ไต้หวัน : ผู้คนชื่นชมฝ่าหลุนต้าฝ่าระหว่างการแปรอักษรในไทเป

(Minghui.org) ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าประมาณ 5,200 คนจากพื้นที่ต่าง ๆ ของไต้หวัน รวมถึงสหรัฐอเมริกา เกาหลี มาเลเซีย และประเทศอื่น ๆ รวมตัวกันที่จัตุรัสลิเบอร์ตีในไทเปเพื่อทำกิจกรรมแปรอักษรในวันที่ 9 ธันวาคม 2023 พวกเขาแปรอักษรเป็นสัญลักษณ์ฝ่าหลุนและอักษรจีนคำว่า “ฝ่าหมุนไปสู่ความว่างเปล่า ฝ่าหลุนหมุนตลอดไม่หยุด พุทธธรรมไร้ขอบเขต”

ท้องฟ้าปลอดโปร่งและสดใสขณะที่ผู้ฝึกไปยังจุดที่กำหนดไว้ด้วยกิริยาท่าทางที่เป็นระเบียบ ภาพที่สงบสุขและยิ่งใหญ่นี้ดึงดูดความสนใจของผู้ที่ผ่านไปมาจำนวนมาก รวมถึงคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่แวะดูกิจกรรมนี้ ผู้ฝึกฝึกท่าหลังจากแปรอักษรเสร็จแล้ว พวกเขาอวยพรปีใหม่ให้ท่านอาจารย์หลี่หงจื้อและแสดงความขอบคุณท่านอาจารย์ด้วย

ผู้ฝึกประมาณ 5,200 คนเข้าร่วมในการแปรอักษรที่จัตุรัสลิเบอร์ตี ไทเป เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2023

ผู้ฝึกฝึกท่าของฝ่าหลุนต้าฝ่าภายหลังการแปรอักษร

ผู้ฝึกส่งคำอวยพรให้ท่านอาจารย์และขอให้ท่านสุขสันต์ในวันปีใหม่

ผู้ที่ผ่านไปมาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า

ฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นรูปแบบการบำเพ็ญที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนยุคใหม่

ตามที่ศาสตราจารย์เซียว ซงซ่าน ประธานสมาคมฝ่าหลุนต้าฝ่าในไต้หวันตัดสินใจที่จะแปรตัวอักษรจีนในวลี "ฝ่าหลุนหมุนตลอดไม่หยุด" ตามคำพูดของท่านอาจารย์หลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่าที่ว่าหนึ่งในลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของการฝึกนี้คือฝ่าหลุนหมุนอยู่ตลอดเวลาไม่หยุด ดังนั้นจึงช่วยผันแปรผู้ฝึกตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วัน ศาสตราจารย์เซียวพูดว่า “สำหรับคนยุคใหม่ที่ทำงานในอาชีพต่าง ๆ นี่คือการฝึกจิตใจที่ดีที่สุดและสะดวกที่สุด” เขาหวังว่าผู้คนจะไม่พลาดโอกาสในการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

การถ่ายทอดฝ่าหลุนต้าฝ่าให้กับสาธารณชนจนถึงปัจจุบันก็ 31 ปีแล้ว และผู้คนหลายร้อยล้านคนได้ฝึกในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศ ไต้หวันมีจำนวนผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าชาวจีนนอกประเทศจีนมากที่สุด ดังนั้นการจัดกิจกรรมแปรอักษรที่ยิ่งใหญ่ประจำปีนี้จึงมีความหมายที่พิเศษมาก ประชาชนในไต้หวันชอบที่มีเสรีภาพในความเชื่อและการพูด และชาวไต้หวันจำนวนมากได้รับประโยชน์จากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า แต่การฝึกที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ซึ่งเป็นที่ยอมรับอยู่ทั่วโลกกลับเป็นเป้าหมายของการรณรงค์ประทุษร้ายอย่างโหดเหี้ยมโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนในประเทศจีนซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของช่องแคบ การกระทำที่โหดร้ายรวมถึงการปล้นเอาอวัยวะและการปราบปรามได้ดำเนินมานาน 24 ปีและยังดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตรงกันข้ามกับไต้หวันมาก ข้อมูลที่แสดงอยู่ใกล้ ๆ กับสถานที่แปรอักษรช่วยให้คนเข้าใจสถานการณ์ในประเทศจีนและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการประทุษร้ายมากขึ้น

การแสดงความยิ่งใหญ่ของฝ่าหลุนต้าฝ่า

อู๋ ชิงเซียงซึ่งเป็นผู้ฝึกที่รับผิดชอบการออกแบบตัวอักษรบอกว่าภาพของตัวอักษรจีน 12 ตัวในปีนี้ทำยากเมื่อเทียบกับปีอื่น ๆ เพราะมีจำนวนตัวอักษรเพิ่มขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าจะมองเห็นตัวอักษรได้ชัดเจน ขอบเขตของพื้นที่จึงต้องกว้างกว่าปีก่อนหน้า ในวันแรกของการซ้อมฝนตกหนัก รถสูบน้ำคันหนึ่งต้องสูบน้ำออกสามครั้งเพื่อให้พื้นแห้ง โชคดีที่อากาศดีเมื่อสูบน้ำครั้งที่ 2 และ 3 ผู้ฝึกเกือบ 200 คนทำงานร่วมกันและฝึกซ้อมได้สำเร็จสมบูรณ์ ในระหว่างนี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เรียนรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า อู๋ ชิงเซียง พูดว่า “ต้าฝ่านั้นล้ำค่า ฉันหวังว่าจะช่วยให้คนได้รู้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าได้รับความนิยมทั่วโลกมากแค่ไหนผ่านกิจกรรมแปรอักษรนี้ และรีบคว้าโอกาสนี้ในการฝึกบำเพ็ญ”

นักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ประทับใจกับความกว้างใหญ่ของการแปรอัษร

หยางและครอบครัวจากสิงคโปร์ประทับใจกับความกว้างใหญ่ของการแปรอักษร

หยางผู้เป็นภรรยาพูดว่าไม่มีเสรีภาพในการพูดในประเทศคอมมิวนิสต์ วันนี้เธอได้เห็นว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่กลัวแดดร้อนจัด และเห็นการแปรตัวอักษรที่สงบ เป็นระเบียบ และมีวินัยมาก เธอยังได้เรียนรู้ว่าไม่ต้องมีพิธีกรรมใด ๆ เพื่อที่จะเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า และไม่มีข้อกำหนดใด ๆ เช่น การบริจาคเงินให้กับผู้ก่อตั้ง ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าและต้าฝ่าไม่ใช่ศาสนา ฝ่าหลุนต้าฝ่าคือการฝึกบำเพ็ญรูปแบบหนึ่ง และความรู้สึกของเธอต่อต้าฝ่าก็เปลี่ยนไปมาก

สแว เหมยยู จากมาเลเซียพูดว่าเธอรู้สึกภูมิใจในผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

ชาวจีนจากแอฟริกาใต้ : ฉันรอที่จะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่ไหว

ฮวงและมารดาพูดว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงความดีงามของฝ่าหลุนต้าฝ่า

ฮวงพูดว่า “ผมได้ยินเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1998 ก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเริ่มการประทุษร้ายการฝึกนี้ ในเวลานั้นรัฐบาลยังไม่ได้ต่อต้านฝ่าหลุนต้าฝ่า ต่อมาเรื่องราวของต้าฝ่าที่รัฐบาลเล่าก็เปลี่ยนไป ฉันงง แต่ตอนนั้นฉันยุ่งอยู่กับงานมาก ฉันจึงไม่ได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับต้าฝ่าอีกจนกระทั่ง 3-4 ปีที่แล้วในช่วงการระบาดใหญ่ ฉันมีโอกาสค้นออนไลน์และเรียนรู้เกี่ยวกับการฝึก ตอนนั้นเองที่ฉันพบว่าฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยมเพียงใด”

ฮวงผู้เป็นสามีพูดว่าเขาค้นหาการฝึกบำเพ็ญทางจิตวิญญาณและได้ลองหลายศาสนาแล้ว แต่ไม่มีศาสนาใดตอบคำถามของเขาเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาลได้ จนกระทั่งเขาพบคำตอบในฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาอ่านหนังสือเล่มหลักคือจ้วนฝ่าหลุน หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามหลักของเขา เขายังศึกษาท่าฝึกจากเว็บไซต์ด้วยตัวเอง และบอกผู้ฝึกว่าเขาฝึกท่าทุกวันเป็นเวลา 420 วันแล้ว เขาวางแผนที่จะพาแม่วัย 75 ปีไปสนามฝึกในท้องถิ่นเมื่อเขากลับมาที่ไต้หวัน แต่เขามาเจอกิจกรรมแปรอักษรประจำปีของผู้ฝึกโดยไม่คาดคิด เขาถามว่าจะหาสนามฝึกได้ที่ไหน และดีใจที่เขาและแม่ได้เห็นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยมเพียงใด

แรงบันดาลใจให้กลับมาฝึก

อู๋ หยูชิง พูดว่าภาพที่ยิ่งใหญ่ของการแปรอักษรเป็นแรงบันดาลใจให้เขากลับมาฝึกอีกครั้ง

อู๋ หยูชิงพูดว่าภรรยาของเขาไม่เพียงมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นหลังจากฝึกต้าฝ่า แต่เธอยังเปลี่ยนเป็นคนสงบและอดทนอีกด้วย เขาเห็นประโยชน์ที่ฝ่าหลุนต้าฝ่านำมาให้กับภรรยาและครอบครัว เขาจึงบำเพ็ญด้วย แต่เขาเลิกฝึกเพราะขาดความพากเพียร เขารู้สึกประทับใจกับความยิ่งใหญ่ของการแปรอักษรและยังจำความกระตือรือร้นที่เขาฝึกในครั้งแรกได้ เขาจึงตัดสินใจกลับมาฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอีกครั้ง

ทั้งครอบครัวเข้าร่วมการแปรอักษร

อี้ หยวน, หยุนรู่ และบุตรชายสองคน ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า พวกเขาเข้าร่วมการแปรอักษรและพูดว่าพวกเขารู้สึกขอบคุณท่านอาจารย์ที่เผยแพร่ฝ่าหลุนต้าฝ่า

อี้ หยวนได้รับอิทธิพลจากความเชื่อตามประเพณีดั้งเดิมของครอบครัวมาโดยตลอดและปรารถนาที่จะฝึกบำเพ็ญ กระทั่งคิดจะบวชเป็นพระภิกษุ อย่างไรก็ตามเขามีข้อสงสัยเนื่องจากรูปแบบพิธีการที่ผิวเผินของศาสนา ในปี 2004 ระหว่างปิดเทอมฤดูร้อน เขาอยู่กับป้าและสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านบวกหลังจากที่เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอเปลี่ยนเป็นคนใจดีและคิดถึงผู้อื่น และผิวพรรณของเธอก็เปล่งประกายด้วย เขาเข้าร่วมชั้นเรียนแนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่า 9 วัน และพูดว่า “นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ” แล้วเขาก็เริ่มฝึก

อี้ หยวนเกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะได้เกรดต่ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาเริ่มฝึกต้าฝ่า สติปัญญาของเขาก็เปิดออกและเกรดก็ดีขึ้นอย่างมาก ครูของเขาประหลาดใจ และครูคนหนึ่งพูดว่า “ผมไม่คิดว่าคุณจะสอบเข้า Masters National Taiwan Normal University ได้ !”

แม้ว่าภรรยาของเขา หยุนรู่ จะเป็นนักเรียนที่ได้คะแนนสูงสุดคนหนึ่ง แต่เธอก็ไม่มีความสุข เธอสังเกตว่าแม่ของเธอเปลี่ยนไปมากหลังจากฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าและอารมณ์ดีขึ้น เธอบอกแม่ว่า “เราอ่านจ้วนฝ่าหลุนด้วยกันนะ" เธอทำตามแม่ของเธอและเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

อี้ หยวน พูดว่า “ครอบครัวของเราขอขอบคุณโอกาสที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ช่วยยกระดับจิตใจเช่นนี้ เราซาบซึ้งจริง ๆ การเป็นศิษย์ต้าฝ่าในชาตินี้ทำให้เราไม่ใช้ชีวิตอย่างไร้ประโยชน์ และไม่เสียเวลาหลายหมื่นปีรอคอยต้าฝ่า !”