(Minghui.org) การฝึกบำเพ็ญเป็นเวลา 28 ปีทําให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล ฉันเปลี่ยนจากคนที่เห็นแก่ตัว น่าเวทนา และเอาแต่ใจ นับถือตนเองต่ํา ไปเป็นคนที่จิตใจดี มั่นใจ และคํานึงถึงผู้อื่น นี่คือพลังและคุณธรรมของต้าฝ่า
ชีวิตที่น่าสังเวช
ฉันเริ่มมีปัญหาที่ผิวเมื่ออายุ 8 เดือน ฉันมีตุ่มแผลทั่วศีรษะซึ่งคันมากจนฉันเกาตลอดเวลา เมื่อไรที่ฉันเกา เลือดและหนองจะไหลออกมา บางครั้งแผลก็ติดเชื้อและตกสะเก็ดเมื่อหนองหยุดซึมออกมา โรคเรื้อรังนี้รบกวนฉันอยู่นาน 30 ปี ฉันกินยาแต่ไม่ได้ผล
เมื่อฉันอายุ 3 ขวบ ฉันยังเดินไม่ได้และหัวล้าน เมื่อฉันเข้าโรงเรียน เหมือนมีอะไรคลุมศีรษะของฉันและปิดกั้นไม่ให้ความรู้เข้าสู่สมองของฉัน ฉันต้องดิ้นรนในการเรียนอย่างมาก ฉันไม่เป็นที่นิยมของเพื่อนร่วมชั้นและครูก็ไม่ชอบฉัน
ฉันเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเมื่อฉันอายุ 11 ขวบ แม่ของฉันต้องอยู่ข้าง ๆ ฉันหลายวันหลายคืน หลังจากนั้นฉันก็รอดชีวิตมาได้ แต่ต้องดิ้นรนมากขึ้นอีกในการเรียน เมื่อฉันอายุ 12 และ 13 ปี แผลพุพองที่ศีรษะก็หายไปแต่ย้ายไปที่มือของฉันแทนและมีหนองไหลด้วย เราเดินทางข้ามภูเขาเพื่อค้นหาแพทย์สูงอายุที่มีชื่อเสียงและลองรักษาทุกชนิดแต่ไม่มีอะไรช่วยได้ น้ําตาฉันไหลเมื่อมีลมพัด ฉันทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ ด้วย เช่น โรคตับอักเสบ โรคข้ออักเสบ และโรคโลหิตจางขั้นรุนแรง ฉันมีความนับถือตนเองต่ํา
เมื่อฉันโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันได้งานทําในโรงงาน ผู้หญิงอื่นมีมือที่ขาว ผิวเนียนละเอียด แต่มือของฉันปกคลุมไปด้วยแผล ฉันกลัวว่าจะถูกรังเกียจ ฉันจึงแอบทายาทุกวัน หลังจากแต่งงาน ฉันยังคงทายาลับหลังสามี ความทุกข์ทรมานจากสุขภาพที่ไม่ดีมานานหลายปีทําให้ฉันสูญเสียความมั่นใจ และฉันกลายเป็นคนเก็บตัวและดูถูกตัวเอง
สามีของฉันเป็นคนที่มีการศึกษาและเติบโตในหมู่บ้าน เขาฉลาดและรู้มากกว่าฉัน เขามักจะได้รับของขวัญ ฉันคิดว่าฉันได้พบคนที่ฉันสามารถพึ่งพาได้ แต่เมื่อลูกชายของเราอายุเพียง 3.5 ปี สามีของฉันก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะที่ฉันอายุ 28 ปี ที่ทํางานของสามีพยายามอย่างเต็มที่ในการเจรจากับอีกฝ่ายซึ่งรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุ และพวกเขาจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่างานศพทั้งหมด
ฉันขอให้ที่ทํางานของสามีอนุญาตให้ฉันอาศัยอยู่ในที่พักสําหรับพนักงาน แต่พวกเขาปฏิเสธแม้ว่าพวกเขาจะมีห้องว่างอยู่ก็ตาม ฉันบุกเข้าไปในห้องที่ไม่มีคนอยู่ในที่ทํางานของสามี พาลูกชายและแม่สามีเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ทําให้ทุกคนในที่ทํางานไม่พอใจ ฉันถูกเมินและไม่มีใครช่วยเหลือเรา ฉันจึงโกรธและแค้นใจ ฉันมักจะร้องไห้อย่างขมขื่นคนเดียวในตอนกลางคืน
