(Minghui.org) ภายใต้การชี้แนะของท่านอาจารย์หลี่หงจื้อ ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า ผู้ฝึกจำนวนมากประพฤติตนด้วยความคิดและการกระทำที่ถูกต้อง สมาชิกในครอบครัวบางคนที่ไม่ได้ฝึกก็ให้การสนับสนุนเอย่างมาก

ฉินมักบอกลูกสองคนของเธอเสมอเกี่ยวกับหลักการของฝ่าหลุนต้าฝ่า ความจริง-ความเมตตา-ความอดทน ลูกของเธอคนหนึ่งที่ชื่อซิ่วถูกพิษจากการได้รับยานีโอมัยซินมากเกินไปตอนที่เธอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่เด็ก ผลก็คือเธอหูหนวกและเป็นใบ้

ซิ่วเชื่อฟังแม่ของเธอและมักจะใส่เครื่องราง (ของที่ระลึกฝ่าหลุนต้าฝ่า) ที่มีวลี "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี" เธอดูแลสามี พ่อแม่ และพ่อแม่สามีของเธอ พ่อสามีประทับใจเธอมากและบอกกับผู้คนว่า “ลูกสะใภ้ของผมเยี่ยมมาก ทุกวันนี้จะหาคนที่ดีแบบเธอไม่ได้แล้ว”

ซิ่วและสามีของเธอ (ซึ่งเป็นใบ้หูหนวกเช่นกัน) ทำธุรกิจอาหารอยู่อีกเมืองหนึ่ง ซิ่วเตรียมอาหารว่างที่ทำจากเต้าหู้แผ่นบาง ๆ ซึ่งสะอาด อร่อย ขายในราคาที่สมเหตุสมผล ลูกค้าของเธอส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ซิ่วพยายามที่จะเป็นคนดีและคืนเงินที่ลูกค้าของเธอเผลอให้เกินทุกครั้ง สามีภรรยาคู่หนึ่งเห็นว่าเธอทำงานหนักมาก ก็เลยซื้อชานมให้เธอเพื่อแสดงความชื่นชอบ ซิ่วคิดว่ามันไม่สุภาพที่จะปฏิเสธ แต่เธอก็รู้ว่าแม่ของเธอบอกเธอว่าท่านอาจารย์พูดเกี่ยวกับ “ไม่เสีย ไม่ได้” เมื่อเธอถามแม่ของเธอ แม่บอกว่า “ครั้งต่อไปที่พวกเขาซื้อขนม ก็แค่ให้พวกเขาเพิ่ม”

ทุกครั้งที่ซิ่วไปเยี่ยมแม่ของเธอ เธอมักจะนำผลไม้ดี ๆ ไปวางไว้หน้ารูปของท่านอาจารย์เพื่อแสดงความเคารพ

ปล่อยตัวแม่ของเธอ

ฉินทำเอกสารอธิบายความจริงที่บ้านของเธอมา 10 ปีแล้ว ซิ่วให้การสนับสนุนอย่างมาก เมื่อผู้ฝึกมาหา เธอปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดีเสมอ ครั้งหนึ่งสามีของเธอเข้าใจต้าฝ่าผิดบางอย่าง และพยายามทำลายหนังสือฝ่าหลุนต้าฝ่าของแม่ของเธอ ซิ่วปกป้องหนังสือและไม่ยอมให้สามีของเธอแตะต้องหนังสือเหล่านั้น เธอไม่ยอมถอยแม้ว่าเขาจะขู่เธอด้วยมีดก็ตาม

ในเดือนตุลาคม 2010 ฉินและผู้ฝึกอีกหลายคนถูกจับกุมและนำตัวไปยังศูนย์กักกันของเมือง ซิ่วไปสถานีตำรวจทุกวันเพื่อขอให้ปล่อยตัวแม่ของเธอ เธอเขียนในกระดาษแผ่นหนึ่งว่า “แม่ของฉันเป็นคนใจดี ตอนที่ฉันยังเด็ก แม่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และกินยาเยอะมาก เธอหดหู่ใจและทะเลาะกับพ่อบ่อย ๆ หลังจากที่แม่เริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1994 แม่เปลี่ยนเป็นคนที่มีสุขภาพดีและมีความสุข—แทบเป็นคนละคนเลย ได้โปรดปล่อยแม่ของฉัน !” เธอร้องไห้เสียงดังจนทุกคนในอาคารได้ยินเธอ เธอไปที่นั่นทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์

หลังจากนั้นไม่กี่วันซิ่วก็เป็นหวัด เธอไปโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาเข้าเส้นเลือดในตอนเช้า แต่ยังคงไปที่สถานีตำรวจในช่วงบ่ายของวันนั้นเพื่อหาทางให้แม่ของเธอได้รับการปล่อยตัว เธอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูรอยเข็มฉีดยาที่แขนของเธอ และเขียนว่าเธอไปโรงพยาบาลก่อนที่จะไปโรงพัก เธอเขียนว่า “ฉันต้องการแม่ !” จากนั้นเธอก็เริ่มร้องไห้

ทุกครั้งที่ซิ่วมา ตำรวจจะพูดว่า "ลูกสาวใบ้มาที่นี่อีกแล้ว" การร้องไห้ของเธอทำให้เจ้าหน้าที่บางคนสะเทือนใจ คนหนึ่งพูดว่า “ดูเธอสิ ทำไมไม่ปล่อยแม่ของเธอล่ะ”

