ชายชาวเหอเป่ย์เสียชีวิตหลังจากครบกำหนดโทษจำคุก 4 ปีในข้อหาฝึกฝ่าหลุนกง

หน้าหลัก > การประทุษร้าย > การเสียชีวิตจากการประทุษร้าย

12 มีนาคม 2024 | โดยผู้สื่อข่าวหมิงฮุ่ยในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน

(Minghui.org)

ชื่อ : หยูไห่หลง

ชื่อภาษาจีน : 于海龙

เพศ : ชาย

อายุ : 72 ปี

เมือง : เฉิงเต๋อ

มณฑล : เหอเป่ย์

อาชีพ : ไม่มีข้อมูล

วันที่เสียชีวิต : 26 มกราคม 2024

วันที่ถูกจับกุมครั้งล่าสุด : 8 กรกฎาคม 2016

สถานที่คุมขังล่าสุด : เรือนจำจื้อตง

ชาวเมืองเฉิงเต๋อ มณฑลเหอเป่ย์ เจ็บปวดทั่วร่างกายหลังจากรับโทษจำคุกนาน 4 ปีในข้อหาฝึกฝ่าหลุนกง ซึ่งเป็นการฝึกบำเพ็ญทางจิตวิญญาณที่ถูกระบอบคอมมิวนิสต์จีนประทุษร้ายมาตั้งแต่ปี 1999 หยูไห่หลงต่อสู้กับสุขภาพที่แย่ลงหลังจากได้รับการปล่อยตัวในปี 2020 เขาถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2024 ในวัย 72 ปี

หยูถูกจับกุมในตอนเย็นของวันที่ 8 กรกฎาคม 2016 พร้อมกับผู้ฝึกอื่นอีกสามคนคือ เปี้ยน คุนเหลียน, หยู ต้าลี่ และเจียง หยูหวน พวกเขาถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงอำเภอเฉิงเต๋อ ขณะเดินทางไปยังตำบลเซี่ยปันเฉิงเพื่อแจกเอกสารฝ่าหลุนกง

รถสีดำคันหนึ่งหยุดพวกเขาไว้ขณะพวกเขาขับผ่านโรงพยาบาลอำเภอเฉิงเต๋อ และเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าหยูไห่หลงทำผิดกฎจราจร ขณะที่หยูเอาใบอนุญาตขับขี่ออกมาตามที่เจ้าหน้าที่เรียกร้อง อู่ เหลย และ โฮว โซวอิน จากสำนักงานความมั่นคงในประเทศก็จับกุมผู้ฝึกทั้ง 4 คน และนำพวกเขาและรถของพวกเขาไปที่ศูนย์กักกันอำเภอเฉิงเต๋อ ที่เวลาประมาณ 01.00 น. ตำรวจบุกเข้าไปในบ้านของหยูไห่หลง และนำหนังสือฝ่าหลุนกง เอกสารข้อมูล เครื่องพิมพ์ และคอมพิวเตอร์ของเขาไป

ผู้ฝึกชายทั้ง 3 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์กักกันอำเภอเฉิงเต๋อ และเจียงถูกกักตัวที่ศูนย์กักกันเมืองเฉิงเต๋อ ครอบครัวของผู้ฝึกไปที่สำนักงานความมั่นคงอำเภอเฉิงเต๋อเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเขา แต่ถูกเจ้าหน้าที่อู่ปฏิเสธ ไม่กี่วันต่อมาครอบครัวเหล่านี้ได้ร้องขออีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ผล

ครอบครัวของหยูไห่หลงรีบจ้างทนายความให้เขาอย่างรวดเร็ว เมื่อทนายความไปเยี่ยมเขาในวันที่ 15 กรกฎาคม เขาเห็นว่าทั้งหยูไห่หลงและเปี้ยนซึ่งอยู่ในวัย 60 ปีเศษ ถูกใส่กุญแจมือและถูกล่ามโซ่ เปี้ยนยังมีร่องรอยบาดเจ็บทั่วร่างกายจากไฟฟ้าช็อก ทนายความเรียกร้องให้ผู้คุมปลดโซ่ผู้ฝึกทั้งสองคนออก แต่พวกเขาเพิกเฉย

