นิวซีแลนด์ : ผู้ฝึกขอบพระคุณและอวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์

(Minghui.org) สำหรับหลายคน ปีใหม่เป็นโอกาสเพื่อไตร่ตรองและเฉลิมฉลอง ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ารวมตัวกันในสวนสาธารณะ Auckland Domain ในนิวซีแลนด์เพื่ออวยพรปีใหม่ให้ท่านอาจารย์หลี่หงจื้อ พวกเขาหวนคิดถึงเส้นทางการบำเพ็ญของพวกเขาและตั้งใจจะฝึกอย่างขยันขันแข็งในอนาคต พวกเขาแสดงความขอบคุณต่อท่านอาจารย์ที่แนะนำต้าฝ่า และช่วยให้พวกเขารู้ความหมายที่แท้จริงของชีวิต การบำเพ็ญช่วยให้พวกเขาหายจากความเจ็บป่วยและช่วยยกระดับจิตใจด้วยการปฏิบัติตามหลักการของต้าฝ่าคือความจริง - ความเมตตา – ความอดทน ในปีที่กำลังจะมาถึง พวกเขามุ่งมั่นที่จะบำเพ็ญอย่างขยันขันแข็ง พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ผู้คนรู้ความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าและคู่ควรกับบุญคุณของท่านอาจารย์ที่ช่วยเหลือพวกเขา

ผู้ฝึกจากชานเมืองตอนกลางของโอ๊คแลนด์ขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

ผู้ฝึกจากชานเมืองทางตะวันออกและทางใต้ของโอ๊คแลนด์ขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

ผู้ฝึกจากชายฝั่งทางเหนือของโอ๊คแลนด์ขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

ผู้ฝึกวัยเยาว์ในโอ๊คแลนด์ขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

วาทยกรของวงโยธวาทิต : โชคดีที่สุดที่ได้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

หลวน หลิงขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

หลวน หลิง เป็นครูสอนเปียโน เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในสิงคโปร์เมื่อปี 2004 ชีวิตของเธอยากลำบาก เธอหย่าร้างและต้องเลี้ยงลูกสาวด้วยตัวเอง เธอถูกโกงและสูญเสียเงิน เมื่อผู้ฝึกในท้องถิ่นรู้ถึงความยากลำบากของเธอ พวกเขาก็ปลอบโยนเธอ และแนะนำคำสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าให้เธอ พร้อมกับสาธิตท่าฝึกให้เธอดู เธอซาบซึ้งใจมาก เมื่อเธอเริ่มปฎิบัติตามคำสอนและบำเพ็ญด้วยตนเอง เธอสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เนื่องจากเธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่นเปียโนและสอนเปียโน เธอมีอาการปวดหลังและกระดูกสันหลังส่วนคองอกเกินและนั่งลำบาก เธอทดลองรับประทานยาทั้งยาตะวันตกและยาจีน แต่ก็ไม่มีอะไรช่วยได้ อาการของเธอทุเลาลงหลังจากเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า วันหนึ่งขณะที่เธอนั่งสมาธิอยู่ เธอมองเห็นผ่านตาทิพย์ว่ามีบางสิ่งออกจากร่างกายของเธอ หลังจากนั้นอาการปวดหลังของเธอก็หายไป เธอรู้สึกว่าฝ่าหลุนต้าฝ่ามหัศจรรย์มาก

หลังจากประสบการณ์นี้ เธอเริ่มศึกษาฝ่าอย่างจริงจัง เธอสงสัยว่าเหตุใดผู้คนจำนวนมากจึงสนใจหลักการของ ความจริง - ความเมตตา - ความอดทน และฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ผู้ฝึกชาวสิงคโปร์ที่ร่ำรวยในท้องถิ่นบางคนอธิบายความจริงแก่ผู้คนตลอดทั้งปี พวกเขาใช้ชีวิตเรียบง่าย พวกเขาไม่แสวงหาชื่อเสียงหรือต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว หลังจากฝึก หลวน หลิง อารมณ์เย็นลงและลดความยึดมั่นในความสมบูรณ์แบบของเธอลงได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางบวกของเธอ ครอบครัวของเธอจึงสนับสนุนให้เธอฝึก

เธอย้ายไปนิวซีแลนด์ในปี 2007 เนื่องจากวงโยธวาทิตเทียนกั๋วในท้องถิ่นต้องการนักดนตรีมืออาชีพ เธอจึงมาเป็นวาทยกร เธอเป็นผู้ดูแลการสอนทฤษฎีดนตรี สอบสมาชิกในวง ฝึกซ้อม ประสานงาน และควบคุมวง เธอดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลา 14 ปีแล้ว เธอรู้สึกว่าได้ยกระดับหลังจากผ่านความขัดแย้งทางซินซิ่งและผ่านความยากลำบาก

หลวน หลิง พูดว่า “ตอนนั้นฉันรู้ว่าถึงเวลาที่ต้องก้าวขึ้นไปและยกระดับ ! ฉันจำเป็นต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้และช่วยเหลือผู้คน ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องปล่อยวางอัตตาของฉัน” เมื่อวงโยธวาทิตเทียนกั๋วของนิวซีแลนด์พัฒนาขึ้น วงก็ได้เข้าร่วมในกิจกรรมมากมายและได้รับรางวัลหลายรางวัล ชาวนิวซีแลนด์เห็นความงดงามของฝ่าหลุนต้าฝ่าและเห็นพฤติกรรมของผู้ฝึกผ่านการแสดงของวง

หลวน หลิง พูดว่าเธอรู้สึกขอบคุณมากสำหรับโอกาสเหล่านี้ “มีเพียงเมื่อฉันนำหลักการของต้าฝ่ามาใช้ระหว่างมีความขัดแย้งและการทดสอบทางซินซิ่ง ฉันจึงได้รู้ว่าฝ่านี้ยิ่งใหญ่เพียงใด ฉันต้องทำให้ดี และเป็นศิษย์ต้าฝ่าที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในช่วงเวลาของการเจิ้งฝ่านี้ ฉันโชคดีอย่างที่สุดที่ได้รับฝ่า ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยฉัน ฉันขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์ !”

ผู้ฝึกสาวปฏิเสธที่จะคล้อยตามความตกต่ำของสังคม

กลอเรีย เจิงขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

กลอเรีย เจิง กลับมาฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอีกครั้งหลังจากที่เธอหลงทางในโลกวัตถุ เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ากับพ่อแม่ของเธอเมื่อเธอยังเด็กมาก แม้เธอจะฝึกเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่หลักการของความจริง - ความเมตตา - ความอดทน ก็หยั่งรากอยู่ในใจของเธอ เธอเรียนหนักที่โรงเรียนและได้คะแนนสูงสุดในห้อง เธอมีความมั่นใจและทะเยอทะยาน พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มการรณรงค์ที่เลวร้ายเพื่อสร้างระบบใส่ร้ายการฝึกจิตใจนี้ในปี 1999 ทำให้ผู้ฝึกสูญเสียสภาพแวดล้อมของการบำเพ็ญที่สงบสุข กลอเรียเป็นหนึ่งในผู้ที่หยุดฝึก เมื่อปราศจากหลักการของ ความจริง - ความเมตตา -ความอดทน ในการชี้นำทางเธอ เธอจึงจมดิ่งสู่โลกแห่งวัตถุ เธอเล่าว่า “ฉันเริ่มทำตัวแย่” “ฉันเปลี่ยนเป็นคนที่ชอบแข่งขันและต้องการอยู่เหนือกว่าและแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ฉันคิดว่านั่นเป็นวิธีที่ผู้คนควรจะเป็น”

หลังจากออกจากประเทศจีน เธอเครียดมากและประสบความยากลำบากมากมาย เธอตระหนักว่าเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมผู้คนจึงฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า “หลังจากเผชิญกับความเครียดและความยากลำบากมากมาย ฉันปล่อยวางจิตโอ้อวดและเริ่มอ่านจ้วนฝ่าหลุนอย่างจริงจัง” เธอบอก “ฉันพบว่าทุกคำในหนังสือสอนฉันให้เป็นคนดีได้อย่างไร มีจิตใจสงบและโอบอ้อมอารีกับผู้อื่นได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ฉันไม่ใส่ใจประเด็นเหล่านี้มากนัก”

มันไม่ง่ายเลยที่จะนำหลักการของฝ่าไปปฏิบัติ เพราะเธอต้องปล่อยวางจิตแข่งขันของเธอ “แต่เมื่อฉันอดทนได้ ฉันพบว่าใจของฉันค่อย ๆ เปลี่ยนไปและฉันรู้สึกผ่อนคลาย บางครั้งฉันเห็นรุ้งกินน้ำบนท้องฟ้าหลังจากผ่านการทดสอบ ฉันรู้สึกว่าท่านอาจารย์ให้กำลังใจฉัน”

ผ่านการศึกษาฝ่าอย่างต่อเนื่อง เธอเรียนรู้ที่จะมองเข้าภายในเพื่อค้นหาปัญหาของตัวเองเมื่อมีความขัดแย้ง เธอเปลี่ยนเป็นคนอดทนและเปิดกว้าง เธอเรียนรู้ที่จะปล่อยวางความขุ่นเคืองใจและบำเพ็ญตนเองโดยปฏิบัติตามหลักการของ ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน เธอพูดว่า “ต้าฝ่าสอนให้ฉันมีความอดทนสูงและแบกรับความยากลำบากใหญ่หลวงได้ จึงช่วยให้ฉันเผชิญกับความทุกข์ยากและเคราะห์กรรมได้ และทำให้ฉันกล้าหาญขึ้นและเข้มแข็งขึ้น”

เธอเคยคิดว่าการบำเพ็ญนั้นยากและขมขื่น ดังนั้นเธอจึงหลีกเลี่ยงการทดสอบและไม่ค้นหาจากภายใน “แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกกับการบำเพ็ญในทางบวกและรู้สึกว่าสำคัญมาก ทุกความทุกข์ยากมีค่าเพราะฉันพยายามอย่างดีที่สุดที่จะเป็นคนดีขึ้นทีละน้อย หล่อหลอมตัวเองเข้ากับความจริง - ความเมตตา - ความอดทน และกลายเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น”

ในโลกแห่งวัตถุนี้ กลอเรียได้เลือกต้าฝ่าและต่อต้านทิศทางของกระแสสังคมที่ตกต่ำลง เธอไม่ต้องการไปตามกระแสของชื่อเสียงและผลประโยชน์ทางโลก “ฉันรู้สึกโชคดีมากเพราะฉันได้พบความหมายที่แท้จริงของชีวิตและคุณค่าของมัน ฉันไม่ใช่คนที่ซับซ้อนคนนั้นอีกต่อไปแล้ว”

ใกล้จะปีใหม่แล้ว กลอเรียขอบอกท่านอาจารย์ว่า “ความรู้สึกสำนึกในบุญคุณที่ฉันมีต่อท่านอาจารย์ผู้เมตตาของเรานั้นเหนือคำบรรยาย ฉันจะบำเพ็ญด้วยความขยันหมั่นเพียรต่อไป และให้คู่ควรกับการช่วยเหลือของท่านอาจารย์และพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่าน ฉันขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์ ! ขอบพระคุณท่านอาจารย์ !”

แพทย์ทหารได้ชีวิตใหม่ ขอบคุณฝ่าหลุนต้าฝ่า

ถัน เหว่ย ขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

ถัน เหว่ย เป็นแพทย์ทหารในประเทศจีน เธออ่อนแอและป่วยมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ก่อนเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเธอต้องทนทุกข์จากโรคหอบหืด ไซนัสอักเสบ โรคหูน้ำหนวก โรคกระเพาะเรื้อรัง ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง โรคผิวหนัง และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ต่อมาเธอมีเนื้องอกที่รังไข่ ถ้าผ่าตัดเอาเนื้องอกออก เธออาจกลายเป็นคนที่มีบุตรยาก

เธอมาเจอจ้วนฝ่าหลุนในปี 1996 เธอพูดว่า “เมื่อฉันเปิดหนังสือ คำในหนังสือเปล่งแสงสีเงินออกมา !” “ฉันดีใจมาก จ้วนฝ่าหลุนตอบคำถามมากมายที่ฉันเคยสับสน ฉันมีชีวิตอยู่ทำไม ฉันมาจากไหน อะไรคือความหมายของชีวิต ฉันตระหนักในทันทีว่านี่คือการบำเพ็ญปฏิบัติขั้นสูงสุด ฉันควรศึกษาฝ่ามากขึ้นและบำเพ็ญตัวเองอย่างแข็งแกร่งเพื่อให้มีคุณสมบัติดีพอที่จะเป็นผู้บำเพ็ญ”

ถัน เหว่ย เคยตัดสินผู้คนด้วยความคิดของเธอเอง หลังจากที่เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอเรียนรู้วิธีมองปัญหาจากมุมมองของคนอื่น ตอนนี้เธอช่วยเหลือผู้อื่นอย่างแข็งขัน แม่ของเธอพาเธอไปตรวจสุขภาพ ผลคือเธอไม่มีอาการป่วยแล้ว แพทย์บอกว่ามันน่าทึ่ง เธอแต่งงานและมีลูกหนึ่งคน เธอรู้สึกขอบคุณฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างมากที่ให้ชีวิตใหม่แก่เธอ และให้โอกาสเธอยกระดับตัวเองไปสู่เขตแดนใหม่ เธอเล่าให้ทุกคนที่เธอติดต่อด้วยฟังเกี่ยวกับความสุขที่เธอได้รับ และบอกพวกเขาว่าสิ่งดี ๆ ทั้งหมดที่เธอได้มาจากฝ่าหลุนต้าฝ่า

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1999 ถัน เหว่ย ถูกกักตัวและถูกทรมาน พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำลายชีวิตที่ผาสุกของเธอ สามีของเธอซึ่งเป็นทหารถูกบังคับให้หย่าร้างกับเธอ ลูกชายของเธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนักเช่นกัน แม้ว่าเธอจะผ่านความยากลำบากมากมาย แต่ความเชื่อในฝ่าหลุนต้าฝ่าของเธอก็ไม่เคยสั่นคลอน ลูกชายของเธอเริ่มฝึกหลังจากที่เขาได้เรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า

ถัน เหว่ย และสมาชิกในครอบครัวของเธอขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์ผู้เมตตา ! เธอบอกว่า “ฉันอยากจะขอบคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยเหลือฉัน ฝ่าหลุนต้าฝ่านั้นถูกต้อง ต้าฝ่าขจัดความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยและช่วยให้ฉันค้นพบความหมายที่แท้จริงของชีวิต ฉันไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับชีวิตของฉันอีกแล้ว ฉันได้พบหนทางกลับบ้านเดิมแล้ว”

การฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าถือว่าเป็นเกียรติ

หวาง ซงขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์!

หวาง ซง เป็นเจ้าของธุรกิจปรับปรุงตบแต่งใหม่ในประเทศจีน เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1997 เขาสงสัยเกี่ยวกับความหมายของชีวิตก่อนเริ่มฝึก เขาพูดว่า "การบรรยายฝ่าของท่านอาจารย์เรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่ท่านมอบต้าฝ่าซึ่งเป็นหลักสากลให้ผม ท่านมอบบันไดสู่สวรรค์ให้ผม”

หวาง ซง บอกว่ามุมมองของเขาที่มีต่อโลก ชีวิต และค่านิยมเปลี่ยนแปลงไปหลังจากผ่านการบำเพ็ญอย่างมั่นคง เขาตระหนักว่าเขาเคยทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความเห็นแก่ตัว เขาเคยใช้ความรู้สึกของตัวเองก่อนอย่างอื่นและคิดว่าเขามีเหตุผล หลังจากที่เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาตระหนักว่าเขาควรคิดถึงคนอื่นก่อน และเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว

หวาง ซง บอกว่าเขาเคยเป็นคนชอบแข่งขันและไม่ยอมพ่ายแพ้ หลังจากที่เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาตระหนักว่าเขามีจิตแข่งขันที่ต้องปล่อยวาง และควรปฏิบัติตามวิถีของธรรมชาติ เขาเข้าใจว่าภารกิจของเขาคืออะไร และเห็นว่าโลกนี้เปรียบเสมือนโรงแรม และงานเป็นเพียงหนทางหนึ่งในการเลี้ยงดูครอบครัวของเขา ชื่อเสียง ผลประโยชน์ส่วนตัว และอารมณ์ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรแสวงหา เขาควรค้นหาจากข้างในเมื่อประสบปัญหา หวาง ซง บอกว่า ตอนนี้เขาเข้าใจว่าทุกสิ่งที่ผู้ฝึกพบเจอไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขารู้สึกสำนึกในพระคุณของท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงที่ช่วยเหลือเขา

เขาย้ายไปนิวซีแลนด์ในปี 2015 และเริ่มเข้ากลุ่มอ่านฝ่ากับผู้ฝึกในท้องที่ และฝึกท่ากับผู้ฝึกคนอื่น ๆ เขาเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อบอกผู้คนเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย เขาเป็นสมาชิกของทีมเต้นรำมังกร เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผู้คนได้รู้ความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า เพื่อให้พวกเขาสามารถแยกแยะความดีจากความชั่วได้

หวาง ซง พูดว่า “มีคำกล่าวในชุมชนผู้บำเพ็ญว่า 'ยากนักที่จะได้ร่างกายมนุษย์ ยากนักที่จะเกิดในประเทศจีน ยากนักที่จะได้ยินพุทธธรรม โอกาสในการบำเพ็ญเป็นสิ่งมีค่าอย่างที่สุด ฝ่าหลุนต้าฝ่าคือวิถีแห่งการบำเพ็ญขั้นสูงสุด ความจริง - ความเมตตา – ความอดทน คือหลักการบำเพ็ญ’ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบโอกาสหนึ่งเดียวในรอบสหัสวรรษนี้และได้รับต้าฝ่า เนื่องในโอกาสปีใหม่ที่ใกล้เข้ามา ผมขออวยพรปีใหม่ท่านอาจารย์ ! ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์สำหรับการช่วยเหลือของท่าน !”

บทความ กราฟิก และเนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บน Minghui.org มีลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ทำสำเนาที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้ แต่ต้องระบุแหล่งที่มาพร้อมชื่อบทความและลิงก์ไปยังบทความต้นฉบับ