(Minghui.org) สถานกงสุลจีนในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียติดต่อกับรัฐบาลเมืองเพิร์ธหลายครั้ง พวกเขาพยายามเกลี้ยกล่อมเจ้าหน้าที่ของเมืองให้หยุดออกใบอนุญาตให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงทำกิจกรรมและทำการประท้วง

ตามรายงานข่าวของ นาธาน ฮอนดรอส ที่เผยแพร่โดยสื่อดิจิทัล ดับเบิลยูเอทูเดย์ (WAtoday) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2020 สถานกงสุลจีนติดต่อไปที่คณะบริหารระดับสูงของเมืองบ่อย ๆ เพื่อร้องทุกข์เกี่ยวกับการประท้วงของผู้ฝึกฝ่าหลุนกง แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธคำร้องเหล่านี้ตลอดมา

แอน แบงส์-แม็กอัลลิสเตอร์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาชุมชนของเมืองเพิร์ทบอกกับฮอนดรอสว่า เมืองเพิร์ทได้บันทึกคำร้องของสถานกงสุลไว้แล้ว แต่ยังคงออกใบอนุญาตให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงทำกิจกรรม เพราะพวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด

https://en.minghui.org/u/article_images/2019-7-26-west-australia-supports_02_4enezon.jpg

https://en.minghui.org/u/article_images/2019-7-26-west-australia-supports_05_HhJlZBf.jpg

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการประทุษร้ายที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีนบริเวณย่านศูนย์กลางธุรกิจของเมืองหลวงเมื่อวันที่ 19 และ 20 กรกฎาคม 2019

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจัดกิจกรรมทั่วย่านศูนย์กลางธุรกิจของเมืองและบริเวณใกล้เคียงสำนักงานกงสุลจีนเป็นประจำ เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องพรรคคอมมิวนิสต์จีนทรมานและกักขังผู้ฝึกอย่างผิดกฎหมายเนื่องจากความเชื่อของพวกเขา

ในปี 2018 สื่อออสเตรเลียเปิดโปงเรื่องที่สถานกงสุลจีนพยายามขัดขวางฝ่าหลุนกงไม่ให้เข้าร่วมขบวนพาเหรดคริสต์มาสในเมืองเพิร์ธ ทั้งนี้ฝ่าหลุนกงได้เข้าร่วมขบวนพาเหรดทุกปีมาตั้งแต่ปี 2008

อัลเบิร์ต หลิน ตัวแทนของสมาคมฝ่าหลุนต้าฝ่าแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าวว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนพยายามหยุดการประท้วงอย่างสันติของพวกเขามานับครั้งไม่ถ้วน “เมืองเพิร์ธทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” เขากล่าว

หลินบอกว่าผู้ฝึกถูกรังควานหรือถูกคุมคามในเมืองเพิร์ธบ่อย ๆ

“มีคนที่ดูไม่น่าไว้ใจสร้างปัญหาให้กับบูธข้อมูลข่าวสารของเราในเมือง พวกเขาตะโกนใส่คุณ และคุณคุยกับพวกเขาโดยใช้เหตุผลไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ชายคนหนึ่งตะโกนใส่เราในกิจกรรมที่เราจัดในเมืองเมื่อปีที่แล้ว ผู้ที่เดินผ่านมาสามคนขอให้เขาหยุด แต่เขาไม่ยอม พอพวกเขาโทรหาตำรวจ ชายคนนั้นก็รีบเดินออกไป” หลินกล่าว

ชาวออสเตรเลียให้ความสนใจกับการแทรกซึมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเผยแพร่รายงานจำนวนนับไม่ถ้วนในสื่อของออสเตรเลียเกี่ยวกับการแทรกซึมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานเหล่านี้ทำให้ผู้แทนราษฎรสนใจ รวมทั้งชาวออสเตรเลียทั่วไปด้วย

หลินบอกหมิงฮุ่ยว่า สมาชิกสหพันธรัฐในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเคยเล่าเรื่องหนึ่งให้เขาฟัง ทำให้เข้าใจความพยายามของระบอบคอมมิวนิสต์ที่ต้องการมีอิทธิพลต่อการเมืองของออสเตรเลียได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

“สมาชิกสหพันธรัฐคนหนึ่งชนะในการเลือกตั้งเมื่อหลายปีก่อน เมื่อเขาอยู่ในตำแหน่ง เขาต้องคอยปฏิเสธคำขอเข้าพบของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอยู่เรื่อย ๆ เมื่อผมได้พบกับนักการเมืองคนนี้ในอีกไม่กี่ปีต่อมา เขาบอกผมว่าเขาได้รับจดหมายจากเอกอัครราชทูตจีนประจำออสเตรเลียหลังจากที่เขาชนะการเลือกตั้ง เตือนเขาว่าอย่าพบผู้ฝึกฝ่าหลุนกง เขาตกใจและโกรธในความไร้มารยาทของเอกอัครราชทูตคนนี้ แต่เขาเลือกที่จะทำตามคำเตือนนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเขาได้ประโยชน์ที่ทำเช่นนั้นด้วย” นายหลินกล่าว

พรรคคอมมิวนิสต์จีนพยายามที่จะมีอิทธิพลต่อสังคมออสเตรเลียโดยการติดสินบนนักการเมือง บริจาคหรือให้การช่วยเหลือเพื่อให้มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบาย ควบคุมองค์กรนักศึกษาและสื่อจีนในออสเตรเลีย และจัดตั้งองค์กรต่าง ๆ เช่น สถาบันขงจื๊อ ฯลฯ

เฉิน หย่งหลิน ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่สถานกงสุลจีนที่แปรพักตร์ไปออสเตรเลียในปี 2005 เขียนบทความหนึ่งให้ China in Perspective ในเดือนสิงหาคม 2016 เตือนว่ารัฐบาลออสเตรเลียทำให้ออสเตรเลียค่อย ๆ กลายเป็นสวนหลังบ้านของจีน เฉินเขียนว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มใช้ความพยายามที่มีการตระเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อแทรกซึมออสเตรเลียอย่างเป็นระบบ”

ดันแคน ลิวอิส อดีตหัวหน้าองค์กรข่าวกรองเพื่อความมั่นคงของออสเตรเลีย (Australian Security Intelligence Organisation, ASIO) ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ (Sydney Morning Herald) ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนพฤศจิกายน 2019 ว่าใครก็เป็นเป้าหมายทางการเมืองได้ เจ้าหน้าที่จีนทำงานเพื่อให้มีอิทธิพลเหนือแวดวงสังคม ธุรกิจ และสื่อ รวมทั้งตั้งเป้าหมายที่นักการเมือง เพื่อให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ

ลิวอิสเคยเป็นอธิบดีด้านความมั่นคงของ ASIO เป็นเวลาห้าปี ASIO เป็นหน่วยข่าวกรองและมีบทบาทหลักคือการป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศ

เขากล่าวอย่างไม่ลังเลในการให้สัมภาษณ์ว่า “การบุกรุกต่างประเทศอย่างลับ ๆ จากประเทศจีนเข้าไปยังใจกลางของการเมืองออสเตรเลียมีอย่างท่วมท้น” และเป็น “สิ่งที่เราต้องระวังให้มาก ๆ”

เขายังบอกกับ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ ว่า “ประชาคมชาวจีน - ออสเตรเลียสามารถและควรมีความสำคัญยิ่งในการทำงานต่อต้านอิทธิพลแอบแฝงจากต่างประเทศ”