(Minghui.org) คณะกรรมการบริหารรัฐสภาสหรัฐฯ ว่าด้วยประเทศจีน (US Congressional Executive Committee on China, CECC) เผยแพร่รายงานประจําปี 2024 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2024 รายงานนี้ประณามการประทุษร้ายฝ่าหลุนกงโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน

CECC ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนจีนในการต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ประธาน CECC คริสโตเฟอร์ สมิธ ซึ่งเป็นผู้แทนสหรัฐฯ กล่าวว่า "ในรายงานประจําปี 2024 ที่เผยแพร่ในวันนี้ CECC ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนจีนในการต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกครั้ง"

ประธาน CECC คริสโตเฟอร์ สมิธ ซึ่งเป็นผู้แทนสหรัฐฯ

ผู้แทนสมิธกล่าวต่อว่า "คณะกรรมาธิการของเราและเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทได้รวบรวมบทสรุปของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายที่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งสามารถใช้เป็นเอกสารสรุปให้อัยการใช้ในศาลในอนาคตเพื่อเอาผิดสี จิ้นผิงและผู้สมรู้ร่วมคิดของเขา เรายังประณามบริษัทตะวันตกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดดังกล่าว รวมถึงบริษัทที่ใช้ห่วงโซ่อุปทานที่แปดเปื้อนจากการบังคับใช้แรงงาน พวกเขาจะไม่สามารถพูดได้อีกต่อไปว่า 'เราไม่รู้'"

ประธานร่วม CECC วุฒิสมาชิกเจฟฟ์ เมอร์คลีย์

วุฒิสมาชิกเจฟฟ์ เมอร์คลีย์ ประธานร่วมของ CECC กล่าวว่า "การโจมตีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของรัฐบาลจีนไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย"

"คณะกรรมการบริหารรัฐสภาว่าด้วยประเทศจีน ได้รายงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ามพรมแดนและเป็นแรงบันดาลใจให้เสนอกฎหมายอย่างเช่นกฎหมายนโยบายการปราบปรามข้ามชาติ (Transnational Repression Policy Act) ที่ผมเสนอ คณะกรรมาธิการนี้ได้ออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอีกครั้งที่มีเอกสารยืนยันสถานะที่ย่ําแย่ของสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมในประเทศจีน เมื่อรัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะยอมรับความปรารถนาในเสรีภาพและศักดิ์ศรีของประชาชนของตนเอง เราจึงมีหน้าที่พูดแทนพวกเขา ผมหวังว่าสภาคองเกรสและฝ่ายบริหารของทรัมป์ที่กําลังจะมารับตำแหน่งจะดําเนินการตามข้อเสนอแนะของ CECC ในการนำไปปฏิบัติ"

อาชญากรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการผ่าเอาอวัยวะจากผู้ฝึกฝ่าหลุนกงโดยปราศจากการยินยอม

"ในปีที่รายงานนี้ เจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China, PRC) ยังคงติดตาม กักขัง และจำคุกผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ในเดือนมีนาคม 2024 คณะกรรมาธิการได้จัดให้มีการพิจารณาคดีซึ่งพยานแสดงความกังวลเกี่ยวกับการผ่าเอาอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมจากชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและชาติพันธุ์ในประเทศจีน รวมถึงผู้ฝึกฝ่าหลุนกง" รายงานระบุ

การผ่าเอาอวัยวะเป็นเรื่องที่ CECC พิจารณาคดีในช่วงที่รายงานนี้ การพิจารณาคดีนี้ตรวจสอบข้อกล่าวหาว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเป็นเป้าหมายแรกของการปฏิบัติที่ชั่วร้ายนี้

เจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงเฝ้าติดตาม กักขัง และจำคุกผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเนื่องจากการฝึกฝ่าหลุนกงของพวกเขา เจ้าหน้าที่มักกักขังผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในข้อหาละเมิดมาตรา 300 ของกฎหมายอาญาของจีน ภายใต้ข้อหาปลอมว่า "จัดตั้งและใช้ลัทธิเพื่อบ่อนทําลายการบังคับใช้กฎหมาย"

รายงานนี้ยังระบุด้วยว่า จากบันทึกนักโทษ 2,764 คนที่ทราบหรือเชื่อว่าถูกคุมขัง เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกง 497 คน

รายงานระบุกรณีของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ถูกประทุษร้าย

เว็บไซต์ Minghui ซึ่งเกี่ยวข้องกับฝ่าหลุนกงรายงานการเสียชีวิตของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงหลายสิบคนเนื่องจากถูกทารุณกรรมขณะถูกกักขัง และผู้ฝึกฝ่าหลุนกงมากกว่า 1,000 คน ถูกเจ้าหน้าที่คุกคามหรือตัดสินลงโทษ ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงมักถูกกักขังหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงบุคคลต่อไปนี้ :

โหว ลี่จุน : ในเดือนพฤษภาคม 2023 ศาลประชาชนเขตว่านไป่หลิน ในเมืองไท่หยวน มณฑลชานซี ตัดสินจําคุกโหว ลี่จุน 10 ปี ในเดือนมิถุนายน 2023 เจ้าหน้าที่ส่งโหวไปที่เรือนจําในเมืองจิ้นจง มณฑลชานซี และมีรายงานว่าเขาถูกทรมานด้วยการทุบตี ถูกบังคับให้นั่งบนม้านั่งเล็ก ๆ เป็นเวลานาน และไม่ได้นอนและไม่ได้รับสิ่งจําเป็นขั้นพื้นฐาน โหวอดอาหารประท้วง และในเดือนมกราคม 2024 เจ้าหน้าที่ย้ายโหวไปยังโรงพยาบาลไท่หยวน PSB หลังจากที่เขาป่วยหนัก ฝ่ายบริหารเรือนจําปฏิเสธครอบครัวของเขาที่ขออนุญาตเข้าเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล

หลาง ตงเยว่ : เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2021 ตํารวจกักขังหลาง ตงเยว่ ซึ่งเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในอำเภอหวยไหล เมืองจางเจียโข่ว มณฑลเหอเป่ย์ ตอนแรกตํารวจกักตัวเธอไว้ในสถานีตํารวจ และต่อมาได้ย้ายเธอไปยังศูนย์กักกันจางเจียโขว่ PSB ในช่วงต้นปี 2021

ประมาณเดือนกรกฎาคม 2023 ศาลประชาชนเขตซวนฮว่าในเมืองจางเจียโข่ว มณฑลเหอเป่ย์ ตัดสินจําคุกหลาง ตงเยว่ 9 ปี และปรับ 15,000 หยวน (2,100 ดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากเจ้าหน้าที่กักตัวเธออย่างน้อย 5 ครั้งก่อนหน้านี้รวมเป็น 10 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 1999

หวัง หยานหมิง : หลังจากการกักขังหลายครั้งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสาธารณะในเมืองต้าชิง มณฑลเฮย์หลงเจียง ได้กักขังหวัง หยานหมิง ในเดือนมิถุนายน 2023 โดยอ้างว่ากล้องวงจรปิดจับภาพเขาขณะแขวนโปสเตอร์ฝ่าหลุนกง และต่อมาเขาถูกตัดสินโทษเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2023 ให้จําคุก 3 ปี 6 เดือน และปรับ 20,000 หยวน (2,900 ดอลลาร์สหรัฐ)

คุกดํา

ตามรายงาน คําว่า "คุกดํา" เป็นคำเรียกอย่างไม่เป็นทางการที่หมายถึงอาคารต่าง ๆ เช่น โรงแรมและศูนย์ฝึกอบรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือตัวแทนของพวกเขาใช้เพื่อกักขังผู้คน สถานกักกันนอกกฎหมายเหล่านี้ดําเนินการภายใต้ชื่อที่แตกต่างกัน เช่น "ศูนย์ช่วยเหลือและบริการ" หรือ "ศูนย์การศึกษากฎหมาย" การดํารงอยู่และการใช้สถานที่เหล่านี้ไม่มีกฎหมายรองรับ และคนที่ถูกคุมขังในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งหลายคนเป็นผู้ยื่นคำร้องและผู้ฝึกฝ่าหลุนกง ไม่ทราบว่าพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด และไม่ได้รับการคุ้มครองตามกระบวนการทางกฎหมายใด ๆ

การทรมานและทารุณกรรม

ในโอกาสวันสากลเพื่อสนับสนุนเหยื่อจากการทรมาน (International Day in Support of Victims of Torture) องค์การสหประชาชาติย้ําหลักการที่ว่า "การทรมานเป็นอาชญากรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ตามตราสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การทรมานเป็นสิ่งที่ห้ามกระทำอย่างเด็ดขาดและไม่สามารถหาเหตุผลมาอ้างเพื่อให้ชอบธรรมในทุกกรณี"

อย่างไรก็ตาม รายงานหลายฉบับระบุว่าการทรมานและการทารุณกรรมผู้ถูกคุมขังยังคงดําเนินต่อไปในประเทศจีน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ํายีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment) ซึ่งประเทศจีนเป็นภาคีร่วมลงนามในอนุสัญญานี้

ตัวอย่างมีดังนี้ :

รายงานหลายฉบับเกี่ยวกับการทรมานและการทารุณผู้ฝึกฝ่าหลุนกงปรากฏขึ้นในปีที่ผ่านมา รวมถึงกรณีของหลี่ ลี่จวง ซึ่งรับโทษจําคุก 10 ปี 8 เดือน ที่เรือนจําฮูหลานในเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง

มีรายงานว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่เรือนจําใช้ผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ทรมานหลี่ในนามของพวกเขาโดยการทุบตี สเปรย์พริกไทยใส่ และใช้ไฟฟ้าดูดใบหน้าและบริเวณที่บอบบาง ไม่ให้นอน และบังคับให้สวมเสื้อรัดรูป

การดำเนินคดีกับ Cisco ในข้อหามีบทบาทในการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกง

คําตัดสินของศาลรัฐบาลกลางที่ออกในเดือนกรกฎาคม 2023 ระบุว่า Cisco Systems ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนียอาจต้องรับผิดต่อการ "ช่วยเหลือและสนับสนุน" การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในประเทศจีนโดยใช้เทคโนโลยีของบริษัท

ในเดือนพฤษภาคม 2011 มีคดีหนึ่งที่พลเมืองอเมริกัน 1 คน และพลเมืองจีน 13 คนที่ฝึกฝ่าหลุนกงได้ยื่นฟ้อง Cisco และผู้นำของบริษัทที่ศาลแขวงสหรัฐฯ ในข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนหรือสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่จีน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมาย Alien Tort Stature (ATS), กฎหมาย Torture Victim Prevention Act, และกฎหมายอื่น ๆ ทั้งในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐของสหรัฐอเมริกา

ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐอเมริกาภาคที่ 9 (Ninth Circuit) มีคำวินิจฉัยว่าบริษัทอเมริกันสามารถถูกฟ้องร้องภายใต้กฎหมาย ATS ได้ แม้ว่าศาลจะยืนยันตามศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องข้อกล่าวหาต่อผู้บริหารของ Cisco ภายใต้กฎหมาย ATS ก็ตาม

องค์กรด้านสิทธิดิจิทัล Electronic Frontier Foundation ยกย่องความคิดเห็นของศาลที่ระบุว่าการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในทางที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ได้ทำให้บริษัทได้รับการยกเว้นจากความรับผิดจากการใช้งานที่นําไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน