วันครบรอบปีที่ 30 ของการพิมพ์เผยแพร่จ้วนฝ่าหลุน : บันไดสู่การเป็นเทพ

(Minghui.org) จ้วนฝ่าหลุนเป็นหนังสือเล่มหลักของฝ่าหลุนต้าฝ่า หนังสือเล่มนี้เริ่มพิมพ์เผยแพร่ในเดือนธันวาคม 1994 โดยสํานักพิมพ์วิทยุและโทรทัศน์ของประเทศจีน (China Radio and Television Publishing House) ซึ่งเป็นสํานักพิมพ์ภายใต้การบริหารวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ คนจำนวนมากได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ส่งผลให้พวกเขาเข้าใจจุดประสงค์ของชีวิต และเดินบนเส้นทางของการกลับไปสู่ตัวตนที่แท้จริง

นายหลี่หงจื้อซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่าเผยแพร่การฝึกนี้เป็นครั้งแรกในระหว่างการบรรยายที่โรงเรียนมัธยมต้นฉางชุนที่ 5 ในมณฑลจี๋หลิน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 13-22 พฤษภาคม 1992 ชี่กงเป็นที่นิยมในขณะนั้นเพราะเป็นช่วงที่คนจำนวนมากมองหาวิธีที่จะทำให้สุขภาพดีขึ้น ฝ่าหลุนต้าฝ่ามีความโดดเด่นเหนือกว่าชี่กงทั่วไปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งจิตใจและร่างกายโดยการฝึกท่า 5 ชุด และการปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน

อาจารย์หลี่ได้รับเชิญจากสมาคมวิจัยวิทยาศาสตร์ชี่กงของจีน ให้บรรยาย 56 ครั้ง ในเมืองต่าง ๆ 23 เมือง โดยมีผู้เข้าฟังโดยรวม 67,000 คน

จ้วนฝ่าหลุนได้รับการพิมพ์เผยแพร่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนธันวาคม 1994 โดยสํานักพิมพ์วิทยุและโทรทัศน์ของจีนพร้อมหมายเลข ISBN หนังสือแต่ละเล่มขายในราคา 12 หยวน (ประมาณ 1.5 ดอลลาร์สหรัฐในขณะนั้น)

ระหว่างพิธีพิมพ์เผยแพร่จ้วนฝ่าหลุนในวันที่ 4 มกราคม 1995 อาจารย์หลี่ได้บรรยายที่หอประชุมมหาวิทยาลัยความมั่นคงสาธารณะปักกิ่ง (Beijing Public Security University) เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้มาจากการบรรยายที่อาจารย์สอนในฉางชุน ปักกิ่ง อานฮุย อู่ฮั่น จี่หนาน และที่อื่น ๆ อาจารย์ขอให้ผู้ฝึกบางคนถอดเสียงคำบรรยายจากเทปเสียงแล้วอาจารย์ก็แก้ไข เนื้อหาทั้งหมดในหนังสือมาจากการบรรยายของอาจารย์ ผู้คนนับไม่ถ้วนได้รับประโยชน์ตั้งแต่มีการเผยแพร่หนังสือเล่มนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ผู้ฝึกหลายคนที่เข้าฟังการบรรยายของอาจารย์ได้เขียนถึงประสบการณ์ของพวกเขา และเรื่องราวที่น่าประทับใจของพวกเขาได้รับการรวบรวมไว้ในคอลเลกชันพิเศษคือ Remembering Master's Grace on Minghui พวกเขาประทับใจการบรรยายของอาจารย์ วิธีที่อาจารย์มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และชีวิตประจําวันของอาจารย์ อาจารย์เป็นตัวอย่างที่ดีในการกระตุ้นให้ผู้ฝึกนับไม่ถ้วนบำเพ็ญอย่างขยันหมั่นเพียร

ในบทความนี้ เราได้รวมตัวอย่างบางส่วนของผู้ฝึกที่ไม่มีโอกาสเข้าฟังการบรรยายของอาจารย์ด้วยตนเอง แต่จากการอ่านจ้วนฝ่าหลุนและยกระดับซินซิ่ง พวกเขาสามารถเปลี่ยนเป็นคนดีและดียิ่งขึ้นได้ คนนับไม่ถ้วนเปลี่ยนชะตากรรมและเลิกนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง ครอบครัวที่แตกสลายได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โรคหายไป และโศกนาฏกรรมก็จบลงอย่างมีความสุข ผู้คนจากทุกสาขาอาชีพและทุกชนชั้นในสังคมสามารถยกระดับจิตใจตนเองอย่างต่อเนื่องในโลกใบนี้และมุ่งมั่นสู่ความเป็นเทพ

ในวันครบรอบปีที่ 30 ของการพิมพ์เผยแพร่จ้วนฝ่าหลุน เราขอนําเสนอเรื่องราวต่อไปนี้เพื่อยกย่องฝ่าหลุนต้าฝ่าและท่านอาจารย์หลี่ เรายังหวังด้วยว่าผู้คนจํานวนมากขึ้นจะได้รับประโยชน์เช่นเดียวกับเรา

จากวายร้ายกลายเป็นคนที่ทุกคนนับถือ

การใช้ยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมของเราและทําลายครอบครัวจำนวนมาก หลิว เซ่อหง ชาวเมืองเสียนหนิงในมณฑลหูเป่ย์ ไม่เพียงเลิกใช้ยาเสพติดหลังจากที่เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า แต่ยังได้รับความนับถือจากชาวบ้านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความเชื่อของเขา เขาถูกจับกุม และยังคงถูกคุมขังในเรือนจำและยังถูกทรมานอยู่

หลิวเกิดในปี 1967 และเริ่มทํางานในปี 1983 เขาได้รับอิทธิพลจากวัยรุ่นอื่น ๆ เขาจึงเข้าร่วมองค์กรมาเฟียที่โด่งดังในภูมิภาคนั้น หลังจากที่เขาติดยาในปี 1993 วัฏจักรของการต่อสู้กับคนอื่น การใช้ยาเสพติด และการฟื้นฟูสมรรถภาพก็กลายเป็นกิจวัตรของเขา เขาเข้าคุกหลายครั้ง หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัวในเดือนมิถุนายน 2004 การติดยาของเขาแย่ลงและเขาสูญเสียการควบคุม จากปัญหาสุขภาพที่ย่ำแย่และไม่มีงานทํา เขาจึงต้องขอทาน และบางครั้งก็หลอกลวงผู้อื่น ผู้คนอยู่ห่างจากเขาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

เมื่อเขากลับบ้านเกิดในเดือนธันวาคม 2006 เท้าของเขาบวมและทั้งร่างกายก็เป็นสีดํา เขาเดินลำบาก คนที่เห็นเขาต่างคิดว่าเขากําลังจะเสียชีวิต เขาไร้บ้านจึงย้ายไปอยู่กับแม่ของเขาซึ่งแนะนําให้เขาอ่านจ้วนฝ่าหลุน เขาเริ่มประพฤติตนตามหลักการของฝ่าหลุนต้าฝ่าคือความจริง-ความเมตตา-อดทน

หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงช่วยให้หลิวหยุดเสพยาได้ แต่ยังแสดงให้เขาเห็นถึงวิธีการที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น ภายใน 4 เดือน ผู้คนก็สังเกตเห็นว่าเขามีสุขภาพแข็งแรงและมีกำลังวังชา และดูดีกว่าคนส่วนใหญ่ในวัยเดียวกัน สุขภาพของเขาดีขึ้นเรื่อย ๆ และเขาเปลี่ยนเป็นคนละคน ขยันขันแข็งและใจดีต่อคนอื่น

อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิวและหลานชายของเขาติดโปสเตอร์เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าอยู่ในอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2008 ตํารวจเขตเจียงเซี่ยจับกุมเขาและส่งเขาไปที่ค่ายแรงงานเหอวัน ชาวบ้านในบ้านเกิดของเขาไม่เชื่อว่าคนดีเช่นนี้จะทําผิด พวกเขาจึงเขียนจดหมายบอกข้อเท็จจริงข้างต้น และลงนามด้วยลายนิ้วมือเพื่อขอให้ปล่อยตัวหลิว

คณะกรรมการหมู่บ้านต้าเฉียวยังเขียนจดหมายเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2008 เพื่ออธิบายว่าหลิวเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้นอย่างไรหลังจากที่เขาเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า "นิสัยที่ไม่ดีทั้งหมดของเขาหายไป... เขาเป็นคนดีที่คนอื่นเคารพนับถือ และเขาไม่ทําความผิดเลย" พวกเขาเขียน

อาชญากรมอบตัว

จู เหยิน (นามแฝง) เกิดในเดือนกุมภาพันธ์ 1974 เขาก่ออาชญากรรมใหญ่ในซินเจียงในปี 1992 ขณะที่เขาอายุ 18 ปี เขาไม่ถูกจับและวิ่งหนีไป หลังจากที่เขาอ่านจ้วนฝ่าหลุนในปี 1997 เขาก็เริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เมื่อเวลาผ่านไปโรคข้ออักเสบของเขาหายไปโดยไม่ได้รับการรักษาพยาบาล เมื่อซินซิ่งของเขายกระดับ เขาก็เสียใจกับอาชญากรรมที่เขาได้ทำไว้

จูไปปักกิ่งในเดือนมีนาคม 2000 เพื่ออุทธรณ์ให้ฝ่าหลุนต้าฝ่า เขาถูกจับกุมและนําตัวไปที่สถานีตํารวจเฉียนเหมิน เขาถูกทุบตีและได้รับการปล่อยตัวในอีกหลายชั่วโมงต่อมา

จูตัดสินใจไปที่สำนักงานของทางการเขตซินเจียงและมอบตัว เมื่อเขาเดินทางผ่านหลินไห่ในมณฑลเจ้อเจียง เจ้าหน้าที่สํานักงานความมั่นคงแห่งรัฐหยุดเขาไว้และถามเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า จูบอกเจ้าหน้าที่ทุกอย่างที่เขารู้และบอกว่าเขาต้องการรับโทษจากอาชญากรรมที่เขาก่อไว้ เนื่องจากเขามอบตัว ศาลจึงลดโทษให้จูและตัดสินจําคุก 10 ปี ในขณะที่เขาถูกจำคุกในซินเจียง จูทํางานหนักและไม่บ่น เขาจึงได้ลดโทษจำคุกลงอีก 2 ปี 8 เดือน หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัวในปี 2007 จูก็เริ่มทำธุรกิจขนาดเล็ก เขาปฏิบัติตามคําสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่า ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างดี และคืนเงินเมื่อลูกค้าจ่ายเกินโดยไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อวัณโรคของพ่อที่อยู่ในวัย 78 ปีของเขากำเริบในปี 2009 พ่อของเขาอาเจียนเป็นเลือด แพทย์บอกว่าพ่อของเขาจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 3 วัน จูอยู่กับพ่อและขอให้พ่อท่อง "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี" และให้ดูวิดีโอการแสดงของเสินยวิ่น สองสัปดาห์ต่อมา พ่อของเขาก็หายดีและสามารถทํางานใช้แรงได้ตามปกติ การตรวจติดตามผลในโรงพยาบาลก็แสดงให้เห็นว่าปอดของพ่อแข็งแรงดี

ครูเกษียณอายุ

ฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่เพียงเปลี่ยนคนเลวให้เป็นพลเมืองดี แต่ยังช่วยเหลือผู้คนจากทุกสาขาอาชีพและทุกชนชั้นในสังคมด้วย โฉง ฮัว เป็นครูมัธยมต้นที่เกษียณอายุแล้วในไต้หวัน เธอชอบคิดเกี่ยวกับชีวิต แต่มีหลายสิ่งที่เธอไม่เข้าใจและไม่มีใครตอบคําถามของเธอได้

วันหนึ่งในปี 2002 โฉงดูโทรทัศน์และได้ยินเกี่ยวกับหนังสือจ้วนฝ่าหลุน เธอซื้อหนังสือนี้จากร้านหนังสือในท้องถิ่น หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบใน 2 วัน เธอก็ตกใจเพราะคําสอนที่ลึกซึ้งเหล่านี้ตอบคําถามทั้งหมดของเธอได้

ไม่นานหลังจากที่เธอเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า โฉงพบว่าอาการนอนไม่หลับที่รบกวนเธอมานานหลายสิบปีและความดันโลหิตต่ําเรื้อรังดีขึ้นอย่างมาก "หลังจากฝึกท่าแล้ว ฉันสามารถหลับได้ในทันที และนอนหลับสนิท ความดันโลหิตของฉันก็กลับมาเป็นปกติเช่นกัน การยกระดับจิตใจและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้นนี้น่าทึ่งมาก" เธอเขียน

โครงการวิทยาศาสตร์ที่ยาก

ลู่ หยวน เข้าเรียนหลักสูตรปริญญาเอกในปี 1997 ขณะที่เธออายุ 40 ปี ความกดดันจากการเรียนทําให้เธอเหนื่อยล้า การเดินขึ้นบันไดก็ยากสำหรับเธอ เธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและพบว่าเธอเป็นเนื้องอกในมดลูก โรคหัวใจ น้ําตาลในเลือดต่ํา เวียนศีรษะ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง และโคม่าชั่วคราว พ่อแม่ของเธอเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับจ้วนฝ่าหลุน หลูจึงซื้อจ้วนฝ่าหลุนมา 2 เล่ม หนึ่งเล่มสําหรับพ่อแม่ของเธอและอีกเล่มหนึ่งสําหรับตัวเธอเอง

เธอบอกว่าการอ่านจ้วนฝ่าหลุนครั้งแรกนั้นน่าสนใจมาก หนังสือเล่มนี้เหมือนจะรู้ว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่ เพราะคําถามทั้งหมดของเธอได้รับคําตอบ หลูทึ่งและพูดว่า "นี่เป็นหนังสือประเภทไหนกัน" เธออ่านหนังสือเล่มนี้ซ้ําแล้วซ้ําเล่า เมื่ออ่านถึงครั้งที่ 9 เธอก็ตระหนักว่าหนังสือเล่มนี้นําคนไปสู่การเป็นพระพุทธเจ้าผ่านการยกระดับซินซิ่งอย่างต่อเนื่อง หลูรู้สึกมีกําลังใจและมุ่งมั่นในการบำเพ็ญ

หลังจากนั้นไม่นาน โรคทั้งหมดของเธอก็หายไป ท่านอาจารย์กล่าวว่า :

"แล้วทำไมจึงทำให้กับผู้บำเพ็ญปฏิบัติธรรมได้เล่า เพราะว่าผู้บำเพ็ญปฏิบัติธรรมเป็นบุคคลที่มีคุณค่าที่สุด เขาต้องการบำเพ็ญปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้นประกายความคิดนี้ จึงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งนัก ในพุทธศาสนากล่าวถึงจิตพุทธ หากจิตพุทธปรากฏออกมา ผู้บรรลุธรรมก็สามารถช่วยเขาได้" (บทที่ 1 จ้วนฝ่าหลุน)

เมื่อคิดถึงคำสอนนี้ หลูก็เตือนตัวเองให้ทําให้ดียิ่งขึ้นในฐานะผู้ฝึก

เพื่อจะจบปริญญาเอกและสอบวิทยานิพนธ์ เธอต้องตีพิมพ์บทความ 2 บทความในวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำ หลูสามารถแยกสารประกอบทางเคมีใหม่ที่มีโครงสร้างซับซ้อนจากสารสกัดจากพืชได้หลายชนิด เธอและอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอใช้เวลา 3 เดือนในการแก้ปัญหาโครงสร้างทางเคมีนี้แต่ไม่ประสบความสําเร็จ เวลาที่เธอวางแผนว่าจะจบการศึกษาก็ใกล้เข้ามาแล้ว ทำให้หลูกังวลมาก เธอตัดสินใจเชื่อในท่านอาจารย์และต้าฝ่า

หลังจากสงบสติอารมณ์ หลูก็หยุดใช้แผนการวิเคราะห์โครงสร้างที่เธอและอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอใช้อยู่ เธอหันไปใช้วิธีจัดเรียงข้อมูลทีละรายการเหมือนการสร้างบล็อกแทน 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง... เธอทํางานทั้งคืนจนถึงรุ่งสาง จนเหลือข้อมูล 2 รายการ "มันจะยอดเยี่ยมถ้าฉันสามารถจับคู่ข้อมูลทั้งสองนี้ได้" เธอคิด หลูใส่ตัวเลขและตรวจสอบการอ่านค่าด้วยความระมัดระวัง ค่าแรกใช้ได้ อีกค่าก็ใช้ได้ เมื่อถึงตอนนั้นแสงแดดยามเช้าก็ส่องเข้ามาในห้องแล้ว หลูรู้สึกซาบซึ้งและหลับตาลง "เทพมีอยู่จริง - ไม่มีคําอธิบายอื่นอีกแล้ว" เธอบอกกับตัวเอง

หลังจากส่งบทความวิจัยของเธอไปยังวารสารชั้นนำในต่างประเทศ บรรณาธิการคนหนึ่งตอบว่า "เขียนได้ดี มันจะได้รับการตีพิมพ์โดยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบบางส่วน" ศาสตราจารย์มีคําถามมากมายในระหว่างการสอบวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของเธอตั้งแต่โครงสร้างไปจนถึงข้อมูล หลูตอบพวกเขาอย่างมั่นใจ ทำให้ศาสตราจารย์เชื่อมั่นในงานของเธอ หลูตระหนักว่าความรู้ของเราและสิ่งที่เรียกว่าการค้นพบมาจากเทพ และสิ่งที่มนุษยชาติรู้ยังจํากัดมากเมื่อเทียบกับจักรวาลที่แท้จริง

หลังจากที่หลูจบการศึกษาระดับปริญญาเอกได้ตามกำหนด มีคนมาแสดงความยินดีกับเธอและขอคําแนะนํา หลูยกความสําเร็จของเธอให้กับฝ่าหลุนต้าฝ่าและท่านอาจารย์หลี่ และพูดว่าเธอรู้สึกขอบคุณมาก

นักเรียนธรรมดากลายเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมได้อย่างไร

หวัง จื้อ (นามแฝง) มาจากเมืองถังซานในมณฑลเหอเป่ย์ เขาเคยรู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องยากสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมธรรมดา และได้รับวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญาจากวิทยาลัยสองปี

แต่หวังก็ใฝ่ฝันที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรีมาโดยตลอด วิชาที่ยากสําหรับเขาคือคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ในระหว่างการสอบเข้ามหาวิทยาลัย คะแนนของเขาน้อยกว่า 40 สําหรับคณิตศาสตร์ (จาก 150) เขาสอบภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัย (College English Test (CET4) เป็นหนึ่งในการทดสอบมาตรฐานในประเทศจีน) แต่ไม่เคยผ่าน

แม้จะยากแต่หวังก็ยังต้องการลองดู ในขณะที่เขากำลังเตรียมตัวสอบ เขาก็พบว่าคำถามในข้อสอบยากจริง ๆ การสอบก็ใกล้เข้ามาแล้วและมีหลายสิ่งที่เขายังไม่รู้ โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ เพื่อน ๆ ของเขาดูเหมือนจะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีและทําได้ดีกว่าเขามากในระหว่างการสอบจําลอง

แม่ของหวังเริ่มฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1998 และเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับการฝึกบ่อย ๆ และอ่านหนังสือต้าฝ่าให้เขาฟังด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ฝึก แต่เขาก็เห็นด้วยกับฝ่าหลุนต้าฝ่าและเคารพอาจารย์หลี่ ครั้งหนึ่งระหว่างการสอบวิชาการเมืองในโรงเรียนมัธยม เขาเขียนบนกระดาษสอบว่า "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี"

เมื่อเห็นหวังกําลังพยายามอย่างหนักกับการเตรียมสอบ แม่ของเขาจึงแนะนําให้เขาอ่านหนังสือฝ่าหลุนต้าฝ่า "อาจารย์จะมอบสติปัญญาให้กับลูก" เธอพูด หวังเห็นด้วยและในขณะที่เขาเตรียมตัวสอบ เขาก็ดูวิดีโอบรรยายของท่านอาจารย์ด้วย ใบหน้าที่เมตตาของท่านอาจารย์ทำให้สงบลง

เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งต่าง ๆ ก็ดีขึ้น หลังจากกลับจากโรงเรียน หวังฟังเสียงบันทึกการบรรยายของท่านอาจารย์ทุกวัน เขาแค่พยายามอย่างเต็มที่ในการเตรียมตัวสอบ และไม่กังวลว่าคนอื่นจะทําได้ดีแค่ไหน หรือเขาจะทําได้แย่แค่ไหน ในที่สุดเขาได้คะแนนคณิตศาสตร์ 83 จาก 100 และได้คะแนนภาษาอังกฤษ 75 จาก 100 ราวกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งเมื่อเทียบกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อหลายปีก่อน เขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในมณฑลเหอเป่ย์ด้วยคะแนนสูงสุด

ประสบการณ์นี้ทําให้หวังมั่นใจยิ่งขึ้นว่าฝ่าหลุนต้าฝ่านั้นพิเศษ หนึ่งปีต่อมา เขาตัดสินใจสมัครเรียนในบัณฑิตวิทยาลัย คนรอบข้างพูดว่ามันเป็นหนึ่งในปีที่ยากที่สุดในการเข้าเรียนในบัณฑิตวิทยาลัย เนื่องจากจากผู้สมัครมากกว่า 2 ล้านคน และได้รับเข้าเรียนเพียง 500,000 คนเท่านั้น

เขายังคงอ่านจ้วนฝ่าหลุนอย่างต่อเนื่อง และไม่สนใจชื่อเสียงและผลประโยชน์ทางวัตถุอีกต่อไป เขากลายเป็นคนใจดีและใจกว้าง หลังจากซื้อคอร์สวิดีโอออนไลน์เพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนในบัณฑิตวิทยาลัย เขาเห็นว่าตัวเองไม่มีเวลาดูเนื้อหาในวิดีโอ เขาจึงมอบคอร์สที่ซื้อมาให้ผู้สมัครคนอื่นที่เขาไม่เคยพบมาก่อน ผู้สมัครคนอื่น ๆ คิดว่าเขาโง่ เมื่อใกล้ถึงวันสอบ นักเรียนคนนั้นได้แบ่งปันเอกสารและกลยุทธ์ที่มีค่ากับหวัง นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาสมัครเข้าเรียนในบัณฑิตวิทยาลัย ดังนั้นเขาจึงมีเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์มาก ความเมตตาของหวังได้รับรางวัลแล้ว

หวังยังคงศึกษาคําสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าทุกวัน การสอบครั้งนี้ยาก เขาจึงไม่ได้มองโลกในแง่ดีนัก เขาหางานทันทีหลังสอบเสร็จ บางบริษัทพอใจเขามากและวางแผนที่จะจ้างเขาทันทีที่เขาสําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เมื่อผลการสอบเข้าเรียนในบัณฑิตวิทยาลัยออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ หวังรู้สึกแปลกใจที่เขาได้ 185 คะแนน จาก 300 คะแนน คะแนนระดับประเทศที่ถือว่าผ่านคือ 160 "ผมไม่ได้ทําเรื่องนี้ - ท่านอาจารย์ช่วยผมทุกอย่าง" เขาพูด

ชําระหนี้

ซิว ยี่ (นามแฝง) มาจากมณฑลเหอเป่ย์เช่นกัน เขาเป็นคนอารมณ์ร้าย จึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขา เขาสูบบุหรี่วันละ 5 ซอง ดื่มเหล้า และเล่นไพ่นกกระจอกทุกวัน ที่แย่กว่านั้นคือเขามีชู้ ภรรยาของเขาผิดหวังและไม่รู้จะทำอย่างไร

ธุรกิจของซิวสูญเงินหลายแสนหยวนในปี 1994 เขาเป็นหนี้ญาติของภรรยาก้อนใหญ่ ซิวจึงโต้เถียงกับเธอเกือบทุกวันและถึงกับทุบเฟอร์นิเจอร์ นอกจากเขาจะทำธุรกิจขาดทุนและครอบครัวแตกสลายแล้ว ผู้หญิงที่เป็นชู้กับซิวยังทิ้งเขาด้วย ด้วยความหดหู่และสิ้นหวัง ซิวแอบร้องไห้บ่อย ๆ และรู้สึกว่าชีวิตของเขาจบสิ้นแล้ว

ในปี 1995 ซิวตัดสินใจเริ่มธุรกิจจัดการที่จอดรถและร้านอาหารในหมู่บ้าน เนื่องจากเขาไม่มีเงิน เขาจึงลงนามในบันทึก IOU กับหมู่บ้านเป็นจํานวนเงิน 127,000 หยวน

หลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าในช่วงต้นปี 1996 ซิวอ่านจ้วนฝ่าหลุนซ้ําแล้วซ้ําเล่า เขารู้สึกแย่กับพฤติกรรมของตัวเองในอดีตและตัดสินใจที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เขาเลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มเหล้า เลิกเล่นไพ่นกกระจอก และเลิกพฤติกรรมเจ้าชู้ เมื่อภรรยาของเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านบวกของเขา เธอก็ตระหนักว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี และเธอก็เริ่มฝึกด้วย

จากการอ่านจ้วนฝ่าหลุน ซิวเข้าใจหลักการของการเสียกับการได้ และซิวรู้ว่าเขาต้องชําระหนี้ของเขา เขาตัดสินใจชําระหนี้จากธุรกิจก่อนแล้วจึงจะชําระหนี้ของหมู่บ้าน แต่หลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มปราบปรามฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1999 เขาถูกจับกุม 2 ครั้งในข้อหาไปปักกิ่งและอุทธรณ์ให้ต้าฝ่า เขาถูกทุบตี ถูกช็อกด้วยกระบองไฟฟ้า ถูกบังคับให้คุกเข่าบนก้อนกรวด และถูกตบหน้า ฟันของเขาโยกจากการทรมาน

เมื่อเวลาผ่านไป ซิวก็ชําระหนี้จากธุรกิจได้ เมื่อบ้านของเขาถูกรื้อถอนและที่ดินถูกยึดเพื่อวัตถุประสงค์ทางอุตสาหกรรมในปี 2016 เขาได้รับเงินมากกว่า 2 ล้านหยวน เมื่อนึกถึงบันทึก IOU กับหมู่บ้านเมื่อ 20 ปีก่อน เขาจึงตัดสินใจคืนเงิน

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านถามนักบัญชีเกี่ยวกับเรื่องนี้ นักบัญชีพูดว่า "บัญชีทั้งหมดถูกปิดไปแล้วและเราไม่มีบันทึกย้อนหลังถึงปี 1995" แต่ซิวก็ยังยืนกรานที่จะจ่ายเงินเต็มจํานวนรวมถึงดอกเบี้ยบางส่วนด้วย หลังจากเจ้าหน้าที่หมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำบลเห็นสิ่งที่เขาทำทั้งหมด พวกเขาก็ประทับใจมาก "มีแต่ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเท่านั้นที่ดีมาก ฝ่าหลุนต้าฝ่ายอดเยี่ยมมาก !" เจ้าหน้าที่เมืองอุทาน

ความเมตตาของซิวซึ่งเขาได้เรียนรู้จากการฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าทําให้เขาและครอบครัวได้รับพร ตั้งแต่แม่วัย 94 ปีของเขาไปจนถึงหลานชายวัย 1 ขวบ สมาชิกในครอบครัว 12 คน 4 รุ่น ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างกลมเกลียวและมีความสุข แม่ของเขามักท่องว่า "ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี" แม้จะอายุมากแล้ว แต่เธอยังคงมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถดูแลตัวเองได้

ตั้งแต่จ้วนฝ่าหลุนได้รับการตีพิมพ์เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ฝ่าหลุนต้าฝ่าก็ได้สร้างแรงบันดาลใจและให้กําลังใจผู้คนกว่า 100 ล้านคนในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศ โดยมอบสุขภาพ ความสุข และความหวัง แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลับปราบปรามผู้ฝึกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1999 เราหวังว่าผู้คนจํานวนมากขึ้นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า และไม่พลาดโอกาสนี้ เพื่อพวกเขา เพื่อครอบครัวของพวกเขา และเพื่อคนรุ่นต่อไปในอนาคต