สวิตเซอร์แลนด์ฝ่าฮุ่ย | สำนึกในพระคุณของท่านอาจารย์สำหรับการจัดวางที่เมตตาและดีเลิศให้ผม

(Minghui.org) ผมรู้สึกว่าการเขียนบทความแลกเปลี่ยนประสบการณ์เป็นเรื่องที่ท้าทาย และความคิดและจิตยึดติดมากมายของผมหยุดผมไว้ ฤดูร้อนนี้ผู้ประสานงานคนหนึ่งถามผมว่าผมจะเขียนบทความแลกเปลี่ยนได้หรือไม่ เมื่อผมอ่านฝ่าในเช้าวันรุ่งขึ้น ผมก็ได้อ่านประโยคต่อไปนี้

ท่านอาจารย์กล่าวว่า

" การพูดคุยซึ่งกันและกันระหว่างศิษย์ด้วยกัน ถึงความรู้สึกที่ได้รับและประสบการณ์ประทับใจในระหว่างการบำเพ็ญปฏิบัติ เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง" (ฝ่าฮุ่ย (ประชุมธรรม) สิ่งสำคัญต่อการพัฒนา)

ผมตระหนักว่าท่านอาจารย์กําลังสนับสนุนให้ผมแบ่งปัน อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่า "ผมบำเพ็ญได้ไม่ดีนัก ผมไม่แบ่งปันจะดีกว่า" ดูเผิน ๆ เหมือนผมอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ความคิดนี้มาจากความกลัวที่จะเสียหน้าและกังวลว่าคนอื่นจะตัดสินผมอย่างไร ผมเริ่มสงสัยตัวเองและกังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยโรคที่มาจากกรรมของผม "ผมมีอาการสั่นแม้กระทั่งตอนนี้ แล้วผมจะอ่านบทความของผมบนเวทีได้อย่างไร" ความคิดที่เห็นแก่ตัวทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ผมต้องปล่อยวาง

การแสดงเสินยวิ่นในบาเซิล : บรรลุสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2023 เสินยวิ่นแสดงรอบแรกจากการแสดงทั้งหมด 4 รอบในบาเซิล หนึ่งในงานของผมคือการสั่งน้ําแข็งแห้งเพื่อเทคนิคพิเศษ หลังจากน้ำแข็งแห้งมาถึง ผู้ฝึกที่รับผิดชอบก็ตรวจสอบและบอกว่าน้ำแข็งแห้งนี้ไม่ดี การแสดงครั้งแรกดําเนินไปอย่างราบรื่น และผมรู้สึกโล่งใจเพราะผมเป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยด้วย ความรู้สึกถึงความรีบร้อนเริ่มปรากฏขึ้น ประมาณ 22.00 น. ผู้ประสานงานจากเสินยวิ่นคนหนึ่งบอกผมว่าผู้จัดการเวทีขอให้ผมซื้อน้ําแข็งแห้งชุดใหม่ภายในเที่ยงวันของวันรุ่งขึ้นสําหรับการแสดงรอบที่ 2 เนื่องจากน้ําแข็งแห้งที่พวกเขามีไม่ดีและไม่สร้างเอฟเฟกต์หมอกระหว่างการแสดง

ผมตกใจเพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกคนทราบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อน้ําแข็งแห้งจํานวนมากระหว่างคืนวันศุกร์ถึงเที่ยงวันเสาร์เพราะโรงงานผลิตน้ําแข็งแห้งทั้งหมดในสวิตเซอร์แลนด์ทำการผลิตตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และพวกเขาจะไม่ผลิตเพิ่มหลังจากเที่ยงวันของวันศุกร์เพราะน้ําแข็งแห้งจะระเหิด

ผมปฏิเสธความคิดของมนุษย์นี้ทันที ผมรู้ว่าเมื่อเสินยวิ่นต้องการน้ําแข็งแห้งชุดใหม่ ผมไม่ควรคัดค้านและพูดว่า "แต่..." หรือถามว่า "เกิดอะไรขึ้น ทําไม" ผู้ฝึกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเสินยวิ่นเริ่มฟาเจิ้งเนี่ยน

ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น และดูเหมือนว่าเราจะสามารถซื้อน้ําแข็งแห้งจากผู้ขายก๊าซธรรมชาติในสวิตเซอร์แลนด์ได้ ผู้ขายก๊าซธรรมชาตินี้เคยขายน้ําแข็งแห้งให้เรามาก่อน บนเว็บไซต์ของเขามีหมายเลขฉุกเฉินที่ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่าจะไม่ใช่เหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ แต่เราก็ไม่สามารถผ่านโอกาสนี้ไปได้ ผมโทรที่เวลาเกือบ 23.00 น. ผมอธิบายให้บุคคลที่รับโทรศัพท์ฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เราเผชิญอยู่ เขาสัญญาว่าจะติดต่อช่างเทคนิคและให้เขาโทรหาผม

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ช่างเทคนิคดังกล่าวก็โทรมาบอกผมว่ามัน "ค่อนข้างยาก" ที่จะได้น้ําแข็งแห้งภายในเช้าวันรุ่งขึ้น ผมอธิบายให้เขาฟังอีกครั้งว่าเสินยวิ่นทําอะไร และมันสําคัญแค่ไหนที่เราจะต้องได้น้ําแข็งแห้ง เขาบอกว่าเขาจะติดต่อเพื่อนร่วมงานเป็นการส่วนตัวเพื่อพยายามหาคนมาผลิตน้ําแข็งแห้งให้เรา ผมรู้สึกว่าเขาต้องการช่วยเหลืออย่างจริงใจ และผมแน่ใจว่าสามารถหาทางได้ ผมส่งลิงก์ของเว็บไซต์ของเสินยวิ่นให้เขา ผู้ฝึกอีกคนหนึ่งจองรถบรรทุกเพื่อไปรับน้ําแข็งแห้งในวันรุ่งขึ้น

เช้าวันเสาร์ ช่างเทคนิคดังกล่าวบอกข่าวที่น่าทึ่งให้ผมฟังว่า บังเอิญว่ามีน้ําแข็งแห้งที่ผลิตไว้แล้วในปริมาณที่เราต้องการพอดีในสถานที่ใกล้ ๆ บาเซิล เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเขากําลังเดินทางไปที่นั่นและกําลังรอเราอยู่

เมื่อผู้ฝึกไปรับรถบรรทุกที่เราจอง พนักงานหญิงถามว่าผู้ฝึกมีรหัสส่วนลดหรือไม่และเขาก็ตอบว่าไม่มี พนักงานคนนี้บอกเขาว่าเขามีส่วนลด 50% แต่เธอไม่รู้ว่าทําไม น้ําแข็งแห้งมาถึงก่อนการแสดงรอบบ่ายของเสินยวิ่น คุณภาพสมบูรณ์แบบ และผู้จัดการเสินยวิ่นก็ขอบคุณมาก

อาจารย์กล่าวในบทที่ 4 ในจ้วนฝ่าหลุนว่า "ดีชั่วอยู่ที่ความคิดชั่วขณะของคน" ประสบการณ์นี้แสดงให้ผมเห็นว่าเส้นทางที่อาจารย์จัดวางไว้ให้ผมนั้นดีเลิศเพียงใด

ผมยังเข้าใจถึงความสําคัญของความเชื่อในท่านอาจารย์และฝ่า เมื่อผมปฏิบัติตามวิถีของธรรมชาติและทํางานร่วมกับผู้ประสานงานโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่มีความคิดด้านลบหรือข้อสงสัย เส้นทางก็เปิดกว้างให้ผม แม้แต่คนทั่วไปก็ต้องการช่วยเราจากก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขาและขอบคุณเราโดยเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่พวกเขาควรทํา

จากเหตุการณ์นี้ ผมรู้ว่าการเชื่อในฝ่าและปล่อยวางความกังวลและความสงสัยของเรานั้นสําคัญเพียงใด เมื่อผมค้นหาจากภายใน ผมเห็นว่าน้ําแข็งแห้งที่ไม่บริสุทธิ์หมายความว่าผมมักจะมีความคิดที่ไม่บริสุทธิ์ เช่น ความสงสัยและความกลัวในความล้มเหลว เหตุการณ์นี้ทําให้ผมขจัดจิตยึดติดได้ชั้นหนึ่ง ความเชื่อในท่านอาจารย์และฝ่ามากขึ้น และเห็นคุณค่าในตัวเองและการบำเพ็ญของผม

ผมยังเห็นว่าเมื่อผมเดินตามเส้นทางของธรรมชาติบนเส้นทางที่จัดวางไว้ให้ผม ทุกสิ่งก็จะได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดาย บางครั้งผมต้องดิ้นรนเพื่อทําอะไรบางอย่าง แต่นั่นเป็นเพราะผมเชื่อว่าผมต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้บรรลุและก้าวไปข้างหน้า มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง การปล่อยวางและปฏิบัติตามวิถีของธรรมชาตินั้นทรงพลังอย่างแท้จริง

