(Minghui.org) สวัสดีท่านอาจารย์ ! สวัสดีเพื่อนผู้ฝึก !

ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า 20 กว่าปีมาแล้ว พอมองย้อนกลับไป ฉันคิดว่าฉันล้มลุกคลุกคลานมามากในเส้นทางการบำเพ็ญของตัวเอง บางครั้งฉันบำเพ็ญอย่างขยันขันแข็ง แต่บางเวลาฉันก็ย่อหย่อน ฉันสามารถรักษาความคิดถูกต้องได้เป็นครั้งคราว แต่ฉันมีพฤติกรรมที่แย่มากเวลาที่ไม่สามารถปล่อยวางจิตยึดติดที่แข็งแกร่งได้ ฉันรู้สึกสำนึกในบุญคุณของท่านอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาของเราที่ไม่ทิ้งฉันและให้โอกาสฉันได้ยกระดับอย่างต่อเนื่อง

ฉันออกจากประเทศจีนและย้ายไปอยู่ฮ่องกงเพื่อทำงานที่นั่น ฉันขอแบ่งปันประสบการณ์การบำเพ็ญในที่ทำงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ของฉัน

วันหนึ่งหลังฝึกที่สนามฝึกเสร็จ ผู้ฝึกเก่าคนหนึ่งเตือนใจฉันว่าท่านอาจารย์พูดว่า “เจิ้งเนี่ยน ต้องสวดมนต์ด้วยใจที่จดจ่อ” (บทที่ 5 จ้วนฝ่าหลุน) เธอบอกว่าเธอเตือนตัวเองอย่างนี้เสมอก่อนอ่านฝ่า มันช่วยให้เธอสำรวมใจได้มากเมื่อเธออ่านคำสอน

คำพูดของเธอโดนใจฉันจริง ๆ ระหว่างทางไปทำงาน ฉันหวนนึกได้ว่าท่านอาจารย์เคยบอกพวกเราในหนังสือ จ้วนฝ่าหลุน ว่าควรประพฤติตนอย่างไรในการบำเพ็ญ ในการทำงาน และในชีวิตประจำวันของเรา เมื่อฉันตรึกตรอง น้ำตาก็ไหลอาบแก้ม และฉันถามตัวเองว่าฉันประพฤติตนได้ตามที่ท่านอาจารย์กำหนดหรือเปล่า

ฉันเป็นคนทะเยอทะยานเสมอ ตอนอยู่โรงเรียนประถมศึกษา ครูของฉันบอกแม่ของฉันว่า “ลูกสาวของคุณช่างทะเยอทะยานจริง ๆ” ฉันได้คะแนนดีเสมอ หลังเรียนจบฉันได้งานในบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ จาก “ความทะเยอทะยาน” ของฉัน ฉันได้พัฒนาจิตยึดติดที่รุนแรงต่อชื่อเสียงและผลประโยชน์ส่วนตน ตลอดจนการแข่งขัน ความอิจฉาริษยา และการโอ้อวด เมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่ฉันคิด ความโกรธเคืองของฉันก็ปรากฏออกมาทันที ฉันรู้ว่าฉันต้องกำจัดจิตยึดติดเหล่านี้ แต่ฉันมักคล้อยตามมันไปบ่อย ๆ บางครั้งฉันถูกทดสอบซินซิ่งจนถึงแก่น ฉันเจ็บปวดมากระหว่างก้าวข้ามบททดสอบ—เหมือนที่ท่านอาจารย์เขียนไว้ในบทกวี :

“บำเพ็ญไม่ยาก

ใจขจัดทิ้งลำบาก

...”

(“ตัดขาด” หงอิ๋น 2)

ฉันขอแบ่งปันประสบการณ์การบำเพ็ญในการทำงานของฉันกับคุณ

ขจัดวัฒนธรรมพรรคที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึก

ก่อนฉันมาฮ่องกง ฉันทำงานในองค์กรระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่สาขาประเทศจีน เพื่อนร่วมงานของฉันส่วนใหญ่เป็นชาวจีน หลังจากที่ฉันเริ่มทำงานในฮ่องกง ฉันสังเกตว่าความอิจฉาริษยาและการแข่งขันที่เป็นเรื่องปกติในประเทศจีนแทบไม่ปรากฏหรือไม่มีในหมู่เพื่อนร่วมงานในฮ่องกงเลย คนในทีมของฉันต่างจิตใจดีและใจเย็น พวกเขาให้ความช่วยเหลือฉันและไม่แข่งขัน พวกเขาร่วมมือกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ฉันถูกปลูกฝังความเชื่อของวัฒนธรรมพรรคคอมมิวนิสต์จีน บางครั้งฉันรู้สึกละอายใจที่ฉันพูดไม่นุ่มนวลเท่าแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานที่ไม่ใช่ผู้ฝึกด้วยซ้ำ