นี่คือฉันก่อนที่ฉันจะเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า โลกของฉันมืดมน ฉันไม่เห็นความหวังของการมีชีวิตอยู่ และฉันไม่รู้ว่าจะประพฤติตนอย่างไร ฉันไม่มีเหตุผลและทําทุกอย่างโดยไม่คิดถึงคนอื่น ฉันไม่ขอบคุณคนที่ช่วยฉัน ฉันถึงกับคิดว่า "ฉันไม่ควรซื่อสัตย์ขนาดนั้น ฉันทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยมากมายและฉันถูกคนอื่นรังแก ฉันต้องชั่วร้ายกว่านี้ ! ลูกชายของฉันยังเด็กมากและฉันไม่มีใครให้พึ่งพา ฉันไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นกลั่นแกล้งลูกของฉัน และฉันควรสอนให้เขาปกป้องตัวเอง !" ครั้งหนึ่งฉันทะเลาะกับแม่สามี ฉันวิ่งไปที่ที่ทํางานของพี่เขยเพื่อดุว่าเขาและระบายความโกรธ
เมื่อฉันมองย้อนกลับไป ถ้าฉันไม่ได้เป็นผู้ฝึกในต้าฝ่า และถ้าสิ่งต่าง ๆ ยังคงดำเนินไปอย่างนั้น ฉันคงจะกลายเป็นคนบ้าไปแล้ว ลูกชายของฉันก็จะถูกฉันทําลายไปด้วย ถ้าฉันไม่เริ่มฝึกบําเพ็ญ ฉันก็คงไม่ตัดความสัมพันธ์ของฉันกับครอบครัวและครอบครัวของสามี ฉันคิดได้แต่เพียงว่าฉันน่าสงสารขนาดไหน ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่ให้ความช่วยเหลือฉันในสิ่งที่ฉันรู้สึกว่าฉันมีสิทธิ์ได้รับ ความคิดที่จะปฏิบัติดีกับคนอื่นไม่เคยเกิดขึ้นในใจของฉัน มันน่ากลัวแค่ไหนเมื่อนึกถึงชีวิตของฉันในตอนนั้น
ท่านอาจารย์ดึงฉันขึ้นมาจากเหวลึกที่สกปรก
ในช่วงต้นปี 1996 ลูกพี่ลูกน้องของฉันพูดถึงฝ่าหลุนต้าฝ่าให้ฉันฟังอยู่เรื่อย ๆ และมอบหนังสือ "ฝ่าหลุนกง" ให้ฉัน ฉันนั่งบนเตียงและอ่านหนังสือเล่มนี้ทุกคืน ยิ่งอ่านมากขึ้น ฉันก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น และหัวใจของฉันก็ยิ่งเบาขึ้น คําถามที่ฉันมีเกี่ยวกับชีวิต โรคภัยไข้เจ็บ และความทุกข์ทรมานของฉัน จู่ ๆ ฉันก็เข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่ออะไร ! ฝ่าหลุนต้าฝ่าน่าทึ่งมาก ! ทุกคนสามารถฝึกบำเพ็ญได้โดยไม่คํานึงถึงการศึกษา ความรวยหรือความจนของพวกเขา ตราบใดที่เราบำเพ็ญอย่างแท้จริง ท่านอาจารย์ก็จะดูแลเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ต้องฝึกบำเพ็ญ !
โรคภัยทั้งหมดของฉันหายไปหลังจากที่ฉันเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า รวมถึงปัญหาผิวหนังที่ทรมานฉันมานาน 30 ปีด้วย ผิวของฉันเปลี่ยนเป็นเรียบเนียนและละเอียด ฉันเกิดใหม่ ฉันประพฤติตนตามมาตรฐานของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน ฉันเปลี่ยนเป็นคนร่าเริงและมองโลกในแง่ดี
แม่สามีของฉันยืนกรานว่าฉันเอารองเท้าของเธอไปโยนทิ้ง ฉันไม่ได้โต้เถียงกับเธอ แต่ฉันซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้เธอแทน ต่อมาลูกสาวของเธอบอกฉันว่า "รองเท้าของเธออยู่ใต้โซฟา !" ฉันยิ้มและพูดว่า "ถ้าฉันไม่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันคงไม่จัดการกับเรื่องนี้ด้วยวิธีนี้ !"
ฉันตระหนักว่าฉันผิดที่อาศัยอยู่ในที่พักของที่ทํางานของสามี ฉันย้ายออกและอาศัยอยู่กับครอบครัวของฉัน
เมื่อสามีของฉันเสียชีวิต ที่ทํางานของเขายื่นขอเงินบํานาญ 2 ก้อนในชื่อของแม่สามีและย่าของสามี เงินถูกส่งให้ฉันและแม่สามีทุกเดือน หลังจากแม่สามีของฉันเสียชีวิต ฉันติดต่อที่ทํางานของสามีและขอให้พวกเขาหยุดจ่ายเงินบํานาญ ฉันบอกพวกเขาว่า "เนื่องจากทั้งแม่สามีและย่าของสามีของฉันเสียชีวิตแล้ว กรุณาหยุดจ่ายเงินบํานาญ !" พวกเขาแนะนําให้ฉันรับเงินบำนาญในปีนั้นและหยุดรับหลังจากนั้น แต่ฉันปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขา ข่าวนี้แพร่กระจายในที่ทํางานว่า "ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่รับเงินที่ไม่ใช่ของพวกเขา !"
ฉันมีพี่น้องที่เป็นชาย 3 คนที่ร่ํารวยและมีอํานาจ ฉันเป็นคนเดียวที่ยากจนและไม่มีใครพึ่งพา หลังจากอาศัยอยู่กับครอบครัวเป็นเวลา 1 ปี พี่ชายของฉันดูถูกฉันเพราะฉันยากจน พ่อของฉันกดดันให้ฉันแต่งงานใหม่อยู่เรื่อย ๆ เมื่อฉันปฏิเสธ เขาก็ไล่ลูกชายของฉันและฉันออกจากบ้าน เนื่องจากครอบครัวของฉันมีบ้านหลายหลัง ฉันจึงถามว่าฉันจะจ่ายค่าเช่าและอาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่งได้หรือไม่ พ่อของฉันปฏิเสธ ฉันประพฤติตนตามคําสอนของต้าฝ่าและไม่โต้เถียงกับเขา ฉันอาศัยอยู่ในหอพักที่ที่ทํางานของฉันจัดให้ ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้นําเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ มาด้วย
หลังจากที่ฉันไปปักกิ่งเพื่ออุทธรณ์ให้ต้าฝ่า ที่ทํางานของฉันก็ไล่ฉันออกและฉันตกงาน ฉันรับงานต่าง ๆ เช่น พี่เลี้ยง พยาบาล และแม่ครัว ด้วยความคุ้มครองของท่านอาจารย์ แม้ว่าชีวิตจะยากลําบาก แต่ฉันก็ไม่เคยขาดแคลนเงิน ไม่ว่าฉันจะทํางานที่ไหน ฉันก็ประพฤติตนเป็นผู้บำเพ็ญ ฉันไม่กลัวที่จะต้องทนทุกข์จากการเสีย ฉันพยายามอย่างเต็มที่ในทุกสิ่งและไม่มีใครสามารถหาข้อบกพร่องของฉันได้ ก่อนลาออก ฉันพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทํางานให้เสร็จด้วยมาตรฐานสูงสุด ซึ่งแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่จะบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบหรือทำงานแบบลวก ๆ เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขากําลังลาออกจากงาน ฉันคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าต้องแสดงให้ผู้คนเห็นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี ดังนั้นนายจ้างของฉันจึงไม่อยากให้ฉันลาออก
ขณะทําอาหารให้กับธุรกิจต่าง ๆ พนักงานมักทิ้งอาหารที่เหลือ ฉันบอกพวกเขาบ่อย ๆ ว่าอย่าทิ้งขว้างอาหารโดยเปล่าประโยชน์และบอกวิธีที่จะเป็นคนดี เจ้านายที่เป็นผู้หญิงข้างบ้านมักปล่อยให้เมล็ดข้าวไหลไปกับน้ําในขณะที่เธอล้างมัน ฉันจึงเตือนเธออย่างสุภาพว่าเราควรเห็นคุณค่าพรที่เราได้รับ เมื่อเวลาผ่านไป คนรอบข้างก็เปลี่ยนวิธีการและขอบคุณฉันอย่างจริงใจว่า "คุณเป็นคนดีจริง ๆ !"
