(Minghui.org) ในประวัติศาสตร์ตลอดมามีทรราชมากมาย ในประเทศจีน กษัตริย์โจ้วแห่งซางเป็นคนมักมากในกาม โง่ และโหดร้าย เขาสังหารภรรยาและขับไล่บุตรออกจากดินแดน ในยุคโรมโบราณ จักรพรรดิเนโรสังหารมารดาและภรรยาของตนเองและออกคำสั่งประทุษร้ายชาวคริสต์

แต่ในแง่ของจำนวนอาชญากรรมของพวกเขา ทรราชเหล่านี้เทียบไม่ได้กับเจียง เจ๋อหมิน อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน

เจียงปิดบังความจริงที่ว่าเขาเป็นบุตรของคนขายชาติ และอ้างว่าบิดาเป็นผู้พลีชีพเพื่อชาติ เขาขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในพรรคคอมมิวนิสต์จีนจากการปราบปรามการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของนักศึกษาในปี 1989 อย่างแข็งขัน เขายกที่ดินให้รัสเซีย และปกครองประเทศด้วยการคอร์รัปชั่น สิบปีหลังจากการนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เขาสั่งให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และปล้นเอาอวัยวะของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงขณะมีชีวิต อาชญากรรมของเขาเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและจะไม่ถูกลืมด้วยความตายของเขา

อาชญากรรมที่ 1 : ปิดบังตัวตนที่น่าอับอาย

เจียง ซื่อจวิ้น พ่อของเจียง เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรขายชาติ 2 องค์กร คือ "กอบกู้ชาติอย่างสันติ (Peaceful National Salvation)" และ "คณะกรรมการบำรุงรักษาหนานจิงชั่วคราว (Nanjin Temporary Maintenance Committee)"เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองรัฐมนตรีในกระทรวงโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลหวัง และเป็นหัวหน้าสมาชิกของคณะบรรณาธิการของสถาบัน

เจียง เจ๋อหมิน เองก็เข้าร่วม “การฝึกอบรมผู้นำรุ่นเยาว์มหาวิทยาลัยหนานจิง (Nanjing University Young Leaders Training Session)” ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยกลางหนานจิง (Nanjing Central University) ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกอบรมสายลับของระบอบการปกครองหุ่นเชิด

ต่อมาเจียงปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขาเพื่อความก้าวหน้าทางการเมืองโดยอ้างว่าลุงของเขา เจียง ซ่างชิง ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน รับเขาเป็นบุตรบุญธรรมเมื่อเขาอายุ 13 ปี น้อยคนที่รู้ว่า เจียง ซ่างชิง เสียชีวิตไปแล้วในเวลานั้น แต่การโกหกเรื่อง "การรับเป็นบุตรบุญธรรม" ช่วยปกปิดมรดกขายชาติของเจียง

อาชญากรรมที่ 2 : ยกดินแดนให้รัสเซีย

เพื่อแลกกับการสนับสนุนจากรัสเซีย เจียงและบอริส เยลต์ซิน ผู้นำรัสเซียในขณะนั้นได้ลงนามในข้อตกลงชายแดนจีน-รัสเซีย 3 ฉบับ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1999 ซึ่งกำหนดให้ประเทศจีนยกดินแดนจีนในส่วนตะวันออกของพรมแดนจีน-โซเวียตซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 1 ล้านตารางกิโลเมตร (390,000 ตารางไมล์) ให้รัสเซีย ดินแดนที่ยกให้มีขนาดใหญ่กว่าไต้หวันมากกว่า 30 เท่า

อาชญากรรมที่ 3 : คอร์รัปชัน

เจียงมีคติพจน์ว่า “กอบโกยทรัพย์สมบัติโดยไม่ทำตัวให้เป็นจุดเด่น” เขาเลื่อนตำแหน่งให้ลูกชาย เจียง เมียนเฮง ให้เป็นรองประธานของ Chinese Academy of Sciences แม้เขาจะไม่ได้ประสบความสำเร็จทางวิชาการและไม่มีประสบการณ์ในตำแหน่งศาสตราจารย์ของเขา เจียงยังช่วยลูกชายสร้างวิสาหกิจโทรคมนาคมขนาดมหึมาโดยมีสัญญาของรัฐบาลมูลค่า 2.5 พันล้านหยวนเป็นประกัน