เพื่อนร่วมงานคนใหม่จากจีนแผ่นดินใหญ่มาร่วมทีมของเราหลังฉันไม่นาน เขาก้าวร้าว ฉันกับเพื่อนร่วมงานรู้สึกถูกเขากดดัน ฉันเปลี่ยนเป็นมีอคติกับเขาและทนวิธีที่เขาพูดไม่ได้ในบางครั้ง วันหนึ่งในที่ประชุม เขาให้ข้อเสนอแนะที่ดีมาก เจ้านายของเราตอบรับในทันที ฉันรู้สึกอึดอัดและรับรู้ถึงจิตอิจฉาริษยาของฉันได้ทันที

พูดถึงจิตอิจฉาริษยา ท่านอาจารย์กล่าวว่า

“...ถ้าคนอื่นได้ดี ไม่ใช่ดีใจแทนคนอื่น แต่ในใจกลับไม่สมดุล” ( บทที่ 7 จ้วนฝ่าหลุน)

ทำไมฉันไม่ดีใจกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่เมื่อเจ้านายชมเขา ฉันค้นหาจากภายในและพบว่าฉันกำลังแข่งกับเขา จิตยึดติดต่อการแข่งขันของฉันปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมฉันจึงแข่งกับเขา มันเป็นเพราะฉันต้องการเกียรติยศชื่อเสียง ฉันเพิ่งเข้าร่วมทีมนี้ และฉันต้องการสร้างชื่อด้านดีให้กับตัวเอง ช่างเป็นจิตยึดติดที่รุนแรงอะไรเช่นนี้ !

ความอิจฉาริษยา การแข่งขัน และการแสวงหาชื่อเสียง ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของตัวตนที่แท้จริงของฉัน ฉันต้องกำจัดสิ่งเหล่านี้ทิ้งไป มันเป็นขั้นตอนที่ยากสำหรับฉัน ฉันมีประชุมมากมายในที่ทำงาน ฉันรู้สึกเศร้าใจเมื่อฉันตอบคำถามที่เพื่อนร่วมงานถามไม่ได้ ฉันตระหนักว่ามันเป็นจิตยึดติดต่อเกียรติยศชื่อเสียงของฉัน

ครั้งหนึ่งเพื่อนร่วมงานคนใหม่ถามคำถามฉันซึ่งฉันต้องวิเคราะห์ให้ ฉันให้คำตอบเขาทั้งหมด แต่แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่าฉันควรอธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อยเพื่อให้เขาทำงานโดยไม่เดินทางอ้อม ฉันรู้ได้อย่างไร เพราะฉันเคยเดินทางอ้อมด้วยคำถามที่คล้ายกันตอนที่ฉันเริ่มทำงานที่นั่น ฉันคิดว่า “ฉันควรบอกเขาไหม แน่นอนฉันควรบอกเขา ไม่เช่นนั้นเธอก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นผู้ฝึกต้าฝ่า” ฉันตอบคำถามเขาอย่างละเอียด เมื่อเขาต้องการข้อมูลของฉัน ฉันก็ให้ข้อมูลกับเขาทั้งหมดโดยไม่ลังเล

ในระหว่างขั้นตอนนี้ ความอิจฉาริษยาของฉันค่อย ๆ อ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ แต่มันยังมีอยู่ ฉันยังคงมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับเขาบ้าง มีอีกครั้งหนึ่งที่เขาไม่ให้ความร่วมมือกับฉันดีนัก ฉันยังคงทำงานของฉันต่อได้ด้วยดี แต่มีความคิดเล็ก ๆ แวบเข้ามาในหัวของฉันว่า : “เขาตบตา” นั่นทำให้ฉันระวัง ทำไมฉันมีความคิดแบบนี้กับเขา

ฉันมองออกข้างนอก ฉันไม่ได้ค้นหาจากภายในเพื่อดูว่ามีอะไรที่ฉันทำได้ไม่ดีหรือเปล่า ปฏิกิริยาแรกของฉันกลับเป็นตำหนิคนอื่น ท่านอาจารย์บอกให้เราค้นหาจากภายใน ทำไมฉันมองออกไปข้างนอก ฉันมองออกข้างนอกเพราะฉันรู้สึกมีอะไรกวนใจ มันคือความอิจฉาริษยา ยิ่งกว่านั้นคือถ้าฉันมีความคิดในทางลบกับเขา ฉันจะเมตตาเขาและช่วยเหลือเขาได้อย่างไร ฉันไม่ควรมีความคิดด้านลบกับใคร

ฉันอธิบายความจริงให้เขาฟังหลังจากโรคระบาดเกิดขึ้น ฉันเริ่มการสนทนาของเราด้วยการขอโทษ ฉันพูดว่า “ฉันขอโทษที่ฉันทำไม่ดี ฉันทำไม่ดีในตอนแรกที่คุณมาร่วมทีม” เขายิ้มและพูดว่า “ไม่เลย” ฉันขอให้เขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและองค์กรในเครือ เขาตอบว่า “ขอบคุณที่บอกผมเรื่องนี้ แต่ผมจำไม่ได้ว่าผมกล่าวคำปฏิญาณหรือเปล่า ผมขอคิดดูก่อน” ครั้งนี้ฉันไม่มีความคิดที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาเลย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ฉันจะคิดว่า “เขากำลังพยายามหลีกเลี่ยงฉัน” แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันบำเพ็ญได้ไม่ดี ฉันควรบำเพ็ญตัวเองต่อไปและหาโอกาสอื่นเพื่อช่วยเขา

ในบริษัทเดิมของฉัน เรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ที่เรื่องใหญ่มากกว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เช่นนั้นเราจะพลาดภาพใหญ่และจมอยู่กับรายละเอียดที่น่าเบื่อและปฏิบัติไม่ได้ แต่บริษัทที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ฉันและเพื่อนร่วมงานต้องใช้เวลามากมายกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกคนบ่นว่าเสียเวลา

ปัญหาคอมพิวเตอร์ชี้ให้เห็นจิตยึดติดที่ซ่อนอยู่ของฉัน

วันหนึ่งฉันต้องใส่ข้อมูลจำนวนหนึ่งเข้าระบบก่อนการประชุมที่สำคัญ แต่ระบบขึ้นข้อความว่า "ไม่" ซึ่งบ่งบอกว่ามีปัญหากับข้อมูล ระบบไม่ขึ้นข้อความ “ใช่” และไม่ยอมให้ฉันเข้าระบบ ฉันคิดว่าฉันใจร้อน ฉันเป็นคนหมดความอดทนง่ายจริง ๆ ฉันมักถูกถาถมด้วยงานที่น่าเบื่อและจุกจิกจนแทบจะทนไม่ไหว ฉันควรจะอดทน ปัญหาของระบบดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่จะช่วยฉันให้กำจัดความไม่อดทนของตัวเอง ฉันจึงสงบสติอารมณ์ลงและเริ่มค้นหาปัญหา ฉันอยู่ต่อจนถึงตี 3 แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ฉันงีบหลับแล้วก็ฝึกท่าก่อนที่จะค้นหาปัญหาต่อ แต่ฉันก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ อีกไม่นานการประชุมก็จะเริ่มแล้ว ฉันยังคงตรวจสอบสภาพการบำเพ็ญของตัวเองต่อไป นอกจากความไม่อดทนของฉันแล้วยังมีอะไรอีกที่ทำให้ระบบขึ้นข้อความว่า "ไม่" อยู่ตลอด

ฉันตัดสินใจเขียนจิตยึดติดของตัวเองลงบนกระดาษ สิ่งแรกคือ "ขาดความรับผิดชอบ" ฉันรู้ว่าฉันขาดความรับผิดชอบถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญในงานและจะทำให้เสร็จแบบส่งเดช ฉันยุ่งมากจริง ๆ ในการทำงาน แต่นี่ไม่ควรเป็นข้ออ้างของการขาดความรับผิดชอบของฉัน