ฉันรับงานเป็นผู้ดูแลภรรยาของอดีตเพื่อนร่วมงานของสามีซึ่งเป็นอัมพาต ดังนั้นฉันจึงย้ายกลับไปอยู่ในที่พักสําหรับครอบครัวของพนักงานที่ที่ทํางานก่อนหน้านี้ของสามีจัดหาให้ ฉันทํางานหนัก ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตา และเข้มงวดกับตัวเอง ในเวลานั้นโทรศัพท์มือถือมีราคาแพงและคนส่วนใหญ่ก็หลีกเลี่ยงที่จะใช้โทรศัพท์มือถือโทรออก อย่างไรก็ตาม ฉันมักจะโทรออกโดยใช้โทรศัพท์ของตัวเองทุกครั้งที่จําเป็น ฉันไม่ได้ใช้โทรศัพท์ของนายจ้าง ในเวลาว่างฉันจะทําความสะอาดพื้นของที่พักทั้งหมด เพื่อนร่วมงานของสามีบอกฉันว่า "มีคนบอกว่าคุณแย่แค่ไหน แต่คุณดูเหมือนจะเป็นคนดี !"
หลังจากทํางานเป็นผู้ดูแลมาระยะหนึ่ง อดีตเพื่อนร่วมงานของสามีก็เปลี่ยนเจตคติที่มีต่อฉันและตระหนักว่าเป็นเพราะฉันฝึกต้าฝ่า ฉันใช้การกระทําของฉันเพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่านั้นยอดเยี่ยม ! ฉันยังได้พลิกกลับผลกระทบที่ไม่ดีที่เกิดจากวิธีการที่ไม่สมเหตุสมผลของฉันก่อนที่ฉันจะเริ่มฝึกบำเพ็ญ 6 ปีหลังจากที่ฉันออกจากงานนี้ ครอบครัวนี้ถามว่าฉันจะพิจารณากลับมาทํางานให้พวกเขาได้ไหม
หลังจากอาศัยอยู่ในหอพักที่ที่ทํางานของฉันจัดให้เป็นเวลา 1 ปี ผู้ฝึกคนหนึ่งก็ให้ฉันอยู่ที่บ้านของเธอเมื่อเธอต้องย้ายไปทํางานที่อื่น ในที่สุดลูกชายของฉันและฉันก็มีพื้นที่เป็นของตัวเอง ฉันซื้ออสังหาริมทรัพย์เก่าผ่านทางเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง มันยากสําหรับผู้หญิงที่เลี้ยงลูกคนเดียว และผู้คนมักรังแกเราบ่อย ๆ ตอนนี้ฉันเป็นผู้ฝึกต้าฝ่าแล้ว ฉันจึงไม่รู้สึกเหงาหรือกลัวอีกต่อไป ฉันมักจะร่าเริงและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างจริงใจ ไม่เก็บความขุ่นเคืองเมื่อถูกปฏิบัติไม่ดี
เมื่อฉันเริ่มย้ายเข้ามาในบ้านเก่าที่ฉันซื้อ ในบรรดาเพื่อนบ้านของฉัน มีครูผู้ชายคนหนึ่ง เขามาที่บ้านฉันหลายครั้งและพูดสิ่งที่ไม่สุภาพ เขายังขอให้ฉันออกไปเที่ยวกับเขาคนเดียวในตอนกลางคืนด้วย ฉันบอกเขาว่ามนุษย์ควรประพฤติตนอย่างไรและเขาก็หยุดก่อกวนฉัน ต่อมาเขาสบถใส่ฉันแต่ฉันไม่ได้ตอบโต้ หลังจากนั้นฉันไปเยี่ยมภรรยาของเขาและถามเธอว่า "ฉันทําอะไรผิดที่ทําให้สามีของคุณไม่พอใจหรือไม่ ทําไมเขาจึงมาที่บ้านของฉันเพื่อทําให้ฉันอับอาย" ภรรยาของเขาแปลกใจและพูดว่า "เป็นไปได้อย่างไรกัน เขามักจะยกย่องคุณและเขาบอกว่าคุณเป็นคนดี !" ฉันตระหนักว่าตราบใดที่ฉันยึดมั่นในหลักการที่ต้าฝ่าสอน แม้แต่คนเลวก็ยังเคารพฉัน
ฉันปรับปรุงบ้านใหม่ในขณะที่ลูกชายของฉันกําลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งชื่อเจิ้งซึ่งอาศัยอยู่ทางด้านขวาของฉัน เขาสร้างปัญหาอยู่เรื่อย ๆ ในระหว่างที่ฉันกําลังปรับปรุงบ้านใหม่ของฉัน ฉันไม่ได้เอะอะและบอกตัวเองว่าฉันควรปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ หลังจากที่บูรณะบ้านเสร็จแล้ว ฉันยังคงปฏิบัติต่อเจิ้งด้วยความเมตตากรุณา ฉันทําสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวของเขา เขารู้สึกอายกับวิธีที่เขาเคยปฏิบัติกับฉัน
