(Minghui.org) ขณะที่การระบาดใหญ่ในไต้หวันผ่อนคลายลง รัฐบาลได้ลดข้อจำกัดในการชุมนุมภายในอาคารเมื่อปลายเดือนกันยายน และอนุญาตให้คนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในภาคกลางของไต้หวันมารวมตัวกันที่เมืองซีหลัว เขตหยุนหลิน เมื่อวันที่ 25 และ 26 กันยายน เพื่ออ่านฝ่าและแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ผู้ฝึกหลายคนพูดถึงว่าพวกเขายึดมั่นในหลักการของความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ในชีวิตประจำวันของพวกเขาอย่างไรบ้าง และพยายามรักษาความขยันหมั่นเพียรในการบำเพ็ญตัวเองอย่างไร

เอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

ย่านหลินผู้ฝึกรุ่นเยาว์พูดถึงความท้าทายในการบริหารเวลาในการทำงานและวิธีจัดการกับมัน เขาเริ่มฝึกครั้งแรกตอนอายุ 19 ปี และรู้สึกว่าการยึดติดกับเวลาก็เป็นปัญหาที่รุนแรงได้ เขารู้สึกว่ามันยากที่จะทำได้ครบทุกอย่าง (ศึกษาฝ่า ฝึกท่า และเข้าร่วมกิจกรรมอธิบายความจริง) เขาเรียนรู้ด้วยว่าเมื่อคนไม่ยึดติดกับเวลาแล้ว การเอาชนะความท้าทายก็จะง่ายขึ้น

“ผมไปฮ่องกงเพื่อบอกคนเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าและฝ่าหลุนต้าฝ่าถูกประทุษร้ายอย่างไร ผู้ฝึกอีกคนหนึ่งบอกว่าเขายุ่งมากทุกวัน เนื่องจากเวลามีค่ามาก เขาจึงลดระยะเวลานอนลงเพื่ออ่านฝ่า ตอนนั้นผมไม่คิดว่าผมจะทำได้ แต่ผมจำสิ่งที่เขาพูดได้เสมอ”

ต่อมาย่านหลินประสบปัญหาไม่มีเวลาเพียงพอ หลังจากทำงานที่โรงพิมพ์อิพอกไทมส์และจัดส่งหนังสือพิมพ์นี้เสร็จโดยปกติก็ประมาณตี 2 แล้ว “เพราะผมต้องตื่นประมาณตี 4 เพื่อทำธุรกิจส่วนตัว ผมมีเวลานอนเพียง แค่สองชั่วโมงครึ่ง” เขาอธิบาย “ดังนั้นมันเหมือนกับว่าทุกนาทีมีความสำคัญสำหรับผมมาก แม้ว่าผมจะเสียเวลาไปเพียง 5 หรือ 10 นาที ผมจะรู้สึกเหมือนมีคนขโมยมันไปจากผม ”

เขาตระหนักว่าการดำเนินต่อไปเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ครั้งหนึ่งสถานที่จัดส่งหนังสือพิมพ์ยังไม่เปิด เขาคิดว่า “บางทีผมแค่วางหนังสือพิมพ์ไว้ข้างนอกประตูแล้วไม่ต้องอยู่รอก็ได้” แต่ถ้าเขาทำเช่นนี้ก็เหมือนว่าเขาทำงานยังไม่สมบูรณ์ ในทางตรงกันข้าม มันก็เลยตี 2 แล้ว และเขาต้องออกจากบ้านก่อนตี 5 เพื่อทำธุรกิจของเขาเอง เขาไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี

ระหว่างรอเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาอ่านฝ่า น่าอัศจรรย์ที่มีผู้เช่าห้องคนหนึ่งในอาคารนั้นออกมา ย่านหลินจึงส่งหนังสือพิมพ์ได้อย่างปลอดภัยและได้กลับบ้าน

ตั้งแต่นั้นมาย่านหลินบอกว่าเขาไม่ยึดติดกับเวลาอีกต่อไป เขาเลิกกังวลว่าจะมีเวลานอนเพียงพอไหม เขามีวิธีคิดว่า “สิ่งต่าง ๆ จะคลี่คลายได้” “เมื่อผมละทิ้งจิตยึดติด ผมพบว่าตัวเองมีเวลามากขึ้น และใช้เวลาของผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ค้นหาจากภายใน

