(Minghui.org) ชีวิตมีความไม่แน่นอนมากมาย และโชคร้ายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีผู้คนมากมายที่ได้รับการป้องกันจากอันตรายและยังปลอดภัยอยู่ได้ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน

นักวิชาการผู้มีคุณธรรม

ลู่ ซู่เซิง (1509-1605) เป็นบัณฑิตสมัยราชวงศ์หมิง หลังจากชนะที่หนึ่งในการสอบในเมืองใหญ่ (ฮุ่ยซื่อ) ในปี 1541 เขาได้รับตำแหน่ง จิ้น ซื่อ (นักวิชาการขั้นสูง) และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สถาบันการศึกษาของจักรพรรดิ ต่อมาเขากลับบ้านเกิดหลังจากที่พ่อป่วยหนักและอยู่ที่นั่นสามปีหลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิต

ต่อมาลู่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพิธีการโดยรับผิดชอบวิทยาลัยของจักรพรรดิ (Guozijian) เนื่องจากความมีคุณธรรมและความขยันหมั่นเพียรในการทำงานของเขา เขาจึงได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการพลเรือนในเวลาต่อมา ด้วยความที่เขาแทบไม่สนใจในชื่อเสียงและวัตถุ ลู่ปฏิเสธโดยอ้างว่าสุขภาพไม่ดี มู่จง ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์ถัดมาพยายามอีกครั้ง แต่ลู่ยังคงปฏิเสธ ต่อมาจักรพรรดิแห่งเซินจงซึ่งเป็นโอรสของมู่จง แต่งตั้งลู่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพิธีกรรม ลู่ไม่สามารถปฎิเสธได้อีกต่อไปและยอมรับมัน

เมื่อลู่ออกจากบ้านเพื่อไปสอบในเมืองใหญ่ในปีก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ในมณฑลชื่อ หวาง ฮัว ฝันว่ามีคนหลายร้อยคนคุกเข่าให้คนคนหนึ่งและตะโกนเรียกชื่อของเขา ลู่ ซูเซิง หลังจากผลการสอบออกมา ลู่สอบได้ที่หนึ่งตามที่หวางคาดไว้ “ลู่ได้รับพรจากเทพเจ้าและเขาจะมีอนาคตที่ดี” หวางบอกกับผู้ช่วยของเขา

มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ในเวลาต่อมา ลู่ไม่เพียงมีชีวิตยืนยาว แต่ยังรอดชีวิตจากอุบัติเหตุหลายครั้ง ครั้งหนึ่งมีกำแพงพังลงมาข้างๆ เขา อีกครั้งหนึ่งไม้กระดานหล่นลงมาที่ศีรษะของเขา แต่เขาปลอดภัยดีทั้งสองครั้ง ยิ่งกว่านั้น เมื่อไรที่เขาเดินทาง อากาศจะดี แม้แต่วันที่ฝนตกหรือลมแรงก็จะกลายเป็นแดดจัดขึ้นมา ถ้าไม่ใช่พรจากสวรรค์แล้วจะอธิบายอย่างไร

พ่อค้ากับการคุ้มกัน

จิน เจ้าของโรงรับจำนำในราชวงศ์จิน เป็นผู้สูงศักดิ์ เขาไม่เพียงยุติธรรมกับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความขัดสนของพวกเขาด้วย เขายกเว้นดอกเบี้ยให้คนจนเป็นครั้งคราวเพื่อให้พวกเขาเลี้ยงชีพได้ นอกจากนี้ เขายังยกเว้นดอกเบี้ยสำหรับเสื้อคลุมกันหนาวในวันที่อากาศหนาว และกระทำเช่นเดียวกันสำหรับเสื้อผ้าฤดูร้อนในวันที่อากาศร้อน หลายคนรู้สึกสำนึกในบุญคุณมาก ความเอื้ออาทรและการทำความดีของเขาไม่เป็นอุปสรรคต่อการหารายได้ของโรงรับจำนำ และเขากลายเป็นหนึ่งในผู้ร่ำรวยที่สุดในพื้นที่

ครั้งหนึ่งมีอาชญากรกลุ่มหนึ่งมาและปล้นครอบครัวที่ร่ำรวยหลายครอบครัว แต่ธุรกิจของจินก็ยังดีอยู่ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่เข้าใจ และสงสัยว่าจินอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากร แต่หลังจากจับกุมและสอบปากคำอาชญากรทั้งหมดแล้ว พวกเขาพบว่าไม่มีอาชญากรคนใดเกี่ยวข้องกับจินเลย ด้วยความสงสัย เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจึงถามพวกเขาว่าทำไมพวกเขาถึงเว้นโรงรับจำนำของจินไป

อาชญากรคนหนึ่งอธิบายว่า “เราไปที่นั่นสองสามครั้งจริง ๆ แต่ทุกครั้ง เราเห็นเทพติดอาวุธจำนวนมากที่ด้านบนสุดของอาคาร [กำลังเฝ้าธุรกิจ]” “นั่นคือเหตุผลที่พวกเราไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งที่นั่น”

ตอนนั้นเองที่เจ้าหน้าที่และคนในท้องที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น – ความใจดีและการทำความดีของจินได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า เจ้าหน้าที่ให้เกียรติเขาโดยการให้เหรียญตราเกียรติยศและเผยแพร่เรื่องราวนี้ในวงกว้างในท้องที่