ตั้งแต่ฉันเริ่มบำเพ็ญเมื่อ 28 ปีที่แล้ว ไม่ว่าฉันจะอับอายหรือถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมอย่างไร ฉันก็ไม่เคยบอกอะไรกับลูกชายของฉันเลย ฉันหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายความเกลียดชังและปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายในตัวเขา แต่กลับเลือกที่จะให้ความรู้แก่เขาโดยใช้หลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน
พฤติกรรมที่เที่ยงตรงของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามีอิทธิพลในทางบวกต่อสรรพชีวิตเช่นกัน น้องสาวของสามีของฉันไม่พอใจแม่สามีของเธออย่างมากเพราะครอบครัวนี้ปฏิบัติต่อเธอไม่ดี ฉันมักจะบอกเธอถึงวิธีการเป็นคนดีและฉันอธิบายความสัมพันธ์ของกรรมให้เธอฟัง เธอเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อแม่สามีของเธอ วันหนึ่งเธอพูดว่า "พี่สะใภ้ คุณช่วยฉันไว้ !" ฉันตอบว่า "เป็นอาจารย์ของฉันที่ช่วยเหลือคุณ"
พี่ชายของสามีก็ยกย่องฉันที่ทําได้ดีกว่าพวกเขา แม้ว่าฉันจะเลี้ยงลูกคนเดียวก็ตาม ฉันบอกเขาว่า "เป็นเพราะฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าและฉันได้รับพร !" ฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยครอบครัวของพวกเขา เมื่อสามีภรรยาคู่นี้ไปทํางานในเมืองอื่น พวกเขาส่งลูกของพวกเขามาให้ฉันดูแลนานกว่า 1 ปี ฉันใช้เงินของตัวเองเพื่อจ่ายสิ่งที่เด็กต้องการทั้งหมด ฉันปฏิเสธที่จะรับเงินจากพี่ของสามีเมื่อเขาเสนอ เขาทิ้งบัตรธนาคารไว้กับฉัน แต่ฉันไม่เคยใช้มัน ฉันคืนบัตรให้เขาโดยไม่ได้แตะต้องเลยเมื่อพวกเขากลับบ้าน ท่านอาจารย์ช่วยให้ฉันและลูกชายมีสุขภาพที่ดีตลอดเวลา 28 ปี และเราไม่เคยกินยาหรือฉีดยา เมื่อฉันมีฐานะทางการเงินที่ดี ฉันจะช่วยเหลือเพื่อนและญาติพี่น้อง
การเป็นลูกสาวที่ดี
พ่อแม่ของฉันไม่สามารถดูแลตัวเองได้หลังจากอายุ 80 ปี พี่น้องที่เป็นผู้ชายทั้ง 3 คนของฉันย้ายออกไปและสร้างบ้านของตัวเอง ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาดูแลพ่อแม่ในวัยชรา เมื่อฉันเกษียณอายุ ฉันย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่และรับความรับผิดชอบที่หนักหน่วงในการดูแลพวกเขา ฉันป้อนอาหารพวกเขา ทําความสะอาดปัสสาวะและอุจจาระ และดูแลพวกเขาด้วยความระมัดระวังและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนานกว่า 1 ปี บางคืนฉันก็ไม่ได้นอน
เมื่อแม่ของฉันเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยรุนแรง แพทย์บอกว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 2 หรือ 3 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยพรของต้าฝ่าและภายใต้การดูแลอย่างพิถีพิถันของฉัน เธออยู่ได้นาน 1 ปีกว่าก่อนเสียชีวิต ญาติของฉันได้เห็นว่าต้าฝ่าพิเศษเพียงใด และเห็นทุกสิ่งที่ฉันทําเพื่อให้พ่อแม่สะอาดและบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย พวกเขาเชื่อว่าต้าฝ่าดี แม่ของฉันเสียชีวิตก่อน ในงานศพของพ่อ ลูกพี่ลูกน้องของฉันขอให้พี่ชายของฉันกล่าวคำพูดชมเชยฉันว่าฉันดูแลพ่อแม่ได้ดีเพียงไร พี่ชายคนโตของฉันพูดด้วยความเคารพอย่างสูงว่าฉันเป็นคนที่มีความเชื่อ !
