ชีวิตภายใต้ข้อบังคับที่เข้มงวดของคอมมิวนิสต์ ได้ดูเฉพาะสิ่งที่เป็นไปตามความคิดเห็นของพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น

มีรายงานว่าภายในเวลาไม่กี่วันหลังจากออกอากาศภาพยนตร์ดังกล่าว ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงประมาณ 5,000 คน ถูกจับในฉางชุนอัยการประชาชนของเขตปกครองตนเองยื่นฟ้องและดำเนินคดีอาญากับผู้ฝึกฝ่าหลุนกง 15 คน รวมทั้ง หลิว เชิงจุน และเหลียง เจินซิง ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเหล่านี้ถูกจับกุมอย่างผิดกฎหมายและถูกส่งไปศาลประชาชนระดับกลางที่ฉางชุนในวันที่ 6 กันยายน 2002 วันที่ 18 กันยายน ศาลประชาชนระดับกลางที่ฉางชุนเปิดศาลอย่างผิดกฎหมาย หลิง หรุง เซิ่ง ซึ่งเป็นอัยการประชาชนของเขตปกครองตนเองฉางชุนเป็นอัยการของคดีนี้ ผู้ฝึกถูกกล่าวหาว่า “ทำลายระบบวิทยุและโทรทัศน์ และจัดตั้งและใช้การจัดตั้งลัทธิเพื่อทำลายการบังคับใช้กฎหมาย” ในวันที่ 20 กันยายน 2002 ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง 15 คน ถูกตัดสินลงโทษหนักอย่างผิดกฎหมาย

16. เจ้า หงปัว (赵洪波)

ปี 1996 – 2009 : ตำรวจหญิงที่ศูนย์กักกันอันดับหนึ่งของเมืองอันซัน มณฑลเหลียวหนิง ปี 2009 – ปัจจุบัน : ผู้อำนวยการศูนย์กักกันหญิงเมืองอันซัน ศูนย์กักกันหญิงเมืองอันซันรับผู้ถูกกักขังหญิงจำนวนมากจากพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ไห่เชิง ไทอัน และซิ่วหยาน ผู้ถูกกักขังบางคนเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงผู้หญิง

เจ้า หงปัวได้รับรางวัลมากมายจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน เธอได้รับรางวัลการปกครองส่วนท้องถิ่น และได้รับรางวัล 10 อันดับแรกของตำรวจผู้คุมยอดเยี่ยมของมณฑลเหลียวหนิงในปี 2009 ในปี 2010 เธอได้รับรางวัลเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งอันซัน และได้รับรางวัล “ดาวมหาชน” ของกรมตำรวจเมืองอันซัน ในปี 2011 เธอเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงในมณฑลเหลียวหนิง และได้รับรางวัลระดับมณฑลอื่น ๆ ด้วย

หลังจากที่เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์กักกันหญิงเมืองอันซัน เจ้า หงปัวก็ปฏิบัติตามนโยบายการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงของเจียง เจ๋อหมิน อย่างเข้มงวด เธอทรมานผู้ฝึกฝ่าหลุนกงทั้งทางจิตใจและร่างกาย รวมทั้งทุบตี บังคับให้นั่งบนม้านั่งเป็นเวลานาน เปลื้องผ้า พูดจาดูถูกหยาบคาย และบังคับให้อาหาร การปฏิบัติการประทุษร้ายโดยตรงของเธอเป็นเหตุให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ยู เปาฟาง ถึงแก่ความตาย

17. ซู จิ้ง (苏境)

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 1999 ถึงเดือนสิงหาคม 2007 ซู จิ้ง เป็นหัวหน้าเขตผู้หญิงที่ 2 ของค่ายแรงงานมาซานเจีย (รู้จักกันในชื่อ โรงเรียนศึกษาอุดมการณ์มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งเป็นศูนย์ล้างสมอง) รางวัลที่ ซู จิ้ง ได้รับ :

กระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศจีน – “ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาดีเด่น” (วีรสตรีตัวอย่างแห่งชาติระดับสอง) มณฑลเหลียวหนิง – “คนงานตัวอย่างหญิงดีเด่นธงแดง” “เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประชาชนโปรดปราน” ในระบบกฎหมายและการเมืองระดับมณฑล “ข้าราชการพลเรือนดีเด่น”และ “ข้าราชการพลเรือนตัวอย่าง” โดยได้รับรางวัลชั้นหนึ่ง

ค่ายแรงงานมาซานเจียไม่ใช่ค่ายแรงงานธรรมดา แต่เป็นค่ายแรงงานต้นแบบโดยมีกลุ่มเจียง เจ๋อหมิน ควบคุมและสั่งการโดยตรงในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ค่ายนี้อยู่ภายใต้การกำกับของแผนกบุคคลของพรรคคอมมิวนิสต์ ทีมผู้นำกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการจัดการปัญหาฝ่าหลุนกง คณะกรรมการการเมืองและกฎหมายพรรคคอมมิวนิสต์จีน สำนักงาน 610 และกรมยุติธรรม มาซานเจียออกแบบและดำเนินการทรมานหลากหลายวิธี โดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนส่งเสริมให้ใช้ทั่วประเทศจีน เพื่อบังคับให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงล้มเลิกความเชื่อของตัวเองและให้บรรลุเป้าหมายของ “อัตราการเปลี่ยนแปลง”

ในปี 2001 โทรทัศน์กลางของจีนรายงานว่า “ในฐานะตัวแทนของสถาบันฟื้นฟูค่ายมาซานเจียในมณฑลเหลียวหนิง ผู้อำนวยการซู จิ้ง จะเข้าร่วมในกลุ่มสุนทรพจน์ “ต่อต้านฝ่าหลุนกง” และให้คำบรรยายขณะสัญจรไปทั่วประเทศ

18. เยี่ย เสี่ยวเหวิน (叶小文)

ปี 1991 – 1995 : ผู้อำนวยการสำนักงานเชื้อชาติชนเผ่าและศาสนา กรมงานแนวร่วมแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ปี 1995 – 2009 : ผู้อำนวยการกรมบริหารกิจกรรมศาสนาแห่งชาติ ปี 2009 – 2016 : เลขาธิการของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรองผู้อำนวยการที่สถาบันกลางสังคมนิยม ปี 2016 - ปัจจุบัน : สมาชิกของคณะกรรมการของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ และรองผู้อำนวยการคณะกรรมการงานประพันธ์และประวัติศาสตร์ ปี 2012 : สมาชิกเสริมของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนปีที่ 16 ในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ดูแลกิจกรรมด้านศาสนา เยี่ยกระตุ้นการประโคมข่าวเท็จเพื่อปลุกปั่นให้เกลียดชังฝ่าหลุนกงในวันที่ 20 กรกฎาคม 1999 อดีตหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ เจียง เจ๋อหมิน เริ่มระดมทรัพยากรและเครื่องมือเผยแพร่ข่าวเท็จทั่วประเทศจีนเพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกง 2 สัปดาห์ถัดมา เยี่ย เสี่ยวเหวิน ได้กล่าวสุนทรพจน์นาน 4 ชั่วโมง เรื่อง “ปฏิบัติการนโยบายทางด้านศาสนาของพรรคให้สำเร็จลุล่วงอย่างครอบคลุมและซื่อสัตย์ และประณามฝ่าหลุนกงอย่างชัดเจน” ที่การประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานของสำนักงานกลางพรรคคอมมิวนิสต์ สำนักงานกลางของรัฐ และสำนักงานการเงินกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ มีการใช้วีดิทัศน์ที่บันทึกสุนทรพจน์นี้เป็นเอกสารประกอบการเรียนภายใน เช่น ในพรรคคอมมิวนิสต์จีนปักกิ่ง และสำนักงานของรัฐบาล เหอ ลี่จื่อ เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงและวิศวกรที่กระทรวงการก่อสร้างถูกบังคับให้ดูรายงานวีดิทัศน์นี้ที่หน่วยงานของเขา ตามที่เขาจำได้ “เยี่ยพูดว่าฝ่าหลุนกงล้วนคือตรงกันข้ามกับสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์สนับสนุน ทั้งหมดนี้แสดงว่าฝ่าหลุนกงคือ ‘แข่งขันในด้านอุดมการณ์เพื่อให้ได้ประชาชนและแข่งขันกับพรรคคอมมิวนิสต์’ ถ้าไม่ตรวจสอบ ความมุ่งหมายของพรรคคอมมิวนิสต์ก็จะถูกทำลาย ดังนั้นการต่อสู้กับฝ่าหลุนกงโดยหลักคือการต่อสู้ทางการเมือง การต่อสู้ทางอุดมการณ์อย่างเอาเป็นเอาตาย และเป็นเรื่องการอยู่รอดที่จะกระทบต่ออนาคตและชะตากรรมของพรรคคอมมิวนิสต์และประเทศจีน”

19. จาง เต๋อชีง (张德清)

ปี 2001 – 2008 : ผู้อำนวยการกองพลน้อยการป้องกันและความมั่นคงในประเทศ ภายใต้สำนักงานตำรวจเมืองยูซุ มณฑลจี้หลิน อดีตหัวหน้าสถานีตำรวจเซินหยาง

ระหว่างที่จาง เต๋อชีง ดำรงตำแหน่งอาจารย์สอนการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานีตำรวจเซินหยาง และต่อมาได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการกองพลน้อยการป้องกันและความมั่นคงในประเทศ ภายใต้สำนักงานตำรวจเมืองยูซุ เขากระตือรือร้นที่จะทำตามนโยบายของเจียง เจ๋อหมิน ในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง เขาทำร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงท้องถิ่นอย่างโหดร้ายทารุณ และเปลี่ยนเป็นผู้ใช้กำลังบังคับให้ปฏิบัติตามระบอบคอมมิวนิสต์จีนในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ผลก็คือผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกกักขัง ถูกส่งไปค่ายบังคับใช้แรงงาน ถูกพิพากษาให้จำคุก และกระทั่งถูกทรมานจนตาย ครอบครัวของพวกเขาได้รับความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมาก หลังจากปี 2001 จาง เต๋อชีงได้เลื่อนขั้นเป็นผู้อำนวยการกองพลน้อยการป้องกันและความมั่นคงในประเทศ ทำให้เขาได้เพิ่มความพยายามมากขึ้น

จากข้อมูลทางสถิติที่ยังไม่ครบถ้วน ระหว่าง 7 ปี ของการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพลน้อยการป้องกันและความมั่นคงในประเทศ ของ จาง เต๋อชีง ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง 19 คน ในเมืองยูซุถูกพิพากษาให้จำคุก 15 ปี ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงกว่า 260 คน ถูกส่งไปค่ายบังคับใช้แรงงาน และมากที่สุดในหมู่เมืองระดับเขตปกครองในประเทศจีน นับพันถูกลักพาตัว กักขัง และทรมาน ตัวอย่างเช่น หลี่ ซูหัว, หลี่ เฟงชิน และหลิว ฮุยจูน ถูก จาง เต๋อชีง ทรมานจนตาย เขาจะต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่เขากระทำไว้

20. โหว เฉียง (侯强)

อัยการระดับ 2 ของอัยการแขวงหยิงเชอ เมืองไท้หยวน มณฑลชานซี รองหัวหน้าแผนกอัยการของอัยการแขวงหยิงเชอ หัวหน้ากรมที่ 2 ของคดีอาญา โหว เฉียงปฏิบัติตามนโยบายของเจียง เจ๋อหมิน อย่างใกล้ชิดเพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกงและกลายเป็นผู้โจมตีผู้ฝึกฝ่าหลุนกงให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน เขาฟ้องร้องผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ครอบครองสิ่งที่เรียกว่า “วัตถุผิดกฎหมาย” เช่น หนังสือฝ่าหลุนกง เอกสารฝ่าหลุนกง และคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ที่มีแฟ้มเอกสารของฝ่าหลุนกงอยู่ข้างใน ผู้ฝึกที่บริสุทธิ์นับโหลถูกพิพากษาให้จำคุกอย่างผิดกฎหมาย จาง จินเซิงถูกทำร้ายจนตาย

21. หลิว เจี้ยนกั๋ว (刘建国)

เดือนกันยายน 2011 – เดือนมิถุนายน 2013 : เลขาธิการของคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนของเมืองถังซัน เดือนมิถุนายน 2013 - เดือนมกราคม 2017 : เลขาธิการของคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนของเมืองถังซัน และประธานของสหพันธ์แรงงานจีนรวมของเมืองถังซัน เดือนมกราคม 2017 - ปัจจุบัน : ประธานของสหพันธ์แรงงานจีนรวมของเมืองถังซัน

หลิว เจี้ยนกั๋ว ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการของคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมืองถังซันในเดือนกันยายน 2011 หลิวรับผิดชอบหรือปฏิบัติการโดยตรงในการทำลายความอิสระเกี่ยวกับศาสนาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง และชั่วร้ายเลวทราม ให้สำเร็จลุล่วง เขากระตือรือร้นในการดำเนินตามนโยบายการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงของเจียง เจ๋อหมิน ตลอดระยะการดำรงตำแหน่งของเขา เขาวางแผนและประสานงานให้จับกุมและประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนมากที่ถังซันในช่วงที่เขาอยู่ในตำแหน่ง รวมทั้งการลักพาตัวผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2012 และวันที่ 31 มีนาคม 2016 รวมถึงการก่อกวน ลักพาตัว และตัดสินลงโทษผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ยื่นข้อร้องเรียนทางอาญากับเจียง เจ๋อหมิน ในช่วงปี 2015 ถึงปี 2016

22. หวัง ลี่ซัน (王立山)

เดือนมีนาคม 2003 – เดือนพฤษภาคม 2003 : รักษาการคณบดีและเลขาธิการของคณะผู้นำของศาลประชาชนระดับกลางเมืองคังโจว มณฑลเหอเป่ย์ เดือนพฤษภาคม 2003 - เดือนมกราคม 2005 : อธิการบดีและเลขาธิการของคณะผู้นำของศาลประชาชนระดับกลางเมืองคังโจว มณฑลเหอเป่ย์ เดือนมกราคม 2005 - เดือนมกราคม 2009 : สมาชิกคณะกรรมการของพรรคของอัยการมณฑลเหอเป่ย์ และผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านคอร์รัปชันและการติดสินบน ปี 2001 – 2003 : รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลเหอเป่ย์ เดือนมกราคม 2009 - เดือนเมษายน 2011 : รองอัยการและสมาชิกของคณะผู้นำของอัยการมณฑลเหอเป่ย์ เดือนเมษายน 2011 - เดือนมิถุนายน 2013 : สมาชิกของคณะกรรมการประจำของคณะกรรมการเขตปกครองตนเองเปาติง มณฑลเหอเป่ย์ และเลขาธิการของคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย เดือนมิถุนายน 2013 - เดือนเมษายน 2015 : ผู้อำนวยการของกลุ่มผู้นำการป้องกันและการจัดการศาสนานอกรีต (หรือสำนักงาน 610) ของมณฑลเหอเป่ย์ รองเลขาธิการของคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายของคณะกรรมการพรรคระดับมณฑล เดือนเมษายน 2015 - เดือนกันยายน 2016 : รองเลขาธิการฝ่ายบริหารของคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายมณฑลเหอเป่ย์ ผู้อำนวยการสำนักงานรักษาสันติภาพระดับมณฑล

จากข้อมูลสถิติที่ยังไม่ครบถ้วน ระหว่างเดือนเมษายน 2011 ถึงเดือนธันวาคม 2011 ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอย่างน้อย 74 คน ในเปาติงถูกลักพาตัว 12 คน ถูกล้างสมอง 1 คน ถูกตัดสินให้เข้าคุกอย่างผิดกฎหมาย และ 1 คน ถูกทำร้ายจนตาย สำนักงานตำรวจเขตปกครองตนเองเปาติงกำหนดจำนวนผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่สถานีตำรวจต้องลักพาตัวก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2011 ผู้ฝึกที่ทราบชื่อถูกลักพาตัว 50 คน และถูกก่อกวนมากกว่า 31 คน

จากข้อมูลสถิติที่ยังไม่ครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2012 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2012 มีประชาชนอย่างน้อย 76 คน ถูกจับกุมอย่างผิดกฎหมายในเมืองเปาติง 13 คน ถูกส่งไปค่ายล้างสมองอย่างผิดกฎหมาย 1 คน ถูกพิจารณาคดีในศาลอย่างผิดกฎหมาย และ 3 คน ถูกพิพากษาให้เข้าคุกอย่างผิดกฎหมาย ผู้ฝึก 8 คน ถูกจับกุมอย่างผิดกฎหมาย 19 คน ถูกก่อกวน 3 คน ถูกส่งไป “ชั้นเรียนล้างสมอง” 9 คน ถูกกักขังอย่างผิดกฎหมาย 3 คน ถูกบีบบังคับให้กลายเป็นคนอนาถาและไร้บ้าน และ 1 คน ถูกทำร้ายจนตาย

23. หวัง เซี่ยนขุย (王宪魁)

เดือนเมษายน 2003 - เดือนตุลาคม 2006 : รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคระดับมณฑลของมณฑลกานซู อธิการบดีของโรงเรียนของพรรคของคณะกรรมการพรรคระดับมณฑล เดือนตุลาคม 2006 - เดือนสิงหาคม 2010 : รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคมณฑลเจียงซี และอธิการบดีของโรงเรียนของพรรคของคณะกรรมการพรรคระดับมณฑล เดือนสิงหาคม 2010 - เดือนพฤศจิกายน 2010 : รองเลขาธิการ รองผู้ว่าการ และรักษาการผู้ว่าการคณะกรรมการพรรคมณฑลเฮย์หลงเจียง เดือนพฤศจิกายน 2010 - เดือนมีนาคม 2013 : รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคมณฑลเฮย์หลงเจียง และผู้ว่าการ เดือนมีนาคม 2013 - เดือนเมษายน 2017 : เลขาธิการคณะกรรมการพรรคมณฑลเฮย์หลงเจียง และผู้อำนวยการคณะกรรมการประจำสภาประชาชนมณฑลเฮย์หลงเจียง เดือนเมษายน 2017 - ปัจจุบัน : รองผู้อำนวยการคณะกรรมการวิทยาศาสตร์การศึกษาและความสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมของสภาประชาชนแห่งชาติ ผู้อำนวยการคณะกรรมการประจำสภาประชาชนมณฑลเฮย์หลงเจียง

หวัง เซี่ยนขุย ปฏิบัติหน้าที่เป็นรองเลขาธิการ เลขาธิการ รักษาการผู้ว่าการ และผู้ว่าการของคณะกรรมการพรรคมณฑลเฮย์หลงเจียง ปัจจุบันเขาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการคณะกรรมการประจำสภาประชาชนมณฑลเฮย์หลงเจียง หวัง เซี่ยนขุย ปฏิบัติตามนโยบายการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงของหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จีน เจียง เจ๋อหมิน ตลอดช่วงการทำงานของเขา ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2010 ถึงเดือนมีนาคม 2017 หวัง เซี่ยนขุย และผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจับกุมผู้ฝึกฝ่าหลุนกงนับร้อยคน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 62 คน ภายใต้หวัง เซี่ยนขุย มณฑลเฮย์หลงเจียงกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่กระตือรือร้นในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงมากที่สุดในประเทศจีน

24. หยาง เสี่ยวผิง (杨晓萍)

ปัจจุบัน : รองประธานศาลแขวงพันหลงในเมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน รองผู้พิพากษาศาลอาญาเมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน ปี 2007 : ผู้พิพากษาและประธานผู้พิพากษา ปี 2003 : ผู้ช่วยผู้พิพากษา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2008 ถึงเดือนมกราคม 2012 : ผู้พิพากษาหยาง เสี่ยวผิง มีส่วนร่วมในการพิพากษาคดีประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกง 30 คน รวมทั้ง หลี่ ฮุ่ยผิง เจา เฟยชีโอง และหลี่ เหวินโป อย่างผิดกฎหมาย พวกเขาทุกคนถูกพิพากษาที่ศาลระดับกลางของเมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน หยาง เสี่ยวผิงรับผิดชอบคดีเหล่านี้โดยตรง

25. จาง ไจ้ซิง (张再兴)

อดีตรองเลขาธิการพรรคของมหาวิทยาลัยซิงฮว๋า อาจารย์ใหญ่ของมหาวิทยาลัยซิงฮว๋ารับผิดชอบเรื่องฝ่าหลุนกง ศาสตราจารย์/ผู้ควบคุมปริญญาเอกของสถาบันมากซ์ มหาวิทยาลัยซิงฮว๋า

ตั้งแต่กลุ่มอาชญากรรมของเจียง เจ๋อหมิน ปราบปรามฝ่าหลุนกงอย่างผิดกฎหมายในเดือนกรกฎาคม 1999 จาง ไจ้ซิง ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของกลุ่มเจียง เขาปฏิบัติการภายใต้คำสั่งส่วนตัวของหลี่ หลันชิง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ “สำนักงาน 610” ที่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกง หลี่ หลันชิง ถูกหลายประเทศกล่าวโทษว่า “ทรมาน ขุดรากถอนโคน และเป็นปฏิปักษ์ต่อมนุษยชาติ” เขาปฏิบัติการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอย่างน่ากลัวและต่อเนื่องที่มหาวิทยาลัยซิงฮว๋า ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงที่มีเกียรติในประเทศจีน การประทุษร้ายเกิดขึ้นในวงกว้างและรุนแรง จัดเป็นอันดับหนึ่งในบรรดามหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศ

ตามรายงานจาก CCTV จาง ไจ้ซิง รองเลขาธิการพรรคของมหาวิทยาลัยซิงฮว๋าพูดว่า “วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยคือหอวิทยาศาสตร์ และองค์กรอย่างเช่น ‘ฝ่าหลุนกง’ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำสิ่งใดในมหาวิทยาลัย ฉันสนับสนุนพรรคและรัฐบาลอย่างแน่วแน่ในการต่อต้านฝ่าหลุนกง และห้ามกิจกรรมหลักของฝ่าหลุนกงอย่างต่อเนื่อง… จงเตรียมตัวต่อสู้กับองค์กรของฝ่าหลุนกงอย่างหนักหน่วงในระยะยาว

26. ตุ่ง หนิง (董宁)

ไม่ทราบช่วงเวลา : หัวหน้าแผนกความมั่นคงในประเทศสาขาปินเปย สถานีตำรวจปินเปย มณฑลชานตง ปี 2018 : หัวหน้าแผนกความมั่นคง สาขาปินเปย ตามเว็บไซต์ Minghui.org จากสถิติที่รายงานโดยตามรอยตั้งแต่ปี 2000 ตุ่ง หนิง ประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงมากกว่า 100 คน โดยตรง เขาทำให้ผู้ฝึก 2 คน เสียชีวิต และมากกว่า 30 คน ถูกตัดสินให้ส่งไปค่ายแรงงานและถูกกักขังอย่างผิดกฎหมาย เขายังปล้นบ้านของผู้ฝึกมากกว่า 70 คน ตั้งแต่ตุ่ง หนิง ได้รับตำแหน่งหัวหน้าที่แผนกความมั่นคงในประเทศที่ปินฮาย กองกำลังด้านความมั่นคงก็ประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ กองกำลังด้านความมั่นคงยังได้กรรโชกเงินจำนวนมากจากผู้ฝึกที่ถูกประทุษร้ายโดยใช้อำนาจในตำแหน่งของเขา ต่อไปนี้เป็นเพียงรายที่มีการบันทึกไว้ส่วนหนึ่งเท่านั้น

27. หยาง หมิงเต๋อ (杨明德)

รองเลขาธิการคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์ของเมืองกวางโจว มณฑลกว่างตง ปี 2009 – 2016 : ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันเมืองกวางโจว (หรือ “สำนักงาน 610”)

จากข้อมูลสถิติที่ยังไม่ครบถ้วน ตั้งแต่ปี 2009 – 2016 ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอย่างน้อย 6 คนถูกประทุษร้ายจนเสียชีวิต รวมทั้ง เจา ปิง ซู ฮุ่ยจู เปง เหวินซิ่ว เหอ ยู่เอ๋อ จู เจียนเปิง และ เชิน เลี่ยนฟาง ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงนับโหลถูกตัดสินให้เข้าคุกอย่างผิดกฎหมาย ในนี้รวมถึง หวง เชียน จู ยู่เปี่ยว เจิง จิงเซี่ยน หวัง ไห้หง หวัง จื้อหง จาง เสี่ยวหลิง และจาง เยี่ยชี เมื่อจาง เยี่ยชีถูกตัดสินอย่างผิดกฎหมาย เขามีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนมากถูกจับ ถูกกักขัง และถูกพาไป “ชั้นเรียนล้างสมอง” อย่างผิดกฎหมาย เพื่อจะทำการประทุษร้ายต่อไป

ตอนบ่ายของวันที่ 18 ธันวาคม 2012 มีการจัดประชุม “โครงการต่อต้านลัทธิ” ในสำนักงานตำรวจแขวงเทียนเหอ หยาง หมิงเต๋อ ซึ่งเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์เมืองกวางโจว และผู้อำนวยการของสำนักงานการป้องกันในขณะนั้นกล่าวในที่ประชุมโดยอ้างว่า “สถานการณ์ในปัจจุบันของกิจกรรมต่อต้านลัทธิยังไม่มีความหวัง” และ “รัฐบาลทุกระดับควรจัดงานต่อต้านลัทธิเป็นงานอันดับแรก และเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีเพื่อประกัยความปลอดภัยของสังคม”

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง เจา ผิง เป็นทนาย เป็นผู้ควบคุมตำรวจระดับ 2 และเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยเสนาธิการการจัดการความมั่นคงสาธารณะกวางโจว เธอถูกประทุษร้าย 17 ปี เนื่องจากการยืนหยัดฝึกฝ่าหลุนกง หลังจากคุณเจาตีพิมพ์บทความในวันที่ 17 ธันวาคม 2013 ที่เว็บไซต์หมิงฮุ่ยเพื่อเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในเรือนจำหญิงที่มณฑลกว่างตง เธอก็ถูกพนักงานจากคณะกรรมการการเมืองและกฎมายเมืองกวางโจว สำนักงาน 610 กรมความมั่นคงแห่งชาติ และสมาคมละแวกบ้าน รังควานและข่มขู่ พนักงานจากสำนักงานจัดการถนนหวู่ซันยังไปที่บ้านแม่ของเธอในเมืองกุ้ยหยาง และข่มขู่แม่ของเธอเพื่อพยายามบังคับให้คุณเจาหยุดเขียนบทความเกี่ยวกับการประทุษร้าย คุณเจา ปิง ถูกประทุษร้ายจนเสียชีวิตในวันที่ 14 พฤษภาคม 2016 ขณะที่เธออายุ 58 ปี

28. เฉิน ซู่หลิง (陈树林)

ก่อนปี 2010 : ผู้อำนวยการสำนักงานศาสนาที่มณฑลหูหนาน เลขาธิการคณะกรรมการพรรคที่หูหนาน เดือนมกราคม 2010 - เดือนกันยายน 2011 : รองผู้อำนวยการคณะกรรมการระดับมณฑลของ “สำนักงาน 610” ที่หูหนาน เดือนกันยายน 2011 - เดือนสิงหาคม 2013 : รองเลขาธิการคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของหูหนาน ผู้อำนวยการคณะกรรมการระดับมณฑลของ “สำนักงาน 610” ที่หูหนาน รองประธานสมาคมต่อต้านลัทธิที่หูหนาน

เฉิน ซู่หลิน มีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทำกับผู้ฝึกฝ่าหลุนกงโดยตรงตั้งแต่ปี 2010 ในฐานะผู้อำนวยการ “สำนักงาน 610” ของมณฑลหูหนาน (“สำนักงาน 610” เป็นหน่วยงานความมั่นคงที่อยู่เหนือกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1999 เพื่อนำการรณรงค์ต่อต้านฝ่าหลุนกง) เฉินสมควรถูกประณามที่เขาทำให้ชื่อเสียงของฝ่าหลุนกงมัวหมอง ประทุษร้าย ทรมาน สังหารผู้ฝึก และทำให้ผู้ฝึกพิการ แม้ว่าเขาจะมีวาระการทำงานเพียง 3 ปี ในเวลานั้นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงนับสิบคนถูกประทุษร้ายจนเสียชีวิต ในหมู่ผู้ฝึกที่ถูกประทุษร้ายจนเสียชีวิตนี้รวม ซู เจินเซิง เจียง เหม่ยหลาน กัว โปชิน เจิง ไห้ชี เปง ตงเลี่ยน เซี่ย หวู่ถัง เปงเสี่ยวปิง เจง เจ้าชิน จู กุ้ยเลี่ยน จาง กัวเลี่ยง จาง จื้อหมิน โจว โปเซิง ถัน ชุยหยิง และอีกหลายคน

29. ตุ่ง จวิน(董军)

ปี 1997 – 2002 : ผู้ช่วยนายกเทศมนตรีเมืองเซียนหยาง มณฑลฉ่านซี รองนายกเทศมนตรีเมืองเซียนหยาง มณฑลฉ่านซี ปี 2002 – 2016 : สมาชิกคณะกรรมการประจำของคณะกรรมการเขตปกครองตนเองซีอานเลขาธิการอันดับหนึ่งของคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายของคณะกรรมการพรรคเขตปกครองตนเองซีอาน ผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจเขตปกครองตนเองซีอาน เลขาธิการคณะกรรมการพรรคของสำนักงานตำรวจเขตปกครองตนเองซีอาน ปี 2012 – 2016 : รองเลขาธิการของคณะกรรมการพรรคของคณะกรรมการพรรคเขตปกครองตนเองซีอาน นายกเทศมนตรีเมืองซีอาน ระหว่างช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการประจำของคณะกรรมการเขตปกครองตอนเองซีอาน ตำแหน่งเลขาธิการอันดับหนึ่งของคณะกรรมการการเมืองและกฎหมายของคณะกรรมการพรรคเขตปกครองตนเองซีอาน ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจเขตปกครองตนเองซีอาน และตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรคของสำนักงานตำรวจเขตปกครองตนเองซีอาน ตุ่ง จวิน ปฏิบัติตามกลุ่มของเจียงอย่างใกล้ชิดในการละเมิดรัฐธรรมนูญของจีน และเหยียบย่ำกฎหมาย เขาใช้ตำแหน่งของเขาในการลักพาตัวผู้ฝึกฝ่าหลุนกงด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่มีเหตุผล ลงมือกักขังอย่างผิดกฎหมาย ส่งผู้ฝึกไปค่ายแรงงาน และตัดสินผู้คนโดยบีบบังคับให้ถูกกักกันใน “ชั้นเรียนล้างสมอง” (ชั้นเรียนที่ประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกง โดยพยายามขู่เข็ญให้ประกาศปฏิเสธความเชื่อของตัวเอง) และยังมีวิธีประทุษร้ายอื่น ๆ อีก จนถึงทุกวันนี้ ตุ่ง จวิน เป็นเหตุให้ผู้ฝึกเสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และรับผิดชอบต่อการลักพาตัวผู้ฝึก 97 คน ตัดสินผู้ฝึกให้เข้าค่ายแรงงานอย่างผิดกฎหมาย 29 คน และจำคุก 52 คน อย่างผิดกฎหมายใน “ชั้นเรียนล้างสมอง”

30. โหว ลี่เต๋อ (侯立德)

ปี 2002 – 2008 : พัศดีเรือนจำตูยุน มณฑลกุ้ยโจว ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขารับผิดชอบในการทรมานผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ทำให้ร่างกายพิการ ทำให้วิกลจริต และทำให้ผู้ฝึกเสียชีวิตจำนวนมาก ปัจจุบัน : นายตรวจของสำนักงานการควบคุมมณฑลกุ้ยโจว และเลขาธิการพรรคของสมาคมเรือนจำระดับมณฑล

เรือนจำตูยุนในมณฑลกุ้ยโจวคือที่เรียกกันในระดับกระทรวงว่า “เรือนจำอารยธรรม” และกระทรวงยุติธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้ก่อตั้ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงสละความเชื่อของพวกเขา เรือนจำนี้จัดทำ “คุกในคุก” พวกเขาก่อตั้งที่เรียกกันว่า “ทีมควบคุม” “ห้องสนทนา” “ห้องโจมตี” “กลุ่มเปลี่ยนความเชื่อ” และอื่น ๆ ผุ้คุมเรือนจำยั่วยุและจัดการนักโทษที่ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีมาทรมานผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ไม่ยอมละทิ้งความเชื่อของตัวเอง พวกเขาใช้วิธีทางอาชญากรรมทุกรูปแบบ เช่น มัดกับเตียงเป็นเวลานาน กรอกอาหารแบบป่าเถื่อน ให้อยู่ในที่แคบ ๆ ให้นั่งบนม้านั่งที่มีขาเดียว ทุบตี ลงโทษโดยการให้คุกเข่าเป็นเวลานาน ช็อกด้วยไฟฟ้า ยืดร่างกาย ราดน้ำเดือดบนร่างกาย จี้ด้วยบุหรี่ที่ติดไฟ ให้อาหารทารกเพียงอย่างเดียว แช่เข็ง ยืดเวลาการกักขังอย่างผิดกฎหมาย สอดส่อง 24 ชั่วโมง ล้างสมองโดยใช้ลำโพงเสียงดัง ใช้แรงงานเยี่ยงทาส ดูถูกเหยียดหยาม และอื่น ๆ พวเกขาหมุนเวียนเปลี่ยนกะใช้กลอุบาย เช่น ไม่ให้ผู้ฝึกนอนเป็นสัปดาห์ ๆ และบังคับให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงฟังเทปบันทึกเสียงและดูวิดีทัศน์ที่ทำลายชื่อเสียงฝ่าหลุนกง พวกเขาให้ผู้ฝึกเขียน “ถ้อยแถลงคำยืนยัน” (ว่าจะไม่ฝึกฝ่าหลุนกง) ในสภาวะสะลึมสะลือเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “การเปลี่ยนความเชื่อ” ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนมากถูกประทุษร้ายจนพิการ ป่วยทางจิต หรือกระทั่งเสียชีวิต

ผู้คุมเรือนจำข่มขู่ “เราไม่กลัวว่าจะตกนรกเมื่อเราประทุษร้ายฝ่าหลุนกง เราไม่กลัวกรรมตามสนองของเทพ” “คนที่ถูกทุบตีจนตายถือว่าฆ่าตัวตายหรือตายเพราะเจ็บป่วย ด้วยการสนับสนุนของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาล พวกเราไม่กลัวที่จะใช้กำลังที่เป็นอันตรายถึงตาย โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ยอมและไม่เปลี่ยนความเชื่อ!”แต่ละเรือนจำได้เงินโบนัสมากกว่า 100,000 หยวนทุกปี จากการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง

จากปี 2002 ถึงปี 2008 ขณะที่ โฮว ไลด์ เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในเรือนจำตูยุน มณฑลกุ้ยโจว เขาควบคุมและยุยงปลุกปั่นให้ยามที่เรือนจำและนักโทษใช้วิธีที่ชั่วร้าย เสื่อมเสีย และป่าเถื่อนที่สุดในการทรมานผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง นายวู โปทอง และนายมา เทียนจูน ถูกทรมานจนตาย