พลอฟดิฟ บัลแกเรีย : ผู้ฝึกเรียนรู้จากกันและกันระหว่างการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝ่าหลุนต้าฝ่า

(Minghui.org) การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝ่าหลุนต้าฝ่าที่บัลแกเรียครั้งที่ 10 จัดขึ้นที่โรงแรม Ramada Plovdiv Trimontium ในย่านธุรกิจของเมืองพลอฟดิฟเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2024 ผู้ฝึก 16 คน อธิบายว่าพวกเขาปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทนในชีวิตประจําวันอย่างไร จาการค้นหาจากภายใน พวกเขาสามารถยกระดับซินซิ่งและทำได้ดีขึ้นในการบอกผู้อื่นเกี่ยวกับการฝึกนี้

ผู้เข้าร่วมประชุมบอกว่าพวกเขาได้เรียนรู้มากมายในระหว่างการประชุม พวกเขารู้สึกได้รับกำลังใจให้บำเพ็ญอย่างขยันหมั่นเพียรจากการเรียนรู้จากกันและกัน พวกเขาจะใช้ความเมตตาและสติปัญญาและทํางานให้หนักขึ้นเพื่อแนะนําฝ่าหลุนต้าฝ่าให้กับผู้คน

การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝ่าหลุนต้าฝ่าที่บัลแกเรียครั้งที่ 10 จัดขึ้นที่เมืองพลอฟดิฟเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม

ผู้ฝึกพูดเกี่ยวกับประสบการณ์การบำเพ็ญของพวกเขา

การปรับปรุงคุณภาพของการศึกษาฝ่า

เพโยพูดว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้เพิ่มระยะเวลาในการอ่านคําสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าและอ่านจ้วนฝ่าหลุน (คําสอนหลักของฝ่าหลุนต้าฝ่า) หลายบทต่อวัน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สังเกตว่าความเข้าใจและสมาธิของเขาในขณะที่เขาอ่านหนังสือเป็นกุญแจสําคัญมากกว่าปริมาณที่อ่านได้ "มีหลายครั้งที่ผมพบสิ่งใหม่ ๆ มากมายในประโยคเดียว ซึ่งเหมือนกับการอ่านหนังสือทั้งเล่ม บางครั้งผมสลับไปมาระหว่างการอ่านหนังสือกับการดูวิดีโอการบรรยายของท่านอาจารย์ ผลลัพธ์ดีมาก” เขาพูด

ในเวลาว่าง เพโยเข้าดูสื่อในเว็บไซต์ที่ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเป็นผู้ทำ เช่น Gan Jing World, Shen Yun Creations, Epoch Times และ Clearharmony เขารู้สึกว่าผู้ฝึกจากทั่วโลกคือร่างเดียวกัน และการทําเช่นนั้นช่วยให้เขาอยู่ห่างจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในถังสีย้อมใบใหญ่ของโลกมนุษย์ เขายังพยายามเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อแนะนําฝ่าหลุนต้าฝ่าให้กับผู้คน "สภาพแวดล้อมนี้มีค่ามากสําหรับผู้ฝึก และช่วยให้เรายกระดับได้อย่างรวดเร็ว" เขาพูด

ขจัดความกลัวและความขุ่นเคือง

ออร์ลิน่าพูดถึงประสบการณ์ของเธอในการปล่อยวางจิตยึดติดที่แข็งแกร่ง 2 อย่าง คือความกลัวและความขุ่นเคือง หลังจากตัดสินใจเลี้ยงดูลูกเล็ก 2 คนด้วยตัวเอง เธอค้นพบว่า "ความกลัวครอบงําฉันมากจนทุกการตัดสินใจของฉันดูเหมือนจะผิด" จิตยึดติดอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานของเธอ ซึ่งเธอต้องทํางานกับลูกค้าที่ร่ํารวยซึ่งพฤติกรรมของพวกเขาในบางครั้งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ

หลังจากที่เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ออร์ลินาเข้าใจว่าที่จริงแล้วอารมณ์ด้านลบเหล่านี้เผยให้เห็นปัญหาของเธอเอง ด้วยการปฏิเสธมันและปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน เธอจึงสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์และความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้าได้ ออร์ลิน่าถือว่านี่เป็น "ปาฏิหาริย์เล็ก ๆ น้อย ๆ " เพราะเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ก็ชื่นชมเธอที่สงบได้ขณะจัดการกับปัญหาในที่ทํางาน "มีการฝึกอบรมนับไม่ถ้วนที่ธนาคาร แต่ผลของมันมีจํากัด มีเพียงฝ่าหลุนต้าฝ่าเท่านั้นที่ช่วยฉันได้อย่างแท้จริง"

ปล่อยวางตัวเองและคํานึงถึงผู้อื่น

เซอร์เกย์มาจากรัสเซียและอาศัยอยู่ในบัลแกเรียหลายปีแล้ว เขาเคยช่วยโพรโมตนิทรรศการศิลปะนานาชาติ เจิน-ซั่น-เหยิ่น การช่วยงานนี้ทำให้เขาระบุความคิดแบบมนุษย์ที่ยึดติดต่อตัวเองของเขาได้

ตอนแรกเขาแจกแผ่นพับแต่สังเกตว่าผู้คนดูเหมือนจะเหนื่อยและไม่สนใจที่จะดูงานศิลปะ บ่อยครั้งที่พวกเขามองมาที่เขาด้วยสีหน้ารําคาญราวกับว่าเขากําลังขายสินค้า เมื่อตระหนักถึงทางตันนี้ เขาจึงเริ่มฟาเจิ้งเนี่ยนเพื่อต่อต้านการรบกวนของอิทธิพลเก่าและเคลียร์สนามรอบตัวเขา หลังจากนั้นไม่นานผู้คนก็เริ่มรับแผ่นพับ

เมื่อเขาไตร่ตรองสถานการณ์นี้ เซอร์เกย์ก็สามารถระบุปัญหาของตัวเองได้ "ผมพบว่าตัวเองไม่ชอบคนอื่นเพราะผมรู้สึกเจ็บปวด นั่นคือผมเดินทางมาที่นี่ 3 ชั่วโมง เพื่อเชิญพวกเขามาที่นิทรรศการ แต่พวกเขาเพิกเฉยต่อผมด้วยใบหน้าที่ไม่มีความสุข บางคนโบกมือไม่เอาและถอนใจแรงแสดงความไม่พอใจใส่ผมเมื่อผมเชื้อเชิญพวกเขา นี่เป็นการดูถูกและน่าอับอาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาการแสดงเหล่านี้มาจากผู้ที่เดินผ่านที่มีสถานะทางสังคมต่ําอย่างเห็นได้ชัด" เขาพูด "จากสิ่งนี้ ผมได้เรียนรู้ว่าผมจดจ่ออยู่กับตัวเองมากเกินไปแทนที่จะนึกถึงคนอื่น นั่นคือผมสนใจแต่ผลประโยชน์และความสูญเสียของตัวเองแทนที่จะเห็นความต้องการของคนอื่น"

เมื่อเขาระบุปัญหาของเขาได้และพยายามปรับปรุง เซอร์เกย์ก็เห็นภาพที่แจ่มชัด ผู้คนใช้ชีวิตที่ยากลําบากและดิ้นรนเพื่ออยู่รอด ผู้ที่เดินผ่านไปมาหลายคนถือถุงอาหารใบใหญ่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากําลังคิดเกี่ยวกับการอยู่รอดมากกว่างานศิลปะ เขารู้สึกสงสารพวกเขาและเขาก็น้ําตาไหล "การตรึกตรองนี้ทําให้ผมมีสติ และผมเลิกคิดลบกับทัศนคติและความเจ็บปวดของผู้คน" เขาอธิบาย

ทัศนคติด้านบวก

สลาตโคทํางานเป็นนักนวดบําบัดในสปาคอมเพล็กซ์ใกล้เมืองที่เขาอาศัยอยู่ เขาจัดเวิร์กช็อปการทําสมาธิตอนเช้าเป็นประจํา ซึ่งเขาจะบอกผู้คนเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าและสาธิตท่าฝึกให้ดูด้วย

ในช่วงเริ่มต้นของงานนี้ สลาตโคได้เจรจากับนายจ้างของเขาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการทํางานและเงินเดือนของเขา แต่สิ่งต่าง ๆ กลับออกมาแตกต่างไปมาก ทําให้เขาอึดอัดและเขาไม่มีแรงจูงใจที่จะปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างดี เขาเริ่มหางานใหม่และอ่านโฆษณางานทุกวัน แต่ไม่มีงานที่เหมาะสม ทําให้เขาคิดว่าทําไมเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นกับเขาและเขาควรจัดการกับมันอย่างไร

"ผมบอกตัวเองว่าผมเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า และผมต้องปฏิบัติต่อลูกค้าให้ดี" สลาตโคหวนนึก เมื่อลูกค้าเดินผ่าน เขาทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มและถามว่าเขาสามารถช่วยอะไรได้บ้าง และเขาก็ไม่มีความรู้สึกด้านลบ เมื่อลูกค้าขอความช่วยเหลือ เขาก็ช่วย "ผมเลิกคิดถึงเงินเดือนที่สูงขึ้นและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมที่ผมได้รับ ผมตระหนักว่านี่คือสถานที่ที่ท่านอาจารย์ (ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า) จัดวางให้ผม" สลาตโคพูดเสริม

จากนั้นบางสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น งานของเขาในเดือนนั้นเพิ่มมากขึ้นและมีคนมารักษาจํานวนมาก ในเดือนนั้น สลาตโคให้บริการเพิ่ม 2 เท่า และเงินเดือนของเขาก็เพิ่มขึ้น 2 เท่าเช่นกัน จึงยืนยันความคิดก่อนหน้านี้ของเขาและยืนยันว่าความขุ่นเคืองนั้นผิด เขาพูด

ผู้ฝึกใหม่

พลามีนาอาศัยอยู่ในสทารา ซาโกรา เธอฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามาหลายเดือนแล้ว เธอได้ยินเกี่ยวกับการฝึกนี้ครั้งแรกในงานเมื่อ 5 หรือ 6 ปีที่แล้ว เธอยังเก็บดอกบัวกระดาษที่เธอได้รับอยู่

เธอเริ่มต้นด้วยการอ่านฝ่าหลุนกงโดยไม่มีความคาดหวัง เนื่องจากหนังสือต้าฝ่าแตกต่างจากหนังสืออื่น ๆ ที่เธอเคยอ่านในอดีตมาก พลามีนาจึงกระตือรือร้นที่จะอ่านอีกหลังจากที่เธออ่านแล้วหนึ่งครั้ง เธอเรียนรู้ท่าฝึกด้วยความช่วยเหลือจากผู้ฝึก "หลังจากอ่านหนังสือฝ่าหลุนกงเล่มนี้ ฉันก็เลิกความยึดติดต่อบุหรี่ กาแฟ ช็อคโกแลต และแอลกอฮอล์ กล่าวโดยย่อว่าตอนนี้ฉันเป็นคนละคนและมีพลังงานมากขึ้น" เธอพูด

จากนั้น พลามีนาก็เริ่มอ่านจ้วนฝ่าหลุน และบอกว่าชีวิตของเธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น "ฉันไม่ได้ฝึกมานานแล้ว แต่ฉันได้เรียนรู้ว่าเมื่อคุณทําสิ่งต่าง ๆ ด้วยใจแทนที่จะคิดถึงผลประโยชน์ของคุณเอง ทุกอย่างในชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไป" เธอพูด

พลามีนาอธิบายว่าความยึดติดต่ออารมณ์อ่อนไหวนั้นยากที่จะกำจัด เธอยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องเอาชนะและเธอหวังว่าเธอจะก้าวหน้า ในอดีตเธอประสบกับปัญหามากมายในชีวิตครอบครัวรวมถึงการหย่าร้าง เธอเชื่อว่านี่เป็นโอกาสสําหรับเธอในการยกระดับการบำเพ็ญของเธอ

ความสําคัญของการศึกษาคําสอน

ราโดสลาฟฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามาหลายปีแล้ว แต่เขาบอกว่าเขาพบว่ามันยากที่จะจัดการกับความคิดของผู้ฝึก

"ถ้าเราใช้เวลาอ่านคำสอนมากขึ้นและทําได้ดี เราก็จะสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้" เขาพูด "การท่องจําคําสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าทําให้คุณภาพของการศึกษาฝ่าของผมดีขึ้นและผมสามารถมีสมาธิขณะอ่านได้ ผมรู้สึกเกือบจะหลอมรวมอยู่ในต้าฝ่าและผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชําระให้บริสุทธิ์ในขณะที่ผมอ่าน" ราโดสลาฟพูดเสริม