สมาชิกในครอบครัวของฉัน 12 คน ไม่ติดเชื้อโควิดในช่วงการระบาดใหญ่

(Minghui.org) เมื่อการระบาดใหญ่เริ่มแพร่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้างเมื่อสามปีที่แล้ว ประชาชนต่างหวาดกลัวและสูญเสีย พวกเขากลัวที่จะออกจากบ้าน ถนนในเมืองและหมู่บ้านทั่วประเทศจีนว่างเปล่าอยู่หลายเดือน ผู้คนถามไถ่กันทางโทรศัพท์และบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียว่า “ผลตรวจคุณเป็นบวกไหม คุณมีอาการข้างเคียงอะไรบ้างไหม” มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ฉันรู้จักติดเชื้อโควิดแล้ว

แม้จะเกิดการระบาดอย่างล้นหลามขนาดนี้ แต่คนในครอบครัวของฉันทั้ง 12 คนไม่มีใครติดเชื้อไวรัสเลย ทั้งพี่น้องของฉันรวมทั้งคนในครอบครัวของพวกเขา และแม่ของฉันซึ่งมีอายุ 100 ปี ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ฉันขออธิบายดังต่อไปนี้

แม่อายุ 100 ปีของฉัน

แม่ของฉันอายุ 100 ปี เธอผิวขาวและไม่มีริ้วรอย จิตใจของเธอแจ่มชัด เธอเดินได้เองโดยไม่ต้องมีคนช่วยและเธอดูแลตัวเองได้ เพราะฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า แม่ของฉันจึงรู้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดีและสนับสนุนให้ฉันฝึก ส่งผลให้แม่ได้รับประโยชน์มากมาย

ในเดือนกรกฎาคม 1999 พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) เผยแพร่ข่าวลือและคำโกหกผ่านทางแพลตฟอร์มสื่อต่าง ๆ ให้ร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าและอ้างว่ามีเจตนาทางการเมือง เมื่อแม่ของฉันได้ยินข่าว เธอหยิบหนังสือจ้วนฝ่าหลุนที่ฉันให้เธอออกมาอ่าน แม่บอกฉันว่า “หนังสือเล่มนี้เขียนได้ดี ทุกอย่างที่หนังสือเล่มนี้บอกคือการชี้แนะแนวทางให้เป็นคนดี ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมืองในหนังสือ” ฉันตอบว่า “ใช่จริง ๆ เจียงเจ๋อหมิน (ผู้นำ CCP ในขณะนั้น) อิจฉาความเป็นที่นิยมของฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาจึงเริ่มการประทุษร้าย” แม่ของฉันบอกเพื่อนของเธอบ่อย ๆ ว่าเธออ่าน จ้วนฝ่าหลุน แล้ว และไม่มีอะไรในหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเลย เธอบอกพวกเขาว่านี่เป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยม

ในช่วงปีแรก ๆ ของการประทุษร้าย ฉันบอกกับแม่ว่า “การประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าของ CCP ทำให้ผู้ฝึกบางคนและครอบครัวของพวกเขาได้รับความเดือดร้อนทางการเงินอย่างที่สุด ส่วนใหญ่มีแค่พอกินผักดองเท่านั้น บางคนไปตลาดเพื่อเก็บผักที่คนทิ้งแล้ว บางคนเติมเกลือในอาหารที่ปรุงมาก ๆ เพื่อจะกินได้หลายมื้อ พวกเขาใช้เงินที่ประหยัดได้ไว้พิมพ์เอกสารเพื่ออธิบายให้ผู้คนทราบว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่เหมือนในโฆษณาชวนเชื่อที่ CCP เผยแพร่”

แม่ของฉันรู้สึกสะเทือนใจและพูดว่า “ที่จริงมันไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ฝึกเหล่านี้ แม่อยากให้เงินพวกเขา” จากนั้นเป็นต้นมา แม่ของฉันก็บริจาคเงินให้กับผู้ฝึกเพื่อจัดทำเอกสารอธิบายความจริง และยังยอมให้ผู้ฝึกในท้องถิ่นจัดการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่บ้านของแม่ด้วย

ครั้งหนึ่งแม่ของฉันไปศูนย์การค้าแห่งหนึ่งด้วยตัวเองเพื่อซื้อของบางอย่าง ระหว่างที่เดินกลับบ้าน แม่รู้สึกแย่มากและยกขาไม่ขึ้น แม่นั่งที่ริมถนน แม่ต้องการขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน แต่แม่อยู่ที่สี่แยกซึ่งไม่มีป้ายรถประจำทาง ไม่มีใครอยู่บนถนนเลย แม่ของฉันเริ่มกังวล อยู่ ๆ แม่ก็จำได้ว่าฉันมักบอกให้แม่ท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” แม่รีบท่องวลีทั้งสองไม่หยุด ขณะที่แม่ท่องวลีทั้งสองไปเรื่อย ๆ แม่ก็รู้สึกดีขึ้นและสามารถขยับแขนขาได้ แม่ลุกขึ้นยืนและเดินกลับบ้าน

วันหนึ่งฉันโทรหาน้องชาย เขาพูดว่า “ผมกับน้องสาวคนที่สองกำลังพยุงแม่ไว้คนละข้าง แม่หมดสติและเดินไม่ได้” ฉันรีบไปที่บ้านของแม่ แม่กำลังนอนอยู่บนเตียง ดวงตาของแม่ปิดและใบหน้าของแม่ดูผิดรูป แม่นอนตะแคงข้างหนึ่งและไม่ขยับ

ฉันเรียกแม่หลายครั้ง แม่ค่อย ๆ หันศีรษะมาแล้วถามว่า “คุณเป็นใคร” ฉันพูดว่า “ฉันเป็นลูกสาวของแม่ แม่ยังไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน ให้ฉันช่วยป้อนไหม” แม่บอกว่า “แม่ไม่อยากกิน” ฉันถามว่า "แม่อยากนั่งไหม" แม่ตอบว่า “แม่ไม่มีแรง” ฉันพูดว่า "ให้ฉันช่วยแม่นะ" ฉันประคองแม่ขึ้นมา พอแม่อยู่ในท่านั่ง แม่ก็ไถลกลับลงไปอีกครั้ง แม่ไม่สามารถนั่งได้เลย

ฉันวางผ้าห่มหลายผืนไว้รอบตัวแม่แล้วพูดว่า “แม่จำคำ 9 คำ ที่ฉันบอกให้ท่องเวลาตกอยู่ในอันตรายได้ไหม” แม่พูดว่า “9 คำนี้คืออะไร” ฉันพูดว่า “แม่จำ ‘ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี’ ได้ไหม”

ฉันพูดว่า “พูด 9 คำนี้ด้วยกันนะ” ดูเหมือนแม่เข้าใจในทันที แล้วแม่ก็พูดว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” ฉันบอกแม่ว่า “ถูกต้อง ! พูดอีกครั้ง" แม่พูดวลีนี้ซ้ำ ทันใดนั้นใบหน้าของแม่ก็กลับมาเป็นปกติ หลังยืดตรงและแม่ก็สามารถลุกนั่งได้ แม่บอกว่าแม่อยากกินอะไรสักหน่อย แม่สามารถลุกจากเตียงและเดินได้ วิเศษเหลือเกิน !

แม่ของฉันกลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากพูดว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี” สองครั้ง เธอรู้สึกสำนึกในพระคุณของท่านอาจารย์หลี่ ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอเปล่งเสียงออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี !”

เนื่องจากศรัทธาที่แม่มีต่อต้าฝ่าและการสนับสนุนผู้ฝึกต้าฝ่าในช่วงโควิดระบาด แม่ไม่เพียงไม่ติดเชื้อไวรัส น้ำหนักของแม่ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ครอบครัวของฉัน

ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1996 ก่อนหน้านั้น ฉันป่วยเป็นโรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิตและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ฉันรอดชีวิตมาได้แต่ฉันต้องทนทุกข์ทรมานจากผลที่ตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและดวงตา และอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วงวัยทองของฉันก็ยากลำบาก : ฉันปวดหัว ฉันหงุดหงิดและอารมณ์ไม่คงที่ ฉันเป็นโรคทางนรีเวช ทั้งเนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และรังไข่อักเสบ ฉันทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ฉันหาการรักษาทางการแพทย์ทุกที่แต่ไม่มีที่ใดช่วยได้ ฉันต่อสู้กับสุขภาพที่ย่ำแย่และสูญสิ้นความหวังในชีวิต ฉันคิดฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ

ณ จุดต่ำสุดของชีวิต ฉันได้พบกับฝ่าหลุนต้าฝ่า หลังจากนั้นฉันก็ได้เริ่มชีวิตใหม่ จากการศึกษาคำสอนของต้าฝ่าและฝึกท่าฝ่าหลุนต้าฝ่า และการประพฤติตนตามหลักการของความจริง ความเมตตา ความอดทน ทุกโรคของฉันหายไปภายในเวลาไม่ถึงสามเดือน และฉันกลับมามีสุขภาพดี ฉันเข้าใจแล้วว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของชีวิตคือการกลับสู่ต้นกำเนิดที่แท้จริงของฉันและกลับบ้านบนสวรรค์

CCP เริ่มต้นประทุษร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าในวันที่ 20 กรกฎาคม 1999 ความเชื่อมั่นของฉันที่มีต่อท่านอาจารย์และต้าฝ่านั้นแน่วแน่เช่นเดียวกับผู้ฝึกต้าฝ่าอื่นนับจำนวนไม่ถ้วน ฉันทำสามสิ่งตามที่ท่านอาจารย์บอกให้ทำ ตั้งแต่ฝึกต้าฝ่ามา 27 ปี ฉันไม่เคยกินยาใด ๆ เลย ฉันไม่ติดเชื้อไวรัสในช่วงที่มีโรคระบาด

สามีของฉันเป็นสักขีพยานว่าฉันกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งจากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า และเขาไม่เคยต่อต้านการบำเพ็ญของฉัน เขาสนับสนุนฉันให้จัดกลุ่มอ่านฝ่าที่บ้านของเรา ก่อนที่ผู้ฝึกจะมาอ่านฝ่า เขาจะถูพื้น เช็ดโต๊ะ และตรวจตราจนแน่ใจว่าบ้านสะอาด เขาทักทายผู้ฝึกอย่างอบอุ่น เขามักพูดว่า “บอกให้ผู้ฝึกมาอ่านหลักคำสอนที่บ้านของเราสิ” เราจัดกลุ่มอ่านฝ่าที่บ้านของเรามานานกว่า 10 ปีแล้ว สามีของฉันเตือนฉันบ่อย ๆ ให้ฟาเจิ้งเนี่ยนตามเวลาที่กำหนดไว้ทั่วโลก เขาช่วยฉันอธิบายความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายให้กับผู้คน เขาลาออกจากการเป็นสมาชิกของ CCP และเขาไม่ติดไวรัส

ลูกสาวของฉันรู้ว่าฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าตอนที่เธออยู่ชั้นมัธยมศึกษา เธอไม่เคยคัดค้านการฝึกของฉัน เธออ่านหนังสือต้าฝ่าและรู้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าสอนให้เป็นคนดี หลังจากที่เธอเรียนจบปริญญาตรี เธอก็หางานทำและแต่งงาน วันหนึ่งเธอมาที่บ้านและต้องการให้เงินฉัน 70,000 หยวน ฉันปฏิเสธไปโดยบอกว่าฉันมีเงินเพียงพอแล้ว เธอพูดว่า “ให้ใช้เงินนี้กับโครงการของต้าฝ่า” ฉันพูดว่า “ดีเลย แน่นอน” ฉันใช้เงินจำนวนนี้ทำสิ่งต่าง ๆ ให้กับต้าฝ่า และจ้างทนายความคนหนึ่งเพื่อปกป้องผู้ฝึกที่ถูกจับอย่างผิดกฎหมาย ลูกสาวของฉันลาออกจากการเป็นสมาชิกของ CCP เช่นกัน ทั้งเธอและลูกชายของเธอไม่ติดโควิด

