(Minghui.org) วันที่ 7 - 14 เมษายน 1995 เป็นวันที่น่าจดจำที่สุดสำหรับผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในสวีเดน หลังจากบรรยายที่ฝรั่งเศส ท่านอาจารย์หลี่ หงจื้อ ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่าได้มาที่เมืองโกเธนเบิร์ก นับเป็นจุดที่สองในการแนะนำการฝึกนี้ให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ

ท่านอาจารย์หลี่ หงจื้อ ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า จัดการบรรยายในเดือนเมษายน 1995 ที่เมืองโกเธนเบิร์ก สวีเดน

มีผู้เข้าฟังการบรรยาย 100 กว่าคน ผู้เข้าฟังส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก พีริโอ พยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลในเมืองโกเธนเบิร์กเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

เธอหวนคิดได้ว่า “พวกเราจำนวนมากมาฟังการบรรยาย ในระหว่างการบรรยาย ท่านอาจารย์หลี่บอกให้พวกเราคิดถึงบริเวณหนึ่งในร่างกายที่เป็นโรคหรือไม่สบาย เนื่องจากอาการปวดหลังคอยรบกวนฉันมานานกว่า 2 ปีแล้ว และทำให้ฉันนอนไม่ค่อยหลับ ฉันหวังว่าท่านอาจารย์จะช่วยฉันได้"

เธอบอกว่า "ทันใดนั้น ฉันรู้สึกว่ามีสายลมอ่อน ๆ เข้ามาในร่างกายของฉันจากทางด้านหลัง ฉันผ่อนคลายอย่างฉับพลัน - ความปวดที่ทุกข์ทรมานหายไปในชั่วพริบตา ฉันตระหนักได้ในทันทีว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าช่างพิเศษและมหัศจรรย์มาก"

เพื่อช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจ เมื่อท่านอาจารย์หลี่อธิบายโครงสร้างของร่างจักรวาล ท่านได้วาดมันบนแผ่นกระดานในห้องบรรยายด้วย เนื้อหาที่ท่านอาจารย์บรรยายช่วยตอบคำถามมากมายเกี่ยวกับชีวิตให้กับพีริโอ รวมถึงจุดกำเนิดและจุดมุ่งหมายของชีวิต การกลับสู่จุดกำเนิดของเรา และมันมีความสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของพวกเราอย่างไร

พีริโอ พยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลในโกเธนเบิร์ก

เธอพูดว่า "ตัวอย่างเช่น ท่านอาจารย์บอกว่าเราจำเป็นต้องปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับหลักการของความจริง – ความเมตตา – ความอดทน นั่นคือการกลับสู่ธาตุแท้ที่เมตตาที่สุด บริสุทธิ์ที่สุด และมูลฐานที่สุด ของจิตวิญญาณของเรา นี่คือจุดมุ่งหมายทั้งหมดของชีวิตของเรา"

เนื่องจากจะมีการทดสอบทุกรูปแบบ ท่านอาจารย์จะเตือนผู้ฝึกให้แก้ไขและปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกลับสู่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเรา เธอบอกว่า “ท่านบอกเราว่าอย่ากลัวความยากลำบาก ในทางกลับกัน เราควรจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้ด้วยความเมตตาและความอดทน มันสำคัญมากที่จะต้องเมตตาและคิดถึงผู้อื่นก่อนเสมอ”

พีริโอบอกว่าศิษย์สามารถรู้สึกอย่างลึกซึ้งถึงความเมตตาของท่านอาจารย์ เธอพูดว่า "บางคำถามของพวกเราเป็นคำถามที่พื้น ๆ มาก กระทั่งโง่เขลาด้วยซ้ำ แต่ท่านอาจารย์ก็อธิบายตอบคำถามเหล่านั้นด้วยความอดทน"

หลังจากที่ท่านอาจารย์พูดเกี่ยวกับหลักการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว พีริโอถามท่านอาจารย์ว่า ต้าฝ่าสามารถช่วยคนที่เคยทำผิดในชีวิตได้หรือไม่ "ฉันจำได้ว่าท่านอาจารย์มองมาที่ฉันอย่างจริงจังและตอบว่า 'ใช่ ต้าฝ่าสามารถช่วยคุณจากสิ่งที่เคยทำผิดไปแล้วได้ กระทั่งสิ่งที่คุณทำลงไปโดยไม่รู้ตัวด้วย' ฉันรู้ว่าท่านอาจารย์กำลังพูดถึงสิ่งที่อยู่ในวงจรชีวิตชาติก่อน ๆ ของฉัน ” พีริโออธิบาย

ในช่วง 7 วันนั้น ผู้ฝึกฝึกท่าของต้าฝ่าร่วมกัน หลายคนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและรู้สึกเป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้น “ฉันมีกรรมแห่งโรคเล็กน้อย อย่างเช่นปวดศีรษะหรือเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่มันหายไปอย่างรวดเร็ว และฉันรู้สึกผ่อนคลายอีกครั้ง ฉันไม่เคยรู้สึกสบายแบบนี้มานานมากแล้ว ต้าฝ่ามหัศจรรย์เหลือเกิน ฉันรู้สึกสำนึกในบุญคุณและโชคดีมาก ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน" เธอกล่าว

หลังจากฝึกมา 25 ปี พีริโอบอกว่าตอนนี้เธอมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น เธออธิบายว่า “นี่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเพราะพวกเราผู้ฝึกศึกษาคำสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่า ฝึกท่า และยกระดับตัวเองระหว่างประสบกับความทุกข์ยากอย่างต่อเนื่อง” เธอบอกว่าผู้ฝึกจัดการกับความขัดแย้งด้วยความเมตตาและให้อภัยแทนที่จะแก้แค้น ด้วยทัศนคติทางบวก พวกเขาเปลี่ยนเหตุการณ์ร้าย ๆ ให้เป็นโอกาสในการค้นหาจากภายในและยกระดับตัวเอง นี่คือสิ่งที่ต้าฝ่าสอนให้พวกเขาทำ

มองย้อนกลับไป 25 กว่าปีของการบำเพ็ญของเธอ พีริโอบอกว่าความสำนึกในบุญคุณของท่านอาจารย์นั้นเกินคำบรรยาย เธอพูดว่า "ฉันรู้ว่าท่านอาจารย์อยู่เคียงข้างเราเสมอ ปกป้องและช่วยเหลือเรา" "เมื่อใดก็ตามที่ฉันขาดความมั่นใจหรือย่อหย่อน ท่านอาจารย์จะช่วยโดยผ่านคำพูดของผู้ฝึกอื่น ด้วยการสนทนา หรือด้วยการแบ่งปันประสบการณ์กับผู้ฝึกคนอื่น ๆ นี่ช่วยให้ฉันประเมินตัวเองใหม่แล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง”

พีริโอบอกว่าเธอมีหลายสิ่งที่เธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้ “แต่แม้ในช่วงที่ยากลำบากที่สุด ท่านอาจารย์ก็อยู่ที่นั่นเสมอ คอยช่วยเราด้วยความเมตตาอย่างเงียบ ๆ เพื่อให้พวกเราสามารถดำเนินต่อไปบนเส้นทางการบำเพ็ญ นั่นจึงเป็นเหตุให้ฉันตื้นตันจนน้ำตาไหลบ่อย ๆ กับทุกสิ่งที่ท่านอาจารย์ทำให้พวกเรา" เธอกล่าว