ไทเป ไต้หวัน : ผู้ฝึกส่งคำอวยพรวันตรุษจีนถึงผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า

(Minghui.org) วันตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าประมาณ 1,000 คน จากไทเปและเขตนิวไทเปมารวมตัวกันที่จัตุรัสลิเบอร์ตี้ในไทเปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2022 เพื่อส่งคำอวยพรถึงผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนกง ท่านอาจารย์หลี่หงจื้อ พวกเขาพนมมือเหอสือซึ่งเป็นท่าที่แสดงความเคารพ และพูดพร้อมกันว่า : “ขออวยพรวันตรุษจีนแด่ท่านอาจารย์ !”

ผู้ฝึกประมาณ 1,000 คนรวมตัวกันเพื่อส่งคำอวยพรปีใหม่ถึงผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า

ต่อจากนั้นผู้ฝึกสาธิตท่าฝึกที่สงบของฝ่าหลุนต้าฝ่า

ผู้ฝึกสาธิตท่าฝึกที่จัตุรัสลิเบอร์ตี้

ฝ่าหลุนกงหรือที่รู้จักกันในนามฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นการฝึกบำเพ็ญระดับสูงของสายพุทธโดยปฏิบัติตามหลักการของความจริง ความเมตตา ความอดทน หลังจากท่านอาจารย์หลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งได้เผยแพร่ฝ่าหลุนต้าฝ่าสู่สาธารณชนในประเทศจีนในเดือนพฤษภาคม 1992 ปัจจุบันมีการฝึกในประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ประสบการณ์ของผู้ฝึกหลายร้อยล้านคนแสดงให้เห็นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าสามารถนำผู้ฝึกไปสู่ระดับสูงได้ ในขณะเดียวกัน การฝึกนี้ได้ส่งผลกระทบด้านบวกนับไม่ถ้วนในการทำให้สังคมมีเสถียรภาพ และช่วยให้สุขภาพและอุปนิสัยที่สอดคล้องกับศีลธรรมของประชาชนดีขึ้นด้วย

การตัดสินใจฝึกหลังจากประทับใจพฤติกรรมที่ไม่เห็นแก่ตัวของผู้ฝึก

หวู ฮุ่ยหลิง สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการจัดการระหว่างประเทศจาก Oxford Brookes University ในอังกฤษ เธอบอกว่าเธอตัดสินใจฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหลังจากได้เห็นอุปนิสัยและพฤติกรรมที่ซื่อตรงของผู้ฝึก

หวู ฮุ่ยหลิงเห็นว่าการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าส่งผลด้านบวกต่อผู้คนอย่างไร นี่นำเธอให้เข้ามาฝึก

หวู ฮุ่ยหลิงรู้จักเพื่อนร่วมชั้นเรียนหลายคนจากประเทศจีนขณะศึกษาระดับปริญญาโทในสหราชอาณาจักร ในช่วงต้นปี 1999 เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอที่ชื่อเหมยบอกเธอเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า หกเดือนต่อมาเหมยเขียนบทความเกี่ยวกับประสบการณ์จากการฝึกของเธอเนื่องจากผู้ฝึกในสหราชอาณาจักรเตรียมที่จะจัดการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เหมยขอยืมคอมพิวเตอร์ของฮุ่ยหลิง เนื่องจากเหมยไม่รู้วิธีพิมพ์ตัวอักษรจีนฉบับไต้หวัน เธอจึงขอให้ฮุ่ยหลิงช่วยพิมพ์รายงานของเธอ ในขั้นตอนการทำงาน ฮุ่ยหลิงถามเหมยว่าเธอกำลังเขียนอะไร และมันช่วยให้เธอมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการฝึก ฮุ่ยหลิงเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และในขณะที่ฟังผู้ฝึกพูดอยู่นั้น เธอคิดว่า “คนเหล่านี้มีความเชื่อมั่นที่แรงกล้าในความเชื่อของพวกเขา”