ผู้ฝึกทั้งสี่คนปรากฏตัวที่ศาลอำเภอเฉิงเต๋อเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2016 เนื่องจากทนายความของหยูไห่หลง ถูกหัวหน้าผู้พิพากษา หวังฝู ขัดจังหวะซ้ำ ๆ ในระหว่างการโต้แก้ต่าง เขาจึงหยุดในช่วงกลางของการพิจารณาคดีในศาลเพื่อประท้วงผู้พิพากษาที่ละเมิดสิทธิทางกฎหมายของเขาที่จะการแก้ต่างให้ลูกความของเขา

การพิจารณาคดีในศาลครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2017 โดยหวังยังคงเป็นหัวหน้าศาล ครั้งนี้มีอัยการเพิ่มอีก 2 คน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายคนที่กำลังลาดตระเวนทั้งในและนอกศาล คนในครอบครัวของผู้ฝึกแต่ละคนเพียง 3 คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน และพวกเขาก็ถูกบันทึกเทปในระหว่างการพิจารณาคดี ครอบครัวของผู้ฝึกเห็นเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการการเมืองและกฎหมาย (PLAC) ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานนอกระบบตุลาการที่มีภารกิจในการควบคุมการประทุษร้าย ทนายความของผู้ฝึกทั้งสี่คนแก้ต่างว่าผู้ฝึกไม่ผิด อัยการยนิ่งเงียบเกือบตลอดเวลา

หัวหน้าผู้พิพากษาหวังประกาศคำตัดสินคดีของผู้ฝึกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2017 หยูต้าลี่ และเปี้ยน ได้รับโทษคนละ 6 ปี และถูกปรับ 20,000 หยวน หยูไห่หลงได้รับโทษจำคุก 4 ปี และถูกปรับ 10,000 หยวน เจียงได้รับโทษจำคุก 3 ปี และถูกปรับ 10,000 หยวน คำอุทธรณ์ของพวกเขาถูกศาลอุทธรณ์ปฏิเสธ

ผู้ฝึกชายทั้งสามคนรับโทษในเรือนจำจื้อตง เมืองถังซาน เปี้ยนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่ทวารหนักเมื่อต้นเดือนมกราคม 2020 แต่เรือนจำไม่ยอมปล่อยตัวเขาจนถึงวันที่ 9 สิงหาคม ครอบครัวของเขาเล่าว่า ตอนที่รถพยาบาลมาส่งเขาที่บ้าน เขาซูบผอม และใส่สายให้อาหารลงกระเพาะ เนื่องจากเขาไม่สามารถรับประทานอาหารได้หลังจากที่มะเร็งแพร่กระจาย เขามีไข้สูงและจำน้องชายของตัวเองไม่ได้ เขาเสียชีวิตในอีกสี่วันต่อมา

หยูไห่หลงเจ็บปวดทั่วร่างกายหลังจากถูกทรมานในเรือนจำ 4 ปี น้ำหนักของเขาลดลงเรื่อย ๆ หลังจากได้รับการปล่อยตัวในปี 2020 อาการของเขาไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2024

เรือนจำจื้อตงซึ่งมี 9 สาขา อยู่ภายใต้การบริหารงานของสำนักงานบริหารเรือนจำมณฑลเหอเป่ย์ ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงชายที่ถูกตัดสินในมณฑลเหอเป่ย์ส่วนใหญ่ถูกกักขังที่นี่ ผู้คุมในเรือนจำใช้วิธีที่โหดร้ายทุกประเภทเพื่อพยายามบังคับผู้ฝึกฝ่าหลุนกงให้ละทิ้งความเชื่อของตน ผู้ฝึกอย่างน้อย 36 คนเสียชีวิตหลังจากถูกทรมานที่นี่

