(Minghui.org) หลังการเสียชีวิตจากการระบาดใหญ่ลดลงในปี 2022 อีกระลอกหนึ่งเริ่มต้นขึ้นในประเทศจีนในช่วงปลายปี 2023 นอกจากการทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดด้วยการระบุว่าเชื้อไมโครพลาสมาเป็นสาเหตุของโรคปอดบวมระลอกใหม่แล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ยังออกคำสั่งให้บุคลากรทางการแพทย์หลีกเลี่ยงการใช้โควิด-19 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตด้วย ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากใบแจ้งที่พิมพ์ประกาศในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลซึ่งไม่ให้กล่าวถึงโควิด-19 “ถ้าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว ก็ควรใช้ชื่อโรคนี้เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต ตามใบแจ้ง” รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2023 ในบทความเรื่อง "ข้อมูลเชิงลึก : ในประเทศจีน แพทย์บอกว่าพวกเขาถูกห้ามไม่ให้อ้างถึงโควิดในใบมรณะบัตร"

รายงานนี้มีต่อว่า “ถ้าแพทย์เชื่อว่าการเสียชีวิตมีสาเหตุมาจากโรคปอดบวมจากเชื้อโควิด-19 เพียงอย่างเดียว พวกเขาต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะจัดให้มี “การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ” สองระดับ ก่อนยืนยันการเสียชีวิตด้วยโรคโควิด” “แพทย์ 6 คนในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศจีนบอกกับรอยเตอร์ว่าพวกเขาได้รับคำสั่งที่คล้ายกันด้วยวาจาว่าไม่ให้พวกเขาระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่ามาจากโควิด-19 หรือให้รับทราบว่าโรงพยาบาลของพวกเขามีนโยบายดังกล่าว”

รายงานต่ำกว่าความเป็นจริง

เนื่องจากการเสียชีวิตด้วยโควิด19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงไม่สามารถควบคุมข้อมูลได้ทั้งหมด และเริ่มมีรายงานผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล CDC ของประเทศจีนรายงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2023 ว่าประเทศจีนมีผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง 135 ราย และมีผู้เสียชีวิต 8 รายที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จีนได้เปิดตัววัคซีนป้องกันโควิด-19 ใหม่จำนวนมาก และเร่งรัดให้ประชาชนรับวัคซีนดังกล่าว แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการยืนยันประสิทธิภาพของวัคซีนก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าวัคซีนจากประเทศจีนก่อนหน้านี้มีอาการไม่พึงประสงค์

สถานการณ์ในประเทศจีนน่าเป็นห่วงในหมู่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์นอกประเทศจีน “รายงานของโรคที่คล้ายโรคปอดบวมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กเป็นหลักทางตอนเหนือของจีนทำให้พวกเราสนใจ ครั้งสุดท้ายที่เราได้ยินเกี่ยวกับการระบาดของโรคทางเดินหายใจลึกลับซึ่งทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากจนทำให้โรงพยาบาลแออัดเกินไปคือจุดเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ของโควิด จึงไม่น่าประหลาดใจเลย ที่การเพิ่มขึ้นของโรคดังกล่าวจะทำให้เกิดความตื่นตระหนก” ซี ไรน่า แมคอินไทร์ และนักระบาดวิทยาคนอื่น ๆ เขียนใน The Conversation เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2023 ในบทความเรื่อง “เราควรกังวลกับการระบาดของโรคปอดอักเสบในประเทศจีนแค่ไหน”

บทความนี้ยังกล่าวถึงโพสต์บน X (Twitter เดิม) จากอีริก ไฟเกิล-ดิง นักระบาดวิทยาและหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจเกี่ยวกับโควิดที่ New England Complex Systems Institute “ผมได้ยินคนวงในหลายคนบอกผมว่า แพทย์ในประเทศจีนถูกเจ้าหน้าที่รัฐสั่งไม่ให้รายงานจำนวนและไม่ให้ทดสอบผู้ป่วยและไม่ให้รายงานผลทดสอบใด ๆ ฟังดูคุ้นเคยอย่างน่าแปลกใจ” ไฟเกิล-ดิง เขียนใน X พร้อมกับวิดีโอที่แสดงจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลเด็กที่ปักกิ่ง

ที่สอดคล้องกับเรื่องนี้คือ เมื่อเร็ว ๆ นี้มีโพสต์บนโซเชียลมีเดียจำนวนากที่รายงานการเสียชีวิตของผู้มีชื่อเสียงจำนวนมาก เช่น ดาราภาพยนตร์ บางคนมีอายุเพียง 40 ปีเศษ กระทั่ง 30 ปีเศษ ที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน

พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่เผยแพร่สถิติที่แท้จริงของโควิด-19 แต่หน่วยงานของรัฐมักจะเผยแพร่การมรณะภายหลังการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่คนสำคัญ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ ศาตราจารย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ตัวเลขดังกล่าวน่าตกใจในปี 2023 ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2023 เจ้าหน้าที่ระดับผู้บัญชาการขึ้นไปเสียชีวิตด้วยโรคอย่างน้อย 26 นาย และทุกคนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ คนเหล่านี้ได้แก่ หยู เจินหวู่ (พลเรือเอกและอดีตผู้บัญชาการกองทัพอากาศ), เวิน จื่อ (อดีตผู้อำนวยการกองทหารปืนใหญ่ของกองเสนาธิการทหาร), วัง ตงจัว (อดีตรองผู้ตรวจการทางการเมืองและเลขาธิการคณะกรรมกาธิการตรวจสอบวินัยของเขตทหารกว่างโจว), เฉิน ปินยื่อ (อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพเรือ), หลิง หยงชุน (นักวิชาการของ Academy of Engineering และศาสตราจารย์ของ National University of Defense Technology) และคนอื่น ๆ

เฉพาะในปี 2023 มีเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับมณฑลและระดับรัฐมนตรีเสียชีวิตอย่างน้อย 66 ราย ในจำนวนนี้ 58 คน (หรือ 87.9%) เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จริงแม้พวกที่ไม่ใช่พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ยังเป็นพวกที่ติดตามแนวของพรรคอย่างใกล้ชิด ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน นักวิชาการของ Chinese Academy of Sciences และ Chinese Academy of Engineering เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มบางราย เกือบทุกคนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็เสียชีวิตด้วยโรคนี้เช่นกัน

ดูเหมือนว่าการระบาดใหญ่ในประเทศจีนยังไม่ยุติ แต่ความรุนแรงและการเสียชีวิตที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนรายงานต่ำกว่าความเป็นจริงมาก

สาเหตุของภัยพิบัติ

ทำไมโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงถึงชีวิตนี้ยังทำลายประเทศจีนต่อไป วัฒนธรรมจีนดั้งเดิมอาจมีคำบอกใบ้อยู่ จักรพรรดิหวู่แห่งราชวงศ์ฮั่นเคยถามบัณฑิตผู้มีชื่อเสียงนามว่าตง จงซู ว่าอะไรทำให้เกิดภัยพิบัติ ตงตอบว่า เมื่อประเทศชาติสูญเสียคุณค่าทางศีลธรรม เทพจะส่งภัยพิบัติมาเตือน หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปและความผิดพลาดยังไม่ได้รับการแก้ไข ความวุ่นวายทุกรูปแบบจะเกิดตามมาจนกว่าราชวงศ์จะล่มสลาย สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายราชวงศ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อค่านิยมทางศีลธรรมถูกละเลยและมีการใช้กฎหมายในทางที่ผิดเพื่อรังแกผู้บริสุทธิ์

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศจีนในปัจจุบัน เมื่อเร็ว ๆ นี้นิตยสาร Foreign Policy รายงานว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเป้าหมายที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลผ่านทางกระทรวงตำรวจและบริษัทเทคโนโลยีชั้นสูงผ่านการติดตามแบบทันที (real-time) และการใช้ข้อมูลร่วมกัน ผู้ที่ไม่เห็นด้วย ได้แก่ ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง นักข่าว และผู้ที่ยื่นอุทธรณ์ต่อการกระทำทารุณของเจ้าหน้าที่รัฐ

Human Rights Watch พบว่าในปี 2017 ตำรวจไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งศาลใด ๆ เพื่อการสอดแนม นอกจากนี้ กรมตำรวจไม่จำเป็นต้องรายงานกิจกรรมการสอดแนมต่อหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ หรือเปิดเผยข้อมูลนี้ต่อสาธารณะ

โดยเฉพาะกรณีของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ตกเป็นเป้าหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1999 เนื่องจากพวกเขาเชื่อในหลักการของความจริง-ความเมตตา-ความอดทน ตามรายงานจาก Minghui.org ทางการได้ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) และเทคโนโลยีคลาวด์เพื่อเฝ้าสังเกต ตามรอย และจำกัดอิสรภาพของผู้ฝึก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ตามรอยและระบุตำแหน่งทั่วโลกในรถยนต์ รถจักรยาน โทรศัพท์มือถือ และแม้แต่ในกระเป๋าของผู้ฝึกฝ่าหลุนกง มาตรการอื่น ๆ ได้แก่ การติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ใกล้บ้านของผู้ฝึก การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (ใบหน้า ลายนิ้วมือ ท่าเดิน และเสียง) ไม่ออกหนังสือเดินทางให้ และห้ามออกนอกประเทศจีน ผู้ฝึกถูกรังควาน ถูกติดตาม ถูกคุมขัง ถูกจับกุม ถูกทรมาน และกระทั่งถูกสังหารตามใจชอบเพื่อเอาอวัยวะของพวกเขา

จากบทสรุปของ “1/4 ศตวรรษของการประทุษร้าย ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงมากกว่า 5,000 คนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว (A Quarter Century of Persecution, Over 5,000 Confirmed Deaths of Falun Gong Practitioners)” ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอย่างน้อย 5,010 คนได้รับการยืนยันแล้วว่าเสียชีวิตเนื่องจากการปราบปรามโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน

รายงานนี้เขียนว่า “เนื่องจากฝ่าหลุนกงถูกพรรคคอมมิสนิสต์จีนตราหน้าว่าเป็น 'ศัตรูของรัฐ' อันดับหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับทั่วประเทศจึงถูกระดมพลเพื่อดำเนินการประทุษร้ายตามนโยบายสามประการของอดีตประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน เจียง เจ๋อหมิน 'ทำให้ [ผู้ฝึกฝ่าหลุนกง] เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้พวกเขาล้มละลายทางการเงิน และทำลายร่างกายของพวกเขา'” “ผลจากนโยบายการถอนรากถอนโคนแบบสุดขีด ทำให้มีรายงานการเสียชีวิตของผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในทุก 22 มณฑล 4 เทศบาลนคร และ 5 เขตปกครองตนเองในประเทศจีน”

มณฑล (หรือเมืองในระดับมณฑล) ที่มีผู้ฝึกฝ่าหลุนกงเสียชีวิตมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ มณฑลเฮย์หลงเจียง (646) มณฑลเหลียวหนิง (629) มณฑลเหอเป่ย์ (560) มณฑลจี๋หลิน (530) มณฑลซานตง (464) มณฑลเสฉวน (320) ), มณฑลหูเป่ย์ (233), มณฑลเหอหนาน (190), มณฑลหูหนาน (174) และเมืองปักกิ่ง (147)

ค่านิยมหลักของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งคือความเกลียดชัง ความโหดร้าย และการโกหกหลอกลวง ขัดแย้งกับค่านิยมดั้งเดิม ดังเช่นคำสอนของฝ่าหลุนกง ส่งผลให้ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงจากทุกสาขาอาชีพและทุกชนชั้นในสังคม รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ นักวิชาการ คนงาน และเกษตรกร ตกเป็นเป้าหมายเพราะความเชื่อของพวกเขา แม้ว่าเจียงจะเสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายน 2022 แต่การประทุษร้ายยังคงดำเนินต่อไป ในปี 2023 มีรายงานว่าผู้ฝึกเสียชีวิต 209 คน และผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกพิพากษาลงโทษ 1,190 คน รวมถึงผู้ฝึกที่ถูกจับกุม 3,629 คน และถูกรังควาน 2,885 เหตุการณ์