ฉันคงไม่ดูแลพ่อแม่แบบนี้ถ้าฉันไม่ได้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า พ่อของฉันชอบลูกชายมากกว่าลูกสาวเสมอและปฏิบัติต่อฉันอย่างไม่เมตตา แม้ว่าพี่ชายของฉันจะมีฐานะทางการเงินที่ดี พ่อของฉันก็ยังพูดว่า "หลานคนไหนที่เข้ามหาวิทยาลัยได้ ปู่จะจ่ายค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด" เมื่อหลานชาย 2 คนและหลานสาว 1 คนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย พ่อของฉันให้เงินพวกเขาจำนวนมากทุกปี เมื่อลูกชายของฉันเข้ามหาวิทยาลัย พ่อของฉันให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แก่เขาเท่านั้น แม้แต่พี่ชายและพี่สะใภ้ของฉันก็แนะนําให้พ่อให้ฉันมากกว่าที่ให้พวกเขา แต่พ่อก็เพิกเฉยต่อพวกเขา พ่อจับตาดูแม่ของฉันเพราะกลัวว่าแม่จะให้เงินฉัน เมื่อลูกของฉันเรียนมัธยมปลาย ฉันลงทะเบียนเรียนให้เขาในโรงเรียนเอกชน พ่อของฉันขอให้พี่ชายหยุดฉันไว้ พ่อกลัวว่าฉันจะขอเงินจากเขา อย่างไรก็ตาม ฉันไม่เคยคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากใครเลย ที่บ้านพ่อแม่ของฉัน ฉันถูกขอให้ทํางานและกินแต่ของเหลือ ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องเงินใด ๆ ฉันไม่เคยเอะอะกับการปฏิบัติที่ไม่ดี ฉันแค่เตือนตัวเองให้ทําตามข้อกําหนดของต้าฝ่า
การเป็นลูกสาวที่ดีในโลกมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของการยืนยันความถูกต้องให้ต้าฝ่า การอธิบายความจริงและช่วยเหลือสรรพชีวิตเป็นภารกิจของฉันในฐานะศิษย์ต้าฝ่าและมีความสําคัญยิ่งกว่านั้น ฉันก่อตั้งกลุ่มศึกษาฝ่าที่บ้านพ่อแม่และย้ายสถานที่ผลิตเอกสารของฉันไปที่นั่น ฉันทําเอกสารจํานวนมากและจัดหาเอกสารให้กับผู้ฝึกเพื่อที่พวกเขาจะได้บอกความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายให้กับผู้คน ฉันจะพูดคุยกับผู้คนแบบตัวต่อตัวเกี่ยวกับต้าฝ่าทุกครั้งที่มีโอกาส
แม้ว่าพ่อของฉันจะปฏิบัติต่อฉันไม่ดี แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้านที่ฉันเริ่มกลุ่มศึกษาฝ่าที่บ้านของเขา ยิ่งมีคนมามากขึ้น เขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น เขาบอกคนอื่นอย่างจริงใจว่า "ขอบคุณพระเจ้าที่ผมมีลูกสาวคนนี้ !" สองวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในโรงพยาบาล พ่อของฉันตะโกนว่า 'ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม ! ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนยอดเยี่ยม !" หมอถามว่า "คุณกําลังตะโกนเรื่องอะไร เกิดอะไรขึ้น" เขาตอบว่า "ผมตะโกนว่าฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยม ! ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนยอดเยี่ยม !" ทุกคนหัวเราะ
ตอบแทนท่านอาจารย์ด้วยความคิดและการกระทําถูกต้อง
ฉันมีชื่อเสียงที่ดีในหมู่บ้านของครอบครัว ผู้คนยกย่องฉันและพูดว่า "เป็นหม้ายตอนอายุ 28 เลี้ยงลูกคนเดียว เลี้ยงดูให้เขาเป็นคนดี กระทั่งสร้างบ้านใหม่ มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ !" พวกเขารู้ว่าเป็นเพราะฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า
ในเดือนกรกฎาคม 1999 ต้าฝ่าถูกปราบปรามและท่านอาจารย์ถูกใส่ร้ายในประเทศจีน ปลายปี 2000 ฉันไปปักกิ่งกับผู้ฝึกอีกคนหนึ่งเพื่ออุทธรณ์ให้ต้าฝ่า ฉันถูกคุมขังนานกว่า 3 เดือนเมื่อฉันกลับบ้าน และฉันถูกปรับมากกว่า 3,000 หยวนก่อนที่ฉันจะได้รับการปล่อยตัวจากคุก เงินเดือนของฉันในตอนนั้นน้อยกว่า 500 หยวน ในช่วงปีแรก ๆ ช่วงที่ฉันถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงที่สุด เจ้าหน้าที่ตํารวจบุกเข้าไปในบ้านของฉันบ่อย ๆ ฉันไม่เคยหย่อนยานในการอธิบายความจริง แจกเอกสาร แขวนป้ายผ้า และอื่น ๆ โครงการของต้าฝ่าเริ่มต้นขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้คน และอะไรก็ตามที่ฉันทําได้ ฉันก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ดี
ฉันพิมพ์เอกสารที่บ้านในปี 2001 เมื่อผู้ฝึกมารับเอกสารบางส่วน เลขาธิการพรรคแอบตามเธอมาจากที่ทํางานของเธอ เจ้าหน้าที่โทรแจ้งตํารวจและฉันถูกลากออกจากบ้าน เอกสารและป้ายผ้า 2 กระสอบถูกยึด ฉันถูกสอบสวนและไม่ได้รับอนุญาตให้นอนเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน เมื่อไรที่ฉันหลับตา ก็จะมีคนตีฉันด้วยไม้และข่มขู่ฉันว่า "เราจะทุบตีคุณจนตาย ! เผาคุณด้วยน้ำมัน แล้วฝังคุณ ! เราพบสิ่งของมากมายในความครอบครองของคุณ ! คนนั้นคนนี้ถูกตัดสินจําคุก 3 ปีจากการครอบครองแผ่นพับเพียง 1 ใบ ! เราจะไม่อนุญาตให้ลูกชายของคุณไปโรงเรียน !" ฉันคิดในใจว่า "สิ่งที่คุณพูดไม่มีความหมาย !"
