(Minghui.org) State Organs ซึ่งเป็นสารคดีเกี่ยวกับการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) กลับมาฉายอีกครั้งในวันที่ 26 ตุลาคม 2024 ที่ ShowTimes Cinemas ในเป่ยกัง อำเภอหยุนหลิน ไต้หวัน แม้ว่าเจ้าหน้าที่ CCP จะข่มขู่โรงละครและผู้ชมเพื่อพยายามยุติการฉายสารคดีนี้ แต่กลับมีผู้คนประสงค์จะชมสารคดีนี้มากขึ้น ดังนั้นจึงมีการเพิ่มรอบการฉาย

หลังจากจบการฉายรอบพิเศษ ได้มีการจัดการอภิปรายบนเวทีโดยมีผู้ร่วมอภิปราย เช่น ซู จื้อเฟิน (อดีตผู้พิพากษาระดับอำเภอของอำเภอหยุนหลิน), หลิว เจี้ยนกั๋ว (สมาชิกสภานิติบัญญัติหยวน) และคนอื่นๆ

การอภิปรายบนเวทีหลังจากฉาย State Organ รอบพิเศษที่ ShowTimes Cinemas ที่เป่ยกัง ในอำเภอหยุนหลิน

ความพากเพียรในการต่อต้านความโหดร้าย

อดีตผู้พิพากษาอำเภอหยุนหลิน ซู จื้อเฟิน (คนแรกจากซ้าย) เข้าร่วมการอภิปรายบนเวที

ซู จื้อเฟิน อดีตผู้พิพากษาอำเภอหยุนหลิน พูดหลังการฉายภาพยนตร์ว่าความพากเพียรของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม “เรื่องราวของพวกเขาและความจริงเบื้องหลังพวกเขานั้นน่าประทับใจ สะเทือนใจ และยืนยันได้” เธอพูด เธอพูดว่าอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของ CCP ต่อผู้ฝึกฝ่าหลุนกง โดยเฉพาะการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมนั้นโหดร้ายที่สุด

สิ่งที่ CCP กลัวที่สุดคือความนิยมของฝ่าหลุนกง ระบอบการปกครองนี้ใช้การทรมาน การใส่ร้าย และข่าวลือทุกรูปแบบเพื่อทำลายชื่อเสียงของฝ่าหลุนกง และพยายามผลักผู้คนให้ออกห่างจากการฝึกนี้ นั่นเป็นสาเหตุที่ซูเรียกร้องให้ผู้คนร่วมมือกันสนับสนุนความเที่ยงธรรมและต่อต้านความโหดร้าย

ผู้คนมากกว่านี้จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้

หลิว เจี้ยนกั๋ว สมาชิกสภานิติบัญญัติหยวน

สมาชิกสภานิติบัญญัติหยวน หลิว เจี้ยนกั๋ว พูดว่าเขารู้สึกเศร้าหลังจากดูสารคดีนี้ เขาพูดว่าอาชญากรรมการปล้นเอาอวัยวะที่ CCP กระทำนั้นเป็นการกระทำที่โหดร้ายและเป็นการทำลายมนุษยชาติ มันไร้มนุษยธรรมและไม่น่าเชื่อ

“ผมจะทำงานเพื่อออกกฎหมายต่อต้านการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอม โลกจำเป็นต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับการปล้นเอาอวัยวะ” เขาพูด หลิวสนับสนุนให้ทุกคนส่งต่อข้อมูลนี้เพื่อให้ผู้คนมากกว่านี้ประณามมัน ตั้งแต่นักการเมืองไต้หวัน สมาชิกพรรคการเมืองทั้งหมด จนถึงสาธารณชน ไม่ควรปล่อยให้การผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมจากคนที่ยังมีชีวิตดำเนินต่อไป

ความเจ็บปวดที่ทนไม่ได้

ติง หรงเจ๋อ ประธานสมาคมแพทย์อำเภอหยุนหลิน

ติง หรงเจ๋อ เป็นประธานสมาคมแพทย์อำเภอหยุนหลิน เขาพูดวว่าเขารู้สึกไม่สบายใจมากหลังจากดูสารคดีนี้ “ในสารคดีเรื่องนี้ การปลูกถ่ายอวัยวะแต่ละครั้งทำให้เกิดโศกนาฏกรรมหลายเรื่องต่อหลายครอบครัว และผมรู้สึกหนักใจมากหลังจากดูสารคดี” เขาพูด

“CCP ปฏิบัติต่อประชาชนเหมือนสัตว์ สิ่งที่โหดร้ายยิ่งกว่านั้นคือพวกเขาไม่ใช้ยาชา ดังนั้นมันจึงเจ็บปวดมาก” เขาพูดเสริม “ระหว่างขั้นตอนการผ่าเอาอวัยวะ คนจะไม่ตายทันที มันจึงเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถจินตนาการได้เลย

“เรายังควรติดต่อเกี่ยวข้องกับระบอบการปกครองเช่นนี้หรือไม่ เราไม่ได้ต่อต้านจีน แต่เราต่อต้านความโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน” เขาพูด

ห่วงโซ่อุปทานที่ให้ผลกำไรสูง

หวง ซื่อเหวย เป็นแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน สาขาหยุนหลิน เขาพูดว่า คนในไต้หวันประมาณ 4,000 ถึง 5,000 คนเดินทางไปประเทศจีนเพื่อปลูกถ่ายตับและไตในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา หากพวกเขารู้ว่าชีวิตผู้บริสุทธิ์อีกคนหนึ่งจะถูก CCP ฆ่าเพื่อเอาอวัยวะของพวกเขา ชาวไต้หวันเหล่านี้จะรับไม่ได้

หวงพูดว่าห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมปลูกถ่ายอวัยวะของ CCP มีผลกำไรมหาศาล เหยื่อส่วนใหญ่คือผู้ฝึกฝ่าหลุนกง และต่อมาชาวคริสเตียน ชาวทิเบต และชาวอุยกูร์ก็เป็นเหยื่อของการผ่าเอาอวัยวะในขณะที่ยังมีชีวิตเช่นกัน เขาพูดว่ามีรายงานคนหายจำนวนมากในประเทศจีน และครอบครัวของพวกเขากังวลว่าอวัยวะของพวกเขาจะถูกผ่าเอาไปในขณะที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่

หวงพูดเสริมว่าทุกวันนี้ประชาชนจำนวนมากในประเทศจีนมีความวิตกกังวล เมื่อเด็กหาย พ่อแม่จะกังวลมากว่าลูก ๆ ของพวกเขาจะถูกผ่าเอาอวัยวะออกไป และอาจไม่ได้พบหน้าลูกอีกเลย

การบอกความจริง

ก่วน เจี้ยนจง จาก Lion Film and Television Culture Co. เรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง

ก่วน เจี้ยนจง จาก Lion Film and Television Culture Co. พูดว่าเขาได้รับจดหมายข่มขู่ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายครั้งแรก “ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญมาก เพราะนี่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของ CCP เพราะการปล้นอวัยวะของ CCP เกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก เรื่องการปล้นอวัยวะก็เหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ที่ทำลายธรรมชาติของมนุษย์ และเหยื่อคือกลุ่มผู้ฝึกที่ไม่มีอาวุธและจิตใจดี” เขาอธิบาย “หากความโหดร้ายและความชั่วร้ายของ CCP ถูกเปิดเผยแล้ว ทุกคนจะต่อต้านมัน นี่จะทำลายพรรค จึงแน่นอนว่ารัฐบาลจึงหวาดกลัว”

เขาพูดว่าสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกามีมติเป็นเอกฉันท์ในการผ่านกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกงเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนปีนี้ สมาชิกสภาคองเกรส สกอตต์ เพอร์รี ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวพูดว่านี่เป็นความยุติธรรมสำหรับฝ่าหลุนกงที่ช้าไป 25 ปีแล้ว

ประชาชนสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง

ประชาชนลงนามในคำร้องเพื่อสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง

ประชาชนจำนวนมากลงนามในคำร้องหลังการอภิปรายบนเวทีเพื่อสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองฝ่าหลุนกง หนึ่งในนั้นคือฟ่านซึ่งมาจากเจียอี้ หลังจากที่ได้ดู State Organs บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เธอและเพื่อน ๆ ก็ตั้งใจเดินทางมาเป่ยกังเพื่อเข้าดูในโรงภาพยนตร์ด้วยตัวเอง “ทุกคนรู้ว่า CCP โหดร้ายเพียงไร และมันทำทุกสิ่งที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติและความยุติธรรม มันทำความชั่วร้ายได้ทุกประเภทจริง ๆ” เธอพูด

เธอพูดถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก เธอเห็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถือป้ายผ้าในสวนสาธารณะและสถานที่ต่าง ๆ เห็นผู้ฝึกฝึกท่าและอธิบายความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้าย แต่ญาติผู้ใหญ่บางคนไม่ทราบข้อเท็จจริง จึงห้ามไม่ให้เธอเรียนรู้เกี่ยวกับการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอม “ฉันได้ดูสารคดีในวันนี้และพบว่าฝ่าหลุนกงเป็นคนจิตใจดีที่ถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรง นี่ยอมรับไม่ได้”

ฟ่านอยากช่วย “ฉันขอให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นไม่ทำตามสิ่งที่คนอื่นพูด แต่ให้ค้นหาความจริงด้วยตนเอง วิธีนี้จะทำให้ประชาชนรู้ความจริง ประณาม CCP และยุติการประทุษร้าย มันเป็นความยุติธรรมและมโนธรรมที่ทุกคนควรยืนหยัดต่อต้านความชั่วร้ายของ CCP” เธอพูด

หวงที่มากับฟ่านบอกว่าวันนี้เธอดูสารคดีเรื่องนี้และได้เรียนรู้อะไรมากมาย “ฉันรู้สึกว่าฉันมีหน้าที่ที่จะต้องยืนหยัดและอธิบายความจริงเพื่อให้ผู้คนเข้าใจความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงมากขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” เธอพูดเสริม

ไม่มีการฆ่าอีกต่อไป

ไช่ดูสารคดีเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เขาพูดว่า เป็นเรื่องผิดที่ CCP ใส่ร้ายฝ่าหลุนกงและปล้นเอาอวัยวะของผู้ฝึก เขาพูดว่าการทำเช่นนี้ขัดต่อมนุษยชาติ และเขาเรียกร้องให้ชาวไต้หวันอย่าไปปลูกถ่ายอวัยวะที่ประเทศจีน เขาพูดว่าการทำเช่นนั้นเป็นการฆ่าทางอ้อม และจะสนับสนุนให้ CCP ฆ่าคนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน

เว่ยบอกว่าหลังจากดูหนังเรื่องนี้แล้ว เธอรู้สึกหนักใจแต่ไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกอย่างไร “สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจมากที่สุดคือการได้เห็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงยังสามารถฝึกอย่างแน่วแน่แม้จะถูกประทุษร้ายอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ความเข้มแข็งนี้น่าประทับใจมาก

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ดูสารคดีเรื่องนี้ และฉันรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งถึงพลังของความเชื่อที่ไม่สามารถถูกทำลายได้” เธอพูด “ฉันคิดว่าเราทุกคนควรใช้ความสามารถของเราเพื่อให้ผู้คนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องชั่วร้ายร้ายเช่นนี้อีก”