(Minghui.org) ฝ่าฮุ่ยประเทศจีนเป็นเหมือนข้อสอบที่เราส่งคำตอบให้ท่านอาจารย์หลี่ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้เราสรุปและสะท้อนสภาวะการบำเพ็ญของเราด้วย ในการอธิบายความจริง นอกจากจะมุ่งเน้นที่ผู้ใหญ่แล้ว เราต้องไม่มองข้ามนักเรียนในโรงเรียนด้วย ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดตามเทศกาลต่าง ๆ มีนักเรียนจำนวนมากในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สวนสาธารณะขนาดใหญ่ สถานีขนส่งและสถานีรถไฟ และท่าเรือ สถานที่เหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการอธิบายความจริงให้กับพวกเขา

ฉันขอเล่าเกี่ยวกับวิธีที่ฉันอธิบายความจริงให้กับนักเรียนและช่วยให้พวกเขาลาออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) และองค์กรเยาวชนของพรรค โดยปกตินักเรียนมักเดินทางเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และไม่ชอบพูดคุยกับผู้ใหญ่ นอกจากนี้ เนื่องจากการปลูกฝังทางวัฒนธรรมของ CCP และการใส่ร้ายฝ่าหลุนต้าฝ่าในโรงเรียน พวกเขาจึงมักรู้น้อยมากเกี่ยวกับการบำเพ็ญหรือค่านิยมดั้งเดิม ดังนั้นเราต้องใส่ใจวิธีการของเราเมื่อพูดคุยกับพวกเขาและกระตุ้นให้พวกเขาลาออกจากพรรค

ในฐานะผู้บำเพ็ญ เราควรรักษาท่าทีที่สงบและทักทายนักเรียนด้วยท่าทีที่เป็นมิตรและเข้าถึงได้ง่าย ฉันมักจะเริ่มต้นด้วยการพูดว่า “สวัสดี ! พวกเธอเป็นนักเรียนในโรงเรียนใช่ไหม เรียนอยู่ชั้นไหนกัน” โดยปกติพวกเขาจะตอบกลับ ถึงจุดนี้ ฉันจะบอกพวกเขาอย่างอบอุ่นว่า “ฉันเป็นครูที่เกษียณแล้ว และฉันชอบสอนนักเรียนมาก” นักเรียนมักจะแสดงความเคารพและพูดคุยกับฉัน จากนั้นฉันสามารถถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเรียนของพวกเขาและพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับวิชาต่าง ๆ และนำไปสู่การอธิบายความจริงและการลาออกจาก CCP โดยธรรมชาติ

ครั้งหนึ่งฉันทักทายเด็กผู้หญิง 3 คนในสวนสาธารณะขณะที่พวกเธอนั่งอยู่บนม้านั่ง พวกเธอบอกฉันว่ากำลังเรียนอยู่เกรด 11 และชวนให้ฉันนั่งบนม้านั่งด้วย ฉันนั่งลงแล้วบอกพวกเธอว่าฉันเป็นครูสอนภาษาจีนที่เกษียณแล้ว แล้วฉันก็ถามพวกเธอว่าเราจะคุยกันบางเรื่องได้ไหม ฉันพูดว่า “เรียงความที่ดีสามารถสรุปได้ด้วยตัวอักษรจีนหกตัว เธอรู้ไหมว่าตัวอักษรหกตัวนี้คืออะไร” พวกเธอคิดไม่ออก ฉันก็เลยตอบพวกเธอว่า “หัวนกฟีนิกส์ (เริ่มต้น), ท้องหมู (กลาง), หางเสือดาว (ปลาย)” พวกเธอสนใจคำตอบของฉันมาก ฉันพูดต่อว่า “เธอสามารถฝึกใช้หลักเกณฑ์นี้ในการเขียนได้ และฉันแน่ใจว่าเธอจะได้คะแนนสูงในข้อสอบเรียงความตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย”

พวกเธอประทับใจคำพูดของฉันอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นฉันก็เปลี่ยนหัวข้อพูดคุยและเริ่มอธิบายความจริง ฉันอธิบายให้พวกเธอฟังว่า “คนสมัยนี้ขาดศีลธรรม มโนธรรม ความเคารพต่อฟ้าดิน ความเชื่อในเทพและพระพุทธ พวกเขากล้าทำสิ่งเลวร้ายเพื่อเงิน เมื่อผู้คนไม่สามารถแก้ไขตัวเอง สวรรค์ก็จะจัดการ เธอสามารถตรวจสอบบนอินเทอร์เน็ตเพื่อดูคำทำนายมากมายทั้งของจีนและตะวันตกที่บอกว่าเฉพาะคนที่โชคดีเท่านั้นที่จะผ่านปีนี้ไปได้ เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของตัวเธอและครอบครัว คุณต้องทำสองสิ่ง :

“1. จำว่า 'ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี' ความจริง ความเมตตา และความอดทนเป็นหลักการสากล หลักการเหล่านี้คือกฎสวรรค์และเป็นความจริงนิรันดร์ สังคมในปัจจุบันขาดค่านิยมเหล่านี้ และถูกแทนที่ด้วย ‘ความเท็จ ความชั่วร้าย และการต่อสู้ทางชนชั้น' ที่แทรกซึมอยู่ในสังคม ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดภัยพิบัติอยู่เรื่อย ๆ

“2. ลาออกจาก CCP และองค์กรเยาวชนของพรรค รวมถึงยุวชนทหารและนักบุกเบิกรุ่นเยาว์ คนส่วนใหญ่ในองค์กรเหล่านี้เป็นคนดี แต่พวกเขาจะผ่านพ้นหายนะไปได้ก็โดยการปฏิเสธคำสาบานที่พวกเขาให้ไว้เมื่อเข้าร่วมองค์กรเหล่านี้ การลาออกจากองค์กรเหล่านี้เป็นวิธีเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง”

พวกเธอบอกฉันว่าพวกเธอทุกคนเข้าร่วมยุวชนทหารและนักบุกเบิกรุ่นเยาว์ และทุกคนตัดสินใจลาออก ฉันมอบเครื่องรางของต้าฝ่าและเอกสารข้อมูลจาก Minghui.org ให้พวกเธอ ขณะที่พวกเธอจะจากไป พวกเธอขอบคุณฉันซ้ำแล้วซ้ำอีก และขอเบอร์โทรศัพท์ของฉัน โดยบอกว่าพวกเธอจะขอคำแนะนำจากฉันก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย

อีกครั้งหนึ่ง ฉันได้พบกับเด็กผู้หญิงที่เรียนอยู่เกรด 11 ในสวนสาธารณะ หลังจากที่เธอรู้ว่าฉันเป็นครูที่เกษียณแล้ว เธอก็คุยกับฉันเกี่ยวกับการเขียนเรียงความ จากนั้นฉันก็เปลี่ยนการสนทนาและเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับหลานสาวของฉัน หลานสาวของฉันจำว่า “ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” ตั้งแต่อายุยังน้อย และต่อมาเธอก็ลาออกจากยุวชนทหารและนักบุกเบิกรุ่นเยาว์ ส่งผลให้ผลการเรียนของเธอราบรื่น และในที่สุดเธอก็สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท แฟนของเธอในมหาวิทยาลัยก็ได้รับแรงจูงใจจากเธอด้วยและจำว่า “ความจริง-ความเมตตา-ความอดทนดี ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” และลาออกจากยุวชนทหารและนักบุกเบิกรุ่นเยาว์เช่นกัน เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้วย หลังจากเรียนจบ ทั้งคู่ได้งานที่ดี ตอนนี้พวกเขาแต่งงานกันอย่างมีความสุขและมีบุตรที่แข็งแรงคนหนึ่ง หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เด็กผู้หญิงคนนี้ก็ยอมรับความจริงที่ฉันพูดเกี่ยวกับต้าฝ่าและลาออกออกจากยุวชนทหารและนักบุกเบิกรุ่นเยาว์ด้วยความเต็มใจ

ในสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่ง ฉันได้พบกับเด็กผู้หญิงที่เรียนเกรด 6 สามคน หลังจากที่เราพูดคุยกันว่าจะเขียนเรียงความเชิงบรรยายให้ดีได้อย่างไร ฉันก็รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วไปพูดอธิบายความจริง และพวกเธอก็ตกลงที่จะลาออกจากการเป็นสมาชิกของนักบุกเบิกรุ่นเยาว์ ฉันสนับสนุนให้พวกเธอเป็นคนดีโดยปฏิบัติตามหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน และอธิบายให้พวกเธอฟังต่อว่า “ความจริงหมายถึงการเชื่อในความจริง พูดความจริง ประพฤติตนด้วยความซื่อตรง เคารพพ่อแม่ มีศีลธรรมและมโนธรรม ความเมตตาหมายถึงความขยันและจิตใจดี นึกถึงผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น เห็นใจผู้ที่อ่อนแอ และหลีกเลี่ยงความเห็นแก่ตัวและความโลภ ความอดทนหมายถึงการเต็มใจอดทนต่อการสูญเสีย และหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาทหรือต่อสู้กับผู้อื่น”

จากนั้นฉันก็อธิบายภูมิปัญญาที่มีอยู่ในตัวอักษรจีนเกี่ยวกับคุณธรรมว่า “วิธีเขียนตัวอักษรนี้แสดงว่าเหล่าทวยเทพและพระพุทธทั่วจักรวาลกำลังเฝ้าดูการกระทำและความคิดของทุกคนจากสวรรค์ ความดีที่กระทำจะถูกบันทึกไว้ เช่นเดียวกับการทำความชั่ว” แล้วฉันก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็ก 2 คนที่เดินอยู่บนถนน เมื่อพวกเขาเจอหินก้อนหนึ่งอยู่ที่กลางถนน เด็กคนแรกเดินอ้อมหิน ขณะที่คนที่ 2 ก้มลงหยิบหินแล้วเอาไปวางที่ข้างถนน

ฉันถามเด็กผู้หญิง 3 คนนี้ว่า “เธออยากเป็นเด็กคนไหน” พวกเธอตอบพร้อมกันว่าอยากเป็นเหมือนเด็กคนที่ 2 ที่ทำความดี จากเรื่องนี้ นักเรียนทั้ง 3 คนเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับความดีและความชั่วได้ทันที พร้อมกับความหมายของตัวอักษรจีนที่แปลว่า “คุณธรรม” พวกเธอเข้าใจว่ากฎแห่งสวรรค์สำหรับการทำความดีคือการได้รับพร และการทำความชั่วจะต้องได้รับผลกรรมตอบแทน

ท้ายที่สุด ฉันขอให้พวกเธอเขียนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ลงในสมุดบันทึกประจำวันของพวกเธอ และรายงานให้พ่อแม่และครูทราบ เด็กผู้หญิงต่างขอบคุณฉันก่อนที่พวกเธอจะจากไป

บทส่งท้าย

ประสบการณ์ที่แบ่งปันข้างต้นเป็นบทสรุปในช่วงหลายปีของการอธิบายความจริงกับนักเรียนและสนับสนุนให้พวกเขาลาออกจาก CCP และองค์กรเยาวชนในเครือ ฉันตระหนักว่าสำหรับกลุ่มคนพิเศษนี้ เราต้องพิจารณาความสามารถของพวกเขาที่จะเข้าใจความจริง และต้องระมัดระวังวิธีการของเราด้วย นี่จะทำให้มั่นใจได้ว่านักเรียนและผู้ปกครองจะยอมรับความจริงได้ และไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกด้านลบต่อผู้ฝึกต้าฝ่าที่อธิบายความจริง

แน่นอน มีนักเรียนบางคนที่ฉันไม่สามารถคุยด้วยแล้วประสบผลสำเร็จ แต่ฉันไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองพวกเขาเลย ฉันค้นหาจากภายใน และทราบว่าเป็นเพราะฉันศึกษาฝ่าไม่ดีพอ และระดับซินซิ่งของฉันยังไม่ถึงระดับชั้นนั้น ฉันเพียงหวังว่านักเรียนเหล่านี้จะได้พบกับผู้ฝึกอื่นที่จะมอบโอกาสให้พวกเขาได้รับความช่วยเหลืออีกครั้ง