ซิ่วอ่านสีหน้าและอ่านปากเมื่อคนอื่นพูดได้ แม่ของเธอถูกกักขังนานกว่า 20 วัน วันนั้นเธอบอกพี่สะใภ้ของเธอว่าดูเหมือนว่าตำรวจจะปล่อยตัวฉิน เธอขอให้พี่สะใภ้ไปด้วยในวันรุ่งขึ้น

ทุกครั้งที่เธอไปสถานีตำรวจ ซิ่วจะขอให้ท่านอาจารย์หลี่ปกป้องแม่ของเธอ และเธอก็ทำแบบเดิมก่อนที่เธอจะไปสถานีตำรวจกับพี่สะใภ้ เป็นตามที่เธอคาดไว้ ตำรวจบอกพวกเขาให้ไปที่ศูนย์กักกันและรับแม่ของเธอกลับ

ทันทีที่ฉินออกมา ซิ่วกอดเธอและร้องไห้ เธอยังพยายามหาร่องรอยว่าแม่ของเธอถูกทรมานหรือเปล่า เธอไม่ยอมหยุดมองหาจนแม่ของเธอบอกว่าไม่มีใครทุบตีเธอ เจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์นี้รู้สึกสะเทือนใจมาก

ปล่อยตัวลูกสาวของเธอ

ในปี 2017 ฉินถูกจับกุมอีกครั้งเนื่องจากความเชื่อของเธอ หยุนซึ่งเป็นลูกสาวของซิ่วเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่น ๆ ฟังและพยายามช่วยเหลือเธอ ไม่นานเธอก็ถูกจับกุมเช่นกัน

เมื่อซิ่วได้ยินเช่นนี้ ซิ่วไปพบแม่ของเธอทันที แม่ของเธอถูกตัดสินโทษจำคุก 4 ปี เมื่อพ่อของซิ่วในวัย 70 ปีเศษ เห็นฉินผู้เป็นภรรยาและหยุนที่เป็นหลานสาวถูกกักตัว ความดันโลหิตของเขาก็สูงขึ้น พี่ชายและพี่สะใภ้ของเธอทำงานอยู่ในเมืองอื่นและไม่สามารถช่วยเหลือได้ ซิ่วจึงต้องดูแลพ่อที่แก่ชราของเธอและพยายามช่วยเหลือแม่กับลูกสาวของเธอในเวลาเดียวกัน เธอหมดเรี่ยวแรง

ผู้ฝึกในพื้นที่ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร ฉินกับหยุนยังถูกกักขังทั้งคู่ วันหนึ่งขณะที่ผู้ฝึกสี่คนกำลังฟาเจิ้งเนี่ยน ซิ่วก็ปรากฏตัวขึ้นและเล่าสถานการณ์ให้พวกเขาฟัง : พ่อที่แก่ชราของเธอป่วยและนอนติดเตียง ส่วนพี่ชายกับภรรยาของเขาอาศัยอยู่ในเมืองอื่นและไม่สามารถช่วยได้ เธอบอกว่าเธอขอร้องให้ท่านอาจารย์ช่วย

ผู้ฝึกรู้สึกประทับใจในความจริงใจของเธอ ทั้งที่มีความยากลำบากทั้งหมดนี้ ซิ่วก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอเชื่อใจต้าฝ่าและผู้ฝึก และมาหาพวกเขาเพื่อขอช่วยเหลือแทนที่จะพึ่งพาคนธรรมดาสามัญ

ผู้ฝึกคนหนึ่งร่างจดหมายถึงตำรวจหนึ่งฉบับ และผู้ฝึกหลายคนช่วยออกความเห็นเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น ต่อมาซิ่วคัดลอกด้วยมือ เธอลายมือสวยและเขียนเสร็จอย่างรวดเร็ว ในจดหมายซิ่วอธิบายว่าทั้งเธอและสามีเป็นคนหูหนวกและเป็นใบ้ ฉินจึงต้องเลี้ยงหยุน ทำให้หยุนรักฉินมาก และรู้สึกเศร้าใจมากหลังจากฉินถูกจับกุมเมื่อเร็ว ๆ นี้

“แม่ของฉัน (ฉิน) เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ขั้นรุนแรง มันแย่มากจนทำให้มือและเท้าของแม่ผิดรูป แต่เธอยังคงเลี้ยงดูหยุนอย่างดี และฉันนึกถึงบุญคุณของแม่อย่างมาก ฝ่าหลุนต้าฝ่าได้ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ของแม่ให้หายดีและทำให้อารมณ์ของแม่ดีขึ้นด้วย” ซิ่วเขียน “ที่จริงในขณะนั้นฝ่าหลุนต้าฝ่ายังไม่ถูกประทุษร้ายในประเทศจีน และแม้แต่โทรทัศน์ก็ยังรายงานว่าต้าฝ่าดี หลังจากแม่เริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า แม่ก็บอกให้ฉันปฏิบัติต่อพ่อแม่ของสามีอย่างดี”

เช้าวันรุ่งขึ้นซิ่วไปที่ทำการไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้ ๆ พร้อมบัตรประจำตัวของเธอและส่งจดหมาย หลายวันต่อมา หยุนซึ่งเป็นลูกสาวของเธอก็ได้รับการปล่อยตัว

ฉินก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน และเธอยังคงบอกผู้คนเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าและเปิดโปงการประทุษร้ายด้วย ส่วนสามีของเธอก็ดีขึ้นเช่นกัน ธุรกิจอาหารของซิ่วกำลังเฟื่องฟู ทั้งครอบครัวเชื่อมั่นในฝ่าหลุนต้าฝ่าและหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน