(Minghui.org) ภาพยนตร์สารคดี State Organs ฉายที่ห้องสมุดสาธารณะลูอิส ในเมืองลูอิส รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2024 ภาพยนตร์เรื่องนี้เผยให้เห็นการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP)

การฉายภาพยนตร์ครั้งนี้จัดขึ้นโดย Ending Forced Organ Harvesting Rotary Satellite Club of CAAHT (EFOH.org) และได้รับการสนับสนุนร่วมจากกลุ่มผู้สนับสนุนต่าง ๆ ได้แก่ Doctors Against Forced Organ Harvesting (DAFOH.org), Delaware Medical Freedom Alliance (DelawareMFA.org) และ Greater Philadelphia Falun Dafa Association (GPFDA.org) ในช่างท้ายของภาพยนตร์มีการจัดเวทีอภิปรายซึ่งนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้วย

ภาพยนตร์ที่มีความยาว 76 นาทีนี้พรรณนาถึงการค้นหาคนที่พวกเขารักที่หายตัวไปของครอบครัว 2 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในประเทศจีน และเปิดเผยวิธีที่ CCP รวบรวมอวัยวะจากนักโทษทางความคิด โดยส่วนใหญ่คือผู้ฝึกฝ่าหลุนกง

ผู้เข้าชมจำนวนมากสะเทือนใจมาก ช็อก และโกรธ เมื่อเห็นความจริงที่น่าสะพรึงกลัวที่บรรยายให้เห็นภาพในภาพยนตร์ และพูดว่าพวกเขาจะต่อต้านการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมของ CCP จะสนับสนุนการผ่านกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกงในวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา และจะทำให้แน่ใจว่าเหยื่อหลายล้านคนที่ไม่สามารถพูดเพื่อตนเองได้จะได้รับความยุติธรรม

ผู้คนจำนวนมากชมภาพยนตร์ State Organs ที่ห้องสมุดสาธารณะลูอิสเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2024

ผู้ที่เข้าชมภาพยนตร์ State Organs ลงนามในคำร้องเพื่อเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาของตนสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง

ผู้ชมช็อกกับคำให้การของผู้รอดชีวิตจากการถูกผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมคนแรกที่รู้จัก

เฉิง เป่ยหมิง ซึ่งเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่รอดชีวิตจากการถูกผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมเป็นคนแรกที่รู้จัก ขึ้นพูดบนเวทีอภิปรายด้วย เขาถูกจำคุกเพราะฝึกฝ่าหลุนกง ระหว่างที่เขาถูกกักขังในประเทศจีน ตับและปอดบางส่วนของเขาถูกตัดออกไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว เฉิงเล่ารายละเอียดผ่านล่ามเกี่ยวกับความเจ็บปวดและบาดแผลทางใจที่เขาต้องเผชิญ รวมถึงการหลบหนีออกจากประเทศจีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ “เมื่อผมรู้ตัวว่าผมกำลังจะถูกผ่าเอาอวัยวะ ผมรู้ว่าผมต้องหลบหนี ไม่เช่นนั้นผมจะถูกฆ่าเพื่อเอาอวัยวะไป” เฉิงพูด “ผมยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ไม่เพียงเพื่อตัวผมเองเท่านั้น แต่เพื่อเหยื่อที่ถูกผ่าเอาอวัยวะขณะที่มีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนด้วย”

เฉิง เป่ยหมิง ซึ่งเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่รอดชีวิตจากการถูกผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมเป็นคนแรกที่รู้จัก (คนที่สองจากซ้าย) พูดถึงประสบการณ์ที่เจ็บปวดของเขาหลังจากการฉายภาพยนตร์สารคดี State Organs

สิ่งที่เขาพูดทำให้หลายคนช็อก วิกเตอร์ คาร์ลสตรอม เป็นผู้ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากลูอิส เขาเรียกเรื่องราวของเฉิงว่าเป็น "การรอดชีวิตที่เป็นปาฏิหาริย์" และแสดงการช็อกสุดขีดจากการเปิดเผยของสารคดี

คาร์ลสตรอมพูดว่า “สิ่งที่ทำให้ผมสะเทือนใจจริง ๆ คือไม่ใช่แค่เฉพาะนักโทษที่ถูกตัดสินประหารชีวิตเท่านั้นที่ถูกใช้ในการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่พวกเขามีเป้าหมายของอวัยวะจากคนที่มีความเชื่อ มันโหดร้าย” ในฐานะผู้ที่ได้รับอวัยวะจากการปลูกถ่าย คาร์ลสตรอมแปลกใจมากเมื่อรู้ว่าในประเทศจีน ผู้คนสามารถรับการปลูกถ่ายได้ภายในไม่กี่สัปดาห์