น้องชายคนแรกของฉันและครอบครัวของเขา

CCP ประทุษร้ายพลเมืองจีนมาตลอดเส้นทางการรณรงค์ทางการเมืองหลายครั้งนับตั้งแต่มันยึดอำนาจ ครอบครัวของฉันและครอบครัวน้องสะใภ้ตกเป็นเหยื่อของการณรงค์เหล่านี้ พวกเขารู้ว่า CCP ชั่วร้าย พวกเขาจึงสนับสนุนที่ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

วันหนึ่งฉันโทรศัพท์หาน้องชายและเขาพูดช้ามาก ฉันถามเขาว่ามีอะไรผิดปกติ เขาบอกฉันว่าภรรยาของเขาปวดท้องและแพทย์พบก้อนเนื้อในช่องท้องของเธอ เขาบอกว่ามันไม่ใช่สัญญาณที่ดี บางทีมันอาจจะเป็นเนื้องอกธรรมดา แต่เธอจำเป็นต้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจก่อนจะตัดสินใจว่าต้องรักษาอย่างไร ฉันได้ยินเสียงเขาพยายามกลั้นน้ำตา ฉันบอกเขาว่า “ไม่ต้องกลัว รีบท่องวลีที่ฉันบอกบ่อย ๆ : 'ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี !' พูดคำเหล่านี้บ่อย ๆ และบอกให้ภรรยาของเธอท่องด้วย พูดอย่างจริงใจแล้วทุกอย่างจะดี น้องชายของฉันพูดว่า “ได้ ! เราจะทำตามที่พี่บอก”

ไม่กี่วันต่อมาฉันโทรศัพท์หาเขา น้องชายของฉันพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ผลตรวจกลับมาแล้ว มันเป็นเนื้องอกธรรมดา หมอบอกว่าเธอแค่ต้องพักผ่อนสักสองสามวันหลังจากที่เขาตัดก้อนเนื้อออก แล้วเธอก็จะกลับบ้านได้” น้องชายและน้องสะใภ้ของฉันมีความสุขมาก บางครั้งเขาบอกสถานที่แจกเอกสารฝ่าหลุนต้าฝ่าที่ปลอดภัยให้ฉัน เพื่อให้ผู้คนอ่านข้อมูลดังกล่าวได้ เขาและภรรยายังช่วยปกป้องหนังสือต้าฝ่าด้วย ทั้งคู่ลาออกจากการเป็นสมาชิกของ CCP แล้ว พวกเขาสบายดีในช่วงการระบาดใหญ่เช่นกัน

ลูกสาวของน้องชายของฉันเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลานสาวของฉันไม่ต้องการเข้า แต่ครูของเธอพูดเรื่องนี้อยู่เรื่อย ๆ เธอสมัครอย่างไม่เต็มใจและโรงเรียนตรวจสอบใบสมัครของเธอ วันหนึ่งฉันบังเอิญเจอน้องสะใภ้ และเธอเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ฉันบอกเธอให้บอกลูกสาวว่าอย่าเข้าร่วมกับพรรคเนื่องจากที่มันทำเป็นสิ่งชั่วร้าย เธอบอกลูกสาวของเธอ หลานสาวของฉันไม่อยากเข้าร่วมอยู่แล้ว เธอจึงบอกให้ครูเอาใบสมัครของเธอออก เธอยังได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกยุวชนทหารคอมมิวนิสต์ด้วย

หลานสาวของฉันช่วยให้แฟนคนแรกของเธอลาออกจาก CCP หลังจากที่เธอแต่งงาน เธอได้ช่วยสามีลาออกจาก CCP หลังจากที่สามีของเธอ หลี่ซิน (นามแฝง) ลาออกจาก CCP เขาก็ได้รับพร หลี่ซินเคยทำงานในบริษัทออกแบบเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ปีหนึ่งบริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งต้องการจ้างงานผู้มีความสามารถทั่วประเทศ คนมีทักษะดีหลายพันคนสมัครตำแหน่งนี้ หลี่ซินเป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ดีเท่าผู้สมัครคนอื่น ๆ แต่เขาเพิ่งทำโครงการหนึ่งเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ และมีประสบการณ์ที่บริษัทกำลังมองหา หลี่ซินได้งานนี้ และตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าวิศวกร หลานสาวของฉันก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการระดับสูงในที่ทำงานของเธอด้วย ลูกสาวของเธอลาออกจากการเป็นสมาชิกนักบุกเบิกรุ่นเยาว์ (องค์กรในเครือของ CCP) และมีสุขภาพที่ดี เด็กหญิงได้รับรางวัลที่โรงเรียนบ่อย ๆ ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ ทั้ง 3 คนไม่ติดเชื้อไวรัสแม้จะอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีโควิดระบาดรุนแรงก็ตาม

น้องชายคนที่สองและน้องสาวของฉัน

น้องชายคนที่สองของฉันไม่คัดค้านต้าฝ่าและบอกว่าต้าฝ่าดี หลังจากการประทุษร้ายเริ่มต้น เขามักบอกกับเพื่อนร่วมงานว่าพี่สาวของเขาฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า และบอกว่าเธอมีสุขภาพแข็งแรงจากการฝึก เพื่อนร่วมงานของเขาเชื่อเขา เขายังบอกผู้คนว่าแม่ของเขามีอายุยืนยาวเพราะเธอได้รับการคุ้มครองจากฝ่าหลุนต้าฝ่า เมื่อเขาเห็นฉันทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อบอกผู้คนว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี เขาพูดว่า "พี่ระวัง อย่าให้ถูกจับนะ" เขาไม่เคยคัดค้านฉันที่ทำงานให้ต้าฝ่า และเขาก็ลาออกจาก CCP แล้ว เขาไม่เป็นไรในช่วงที่มีการระบาดใหญ่

น้องสาวของฉันเป็นคนใจดี หลังจากที่ฉันถูกจับ เธอช่วยให้ฉันได้รับการปล่อยตัวและช่วยเหลือฉันทางการเงิน เธอมักซื้อผลไม้ไปไหว้ท่านอาจารย์ ครั้งหนึ่งเธอเล่าว่าเมื่อเธอนัดพบเพื่อน ๆ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอบอกพวกเขาเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าว่า “พี่สาวของฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอเป็นคนดี” เพื่อนของเธอเห็นด้วย “ใช่ พี่สาวของเธอเป็นคนดี ผู้คนจำนวนมากนอกประเทศจีนก็ฝึก มีเพียง CCP เท่านั้นที่ไม่อนุญาตให้ประชาชนฝึก”

เพื่อนของน้องสาวของฉันชื่นชมฝ่าหลุนต้าฝ่า หนึ่งในพวกเขาบอกว่าพี่เลี้ยงเด็กที่เขาจ้างเป็นผู้ฝึกต้าฝ่า และคนที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าไว้ใจได้ พวกเขาไม่ลักขโมยและพวกเขาทำงานได้ถูกต้องเหมาะสม เขาไว้ใจเธอและให้กุญแจบ้านกับเธอ ต่อมาพี่สาวของผมยังขอให้ผมแนะนำผู้ฝึกมาดูแลบ้านให้หลายครั้ง เพราะเธอเชื่อว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดีและได้ลาออกจาก CCP แล้ว เธอจึงไม่ติดเชื้อในช่วงที่มีการระบาดใหญ่

ฉันหวังจริง ๆ ว่าทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในประเทศจีน จะรับรู้ได้ว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี

ภูมิหลัง

ฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือที่รู้จักกันในชื่อฝ่าหลุนกงคือรูปแบบการบำเพ็ญจิตฝึกกายในระดับสูงโดยอ้างอิงหลักการของความจริง ความเมตตา ความอดทน อาจารย์หลี่หงจื้อเริ่มสอนฝ่าหลุนต้าฝ่าและถ่ายทอดสู่สาธารณชนในเดือนพฤษภาคม 1992 ปัจจุบันมีผู้ฝึกในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศ และได้รับรางวัลในหลายประเทศ ผู้คนหลายล้านคนที่น้อมรับคำสอนและเรียนรู้ท่าฝึก 5 ชุด รู้สึกถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นและมีความเป็นอยู่ดีมีความสุข หนังสือเล่มหลักของฝ่าหลุนต้าฝ่าคือจ้วนฝ่าหลุนได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 40 ภาษา