การบำเพ็ญในที่ทํางาน

หลายปีแล้วที่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับหัวหน้างานของผมตึงเครียด รู้สึกเหมือนเราอาศัยอยู่ในสองจักรวาลและมีมุมมองที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ผมตระหนักว่าผมเป็นคนเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ ผมไม่ควรเปลี่ยนเขา แต่ผมจําเป็นต้องเปลี่ยนและกําจัดความคิดของผม อาจารย์สอนเราว่าอย่ามองออกไปข้างนอก แต่ให้ค้นหาจากภายใน

เมื่อผมอ่านเกี่ยวกับจิตอิจฉาริษยาในจ้วนฝ่าหลุน ผมเห็นว่าผมประพฤติตัวเหมือนจังกั๋วเหล่า ผมเชื่อว่าหัวหน้างานของผมไร้ความสามารถและผมดีกว่าเขา ปัญหาระหว่างเราเกิดจากความอิจฉาริษยาของผม ! เมื่อผมแก้ไขความคิดของผมให้ถูกต้อง ความสัมพันธ์ของเราก็ดีขึ้นอย่างมาก

การมีหัวหน้างานที่ไร้ความสามารถเป็นสิ่งที่ดี มันเป็นโอกาสสําหรับผมที่จะยกระดับซินซิ่งของผม ความคิดด้านลบต่อเขาที่ผมเก็บไว้และการวิพากษ์วิจารณ์ที่ผมพูดลับหลังเขาไม่ใช่พฤติกรรมของผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าที่แท้จริง

ผมไม่เคยคิดว่าผมมีจิตอิจฉาริษยา หลังจากที่ผมตระหนักว่าผมมีจิตนี้ ผมก็ประสบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เผยให้เห็นจิตอิจฉาริษยาของผมมากขึ้น ผมค่อนข้างประหลาดใจ แต่ก็รู้สึกขอบคุณที่ท่านอาจารย์ชี้ให้เห็นเพื่อที่ผมจะได้กําจัดมัน

ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ทําให้ผมเห็นว่า ถ้ามีคนทําให้ผมอารมณ์เสียหรือโกรธ คือผมต่างหากที่มีปัญหา เมื่อใจของผมหวั่นไหว นั่นหมายความว่าผมมีปัญหาหรือจิตยึดติดเดียวกัน ผู้คนรอบตัวผมเป็นกระจกเงาของผมและสะท้อนความคิดและจิตยึดติดของผม

จิตยึดติดมูลฐาน

ครั้งหนึ่งผู้ฝึกคนหนึ่งพูดถึงปัญหาที่ผมมีในการบำเพ็ญ และบอกว่าผมก้าวข้ามไม่ได้มาเป็นเวลานานแล้ว เขาพูดว่า "บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับทัศนคติของคุณที่มีต่อการบำเพ็ญ" มันเป็นช่วงเวลาที่ถูกเคาะให้ตื่นขึ้นและทําให้ผมคิด

ท่านอาจารย์กล่าวว่า

"หลังจากบำเพ็ญได้ระยะหนึ่งแล้ว ใช่หรือไม่ที่ท่านยังคงมีความคิดเหมือนในตอนแรก ใช่หรือไม่เพราะจิตใจของคนดวงนี้ที่ยังรั้งตัวเองไว้ที่นี่ ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สามารถนับได้ว่าเป็นศิษย์ของข้าพเจ้า นี่ก็คือจิตยึดติดมูลฐานที่ยังไม่ได้ขจัดทิ้งไป ไม่สามารถเข้าใจฝ่าในฝ่า" ("เดินสู่หยวนหมั่น (ความสำเร็จสมบูรณ์)” สิ่งสําคัญต่อการพัฒนา 2)

ทําไมผมจึงเป็นผู้ฝึก ผมจําว่าผมดูที่ฝ่าหลุนต้าฝ่าในการนําทางผม—สิ่งมีชีวิตที่ผมเป็นตัวแทน—บ้าน แน่นอนว่ามันเป็นความคิดที่สวยงามในขณะนั้น แต่มันเกิดจากความเห็นแก่ตัว กล่าวอีกนัยหนึ่งคือผมต้องการออกจากสถานที่นี้และมุ่งเน้นไปที่การยุติความทุกข์ของผม แรงจูงใจของผมในการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าได้เปิดเผยออกมาในที่สุด ผมคิดว่าการบำเพ็ญคือการทําในสิ่งที่ท่านอาจารย์บอกให้เราทํา แต่ผมไม่เคยต้องการเปลี่ยนตัวเองอย่างแท้จริง

ความเข้าใจของผมคือการบำเพ็ญไม่ใช่เรื่องทำนั่นทำนี่ยุ่ง ๆ และทํางานต้าฝ่าให้เสร็จ แต่คือการปล่อยวางและยกระดับซินซิ่งของตน มองให้แคบขึ้น คือสิ่งที่ผลักดันให้ผมทำอะไรบางอย่างเพื่อต้าฝ่า มันเป็นหัวใจที่บริสุทธิ์หรือการแสวงหา นี่อธิบายได้ว่าทำไมจึงเป็นเรื่องยากสําหรับผมที่จะทําหลายสิ่งหลายอย่างให้สําเร็จ—ผมไม่ปล่อยวางจิตยึดติดของผม และสิ่งเหล่านี้กลายเป็นภาระที่ผมแบกรับเมื่อผมทํางาน

ผมไม่ต้องการหรือผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ผมคาดหวังให้คนอื่นเปลี่ยน จิตยึดติดมูลฐานของผมคือการคุ้มครองและปกป้องตัวตนเก่า เมื่อผมปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลง ผมเริ่มสงสัยว่าผมสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ทั้งยังมีจิตยึดติดต่อความสะดวกสบายด้วย

ผมเห็นจิตยึดติดของผมต่อความสะดวกสบาย ความสงสัย ตัณหา ความปรารถนา ชื่อเสียง และโชคลาภ และระยะห่างจากพวกเขา โดยรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผมและจะต้องถูกกําจัดออกไป ผมต้องจดจ่อกับความปรารถนาที่แท้จริงของผม นั่นคือ เพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตด้วยความเมตตาและบำเพ็ญอย่างแท้จริง ผมเริ่มจากการขจัดความคิดที่ไม่ดี เช่น "ผมไม่ดีพอ" หรือ "ผมไม่มีคุณสมบัติ" ความคิดเหล่านี้พยายามนําผมไปสู่ความพินาศ

ผมพยายามอ่านฝ่าทุกคืนเป็นเวลานาน แต่ผมทำไม่ได้เพราะเหนื่อยล้า งาน และเรื่องอื่น ๆ ตอนนี้ผมดีใจที่สร้างกิจวัตรในการอ่านฝ่าในตอนเช้าก่อนไปทํางานได้ ผมหวังว่าสักวันหนึ่งผมจะสามารถทําแบบเดียวกันได้กับการฝึกท่าเพราะผมไม่ค่อยได้ฝึกท่าในตอนเย็น

สัมผัสความเมตตาจากเพื่อนผู้ฝึก

ด้านขวาของร่างกายของผมมีอาการสั่นอยู่ระยะหนึ่ง การจัดการกับโรคจากกรรมนี้เผยให้เห็นจิตยึดติดหลายอย่างของผม เช่น การขาดความมั่นใจและความกังวลว่าผมจะทําลายชื่อเสียงของฝ่าหลุนต้าฝ่า ทัศนคติเหล่านี้กลายเป็นอุปสรรคที่ผมใส่ให้กับตัวเอง และทําให้ผมไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของต้าฝ่า ในช่วงเวลานี้ ผมได้เห็นความดีงามและความเมตตาของเพื่อนผู้ฝึกซึ่งทําให้ผมประทับใจอย่างลึกซึ้ง ผมไม่เคยได้ยินใครพูดว่า "มันจะดีกว่าถ้าคุณไม่เข้าร่วมกิจกรรมนี้และกิจกรรมนั้น"

ผมรู้สึกขอบคุณสําหรับการคุ้มครองของท่านอาจารย์ตลอดเส้นทาง เพื่อให้ผมได้มีโอกาสทําได้ดีขึ้น และบำเพ็ญอย่างแท้จริง และบรรลุผลของคําปฏิญาณของผม เพราะผมมักจะก่ออุปสรรคให้กับตัวเอง ผมจึงอยากเตือนตัวเองด้วยสิ่งที่อาจารย์กล่าวว่า

"การบำเพ็ญปฏิบัติธรรมโดยตัวของมันเองไม่ยาก การยกระดับชั้นโดยตัวของมันเองก็ไม่ยาก เป็นเพราะจิตใจของคนไม่ยอมปล่อยวาง เขาจึงบอกว่ายาก" (บทที่ 9 จ้วนฝ่าหลุน)

สิ่งที่ผมแบ่งปันนี้คือความเข้าใจในปัจจุบันของผม โปรดชี้แนะสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับฝ่า ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เคารพ และขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก

(การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝ่าหลุนต้าฝ่าในสวิตเซอร์แลนด์ที่พูดภาษาเยอรมัน ปี 2024)