การคอร์รัปชันของเจียงแพร่กระจายไปยังเจ้าหน้าที่ระดับล่างอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 18 ในปี 2012 เจ้าหน้าที่อาวุโสระดับมณฑลหรือสูงกว่า 570 คนถูกสอบสวนเรื่องคอร์รัปชัน ในหมู่พวกเขามีเจ้าหน้าที่ 112 คนที่แต่ละคนรับสินบนไม่ต่ำกว่า100 ล้านหยวน

อาชญากรรมที่ 4 : ทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ

ในช่วงที่เจียงดำรงตำแหน่ง เขาได้อนุมัติโครงการเขื่อนซานเสียซึ่งมีมูลค่าสุดท้ายมากกว่า 250 พันล้านหยวน โครงการนี้ทำให้แหล่งสถาปัตยกรรมและโบราณคดีที่หายากนับจำนวนไม่ถ้วนหายไปสิ้น และยังทำลายระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพทั้งต้นทางและปลายทาง ทำให้ขณะนี้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยขึ้นและเกิดภัยแล้งอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

อาชญากรรมที่ 5 : ขับไล่โดยการบังคับ

ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 รัฐบาลเริ่มยึดที่ดินโดยพลการจากเกษตรกรและชาวบ้านหลายล้านคน และรื้อถอนบ้านของพวกเขา เพื่อทำโครงการก่อสร้างพัฒนาเมือง แต่ให้ค่าชดเชยต่ำกว่าราคาตลาดมาก ความไม่พอใจที่ถูกขับไล่โดยการบังคับทำให้ความขัดแย้งในวงกว้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศจีน จาก 8,700 รายในปี 1993 เป็น 60,000 รายในปี 2003

อาชญากรรมที่ 6 : สำส่อน

ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างเจียงกับนักร้องซ่ง จู่อิง เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศจีน หลังจากซ่งเปิดตัวในงานฉลองเทศกาลตรุษจีนปี 1991 ของ CCTV ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เจียงจดโน้ตเกี่ยวกับเธอ จากนั้นซ่งก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว และหลังจากการแสดงรอบหนึ่ง เจียงแอบส่งกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้เธอซึ่งมีข้อความว่า “มาหาพี่ใหญ่ได้ในยามจำเป็น พี่ใหญ่สามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง” ต่อมาซ่งหย่ากับสามีเพื่อให้เธอและเจียงสะดวกที่จะพบปะกันได้บ่อยขึ้น เจียงยังให้การ์ดแดงกับซ่งเพื่อเข้าถึงจงหนานไห่ (ที่ทำการรัฐบาลกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน) ได้ทุกเมื่อ นอกจากซ่งแล้ว เจียงยังมีอีกภรรยาลับอีกหลายคน

อาชญากรรมที่ 7 : ควบคุมเสถียรภาพและเซนเซอร์อินเทอร์เน็ต

เจียงอ้างว่า "เสถียรภาพอยู่เหนือสิ่งอื่นใด" ระหว่างปี 2002 ถึง 2012 งบประมาณสำหรับ "การรักษาเสถียรภาพ" มากกว่างบประมาณในการป้องกันประเทศ

เจียงเน้นย้ำว่า “ความปลอดภัยของข้อมูลและเครือข่ายประกันความปลอดภัยของจีน” ด้วยการหนุนหลังของเขา กระทรวงตำรวจใช้เวลา 8 ปี (ระหว่างปี 1998 ถึง 2006) ในการสร้าง Golden Shield เพื่อกวดขันการเซนเซอร์และการควบคุมอินเทอร์เน็ต

อาชญากรรมที่ 8 : ประทุษร้ายคนดีและทำลายศีลธรรมของประเทศจีน

เจียงเริ่มประทุษร้ายฝ่าหลุนกงโดยไม่มีคนสนับสนุนในเดือนกรกฎาคม 1999 เขาสร้างสำนักงาน 610 โดยเลียนแบบเกสตาโป และให้อำนาจที่ไม่มีใครเทียบได้ในการดำเนินการตามนโยบายการประทุษร้ายของเขา ทั้งสังคมตั้งแต่โรงเรียนถึงบริษัท จากศาลจนถึงเรือนจำ ล้วนถูกระดมให้ประทุษร้ายผู้ฝึก ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงประมาณหนึ่งในสี่ของ GDP ของประเทศจีน

เพื่อให้การประทุษร้ายดูเหมือนถูกต้อง เจียงสั่งให้สื่อของรัฐสร้างวิดีโอหลอกลวงการเผาตัวเองที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงดูเหมือนปีศาจ เขาประทุษร้าย “ความจริง ความเมตตา ความอดทน” และปกครองประเทศด้วยการคอร์รัปชัน ทั้งยังหลงใหลในวัตถุซึ่งทำลายศีลธรรมของประชาชนโดยสิ้นเชิง

อาชญากรรมที่ 9 : ใช้ระบบกฎหมายในทางที่ผิด

อำนาจที่มอบให้กับสำนักงาน 610 และคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย (Political and Legal Affairs Committee, PLAC) เหนือกว่าระบบการบังคับใช้กฎหมาย และระบบการพิจารณาคดีเป็นภัยต่อระบบกฎหมายทั้งหมดในประเทศจีน ภายใต้คำสั่งของสำนักงาน 610 และ PLAC เจ้าหน้าที่รัฐบาล ตำรวจ อัยการ และศาลในระดับต่าง ๆ เข้าร่วมประทุษร้ายฝ่าหลุนกงเพื่อจะได้ทุนทางการเมืองและมีความก้าวหน้าในอาชีพการงาน เจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนประกาศอย่างเปิดเผยว่า “ฉันไม่สนใจว่าคุณจะเผาบ้าน ฆ่าคน หรือขโมยของ แต่คุณจะฝึกฝ่าหลุนกงไม่ได้”

อาชญากรรมที่ 10 : ปล้นเอาอวัยวะ

ป๋อ ซีไหล อดีตผู้ว่าการมณฑลเหลียวหนิง เคยยอมรับว่าเจียงเป็นผู้ออกคำสั่งให้ปล้นเอาอวัยวะจากผู้ฝึกฝ่าหลุนกงขณะยังมีชีวิต

ไป๋ ซู่จง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพของกรมกิจการโลจิสติกส์ทั่วไปของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (Chinese People’s Liberation Army, PLA) ยืนยันในการสนทนาทางโทรศัพท์เช่นกันว่า “ในตอนนั้นมันคือประธานเจียง… มีคำสั่ง ประมาณว่าบอกวิธี บอกให้ลงมือทำสิ่งนั้น การปลูกถ่ายอวัยวะ … เพราะในตอนนั้นหลังจากที่ประธานเจียงออกคำสั่ง พวกเราทุกคนทำงานต่อต้านฝ่าหลุนกงมากมาย”

ในการตัดสินสุดท้ายโดยศาลพิพากษา ซึ่งมีเซอร์ เจฟฟรี ไนส์ คิวซี เป็นประธาน มีการยืนยันว่า “การปล้นเอาอวัยวะได้กระทำมาหลายปีแล้วทั่วประเทศจีนในระดับที่มีนัยสำคัญ และผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของอวัยวะ และน่าจะเป็นแหล่งอวัยวะหลัก"

ข้อคิดเห็นในบทความนี้เป็นความคิดเห็นหรือความเข้าใจของผู้เขียนเอง เนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Minghui.org หมิงฮุ่ยจะผลิตฉบับรวมเล่มของเนื้อหาออนไลน์เป็นประจำรวมทั้งในโอกาสพิเศษด้วย