(Minghui.org) ย้อนกลับไปในปี 1997 ก่อนที่ฉันและสามีจะเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เราเคยเป็นคนฉุนเฉียวทั้งคู่ สามีของฉันหงุดหงิดง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากฝึกต้าฝ่า ฉันรู้ว่าควรค้นหาจากภายในเมื่อมีความขัดแย้ง ถึงกระนั้น ฉันก็มักควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้และบางครั้งก็โต้กลับเมื่อเขาตะคอกใส่ฉัน เมื่อฉันตอบโต้กลับไป สามีของฉันจะเอะอะและไม่พูดกับฉันหลายวัน

เราติดอยู่ในวงจรอุบาทว์นี้วันแล้ววันเล่า ฉันคิดกระทั่งจะหย่ากับเขา อย่างไรก็ตาม ฉันเข้าใจว่าเราจะไม่ผ่านข้อกำหนดของต้าฝ่าหากเราหย่ากัน ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ฉันรู้สึกขมขื่น และหาทางออกไม่ได้อยู่เป็นเวลานาน

ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถเปลี่ยนสามีของฉันได้ ฉันจึงต้องเปลี่ยนแปลงตนเอง ฉันพยายามค้นหาจากภายใน ฉันพบจิตอ่อนไหวทางอารมณ์ ฉันอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นและดูแลซึ่งกันและกัน ฉันมีจิตแข่งขันและไม่ชอบถูกวิพากษ์วิจารณ์ ฉันยังพบว่าฉันคิดว่าตัวเองสูงส่ง จากนั้นฉันก็ค้นพบจิตอิจฉา ฉันรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเมื่อฉันต้องทำงานบ้าน—ฉันได้รับการศึกษาดีพอ ๆ กับเขา และเรามีรายได้เท่ากัน

ท่านอาจารย์กล่าวว่า “ผู้บำเพ็ญใช่ไหม การค้นหาจากภายในนี้คือเคล็ดลับอันหนึ่ง” (การบรรยายธรรม ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยนานาชาติกรุงวอชิงตันดีซี ค.ศ. 2009)

ฉันมุ่งมั่นบำเพ็ญอย่างแข็งขันและต้องผ่านอุปสรรคนี้ให้ได้ ฉันคิดว่าแม้ฉันจะปล่อยวางความโกรธเคืองและจิตยึดติดอื่น ๆ ไม่ได้ อย่างน้อยฉันก็ควรควบคุมปากของตัวเองไม่ให้โต้กลับ ฉันตัดสินใจไม่อธิบายมุมมองของตัวเองหรือโต้เถียงกับสามีไม่ว่าเขาจะประพฤติตัวไร้เหตุผลเพียงใด

จากนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าเขาจะตะคอกอย่างไร ฉันก็ไม่พูดอะไร แน่นอนว่ามันยาก ดังนั้นฉันจึงศึกษาฝ่ามากขึ้น มากขึ้น ฉันค่อย ๆ รู้สึกว่ามันไม่เป็นไร ฉันพบว่าตัวเองสงบขึ้นและโกรธน้อยลง น่าแปลกใจที่สามีของฉันอ่อนโยนขึ้นเมื่อฉันควบคุมตัวเองได้

ท่านอาจารย์กล่าว :

“ในขั้นตอนของการซิวเลี่ยนของเรา ก็คือต้องสลัดสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ในร่างกายคนออกไป จึงจะสามารถทำให้คุณเลื่อนระดับขึ้นมาได้ คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลนี้ก็จะบังเกิดผลเช่นนี้ คุณไม่ซิวเลี่ยนซินซิ่งของคุณ มาตรฐานศีลธรรมของคุณไม่ยกระดับสูงขึ้นมา ไม่ขจัดความคิดที่ไม่ดี สสารที่ไม่ดีออกไป เขาก็ไม่ให้คุณเลื่อนระดับขึ้นมา คุณว่ามันไม่ใช่สิ่งเดียวกันหรือ” (บทที่ 1 จ้วนฝ่าหลุน)

จิตยึดติดเหล่านั้นเป็นสสารที่เป็นภัยไม่ใช่หรือ ฉันพบว่าตราบเท่าที่ฉันตั้งใจแน่วแน่ว่าจะขจัดมันทิ้งไป ท่านอาจารย์ก็จะขจัดมันให้ฉัน