ในขณะที่ฉันถูกกักขังอย่างผิดกฎหมาย ฉันสอนนักโทษให้ท่องบทกวีของท่านอาจารย์ ผู้คุมขว้างก้อนหินใส่ฉันเมื่อฉันฝึกท่า แต่ฉันไม่เหวั่นไหวเลย หนึ่งเดือนหลังจากที่ฉันถูกกักขัง ฉันเขียนจดหมายถึงผู้คุมเพื่ออธิบายความจริงและอดอาหารประท้วงเพื่อการประท้วงการประทุษร้าย ถ้าฉันไม่กินหรือไม่ดื่มเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน จะมีคน 7 หรือ 8 คนบังคับกรอกอาหารฉันอย่างโหดเหี้ยม กระทืบเท้าและท้องของฉัน ง้างฟันออกจากกัน และอื่น ๆ ผู้ต้องขังในห้องขังของฉันช่วยฉันและขอให้ผู้คุมปล่อยตัวฉัน ฉันได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเมื่อพวกเขาเห็นว่าฉันกําลังจะตาย
หนึ่งเดือนต่อมา ฉันพบว่าตํารวจกําลังเฝ้าดูฉันในขณะที่ฉันพาลูกชายไปติดข้อความเกี่ยวกับต้าฝ่าในพื้นที่สาธารณะ ลูกชายของฉันจับขาของฉันและตะโกนว่า "คุณไม่ได้รับอนุญาตให้จับแม่ของผม !" ถึงกระนั้นฉันก็ถูกพาตัวไป ลูกของฉันกลับบ้านคนเดียว ฉันถูกคุมขังในเรือนจําเดิม นักโทษบอกฉันว่า "คุณได้รับการปล่อยตัวครั้งที่แล้วเพราะคุณอดอาหารประท้วง คราวนี้มันจะไม่ได้ผล" ฉันพูดในใจว่า "สิ่งที่คุณพูดไม่มีความหมาย !" ฉันปล่อยวางจิตยึดติดต่อความเป็นความตายต่อและอดอาหารประท้วง ฉันได้รับการปล่อยตัวในอีก 13 วันต่อมา อาหารกระเด็นใส่เสื้อผ้าของฉันเมื่อฉันถูกใช้กำลังกรอกอาหาร เมื่อฉันออกจากเรือนจํา เชื้อราสีขาวเจริญอยู่บนอาหาร
ในวันที่ 15 มกราคม 2003 ขณะที่ฉันแจกเอกสารที่สถานีรถไฟกับผู้ฝึกคนอื่น ๆ ฉันเป็นคนเดียวที่ถูกจับกุม มีคนประมาณ 20 คนจากสถานีรถไฟควบคุมตัวและสอบปากคําฉันตลอดทั้งคืน ฉันปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือเมื่อพวกเขาต้องการถ่ายรูปฉัน บางคนคว้าผมของฉันเพื่อถ่ายรูปฉัน ฉันพูดกับพวกเขาว่า "เอาเลย ถ่ายรูปเลย นี่จะเป็นหลักฐานการก่ออาชญากรรมของคุณ !" พวกเขากลัวและหยุดถ่ายรูป ท่านอาจารย์มอบสติปัญญาให้แก่ฉัน และฉันสามารถอธิบายความจริงให้พวกเขาฟังได้ พนักงานเกือบ 20 คนในสถานีรถไฟไม่สามารถเอาชนะฉันได้ สุดท้ายพวกเขาถามว่า "คุณเป็นครูหรือเปล่า"
ตอนเช้าตรู่ ฉันถูกขังที่สถานีตํารวจในสถานีรถไฟ นักโทษที่ถูกขังอยู่ในห้องขังเดียวกันรู้สึกหวาดกลัวเมื่อพวกเขารู้ว่าฉันเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า "เราได้ยินว่าผู้ที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าฆ่าคนและฆ่าตัวตาย !" ตอนเที่ยงคืน นักโทษใหม่เข้ามา ฉันให้ที่นั่งที่ฉันนั่งจนอุ่นแล้วกับเขา และฉันย้ายไปนั่งจุดที่เย็น ฉันอธิบายให้พวกเขาฟังอยู่เรื่อย ๆ ว่าฝ่าหลุนกงคืออะไร ในตอนเช้าฉันมีโอกาสที่จะอธิบายความจริงให้เจ้าหน้าที่ตํารวจทราบ อีกไม่กี่วันต่อมา ฉันถูกย้ายไปที่ศูนย์กักกันในเมือง ฉันยังคงอดอาหารประท้วงต่อไป
4 ครั้งที่ฉันถูกจับกุม ฉันได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากความเชื่อมั่นที่มั่นคงในต้าฝ่าและเพราะฉันปล่อยวางความเป็นความตายได้ ฉันรู้สึกขอบคุณท่านอาจารย์และขอบคุณผู้ฝึกที่สนับสนุนฉันด้วยความคิดที่ถูกต้อง
เมื่อฉันเติบโตเต็มที่ในการบำเพ็ญ เส้นทางก็กว้างขึ้นและราบรื่นขึ้น ท่านอาจารย์ให้ฉันมากมายในช่วง 28 ปีที่ผ่านมา จนไม่สามารถแสดงความขอบคุณของฉันเป็นคำพูดได้ ฉันจะติดตามท่านอาจารย์ไปจนจบ !
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ! ขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก !
ลิขสิทธิ์ © 2023 Minghui.org. สงวนลิขสิทธิ์