วิกเตอร์ คาร์ลสตรอม ซึ่งเป็นผู้ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากลูอิสเข้าร่วมชมภาพยนตร์สารคดี State Organs

“มีคนจำนวนมากเสียชีวิตที่นี่ ขณะรอคอยอวัยวะ ไม่เพียงแค่หัวใจ แต่ยังรวมถึงอวัยวะที่สำคัญต่อชีวิตอื่น ๆ ด้วย” คาร์ลสตรอมพูด “แน่นอนว่ามันบอกเป็นนัยว่า (ในประเทศจีน) การมีอวัยวะให้ได้ตามปริมาณที่ต้องการบ่งบอกว่าอวัยวะเหล่านั้นไม่ได้นำออกมาจากร่างผู้เสียชีวิตตามธรรมชาติ… มันยากที่จะเข้าใจสาเหตุหรือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของวิธีที่พวกเขาจัดหาอวัยวะมาได้อย่างรวดเร็วตามปริมาณที่ต้องการ”

ผู้จัดงานเรียกร้องให้มีมโนธรรมและลงมือทำ

แอบราซาส ฮัดสัน ประธาน DMFA เรียกร้องให้ผู้ชมยืนหยัดต่อต้านความชั่วร้ายของการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอม

แอบราซาส ฮัดสัน ซึ่งเป็นประธาน DMFA กล่าวเปิดงานก่อนการฉายภาพยนตร์

“มันเป็นเรื่องที่สยดสยองและเป็นความจริงที่น่าเศร้ามาก การละเมิดสิทธิมนุษยชนทางอาญาในระดับนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดในโลกก็ยอมรับไม่ได้ ” ฮัดสันพูดกับอิพอกไทมส์ว่า “คนจำนวนมากในอเมริกาไม่ใส่ใจเพราะมันเกิดขึ้นไกลออกไปหลายพันไมล์ และพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง… แต่เราต้องยืนหยัดต่อสู้กับความชั่วร้าย และเราต้องปกป้องอนาคตโดยการรับผิดชอบต่ออนาคตที่เราต้องการ”

เขาเน้นย้ำว่าการสร้างความตระหนักรู้เป็นก้าวแรกในการต่อสู้กับอาชญากรรมดังกล่าว และยกย่องความกล้าหาญของเฉิงที่เล่าประสบการณ์ของเขา “ความจริงที่ว่าเขาสามารถยืนขึ้นและพูดที่นี่ได้ ก็น่าทึ่งมากแล้ว” ฮัดสันพูด “ถ้าทุกคนยืนหยัดต่อสู้กับความชั่วร้าย มันก็จะสลายและหายไป เช่นเดียวกับการปกครองแบบทรราชย์หรือลัทธิเผด็จการ”

ความรู้สึกของฮัดสันส่งผลกระทบต่อผู้ชมอย่างมาก หลายคนแสดงความรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ได้รับการกระตุ้นขึ้นมาใหม่

“นั่นมันไร้มนุษยธรรม… เราต้องบอกต่อเรื่องนี้ให้คนอื่นทราบ เราต้องเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และเราต้องเรียกร้องให้ผู้แทนที่เราลงคะแนนเลือกตั้งให้ดำเนินการเพื่อหยุดเรื่องนี้” จานีน ฟิตซ์เจอรัลด์ ซึ่งเป็นว่าที่ประธานของ Lewes-Rehoboth Beach Rotary Club กล่าว

จานีน ฟิตซ์เจอรัลด์ ซึ่งเป็นว่าที่ประธานของ Lewes-Rehoboth Beach Rotary Club เข้าร่วมชมภาพยนตร์

ลินดา ซิดาวสกี้ ซึ่งเป็นเลขาธิการ DMFA เป็นผู้ชมอีกคนหนึ่ง เธอพูดเสริมว่า “ฉันถ่ายรูปหน้าจอไว้ทั้งหมด ฉันจะไปหาวิธีต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้คนได้รับรู้และช่วยเหลือผู้ที่ถูกประทุษร้าย”

ลินดา ซิดาวสกี้ ซึ่งเป็นเลขาธิการ DMFA เข้าชมภาพยนตร์

เรียกร้องให้วุฒิสมาชิกสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง

ผลกระทบทางอารมณ์ของภาพยนตร์สารคดีสามารถรับรู้ได้ชัดเจน เดโบราห์ เบิร์กแมน เป็นครูที่เกษียณแล้ว เธอสะเทือนใจมากจากการที่ภาพยนตร์สารคดีเชื่อมโยงความโหดร้ายในประเทศจีนกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

เดโบราห์ เบิร์กแมน ซึ่งเป็นครูเกษียณอายุรู้สึกสะเทือนใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก

เธอพูดว่า “การเปรียบเทียบลัทธินาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เรากำลังทำสิ่งเดียวกัน เรากำลังแกล้งทำเป็นว่ามันไม่มีอยู่จริง แต่มันมีอยู่จริง และถ้ามันเกิดขึ้นกับศาสนากลุ่มหนึ่ง พวกเขาจะหยุดการกระทำนี้ที่ไหน”

คอนสแตนซ์ ฮิกกินส์ เป็นผู้ชมภาพยนตร์สารคดีอีกคนหนึ่ง เธอเรียกร้องให้สร้างความตระหนักเพิ่มขึ้นและลงมือปฏิบัติมากขึ้น “ฉันได้ลงนามในคำร้องเพื่อไปที่วุฒิสมาชิกของเรา และฉันต้องการเขียนบันทึกส่วนตัวเพื่อสนับสนุนให้พวกเขาทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้” เธอพูด

คอนสแตนซ์ ฮิกกินส์ ลงนามในคำร้องถึงวุฒิสมาชิกเพื่อให้สนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง

ผู้ชมจำนวนมากเห็นด้วยกับการเรียกร้องนี้ โดยเร่งรัดให้วุฒิสมาชิกสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ผ่านโดยสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมิถุนายน และปัจจุบันอยู่ในการพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ร่างกฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอม ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในการยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนนี้

คาร์ลสตรอมเห็นว่ามันไม่น่าเชื่อที่มีรายงานเพียงไม่กี่ฉบับเกี่ยวกับการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมของ CCP ในสื่อกระแสหลักของสหรัฐอเมริกา “ทำไมสื่อในสหรัฐอเมริกาจึงไม่เกาะติดกับการทำข่าวนี้จริง ๆ และทำให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้น เพราะมันไม่น่าเชื่อจริง ๆ หรือ” เขาคิดว่าร่างกฎหมายนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ผู้กระทำผิดรับผิดชอบ และป้องกันไม่ให้ชาวอเมริกันเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับการกระทำที่โหดเหี้ยมเหล่านี้

เราต้องกล้าหาญเมื่อต้องเผชิญกับความชั่วร้าย

ภาพยนตร์สารคดีและการอภิปรายในเวลาต่อมาได้เน้นย้ำถึงผลกระทบระดับโลกในวงกว้างของการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอม ดร. เจสซิกา รุสโซ ซึ่งเป็นตัวแทนจาก DAFOH อธิบายว่าการที่รัฐบาลจีนควบคุมอุตสาหกรรมการปลูกถ่ายอวัยวะนำไปสู่การเจริญเติบโตของตลาดมืดระหว่างประเทศสำหรับการจัดหาอวัยวะ

“ชาวตะวันตกที่เดินทางไปประเทศจีนเพื่อรับการปลูกถ่ายอวัยวะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในระบบฆาตกรรมหมู่นี้โดยไม่รู้ตัว” เธอพูด “เราต้องการระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดกว่านี้ เช่น กฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวอเมริกันแสวงหาการปลูกถ่ายในประเทศที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแพร่หลาย”

เมื่อปิดงาน ผู้เข้าชมมีความรู้สึกถึงความเร่งด่วนอย่างชัดเจน “การผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมนี้เกินกว่าจะเข้าใจได้ คืนนี้ฉันคงนอนไม่หลับ ฉันคิดว่าครึ่งหนึ่งของคนที่นี่ก็จะเป็นเช่นกัน” ฟิตซ์เจอรัลด์พูด “โลกต้องมารวมตัวกันและกำจัดบุคคลที่หิวกระหายอำนาจซึ่งปฏิบัติต่อคนเหมือนสินค้า ไม่ใช่มนุษย์”

ฮัดสันพูดในตอนท้ายของงานว่า “เมื่อเผชิญกับความชั่วร้าย เราต้องกล้าหาญ นั่นเป็นวิธีเดียวที่เราจะยืนหยัดต่อสู้กับมันและหยุดมันได้”