เหมยมอบจ้วนฝ่าหลุนซึ่งเป็นหนังสือคำสอนของต้าฝ่าเล่มหลักให้ฮุ่ยหลิงและฮุ่ยหลิงคิดว่าเป็นหนังสือที่เขียนได้ดี เธอเรียนฝึกท่าแต่ลังเลที่จะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มประทุษร้ายผู้ฝึกในประเทศจีนในเดือนกรกฎาคม 1999 เหมยชวนฮุ่ยหลิงไปสถานกงสุลจีนในลอนดอนกับผู้ฝึกเพื่อเข้าร่วมการประท้วงอย่างสันติ ฮุ่ยหลิงรับคำเชิญ หลังจากนั้นผู้ฝึกได้แลกเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับการประทุษร้าย

ฮุ่ยหลิงถึงกับพูดไม่ออก ! นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนจากประเทศจีนไตร่ตรองถึงข้อบกพร่องของพวกเขาอย่างจริงใจ และขอโทษที่ไม่ได้ประพฤติตัวดีพอ จากที่เธอเห็นทำให้เธอรู้ว่าจ้วนฝ่าหลุนต้องเป็นหนังสือที่ไม่ธรรมดา หนังสือเล่มนี้เปลี่ยนคนที่มีนิสัยเห็นแก่ตัวและไร้เหตุผลให้เป็นคนที่มีจิตใจสูงส่ง เป็นคนอ่อนโยน ซื่อสัตย์ จริงใจ และถ่อมตน และยังช่วยให้เธอมองเห็นคำโกหกที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนแพร่ข่าวออกมาด้วย เมื่อใดก็ตามที่ฮุ่ยหลิงนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น เธอยังคงรู้สึกประทับใจจนน้ำตาไหล “นี่เป็นกลุ่มคนที่น่าชื่นชม ! ฉันอยากจะเป็นคนแบบนั้นเหมือนกัน” เธอจึงตัดสินใจฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

ขณะอวยพรวันตรุษจีนแด่ท่านอาจารย์หลี่ ฮุ่ยหลิงกำลังติดต่อกับผู้คนโดยเฉพาะชาวจีนเพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสในการเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าและตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้องสำหรับอนาคตของพวกเขา

อาจารย์มหาวิทยาลัยยกระดับทุกด้าน

หวาง จ้งหยู่ เป็นศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธาที่ National Central University เขาเรียนศิลปะการป้องกันตัวขณะที่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย และเขาสนใจการบำเพ็ญและชี่กงมากมาตลอด ปลายปี 2005 ขณะทำงานที่ University of Texas ในสหรัฐอเมริกา หวางอ่านจ้วนฝ่าหลุนที่เลขาแผนกแนะนำเขา เขากระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม เขาจึงซื้อหนังสือต้าฝ่าเล่มอื่น ๆ และเริ่มฝึก

หวางบอกว่าคำสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นแรงบันดาลใจให้เขาในการทำงานวิจัยทางด้านวิชาการ “หลักการของความจริง ความเมตตา และความอดทน สะท้อนอยู่ในงานวิจัยทางด้านวิชาการของผม ผมเข้าใจหลักการพื้นฐานของสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และมักนึกวิธีที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาทางวิศวกรรมที่ซับซ้อนได้”

เขาเคยป่วยบ่อย ๆ ทั้งเป็นหวัด เป็นไข้ เจ็บคอ และไม่สบายที่ร่างกาย เช่น ปวดเมื่อย เขาไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ หลังจากที่เขาเริ่มฝึก เขาแทบไม่เป็นหวัดเลย บางครั้งบางคราวที่เขาเป็น หวัดก็หายอย่างรวดเร็ว ภูมิคุ้มกันของเขาดีขึ้น เขามีพลังงานมากขึ้นและดูอ่อนกว่าวัย หวางบอกว่าการบำเพ็ญช่วยให้เขาเข้าใจจุดประสงค์ของชีวิต เขาเรียนรู้ที่จะจัดการกับความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้นและพอใจกับสิ่งที่เขามี เขาทำงานวิจัยให้เสร็จอย่างขยันขันแข็งและไม่แสวงหาชื่อเสียงหรือผลประโยชน์ เขายังเรียนรู้ที่จะปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความกรุณาอีกด้วย

หวางขอบคุณท่านอาจารย์หลี่ด้วยน้ำตาคลอเบ้าที่ช่วยเขาให้พ้นภัย เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ทำให้ชื่อของศิษย์ต้าฝ่ามัวหมองและช่วยเหลือท่านอาจารย์ในการเจิ้งฝ่า

ไม่กังวลเรื่องสุขภาพอีกต่อไป

หลี่ เสี่ยวคุน ซึ่งเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ได้อ่านจ้วนฝ่าหลุนครั้งแรกในปี 1996 ขณะที่เธออาศัยอยู่ในประเทศจีน แต่เธอไม่เข้าใจหลักธรรมที่ลึกซึ้งในหนังสือ และคิดว่าเป็นเพียงการสอนให้เป็นคนดีขึ้น หลังจากแต่งงาน เธอย้ายไปอยู่ไต้หวันและพยายามหาสถานที่ฝึกแต่ไม่พบ เธอจึงเลิกคิดที่จะฝึก หลายปีต่อมา พ่อของเธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหลังจากเพื่อนของเขาเล่าให้ฟัง

ความวิตกกังวลของหลี่ เสี่ยวคุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในชีวิตและสุขภาพหายไปหลังจากที่เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

ในปี 2004 เสี่ยวคุนสังเกตว่าแม้ว่าเธอจะใส่ใจกับสุขภาพ แต่เธอก็ยังกังวลว่าจะเจ็บป่วย เธอจึงตัดสินใจค้นหาวิธีออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เธอเล่าว่า “พ่อพูดให้ฉันฟังว่าชี่กงกับการออกกำลังกายธรรมดาแตกต่างกันอย่างไร พ่อสนับสนุนให้ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า” “ครอบครัวของเราสังเกตว่าพลกำลังและความแข็งแรงทางร่างกายของพ่อเพิ่มมากขึ้นหลังจากพ่อฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า พวกเราจึงสนับสนุนให้พ่อฝึก ฉันก็ตัดสินใจที่จะลองดูด้วย”

เธอบอกว่าหลังจากฝึก เธอเข้าใจหลักการของชีวิตและจักรวาล ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและความไม่แน่นอนในชีวิตของเธอหายไป เธอเปลี่ยนเป็นผู้ที่ให้อภัยมากขึ้น “ตอนนี้ฉันมองหลายสิ่งหลายอย่างในมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ทำให้ฉันหงุดหงิดอีกแล้ว และฉันรู้สึกสงบมากขึ้น”

“ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่แนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่า !” เสี่ยวคุนพูด

ครอบครัวของฉันทุกคนฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

เจิ้ง จิ่งเหวิน เป็นครูพลศึกษาที่ Chang Gung University ญาติของเขาให้จ้วนฝ่าหลุนกับเขาเล่มหนึ่ง หลังจากอ่านแล้ว เขาได้เปลี่ยนวิธีจัดการกับสิ่งต่าง ๆ เนื่องจากอิทธิพลที่ได้รับจากหลักการของความจริง ความเมตตา ความอดทน แต่เขายังไม่ได้คิดที่จะฝึกบำเพ็ญ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยของเขาเริ่มก่อตั้งชมรมฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 2012 จิ่งเหวินเป็นครูพี่เลี้ยงของชมรม และหลังจากแลกเปลี่ยนความเข้าใจในคำสอนกับนักศึกษาแล้ว เขาก็เข้ามาฝึก

เจิ้ง จิ่งเหวิน เป็นครูสอนพลศึกษาที่Chang Gung University

ในฐานะครูพลศึกษา จิ่งเหวินต้องทนทุกข์กับการบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาการปวดหลังก็เป็นปัญหาอยู่ตลอด หลังจากที่เขาเริ่มฝึกต้าฝ่า อาการปวดหลังและอาการหัวใจเต้นผิดปกติก็ดีขึ้น อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นด้วย เขาบอกว่า “ผมเรียนรู้ที่จะมองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของอีกฝ่ายหนึ่ง ผลก็คือความขัดแย้งทั้งที่บ้านและที่ทำงานก็แก้ไขได้อย่างง่ายดาย” ตอนนี้ภรรยาและลูกสาวสองคนของเขาก็ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย

คู่สามีภรรยาให้กำลังใจกันและกันในการยกระดับในการบำเพ็ญ

เฉิน อี้หยวน และยุ่นรู๋ เป็นคู่สามีภรรยาวัยหนุ่มสาว ทั้งคู่ทำงานเกี่ยวกับสื่อ พวกเขามีลูกชายสองคน ยุ่นรู๋บอกว่า “ฉันต้องทำงาน เลี้ยงลูก และดูแลครอบครัวตลอดจนแม่สามี มันไม่ง่ายเลย คนส่วนใหญ่มองหาวิธีแก้ปัญหาจากภายนอก แต่คำสอนของต้าฝ่าบอกว่าเราต้องค้นหาจากภายใน ทางออกเดียวคือเปลี่ยนแปลงตัวเอง” เธอบอกว่าเธอเริ่มฝึกต้าฝ่ากับแม่ของเธอตั้งแต่ยังอยู่ชั้นมัธยมต้น และฝึกมาสองทศวรรษแล้ว เธอมีต้าฝ่านำทางขณะที่เธอผ่านช่วงต่าง ๆ ของชีวิต เช่น ความกดดันด้านการเรียน การทำงาน การแต่งงาน และการเลี้ยงลูก เธอรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณในความเชื่อของเธอ

อี้หยวน ยุ่นรู๋และลูกชายสองคนของพวกเขาขออวยพรวันตรุษจีนแด่ท่านอาจารย์หลี่!

อี้หยวนบอกว่าเขาพบทิศทางในชีวิตหลังจากฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า จิตใจของเขาสามารถสงบลงได้ เขาเคยทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรงบ่อย ๆ เขาบอกว่าการปฏิบัติตามหลักการที่อาจารย์สอนทำให้ทั้งหมดไม่เหมือนเดิม “ตราบใดที่เราปฏิบัติตามคำสอนของต้าฝ่า ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ เราต้องคิดถึงคนอื่นและ ปล่อยวางจิตยึดติดของเรา”

ทั้งคู่ยังใช้หลักการของความจริง ความเมตตา ความอดทน ในการอบรมสั่งสอนลูก ๆ อี้หยวนบอกว่า "ลูก ๆ เข้าใจหลักการเนื่องจากหลักการเหล่านี้เชื่อมโยงกับธรรมชาติโดยกำเนิดของพวกเขา การฝึกต้าฝ่าช่วยให้ผมสงบลง และตอนนี้ลูก ๆ ก็ฟังผมอย่างเงียบ ๆ”

วิเศษมากที่ได้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

โจว กั๋วหมิง ทำงานด้านการผลิตอาหาร เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 2011 เขาเล่าว่าผู้ฝึกในเมืองซินจู๋ชวนเขาให้ลองฝึกอยู่หลายครั้ง แต่เขาปฏิเสธเพราะเขายุ่งกับงานมากเกินไป จนกระทั่งวันหนึ่งเขารู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นช่วงสั้น ๆ ขณะขนย้ายสินค้า เขาจึงเริ่มให้ความสนใจกับคำเตือนจากร่างกายของตัวเอง และตัดสินใจลองฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

โจว กั๋วหมิงบอกว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวของเขาดีขึ้นหลังจากเขาและภรรยา ยู่ เหมย เริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

“หลังจากฝึกเป็นเวลาสามเดือน ร่างกายผมเปลี่ยนไปมาก ผมนอนหลับได้ดีและรู้สึกดีขึ้นมาก” กั๋วหมิงบอกว่าเขาดูสุขภาพดี แต่จริง ๆ แล้วเขาอ่อนแอ “ผมมีอาการบาดเจ็บที่หลังอย่างรุนแรงและการย่อยอาหารก็ไม่ดี ผมมักจะรู้สึกเย็นมากบริเวณกระดูก แต่หลังจากฝึกท่า ผมไม่รู้สึกเย็นแล้ว”

เมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงในทางบวกที่เขารู้สึกหลังจากฝึกต้าฝ่า ภรรยาของเขา ยู่ เหมย บอกว่ากั๋วหมิงเคยเป็นคนที่ต้องให้คนอื่นทุกคนฟังเขาเสมอ ตอนนี้เขารับฟังความคิดเห็นของคนอื่นและสื่อสารกับเขาได้ง่ายขึ้น เมื่อสมาชิกในครอบครัวเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขา พวกเขาก็เริ่มฝึกต้าฝ่า กั๋วหมิงบอกว่า “ท่านอาจารย์กล่าวว่าเราต้องใจดีและขจัดอารมณ์ไม่ดีต่างๆ หลังจากศึกษาคำสอนแล้ว ผมก็ตระหนักว่าเวลาอารมณ์เสียก็คือกำลังให้กุศล ผมค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงและพยายามปฏิบัติตามที่ท่านอาจารย์พูด”

“ไม่เพียงแค่ครอบครัวของผม แต่ความสัมพันธ์ของผมกับพี่สะใภ้ที่เคยตึงเครียดและเคยทะเลาะกันบ่อย ๆ ก็ดีขึ้น หลังจากฝึก ครอบครัวของเราสี่คนก็เข้ากันได้ดี ไม่เพียงเท่านั้น ความสัมพันธ์กับญาติก็ดีขึ้นด้วย มันวิเศษมากที่ได้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า !”

“ผมได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลับสร้างเรื่องโกหกเพื่อให้ร้ายต้าฝ่าและประทุษร้ายผู้ฝึก ประชาชนยังไม่ทราบความจริง ในฐานะผู้ฝึก เราควรพูดเกี่ยวกับความเชื่อของเราอย่างกล้าหาญและบอกผู้คนว่าต้าฝ่านั้นวิเศษเพียงใด นี่เป็นสิ่งเล็กน้อยที่สุดที่เราจะทำได้”

ความเป็นมา : ฝ่าหลุนต้าฝ่าคืออะไร

ฝ่าหลุนต้าฝ่า (หรือที่รู้จักกันในชื่อฝ่าหลุนกง) เริ่มเผยแพร่สู่สาธารณชนโดยอาจารย์หลี่หงจื้อที่เมืองฉางชุนประเทศจีน ในปี 1992 ปัจจุบันมีผู้ฝึกจิตใจด้วยหลักการนี้ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ผู้คนนับล้าน ๆ คนที่น้อมรับคำสอนนี้ซึ่งอ้างอิงหลักการของความจริง ความเมตตา และความอดทน และได้เรียนรู้ท่าฝึกที่อ่อนโยนทั้งห้าชุด จะรู้สึกถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นและได้รับประโยชน์สุข

เจียง เจ๋อหมิน อดีตหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จีนเห็นว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการฝึกจิตใจนี้เป็นภัยคุกคามต่ออุดมการณ์อเทวนิยมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เขาจึงออกคำสั่งห้ามการฝึกนี้ในวันที่ 20 กรกฎาคม 1999

Minghui.org ยืนยันการเสียชีวิตของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจำนวนหลายพันคนซึ่งเป็นผลมาจากการประทุษร้ายตลอด 22 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าจำนวนผู้ฝึกที่เสียชีวิตจริงสูงกว่านี้มาก ผู้ฝึกจำนวนมากกว่านี้ถูกคุมขังและถูกทรมานเพราะความเชื่อของพวกเขา

มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนอนุมัติการผ่าเอาอวัยวะจากผู้ฝึกที่ถูกกักขัง พวกเขาถูกฆาตกรรมเพื่อเอาอวัยวะมาขายในอุตสาหกรรมปลูกถ่ายอวัยวะ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนก่อตั้งสำนักงาน 610 ภายใต้การสั่งการส่วนบุคคลของเจียง สำนักงาน 610 เป็นองค์กรความมั่นคงนอกกฎหมายที่มีอำนาจเหนือระบบตำรวจและระบบตุลาการ โดยมีหน้าที่เดียวคือปฏิบัติการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงให้ลุล่วง

ข้อคิดเห็นในบทความนี้เป็นความคิดเห็นหรือความเข้าใจของผู้เขียนเอง เนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Minghui.org หมิงฮุ่ยจะผลิตฉบับรวมเล่มของเนื้อหาออนไลน์เป็นประจำรวมทั้งในโอกาสพิเศษด้วย