วันหนึ่งตอนที่ฉันกำลังคัดลอกหนังสือจ้วนฝ่าหลุน ฉันสังเกตเห็นย่อหน้านี้เป็นพิเศษ :

“ในขั้นตอนทั้งหมดที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดหลักธรรม (ฝ่า) และถ่ายทอดพลัง (กง) ยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและรับผิดชอบต่อผู้ฝึก ผลที่ได้รับจึงดีและผลสะท้อนต่อสังคมทั้งหมดค่อนข้างดี”(บทที่ 1 จ้วนฝ่าหลุน)

ฉันรู้สึกประทับใจกับคำว่า "รับผิดชอบ" ฉันควรรับผิดชอบงานที่ฉันทำ แม้ฉันจะตระหนักเรื่องนี้แล้ว ระบบก็ยังไม่ยอมให้ฉันเข้าไป

ฉันยังคงมองค้นหาจากภายในอยู่เรื่อย ๆ มันเป็นเพราะฉันกลัวว่าเจ้านายจะตำหนิฉันถ้าฉันทำงานไม่เสร็จก่อนการประชุมจะเริ่มหรือเปล่า ฉันเขียนคำว่า "แสวงหาชื่อเสียง" ลงบนกระดาษ ระบบยังคงไม่ยอมให้ฉันเข้าไป

ทันใดนั้นฉันตระหนักได้ว่ามันเป็นเพราะความโกรธเคืองของฉัน แม้ขณะที่ฉันพยายามค้นหาปัญหาอย่างอดทน ฉันก็ยังพร่ำบ่นเกี่ยวกับระบบและภาระงานมหาศาลและน่าเบื่อ เมื่อฉันเขียนคำว่า “ความโกรธเคือง” ฉันรู้สึกว่าสสารส่วนหนึ่งถูกขจัดออกไปจากใจ ในทันใดระบบก็ขึ้นข้อความ : “ใช่”

ฉันยุ่งมากในการทำงาน ฉันอยากทำมันให้เสร็จโดยเร็วอยู่เสมอเพื่อจะได้มีเวลาศึกษาฝ่าและฝึกท่า ฉันไม่พอใจเมื่อต้องทำงานล่วงเวลา ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีเวลาศึกษาฝ่า ต่อมาฉันตระหนักว่าฉันกำลังปกปิดจิตยึดติดมากมายโดยใช้ข้ออ้างว่าศึกษาฝ่าและฝึกท่า จิตยึดติดเรื่องการแสวงหาชื่อเสียง จิตอิจฉาริษยา และจิตโกรธเคือง ถูกเผยออกมาขณะทำงาน ฉันควรบำเพ็ญเพื่อขจัดจิตยึดติดเหล่านั้น และไม่เลื่อนการบำเพ็ญตัวเองออกไปจนกว่าฉันจะทำงานเสร็จ

การศึกษาฝ่าทำให้ฉันตระหนักได้ว่าทุกคนที่ฉันเจอต่างถูกจัดวางไว้ ไม่ว่าพวกเขาจะดีกับฉันหรือไม่ และไม่ว่าพวกเขาจะทำไปโดยมีจุดมุ่งหมายหรือไม่ จริง ๆ แล้วพวกเขาช่วยฉัน พวกเขาบางคนช่วยฉันขจัดจิตอิจฉาริษยาออกไปโดยตรง บางคนช่วยฉันขจัดจิตโกรธเคืองทางอ้อม ฉันควรขอบคุณผู้คนรอบตัวฉัน แต่ความสำนึกในบุญคุณของท่านอาจารย์นั้นเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ !

นี่คือความเข้าใจส่วนตัวของฉัน โปรดช่วยชี้แนะหากมีสิ่งที่ไม่เหมาะสม

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ! ขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก !

(นำเสนอในการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าที่ฮ่องกง 2022)

ข้อคิดเห็นในบทความนี้เป็นความคิดเห็นหรือความเข้าใจของผู้เขียนเอง เนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Minghui.org หมิงฮุ่ยจะผลิตฉบับรวมเล่มของเนื้อหาออนไลน์เป็นประจำรวมทั้งในโอกาสพิเศษด้วย