สรุป

รายงานของ Minghui ในปี 2021 “ผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มขึ้นในสถานที่ที่ฝ่าหลุนกงถูกประทุษร้ายรุนแรงที่สุด” พบความสัมพันธ์สูงระหว่างความรุนแรงของการประทุษร้ายและการเสียชีวิตจากการระบาดใหญ่ จากบทความดังกล่าว : “การศึกษาเดียวกันยังรายงานด้วยว่าสามมณฑลทางตะวันออกเฉียงเหนือ (เฮย์หลงเจียง, เหลียวหนิง, จี๋หลิน) รวมถึงเหอเป่ย์ ซานตง และเสฉวน ก็มีความเชื่อมโยงกับคดีการประทุษร้ายที่มากที่สุดเช่นกัน ตามข้อมูลที่ได้รับจาก Minghui.org ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอย่างน้อย 499 คนในมณฑลจี๋หลินเพียงแห่งเดียวเสียชีวิตเนื่องจากการประทุษร้ายเพราะความเชื่อของพวกเขาในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ระหว่างการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา มณฑลเหล่านี้มีสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเมื่อเทียบกับที่อื่น ๆ ในประเทศจีน นี่อาจบอกเป็นนัยว่าสถานที่ใดที่มีการประทุษร้ายผู้ฝึกฝ่าหลุนกงผู้บริสุทธิ์รุนแรง ก็จะมีผลร้ายตามมา เช่น การระบาดใหญ่หรือเภทภัยอื่น ๆ”

กลับไปที่คำตอบของตงตามที่กล่าวถึงข้างต้น โศกนาฏกรรมในประเทศจีนอาจเกี่ยวข้องกับความโหดร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดังนั้นใครก็ตามที่มีส่วนร่วมในการปราบปรามโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือปฏิบัติตามพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างไม่ลืมหูลืมตาอาจตกอยู่ในอันตรายด้วย

ท่านอาจารย์หลี่หงจื้อ ผู้ก่อตั้งฝ่าหลุนต้าฝ่า เขียนในเดือนมีนาคม 2020 เมื่อการระบาดใหญ่ครั้งแรกเริ่มต้นขึ้นว่า “แต่ปัจจุบัน “ไวรัสคอมมิวนิสต์จีน” (ปอดอักเสบอู่ฮั่น) โรคระบาดนี้คือมีจุดประสงค์และมาอย่างมีเป้าหมาย มันคือมากวาดทิ้งสมาชิกพรรคชั่ว และคนที่เดินอยู่ข้างเดียวกันกับพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีน ” (“ให้มีสติ”)

ในจิงเหวินเดียวกันนั้น ท่านอาจารย์หลี่ยังเขียนว่า “ห่างไกลพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีน ไม่อยู่ข้างเดียวกับพรรคชั่วเพราะเบื้องหลังของมันคือผีร้ายมารแดง พฤติกรรมผิวเผินคืออันธพาลและทำแต่เรื่องชั่ว เทพจะเริ่มกำจัดมันแล้ว อยู่ข้างเดียวกับมันล้วนจะถูกกวาดทิ้ง” “คนสมควรต้องสำนึกผิดอย่างจริงใจต่อเทพ ตัวเองไม่ดีตรงไหน หวังจะได้โอกาสแก้ไข นี่จึงจะเป็นวิธี นี่จึงจะเป็นยาวิเศษ”

แม้การประทุษร้ายจะดำเนินอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงก็ทำงานอย่างหนักตลอด 24 ปีที่ผ่านมาเพื่อบอกผู้คนว่าการฝึกนี้มีประโยชน์ต่อผู้คนอย่างไร พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำร้ายผู้คนในการรณรงค์ทางการเมืองอย่างไร และวิธีที่อยู่อย่างปลอดภัยโดยให้ความสำคัญกับคุณธรรมในขณะที่ปฏิเสธพรรคคอมมิวนิสต์จีน เราหวังอย่างจริงใจว่าผู้คนจะตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้องและอยู่รอดปลอดภัย