ฉันค้นพบจิตยึดติดและความคิดที่บิดเบี้ยวของตัวเองหลังจากค้นหาจากภายในเมื่อมีความขัดแย้งแต่ละครั้ง ดูผิวเผินเขาโกรธฉันโดยไม่มีเหตุผล แต่เขากำลังช่วยให้ฉันรับรู้ถึงจิตยึดติดของตัวเองและขจัดมันทิ้งไป หลังจากต้านทานอารมณ์ร้ายของสามีได้โดยไม่พูดกลับหรือโต้เถียงอยู่นาน 2 -3 ปี ในที่สุดครอบครัวของฉันก็เปลี่ยนไปเป็นสงบสุข

ในระหว่างนี้ ฉันศึกษาฝ่าตลอด โดยวัดตัวเองกับข้อกำหนดของฝ่า และขจัดจิตยึดติดต่าง ๆ ออกไป

พอฉันขจัดจิตยึดติดของตัวเองได้ ฉันก็สามารถสงบใจเย็นและมีเมตตาได้ในหลายสถานการณ์ เมื่อมองย้อนกลับไป สามีของฉันกำลังช่วยฉันยกระดับจิตใจ แม้เขาจะขี้หงุดหงิด แต่เขาก็เป็นคนซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา บางครั้งเขายังมีอารมณ์เสียบ้าง แต่เขาก็สงบลงทันทีที่ฉันค้นหาจากภายในเพื่อค้นหาจิตยึดติดของตัวเอง

เมื่อฉันค้นหาจากภายในและแก้ไขตัวเองให้ถูกต้อง ฉันพบว่าแม้ฉันจะเกิดมาพร้อมกับนิสัยใจคอของตัวเองหรือได้เรียนรู้จากพ่อแม่ของฉัน แต่มันเปลี่ยนไปในระหว่างการล้างสมองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนผ่านระบบการศึกษาซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปลูกฝังความคิด ตัวอย่างเช่น เราถูกสอนให้เกลียดชังหรือดูถูกคนบางคน พฤติกรรมของสามีช่วยเปิดโปงความคิดของฉันและขจัดพวกมันทิ้งไป

ฉันตระหนักว่าสิ่งที่ฉันเรียกว่า "นิสัยใจคอ" คือความยึดติดทั้งหมดและควรกำจัดมันออกไป เราต้องตื่นตัวกับทุกความคิด จับจิตยึดติด และกำจัดมันออกไป

บำเพ็ญจิตใจของฉันในที่ทำงาน

หน่วยงานของฉันเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้คนต่อสู้เพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่เสมอ

ฉันจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ต้าฝ่าเปิดสติปัญญาให้ฉันหลังจากฉันก้าวเข้าสู่การบำเพ็ญ ดังนั้นฉันจึงจัดการงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉันพบว่ามันง่ายที่จะทำงานที่คนอื่นคิดว่าท้าทาย หัวหน้างานก็ยอมรับความสามารถของฉันด้วยและบางครั้งก็มอบงานสำคัญให้ฉันทำ

วันหนึ่งมีเพื่อนร่วมงานใหม่มาร่วมงานกับเรา เธอไม่มีทักษะและถูกว่าจ้างเพราะเธอเป็นเพื่อนของหัวหน้าของเรา หัวหน้าบอกให้ฉันมอบงานของฉันให้เธอ และหัวหน้ามอบหมายงานใหม่ให้ฉันซึ่งมีปริมาณมากและเป็นงานที่ไม่สำคัญ งานนี้ต้องใช้ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์สูงและต้องแม่นยำ 100%

ฉันไม่ได้พูดอะไรแต่รู้สึกโกรธ เมื่อฉันศึกษาฝ่า ฉันได้อ่านที่ท่านอาจารย์กล่าวถึงจิตอิจฉาริษยา ฉันตระหนักว่าฉันยังโกรธอยู่แม้ฉันจะไม่ได้พูดอะไร

ในตอนนั้น ฉันมีเคล็ดลับมากมายที่ฉันสรุปไว้มานาน เทมเพลตที่ฉันสร้างไว้ช่วยประหยัดเวลาได้มาก ฉันไม่จำเป็นต้องให้บันทึกของฉันกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่เพราะไม่มีใครรู้ว่าฉันมีบันทึกเหล่านั้น ฉันสงสัยว่าควรจะให้บันทึกของฉันกับเธอไหม ฉันคิดว่า “ฉันไม่ต้องให้บันทึกเธอก็ได้ แต่ฉันควรช่วยเธอเพราะต้าฝ่าต้องการให้ผู้ฝึกเสียสละและเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัวโดยสิ้นเชิง”

เมื่อฉันคิดได้เช่นนี้ แม้ฉันจะวางใจที่ขุ่นเคืองไม่ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ฉันก็ไม่ลังเลที่ให้บันทึกของฉันกับเธอ ฉันสงบอารมณ์และช่วยเธอให้เข้าที่เข้าทางกับงานใหม่ เราค่อย ๆ กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

ฉันติดต่อกับคนมากมายในสาขาของงานในตำแหน่งก่อนหน้านี้ของฉัน คนในสาขาเหล่านี้พยายามประจบฉัน ฉันค่อย ๆ กลายเป็นคนหยิ่งยโสและแสวงหาชื่อเสียง ตอนนี้ตำแหน่งงานของฉันเปลี่ยนไปแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะกำจัดจิตยึดติดกับชื่อเสียง ความอิจฉาริษยา และความขุ่นเคืองใจไม่ใช่หรือ

ในที่ทำงานฉันมีโอกาสมากมายที่จะยกระดับซินซิ่ง ตัวอย่างเช่น มื้อกลางวัน แผนกของฉันอยู่ในอาคารสำนักงานเล็ก ๆ ที่แยกอยู่ต่างหาก ห่างไกลจากโรงอาหารขนาดใหญ่ของบริษัท โดยมากพวกเราไม่อยากเดินไกลขนาดนั้นเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน ตอนแรกเราทำอาหารเที่ยงด้วยกัน แต่คนส่วนใหญ่แค่อยากกินและไม่อยากทำอาหาร ฉันจึงกลายเป็นคนทำอาหารให้ทุกคน

เพื่อนร่วมงานของฉันทุกคนรู้ว่าฉันเป็นผู้ฝึกและฉันมักพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวโยงกับการบำเพ็ญ บางครั้งขณะทำอาหารฉันพูดถึงเรื่องไม่ทิ้งอาหาร ฉันบอกพวกเขาว่าการทิ้งอาหารก่อให้เกิดกรรม พวกเขาทุกคนก็รับฟัง ต่อมาทุกคนรู้ว่าจะไม่ทิ้งอาหารและพูดว่า “เก็บอาหารที่เหลือไว้สำหรับพรุ่งนี้”

ที่ตึกของเราไม่มีพนักงานทำความสะอาด ดังนั้นพวกเราจึงต้องทำความสะอาดสำนักงานกันเอง ฉันมักจะทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและห้องน้ำหญิง หลังจากที่ฉันเกษียณ เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งพูดว่า “หลังจากที่คุณเกษียณ ห้องน้ำก็สกปรกมากจนเข้าไม่ได้เลย”

ฉันทำงานหนัก ดีกับทุกคน และไม่มองข้อบกพร่องของคนอื่น เพื่อนร่วมงานทุกคนจึงเข้ากับฉันได้ดีมาก

แผนกของเราต้องลดขนาดและเลิกจ้างพนักงานสามคนในปี 2012 หัวหน้าตัดสินใจให้ลงคะแนนเสียงเพื่อตัดสินว่าพนักงานสามคนที่จะถูกเลิกจ้างคือใคร ทุกคนอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก ฉันอยู่ในความสงบและคิดว่า “ฉันจะปล่อยให้ท่านอาจารย์ตัดสินว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน” หลังจากลงคะแนนเสียงก็ประกาศผลทันที ทุกคนลงคะแนนให้ฉันอยู่ต่อ

หลังจากนั้น หัวหน้าแผนกของเราพูดว่า “คุณรู้อะไรไหม ฉันประทับใจคุณมาก ทุกคนต้องการให้คุณอยู่ !” รองผู้อำนวยการพูดว่า “เห็นได้ชัดว่าคุณเป็นคนดี ฉันคิดว่าคุณฝึกในสิ่งที่คุณเชื่อได้ดีมากทีเดียว”

ฉันซาบซึ้งใจมาก ฝ่าหลุนต้าฝ่าถูกประทุษร้ายตั้งแต่ปี 1999 และทุกคนรู้ว่าฉันเป็นผู้ฝึก ฉันคิดว่าคนส่วนใหญ่ยังมีมาตรฐานทางศีลธรรมในการวัดความดีและความชั่ว ฉันสำนึกในบุญคุณของท่านอาจารย์ที่สอนให้ฉันเป็นคนดีและให้โอกาสฉันได้แสดงให้ผู้คนเห็นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่านั้นวิเศษเพียงใด

ขจัดกรรมทางความคิดด้วยการท่องจำฝ่า

ฉันท่องฝ่ามานานกว่าสามปีแล้วและเพิ่งเริ่มท่องหนังสือจากความทรงจำเป็นครั้งที่ห้า

ฉันอยากจะท่องฝ่ามานานแล้วแต่มีปัญหาที่จะทำเพียงลำพัง ฉันพบเพื่อนผู้ฝึกคนหนึ่งโดยบังเอิญ และเธอบอกว่าให้ฉันท่องฝ่ากับเธอก็ได้ เราจึงเริ่มท่องฝ่าด้วยกัน เราตกลงกันว่าจะท่องครั้งละสี่หน้า สัปดาห์ละสองครั้ง

ท่านอาจารย์มอบสภาพแวดล้อมการฝึกเป็นกลุ่มไว้ให้เรา ข้อดีของการจัดเวลาอยู่กับเพื่อนผู้ฝึกเพื่อท่องจำฝ่าคือสภาพแวดล้อมที่ช่วยกระตุ้นให้พวกเราขยันหมั่นเพียรและไม่ย่อหย่อน มิฉะนั้นเราอาจเขวและหยุดทำได้

ในเวลานั้น เธอท่องจำฝ่าหลายครั้งแล้ว ฉันจึงท่องได้ช้ากว่าเธอมาก หลังจากท่องจำด้วยกัน 2 ครั้ง ฉันคิดว่าจะให้เธอรอไม่ได้ ฉันจึงท่องจำที่บ้านด้วยก่อนจะมาท่องกับเธอเพื่อไม่ให้เธอต้องรอฉัน

เมื่อฉันเริ่มท่องจำครั้งแรก ไม่ว่าฉันจะท่องจำได้ดีแค่ไหนตอนอยู่ที่บ้าน ฉันมักมีความคิดวอกแวกอยู่เสมอและติดขัดเมื่อถึงคิวของฉัน ฉันเข้าใจว่าเป็นกรรมทางความคิดที่ไม่ต้องการให้ฉันท่องฝ่าได้เพราะถ้าท่องได้มันจะถูกขจัด ต่อมาฉันจึงท่องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ในหนึ่งลมหายใจโดยไม่ให้มีโอกาสวอกแวก พอทำวิธีนี้จนถึงช่วงกลางของบทที่สอง ฉันก็รู้สึกว่าจิตใจปลอดโปร่งขึ้นมาก และฉันสามารถท่องจำได้อย่างช้า ๆ ฉันสามารถควบคุมจิตใจของฉันได้ด้วย

หลังจากผ่านไปสี่รอบ ฉันกำจัดกรรมทางความคิดออกไปได้มาก ฉันมีสมาธิเวลาฝึกท่า ฉันฟังดนตรีสำหรับฝึกท่าในสภาวะที่ยอดเยี่ยมโดยไม่คิดถึงเรื่องอื่นเลย

บทส่งท้าย

เมื่อไรที่ฉันมีความขัดแย้งกับผู้อื่น ฉันรู้สึกว่าจิตยึดติดของฉันกำลังดิ้นรนต่อสู้ จิตยึดติดเหล่านั้นดื้อรั้นและได้กลายเป็นนิสัยที่สองของฉัน ฉันรับรู้ถึงจิตยึดติดเหล่านั้นไม่ได้ในตอนแรก ฉันจึงเจ็บปวดเมื่อเกิดความขัดแย้งที่แตะถูกจิตยึดติดเหล่านั้น

ฉันไม่มุ่งมั่นในการขจัดจิตยึดติดจนกระทั่งฉันไม่มีวิธีอื่นที่จะแก้ปัญหาในครอบครัวของฉัน ท่านอาจารย์ช่วยฉันขจัดพวกมัน บางครั้งฉันก็ทำได้ไม่ดี แต่ฉันก็ยกระดับขึ้นทุกวัน นั่นคือการบำเพ็ญ