ซิ่วอิงเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนประถมศึกษาที่เกษียณแล้ว เธอเป็นประธานคณะกรรมการบริษัทความงามทางการแพทย์และเป็นประธานสโมสรไลออน เธอเป็นคนเก็บตัวและไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง เธอสังเกตเห็นในสิ่งตรงกันข้ามว่าผู้ฝึกบางคนทำได้ดีในการอธิบายความจริงให้คนทราบ

หลังจากเป็นผู้จัดการสำนักงานของดิอิพ็อกไทมส์ ซิ่วอิงรู้สึกลังเลและกลัวที่จะโพรโมตสื่อ เธอหวนคิด “ไม่นานนี้บริษัทของฉันเพิ่งคัดเลือกหุ้นส่วนที่มีความสามารถมากมาร่วมงาน เธอสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดี และนำกลุ่มคนที่มีรายได้สูงมาทำการรักษาทางด้านความงามด้วยการแพทย์” “ฉันเห็นช่องโหว่ของฉัน รวมทั้งความคิดแบบมนุษย์หลายอย่าง เช่น ความหวาดกลัว ความกังวล และความคิดเชิงลบ”

เมื่อเธอตรวจสอบตัวเอง ซิ่วอิงตระหนักว่าแม้เธอจะเข้าร่วมกับองค์กรมากมาย แต่เธอไม่เก่งในด้านสื่อสารกับคนอื่น ดังนั้นเธอจึงแนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่าให้คนอื่นหรือโพรโมตเสิ่นยวิ่นได้ไม่ดี นี่ทำให้เธอรู้สึกว่าเสียเงินและเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

ผ่านการศึกษาฝ่าและแลกเปลี่ยนกับคนอื่น เธอเข้าใจว่าท่านอาจารย์จัดวางเส้นทางของผู้ฝึกทุกคน “มิเช่นนั้น ฉันคงไม่อยู่ในสโมสรไลอ้อนและอุตสาหกรรมความงามทางการแพทย์ได้นานอย่างนี้ ฉันต้องทะลวงผ่านไปให้ได้” เธอคิด

ด้วยความเข้าใจและความเต็มใจที่จะยกระดับ สถานการณ์จึงเปลี่ยนไป เธอสัมผัสได้อย่างสุดซึ้งถึงพลังของความคิดถูกต้องเมื่อเธอไปเยี่ยมองค์กรหรือธุรกิจการค้าต่าง ๆ “เจ้าของธุรกิจจำนวนมาก สมัครเป็นสมาชิกหรือบริจาคให้ดิอิพอกไทมส์ บางแห่งให้การอุปถัมภ์ทางการเงิน เอกสารที่ฉันนำมาเพื่อกิจกรรมเหล่านี้เกือบหมดก่อนที่ฉันจะเข้าไปในสถานที่จัดงานอีก” เธอรู้สึกซึ้งใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และตั้งตารอที่จะเข้าร่วมในกิจกรรมอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น

“ฉันรู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะการจัดวางของท่านอาจารย์” เธออธิบาย “ท่านอาจารย์สร้างเส้นทางสำหรับเราแล้ว เราแค่ต้องก้าวเท้าไปบนเส้นทางนี้ด้วยหัวใจของเรา”

ฝ่าอุปสรรค

การเลี้ยงหอยนางรมเป็นงานที่น่าเบื่อและยากลำบาก จินเหมียนเห็นใจสามีของเธอเธอจึงปล่อยให้เขานอนในขณะที่เธอทำทุกอย่างจนเสร็จ เธอบอกว่า “โดยปกติคนจะรู้สึกเหนื่อยหลังจากทำงานหลายชั่วโมง” “แต่หลังจากที่ฉันทำสิ่งต่าง ๆ เสร็จและได้อาบน้ำ ฉันก็รู้สึกมีกำลังวังชาอีกครั้งและไม่เหนื่อยเลย”

จินเหมียนมักจะดูแลหอยนางรมในช่วงกลางวัน และโทรศัพท์ไปประเทศจีนด้วย ประชาชนจีนจำนวนมากถูกล้างสมองด้วยคำโฆษณาชวนเชื่อให้เกลียดชังต้าฝ่าของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พวกเขาจำเป็นต้องรู้ความจริง เธออธิบาย

แต่การรักษาตารางเวลาของเธอไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากฟาเจิ้งเนี่ยนตอนเที่ยงคืน เธอมักจะอ่านฝ่าร่วมกับผู้ฝึกอื่น เธอมักตื่นนอนหลังตี 3 โดยได้นอนน้อยกว่าสองชั่วโมง อย่างไรก็ตามเธอพยายามเข้มงวดกับตัวเอง “เมื่อฉันย่อหย่อนเป็นครั้งคราว ท่านอาจารย์จะ บอกใบ้บางอย่างแก่ฉันผ่านความฝัน” เธอหวนคิด “คืนหนึ่งฉันฝันว่าหลังคารั่ว และบ้านของเราถูกน้ำท่วม ฉันตระหนักได้ในทันทีว่าการบำเพ็ญเป็นเรื่องจริงจังและไม่มีที่ว่างให้ย่อหย่อน”

บางครั้งเธองีบหลับหลังจากฝึกท่าในตอนเช้า “เมื่อเกิดเช่นนั้น ฉันฝันว่าฉันหาถนนกลับบ้านไม่ได้ หรือฉันทำกุญแจรถหาย บางครั้งฉันรู้สึกว่าผู้ฝึกอื่นทิ้งฉันไว้ข้างหลัง” เธอกล่าวเสริม

เธอรู้สึกขอบพระคุณท่านอาจารย์มากที่ชี้แนะเธอ “เมื่อเรายังคงถูกต้องและไม่เห็นแก่ตัว ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น” เธออธิบาย “นี่คือพลังของต้าฝ่า และฉันรู้สึกโชคดีมาก”

ท่องจำหลักการของฝ่า

เซิ่งจื้ออาศัยอยู่ในไถจง เขาตัดสินใจท่องจำคำสอนและยืดเวลาการฝึกท่าในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ได้ดียิ่งขึ้น เขาพูดว่า “เมื่อผมประสบกับความขัดแย้ง ผมก็จำฝ่าได้ มันง่ายขึ้นสำหรับผมที่จะค้นหาจากภายในและปล่อยวางความคิดที่ไม่ดี” นี่ช่วยให้เขาสงบในเวลานั่งสมาธิด้วย สุขภาพร่างกายของเขาก็ดีขึ้นมากเช่นกัน หลังของเขา กลับมาตรงอีกครั้งและแม้กระทั่งลมหายใจที่เคยเหม็นก็หายไป

แปดปีผ่านไปนับตั้งแต่เขาเริ่มฝึกในปี 2013 เซิ่งจื้อหวนนึกว่าเขาเคยทรมานจากกระดูกงอก ข้อไหล่ติด นิ่วในถุงน้ำดี และความดันโลหิตสูง เขาเริ่มเรียนรู้ท่าฝึกตามคำแนะนำของเพื่อน เขาบอกว่า “ภายในหนึ่งเดือน ความดันโลหิตสูงของผมก็หายไป และความเจ็บปวดจากกระดูกงอกก็ลดลงด้วย ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่จำเป็นต้องไปผ่าตัดตามหมายกำหนดการแล้ว”

ต่อมาเขาเรียนรู้ถึงความสำคัญของการอ่านฝ่า นอกเหนือจากการฝึกท่า “ทั้งผมและภรรยาเป็นผู้บำเพ็ญ เมื่อไรที่เรามีความขัดแย้ง เราจะท่องฝ่าและปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข” เขากล่าว

ยู่ฉุนจากอำเภอหนานเถาเล่าว่าเธอท่องจำคำสอนอย่างไร เธอฝึกมาเกือบ 20 ปีแล้ว เธอรู้ถึงความสำคัญของการปรับปรุงนิสัยใจคอ ประมาณสามปีที่แล้ว เธอเริ่มท่องจ้วนฝ่าหลุน การท่องครั้งแรกใช้เวลาประมาณ 10 เดือน และครั้งที่สองใช้เวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้น จากนั้นเธอเริ่มคัดลอกหนังสือด้วยมือ

“หลักการ ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ลึกซึ้งมาก” เธอพูด “หลักการนี้ชี้นำฉันทั้งในการทำงานและในชีวิต ช่วยให้ฉันยกระดับตัวเองในการเดินทางกลับสู่ตัวเองที่แท้จริงอย่างต่อเนื่อง”

บทความ กราฟิก และเนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บน Minghui.org มีลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ทำสำเนาที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้ แต่ต้องระบุแหล่งที่มาพร้อมชื่อบทความและลิงก์ไปยังบทความต้นฉบับ