การประทุษร้ายในอดีตของหยูไห่หลง

หยูไห่หลงเริ่มฝึกฝ่าหลุนกงในปี 1998 ไวรัสตับอักเสบ B ที่ทรมานเขามาตั้งแต่ปี 1995 ก็หายไปไม่นานหลังจากนั้น เขากลับมาทำงานในฟาร์มของครอบครัวต่อและได้งานโครงการก่อสร้างในท้องถิ่นด้วย

หยูถูกจับทันทีที่เขาก้าวเท้าออกจากบ้านที่เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2005 โดยหลิว หมิงเชิง และอู่ เต๋อหยง จากสำนักงานความมั่นคงเมืองเฉิงเต๋อ ตำรวจยึดเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องตัดกระดาษ และอุปกรณ์สำนักงานอื่น ๆ ที่เขาใช้ในการผลิตเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลของฝ่าหลุนกงที่บ้าน เขาถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจทั้งคืนและไม่ได้รับอนุญาตให้นอนหลับ ตำรวจพาเขาไปที่ศูนย์กักกันเมืองเฉิงเต๋อในวันรุ่งขึ้น

สองสัปดาห์ต่อมา ในตอนเย็นของวันที่ 14 มกราคม 2006 ตำรวจนำตัวหยูไปที่ศูนย์กักกันหลวนผิงเพื่อสอบปากคำ พวกเขาคลุมศีรษะเขาและด่าว่าเขา เขาจำเจ้าหน้าที่ 5 คนต่อไปนี้ได้ สือ ซูเจี้ยน, หลิว หมิงเฉิง, อู่ เต๋อหยง, หลิว เผิง และจาง ต้าเผิง มีเจ้าหน้าที่ 2 หรือ 3 คนอยู่ด้วย แต่ไม่ทราบชื่อ

ตำรวจใส่กุญแจมือหยูไว้กับเก้าอี้เหล็กแล้วออกไปกินอาหารเย็น เมื่อกลับมา พวกเขาก็เริ่มสอบปากคำ หลิว เผิง ตบหน้าเขาหลายครั้งจนเขาเกือบจะสูญเสียการได้ยิน เขาถูกทุบตีจนถึงเที่ยงคืน เนื่องจากศูนย์กักกันปฏิเสธที่จะรับตัวหยู ตำรวจจึงนำตัวเขากลับไปที่ศูนย์กักกันเมืองเฉิงเต๋อ แต่ศูนย์กักกันเมืองเฉิงเต๋อก็ปฏิเสธที่จะรับเขาเช่นกันเพราะดึกเกินไป ตำรวจจึงขังหยูไว้ที่สถานีตำรวจทั้งคืนและส่งตัวเขากลับไปที่ศูนย์กักกันเมืองเฉิงเต๋อในตอนเช้า

แม้ว่าโรคตับอักเสบ B ของหยูจะกำเริบ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังกักขังเขาไว้ถึง 6 เดือน ต่อมาเขาถูกตัดสินให้รอลงอาญา 4 ปี เขาเรียกร้องที่จะจ้างทนายความ แต่ถูกอัยการปฏิเสธ อัยการด่าว่าเขาเมื่อเขาเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อรับการรักษาพยาบาล

หลังจากที่หยูได้รับการปล่อยตัวในที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2006 หลี่ฟู่ หยู ซึ่งเป็นเลขาธิการ PLAC เมืองต้าสือ หลัน เสี่ยวเฟิง แห่งสำนักงานยุติธรรมท้องถิ่น หลิว หมิงเฉิง และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองคนคอยรังควานเขาที่บ้านหรือทางโทรศัพท์ เขาถูกบังคับให้อยู่ห่างจากบ้านช่วงหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการประทุษร้าย