ต้นไม้ที่รู้ทิศทาง

นี่คือเรื่องราวที่รายงานโดย Minghui.org ในชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างมณฑลเหอหนาน และมณฑลอานฮุย มีคนชื่อ หลี่ ถง อาศัยอยู่ ที่พักของเขาแบ่งออกเป็นส่วนเหนือ ส่วนใต้ และส่วนตะวันตก ขณะอาศัยอยู่ในส่วนใต้ หลี่ได้เช่าส่วนเหนือและส่วนตะวันตกสำหรับทำธุรกิจร้านอาหาร

ส่วนเหนือและส่วนใต้อยู่ใกล้กันมาก โดยมีระยะห่างเพียงหนึ่งเมตร (หรือหนึ่งหลา) ที่น่าสนใจคือมีต้นมะเยาขนาดใหญ่ที่โตในช่องว่างนี้มานานกว่า 20 ปี โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 70 เซนติเมตร (มากกว่าสองฟุต) เนื่องจากต้นไม้ตายไปเมื่อปีก่อน หลี่จึงวางแผนที่จะจ้างคนมาตัดต้นไม้ บริษัทรับจ้างตัดต้นไม้หลายแห่งปฏิเสธที่จะรับงานนี้ พวกเขาบอกว่าต้นไม้ใหญ่เกินไป ลำต้นอาจทำให้อาคารเสียหายและรากอาจทำลายรากฐานด้วย

อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งในฤดูหนาวปี 2006 ต้นไม้ล้มลงพร้อมกับเสียงดัง "คลิก" ในขณะที่มีลมกระโชก ทุกคนประหลาดใจที่ต้นไม้ล้มลงบนพื้นอย่างสมบูรณ์แบบราวกับมีการคำนวณไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน มันล้มไปทางทิศตะวันออก และทำให้แผ่นกระเบื้องที่บ้านของเพื่อนบ้านเสียหายหลายแผ่นเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้น รากของมันเป็นแนวตรงราวกับว่ามีคนขุดมันออกมาโดยการตัดเป็นแนวตั้งตรง จึงไม่เกิดความเสียหายกับผนังหรือฐานรากที่อยู่ติดกับต้นไม้เลย

เพื่อนบ้านและสหายของหลี่ก็ประหลาดใจเช่นกัน เป็นปาฏิหาริย์ที่ต้นไม้ล้มลงบนพื้นแบบนี้ ถ้าต้นไม้ล้มผิดทางในช่วงเวลาอาหารกลางวัน ร้านอาหารและผู้ที่รับประทานอาหารอยู่ในนั้นอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสก็เป็นได้

เมื่อรู้ว่าหลี่ฝึกฝ่าหลุนกงมาเป็นเวลานานแล้ว ผู้คนก็เข้าใจว่าทำไมถึงมีปาฏิหาริย์เช่นนี้ เช่นเดียวกับผู้ฝึกอื่น หลี่พยายามดำเนินชีวิตตามหลักความจริง ความเมตตา ความอดทน เพื่อจะเป็นคนดี ที่จริงเขามักบอกผู้คนว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ทำลายวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมซึ่งทำให้เป็นอันตรายต่ออนาคตของจีนอย่างไร

ผลคือหลายคนสนใจที่จะเรียนรู้ฝ่าหลุนกง และหลายคนตัดสินใจลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

รอดตายจากแผ่นดินไหวที่เสฉวน

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในมณฑลเสฉวนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 คร่าชีวิตผู้คนกว่า 69,000 คน และทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอย่างน้อย 4.8 ล้านคน ผู้ฝึกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเหวินชวนซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เล่าถึงประสบการณ์ของเธอ

เดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่ชาวไร่ชาวนามีงานยุ่ง ทั้งต้องเก็บเกี่ยวพืชผลและหว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่ การทำงานในทุ่งนาทำให้ร้อน ผู้คนจึงมักกลับบ้านเพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน “ตอนเที่ยงของวันที่ 12 พฤษภาคม ครอบครัวของฉันไม่อยากอยู่บ้านโดยไม่มีเหตุผล และเราทุกคนออกไปทำงานในทุ่งนา” เธอเขียน “ในตอนนั้น แผ่นดินสั่นสะเทือนและพวกเราบางคนก็ล้มลงบนพื้น เราตกใจมากกับแผ่นดินไหว แต่เราก็ดีใจที่รอดมาได้”

บ้านน้องชายของผู้ฝึกเสียหาย แต่ครอบครัวของเขาไม่เป็นไร ที่อยู่อาศัยของน้องสาวของพวกเขาพังทลายลงครึ่งหนึ่ง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ลูกพี่ลูกน้องวัย 70 ปีของเธอซึ่งมักจะงีบหลับตอนเที่ยงวัน ไม่ได้งีบหลับในวันแห่งโชคชะตานั้น เพราะมีบางคนชวนเขาออกไปข้างนอก หลังจากเดินออกไปที่ถนน บ้านเกือบทุกหลังในพื้นที่นั้นก็พังทลายลง...

“แม้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะสร้างเรื่องโกหกหลายครั้งเพื่อทำลายชื่อเสียงของฝ่าหลุนกง สมาชิกในครอบครัวของฉันทุกคนก็รู้ว่าการฝึกนี้ดี พวกเขาลาออกจากองค์กรพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่อหลีกเลี่ยงการจมลงไปพร้อมระบอบการปกครองนี้” ผู้ฝึกเขียน “นี่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาจึงโชคดีเหลือเกิน”

ข้อคิดเห็นในบทความนี้เป็นความคิดเห็นหรือความเข้าใจของผู้เขียนเอง เนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Minghui.org หมิงฮุ่ยจะผลิตฉบับรวมเล่มของเนื้อหาออนไลน์เป็นประจำรวมทั้งในโอกาสพิเศษด้วย